บทที่ 628 ทะลวงระดับ

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

สายฝน​ชุก​หลัง​แล้ง​มานา​น.​..อาจจะ​เป็น​คำอธิบาย​สภาพ​ของ​สวี่​ชีอัน​ใน​ขณะนี้​ได้ดี​ที่สุด​

พูด​ตามตรง​ เมื่อ​ครู่​เขา​ตาย​ไป​แล้ว​จริงๆ​ ใน​ชั่วพริบตา​ที่​หอก​อสนีบาต​กำลัง​ปะทุ​ออก​ภายใน​ร่าง​ของ​เขา​ พลัง​อสนีบาต​และ​ธาตุ​ทั้ง​ห้า​อาละวาด​ ปราณ​ชีวิต​ขาดหาย​ สอง​วิญญาณ​แห่ง​ฟ้าดิน​ออกจาก​ร่าง​

น่า​ห​ลัน​เทียน​ลู่​ฝืน​ระเบิด​ตับ​ จ่าย​ค่า​ตอบ​แท​ประมาณ​หนึ่ง​เพื่อ​ฟื้น​คืน​จุดสูงสุด​ของ​ขั้น​สอง​ใน​เวลา​สั้น​ๆ พลัง​ของ​หอก​อสนีบาต​เกิน​ขีดจำกัด​ที่​จอม​ยุทธ์​ขั้น​สามจะรับได้​

โชคดี​ที่​ร่าง​ธรรม​เชี่ยวชาญ​โอสถ​ใน​เจดีย์​พุทธะ​ชุบชีวิต​คนตาย​ได้​

นี่​เป็นสาเหตุ​ที่​สวี่​ชีอัน​กล้า​เดิมพัน​ชีวิต​กับ​น่า​ห​ลัน​เทียน​ลู่​

“ระดับ​ของ​ข้า​ใน​ตอนนี้​ไม่ต่าง​อะไร​จาก​ระดับ​แรกเริ่ม​ของ​ขั้น​สาม น่า​ห​ลัน​เทียน​ลู่​ที่​ระเบิด​ตับ​ก็​อยู่​ใน​จุดสูงสุด​ของ​ขั้น​สอง​ เหนือกว่า​หนึ่ง​ขั้น​ โชคดี​ที่​ข้า​ทำให้​หอก​อสนีบาต​อ่อนแอ​ลง​ด้วย​ดาบ​เดียว​ตัด​ฟ้าดิน​กับ​ร่าง​แห่ง​ปราณ​ของ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​”

สวี่​ชีอัน​หวาดผวา​อยู่​ใน​ใจ

หลังจาก​สังเกตเห็น​ ‘หยก​สลาย​’ มีช่องโหว่​ สวี่​ชีอัน​ก็​เก็บ​ไพ่ตาย​ใหญ่​ที่สุด​เอาไว้​ เปลี่ยนไป​เดิมพัน​ชีวิต​กับ​น่า​ห​ลัน​เทียน​ลู่​ด้วย​หยก​สลาย​แทน​

เขา​สื่อสาร​กับ​ถ่าห​ลิง​พลาง​ยืนยัน​ว่า​ถ่าห​ลิง​ภิกษุ​เฒ่าช่วยเหลือ​ได้​ทันเวลา​โดน​ไม่มีอุปสรรค​ ดังนั้น​จึงเพิ่ม​การป้องกัน​สอง​ทาง​เพื่อ​รับประกัน​อัตรา​รอดชีวิต​ ทาง​แรก​คือ​ ‘ดาบ​เดียว​ตัด​ฟ้าดิน​’ อีก​ทาง​หนึ่ง​คือ​ร่าง​แห่ง​ปราณ​อัน​ยิ่งใหญ่​ของ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​

ใช้ตัดกำลัง​ของ​หอก​อสนีบาต​

เขา​ชนะ​เดิมพัน​แล้ว​ รอดชีวิต​มาได้​ใน​ท้ายที่สุด​ ไม่สิ พูด​ให้​ถูก​คือ​ถูก​ช่วยชีวิต​สำเร็จ​

นี่​คือ​โชคชะตา​เสริม​ร่าง​

“น่าเสียดาย​ที่​หยก​สลาย​ของ​ข้า​เพิ่งจะ​มีช่องโหว่​ มิอาจ​ส่งคืน​ความเสียหาย​ให้​ฝ่ายตรงข้าม​ได้​เต็มที่​ มิเช่นนั้น​น่า​ห​ลัน​เทียน​ลู่​อาจจะ​เป็น​เถ้าธุลี​มลาย​หาย​ไป​ตรงนั้น​”

สวี่​ชีอัน​ทอด​มอง​ตง​ฟางหว่าน​หรง​ที่​กรีดร้อง​อย่าง​เศร้าสลด​ก็​สงสาร​อยู่​พัก​หนึ่ง​

การ​ส่งคืน​ความเสียหาย​ของ​หยก​สลาย​หาย​ไป​ระดับ​หนึ่ง​ ตอนนี้​เขา​คืน​ความเสียหาย​ได้​ประมาณ​ร้อยละ​หกสิบ​

พนัน​ได้​เลย​ว่า​ใคร​จะดวง​แข็ง​กว่า​กัน​

อันที่จริง​ตง​ฟางหว่าน​หรง​ได้รับ​ผลกระทบ​เพียง​เท่านั้น​ เป้าหมาย​ส่งคืน​ความเสียหาย​ของ​หยก​สลาย​คือ​น่า​ห​ลัน​เทียน​ลู่​ ไม่ใช่ตง​ฟางหว่าน​หรง​

สาเหตุ​ที่​นาง​เศร้าสลด​เช่นนี้​ก็​เพราะ​น่า​ห​ลัน​เทียน​ลู่​อาศัย​อยู่​ภายใน​ร่าง​ของ​นาง​ จึงโดน​ลูกหลง​ไป​ด้วย​

หาก​ส่งคืน​นาง​โดยตรง​ ด้วย​ระดับ​แค่​ขั้น​สี่ นาง​ก็​คง​กลายเป็น​เถ้าธุลี​ไป​นาน​แล้ว​

ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่ลอย​อยู่​ใน​อากาศ​ไม่ไกล​ ไม่ได้​เข้าไป​ใกล้​แต่​ก็​ไม่ได้​ออกห่าง​ ป้องกัน​ไม่ให้​มีคน​ฉวยโอกาส​ซ้ำเติม​

ทว่า​สายตา​ของ​เขา​ไม่ได้​อยู่​บน​ร่าง​ของ​สวี่​ชีอัน​ แต่​สังเกต​สภาพการณ์​ของ​ตง​ฟางหว่าน​หรง​อย่าง​ใกล้ชิด​ เทพบุตร​ขมวดคิ้ว​แน่น​ ใน​ใจก็​กังวล​สภาพการณ์​ของ​อดีต​คนรัก​

เหมียว​โห​ย่ว​ฟางหยุด​ฝีเท้า​ลง​เช่นกัน​ ปีน​ต้นไม้​ใหญ่​ที่​เหี่ยวแห้ง​ ได้​แต่​เกลียด​ตัวเอง​ที่​บิน​ไม่ได้​

“ตา​ต่อตา​ ฟัน​ต่อ​ฟัน​หรือ​”

“ร่าง​ธรรม​เชี่ยวชาญ​โอสถ​!!”

สอง​เทพารักษ์​ตู้​ฝาน​และ​ตู้​หนาน​ส่งเสียง​ออกมา​พร้อมกัน​ ทั้ง​ตกใจ​และ​เดือดดาล​

ตกใจ​ที่​ไม่เข้าใจ​ว่า​เหตุใด​ตง​ฟางหว่าน​หรง​ถึงถูก​แว้งกัด​ แล้ว​โดน​โจมตี​เฉก​เช่นเดียวกับ​สวี่​ชีอัน​

ไม่เคย​ได้ยิน​วิธีการ​นี้​มาก่อน​

เดือดดาล​ที่​รักษา​ชีวิต​ของ​สวี่​ชีอัน​ได้​มากกว่า​ครึ่ง​ทันทีที่​ร่าง​ธรรม​เชี่ยวชาญ​โอสถ​ปรากฏตัว​

พระพุทธเจ้า​สร้าง​ร่าง​ธรรม​ทั้ง​เก้า​แห่ง​สำนัก​พุทธ​ขึ้น​ ซึ่งเป็น​เคล็ด​วิชา​สูงสุด​ ทุ​กร่าง​ธรรม​มีความสามารถ​ที่​ใคร​ก็​คาดเดา​ไม่ได้​

หมอยา​ไม่มีพลัง​โจมตี​ แต่​ชุบชีวิต​คน​จาก​ความตาย​ได้​ เปลี่ยน​ชะตากรรม​ ทำลาย​กฎธรรมชาติ​

การกวาดล้าง​ปีศาจ​หกสิบ​ปี​ใน​ตอนนั้น​ พระโพธิสัตว์​ฝ่าจี้แสดง​ร่าง​ธรรม​เชี่ยวชาญ​โอสถ​ช่วยชีวิต​เทพารักษ์​และ​ศิษย์​สำนัก​พุทธ​นับไม่ถ้วน​

นอก​เสีย​จาก​วิธี​พิเศษ​บางอย่าง​หรือ​วิญญาณ​กระเจิง​ตรงนั้น​ ร่าง​ธรรม​เชี่ยวชาญ​โอสถ​ก็​ช่วยชีวิต​ได้​ทั้งสิ้น​

ตอนนี้​ร่าง​ธรรม​เชี่ยวชาญ​โอสถ​แสดงตัว​ แม้สวี่​ชีอัน​จะเพิ่ง​ตาย​ไป​ก็​ช่วย​กลับมา​ได้​เป็นส่วนใหญ่​

ในทางกลับกัน​ปรมาจารย์​น่า​ห​ลัน​อวี่​ คล้าย​กับ​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​โดย​ไม่คาดคิด​จาก​ความผันผวน​ของ​จิต​เดิม​เมื่อ​ครู่​

เสื้อ​สีดำ​ไหม้​เกรียม​บน​ร่าง​ของ​ตง​ฟางหว่าน​หรง​ถูก​ประกายไฟฟ้า​ไหม้​เป็น​รู​ไม่น้อย​ นาง​พยุง​ร่าง​ขึ้น​นั่งขัดสมาธิ​อย่าง​ยากลำบาก​

แสงเลือด​เบาบาง​ลอย​ขึ้น​มาจาก​ภายใน​ร่าง​ของ​นาง​ ส่องแสง​ดุจ​เทียน​กลาง​สายลม​

บัดนี้​หมอก​ดำ​ที่​ปกคลุม​ภูเขา​เฉวี่ยนหรง​เริ่ม​จางหาย​ พายุ​เปลี่ยนเป็น​ฝนปรอย​ ฝน​พายุ​ที่​สูญเสีย​พลัง​ค้ำจุน​จาก​เจ้าแห่ง​วัสสาน​ถอยกลับ​ไป​ในที่สุด​

“ปรมาจารย์​น่า​ห​ลัน​อวี่​ เจ้าเป็น​อย่างไรบ้าง​”

เทพ​อารักษ์​ตู้​หนาน​สาวเท้า​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​

ตง​ฟางหว่าน​หรง​นิ่งเงียบ​ไม่เอื้อนเอ่ย​ คล้าย​กับ​ไม่หลงเหลือ​แม้แต่​แรง​จะพูด​

น่า​ห​ลัน​เทียน​ลู่​กระตุ้น​ศักยภาพ​ร่างกาย​ของ​ศิษย์​ด้วย​วิชา​วิญญาณ​โลหิต​ ฟื้นฟู​อาการ​บาดเจ็บ​ ทว่า​ร่างกาย​นี้​เป็น​คันศร​สิ้นแรง​ วิชา​วิญญาณ​โลหิต​จะปั้นน้ำเป็นตัว​ไม่ได้​เช่นกัน​

ดังนั้น​ผล​การฟื้นฟู​จึงมีจำกัด​

“ท่าน​พี่​!”

เสียง​สนั่น​ฟ้าดัง​ขึ้น​ ตง​ฟางหว่าน​ชิงลอย​กลับ​มาจาก​ฟ้า นาง​มอง​ท่าทาง​น่าเวทนา​ของ​ตง​ฟางหว่าน​หรง​ สีหน้า​ก็​ซีด​ขาว​ ดวงตา​ทั้ง​ตระหนก​และ​ร้อนใจ​

“ยาอายุวัฒนะ​…”

เสียง​อ่อนเพลีย​ของ​น่า​ห​ลัน​เทียน​ลู่​ดัง​มาจาก​ภายใน​ร่าง​ของ​ตง​ฟางหว่าน​หรง​

ตง​ฟางหว่าน​ชิงหยิบ​ยาอายุวัฒนะ​รักษา​บาดแผล​ออกมา​อย่าง​รวดเร็ว​ ง้างปาก​ของ​ตง​ฟางหว่าน​หรง​และ​ยัด​เข้าไป​

แสงสีเลือด​ที่​ลอย​ล่อง​ก็​หนาแน่น​ขึ้น​เล็กน้อย​ใน​ชั่วเวลา​อัน​สั้น​

“ไม่พอ​! ”

เสียง​ของ​น่า​ห​ลัน​เทียน​ลู่​แหบแห้ง​และ​อ่อนแรง​

ร่างกาย​ของ​พ่อ​มด​ช่างบอบบาง​เหลือเกิน​ ไม่ได้​ทรหด​และ​พลัง​ล้นเหลือ​แบบ​จอม​ยุทธ์​ พลัง​รักษา​ตนเอง​ก็​ไม่เพียงพอ​

“มะ ไม่มีแล้ว​…”

ตง​ฟางหว่าน​ชิงเอ่ย​เสียงสะอื้น​

นาง​ไม่ใช่ทั้ง​โหร​และ​นักพรต​ จะเอา​ยาอายุวัฒนะ​มาจาก​ไหน​มากมาย​

“ไต้​ซือ​ทั้งสอง​ พะ​ พวก​ท่าน​มียาอายุวัฒนะ​อีก​หรือไม่​”

ตง​ฟางหว่าน​ชิงเม้มปาก​ ขอความช่วยเหลือ​จาก​ตู้​หนาน​และ​ตู้​ฝาน​

“อมิตตาพุทธ​ อาตมา​ไม่ได้​พก​ยาอายุวัฒนะ​ติดตัว​”

เทพารักษ์​ทั้งสอง​ส่ายหน้า​

แม้พลัง​รักษา​ตนเอง​ของ​เทพารักษ์​จะไม่เท่า​จอม​ยุทธ์​ขั้น​สาม ทว่า​ก็​แกร่ง​กว่า​ยาอายุวัฒนะ​รักษา​บาดแผล​ส่วนใหญ่​บน​โลก​แน่นอน​

นอก​เสีย​จาก​ยาอายุวัฒนะ​ชั้นยอด​ที่​ท่าน​โหราจารย์​กลั่น​ขึ้น​ มิเช่นนั้น​ที่​เรียก​ว่า​ยาอายุวัฒนะ​รักษา​บาดแผล​ก็​คง​ไม่มีค่า​อะไร​สำหรับ​เทพารักษ์​

ตง​ฟางหว่าน​ชิงก้มหน้า​มอง​เรือ​อวี่เฟิง​ นาง​รู้​ว่า​บน​ร่าง​จีเสวียน​มียาอายุวัฒนะ​

ทว่า​เรือ​อวี่เฟิง​สูงเกินไป​ นาง​มิอาจ​บินขึ้น​ได้​

บน​เรือ​อวี่เฟิง​เงียบสงบ​ จีเสวียน​คล้าย​กับ​ไม่อยาก​ช่วย​ตง​ฟางหว่าน​หรง​

เสียงคำราม​ดัง​ขึ้น​จาก​ด้านหลัง​ กระบี่​ด้าม​เล็ก​ที่​ห้อย​ถุงหอม​บิน​เข้ามา​ แล้ว​ปัก​อยู่​ข้าง​เท้า​ของ​ตง​ฟางหว่าน​ชิง

นาง​ปรายตา​มอง​ถุงหอม​ แล้ว​หันหน้า​มอง​ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่ที่​ยืน​อยู่​ใน​อากาศ​ไกล​ออก​ไป​

ตง​ฟางหว่าน​ชิงเปิด​ถุงหอม​ หยิบ​ขวด​ลายคราม​หลาย​ขวด​ออก​มาจาก​ด้านใน​ จ่อ​ไป​ที่​จมูก​พร้อม​สูดกลิ่น​เพื่อ​แยกแยะ​คุณสมบัติ​ของ​ยาอายุวัฒนะ​

เลือก​ยาอายุวัฒนะ​ที่​มีกลิ่น​รักษา​บาดแผล​ แล้ว​ป้อน​ให้​ตง​ฟางหว่าน​หรง​

อาการ​บาดเจ็บ​ของ​ท่าน​พี่​จึงสงบ​ลง​

น่า​ห​ลัน​เทียน​ลู่​ผ่อน​ลมหายใจ​พร้อม​เอ่ย​ช้าๆ

“ข้า​ไร้​แรง​สู้อีกต่อไป​ ไต้​ซือ​ทั้งสอง​เชิญตามสบาย​เถิด​”

การฝืน​เลื่อน​ระดับ​ก็​ทำลาย​รากฐาน​เสียหาย​ ถูก​พลัง​ของ​หอก​อสนีบาต​แว้งกัด​ต่อ​อีก​ เขา​จึงอ่อนแอ​สุดขีด​

ทาง​เคี้ยว​คด​บน​ยอดเขา​!

ขณะที่​สถานการณ์​สำหรับ​กลุ่ม​พันธมิตร​จอม​ยุทธ์​ตกลง​ก้น​เหว​ ทันใดนั้น​ก็​กลับตาลปัตร​ แล้ว​พุ่งตรง​ขึ้น​สู่ขอบฟ้า​

พลิกผัน​ครั้ง​ใหญ่​และ​รวดเร็ว​ ทำให้​สมอง​ของ​พวกเขา​อยู่​ใน​สภาวะ​สับสน​

ไม่นาน​นัก​เสียง​กรีดร้อง​และ​เสียง​โห่ร้อง​ยินดี​ก็​ดัง​ขึ้น​ ผสม​กับ​เสียง​ร้องไห้​ดีใจ​ของ​หญิงสาว​

คุณชาย​หลิ่ว​สูด​หายใจ​ลึก​ มอง​ไป​รอบ​ๆ ก็​ยัง​เห็น​ความหวาดกลัว​และ​ความ​เศร้าโศก​หลง​เหลืออยู่​บน​ใบหน้า​ของ​คน​ส่วนใหญ่​ ทว่า​ปาก​ของ​พวกเขา​กลับ​โห่ร้อง​ยินดี​ ไม่ก็​ร้อง​เสียงแหลม​สูงที่​ไร้​ความหมาย​

ก่อนหน้านี้​ทุกคน​ต่าง​คิด​ว่า​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ไม่มีทางรอด​แน่นอน​

วินาที​ต่อมา​สถานการณ์​กลับตาลปัตร​ หญิงสาว​ที่​ราวกับ​เทพ​พลัน​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​ ฆ้อง​เงิน​สวี่​บัดนี้​ลอย​อยู่​บน​อากาศ​ เจดีย์​พุทธ​เหนือศีรษะ​สาด​แสงสีทอง​ออกมา​ปกป้อง​เขา​

“ฆ้อง​เงิน​สวี่​ชนะ​แล้ว​”

“ทำ​ข้า​ตกใจ​หมด​…”

“แข็งแกร่ง​เกินไป​แล้ว​ สมกับ​เป็น​พรสวรรค์​โดดเด่น​ที่สุด​ใน​คนรุ่นใหม่​ของ​ประเทศ​ข้า​”

“เมื่อ​ครู่​เขา​ใช้วิธี​อะไร​ เหตุใด​เจ้าแห่ง​วัสสาน​ถึงบาดเจ็บสาหัส​โดยพลัน​”

หลังจาก​ระบาย​อารมณ์​เสร็จ​ ทุกคน​ต่าง​แย่ง​กัน​ออกความเห็น​

เขา​เอาชนะ​เจ้าแห่ง​วัสสาน​ขั้น​สอง​ได้​ด้วย​…คุณชาย​หลิ่ว​รู้จัก​ตัวตน​ของ​หญิงสาว​ผู้​นั้น​จาก​ปาก​เฉาเห​มิงจู่และ​ผู้อาวุโส​คนอื่น​

เจ้าแห่ง​วัสสาน​ขั้น​สอง​แห่ง​สำนัก​พ่อ​มด​

ขั้น​สอง​ ใน​สายตา​ของ​เขา​นี่​คือ​เทพ​เซียน​

“ผู้ดูแล​หอ​พูด​ถูก​ ฆ้อง​เงิน​สวี่​ไม่เคย​แพ้​ ไม่เคย​พ่ายแพ้​มาก่อ​น.​..”

คุณชาย​หลิ่ว​ได้ยิน​เสียงร้อง​ของ​หรงหรง​ จึงมองตาม​เสียง​ นาง​กำลัง​จับมือ​ของ​ท่าน​อาจารย์​ แล้ว​เอ่ย​ด้วย​อารมณ์​ฮึกเหิม​ ใบหน้า​ยัง​หลงเหลือ​คราบ​น้ำตา​

คุณชาย​หลิ่ว​เบน​สายตา​มอง​ไป​ที่​แผ่น​หลัง​งดงาม​ไร้​ที่​ติ​ดุจ​เทพธิดา​ นาง​หันหลัง​ให้​คน​เฝ้าประตู​หอ​หมื่น​บุปผา​ แล้ว​ยืน​อยู่​ริม​ผา​ ไม่เคลื่อน​สายตา​ออกจาก​ร่าง​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​

คุณชาย​หลิ่ว​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​

“ทว่า​ยังมี​สอง​เทพารักษ์​จาก​สำนัก​พุทธ​อยู่​มิใช่หรือ​ อีก​อย่าง​ฆ้อง​เงิน​สวี่​เหมือน​จะสู้ต่อไป​ไม่ได้​อีกแล้ว​…”

ประโยค​นี้​ช่างคล้าย​กับ​ถังน้ำเย็น​เท​ลง​บน​ศีรษะ​ของ​ทุก​คนดัง​ ‘ซ่า’ สาด​ความยินดี​และ​ความ​ฮึกเหิม​ของ​พวกเขา​หาย​ไป​

สถานการณ์​เงียบ​ลง​ใน​ชั่วพริบตา​

ทุกคน​ต่าง​มอง​เขา​

“อาตมา​เข้าใจ​”

อสูร​เทพ​อารักษ์​ปรายตา​มอง​ตู้​หนาน​ บ่งบอก​เขา​ว่า​อย่า​เพิ่ง​วู่วาม​พร้อม​เอ่ย​ “จงอย่า​ใช้มัน​หาก​ไม่ถึงครา​จำเป็น​”

ตู้​หนาน​พยักหน้า​

พระโพธิสัตว์​เจีย​หลัว​ซู่ประทาน​แก่น​โลหิต​หยด​หนึ่ง​ให้​พวกเขา​ แก่น​โลหิต​หยด​นี้​ที่​แฝงด้วย​พลัง​ของ​ร่าง​ธรรม​เทพารักษ์​จะถูก​ใช้เป็น​ทางเลือก​สุดท้าย​

ที่​เรียก​ว่า​แก่น​โลหิต​ไม่ใช่เลือด​ธรรมดา​ ทว่า​กลั่น​พลัง​ของ​เทพารักษ์​เข้าไป​ใน​เลือด​

สวี่​ชีอัน​ก็​มอบ​แก่น​โลหิต​ที่​คล้าย​กัน​ให้​เฉาชิงหยาง​

พลัง​ของ​ร่าง​ธรรม​เทพารักษ์​ร้ายแรง​เกินไป​ แม้จะเป็น​เทพารักษ์​ขั้น​สามก็​มิอาจ​ควบคุม​มัน​ให้​ดี​ได้​

หาก​บุ่มบ่าม​ใช้ก็​อาจจะ​ถูก​พลัง​ของ​ร่าง​ธรรม​เทพารักษ์​ระเบิด​กาย​เนื้อ​ได้​ ไม่ก็​หลงเหลือ​บาดแผล​ซ่อนเร้น​ที่​กำจัด​ได้​ยาก​

นอกจากนี้​ หาก​กำจัด​พุทธ​บุตร​และ​กลุ่ม​พันธมิตร​จอม​ยุทธ์​โดย​ไม่ใช้แก่น​โลหิต​ของ​พระโพธิสัตว์​ได้​ เช่นนั้น​พวกเขา​ก็​จะเก็บ​แก่น​โลหิต​หยด​นี้​เอาไว้​ใช้เอง​ ใช้อย่าง​ช้าๆ บรรลุ​ร่าง​ธรรม​เทพารักษ์​ใน​นั้น​

พระโพธิสัตว์​เจีย​หลัว​ซู่มอบ​แก่น​โลหิต​ให้​พวกเขา​โดย​ไม่ขอ​คืน​อีก​

“ถึงแม้เจ้าแห่ง​วัสสาน​จะรักษา​บาดแผล​ แต่​เขา​ก็​มอบให้​อาตมา​”

อสูร​เทพ​อารักษ์​สาวเท้า​เดิน​ไปหา​สวี่​ชีอัน​ ไม่นาน​เขา​ก็​เดิน​มาถึงริม​ผา​ เท้า​ย่ำ​อยู่​บน​อากาศ​ราวกับ​เหยียบ​พื้นราบ​อยู่​

“สวี่​ชีอัน​ ความอดทน​ของ​สำนัก​พุทธ​มีขีดจำกัด​ เจ้าตั้งตัว​เป็น​ศัตรู​กับ​สำนัก​พุทธ​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ ร่วมมือ​กับ​ลั่วอวี้เหิง​จับ​พระอรหันต์​ตู้​ฉิงเป็น​เชลย​ ใน​เมื่อ​อาตมา​จะปกป้อง​เทพารักษ์​ก็​ควร​ฆ่าคนชั่ว​เพื่อ​สำนัก​พุทธ​”

เขา​ดูจะ​เดิน​อย่าง​เชื่องช้า​ อันที่จริง​สะสมพลัง​รอ​จู่โจม เล็ง​สวี่​ชีอัน​อย่าง​แน่นหนา​

เป้าหมาย​ของ​สำนัก​พุทธ​ก็​คือ​สวี่​ชีอัน​ ไม่ว่า​จะฆ่าเขา​ก็ดี​หรือ​ช่วย​เขา​ก็ตาม​

เมื่อ​เปรียบเทียบ​กัน​ นอกจาก​ทุก​คนใน​เมือง​เฉียน​หลง​ที่​คิด​จะกำ​จัดกลุ่ม​พันธมิตร​จอม​ยุทธ์​ ลำดับความสำคัญ​ใน​ใจของ​น่า​ห​ลัน​เทียน​ลู่​กับ​สอง​เทพารักษ์​คือ​

สวี่​ชีอัน​ ปราณ​มังกร​ และ​กลุ่ม​พันธมิตร​จอม​ยุทธ์​!

สวี่​ชีอัน​ไม่มา พวกเขา​ก็​จะเก็บ​ปราณ​มังกร​และ​ทำลาย​กลุ่ม​พันธมิตร​จอม​ยุทธ์​

หาก​สวี่​ชีอัน​สนับสนุน​กลุ่ม​พันธมิตร​จอม​ยุทธ์​ เขา​จะกลายเป็น​เป้าหมาย​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ทั้งสองฝ่าย​

อาการ​บาดเจ็บ​ของ​สวี่​ชีอัน​ใน​ขณะนี้​เริ่ม​คง​ที่แล้ว​ ผิวหนัง​ที่​ไหม้​เกรียม​ก็​งอก​ผิว​อ่อนวัย​ออกมา​ใหม่​ ปราณ​ชีวิต​ภายใน​ร่าง​ฟื้นตัว​

เขา​ทอด​มอง​อสูร​เทพ​อารักษ์​ที่​อยาก​สังหาร​ทุก​ย่างก้าว​ แล้ว​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​

“ผ่าน​มาสิบห้า​นาที​แล้ว​”

อะไร​นะ​ อสูร​เทพ​อารักษ์​ขมวดคิ้ว​ ไม่เข้าใจ​สิ่งที่​เขา​พูด​

‘ตูม​!’

ทันใดนั้น​ประตู​หิน​ที่​ถูก​หิน​ฝังกลบ​ก็​ระเบิด​ออก​อย่าง​ไร้​สัญญาณเตือน​ หิน​นับไม่ถ้วน​ปลิว​ว่อน​

แสงดาบ​อัน​เจิดจ้า​ที่​เต็มไปด้วย​จิต​สังหาร​พุ่ง​ออก​มาจาก​ประตู​หิน​ แล้ว​ฟัน​ใส่อสูร​เทพ​อารักษ์​

ชาย​ชรา​จาก​กลุ่ม​พันธมิตร​จอม​ยุทธ์​หรือ​ ลางสังหรณ์​ของ​อสูร​เทพ​อารักษ์​ทำให้​เขา​หลบ​ออกมา​ก่อน​ หลีกเลี่ยง​แสงดาบ​อัน​ทรงพลัง​

หลังจาก​แสงดาบ​พุ่ง​ใส่อากาศ​ก็​หนี​เข้าไป​ใน​ความว่างเปล่า​อย่าง​รวดเร็ว​

อสูร​เทพ​อารักษ์​พลัน​หันข้าง​ วินาที​ต่อมา​แสงดาบ​ที่​ฟัน​ลง​มาจาก​ความว่างเปล่า​เหนือศีรษะ​ก็​แฉลบ​ผ่าน​ร่าง​ของ​เขา​ไป​

จากนั้น​ก็​หนี​เข้าไป​ใน​ความว่างเปล่า​อีกครั้ง​

หาก​ไม่โดน​ศัตรู​ก็​จะไม่หาย​ไป​อย่างนั้น​หรือ​

อสูร​เทพ​อารักษ์​เลิกคิ้ว​หนา​ สัมผัส​ได้​ถึงอันตราย​จาก​ทางซ้าย​ เขา​ไม่ได้​หลบ​อีกต่อไป​ กำปั้น​เปล่งแสง​สีทอง​เจิดจ้า​และ​ชก​ออก​ไป​ใน​ทันใด​

กระแทก​แสงดาบ​ที่​จู่โจมมาจาก​ทางซ้าย​เข้า​พอดี​

อสูร​เทพ​อารักษ์​กลิ้ง​ลอย​ออก​ไป​ท่ามกลาง​เสียง​ระเบิด​คล้าย​อสนีบาต​ เขา​ก้มหน้า​อย่าง​ตื่น​ตะลึง​ มอง​หมัด​ขวา​ที่​เปื้อน​เลือดเนื้อ​

จิต​ดาบ​นี้​ทะลวง​ร่าง​เทพารักษ์​ของ​เขา​ได้​ด้วย​หรือ​

เกือบ​ทุกคน​ต่าง​มอง​ไป​ที่​ถ้ำ ร่าง​หนึ่ง​เดิน​ออก​มาจาก​ถ้ำหิน​ที่​มืดมิด​

ผม​สีขาว​ของ​เขา​ดึงดูดสายตา​มาก​ที่สุด​ ผม​สีขาว​คล้าย​ผ้าห่ม​กระทบ​หลัง​และ​ลาก​อยู่​บน​พื้น​

คิ้ว​ทั้งสอง​ห้อย​ลง​ที่สอง​ข้าง​แก้ม​ เครา​ย้อย​ลง​มาถึงหน้าอก​

เขา​เปลือยกาย​ไร้​อาภรณ์​ปกปิด​ ไม่เห็น​แสงแดด​มาตลอดปี​ทำให้​ร่างกาย​ของ​เขา​คล้าย​หยก​ขาว​อัน​งดงาม​ กล้ามเนื้อ​เป็น​มัด​ สูงใหญ่​กำยำ​

โฉมนอก​ของ​เขา​ราวกับ​ชาย​ชรา​วัย​ห้าสิบ​ปี​ มีริ้วรอย​เล็กน้อย​บน​ใบหน้า​ แต่​ดู​ไม่แก่​สักนิด​

องค์ประกอบ​ใบหน้า​ราวกับ​รูปปั้น​ ท่าทาง​ช่วง​วัยหนุ่ม​คง​เป็น​ชาย​ที่​อาจหาญ​น่าดู​

“ท่าน​บรรพชน​?!”

เฉาชิงหยาง​พึมพำ​

ชาว​ยุทธ​จักร​กลุ่ม​พันธมิตร​จอม​ยุทธ์​ด้านหลัง​ทุกคน​ต่าง​สับสน​และ​ตื่นตระหนก​เฉก​เช่นเดียวกัน​ เสริม​ด้วย​ความ​กลัดกลุ้ม​

“นี่​คือ​ท่าน​บรรพชน​ของ​กลุ่ม​พันธมิตร​จอม​ยุทธ์​ของ​พวกเรา​หรือ​”

“ใช่ นี่​คือ​ท่าน​บรรพชน​ ช่างคลับคล้าย​กับ​ใน​รูปภาพ​”

หลังจาก​มึนงง​ชั่วขณะ​ก็​ค่อยๆ​ จำชาย​ชรา​ที่​ผนึก​ตนเอง​นาน​ร้อย​ปี​ได้​ว่า​ตรง​กับ​ภาพวาด​ที่​แขวน​อยู่​ใน​โถงบรรพบุรุษ​

“เหตุใด​ท่าน​บรรพชน​ทะลวง​ระดับ​ในเวลานี้​ สะ สภาพ​เขา​ย่ำ​แย่มาก​ไม่ใช่หรือ​”

ฟู่จิงเห​มิน​เปลี่ยน​สีหน้า​เล็กน้อย​พร้อม​เอ่ย​

“คง​ไม่ใช่เพราะ​เห็น​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ตกที่นั่งลำบาก​จึงพยายาม​ทะลวง​ระดับ​หรอก​ใช่ไหม​”

เขา​ไม่ได้​เอ่ย​สิ่งใด​ต่อ​

สีหน้า​ของ​ทุกคน​เปลี่ยนไป​อย่าง​มาก​ หาก​เป็น​เช่นนี้​ก็​จินตนาการ​ได้​ถึงรา​คาที่​ท่าน​บรรพชน​พยายาม​ทะลวง​ระดับ​ออกมา​ได้​

หลังจาก​การต่อสู้​ครั้งนี้​ เสาค้ำฟ้า​ของ​กลุ่ม​พันธมิตร​จอม​ยุทธ์​ก็​พังทลาย​ นี่​เป็น​ความเสียหาย​ที่​กลุ่ม​พันธมิตร​จอม​ยุทธ์​มิอาจ​ทน​ได้​

“นะ​ นี่​…” บ้าง​ก็​สั่นเทา​จน​พูดไม่ออก​

เรื่อง​ของ​ราก​บัว​เก้า​สีมีเพียง​เฉาชิงหยาง​ผู้นำ​พันธมิตร​เพียง​คนเดียว​ที่​รู้​ เขา​กำลังจะ​อธิบาย​ก็​ได้ยิน​สวี่​ชีอัน​หัวเราะ​ลั่น​พร้อม​เอ่ย​

“ท่าน​ผู้อาวุโส​ ในที่สุด​ท่าน​ก็​ออกมา​เสียที​ หาก​ท่าน​ยัง​ไม่ทะลวง​ระดับ​อีก​ ข้า​จะหันหลัง​จากไป​เสีย​”

แล้ว​เดิน​หลบ​เข้าไป​ใน​เจดีย์​พุทธะ​

ชาย​ชรา​หัวเราะ​ชอบใจ​

“ขอบคุณ​ราก​บัว​เก้า​สีของ​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ช่วย​ให้​ข้า​ทะลวง​ระดับ​ได้​ ข้า​เลื่อน​ระดับ​เป็น​ขั้น​สอง​แล้ว​ ช่างเป็นเรื่อง​ที่​ดี​หลังจาก​ผ่านพ้น​เรื่อง​ร้าย​! ”

น้ำเสียง​เริงร่า​ สดชื่น​กังวาน​

…………………………………………..

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท