เควสต์ย่อย : การฝึกฝนนอกสถานที่เสร็จสิ้น
เป้าหมายเควสต์ : ตามหาหัวใจคริสตัลให้เท่ากับจำนวนสมาชิกในทีม เสร็จสิ้น
เป้าหมายเพิ่มเติม : 1. ค้นหาเก้าสิบเก้าบททดสอบ ไม่สำเร็จ
2. ค้นหาคนปริศนา (จำเป็นต้องทำเควสต์ย่อยอื่น) เสร็จสิ้น
รางวัล : ได้รับค่าประสบการณ์ 20,000
รางวัลเพิ่มเติม : ไม่ได้รับรางวัลจากผู้อำนวยการสถาบัน
แต้มของเรดลีฟเพิ่มขึ้น 100 แต้ม ระดับในองค์กรปริศนาเรดลีฟเพิ่มขึ้น ระดับ C ได้รับฉายา : จุดกำเนิดแห่งเรดลีฟ
หลังจากส่งหัวใจคริสตัลทั้งหมด กระดานแจ้งเตือนว่าสำเร็จเควสต์ก็เด้งออกมาพร้อมกัน
หลังจากกวาดสายตาผ่านคร่าวๆ ผมจึงพบว่า ที่แท้คนปริศนาที่ผมเห็นก่อนหน้านี้ก็คือยูอน
ยัยนั่นแอบลอบเข้ามาในเรือเหาะของพวกเรา ยัยนั่นหลบเลี่ยงคนที่เลเวลสูงกว่าพวกเราเหล่านั้นได้ยังไงกัน?
แต่คิดแล้วอีกฝ่ายก็เป็นนักฆ่า บางทีคงมีสกิลพิเศษที่เกี่ยวข้องกับนักฆ่า เหมือนกับสกิล ‘ผู้ครอบครองตาอินทรี’ ของผม
แต่หลังจากผมเลเวลเพิ่มตอนนี้ก็มีแต้มสกิล 7 แต้มแล้ว ต่อไปค่อยมาดูสกิลอื่นอีกทีแล้วกัน
“เหลืออีกสัปดาห์กว่าๆ ก็จะต้องเข้าร่วมการแข่งแล้ว ถึงตอนนั้นต้องชนะให้ได้! ไม่งั้นจะคุ้มกับที่ข้าอยู่ในป่ามาหลายวันได้อย่างไร!”
องค์หญิงสโนว์ที่อยู่ข้างๆ พูดอย่างทุกข์ใจ
ดูเหมือนเงามืดของจอมเขมือบที่ทิ้งไว้ให้เธอจะยังไม่หายไป เธอในตอนนี้เปลี่ยนชุดเป็นเดรสสีน้ำเงินตามปกติแล้ว แต่บางครั้งก็คอยมองดูบนตัวของตัวเองว่ายังมีร่องรอยอะไรเหลืออยู่ไหม
และตอนนี้ข้างกายเธอก็มีแค่ผมคนเดียว คำพูดนี้ก็น่าจะพูดกับผม
“องค์หญิงสโนว์ หลายวันนี้คุณแค่ตามพวกเราอยู่ตลอด ไม่ได้ทำอะไรเลยชัดๆ”
“ข้าก็อยากช่วย! แต่… แต่ก็ถูกเจ้าสิ่งน่ารังเกียจนั่นกลืนลงไป! ทั้งยัง…ทั้งยังถูกเจ้าโง่แบบเจ้าทำให้ความบริสุทธิ์ของข้าแปดเปื้อนอีก…”
“เฮ้ยๆ! อาหารกินมั่วๆ ได้แต่คำพูดพูดมั่วๆ ไม่ได้นะ! ผมไปทำให้ความบริสุทธิ์ของคุณแปดเปื้อนตอนไหน?”
โชคดีที่แถวนี้ไม่มีใคร ไม่งั้น…เดี๋ยวก่อน บนมินิแมพปรากฏจุดสีแดงได้ยังไงกัน?
วินาทีต่อมา ดาบเย็นเฉียบก็พาดอยู่เหนือคอผม ประสิทธิภาพดีนี่ หรือว่าผมเป็นที่นิยมชมชอบให้ถูกผู้คุมกันอย่างยัยนี่จับกุม?
“องค์หญิง เจ้านี่พูดความจริงใช่ไหม?”
“เรื่องโกหกอยู่แล้ว…”
“ไม่ได้ถามเจ้า ข้าถามองค์หญิง!”
ดาบของอีกฝ่ายเข้าใกล้คอผม ผมไม่มีทางเลือกจนทำได้แค่หุบปาก
แม้ว่าการกระทำที่ปราศจากพลังโจมตีแบบนี้จะไม่ทำให้ผมเสีย HP แต่ว่า คอเป็นตำแหน่งที่โจมตีแล้วถึงแก่ชีวิต ที่แบบนี้ถูกคนเลเวลสูงกว่าทุบผมก็คงตายแน่นอน
ลูกผู้ชายยืดได้หดได้ ภายในสถาบันยังนับเป็นพื้นที่ของเมือง ผมเลยสามารถคืนชีพที่โบสถ์ได้ จึงไม่เป็นไร
ทว่าเพื่อเควสต์ต่อไป ผมเลยไม่อยากร้าวรานกับพวกเธอ ยังไงซะค่าประสบการณ์กับรางวัลของเควสต์ก็ล่อใจผมมากทีเดียว ถ้าโดนฆ่าตอนนี้ ผมคงทำได้แค่หลบหนี เวทมนตร์ใหม่ก็ยังไม่ได้เรียน เกิดเรื่องแบบนี้คงขาดทุนแย่
“ทั้งที่…ทั้งที่ชุดข้าขาดจนเป็นแบบนั้นยังกอดข้าอีก แล้วยังขยับเข้ามาใกล้ นั่นเป็นการทำให้ความบริสุทธิ์ของข้าแปดเปื้อนไม่ใช่เหรอ?”
“ถ้าผมไม่เข้าไปช่วยคุณตอนอยู่ในท้องจอมเขมือบคุณคงกลายเป็นกระดูกไปแล้ว ?”
ถึงอาจารย์ผู้ดูแลจะกลับมาช่วยพวกเราในกรณีที่พวกเราไม่อาจต่อสู้ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเราก็คงไม่ได้หัวใจคริสตัลมา
“แต่…แต่เจ้ากอดข้าไม่ใช่เหรอ?”
“งั้นก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับความบริสุทธิ์สิ?”
“กอดข้าก็ต้องรับผิดชอบข้าด้วย!”
“ขออภัยด้วย องค์หญิงไม่เคยเรียนเรื่องแบบนั้น โปรดยกโทษให้นางด้วย”
ผลสุดท้ายผู้คุ้มกันคนนั้นก็เก็บดาบแล้วขอโทษผม
เมื่อกี้ได้ยินเสียงจึงรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง ตอนนี้พอเดินไปอยู่ข้างองค์หญิงสโนว์ผมถึงมองเห็นหน้าตาของเธอ
เป็นเด็กสาวผมโพนี่เทลสีดำ แต่แวบแรกที่มองไปความประทับใจที่ลึกซึ้งที่สุดกลับเป็นกล้ามเนื้อบนแขนอีกฝ่าย!
เป็นเด็กสาวที่หน้าตาใสซื่อบริสุทธ์แท้ๆ แต่กลับเป็นสาวนักกล้าม เธอมาจากชนชาติแห่งการต่อสู้หรือว่าเป็นนาจากัน?
เกราะอ่อนบนตัวอีกฝ่ายเป็นประเภทเดียวกันกับบนตัวอาร์ย่า แต่กลับเป็นสีดำ จุดเด่นที่ชัดที่สุดบนชุดตัวนี้ก็คือเกราะที่ไม่มีส่วนแขน เพราะงั้นจึงมองเห็นกล้ามเนื้อได้ทั้งหมด
“องค์หญิงเพคะ การกอดไม่เกี่ยวข้องกับความบริสุทธิ์จริงๆ เจ้าค่ะ”
“จริงเหรอ? ดูอัล”
“เพคะ คือว่า…ถ้าไม่ทำเรื่องแบบนั้นความบริสุทธิ์ก็ไม่เป็นอะไร”
“เรื่องแบบนั้น…”
ผู้คุ้มกันที่ถูกเรียกว่าดูอัลตกอยู่ในสถานการณ์เก้อเขินอย่างชัดเจน คงเพราะไม่รู้ว่าจะอธิบายเนื้อหาวิชาสุขศึกษากับองค์หญิงที่ยังไม่โตยังไง
ตอนนั้นผมก็ศึกษาด้วยตัวเอง ยังไงโรงเรียนก็ไม่ยอมให้ความสำคัญกับวิชาสุขศึกษานี่…
“เจ้าหนุ่มทางนั้น เจ้ามาอธิบายที! การอธิบายเรื่องแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ข้าถนัด”
“เธอถนัดอะไรล่ะ?”
“ฆ่าคน”
เอาล่ะ ผู้หญิงในโลกนี้ คนที่ผมรู้จักทำไมถึงต้องชื่นชอบการฆ่าคน ไม่ก็ถนัดการฆ่าคน
“ฉันว่าพวกเธอทำเรื่องที่เด็กผู้หญิงทำให้มากกว่านี้ไม่ดีกว่าเหรอ? การฆ่าคนไม่มีความสุนทรีย์อะไรเลย”
“…”
สายตาของอีกฝ่ายดูมืดมนอยู่ชั่วขณะ ผมรู้สึกได้ว่าผมพูดผิดไปแล้ว
“ฉันแค่บอกว่าพวกเธอน่าจะทำเรื่องที่เป็นผู้หญิงกว่านี้หน่อย อย่าไปใส่ใจเลย”
“ไม่ เจ้าพูดถูกต้องแล้ว แต่นี่เป็นปัญหาของข้าเอง ตอนนี้ข้าต้องคิดหาทางเติมเต็มความอยากรู้ขององค์หญิงก่อน”
“ถึงเธอจะพูดแบบนี้ เธออยากให้ฉันอธิบายยังไงล่ะ? ดูเหมือนเธอก็รู้นี่ว่ามันเป็นยังไง ทำไมเธอไม่อธิบายเองล่ะ?”
“เรื่องแบบนั้น…คือว่า…ข้าก็ไม่ได้รู้แน่ชัด”
“ฮะ?”
“เพราะภารกิจการฝึกฝนอัดแน่นมาตลอด ข้าเลยได้ยินลูกน้องพูดเป็นบางครั้งก็เท่านั้น ดังนั้น…”
ยัยนี่ช่างเป็นคนที่มีความรับผิดชอบจริงๆ…แต่ยัยนี่อายุเท่าไหร่กันแน่? ดูจากส่วนสูงคงอายุมากกว่าผม แต่รู้สึกว่าถ้ามองแค่หน้าล่ะก็…
น่าเสียดายที่ตอนนี้ผมรู้เพียงชื่อของอีกฝ่ายเรียก ‘ดูอัล จริงๆ นอกจากนี้ก็ไม่รู้แล้ว’
เสียดายจัง…
ถ้ามีสกิลที่สามารถมองทะลุเครื่องหมายคำถามพวกนั้นได้ก็คงดี
เนตรแห่งเฟคด้า มองเห็นชื่อ เพศ อายุ อาชีพ หรือฉายาของอีกฝ่ายอย่างไร้เงื่อนไข (สุ่มหนึ่งอย่าง) ไม่อาจใช้ซ้ำได้
ทันใดนั้น ก็เห็นแถบสกิลประหลาดนั่นเด้งออกมา ราวกับตอบรับความคิดในสมองของผม
ดูท่าของสิ่งนี้จะมีความสามารถในการค้นหาความคิดได้ ไม่เลวเลย
กดบนสกิลอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ใช้สกิลกับอีกฝ่าย
ดูอัล
??? ผู้หญิง ??? 17ปี ??? ??? ??? ??? ??? ???
สิบ…สิบเจ็ดปี?
ยัยนี่อายุเท่าผม?
ดีที่เสียงของเธอยังให้ความรู้สึกดูเป็นผู้ใหญ่ หรือเป็นเพราะการฝึกฝนอย่างบากบั่นทำให้เป็นแบบนี้?
ทว่าความสามารถใหม่ที่ได้รับช่างไม่เลวจริงๆ แบบนี้ อย่างน้อยคราวหน้าก็จะได้เห็นบางอย่างที่เลเวลจำกัดได้
“เจ้าคิดนานเกินไปรึเปล่า? รู้หรือไม่กันแน่?”
ดูอัลพูดอย่างหงุดหงิด
“คุณอยากฟังจริงเหรอ? วิธีทำลายความบริสุทธิ์มีอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือ…”
“ยังไม่ถึงคราวเจ้าแย่งงานของข้าหรอก!”
จู่ๆ ก็โดนคนตบมาที่ศีรษะ ไม่ใช่สมาชิกในทีม HP จึงลดลงหนึ่งในห้าส่วน!
หันไปมอง เป็นอาจารย์แมรี่!
“คุณมาเมื่อไหร่…”
“เมื่อกี้! เอาล่ะ พวกโง่สองคนฟังให้ดี เรื่องแบบนี้มาถามอาจารย์เถอะ ถามผู้ชายทำไม หากเขาชักจูงไปทางที่ผิดพวกเจ้าจะไม่เกิดปัญหาเหรอ? ถึงข้าจะคิดว่าฟีลก็ไม่ได้กล้าอะไรก็เถอะ”
“เฮ้ๆ อาจารย์ คำพูดเมื่อกี้ผมทำเป็นไม่ได้ยินไม่ได้หรอกนะ!”
“ถ้าไม่อยากเป็นผู้ต้องหาความคิดทำอนาจารอาจารย์ก็หุบปากให้ฉันเดี๋ยวนี้ไอ้เด็กเปรต!”
บ้าเอ๊ย! ที่แท้ยัยนี่ก็เป็นนักเลง!
“เอาล่ะ ไปเถอะ! ข้าจะสอนพวกเจ้า!”
พูดจบ อาจารย์แมรี่ก็ลากสองคนนั้นไป!
…
ช่างเถอะ แบบนี้ก็ดี
หลังจากคิดสักพัก ผมมองไปทางห้องกิจกรรม จากนั้นก็เดินเข้าไป