รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 949 แผนไส้ศึกสองหน้ามีประโยชน์มาก! วางอุบายให้สุนัขกัดกันเอง!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

บทที่ 949 แผนไส้ศึกสองหน้ามีประโยชน์มาก! วางอุบายให้สุนัขกัดกันเอง!

บทที่ 949 แผนไส้ศึกสองหน้ามีประโยชน์มาก! วางอุบายให้สุนัขกัดกันเอง!

นี่มันลานเล็กอะไรกัน?!

เหนือความคาดหมายของนักพรตอ้วนอย่างสิ้นเชิง!

ทันทีที่ก้าวเข้ามาในลานเล็ก เขาก็รู้สึกถึงจังหวะแห่งเต๋าสูงส่งอัศจรรย์เหลือคณาซึ่งเกินกว่าขอบเขตความเข้าใจของเขา จนเขาต้องกังขาในชีวิตการฝึกตนของตัวเองที่ผ่านมา

เขาฝึกตนเป็นจริงหรือ

วิถีที่เขาฝึกห่างชั้นจากจังหวะแห่งเต๋าในลานตั้งไม่รู้เท่าไหร่ ไม่อาจเทียบกันได้เลย!

เขาสงสัยอย่างหนักหน่วงว่าวิชาพลังที่เขาเคยบำเพ็ญในอดีตล้วนจอมปลอม มิใช่เต๋าที่แท้จริง

เต๋าในสถานที่นี้ต่างหากคือวิถีแห่งการฝึกตนที่แท้จริง!

‘ยามนี้ ข้าเพิ่งได้เห็นฟ้าอันแท้จริงของการฝึกฝน!’

เขาคิดไปด้วยความสะท้อนใจ

“ต่อแต่นี้ไป เจ้าจงพำนักในลานเล็กแห่งนี้ อืม อยู่ว่าง ๆ ช่วยทำความสะอาดในลานด้วยก็ดี”

หลี่จิ่วเต้าบอกนักพรตอ้วน

ลานข้าง ๆ มีห้องว่าง ให้นักพรตอ้วนอยู่ได้ไม่เป็นปัญหา

“ได้ ขอบคุณคุณชาย!”

นักพรตอ้วนกล่าวคำขอบคุณระรัวเร็ว ได้อาศัยอยู่ที่นี่ ให้เขาทำความสะอาดทุกวันก็ยอม!

ด้วยเหตุนี้ นักพรตอ้วนจึงพำนักในลานเล็กแห่งนี้อย่างเป็นทางการ

หัวใจของเขามิเคยสงบจากความตะลึง

น้ำจากบ่อน้ำในลานคุณชายเป็นวารีล้ำค่าสูงส่ง แฝงไว้ด้วยวาสนาเกินหยั่ง

เขารู้สึกว่าหากนำมาหลอมละลายในร่างเพียงหนึ่งหยดก็ช่วยให้เขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างพลิกโฉม ยกระดับความสามารถแต่ละด้านได้ถึงแก่น

ผักในสวนยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง แต่ละต้นล้วนน่าทึ่งเป็นที่สุด เขาจินตนาการไม่ออกเลยว่าผักเหล่านี้อยู่ในขอบเขตใด!

แม้กระทั่งวัชพืชในดินยังสูงส่งวิเศษเหนือความเข้าใจของเขา!

“มอ! อย่าได้มีความคิดเป็นอื่น หญ้าเหล่านี้ล้วนเป็นของพวกเรา!”

ลูกวัวน้อยโตแล้ว กำยำประดุจภูเขาลูกเล็ก เมื่อเห็นนักพรตอ้วนเอาแต่จับจ้องวัชพืชในสวนผักก็รีบบอกกับเขาด้วยเสียงวิตก กลัวนักพรตอ้วนจะแย่งหญ้าของพวกมันไปกิน

“ไม่ต้องกังวล ข้าไม่กินหญ้า! ข้ากินเนื้อ!”

