ตอนที่ 1454 ขอบเขต
“แม่ทัพหลิว”
เฉิงหย่วนจื้อทำความเคารพกลับหลิวซูเฉิงเช่นเดียวกัน
“เสี่ยวไป๋…ฝ่าบาททรงรับสั่งให้คนไปตามพวกเรามาที่นี่ ตรัสว่าครั้งนี้พวกเราทำสงครามทางทะเลเป็นหลักจึงจะมาปรึกษาการทำสงครามกับแคว้นตงอี๋ที่นี่ พวกเราร้อนใจจึงมาที่นี่โดยไม่ได้ส่งคนมาแจ้งพวกท่านก่อน”
ไช่จื่อหยวนรีบกล่าวเสริม
“ฝ่าบาทยังอยู่ที่หมู่บ้านชาวประมง แค่ส่งคนกลับมาบอกพวกเราเท่านั้น ตรัสว่าอีกสักครู่จะเสด็จมาที่นี่ทันที พวกเราตัดสินใจเดินทางมาที่นี่ หวังว่าแม่ทัพหลิวจะไม่ถือสา”
หลิวซูเฉิงพยักหน้ารัว
“พวกเดียวกันไม่ต้องเกรงใจ พวกเราก็กำลังรอฝ่าบาทอยู่เช่นเดียวกัน เชิญแม่ทัพทุกท่าน เชิญไช่เซียนเซิง!”
เฉิงหย่วนจื้อพาหลิ่วผิงเกา เสิ่นเหลียงอวี้และคนอื่นๆ เข้าไปในกระโจมเพื่อปรึกษาแผนการรบคร่าวๆ ก่อน
ซือหม่าผิงและหลู่หยวนเผิงเดินรั้งท้ายขบวน หลู่หยวนเผิงชะโงกหน้ามองไปทางหน้าค่ายทหาร เขาร้อนใจอยากพบหน้าพี่สาวไป๋เต็มทีแล้ว
ช่วงนี้หลู่หยวนเผิงผอมลงกว่าเดิมมาก เขาเป็นห่วงหลู่เฟิ่งหลางผู้เป็นพี่สาว เขาอยากออกทะเลไปตามหาพี่สาวหลายครั้ง ทว่า ถูกไช่เซียนเซิงห้ามไว้เสียก่อน
ตอนนี้พี่สาวไป๋เดินทางมาที่นี่แล้ว อีกไม่นานพวกเขาคงได้ออกรบแน่ เดี๋ยวเขาจะขออนุญาตพี่สาวไป๋นำกองทัพเล็กออกไปตามหาพี่สาวของเขาที่แคว้นตงอี๋ก่อน
แม่ทัพทหารเรือในกระโจมอธิบายแผนการรบที่พวกเขาคิดว่าเหมาะสมที่สุดให้พวกเฉิงหย่วนจื้อฟัง สิ่งที่เหนือความคาดหมายของหลิวซูเฉิงก็คือเฉิงหย่วนจื้อไม่ได้คัดค้านพวกเขาแม้แต่น้อย กลับบอกว่าให้ทหารเรือเป็นคนตัดสินใจเรื่องแผนการรบได้อย่างเต็มที่
“สิ่งสำคัญคือข้ากลัวว่าเมื่อทหารกองทัพไป๋ขึ้นไปบนเรือแล้วจะอาเจียนจนทำสิ่งใดไม่ได้เหมือนที่ข้าเคยเป็น เช่นนั้นคงยากที่จะทำสงคราม!”
เฉิงหย่วนจื้อขมวดคิ้วแน่น
“ช่วงนี้ไช่เซียนเซิงคัดเลือกทหารกองทัพไป๋ที่มีร่างกายกำยำขึ้นไปบนเรือและลองออกทะเลไปประมาณสิบลี้ มีเพียงเจ็ดในสิบคนเท่านั้นที่พอทนคลื่นทะเลที่ซัดกระหน่ำได้ ดังนั้นพวกเราต้องคัดเลือกทหารที่จะขึ้นไปบนเรือให้ดี มิเช่นนั้นพวกเขาจะกลายเป็นตัวถ่วงได้!”
ในเมื่อต้องการทำลายล้างแคว้นตงอี๋พวกเขาก็ต้องบุกขึ้นไปบนแผ่นดินของตงอี๋ กลางทะเลมีทหารเรือเป็นใหญ่ ทว่า เมื่อขึ้นไปบนแผ่นดินของตงอี๋ ใต้หล้าจะกลายเป็นของกองทัพไป๋และกองทัพต้าโจว!
สิ่งที่เฉิงหย่วนจื้อหงุดหงิดใจที่สุดในช่วงนี้ก็คือเขาคือทหารสามในเจ็ดคนที่ทนคลื่นกลางทะเลไม่ไหว อยู่บนแผ่นดินเขาคือมังกร ทว่า เมื่ออยู่กลางมหาสมุทรเขากลายเป็นเพียงแมลงตัวหนึ่งเท่านั้น
“แค่แคว้นเล็กๆ อย่างตงอี๋ มีทหาค่ายหู่อิงของพวกเราอยู่ ขอเพียงพวกเราขึ้นไปบนฝั่งได้ ตงอี๋ต้องหายสาบสูญไปแน่นอน!”
ไช่จื่อหยวนกล่าว
“ทว่า แผนที่แคว้นตงอี๋ที่ทหารเรือมีอยู่ในตอนนี้คือแผนที่เมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้พวกเขาต้องปรับเปลี่ยนแผงเมืองแล้วอย่างแน่นอน หากพวกเรามีแผนที่ของแคว้นตงอี๋ในปัจจุบันอย่างละเอียดคงจะดีไม่น้อย!”
ทหารเรือล้วนรู้ความสำคัญของแผนที่ดี หากต้องการแผนที่เพียงเมืองสองเมืองของตงอี๋พวกเขายังพอหาให้ได้ ทว่า หากต้องการแผนที่ของทั้งแคว้นในเวลากระชั้นชิดเช่นนี้เกรงว่าคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
แม้ไป๋จิ่นจื้อจะไม่ได้บอกรายละเอียดตอนไปถึงค่ายทหารของกองทัพไป๋ ทว่า ไช่จื่อหยวนได้ยินว่าเซียวรั่วไห่ เซียวรั่วเจียง เสิ่นชิงจู๋และเฉินชิ่งเซิงติดตามไป๋ชิงเหยียนมาที่นี่ด้วย!
ไช่จือหยวนรู้คววามเก่งกาจของสองพี่น้องเซียวรั่วไห่และเซียวรั่วเจียงดี ไช่จื่อหยวนเพิ่งเข้าร่วมกับตระกูลไป๋ได้ไม่นาน ทว่า เขาพอรู้มาบ้างว่าเฉินชิ่งเซิงเคยเดินทางไปแคว้นตงอี๋มาแล้ว
ไป๋ชิงเหยียนไม่มีวันทำสงครามที่ไม่พร้อม หญิงสาวคงมีแผนการอยู่ในใจบ้างแล้ว
ทว่า ไช่จื่อหยวนไม่ได้กล่าวออกมาให้เหล่าแม่ทัพที่กำลังเป็นกังวลอยู่ฟัง เขาได้แต่ก้มหน้าดื่มน้ำชานิ่ง เขาคิดว่าควรรอให้ไป๋ชิงเหยียนมากล่าวเรื่องเหล่านี้กับพวกเขาด้วยตัวเอง
ครึ่งชั่วยามผ่านไป ในที่สุดไป๋ชิงเหยียนก็เดินทางมาถึงค่ายทหารเรือ
หลิวซูเฉิงและแม่ทัพทหารเรือคนอื่นเพิ่งเคยพบหน้าไป๋ชิงเหยียนครั้งแรก เมื่อได้ยินว่าจักรพรรดินีเสด็จมาถึงแล้วทุกคนจึงรีบจัดเครื่องแต่งกายของตัวเองให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมออกไปต้อนรับ
เฉิงหย่วนจื้อวิ่งออกไปเป็นคนแรก
ไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงเจวี๋ย ไป๋จิ่นจื้อ เซี่ยอวี่จั่งและบรรดาองครักษ์ตระกูลไป๋เดินไปยังกระโจมแม่ทัพภายใต้การนำของทหารเรือเล็ก
เมื่อหลู่หยวนเผิงเห็นไป๋ชิงเหยียนก็อยากถลาเข้าไปหาทันที ทว่า กลับถูกหลิ่วผิงเกาเบียดจนเซไปอยู่ทางด้านหลังเสียก่อน ไม่นานก็ถูกเหล่าแม่ทัพทหารเรือแซงหน้าไปอีก ขณะที่หลู่หยวนเผิงจะวิ่งแซงแม่ทัพเหล่านั้นไปเขากลับถูกซือหม่าผิงดึงคอเสื้อกลับมาเสียก่อน
“เจ้าทำอันใด!”
หลู่หยวนเผิงหันไปถลึงตาใส่ซือหม่าผิง
“แม่ทัพด้านหน้าอาวุโสและตำแหน่งใหญ่กว่าเจ้าทั้งนั้น เจ้าคิดแซงอันใด! ยืนอยู่ตรงนี้แหล่ะ!”
ซือหม่าผิงกำชับเสียงเบา
“ตอนนี้สงครามกำลังกระชั้นชิด เราต้องให้ความสำคัญกับสงครามมาเป็นอันดับหนึ่ง หากเจ้ามีเรื่องส่วนตัวค่อยทูลให้ฝ่าบาททราบภายหลัง อย่าทำตัวไม่รู้ขอบเขตเช่นนี้ ที่นี่ไม่ใช่ตระกูลหลู่!”
หลู่หยวนเผิงได้ยินคำของซือหม่าผิงจึงพยักหน้าตามอย่างเชื่อฟัง เขาไม่คิดวิ่งแซงไปด้านหน้าอีก
ไป๋ชิงเหยียนสวมชุดคล่องแคล่วทะมัดทะแมง ร่างของหญิงสาวสูงโปร่ง อาจเป็นเพราะฝึกร่างกายเป็นประจำฝีเท้าของหญิงสาวจึงมั่นคงมาก ทั้งๆ ที่ร่างของนางดูผอมเพรียว ใบหน้างดงามน่าตราตรึง ทว่า ดวงตากลับสงบนิ่งและเด็ดเดี่ยวจนเหล่าแม่ทัพทหารเรือพากันตะลึง
ในใจของแม่ทัพทหารเรือเหล่านี้จักรพรรดินีที่มีความสามารถในการทำสงครามและซื้อใจคน อีกทั้งใช้วิธีเด็ดเดี่ยวในการผลักดันระบอบการปกครองใหม่ของต้าโจวควรเป็นสตรีที่มีร่างกายกำยำแข็งแกร่งเหมือนบุรุษ ควรเป็นสตรีเจ้าแผนการและมั่นคงเด็ดเดี่ยวถึงจะถูก พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าจักรพรรดินีองค์นี้จะเป็นสาวงามที่หาตัวจับได้ยากเช่นนี้
เจียงไหวเซิงนึกถึงคำที่เหยียนอ๋องหลี่จือเจี๋ยกล่าวชมจักรพรรดินีแห่งต้าโจวขึ้นมาได้…
ทั้งงดงามทั้งแข็งแกร่ง
ดูเหมือนว่าหลี่จือเจี๋ยจะบรรยายรูปโฉมของไป๋ชิงเหยียนได้อย่างถูกต้องที่สุด
เมื่อเฉิงหย่วนจื้อเห็นไป๋ชิงเหยียนขอบตาของเขาร้อนผ่าวขึ้นทันที เขารีบวิ่งตรงไปหาไป๋ชิงเหยียน จากนั้นคุกเข่าลงบนพื้น
“เสี่ยวไป๋ไซว่! ข้าช่วยหานเฉิงอ๋องไว้ไม่ได้ กลับถูกเขาช่วยชีวิตไว้แทน ข้ารู้สึกผิดต่อหานเฉิงอ๋องมาก! ครั้งนี้เสี่ยวไป๋ไซว่ต้องพาข้าไปทำลายแคว้นตงอี๋ด้วยนะขอรับข้าจะไปรับร่างของหานเฉิงอ๋องกลับมาด้วยตัวเอง จะสังหารจักรพรรดิตงอี๋เพื่อแก้แค้นให้หานเฉิงอ๋องขอรับ!”
เฉิงหย่วนจื้อเป็นคนที่เก็บอารมณ์ไม่อยู่ ไป๋ชิงเหยียนเข้าใจความรู้สึกของเฉิงหย่วนจื้อเพราะนางก็รู้สึกผิดต่อหานเฉิงอ๋องเช่นเดียวกัน
ไป๋ชิงเหยียนเอื้อมมือตบไหล่ของเฉิงหย่วนจื้อเบาๆ
“ไปเถิด พวกเราปรึกษาแผนการรบกันก่อน!”
เฉิงหย่วนจื้อพยักหน้ารัว เขาหันไปทำความเคารพไป๋ชิงเจวี๋ยกับไป๋จิ่นจื้อ
“จงกั๋วอ๋อง เกาอี้อ๋อง!”
หลิวซูเฉิงเห็นเหตุการณ์จึงก้าวไปทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงเจวี๋ยและไป๋จิ่นจื้อบ้าง
“กระหม่อมคารวะฝ่าบาท จงกั๋วอ๋องและเกาอี้อ๋องพ่ะย่ะค่ะ!”
“คารวะฝ่าบาท จงกั๋วอ๋อง เกาอี้อ๋องพ่ะย่ะค่ะ!”
ทหารเรือ กองทัพไป๋และกองทัพต้าโจวต่างทำความเคารพคนทั้งสาม
“แม่ทัพหลิวลุกขึ้นเถิด!”
ไป๋ชิงเหยียนประคองร่างของหลิวซูเฉิงให้ลุกขึ้น
“ทุกคนลุกขึ้นเถิด!”