แม้ว่าได้สติแล้ว แต่สิ่งที่มองเห็นกลับเป็นเวลานับถอยหลังของอาการหมดสติ
เหมือนกับตอนตาย ในตอนนี้ผมไม่สามารถสัมผัสได้ร่างกายของตัวเอง ทำได้เพียงรอสิ้นสุดการนับถอยหลัง
ยัยสองคนนั้นไม่รู้จักแยกแยะเลย ผมไม่ได้ตั้งใจจะให้ชุดเกราะพวกเธอพังซะหน่อย โทษผมได้เหรอ?
…
เอาเถอะ ถ้าดูจากผลลัพธ์ผมก็ได้กำไรจริงๆ
นึกไม่ถึงเลยว่าเป็นอัศวินแท้ๆ แต่ร่างกายของเด็กสาวสองคนนี้กลับคล้ายกับเด็กสาวทั่วไป แม้ว่าจะไม่ได้สัมผัสตรงๆ แต่ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น
เฮ้อ อย่าสนใจเรื่องพวกนี้ดีกว่า เวลานับถอยหลังใกล้สิ้นสุดแล้ว จะเรื่องอะไรก็รอให้ฟื้นค่อยว่ากันเถอะ
สิ้นสุดเวลานับถอยหลัง ยกเลิกสถานะหมดสติ
ลืมตาขึ้นมาช้าๆ หลังจากมองเห็นสิ่งของตรงหน้าแล้วผมจึงยืนยันสถานที่ที่ผมอยู่ตอนนี้ได้
ห้องพยาบาลของสถาบัน
จำได้ว่าครั้งก่อนที่เข้ามาก็เป็นครั้งที่ผมถูกฆ่าตาย เพราะเหตุการณ์ครั้งนั้นผมจึงกลายเป็นเทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตาย
ลุกขึ้นนั่ง พบว่ารอบๆ ไม่มีใครอยู่เลย
มองหน้าต่าง สามารถเห็นแสงอาทิตย์ยามเช้าส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างได้
ผมหมดสติไปนานแค่ไหนกัน? โธ่เอ๊ย ถ้ามีใครอยากฆ่าผมตอนนี้ก็คงง่ายดายไปเลยสิ
อีกทั้งความทรงจำสุดท้ายของผมก็คือถูกทะลวงไส้จากเด็กสาวสองคน ผมจำได้ว่าสกิลนั้นทำให้หมดสติ 100% อีกทั้งยังโจมตีพร้อมกันสองคนอีก
หรือระยะเวลาการสลบจะทบกัน? ถึงเลเวลของพวกเธอจะห่างกับผมไม่น้อย แต่สกิลที่มีประสิทธิภาพ 100% ช่างเลวร้ายจริงๆ
แต่หมดสติไปก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
แม้ว่าตอนนั้นผมจะขัดขวางสกิลของพวกเธอก็ไม่มีประโยชน์ ทั้งสองคนไม่ยอมใจเย็นแล้วปล่อยผมไปแน่
แทนที่จะเป็นแบบนั้นไม่สู้ผมหมดสติไปจะดีซะกว่า อย่างน้อยแบบนี้สองคนนั้นก็จะได้รักษาสติไว้หน่อย
ตอนนี้สองคนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่รอทุบผม ก็แปลว่าการคาดเดาของผมไม่ผิด
…
แต่ทำไมผมถึงหมดสติไปนานขนาดนี้?
ก่อนหน้านี้ผมจำได้ว่าเวลาที่หมดสติไปคือตอนเย็น แต่ตอนนี้เป็นช่วงเช้าตรู่พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ผมก็หมดสติไปอย่างน้อย 10 ถึง 11 ชั่วโมง
ถึงสกิลจะทรงพลังยังไงก็ไม่มีทางทำให้ผมหมดสติไปได้นานขนาดนี้สิ?
แต่มองเห็นบนกระดานแจ้งเตือนก็ไม่ได้ทิ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์เอาไว้ ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ตรวจสอบสถานะและไอเทมบนตัว ก็ไม่มีของอะไรที่ควรค่าแก่การสนใจ
ในช่วง 11 ชั่วโมงนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
มองเห็นห้องพยาบาลปราศจากคนอยู่ ช่วยไม่ได้ ผมจึงลุกขึ้นเดินออกไปนอกประตู
ปึง!
ขณะผลักประตูเปิด แม้ว่าเปิดล็อคได้ แต่ไม่รู้ทำไมถึงถูกบางสิ่งข้างนอกต้านไว้
หืม?
มีใครขวางประตูไว้จากข้างนอก? มันเกิดอะไรขึ้น?
หรือว่าจะเป็นมิเชลกับมัวร์โยนผมทิ้งไว้ที่นี่แล้วก็ขังผมไว้เหรอ?
โธ่เอ๊ย ของแบบนี้มีประโยชน์อะไร…เอ๋ เดี๋ยวก่อนนะ
ทำไมจู่ๆ ชื่อและฉายาของคนรอบๆ ถึงเริ่มแสดงล่ะ? เมื่อกี้มองไม่เห็นอะไรเลยชัดๆ!
มิน่าล่ะทำไมถึงไม่เห็นใคร ที่แท้ระบบมองเห็นชื่อก็ปิดได้สินะ?
แต่ว่าทำไมล่ะ? ของสิ่งนี้อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ของโลกใบนี้ไม่ใช่เหรอ? ไม่นึกว่าจะถูกปิดกั้นได้ หรือว่าผลกระทบจากการทะลวงไส้นั่นมีมากขนาดนี้?
ไม่
ทันใดนั้น กระดานแจ้งเตือนก็เด้งออกมา แต่บนนั้นมีเพียงหนึ่งตัวอักษร
นี่…หรือว่าระบบนี้พูดอยู่กับผม?
“คุณคือ…ระบบ?”
ไม่ ข้าคือโลก
เจ้านี่คุยกับผม! เจ้านี่แขวะผมมานานขนาดนี้ ในที่สุดก็เต็มใจคุยกับผมสินะ!
ไม่ ข้าแค่ใช้วิธีที่เหมาะสมพูดคุยกับเจ้า…สร้างภาษาเสร็จสิ้นแล้ว ต่อไปจะทำการอธิบาย
เจ้าหมดสติไปนานแบบนี้เนื่องจากได้รับการแทรกแซงที่เกินกว่าขอบเขตที่ระบบคาดการณ์เอาไว้
เจ้าไม่ได้รับสิทธิ์ข้าจึงไม่อาจอธิบายรายละเอียดได้
แต่ข้าไม่อาจแทรกแซงโลกใบนี้ ทำได้เพียงสำรวจผ่านพวกเจ้า
ช่วยข้าตามหาสิ่งแทรกแซงที่ไม่รู้จักได้หรือไม่?
เจ้านี่…มีจิตสำนึกเป็นของตัวเองอย่างที่คิด แต่จิตสำนึกในตอนแรกกลับเป็นการแดกดัน คนที่สร้างมันคิดอะไรอยู่ถึงสร้างไอ้นี่ขึ้นมานะ
แต่ว่า…
ในเมื่อควบคุมระบบเป็นตายของพวกเราเอาไว้ มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะหลอกผม
ก็หมายความว่า…ในเวลา 11 ชั่วโมงเมื่อวานเกิดเรื่องไม่ธรรมดาขึ้นจริงๆ
…
เฮ้อ ให้ผมเพิ่มเลเวลดีๆ ไม่ได้เหรอ? เอาแต่เจอเรื่องวุ่นวายแบบนี้อยู่นั่น…ไม่สิ อาจไม่ใช่เรื่องไม่ดีก็ได้
“ผมว่า อันที่จริงเรื่องแบบนี้คุณสร้างเควสต์ให้พวกเราไม่ดีกว่าเหรอ? แม้จะทำให้คุณติดหนี้น้ำใจพวกเรา นี่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเรา ไม่สู้ให้รางวัลพวกเราไม่ดีกว่าเหรอ?”
คำพูดของเจ้าถูกต้อง
หลังจากอีกฝ่ายทิ้งประโยคนี้ไว้ กระดานสนทนาก็หายไปจากตรงหน้าผม
ต่อจากนั้น กระดานแจ้งเตือนเควสต์ก็เด้งออกมา
เควสต์พิเศษ : การแทรกแซงที่ไม่รู้จัก
ค้นหาต้นตอการแทรกแซงที่ไม่รู้จักที่ทำให้ทั้งสถาบันตกอยู่ในการหลับใหล
ขั้นตอนเควสต์ :
1.ตามหาเพื่อน ปลุกให้ตื่น
2. สำรวจขอบเขตการแทรกแซง
3. ค้นหาศูนย์กลางการแทรกแซง
4. ทำลายอุปกรณ์ที่แทรกแซง
รางวัลเควสต์ : อุปกรณ์ติดต่อเพื่อนสนิท ลบล้างข้อจำกัด (เฉพาะคนต่างโลก)
เพิ่มหนึ่งเลเวล
ได้รับสิทธิ์อัพสกิลพิเศษ
“อุปกรณ์ติดต่อ? อัพสกิลพิเศษ? นี่มันอะไรเนี่ย?”
ผมถามใส่อากาศ แต่กระดานแจ้งเตือนกลับไม่ปรากฏออกมาอีก
ดูท่าเจ้านั่นที่เรียกตัวเองว่า ‘โลก’ จะหยุดพูดไปแบบไร้ความรับผิดชอบอีกแล้ว…ช่างเถอะ ไม่เป็นไร ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็มีแค่ตัวผมเองแล้ว
มองทางประตูอีกครั้ง…เอ๋? คนที่ขวางประตูอยู่คือ ญาริน มิเชลและมัวร์?
แย่แล้ว เมื่อกี้ยังคิดจะใช้สกิลถีบประตูเปิด ตอนนี้สถานการณ์เป็นแบบนี้จะให้ลงมือยังไงล่ะ?
ออกไปทางหน้าต่าง?
แต่ให้เด็กสาวสามคนนอนอยู่ข้างนอกแบบนี้คงไม่ดีมั้ง?
…
เอาล่ะ มีวิธีละ
เปิดหน้าต่างออก ผมไปยืนอยู่ในตำแหน่งหน้าต่างแล้วเริ่มจินตนาการภาพของทางเดินอยู่ในสมอง
“บลิงค์!”
ภาพตรงหน้ากะพริบ วินาทีต่อมาผมก็ปรากฏตัวอยู่กลาง…อากาศบนทางเดิน!
แย่แล้ว ไม่ควรจินตนาการถึงตำแหน่งของเพดาน!
ตกลงพื้นเสียงดังปัง แม้ว่าร่างกายรู้สึกกระแทกเข้ากับพื้น แต่ศีรษะเหมือนกับกระแทกเข้ากับของนุ่มๆ…
เอ๋?
ที่แท้เป็นต้นขาของญาริน!
ผมรีบลุกขึ้น มองไปที่พวกเธออีกครั้ง…ยังดีที่ไม่ตื่น
ตอนนี้พวกเธอทั้งสามคนต่างเอาหลังพิงประตูไว้ด้วยกัน ชุดเกราะบนตัวก็เปลี่ยนเป็นชุดลำลองแล้ว
น่ารักจัง สามคนนี้กองรวมกันเหมือนกับภาพวาดเลย…ไม่สิ ตอนนี้ต้องรีบปลุกให้พวกเธอตื่นถึงจะถูก!
“ญาริน มิเชล มัวร์ ตื่นเร็วเข้า!”
ผมเรียกอยู่หลายคำ แล้วยื่นมือไปจิ้มใบหน้าของพวกเธอเล็กน้อย นุ่มจัง…ไม่สิ มันไม่ใช่ประเด็น
ปัญหาคือพวกเธอไม่มีการตอบสนองแม้แต่น้อย นอกจากเสียงหายใจเบาบาง
ใช่แล้ว บนกระดานแจ้งเตือนบอกว่าทั้งสถาบันตกเข้าสู่สภาวะหลับใหลหรือว่าเป็นแบบนี้เอง?
ดูท่าจะเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ทั้งยังแทรกแซง ‘โลก’ อีก ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
แต่เป็นแบบนี้แล้วจะให้พวกเธอนอนอยู่ข้างนอกก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี ย้ายพวกเธอไปนอนบนเตียงในห้องพยายามคงดีกว่า
…
ช่วยคลุมผ้าห่มให้ทั้งสามคนตามลำดับแล้ว ผมจึงมองทางญารินที่อยู่บนเตียง
น่ารักจัง…แม้ว่าสวมหน้ากากอยู่ยัยนี่ก็ยังคงน่ารักสุดๆ
ใต้หน้ากากเธอจะมีหน้าตายังไงกันนะ?
ได้สติกลับมา ผมก็พบว่ามือผมยื่นไปทางใบหน้าของอีกฝ่ายแล้ว!
ผมรีบห้ามตัวเอง จากนั้นก็สูดหายใจลึก
ในเมื่อเธอไม่เต็มใจให้ผมเห็นก็คงมีเหตุผลของตัวเอง? ครั้งก่อนที่เธอถอดออกก็เกิดขึ้นแค่พริบตา ยังมองไม่ชัดเลย
แต่ว่า…
จะมีสักวันที่เธอถอดออกไหมนะ?
“เอาล่ะ เริ่มเควสต์เถอะ!”