นักพรตอ้วนรีบบอกลูกวัวน้อย

“หลอกคนอย่างเรา ไม่สิ หลอกวัวอย่างเราหรือ รบกวนเช็ดน้ำลายที่ไหลตามมุมปากของเจ้าก่อนแล้วค่อยเปล่งวาจานี้ออกมาได้หรือไม่!”

ลูกวัวน้อยเอ่ยเสียงดูแคลน

นักพรตอ้วนรีบเช็ดน้ำลายตรงมุมปาก ไปจากตรงนี้อย่างกระอักกระอ่วน

ณ เมืองชิงซาน

“แผนการลุล่วง ข้าได้รับความเชื่อใจจากหลี่จิ่วเต้า แม้จะยังไม่เต็มร้อย แต่ก็พอประมาณหนึ่งแล้ว อย่างน้อย ๆ ตอนนี้ข้าก็เข้ามาอยู่ในเมืองชิงซานแล้ว”

แมงมุมปริภูมิเวลารายงานฝ่ายปริภูมิเวลา

นางถูกจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงปลุกปั่นให้ย้ายข้าง กลายเป็นไส้ศึกสองหน้า นับแต่งานชุมนุมพ่นใยคราวก่อน นางก็พำนักในเมืองชิงซานเรื่อยมา

บัดนี้ ฝ่ายปริภูมิเวลากำลังถามไถ่สถานการณ์จากนาง

“ยังไม่ได้เป็นผู้ติดตามของหลี่จิ่วเต้าอีกหรือ”

ฝ่ายปริภูมิเวลาถาม ดูเหมือนไม่พอใจในสถานการณ์ของแมงมุมปริภูมิเวลาเท่าใด อยากให้แมงมุมปริภูมิเวลาได้เป็นผู้ติดตามอยู่ข้างกายหลี่จิ่วเต้ามากกว่า

ได้อาศัยในเมืองเดียวกันนับว่าไม่เลวแล้ว

แต่ตัวตนระดับหลี่จิ่วเต้า หากไม่ได้ประชิดตัว คงยากจะกอบกุมความลับของเขา

พวกเขาอยากให้แมงมุมปริภูมิเวลาได้เข้าไปอาศัยอยู่ในลานเล็กของหลี่จิ่วเต้า อยู่ข้างกายเขาทุกเมื่อเชื่อวัน สอดส่องความลับจากตัวหลี่จิ่วเต้ามา

แมงมุมปริภูมิเวลาตอบ

อันที่จริงนางแกล้งเอ่ยไปเช่นนั้น เพื่อมิให้ฝ่ายปริภูมิเวลาเคลือบแคลง

ถึงอย่างไร หากนางได้เป็นผู้ติดตามคุณชาย เข้าไปอาศัยในลานเล็กคุณชายอย่างง่ายดาย ฝ่ายปริภูมิเวลาต้องสงสัยเป็นแน่

คุณชายมิใช่พวกดาษดื่น ไฉนเลยจะได้รับความเชื่อใจเต็มร้อยจากเขาง่าย ๆ

หากเป็นเช่นนั้น น่ากลัวว่าฝ่ายปริภูมิเวลาอาจกังขาว่านางแปรพักตร์ไปแล้ว

“นับว่าปกติ”

ฝ่ายปริภูมิเวลากล่าว “ทว่าเจ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป เมื่อใดจะได้อยู่ติดตามข้างกายหลี่จิ่วเต้ากัน เชื่องช้าเกินไปแล้ว…”

“เฮ้อ ช่วยไม่ได้ ข้าไม่มีโอกาสอันดีให้เข้าใกล้เขาเท่าไหร่ คราวก่อนเขาได้ใยแมงมุมไปมาก คงไม่ต้องการอีกในช่วงเวลาอันใกล้ หากข้าไปหาเขาบ่อย ๆ ทั้งที่ไม่มีธุระน่ากลัวว่าจะเป็นที่สงสัย กลับกลายเป็นได้ผลตรงข้าม”

แมงมุมปริภูมิเวลาถอนหายใจ

ข้างกายนาง ศิษย์แห่งแดนสุขาวดีสระหยก อี้เหยา ยกนิ้วโป้งให้แมงมุมปริภูมิเวลาอย่างอดมิได้

แมงมุมปริภูมิเวลามีศักยภาพในการเป็นไส้ศึกจริง ๆ ดูเอาเถิด โต้ตอบได้อย่างเป็นธรรมชาติ นางยังมิอาจสู้ได้!

ใช่แล้ว นางก็ยังไม่กลับไปเช่นกัน อยู่ในเมืองชิงซานกับแมงมุมปริภูมิเวลา

นางในฐานะสหายคนสนิทได้ลั่นวาจาไว้แต่ครานั้นว่าจะอยู่ข้างกายแมงมุมปริภูมิเวลา ช่วยให้ปริภูมิเวลาปฏิบัติหน้าที่ไส้ศึกสองหน้าได้อย่างลุล่วง

ตอนนั้นแมงมุมปริภูมิเวลาหาได้เชื่อในคำกล่าวของอี้เหยา

นางมองความคิดในใจอี้เหยาออกทะลุปรุโปร่ง อี้เหยาหลงใหลในตัวคุณชาย ที่อยู่ต่อก็เพื่อให้ได้เข้าใกล้คุณชาย

น่าเสียดาย อี้เหยามิได้อาจหาญนัก มิกล้าไปหาคุณชาย จนบัดนี้ยังแทบมิได้พบหน้าคุณชาย

“เจ้าพูดถูก และทำได้ดียิ่ง หากเข้าไปข้องแวะด้วยบ่อย ๆ โดยไร้สาเหตุเป็นที่น่าสงสัยจริง ๆ”

ฝ่ายปริภูมิเวลาชมเชยวิธีการของแมงมุมปริภูมิเวลา

“ทว่าเจ้าต้องเร่งมือหน่อย พวกเราเหลือเวลาไม่มากแล้ว!”

จากนั้น ฝ่ายนั้นส่งแผนมาให้

“ปรโลกเสียเปรียบครั้งใหญ่จึงเดือดดาลเหลือแสน อาจจะมีการตอบโต้อย่างใหญ่หลวง หากฝ่ายเราได้ข้อมูลมาบ้าง…”

ฝ่ายนั้นส่งข้อมูลของปรโลกมาให้

“ราชันแห่งความตายโบราณตนหนึ่งแห่งปรโลกตื่นขึ้นแล้ว เขาตั้งใจออกโรงด้วยตนเอง เข้าจับกุมหลี่จิ่วเต้า!”

ราชันแห่งความตายผู้นี้แข็งแกร่งมาก บรรลุขอบเขตอิสระขั้นหกมาแต่ก่อนกาลเวลาอันยาวนานจะเริ่มขึ้น บัดนี้คงทรงพลังยิ่งขึ้นกว่าเดิม!

หลังอี้เหยาได้ยินข่าวนี้ก็สะท้านใจยิ่ง

นางมาจากโลกหลังฉาก รู้ดีว่าปรโลกนั้นกล้าแกร่งน่าประหวั่นพรั่นพรึง กระนั้นก็ไม่เคยคิดเลยว่าปรโลกจะสยดสยองได้ถึงปานนี้!

นับแต่ก่อนกาลเวลาอันยาวนานจะเริ่มขึ้น สิ่งมีชีวิตปรโลกทลายเพดานโลกหลังฉาก ก้าวจากขั้นห้าสู่ขั้นหก!

นอกจากนี้ ยังเห็นได้ชัดว่านั่นมิใช่ผู้ทรงพลังที่สุดแห่งปรโลก

“หลี่จิ่วเต้าจัดการมิได้ง่าย ๆ ที่ราชันแห่งความตายผู้นี้เดินทางมาก็เพื่อหยั่งฝีมือของเขาก่อนเท่านั้น”

ฝ่ายปริภูมิเวลากล่าว “เจ้าหาทางเผยข่าวนี้ให้หลี่จิ่วเต้าทราบ เพื่อให้เขายอมเชื่อใจ”

“ได้!”

แมงมุมปริภูมิเวลาตาเป็นประกาย การเป็นไส้ศึกสองหน้านับว่ามีประโยชน์พอควร นี่อย่างไร ได้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์มาแล้ว

“อี้เหยา สหายคนสนิทของข้าก็อยู่ในเมืองชิงซาน ข้าลงมือโดยอ้างฐานะของอี้เหยาได้ เอ่ยว่าเป็นอี้เหยาที่สืบทราบเรื่องนี้มา”

นางรีบตอบ

“ได้!”

ฝ่ายปริภูมิเวลากล่าว

พวกเขารับรู้ความสัมพันธ์ระหว่างแมงมุมปริภูมิเวลากับอี้เหยา เบื้องหลังอี้เหยาคือแดนสุขาวดีสระหยก และแดนสุขาวดีสระหยกไม่ธรรมดาอย่างยิ่งในโลกหลังฉาก ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดกองกำลัง

หากโบ้ยที่มาของข่าวนี้ให้แดนสุขาวดีสระหยกนับว่าสมเหตุสมผล ไม่เป็นที่เคลือบแคลงสงสัยสำหรับหลี่จิ่วเต้า

“ปฏิบัติหน้าที่ให้ดี อนาคตข้าย่อมไม่ปล่อยให้เจ้าลำบาก! หายนะครั้งใหญ่กำลังจะอุบัติในอนาคต ไม่ว่าผู้ใดก็ยากจะรับรองว่าจะผ่านพ้นไปได้! ทว่าฝ่ายปริภูมิเวลาของเรามีการวางหมากมาเนิ่นนาน มีโอกาสผ่านพ้นไปได้อย่างสูง ถึงคราวนั้นเจ้าจะกลายเป็นผู้สร้างคุณูปการ ผ่านพ้นไปพร้อมกับเรา!”

ฝ่ายปริภูมิเวลาเอ่ย จากนั้นก็จบการติดต่อ

“สุดยอด! ความเป็นไส้ศึกของเจ้าผ่านเกณฑ์แน่นอน!”

เมื่อเห็นว่าจบการติดต่อแล้ว อี้เหยาเอ่ยชมแมงมุมปริภูมิเวลา

“มิใช่เรื่องใหญ่ สิ่งสำคัญคือจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงสอนได้ดี!”

แมงมุมปริภูมิเวลาตอบ

ก่อนจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงไปจากที่นี่ ได้ถ่ายทอดวิชาไส้ศึกให้นางจนหมด หาไม่แล้ว นางคงไม่อาจตอบโต้ได้อย่างเป็นธรรมชาติเช่นนี้

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราเตรียมตัว เรียกคนของคุณชายมาแล้วไปเชือดราชันแห่งความตายผู้นี้กันเถิด!”

อี้เหยาบอก

“ไม่ ๆ ๆ!”

แมงมุมปริภูมิเวลาส่ายหัว “ไยต้องเชือดด้วย น่าเสียดายแย่ มิสู้ปล่อยเขากลับไปพร้อมข่าวบางอย่าง อย่างเช่น ข้าไม่ทันระวัง จนเขาล่วงรู้ตัวตนของข้าที่มาจากฝ่ายปริภูมิเวลาแล้ว…”

นางเริ่มมีแผนในใจ วางอุบายให้ฝ่ายปรโลกและฝ่ายปริภูมิเวลากัดกันเอง!

เช่นนี้ด้านคุณชายคงสงบลงมาก

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท