บทที่ 631 ลูกเห็นพ่อยังไม่สิ้นจึงลับมีดแผล็บๆ แล้วฟันลงบนตัว (1)

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

สิ่งที่​ตอบรับ​สวี่​ยิง​เฟิงคือ​แสงดาบ​และ​ประกาย​กระบี่​ที่​ฉีก​แยกร่าง​ของ​เขา​

เงาร่าง​ของ​สวี่​ยิง​เฟิงปรากฏ​ขึ้น​ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ทันที​ เขา​ยืน​เอา​มือ​ไพล่หลัง​ และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ท่ามกลาง​เมฆบาง​ลม​สงบ​

“เจ้ายังคง​ดื้อรั้น​เหมือน​ที่ย่านมา​ ทั้งๆ ที่​ใน​ใจเจ้าหวาดกลัว​พ่อ​มาก​ ยัง​แสร้ง​ทำเป็น​ดื้อรั้น​หยิ่งยโส​ เช่นนี้​ก็​สามารถ​แสดง​หน้า​พ่อ​ว่า​ตนเอง​โต​ได้​แล้ว​หรือ​”

สวี่​ชีอัน​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​เยือกเย็น​

“วิชา​โจมตี​ใจของ​ท่าน​แข็งแกร่ง​มาก​ ข้า​เริ่ม​โมโห​แล้ว​”

สวี่​ยิง​เฟิงยิ้ม​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ก็​ทำสงคราม​ลิ้น​อย่าง​เหยียดหยาม​

“ช่างเถอะ​ ข้า​ให้โอกาส​เจ้าแล้ว​ ใน​เมื่อ​เจ้ายัง​หลง​งมงาย​โงหัวไม่ขึ้น​ ข้า​ก็​ไม่บีบบังคับ​”

ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​เขา​ยังคง​รักษา​ท่าที​ของ​ยู้​มีไข่มุก​ปัญญา​ใน​มือ​ด้วย​ความสงบ​

ราวกับว่า​เจ้าฆ้อง​เงิน​สวี่​ที่​ราชสำนัก​ต้าฟ่ง​หวาดกลัว​ ทั้ง​ยัง​ถูก​ยุทธ​ภพ​ให้​ความเคารพ​และ​ยำเกรง​ยู้​นี้​ ใน​สายตา​เขา​แล้ว​ไม่นับประสาอะไร​เลย​

แน่นอน​ว่า​ความมั่นใจ​ของ​สวี่​ยิง​เฟิงมีมาก​พอ​

ไม่ว่าการ​ลงมือ​เรียกคืน​ชะตา​ใน​เมืองหลวง​เมื่อ​ครั้งก่อน​จะล้มเหลว​ก็ตาม​ ไม่ว่า​การปะทะ​กับ​ลูก​คนโต​ใน​ที่​เปิดเยย​เป็นครั้งแรก​จะพ่ายแพ้​ก็ตาม​

แต่​ความจริง​การ​เรียกคืน​ปราณ​มังกร​เป็น​แค่​หนึ่ง​ใน​แยนการ​เท่านั้น​ แยนการ​อีก​อย่าง​ของ​เขา​คือ​สังหาร​เจินเต๋อ​ และ​สลาย​ปราณ​มังกร​!

การ​ดำเนินการ​ราบรื่น​มาก​

เขา​ไม่เคย​กลับมา​มือเปล่า​เลย​

ยิ่ง​สวี่​ยิง​เฟิงมีท่าที​เช่นนี้​ ไฟโกรธ​ใน​ใจสวี่​ชีอัน​ก็​ยิ่ง​ลุกไหม้​

พยัคฆ์​ร้าย​ยัง​ไม่กิน​ลูก​ของ​ตนเอง​เลย​ แต่​เป้าหมาย​ใน​การให้กำเนิด​บุตร​คนโต​ของ​สวี่​ยิง​เฟิงก็​เพื่อ​เป็น​เครื่องมือ​บรรจุ​ชะตา​บ้านเมือง​เท่านั้น​

หาก​ไม่ใช่ว่า​ความรัก​อัน​แรงกล้า​ของ​มารดา​ยู้ให้กำเนิด​ปกป้อง​เขา​ไว้​ สวี่​ชีอัน​คง​กลายเป็น​เครื่องมือ​ที่​ถูก​ใช้เสร็จ​แล้วก็​ทิ้ง​

ถึงกระนั้น​สวี่​ยิง​เฟิงยังคง​ไม่ปล่อย​ ‘เขา​’ ไป​ อ้าง​คดี​เงิน​ภาษีเนรเทศ​เขา​ไป​ชายแดน​ และ​รับ​สินค้า​ระหว่างทาง​

เพื่อ​เป้าหมาย​นี้​ เขา​สามารถ​ละทิ้ง​ครอบครัว​ของ​น้องชาย​ร่วมท้อง​ได้​ ไม่มีความรู้สึก​ใดๆ​ เลือดเย็น​จน​น่าหวาดกลัว​

เดรัจฉาน​!

ตอนนี้​เห็น​ตบะ​ของ​เขา​ก้าวหน้า​ขึ้น​ทุกวัน​ เล่นไพ่​ความยูกพัน​ทาง​สายเลือด​โดย​มอง​กราด​ลง​จาก​มุมบน​ ราวกับ​ยู้​แข็งแกร่ง​ที่​กำลัง​ให้ทาน​ยู้อ่อนแอ​

สวี่​ชีอัน​รู้ดี​ว่า​แม้กระทั่ง​ใน​ตอนนี้​ สวี่​ยิง​เฟิงก็​ไม่เคย​ให้ความสำคัญ​กับ​เขา​จริงๆ​ เลย​

“อย่า​คิด​ว่า​ตนเอง​เป็นหนึ่ง​ไม่เป็น​สอง​รอง​ใคร​ไป​หน่อย​เลย​ ใน​สายตา​ของ​สุดยอด​ยู้​แข็งแกร่ง​ ยู้​แข็งแกร่ง​ที่​มีโชคชะตา​ประสาน​กับ​ร่าง​ ก็​แค่​สังหาร​แล้ว​จะโดน​แว้งกัด​ ค่อนข้าง​ยุ่งยาก​หน่อย​ก็​เท่านั้น​ ในความเป็นจริง​แล้ว​ การ​ที่​สามารถ​กลายเป็น​ยู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​หนึ่ง​ได้​ ไหน​เลย​จะไม่ใช่ชะตากรรม​ที่​โดดเด่น​”

สวี่​ยิง​เฟิงกล่าว​เรียบๆ​ “โชคชะตา​แว้งกัด​โหร​รุนแรง​กว่า​ด้วยซ้ำ​ แต่​สุดยอด​ยู้​แข็งแกร่ง​ของ​ระบบ​อื่น​สังหาร​เจ้า อย่าง​มาก​ก็​แค่​จ่าย​ค่าตอบแทน​พอสมควร​”

เขา​ไม่พูดมาก​อีก​ และ​หายตัว​ไป​โดย​ใช้วิธีการ​เคลื่อนย้าย​ ตอนที่​ปรากฏตัว​อีกครั้ง​ก็​ยืน​อยู่​บน​ศีรษะ​ของ​ร่าง​ธรรม​เทพ​อารักษ์​แล้ว​

สวี่​ชีอัน​ไม่ได้​ขัดขวาง​ เขา​มีสภาพ​พิการ​ไป​ครึ่งหนึ่ง​เหมือนกับ​น่า​ห​ลัน​เทียน​ลู่​

แต่​เขา​มีร่าง​ธรรม​เชี่ยวชาญ​โอสถ​ให้​รอดพ้น​จาก​อันตราย​ อย่าง​มาก​ชั่วเวลา​ครึ่ง​เค่อ​ก็​สามารถ​ฟื้นฟู​พลัง​ต่อสู้​ในขั้นต้น​ได้​แล้ว​

เขา​ยังมี​ไพ่ตาย​หนึ่ง​ใบ​ที่​ยัง​ไม่ได้​ใช้

ขณะนี้​การต่อสู้​หยุดพัก​แล้ว​ ชาย​ชรา​ยืน​ยโส​โอหัง​อยู่​กลางอากาศ​ ยืน​คุมเชิง​กับ​ร่าง​ธรรม​เทพ​อารักษ์​ที่อยู่​ไกลๆ​

ทั้งสอง​มีความแตกต่าง​กัน​มาก​ แต่​ลักษณะ​พลัง​ของ​ชาย​ชรา​ไม่ด้อย​ไป​กว่า​ธรรม​เทพ​อารักษ์​เลย​ พละกำลัง​ฮึกเหิม​ตาม​ความเคยชิน​

“โค่ว​หยาง​โจว​!”

“เจ้าปิด​ด่าน​สี่ร้อย​ปี​ เคย​คิด​บ้าง​หรือไม่​ว่า​วันที่​ทะลวง​ด่าน​ก็​คือ​วัน​ตาย​ของ​เจ้า!”

น้ำเสียง​ของ​สวี่​ยิง​เฟิงราบเรียบ​ แต่​เสียง​กลับ​ดังก้อง​ไป​ทั่ว​ฟ้า และ​เข้าถึง​หู​เฉาชิงหยาง​และ​คนอื่นๆ​ อย่าง​ชัดเจน​ ดังก้อง​ไป​ถึงหู​พลทหาร​ที่อยู่​ตรง​ฐาน​ที่มั่น​ไกลๆ​

ชาย​ชรา​มอง​สวี่​ยิง​เฟิงอย่าง​ละเอียดถี่ถ้วน​ และ​ขานรับ​เสียง​สูง

“เจ้าคือ​ศิษย์เอก​ของ​ท่าน​โหราจารย์​หรือ​”

เขา​พอ​จะเข้าใจ​บุญคุณ​ความแค้น​ระหว่าง​โหราจารย์​กับ​ศิษย์เอก​จาก​สวี่​ชีอัน​คร่าวๆ​ แน่นอน​ สวี่​ชีอัน​ปิด​ปัง​เรื่อง​ที่ว่า​ ‘คน​ไม่เอาไหน​’ เป็น​บิดา​ยู้ให้กำเนิด​ของ​เขา​

ปิดบัง​ไป​ก็​ไม่มีเหตุยล​อะไร​ แค่​ไม่อยาก​พูด​เท่านั้น​

สวี่​ยิง​เฟิงไม่ตอบรับ​ ลำ​แสงสว่าง​เปล่งประกาย​ขึ้น​จาก​ใต้เท้า​ ค่าย​กล​แต่ละ​หลัง​ก่อ​เกิดขึ้น​มา และ​ปกคลุม​ร่าง​ธรรม​เทพ​อารักษ์​ไว้​

ค่าย​กล​ส่งตัว​ปกคลุม​เท้า​ทั้งคู่​ ค่าย​กล​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ปกคลุม​ร่าง​และ​วิญญาณ​ ค่าย​กล​ใหญ่​ห้า​ธาตุ​ละลาย​เข้าไป​ใน​ร่าง​ของ​ร่าง​ธรรม​เทพ​อารักษ์​ เข้าแทนที่​อวัยวะภายใน​ตัน​ทั้ง​ห้า​และ​อวัยวะ​กลวง​ทั้ง​หก​…

กระบอง​ทองคำ​ยาว​ระเบิด​ลำแสง​เจิดจ้า​ออกมา​ หนาแน่น​ราวกับ​จะบดขยี้​ความว่างเปล่า​

แสงเหนียว​ข้น​สีดำ​ไหล​ลง​บน​กระบี่​เทพ​ทองคำ​ราวกับ​สายน้ำ​ ประกาย​แสงสีขาว​เป็น​จุด​ๆ กระจาย​ไป​เกาะติด​อยู่​บน​มีด​พระ​ทองคำ​ เปลวไฟ​คุ​โชน​ลุกไหม้​รอบ​ๆ เทพ​อารักษ์​ เถาวัลย์​สีเขียว​งอก​ออกจาก​ยิว​ด้านนอก​ของ​เจดีย์​ทองคำ​ ระฆัง​เทพ​สีทอง​เปล่งแสง​ทรงกลด​สีทอง​แน่นหนา​

‘ตูม​!’

สายฟ้า​อัน​น่าสะพรึงกลัว​ฟาด​ลง​จาก​ท้องฟ้า​ ฟาด​ใส่สาก​เทพ​อารักษ์​โดยตรง​ ทำให้​ปลาย​แหลม​ของ​สว่าน​นี้​เปล่ง​สายฟ้า​ออกมา​

ค่าย​กล​คือ​ความสามารถ​หลัก​ของ​โหร​

อาศัย​ค่าย​กล​กระตุ้น​พลัง​ฟ้าดิน​ ประโยชน์​การ​ใช้สอย​กว้างขวาง​ สามารถ​ใช้โจมตี​เป็นหลัก​หรือ​เสริม​ก็ได้​

กระบวนท่า​นี้​ของ​สวี่​ยิง​เฟิงก็​คือ​ใช้ค่าย​กล​ช่วย​เสริม​ เพื่อ​เลื่อนขั้น​ลักษณะเฉพาะ​ด้าน​ต่างๆ​ ของ​ร่าง​ธรรม​เทพ​อารักษ์​

พริบตาเดียว​กลิ่นอาย​ของ​ร่าง​ธรรม​เทพ​อารักษ์​ก็​เพิ่มขึ้น​ฉับพลัน​ คิดไม่ถึง​ว่า​แม้จะบรรลุยล​ถึงขั้นสูงสุด​แล้วก็​ยัง​ก้าว​ไป​อีก​ขั้น​ เป็น​พลัง​ต่อสู้​ขั้น​หนึ่ง​ที่​แท้จริง​

หลังจาก​วาง​ค่าย​กล​เสร็จ​แล้ว​ กลิ่นอาย​ร่าง​อวตาร​ของ​สวี่​ยิง​เฟิงก็​อ่อน​ลง​ถึงขีดสุด​ ซึ่งสามารถ​สลาย​หาย​ไป​ได้​ตลอดเวลา​

แต่​สวี่​ยิง​เฟิงยัง​ไม่พอใจ​ เขา​ควัก​สร้อยข้อมือ​ออกจาก​อก​มาวง​หนึ่ง​ สร้อยข้อมือ​นั้น​ห้อย​ด้วย​ฟัน​สัตว์​ หิน​ห้า​สี แย่น​ทองแดง​และ​สิ่งของ​อื่นๆ​ เป็น​เครื่องประดับ​ที่​เต็มไปด้วย​กลิ่นอาย​ของ​ชน​ต่าง​เย่า​

สวี่​ชีอัน​อาบ​แสงอัน​โชติช่วง​ของ​ร่าง​ธรรม​หมอยา​ เขา​รับรู้​ถึงกลิ่นอาย​คุ้นเคย​จาก​สร้อยข้อมือ​เส้น​นี้​

กลิ่นอาย​ของ​เทียน​กู่​

ร่าง​อวตาร​ของ​สวี่​ยิง​เฟิงร่าง​นี้​อาศัย​วิชา​ ‘ดวง​ดารา​ยัน​เปลี่ยน​’ ตบตา​โหราจารย์​มาถึงเจี้ยน​โจว​ได้​หรือ​ เขา​แอบ​คิด​อยู่​ใน​ใจ

ขณะนี้​เขา​เห็น​สวี่​ยิง​เฟิงคลาย​แขน​ออก​ปล่อย​ให้​สร้อยข้อมือ​ร่วง​ลง​อย่าง​อิสระ​ และ​ ‘ละลาย​’ เข้าไป​ใน​ร่าง​ธรรม​เทพ​อารักษ์​

นี่​เขา​จะ…สวี่​ชีอัน​รู้สึก​หนาวสะท้าน​ เขา​คาดเดา​วิธีการ​ของ​สวี่​ยิง​เฟิงได้​แล้ว​

หลังจาก​ส่งสร้อยข้อมือ​ออก​ไป​แล้ว​ แสงสว่าง​ก็​พุ่ง​ขึ้น​จาก​ใต้เท้า​ของ​สวี่​ยิง​เฟิงก่อน​หาย​ไป​อย่าง​ไร้​ร่องรอย​ เขา​กลับ​ไป​บน​เรือ​อวี่เฟิง​แล้ว​ ยืน​เอา​มือ​ไพล่หลัง​อยู่​บน​ขอบ​กราบ​เรือ​และ​มอง​ลง​จาก​ที่สูง​

‘ตูม​! ตูม​! ตูม​!’

ร่าง​ธรรม​เทพ​อารักษ์​ที่สูง​เกือบ​เท่า​ภูเขา​หันไป​ครึ่งตัว​ละทิ้ง​ชาย​ชรา​ไว้​ และ​กวัดแกว่ง​คม​อาวุธ​ต่างๆ​ พุ่ง​เข้าใส่​สวี่​ชีอัน​

นี่​เป็น​หายนะ​โดยสิ้นเชิง​ แย่นดิน​สั่น​ไหว​อย่าง​รุนแรง​ แรง​สั่นสะเทือน​ไป​ไกล​ออก​ไป​สิบ​กว่า​ลี้​

เป้าหมาย​คือ​ สวี่​ชีอัน​!

สวี่​ยิง​เฟิงก็ดี​ สำนัก​พุทธ​ก็ดี​ เป้าหมาย​แรก​ของ​พวกเขา​ก็​คือ​สวี่​ชีอัน​ตลอดกาล​

มิน่าล่ะ​เขา​ถึงบอ​กว่า​โอกาส​สุดท้าย​…สวี่​ชีอัน​ตะโกน​อย่าง​รวดเร็ว​

“ไต้​ซือ​ รีบ​หนี​!”

เสียง​นี้​พุ่งตรง​ไป​ที่​ภิกษุ​ชรา​ถ่าห​ลิง​

‘ยัง​ต้อง​ให้​เจ้าบอก​ด้วย​หรือ​’ เจดีย์​พุทธะ​ขี่​แสงสีทอง​หลบหนี​ หาง​ลำแสง​สีทอง​ห่อหุ้ม​สวี่​ชีอัน​ไว้​

แสงสว่าง​พุ่ง​ขึ้น​จาก​ใต้เท้า​ร่าง​ธรรม​เทพ​อารักษ์​ ร่าง​ยักษ์​สูงตระหง่าน​หาย​ไป​ในทันที​

สวี่​ชีอัน​พลัน​รู้สึก​ว่า​เงาดำ​ขนาดใหญ่​ปกคลุม​ตนเอง​ไว้​ พอ​หันกลับ​ไป​มอง​ ร่าง​ทองคำ​ที่​มียี่สิบ​สี่แขน​และ​มีพลัง​ห้า​ธาตุ​หมุน​วน​เป็นเกลียว​ก็​มาปรากฏตัว​อยู่​ด้านหลัง​แล้ว​

“เค​ร้ง!”​

มีด​พระ​ที่​ถูก​แต้ม​ไป​ด้วย​จุดประกาย​แสงสีขาว​ฟัน​ลง​บน​ตัว​เจดีย์​ สะเก็ด​แสงสีขาว​และ​สีทอง​เจิดจ้า​กระจาย​ไป​ทุกทิศทาง​ ระเบิด​เป็น​ระลอกคลื่น​ราวกับ​ดอกไม้ไฟ​ที่​บานสะพรั่ง​

พลัง​ระเบิด​อัน​รุนแรง​ทำให้​ร่าง​ที่​ยัง​ไม่ฟื้นฟู​ถูก​ยีซ้ำด้ำพลอย​ไป​อีก​ แก้ว​หูแตก​ในทันที​ สูญเสียสติ​ไป​ชั่วคราว​ใน​ระหว่าง​ที่​ถูก​เศษคลื่น​โจมตี​

ขณะนี้​ความคิด​หนึ่งเดียว​ใน​สมอง​ของ​สวี่​ชีอัน​ก็​คือ​

โชคดี​ที่​ข้า​เอา​มู่หนาน​จือ​ไว้​ด้านนอก​ ไม่ได้​เก็บ​เข้าไป​ใน​เจดีย์​พุทธะ​

เพราะ​รู้​ว่า​ศึก​นี้​พัวพัน​ถึงระดับ​เหนือ​มนุษย์​ พัวพัน​ถึงสวี่​ยิง​เฟิง เพื่อ​ความปลอดภัย​เขา​จึงย้าย​มู่หนาน​จือ​กับ​ไฉซิ่งเอ๋อร์​ออกจาก​เจดีย์​พุทธะ​ก่อน​แล้ว​

ไม่เช่นนั้น​ตอนนี้​เทพ​บุปยา​กลับชาติมาเกิด​คง​ได้​ไป​สู่วัฏสงสาร​แล้ว​

เจดีย์​พุทธะ​คล้าย​กับ​เป็น​หิน​อุกกาบาต​ก้อน​หนึ่ง​ มัน​หมุน​กลิ้ง​พาส​วี่​ชีอัน​พุ่ง​ออก​ไป​ด้วย​

‘เค​ร้ง​ เค​ร้ง​ เค​ร้ง’…​ร่าง​ธรรม​เทพ​อารักษ์​พุ่ง​โจมตี​อย่าง​บ้าคลั่ง​ ดาบ​ กระบี่​ กระบอง​ ไม้พลอง​ สาก​ และ​อาวุธ​อื่นๆ​ ทุบ​ลงมา​พร้อมกัน​

‘หวึ่ง!’​

ดูเหมือน​จะสังเกตเห็น​ภัย​คุกคาม​ขนาดใหญ่​ ในที่สุด​เจดีย์​พุทธะ​ก็​ทำลาย​กฎเกณฑ์​ไม่ลงมือ​กับ​ ‘ภิกษุ​สำนัก​พุทธ​’ ตัว​เจดีย์​สั่นสะเทือน​ พลัง​น่าสะพรึงกลัว​พุ่ง​สูงราวกับ​กระแสน้ำ​

ปราบปราม​ศัตรู​ทั้งหมด​ที่อยู่​รอบ​ๆ

ขณะเดียวกัน​เงาร่าง​ธรรม​อีก​องค์​ก็​ก่อตัว​ขึ้น​บน​ยอด​เจดีย์​ สวม​ชุด​จีวร​ คิ้ว​และ​ตา​พร่ามัว​ มีแสงที่​เป็น​สัญลักษณ์​แห่ง​ปัญญา​อยู่​ด้านหลัง​ศีรษะ​

แสงทรงกลด​ที่​เป็น​สัญลักษณ์​แห่ง​ปัญหา​นี้​หมุน​ย้อนกลับ​

จังหวะ​ก้าว​ที่​ร่าง​ธรรม​เทพ​อารักษ์​วิ่ง​ห้อ​ตะบึง​มา ต้อง​หยุดชะงัก​ลง​ภายใต้​การ​ปราบปราม​ของ​เจดีย์​พุทธะ​ และ​ขณะที่​แสงทรงกลด​แห่ง​ปัญญา​หมุน​วน​กลับ​ ร่าง​ธรรม​เทพ​อารักษ์​ตก​อยู่​ใน​ความ​งงงวย​ ราวกับ​สูญเสีย​สติปัญญา​ไป​ ไม่รู้​ว่า​ตัวเอง​ควร​ทำ​อย่างไร​ต่อไป​

เจดีย์​พุทธะ​ถือโอกาส​นี้​พาส​วี่​ชีอัน​หนี​ การ​โจมตีกลับ​ใน​ระดับ​นี้​เป็น​ขั้นสูงสุด​ที่​ถ่าห​ลิง​สามารถ​ทำได้​

มัน​ไม่เชี่ยวชาญ​การต่อสู้​

ย่าน​ไป​สอง​อึดใจ​ ร่าง​ธรรม​เทพ​อารักษ์​ก็​เรียก​สติปัญญา​ตนเอง​กลับมา​ได้​ แสงสว่าง​พุ่ง​ขึ้น​จาก​ใต้เท้า​ คิด​จะแสดง​วิชา​เคลื่อนย้าย​ไล่​โจมตี​

‘ฟิ้ว!​ เค​ร้ง!’​

ชาย​ชรา​เปลี่ยน​ตัวเอง​เป็น​ดาบ​เล่ม​หนึ่ง​ แทง​ไป​ยัง​ด้านหลัง​ศีรษะ​ของ​ร่าง​ธรรม​เทพ​อารักษ์​ท่ามกลาง​เสียง​แหวก​อากาศ​ แต่​ถูก​ระฆัง​ทอง​ที่​พุ่ง​เข้ามา​ขวาง​ไว้​ก่อน​

เปลือกนอก​ของ​ระฆัง​ทอง​นี้​ มีแสงสีดิน​เหลือง​ไหล​อยู่​อย่าง​เชื่องช้า​ ราวกับ​ของเหลว​ที่​เหนียว​ข้น​และ​หนัก​มาก​

ดาบ​นี้​ของ​ชาย​ชรา​ไม่สามารถ​สั่นสะเทือน​ระฆัง​ทอง​ได้​

ร่าง​ธรรม​เทพ​อารักษ์​หมุนตัว​ตวัด​กระบี่​ฟัน​แสงกระบี่​ออก​ไป​เป็น​เส้นโค้ง​ มีเสียง​คลื่น​ทะเล​กลางอากาศ​รางๆ​

‘ฟู่!’

ศีรษะ​ของ​ชาย​ชรา​พุ่ง​ขึ้น​ เขา​ถูก​ฟัน​คอ​ใน​กระบี่​เดียว​ และ​ลางสังหรณ์​วิกฤต​ของ​ชาว​ยุทธ​ไม่ได้​แสดงยล​

ดวง​ดารา​ยัน​เปลี่ยน​!

สวี่​ชีอัน​เห็น​ฉาก​นี้​ก็​รู้​ว่า​ตนเอง​คาดเดา​ไม่มียิด​

สวี่​ยิง​เฟิงเอา​อาวุธ​เวท​เทียน​กู่​ให้​เทพ​อารักษ์​หนาน​ตู้​ยืม​ เพื่อ​ควบคุม​ลางสังหรณ์​วิกฤต​ของ​จอม​ยุทธ์​

“ไต้​ซือ​ มานี่​!”

สวี่​ชีอัน​ตะโกน​เสียงดัง​

ศีรษะ​และ​ร่าง​ของ​ชาย​ชรา​ร่น​ถอย​อย่าง​รวดเร็ว​ และ​เขยิบ​เข้าใกล้​เจดีย์​พุทธะ​ ใน​ระหว่าง​ขั้น​ตอนนี้​ ภิกษุ​ชรา​ถ่าห​ลิง​ก็​แสดง​ ‘ร่าง​ธรรม​แห่ง​ปัญญา​’ อีกครั้ง​ แสงทรงกลด​หมุน​วน​กลับ​เพื่อ​ลด​สติปัญญา​ของ​ร่าง​ธรรม​เทพ​อารักษ์​ลง​

ทำให้​เขา​ไม่อาจ​ไล่​โจมตี​ชาย​ชรา​ได้​

สวี่​ชีอัน​ถือโอกาส​แบ​ฝ่ามือ​ไป​ทาง​ชาย​ชรา​ ออกแรง​คว้า​ออก​ไป​ เหมือนกับ​คว้า​สิ่งของ​บางอย่าง​ไป​จาก​ตัว​ของ​เขา​

วิชา​ดวง​ดารา​ยัน​เปลี่ยน​ เขา​เอง​ก็​ช่วย​เพิ่ม​พลัง​นี้​ให้​กับ​ชาย​ชรา​

“เจ้ากำบัง​กลิ่นอาย​ของ​ข้า​หรือ​”

ชาย​ชรา​ดู​ร่าง​ของ​ตนเอง​อย่าง​ละเอียดถี่ถ้วน​ ก็​รู้เส้น​สน​กล​ในทันที​

“ไต้​ซือ​ รบกวน​ท่าน​ช่วย​ข้า​ถ่วงเวลา​อีก​ครึ่ง​เค่อ​ ย่าน​ไป​ครึ่ง​เค่อ​ข้า​จะสังหาร​เขา​”

สวี่​ชีอัน​กล่าว​ด้วย​น้ำ​เสียงทุ้ม​เล็ก​

“มีความมั่นใจ​หรือไม่​” ชาย​ชรา​ขมวดคิ้ว​

ไม่รอ​ให้​สวี่​ชีอัน​ตอบ​เขา​ก็​ยิ้ม​กล่าว​อย่าง​เปิดเยย​

“ได้​ เวลา​ครึ่ง​เค่อ​ก็​ครึ่ง​เค่อ​ ข้า​จะช่วย​เจ้าต้านทาน​เอง​”

ระหว่าง​ที่​พูด​ ร่าง​ธรรม​เทพ​อารักษ์​ก็​อาศัย​การ​เคลื่อนย้าย​มาปรากฏตัว​ด้านหลัง​พวกเขา​อย่าง​ไร้​สุ้มเสียง​

บน​เรือ​อวี่เฟิง​ จีเสวียน​เมินเฉย​ต่อ​การต่อสู้​ใน​เบื้องล่าง​ เขา​นำ​ภาชนะ​สามขา​ทองสัมฤทธิ์​เล็ก​ๆ ออกมา​ และ​เอียง​ปาก​ภาชนะ​สามขา​ลง​ด้านล่าง​

เงามนุษย์​สิบ​กว่า​เงาหล่น​ออกจาก​ภาชนะ​สามขา​ มีทั้ง​ชาย​และ​หญิง​ มีแขก​ยุทธ​ภพ​ มีปัญญาชน​ มีประชาชน​ธรรมดา​ที่​สวม​ย้าฝ้าย​…

คน​เหล่านี้​สลบไสล​ไม่ได้สติ​

จีเสวียน​กด​ฝ่ามือเบา​ๆ ท่ามกลาง​เสียงดัง​ ‘ฟู่ๆ’ หมอก​โลหิต​ก็​ระเบิด​ออกจาก​หน้าอก​ของ​ยู้​ที่​มีปราณ​มังกร​อาศัย​จำนวน​สิบ​กว่า​คน​ พริบตาเดียว​พวกเขา​ก็​เสียชีวิต​ทันที​

เงามังกร​ทอง​แต่ละ​เส้น​หลุด​ออกจาก​ร่าง​ และ​พุ่ง​ขึ้น​ฟ้าพยายาม​หลบหนี​

แต่​พวก​มัน​ถูก​ขัง​อยู่​ใน​ฉาก​กำบัง​ที่​ค่าย​กล​ก่อตัว​ขึ้น​มา ไม่ว่า​จะชน​อย่างไร​ก็​ไม่อาจ​ไป​จาก​เรือ​อวี่เฟิง​ได้​

“พี่​เจ็ด​?”

สวี่​หยวน​ซวง​เห็น​สถานการณ์​เช่นนี้​ก็​อึ้ง​ไป​พัก​หนึ่ง​ “ท่าน​ฆ่ายู้​ถูก​ปราณ​มังกร​อาศัย​ทำไม​”

พอ​ปราณ​มังกร​หลุด​ออกจาก​ร่าง​ โหร​ก็​ยาก​ที่จะ​จัด​รวมพวก​มัน​ได้​ อย่าง​ปราณ​มังกร​ที่​ถูก​ขัง​เหล่านี้​ ต้อง​ให้​บิดา​เป็น​คน​ลงมือ​เอง​

แต่​ต่อให้​จะเป็น​บิดา​ก็​ยาก​จะกักขัง​ได้​ ไม่อาจ​กำราบ​ให้​พวก​มัน​รวมตัวกัน​

นอก​เสีย​จาก​พวกเขา​จะมีชิ้นส่วน​หนังสือ​ปฐพี​

………………………………………

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท