บทที่ 947 ไม่รู้จักสำนึกหรือ? เช่นนั้นก็อีกหนึ่งศร!
บทที่ 947 ไม่รู้จักสำนึกหรือ? เช่นนั้นก็อีกหนึ่งศร!
“เสแสร้งยิ่งนัก เสแสร้งเป็นหมาป่าหางโตอันใดปานนี้?!”
ใบหน้าสวีจื้อเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
หลี่จิ่วเต้าช่างแสร้งวางมาดเหลือเกิน เพียงหยิบคันศรธรรมดา ๆ ออกมา จากนั้นก็ยิงศรออกไปส่ง ๆ ก่อนจะเอ่ยว่าจัดการเขาได้แล้ว?
คิดอันใดอยู่กัน!
เขาระเบิดจิตสังหารออกมา ไม่อาจข่มกลั้นได้ แม้ว่าเขาจะยังอายุไม่มากแต่ก็แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง อยู่ถึงขั้นที่เจ็ดของขอบเขตอิสระ!
วาสนาการเปลี่ยนแปลงที่ท่านผู้นั้นทิ้งเอาไว้สะท้านฟ้าอย่างแท้จริง สามารถทำให้ขอบเขตของเขาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทะลวงไปจนถึงขั้นที่เจ็ด
นอกจากนี้ภายในหมู่วาสนาการเปลี่ยนแปลง ยังมีศาสตราชิ้นหนึ่งที่ท่านผู้นั้นสร้างขึ้นมากับมือ ด้วยศาสตราชิ้นนี้ กระทั่งเผชิญกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในขั้นเก้าขอบเขตอิสระ เขาก็ยังคงไร้ความเกรงกลัว ไม่มีทางทำสิ่งใดกับเขาได้
หลี่จิ่วเต้าแสดงท่าทางถือดีเช่นนี้ออกมา เขาจะทนได้อย่างไร ทั้งยังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ!
“ต้องการให้ข้าลงมือหรือ? ได้ สมใจเจ้าแล้ว!”
เขาหัวเราะเหยียดหยันออกมาหลายครั้ง คิดว่าหลี่จิ่วเต้าแสร้งทำท่าทางเช่นนี้ ก็เพื่อตั้งใจหลอกล่อให้เขาออกมา
คันศรผุพังนั่น กับการยิ่งศรออกมาอย่างส่ง ๆ จะคุกคามเขาได้อย่างไรกัน แม้แต่น้อยนิดก็ยังไม่สามารถทำได้
เขาไม่มีความกลัวต่อหลี่จิ่วเต้า ด้วยเหตุนี้เขาจึงลงมือให้ได้ชม!
จากนั้นสวีจื้อก็เคลื่อนไหว ร่างกายเปล่งประกายพร่างพราวอย่างถึงที่สุด ลมหายใจของขั้นที่เจ็ดขอบเขตอิสระระเบิดออกมาอย่างเต็มที่ น่าหวาดหวั่นสะพรึงกลัวยิ่ง
“แข็งแกร่งมาก!”
นักพรตอ้วนตื่นตกใจโดยพลัน ขอบเขตของสวีจื้อล้ำหน้าเขาไปไกลลิบ!
จากนั้นเขาพลันเริ่มรู้สึกริษยา หากวาสนาการเปลี่ยนแปลงของเขาไม่ถูกแย่งชิงไป ตอนนี้เขาคงจะแข็งแกร่งเท่านี้เช่นกัน!
ทว่าเพียงไม่นานความคิดเหล่านั้นก็เลือนหายไป
เนื่องจากสวีจื้อพุ่งตรงเข้ามา ทว่าหลี่จิ่วเต้ากลับไม่มีทีท่าจะลงมือเคลื่อนไหวแต่อย่างใด!
เขารีบตะโกนเรียกหลี่จิ่วเต้า
หากหลี่จิ่วเต้าถูกสวีจื้อจัดการได้ จุดจบของเขาไม่มีทางลงเอยด้วยดีอย่างแน่นอน
“ไม่ต้องร้อนใจไป”
หลี่จิ่วเต้าโบกมือ ขัดคำที่นักพรตอ้วนต้องการจะพูดต่อ “ศรยังคงทะยานอยู่ ให้เวลามันสักครู่”
เขามั่นใจในศรที่ยิงออกไป
อย่างไรก็เป็นถึงสมบัติของบรรพจารย์ฝู หลังผ่านการทดสอบมามากมายหลายครั้ง ก็ทำให้เขาไร้ความกังวลโดยสิ้นเชิง
ยังจะรั้งรอเวลาอีก?!
นักพรตอ้วนร้อนรนจนแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่ร่อมร่อ เหงื่อเย็นเยียบไหลลงมาจากหน้าผากของเขา
สวีจื้อเข้ามาใกล้ขึ้น ทว่าศรไปอยู่ที่ใดก็ไม่รู้ หากยังไม่ลงมือก็เกรงว่าจะสายเกินไปแล้ว!
“รนหาที่ตาย!”
สวีจื้อแสยะยิ้ม แววตาทอประกายดุร้าย
หลี่จิ่วเต้าเสแสร้งวางท่าใหญ่โตเพียงนี้เชียว? กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย!
เขารู้สึกถูกหมิ่นเกียรติขึ้นเป็นทวี!
เสียงระเบิดดังขึ้น แสงอันน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิมระเบิดออกมาจากร่างของเขา ตบฝ่ามือเข้าโจมตีหลี่จิ่วเต้า!
หัวใจของนักพรตอ้วนเต้นจนแทบขึ้นไปอยู่บนลำคอ ร่างกายสั่นสะท้าน เขารู้สึกเสียใจภายหลังแล้ว เสียใจเสียจนลำไส้บิดเกลียว
หากรู้เช่นนี้ตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเอ่ยเช่นไรเขาก็จะไม่ไปพึ่งบารมีหลี่จิ่วเต้า!
ดูตอนนี้เสีย จุดจบของเขาเกินครึ่งจะต้องน่าเวทนาอย่างมาก!
ทว่ายามที่สวีจื้อใกล้ถึงตัวหลี่จิ่วเต้า ศรดอกนั้นก็ปรากฏขึ้น!
ศรดอกนั้นน่ากลัวอย่างถึงที่สุด เปี่ยมด้วยระลอกความผันผวนอันไม่อาจจิตนาการได้ เพียงพริบตาเดียวก็มาถึงด้านหน้าสวีจื้อ!
สวีจื้อไม่ทันตอบโต้เสียด้วยซ้ำ ลูกศรปักลงบนไหลซ้ายของเขาโดยตรง พลังมหาศาลกระแทกเขาจนกระเด็นไปอีกทาง!
โลหิตสาดกระเซ็น เขาถูกตอกลงบนยอดเขาไกลออกไป ใบหน้าซีดขาวลง!
“อันใดกัน!”
นักพรตอ้วนตกตะลึงจนแทบกระโดดขึ้นจากพื้น
ศรเพียงดอกเดียวน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้เชียวหรือ?!
กระทั่งสวีจื้อยังไม่อาจต้านทาน!
เขามองหลี่จิ่วเต้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ที่แท้อีกฝ่ายไม่สนใจลงมือเคลื่อนไหวอันใด ก็เพราะเขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!
“อ๊ากกก!”
ขณะเดียวกัน สวีจื้อก็กู่ร้องออกมา หัวใจตับปอดแทบระเบิดออกมาด้วยความโกรธ
เขาประมาทเกินไป ไม่ได้ให้ความใส่ใจศรดอกนี้มาก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วจะต้องเผชิญกับความเสียหายครั้งใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร!
หากเขาไม่ประมาท ให้ความสำคัญกับศรดอกนี้ เขาคงไม่มีทางเผชิญความเสียหายอันใด
ในมือของเขามีสมบัติที่ท่านผู้นั้นทิ้งเอาไว้อยู่!
ศรดอกนี้น่ากลัวเป็นอย่างมาก เมื่อปักลงไปบนร่างของเขา พลังบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ก็ไหลเวียนสยบพลังในร่างของเขาลงทันที
สวีจื้อลงมืออย่างเด็ดขาดไร้ความลังเล เมื่อรับรู้ได้ว่าตนเองไม่สามารถต้านทานพลังที่ไม่อาจอธิบายได้ เขาก็ลงมือตัดไหล่ซ้ายตนเองออกทันที จนสภาพฟื้นกลับมาดังเดิม
การตัดไหล่ซ้ายออกไม่ใช่ปัญหาใหญ่ได้สำหรับเขา เพียงพริบตาต่อมาไหล่ซ้ายใหม่ก็ถูกควบแน่กลับคืนมา
“ตายซะ!”
โทสะของเขาโหมกระหน่ำ จิตสังหารพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า ทำให้เขาต้องประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ถึงเพียงนี้ เขาจะทำให้หลี่จิ่วเต้าต้องชดใช้อย่างสาสม!
เขาเรียกไข่มุกเม็ดหนึ่งออกมาทันที ไข่มุกพลันพุ่งใส่ร่างของเขา ควบแน่นกลายเป็นชุดเกราะปกป้องร่าง
นี่เป็นไข่มุกที่ผู้เบิกทางหลอมขึ้นมาด้วยมือของตนเอง แม้จะเป็นการสร้างขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจนัก แต่ก็พิเศษเหนือชั้นเป็นอย่างยิ่ง มีพลังอันไร้ขอบเขตสกัดกั้นการโจมตีใด ๆ!
‘ของจริงจะเริ่มแล้ว!’
นักพรตอ้วนเอ่ยในใจ รู้สึกกังวลขึ้นมาทันที
มันกระจ่างแจ้งเป็นอย่างยิ่งว่าไข่มุกนั่นทรงพลังเหนือชั้นมากเพียงใด หากไม่สามารถจัดการกับไข่มุกได้ หลี่จิ่วเต้าก็ถูกกำหนดให้ต้องถูกสวีจื้อปราบปรามลง
“ยังไม่รู้จักสำนึกอีกหรือ?”
หลี่จิ่วเต้าขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็ยิงศรออกไปอีกหนึ่งดอก
ศรนี้ดูยิงออกมาอย่างไม่ได้ใส่ใจอันใด นักพรตอ้วนเห็นแล้วถึงกับแสดงท่าทางโง่งม ในใจกล่าวว่าคุณชายช่วยจริงจังกว่านี้สักหน่อยได้หรือไม่?!
ทว่าศรที่ดูธรรมดายิ่งดอกนี้ หลังจากถูกยิงออกไปก็พลันปะทุพลังอันน่าสะพรึงกลัวไร้ขอบเขตออกมา!
สวีจื้อเปี่ยมด้วยจิตสังหาร ทั้งยังมั่นใจเต็มที่ว่าไข่มุกจะสามารถสกัดกั้นการโจมตีใด ๆ เอาไว้ได้
แต่เมื่อยามที่ศรพุ่งเข้ามา ใบหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนไปในทันที!
ความรู้สึกเลวร้ายพลันบังเกิดขึ้นในใจของเขา!
“หนี!”
เขาไม่ลังเลแม้แต้นอย ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด รีบหันตัวกลับวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว!
เมื่อความแข็งแกร่งมาถึงขั้นเดียวกับเขาแล้ว ย่อมไม่เกิดความรู้สึกอันไม่อาจอธิบายได้โดยง่าย แต่หากเกิดขึ้นมาแล้วย่อมแม่นยำเป็นอย่างมาก!
ศรดอกนี้ทำให้เขารู้สึกย่ำแย่ยิ่ง นั่นหมายความว่ามีโอกาสอย่างมากที่จะไม่สามารถหยุดยั้งมันได้!
แม้เป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะเชื่อได้ลง อย่างไรเสียเขาก็ถูกพลังของไข่มุกปกป้องเอาไว้อยู่ ดังนั้นจะไม่สามารถหยุดยั้งได้อย่างไร?
ทว่าเขาก็คิดว่าปลอดภัยเอาไว้ก่อนจะดีกว่า ไม่อาจเอาชีวิตของตนมาเสี่ยงได้ จึงตัดสินใจเชื่อความรู้สึกของตนเองแล้ววิ่งหนีทันที
สุดท้ายถึงความรู้สึกของเขาจะผิดก็ไม่เป็นอันใด อย่างมากสุดก็แค่กลับมาจัดการหลี่จิ่วเต้าในภายหลัง
ความจริงที่แสดงออกมา ทำให้เขาตระหนักได้ว่าความรู้สึกของเขาไม่ผิดพลาด!
ศรดอกนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก พุ่งเข้าประชิดร่างในพริบตา ไข่มุกพลันแผ่กฎเกณฑ์พิเศษไหลเวียน ควบแน่นกลายเป็นเงาร่างหนึ่งขึ้นมา เป็นร่างเงาของผู้เบิกทาง!
ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าศรดอกนี้น่าสะพรึงกลัวถึงที่สุดอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถทำให้ร่างเงาของผู้เบิกทางปรากฏออกมาได้!
“ควรจะหยุดมันได้ใช่หรือไม่?!”
เขารำพึงกับตนเอง
“ถุย ข้ากำลังคิดเพ้อเจ้ออันใดอยู่! นั่นคือผู้เผยแพร่เต๋าและกฎเกณฑ์ บุกเบิกเส้นทางการฝึกตน จะไม่สามารถหยุดยั้งได้อย่างไร!”
เขาถ่มน้ำลายออกมา สบถด่าตนเองว่าชอบคิดไปเรื่อยเสียจริง
ร่างเงาของผู้เบิกทางท่านนั้นปรากฏออกมา เหตุใดจึงจะไม่สามารถหยุดยั้งได้?!
นี่ไม่มีทางเป็นไปได้!
พริบตาต่อมาลูกศรก็มาถึง ร่างเงาของผู้เบิกทางตบมือออกไปต้องการจะทำลายลูกศร
ผลออกมาทันทีที่ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน ร่างของผู้เบิกทางแตกสลายลง ลูกศรพุ่งต่อเข้าหาร่างของสวีจื้อ!
แล้วไข่มุกที่อยู่บนร่างของสวีจื้อก็พังทลายลงทันที!