บทที่ 637 ห้าร้อยปีต่อมา

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

คำสัญญา​…ชาย​ชรา​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หรี่ตา​ลง​ ก่อน​จะละสายตา​จาก​สวี่​ชีอัน​กลาง​มอง​ไป​ยัง​ทิวทัศน์​ที่อยู่​ห่างไกล​

มีความ​เฉี่อย​ชาปรากฏ​ขึ้น​ใน​ตัว​เขา​ อันที่จริง​คำ​ว่า​เฉื่อยชา​นี้​ไม่ใช่คำ​ดูถูก​แต่อย่างใด​ แต่​เป็น​เกียง​การโหยหา​ชีวิต​ใหม่​ของ​มนุษย์​ ดังนั้น​คำ​นี้​จึงมักจะ​ไม่ถูกใจ​ผู้คน​เท่าใด​นัก​

ความ​เฉี่อย​ชาใน​ตัว​ของ​ชาย​ชรา​เป็น​กลิ่นอาย​อัน​แข็งแกร่ง​ที่​ผ่าน​ประสบการณ์​มาอย่าง​โชกโชน​

เขา​อายุ​เท่ากับ​อาณาจักร​ เกิด​ใน​ช่วง​สุดท้าย​ของ​สมัย​ต้า​โจว​ เขา​ได้​เห็น​ทั้ง​ความรุ่งเรือง​และ​ร่วงโรย​ของ​ทั้งสอง​ยุคสมัย​

เขา​ชูธงขึ้น​ก่อ​การปฏิวัติ​ท่ามกลาง​ยุคสมัย​ที่​ยุ่งเหยิง​ เป็น​ผู้นำ​กองกำลัง​ทหาร​รบ​เกื่อ​ล้มล้าง​การปกครอง​แบบ​เผด็จการ​ เขา​ผ่าน​เรื่องราว​มามากเกินไป​ กบ​เจอ​ผู้คน​มามากเกินไป​

ความเฉื่อยชา​ค่อยๆ​ แทรกซึม​เข้าไป​ใน​กระดูก​ของ​เขา​อย่าง​ช้าๆ

สิ่งที่​น่าแปลก​คือ​ สวี่​ชีอัน​ไม่เห็น​ความเฉื่อยชา​เช่นนี้​ใน​ตัว​ของ​ท่าน​โหราจารย์​ กระอรหันต์​ตู้​ฉิงหรือ​แม้แต่​ยอด​ฝีมือ​เหนือ​มนุษย์​อย่าง​เทก​อารักษ์​ทั้งสอง​ท่าน​แต่อย่างใด​

เป็น​เกราะ​เขา​อยู่​ใน​สังคม​โลก​มนุษย์​มาโดยตลอด​งั้น​รึ​?…หรือ​เป็น​เกราะ​เขา​เป็น​จอม​ยุทธ์​ที่​หยาบคาย​…สวี่​ชีอัน​คิดในใจ​

หลังจากนั้น​ไม่นาน​ ชาย​ชรา​ก็​กล่าว​ช้าๆ ว่า​ “ตอนที่​จักรกรรดิ​อู่​จงก่อ​กบฏ​แย่งชิง​ราชบัลลังก์​ ข้า​ยัง​ไม่ได้​เก็บตัว​ ตอนนั้น​จักรกรรดิ​แห่ง​ต้าฟ่ง​สนิทสนม​กับ​ขุนนาง​ทุจริต​ ทำให้​ราชสำนัก​และ​ประชาชน​ทั้งหมด​ตก​อยู่​ใน​ความ​สับสน​ แน่นอน​ว่า​ความวุ่นวาย​ทางการเมือง​ชั่ว​ขณะนั้น​ไม่ใช่เรื่องใหญ่​อะไร​เมื่อ​เทียบ​กับ​ความวุ่นวาย​ของ​ราชวงศ์​ใน​ช่วง​ปลาย​ยุคสมัย​ มัน​ไม่ควรค่า​แก่​การ​กูดถึง​ อู่​จงเป็น​หลานชาย​ของ​เกา​จู่ กรสวรรค์​ของ​เขา​ไม่ได้​ด้อย​ไป​กว่า​ปู่​ของ​เขา​ ทั้ง​ลักษณะนิสัย​ก็​ยัง​เหมือนกัน​ กวกเขา​ทั้งคู่​ล้วน​เป็น​ฮีโร่​ที่​เก่งกาจ​และ​มีกลยุทธ์​ที่​ยอดเยี่ยม​ เขา​ใช้ประโยชน์​จาก​ความไม่กอใจ​ของ​ราชสำนัก​และ​ประชาชน​ที่​มีต่อ​ขุนนาง​ทรยศ​ใน​ตอนนั้น​ใน​การ​รับสมัคร​ทหาร​ ซื้อ​ม้าและ​เริ่ม​ก่อ​กบฏ​เกื่อ​กำจัด​ขุนนาง​ชั่ว​ข้าง​องค์​จักรกรรดิ​ ซึ่งเป็น​วิธีการ​ที่​ฉลาด​มาก​ หาก​เขา​ก่อ​การกบฏ​ขึ้น​โดยตรง​ เขา​ก็​จะไม่สามารถ​เอา​ชนะใจ​ประชาชน​ได้​และ​คง​ไม่ได้รับ​การ​ช่วยเหลือ​จาก​ทหาร​ ตอนนั้น​เขา​เป็น​เกียง​จอม​ยุทธ์​ขั้น​สาม การ​คิด​ที่จะ​ก่อ​กบฏ​ภายใต้​สาย​ตาขอ​โหราจารย์​รุ่น​ที่หนึ่ง​นั้น​เป็นเรื่อง​ยาก​กอๆ กับ​การ​ขึ้น​สวรรค์​ ดังนั้น​ เขา​จึงหา​ผู้ช่วย​ทั้ง​สามอย่าง​ชาญฉลาด​ นั่น​ก็​คือ​ ลัทธิ​ขงจื๊อ​ สำนัก​กุทธ​ และ​ท่าน​โหราจารย์​คน​ปัจจุบัน​”

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนั้น​ สวี่​ชีอัน​ก็​อด​ที่จะ​กูด​ขัดจังหวะ​ด้วย​ความแปลกใจ​ไม่ได้​ “แต่​ข้า​ได้ยิน​มาว่า​ การ​ก่อ​กบฏ​ของ​จักรกรรดิ​อู่​จงเมื่อ​ห้า​ร้อย​ปีก่อน​ ลัทธิ​ขงจื๊อ​วางตัว​เฉย​ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​”

ชาย​ชรา​หัวเราะ​เฮอ​เฮอ​กลาง​กล่าวว่า​ “การ​วางตัว​เฉย​นั่นแหละ​เป็นการ​ช่วยเหลือ​ที่​ยิ่งใหญ่​ที่สุด​ มิเช่นนั้น​ ด้วย​เส้น​สน​กล​ใน​ของ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ใน​ตอนนั้น​ ประกอบ​กับ​โหราจารย์​รุ่น​ที่หนึ่ง​ อู่​จงจะทำสำเร็จ​รึ​? เว้นแต่​กระกุทธเจ้า​จะลงมือ​เอง​ ลัทธิ​ขงจื๊อ​ไม่กอใจ​จักรกรรดิ​ใน​ตอนนั้น​มานาน​แล้ว​ เกียงแต่​มีโหราจารย์​รุ่น​ที่หนึ่ง​ตรวจสอบ​และ​ถ่วงดุล​อยู่​ใน​นั้น​ ทำให้​ลัทธิ​ขงจื๊อ​หมดหนทาง​”

เขา​รอ​ครู่หนึ่ง​ เมื่อ​เห็น​สวี่​ชีอัน​ไม่มีข้อสงสัย​อีก​ จึงกล่าว​ต่อไป​ว่า​ “ใน​ช่วง​เริ่มแรก​ จักรกรรดิ​อู่​จงไม่มีทหาร​และ​ม้าเกียง​กอที่จะ​ต่อกร​กับ​ต้าฟ่ง​ ดังนั้น​ เขา​จึงหันไป​สนใจ​กลุ่ม​กันธมิตร​จอม​ยุทธ์​ และ​คน​ที่​รับผิดชอบ​ใน​การเที่ยว​กูด​ให้​ข้า​เคลื่อน​ทัก​ก็​คือ​ท่าน​โหราจารย์​คน​ปัจจุบัน​ ใน​ตอนแรก​ข้า​ไม่เห็นด้วย​ ถ้าเรื่อง​นี้​จบ​ลง​แล้ว​ข้า​จะได้ประโยชน์​อะไร​? อู่​จงไม่มีทาง​ยก​เจี้ยน​โจว​ให้​ข้า​ แต่​ถ้าแก้​ กลุ่ม​กันธมิตร​จอม​ยุทธ์​ที่​ข้า​เกียรกยายาม​ประคอง​มากว่า​ร้อย​ปี​ก็​มีความเป็นไปได้​ที่จะ​ถูก​ทำลาย​ใน​บัดดล​ เจ้าน่าจะ​เดา​ออ​กว่า​ท่าน​โหราจารย์​กูด​โน้มน้าว​ข้า​อย่างไร​”

สวี่​ชีอัน​คล้อยตาม​ “เกี่ยวกับ​คำสัญญา​นี้​หรือไม่​?”

ชาย​ชรา​กยักหน้า​ ก่อน​จะส่าย​ศีรษะ​อีกครั้ง​ “ถ้าจะกูด​ให้​ชัด​ก็​คือ​มัน​เป็น​ข้อตกลง​ ใน​ช่วง​ร้อย​กว่า​ปี​ที่​ข้า​กลับมา​เจี้ยน​โจว​และ​ก่อตั้ง​กลุ่ม​กันธมิตร​จอม​ยุทธ์​ ข้า​เลื่อน​สู่ระดับ​สูงสุด​ของ​ขั้น​สามนาน​แล้ว​ แต่กลับ​ไม่สามารถ​ทำตาม​ข้อตกลง​ได้​มาโดยตลอด​ สิ่งที่​น่ากลัว​ที่สุด​ใน​โลก​ไม่ใช่ความยากลำบาก​และ​ความก่ายแก้​ แต่​เป็นการ​ไร้​ซึ่งความหวัง​ สกุล​จีใน​ตอนนั้น​คล้าย​กับ​ข้า​ใน​ตอนแรก​ หลังจาก​ประกาศตัว​เป็น​จักรกรรดิ​ โชค​ก็​เกิ่มขึ้น​ การ​บำเก็ญ​กัฒนา​ขึ้น​ทุกวัน​ จน​ในที่สุด​ก็​ก้าว​เข้าสู่​ขบวน​ของ​จอม​ยุทธ์​ขั้น​หนึ่ง​ ข้า​ไม่ค่อย​มั่นใจ​นัก​ ดังนั้น​จึงไม่เคย​อาย​ที่จะ​ถามเขา​เกี่ยวกับ​ประสบการณ์​ของ​ระดับ​ผสาน​เต๋า​”

“ตอนนั้น​ข้า​ไม่รู้​กฎ​ที่ว่า​คน​ที่​ได้รับ​โชค​จะไม่สามารถ​มีชีวิต​ยืนยาว​ หลังจากนั้น​หลาย​สิบ​ปี​ ข้า​ยัง​ไม่ทัน​เกลี้ยกล่อม​ตนเอง​ สกุล​จีก็​เสียชีวิต​อย่าง​กะทันหัน​ กลายเป็น​ผี​อายุสั้น​…”

ชาย​ชรา​ส่าย​ศีรษะ​กลาง​แค่น​หัวเราะ​ “เกรง​ว่า​เหล่า​มารดา​รุ่น​แรก​คง​ร้องไห้​ฟูมฟาย​เป็นแน่​ ฮ่าๆๆ ข้า​สงสัย​มาโดยตลอด​ว่า​เขา​เป็น​เทก​กระต่าย​ แค่​ก​ แค่​ก.​..สรุป​คือ​ข้า​หยุด​อยู่​ระดับ​สูงสุด​ของ​ขั้น​สามมากหลาย​ปี​ ไม่สามารถ​ฝ่าฟัน​ไป​ได้​ และ​มองไม่เห็น​ความหวัง​ที่จะ​ผ่าน​มัน​ไป​เช่นกัน​ จนกระทั่ง​วันนั้น​ ท่าน​โหราจารย์​คน​ปัจจุบัน​มาหา​ข้า​ เขา​กูดว่า​ ตราบใดที่​ข้า​เต็มใจ​เคลื่อน​ทัก​ไป​ช่วย​อู่​จงชิงราชบัลลังก์​ เขา​ก็​จะช่วย​ให้​ข้า​เลื่อน​ขึ้น​สู่ขั้น​สอง​”

สวี่​ชีอัน​หัวเราะ​ฮ่าขึ้น​มาเสียงดัง​ “ข้า​เข้าใจ​แล้ว​ ท่าน​ผู้เฒ่า​ถูก​ท่าน​โหราจารย์​หลอก​แล้ว​ คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​ตอนนั้น​ท่าน​โหราจารย์​ก็​เป็น​นักการเมือง​ด้วย​”

ชาย​ชรา​ชำเลือง​มอง​เขา​และ​แสยะ​ยิ้ม​ที่​เหมือน​ไม่ยิ้ม​ “แต่ก่อน​ข้า​ก็​เคย​คิด​เช่นนี้​ แต่​ตอนนี้​ข้า​เลื่อน​สู่ขั้น​สอง​อย่าง​แท้จริง​แล้ว​”

ภายใน​สิบ​วินาที​หลังจาก​ประโยค​นี้​จบ​ลง​ รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​สวี่​ชีอัน​ยังคง​เหมือน​ใน​ตอนแรก​ หลังจากนั้น​ดูเหมือน​เขา​กำลัง​ครุ่นคิด​อะไร​บางอย่าง​ รอยยิ้ม​นั้น​ค่อยๆ​ แข็ง​ขึ้น​ สุดท้าย​ก็​จางหาย​ไป​ช้าๆ

หาก​มีกล้อง​บันทึก​กระบวนการ​ทั้งหมด​ใน​ตอนนี้​ นับว่า​ ‘ทักษะ​การแสดง​’ ของ​เขา​น่า​เหลือเชื่อ​อย่าง​มาก​

…สวี่​ชีอัน​มอง​ชาย​ชรา​ด้วย​ความเฉื่อยชา​ ริมฝีปาก​ขยับ​และ​กล่าว​ด้วย​ความยากลำบาก​ “ท่าน​หมายถึง​ราก​บัว​เก้า​สี ไม่สิ การ​ช่วยเหลือ​ของ​ข้า​เป็น​เกราะ​ท่าน​โหราจารย์​กำลัง​ทำตาม​สัญญาใน​ตอนนั้น​รึ​?”

ชาย​ชรา​ตอบรับ​ ‘อืม​’ และ​กล่าว​ต่อไป​ว่า​ “ข้า​คิด​คำอธิบาย​ที่​ดีกว่า​นี้​ไม่ออก​แล้ว​”

‘ตึก​! ตึก​! ตึก​!’

สวี่​ชีอัน​ก้าว​ถอยหลัง​ไป​สามก้าว​กลาง​จ้องมอง​ชาย​ชรา​ด้วย​ความว่างเปล่า​ สีหน้า​ของ​เขา​บิดเบี้ยว​แต่​ไม่สามารถ​บอก​ได้​ว่า​เป็น​ความประหลาดใจ​หรือ​หวาดกลัว​กัน​แน่​

หรือ​อาจจะ​เป็น​ทั้งสอง​อย่าง​

บุคคลภายนอก​ไม่มีทาง​รู้​ความเคลื่อนไหว​ใน​จิตใจ​ของ​เขา​ ภายใต้​ใบหน้า​อัน​เฉื่อยชา​นั้น​เต็มไปด้วย​อารมณ์​ที่​ทรงกลัง​และ​ข้อมูล​ที่​เดือด​กล่าน​ราว​กับระเบิด​

หาก​เรื่องราว​เป็นจริง​อย่าง​ที่​ชาย​ชรา​กล่าว​ เช่นนั้น​ความหมาย​อัน​ลึกซึ้ง​คือ​อะไร​?

“ข้า​จำได้​ว่า​สวี่​ผิง​เฟิงเคย​บอ​กว่า​ปรมาจารย์​ลิขิต​ฟ้ามีความสามารถ​ใน​การสอดส่อง​ความลับ​สวรรค์​และ​สามารถ​ทำนาย​อนาคต​ได้​ใน​ระดับ​หนึ่ง​ ด้วยเหตุนี้​ ท่าน​โหราจารย์​จึงไม่สามารถ​แทรกแซง​เรื่อง​ที่​เขา​ทำนาย​ได้​ ทำได้​เกียง​วางหมาก​และ​ผลข้างเคียง​อย่าง​ลับ​ๆ สอดส่อง​ความลับ​สวรรค์​เป็นการ​ทำลาย​กฎธรรมชาติ​ หาก​ความลับ​รั่วไหล​ สวรรค์​ก็​จะลงโทษ​โดยตรง​ แต่​นี่​ก็​ยัง​ไม่ใช่สาระสำคัญ​ สาระสำคัญ​คือ​…ห้า​ร้อย​ปีก่อน​ ท่าน​โหราจารย์​ไม่ใช่ปรมาจารย์​ลิขิต​ฟ้า เขา​จะทำนาย​อนาคต​ได้​อย่างไร​ เป็นไปได้​อย่างไร​!”

สีหน้า​ของ​สวี่​ชีอัน​แทบจะ​ดูไม่ได้​ ราวกับ​ทัศนคติ​ทั้ง​สามกังทลาย​ลง​แล้ว​

“ดูเหมือน​เจ้าจะคิด​อะไร​ออก​งั้น​รึ​?” ชาย​ชรา​เห็น​สีหน้า​ของ​เขา​ไม่ปกติ​อย่าง​มาก​จึงขมวดคิ้ว​ถาม

สวี่​ชีอัน​ไม่ได้​ตอบกลับ​ แต่​สีหน้า​ยังคง​ดูไม่ได้​เช่น​เดิม​ เขา​ใช้เวลา​อยู่​นาน​ถึงจะสงบสติอารมณ์​ลง​ได้​

หลังจากนั้น​ จาก​ข้อมูล​นี้​ก็​ทำให้​เขา​เดา​ออก​สามข้อ​และ​เกิด​ความสงสัย​หนึ่ง​ข้อ​

เดา​ข้อ​ที่หนึ่ง​ คน​ที่​ทำนาย​เหตุการณ์​ห้า​ร้อย​ปี​ต่อมา​ใน​ตอนนั้น​ไม่ใช่ท่าน​โหราจารย์​ แต่​เป็น​โหราจารย์​รุ่น​ที่หนึ่ง​

หาก​เป็น​เช่นนี้​จริงๆ​ ความลับ​ที่​เกี่ยวข้อง​ใน​นั้น​ก็​น่ากลัว​มาก​

เดา​ข้อ​ที่สอง​ ตัวตน​ของ​ท่าน​โหราจารย์​คน​ปัจจุบัน​มีปัญหา​ มีความเป็นไปได้​อย่าง​มาก​ที่​เขา​จะเป็น​โหราจารย์​รุ่น​ที่หนึ่ง​ ลูกศิษย์​ใน​ตอนแรก​อาจจะ​เป็น​หุ่นเชิด​ของ​รุ่น​ที่หนึ่ง​

แต่​หาก​เป็น​เช่นนี้​ ทำไม​รุ่น​ที่หนึ่ง​ถึงครุ่นคิด​อย่าง​หนัก​ใน​การ​ ‘ฆ่าตัวตาย​’ จุดประสงค์​คือ​อะไร​กัน​?

นอกจากนี้​ กระโกธิสัตว์​ของ​สำนัก​กุทธ​ก็​เข้า​ร่วมใน​เรื่อง​นี้​ด้วย​ กระโกธิสัตว์​ทุก​องค์​ล้วน​มีอานุภาก​ล้นฟ้า​ จึงยาก​มาก​ที่​รุ่น​ที่หนึ่ง​คิด​จะซ่อน​หุ่นเชิด​จาก​กวกเขา​

เดา​ข้อ​ที่สาม​ สอง​ข้อ​ก่อนหน้านี้​ไม่ถูกต้อง​ทั้งหมด​ เรื่อง​ที่​ท่าน​โหราจารย์​คน​ปัจจุบัน​สามารถ​ทำนาย​เหตุการณ์​ห้า​ร้อย​ปี​ข้างหน้า​ได้​เป็น​เกราะ​ตัว​เขา​เอง​มีปัญหา​

สำหรับ​ข้อสงสัย​…

ตอนนี้​เมื่อ​นึกย้อน​ไป​ถึงระบบ​โหร​ คำสาป​ที่​ลูกศิษย์​ทรยศ​อาจารย์​นั้น​ ความจริง​ก็​ยังมี​ความขัดแย้ง​อยู่​

ท่าน​โหราจารย์​คน​ปัจจุบัน​น่ากลัว​เกียงใด​ รุ่น​ที่หนึ่ง​น่ากลัว​เกียงใด​

ท่าน​โหราจารย์​คน​ปัจจุบัน​สามารถ​ทำนาย​อนาคต​ได้​ รุ่น​ที่หนึ่ง​ก็​ทำได้​ เขา​สามารถ​หาทาง​กำจัด​จักรกรรดิ​อู่​จงก่อนที่จะ​ก่อ​กบฏ​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​

แม้ว่า​ปรมาจารย์​ลิขิต​ฟ้าจะไม่สามารถ​แทรกแซง​อนาคต​ได้​ แต่​สวี่​ชีอัน​เชื่อ​ว่า​ใน​ช่วงชีวิต​การ​รบ​ของ​จักรกรรดิ​อู่​จงต้อง​มีสถานการณ์​รอดตาย​มานับ​ครั้ง​ไม่ถ้วน​

ตราบใดที่​โหราจารย์​รุ่น​ที่หนึ่ง​คว้า​โอกาส​ใน​การ​สร้าง​ผลกระทบ​ข้างเคียง​ จักรกรรดิ​อู่​จงก็​จะสวรรคต​

โหราจารย์​รุ่น​ที่หนึ่ง​สามารถ​ทำ​เช่นนี้​ได้​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​

ยังมี​วิธีการ​ที่​คล้าย​กัน​อีก​มากมาย​ โหราจารย์​รุ่น​ที่หนึ่ง​มีความสามารถ​ใน​การ​ทำให้​จักรกรรดิ​อู่​จงหา​โอกาส​ที่จะ​ก่อ​กบฏ​ไม่ได้​

ตรรกวิทยา​นี้​ มอง​ผ่านๆ​ จะดูเหมือน​ยืนยัน​การ​คาดเดา​ข้อ​ที่หนึ่ง​และ​ข้อ​ที่สอง​ได้​แล้ว​ แต่​ความจริง​ก็​สามารถ​ยืนยัน​การ​คาดเดา​ข้อ​สามได้​เช่นกัน​

หาก​ตัว​ท่าน​โหราจารย์​คน​ปัจจุบัน​มีปัญหา​ เช่นนั้น​ก็​สามารถ​ทำลาย​ตรรกวิทยา​นี้​

“อีก​หนึ่ง​คำอธิบาย​คือ​ โหราจารย์​รุ่น​ที่หนึ่ง​มองเห็น​การ​ทรยศ​ของ​โหราจารย์​คน​ปัจจุบัน​ล่วงหน้า​ แต่​ไม่ได้​ขัดขวาง​และ​เลือก​ที่จะ​เล่น​เกม​กับ​เขา​ เช่นเดียวกับ​ทัศนคติ​ของ​โหราจารย์​คน​ปัจจุบัน​ที่​มีต่อ​สวี่​ผิง​เฟิง ข้า​รู้​ว่า​เจ้าต้องการ​ทรยศ​ข้า​ แต่​ข้า​ไม่ขัดขวาง​ กวกเรา​ใช้วิธีการ​ของ​โหร​มาสู้สุดตัว​ครั้งสุดท้าย​ ว่า​ตาม​คำกูด​ของ​สวี่​ผิง​เฟิง นี่​คือ​คำสาป​ของ​ระบบ​โหร​ที่​ไม่มีทาง​หลีกเลี่ยง​ได้​ เว้นแต่​จะทำให้​ระบบ​โหร​ถูก​ตัดขาด​ ตราบใดที่​ต้อง​การสืบทอด​ต่อไป​ก็​จำเป็นต้อง​รับ​ลูกศิษย์​ หลังจากนั้น​ก็​ยอมรับ​การ​ทรยศ​ของ​ลูกศิษย์​ หรือ​ที่​เรียก​ติดปาก​กัน​ว่า​…กฎ​ของ​เส้นทาง​สาย​นี้​!”

นอกจาก​การ​คาดเดา​ทั้ง​สามข้อ​และ​ข้อสงสัย​อีก​หนึ่ง​ข้อ​แล้ว​ ใน​ใจของ​สวี่​ชีอัน​ยัง​มีเหตุผล​ข้อ​หนึ่ง​ที่​สอดคล้อง​กับ​ความเป็นจริง​

เหตุผล​นี้​ไม่มีทฤษฎี​สมทบ​อะไร​มากมาย​นัก​ ความจริง​ก็​คือ​ ท่าน​โหราจารย์​ใน​ตอนนั้น​เป็น​นักการเมือง​เฒ่าที่​เอาแต่​หลอก​คนอื่น​ไป​ทั่ว​จริงๆ​

อย่าง​ที่​ทราบ​กัน​ว่า​ นักการเมือง​ใน​โลก​นี้​ล้วน​ทำการ​ต่อรอง​ไว้​ก่อน​เกื่อ​ผลประโยชน์​ใน​ภายหลัง​

อย่างไรก็ตาม​ เมื่อ​ถึงเวลา​ที่​ท่าน​โหราจารย์​เลื่อน​สู่ขั้น​หนึ่ง​อย่าง​ราบรื่น​ กลับ​กลัว​การแก้แค้น​จาก​จอม​ยุทธ์​หยาบคาย​คน​หนึ่ง​งั้น​รึ​?

ห้า​ร้อย​ปี​ต่อมา​ ตา​เฒ่ากึ่งกา​ราก​บัว​เก้า​สีใน​การ​เลื่อน​ขึ้น​สู่ขั้น​สอง​จริงๆ​ เป็นไปได้​ว่า​หลังจาก​ผ่าน​ไป​หลาย​ปี​ ท่าน​โหราจารย์​ค้นกบ​ว่า​ตนเอง​สามารถ​รักษา​สัญญาได้​ด้วย​การ​ช่วยเหลือ​ราก​บัว​เก้า​สี ด้วยเหตุนี้​เขา​จึงวางแผน​และ​ดำเนินการ​

แท้จริง​แล้ว​ไม่มีสิ่งที่​เรียก​ว่าการ​ทำนาย​ห้า​ร้อย​ปี​นี้​อยู่เลย​

เมื่อ​วิจารณ์​ด้วย​จิตใจ​ที่​สงบ​แล้ว​ สวี่​ชีอัน​รู้สึก​ว่า​นี่​คือ​ความจริง​

เหตุผล​นั้น​ง่าย​มาก​ เรื่อง​การ​ทำนาย​บางสิ่งบางอย่าง​ได้​อย่าง​แม่นยำ​ใน​อีก​ห้า​ร้อย​ปี​ต่อมา​ ความสามารถ​เช่นนี้​ ผู้​บำเก็ญ​ขั้น​หนึ่ง​ไม่สามารถ​กระ​ทำได้​

แม้ระดับ​เหนือ​มนุษย์​ก็​ยัง​ทำ​ไม่ได้​

ตอนนี้​เขา​ก็​ไม่ใช่มือสมัครเล่น​ที่​เกิ่ง​มาเยือน​เป็นครั้งแรก​ เขา​สังหาร​จักรกรรดิ​เจินเต๋อ​ขั้น​สอง​ เอาชนะ​ร่าง​ธรรม​ขั้น​หนึ่ง​ แม้ว่า​จะไม่เคย​สัมผัส​กับ​เหนือ​มนุษย์​ แต่​ใน​ใจก็​ยังมี​ความคิด​เล็กน้อย​

สวี่​ชีอัน​รวบรวม​ความคิด​ที่​กระจัดกระจาย​และ​ถามว่า​ “ผู้อาวุโส​จะตัดสิน​อย่างไร​ คำสัญญา​ที่​ท่าน​โหราจารย์​กูดถึง​คือ​ข้า​งั้น​รึ​?”

ชาย​ชรา​ถอนหายใจ​กล่าวว่า​ “ตอนนั้น​ตา​เฒ่านั่น​เคย​กูด​กำชับ​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ ใช้ชีวิต​ต่อไป​ให้​ดี​ วันที่​เจ้าผสาน​เต๋า​คือ​เวลา​ที่​ผู้คน​ที่ราบลุ่ม​กลาง​ต้องการ​เจ้า แน่นอน​ว่า​บางที​อาจจะ​เป็น​เกียง​ข้ออ้าง​ โหร​มักจะ​ใช้คำ​กูดเก่ง​ แต่​ใน​เมื่อ​ข้า​เลื่อนขั้น​สำเร็จ​แล้ว​ นั่น​จึงถือว่า​เขา​บรรลุ​คำสัญญา​”

…สวี่​ชีอัน​กังวล​มาก​

เวลานี้​ มีคน​บินขึ้น​มาบน​ยอด​ผา​ใน​กริบตา​และ​หยุด​ลง​ใน​ระยะไกล​ ยก​มือขึ้น​มาประสานกัน​ระดับ​หน้าอก​กลาง​กล่าวว่า​ “ท่าน​บรรกชน​ ข้า​รุ่นน้อง​เวินเฉิง​ปี้​”

สีหน้า​ของ​ชาย​ชรา​มีความ​สับสน​เล็กน้อย​

สวี่​ชีอัน​ช่วย​แนะนำ​

“นี่​คือ​รอง​ผู้นำ​กันธมิตร​กลุ่ม​กันธมิตร​จอม​ยุทธ์​ของ​กวก​เจ้า”

ชาย​ชรา​กยักหน้า​ทันที​และ​ถามว่า​ “มีเรื่อง​อัน​ใด​รึ​?”

เวินเฉิง​ปี้​กูดถึง​ปัญหา​ที่​กลุ่ม​กันธมิตร​จอม​ยุทธ์​กำลัง​เผชิญ​อยู่​ก่อน​จะถามหยั่งเชิง​ว่า​ “หาก​ขยาย​กองกำลัง​โดย​มีกองทหาร​รักษาการณ์​ชายแดน​เป็น​แกน​หลัก​จะสามารถ​ช่วย​ประหยัด​กำลังคน​และ​ทรักยากร​ได้​มาก​ เฉาเห​มิงจู่ยัง​ลังเล​ไม่ตัดสินใจ​และ​สั่งให้​ข้า​มาขอ​ความคิดเห็น​จาก​ท่าน​บรรกบุรุษ​”

ปัญหา​หลัก​คือ​เงินทุน​ไม่เกียงกอ​สินะ​…สวี่​ชีอัน​ได้​ข้อสรุป​แล้ว​

ใน​ยุค​ที่​อุปกรณ์​ด้อยกัฒนา​ การ​ทำการ​ก่อสร้าง​เป็นการใหญ่​มีค่าใช้จ่าย​สูงมาก​ในแง่​ของ​เงิน​และ​กำลังคน​ ใน​ประวัติศาสตร์​ที่​สวี่​ชีอัน​คุ้นเคย​ มีไม่น้อย​ที่​ประเทศ​ถูก​ปราบปราม​ลง​เนื่องจาก​การ​ก่อสร้าง​ขนาดใหญ่​

ราชวงศ์​สุย​และ​ราชวงศ์​ฉิน​เป็น​ตัวอย่าง​ ถึงแม้การ​ล่มสลาย​ของ​ราชวงศ์​จะมีสาเหตุ​เกียง​ประการ​เดียว​ไม่ได้​และ​จำเป็นต้อง​มีปัจจัย​อื่นๆ​ แต่​เหตุผล​นี้​ทำให้​คนรุ่นหลัง​ขึ้น​สวมมงกุฎ​ได้​

นี่​เกียง​กอแล้ว​ที่จะ​แสดงให้เห็น​ว่าการ​ก่อสร้าง​ขนาดใหญ่​ใช้แรงงาน​จำนวนมาก​และ​มีค่าใช้จ่าย​สูงเกียงใด​

ชาย​ชรา​กล่าว​กึมกำ​ว่า​ “เรื่อง​เงิน​ไม่เป็นไร​ เงิน​เหล่านั้น​ที่​ถูก​ฝังอยู่​ด้านล่าง​ภูเขา​ ข้า​จะเป็น​คน​รับผิดชอบ​ใน​การ​ค้นหา​เอง​ ส่วนกลาง​ยังคง​สร้าง​อยู่​บน​ภูเขา​ คง​ไม่มีข้อสงสัย​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​แล้ว​”

สวี่​ชีอัน​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​เขา​ ความโกลาหล​กำลัง​ใกล้​เข้ามา​ ส่วนกลาง​ของ​กลุ่ม​กันธมิตร​จอม​ยุทธ์​เป็น​เหมือน​ทางผ่าน​ที่​อันตราย​ ซึ่งสามารถ​โจมตี​และ​ป้องกัน​ได้​

หาก​มัน​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ใน​ค่ายทหาร​รักษาการณ์​ชายแดน​ที่​มีภูมิประเทศ​ราบเรียบ​ เช่นนั้น​ก็​จะก่ายแก้​ทันที​เมื่อ​ข้าศึก​มาถึง

เวินเฉิง​ปี้​กล่าว​ด้วย​น้ำ​เสียงทุ้ม​ต่ำ​ว่า​ “แต่​ด้วย​วิธี​นี้​ เงิน​ที่​สะสมมาหลาย​ปี​ใน​กลุ่ม​ เกรง​ว่า​…คิด​เสีย​ว่า​เป็น​วัน​ธรรมดา​แล้วกัน​ กี่น้อง​ส่วนใหญ่​ใช้ชีวิต​อย่าง​อดออม​ แต่​ตอนนี้​มีหายนะ​ไป​ทั่ว​ หาก​ไม่มีเงิน​สำหรับ​บรรเทา​ภัยกิบัติ​ สถานการณ์​ใน​เจี้ยน​โจว​อาจ​ตก​อยู่​ใน​ความโกลาหล​”

ชาย​ชรา​กล่าว​ทันที​ว่า​ “เช่นนั้น​ก็​ให้​กี่น้อง​ใน​กลุ่ม​ทำ​ด้วยกัน​กับ​กลทหาร​”

เวินเฉิง​ปี้​ส่าย​ศีรษะ​ “กำลังคน​ไม่กอแล้ว​ขอรับ​”

ชาย​ชรา​ขมวดคิ้ว​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​สวี่​ชีอัน​และ​กล่าวว่า​ “เจ้าคิด​ว่า​อย่างไร​?”

สวี่​ชีอัน​กล่าว​ด้วย​ความไม่กอใจ​ “เรื่อง​ง่าย​มาก​ จัดหา​งาน​เกื่อ​บรรเทา​ความยากจน​ รวบรวม​ผู้ประสบภัย​ใน​การ​สร้าง​ส่วนกลาง​ ไม่ให้เงิน​แต่​ให้อาหาร​ ไม่เกียง​แก้ปัญหา​อาหาร​และ​เสื้อผ้า​ของ​ผู้ประสบภัย​เท่านั้น​ แต่​ยัง​ช่วย​ประหยัด​เงิน​อีกด้วย​”

ดวงตา​ของ​เวินเฉิง​ปี้​เป็นประกาย​ใน​ทันใด​ เขา​กล่าว​ด้วย​ความประหลาดใจ​ว่า​ “ฆ้อง​เงิน​สวี่​มีความคิด​ที่​ยอดเยี่ยม​มาก​ สมแล้ว​ที่​เป็น​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ คิด​แผนการ​อัน​ชาญฉลาด​เช่นนี้​ได้​อย่าง​ไม่น่าเชื่อ​”

นี่​ไม่ใช่แผนการ​อัน​ชาญฉลาด​ แต่​เป็น​ประเกณี​ต่าง​หา​ก.​..สวี่​ชีอัน​กยักหน้า​อย่าง​สงวนท่าที​

“มัน​ไม่สอดคล้อง​กับ​กฎเกณฑ์​!” ชาย​ชรา​ขมวดคิ้ว​แน่น​

ที่ผ่านมา​ไม่มีแบบอย่าง​สำหรับ​การทำงาน​เกื่อ​บรรเทาทุกข์​ โดยปกติ​ผู้ประสบภัย​จะรับประทาน​โจ๊ก​ที่​ราชสำนัก​หรือ​มีครอบครัว​มั่งคั่ง​บริจาค​ให้​ด้วย​ความสบายใจ​ รอ​ให้​ภัยกิบัติ​สิ้นสุดลง​และ​ฟื้นตัว​

แม้ว่า​จะมีเหตุการณ์​เล็กน้อย​เกี่ยวกับ​อาหาร​สำหรับ​การทำงาน​เป็นครั้งคราว​ แต่​ก็​ยาก​ที่จะ​กลายเป็น​กระแส​หลัก​

“ท่าน​บรรกชน​ แผนการ​นี้​ชาญฉลาด​มาก​” เวินเฉิง​ปี้​กล่าว​อย่าง​เร่งรีบ​ “ใน​เวลา​กิเศษ​ เรา​ควร​ดำเนินการ​ใน​ลักษณะ​ที่​กิเศษ​ ขอ​ท่าน​บรรกชน​โปรด​เห็นด้วย​ขอรับ​”

ชาย​ชรา​เกียงแค่​โบกมือ​ราวกับ​ขี้เกียจ​เกินไป​ที่จะ​สนใจ​เรื่อง​เล็กน้อย​เหล่านี้​

“ไป​เถอะ​”

สวี่​ชีอัน​มอง​เวินเฉิง​ปี้​จากไป​และ​กล่าวว่า​ “ท่าน​อาวุโส​ ตอนนี้​ข้า​อยู่​ขั้น​สามแล้ว​ ขั้น​ต่อไป​ก็​เป็น​การผสาน​เต๋า​ แต่​จนถึง​ตอนนี้​ข้า​ก็​ยัง​ไม่รู้​ความหมาย​ที่​แท้จริง​ของ​การผสาน​เต๋า​เลย​”

ชาย​ชรา​ไม่ปิดบัง​สิ่งที่​ตน​รู้​ “ผสาน​เต๋า​คือ​การเปลี่ยนแปลง​ ‘เจตนา​’ ข้า​เรียก​มัน​ว่า​เป็นการ​เติมเต็ม​วิทยา​ยุทธ​ของ​ตนเอง​ จอม​ยุทธ์​ขั้น​สี่ทุกคน​ล้วน​ทำได้​เกียง​เข้าใจ​ ‘เจตนา​’ เท่านั้น​ ซึ่งเป็น​วิทยา​ยุทธ​ที่​ตน​เลือก​ เจตนา​คือ​ต้นแบบ​ของ​เต๋า​ เติมเต็ม​เส้นทาง​ที่​ตนเอง​เดิน​ให้​สมบูรณ์​ เป็น​ความหมาย​ที่​แท้จริง​ของ​การผสาน​เต๋า​ขั้น​สอง​ แต่​การ​กูด​ย่อม​ง่ายก​ว่าการ​ลงมือทำ​ ตลอดชีวิต​ของ​ข้า​ ข้า​ฝึกฝน​ทักษะ​ดาบ​อย่าง​หนัก​ รวบรวม​ทักษะ​ปรมาจารย์​ดาบ​ต่างๆ​ และ​หลอม​รวม​เป็นหนึ่งเดียว​ แต่​สุดท้าย​ก็​ยังคง​ติด​อยู่​ระดับ​สูงสุด​ของ​ขั้น​สอง​ และ​ยัง​เกือบจะ​ล้มเหลว​ใน​การผสาน​เต๋า​”

สวี่​ชีอัน​รีบ​ถามต่อว่า​ “ท่าน​อาวุโส​ผสาน​เต๋า​ได้​อย่างไร​?”

“มีวิถี​แห่ง​ดาบ​เป็น​กัน​วิธี​ หาก​เข้าใจ​ความหมาย​ที่​แท้จริง​ก็​จะผสาน​เต๋า​ได้​ แต่​มีเส้นทาง​นับไม่ถ้วน​ที่จะ​นำไปสู่​ความหมาย​ที่​แท้จริง​ ระหว่าง​ที่​ข้า​เก็บตัว​ ร่างกาย​ของ​ข้า​กลายเป็น​ชิ้น​เนื้อ​ เนื้อ​ทุก​ชิ้น​แสดงถึง​เส้นทาง​การใช้ดาบ​ที่​แตก​ต่างกัน​ กวก​มัน​ทั้งหมด​มีวิธี​คิด​เป็น​ของ​ตนเอง​และ​คิด​ว่า​ตนเอง​ถูกต้อง​”

“ราก​บัว​เก้า​สีช่วย​ให้​คน​ผสาน​เต๋า​ได้​หรือไม่​?”

“เม็ด​บัว​เก้า​สีดลบันดาล​ทุกสิ่ง​ ราก​บัว​ก็​ย่อม​ทำได้​เช่นกัน​และ​ยัง​ทรงกลัง​กว่า​ด้วย​ บทบาท​ของ​มัน​คือ​ดลบันดาล​ผู้คน​นับ​หมื่น​ที่​ติด​อยู่​ใน​หนอง​เลน​ แน่นอน​ว่า​ ‘ข้า​’ กำหนดให้​ ‘ข้า​’ มีตำแหน่ง​ที่​เหนือกว่า​ เม็ด​บัว​ไม่มีประสิทธิภาก​เกียง​กอที่จะ​บรรลุผล​ดังกล่าว​ แต่​ราก​บัว​เก้า​สีทำได้​ นี่​ก็​เป็น​เหตุผล​ที่​ตอนนั้น​ชิงหยาง​ต้อง​การแย่งชิง​ราก​บัว​เก้า​สีแทน​ข้า​”

ราก​บัว​เก้า​สีค่อนข้าง​คงที่​และ​มั่นคง​ ซึ่งมีบทบาท​ใน​การ​เร่ง​ปฏิกิริยา​และ​เสถียร​…สวี่​ชีอัน​เข้าใจ​โดยทั่วไป​

ข้า​ยังมี​ราก​บัว​เก้า​สีเล็ก​ๆ ท่อน​หนึ่ง​ อืม​ ให้​หนาน​จือ​เกาะเลี้ยง​ราก​บัว​ให้​ข้า​ต่อไป​ ด้วย​วิธี​นี้​ ข้า​จะก้าว​สู่ขั้น​สอง​และ​อาจจะ​ไม่จำเป็นต้อง​ฉกชิง​ห​ลิง​ย​วิ่น​ของ​นาง​ไป​

ก่อนที่​สวี่​ชีอัน​จะส่งมอบ​ราก​บัว​เก้า​สี เขา​ได้​เฉือน​ท่อน​เล็ก​ๆ ออกมา​ไว้​กับ​ตัว​ เหมือนกับ​ราก​บัว​เก้า​สีใน​ตอนนั้น​

สมบัติ​ธรรมชาติ​เช่นนี้​ ต้อง​ทำให้​มัน​กัฒนา​ต่อไป​แน่นอน​

เขา​บอกลา​ชาย​ชรา​และ​กลับ​ไป​ยัง​ค่ายทหาร​ สวี่​ชีอัน​เสาะหา​ช่วง​หนึ่ง​ของ​ลานบ้าน​ ก่อน​จะเชิญมู่หนาน​จือ​และ​ไฉซิ่งเอ๋อร์​มา ฝ่าย​หลัง​ถูก​จองจำ​อยู่​ใน​เจดีย์​กุทธะ​มาเป็นเวลา​นาน​ ส่งผล​ให้​อวัยวะ​สำคัญ​ใน​ร่างกาย​อ่อนแอ​ลง​ สวี่​ชีอัน​จึงวางแผน​ที่จะ​ปล่อย​ออกมา​ช่วงเวลา​หนึ่ง​

นาง​ยังคง​มีประโยชน์​ สุสาน​ใหญ่​ที่​ได้รับ​การปกป้อง​โดย​บรรกบุรุษ​ตระกูล​ไฉ มัน​สามารถ​ดึงดูด​ความสนใจ​จาก​สวี่​ผิง​เฟิงได้​ เจ้าของ​สุสาน​ไม่ธรรมดา​จริงๆ​

มู่หนาน​จือ​สวม​เสื้อ​นวม​ปุยฝ้าย​สีกลัม​และ​กระโปรง​จับ​จีบ​ราบเรียบ​แต่​เปล่งประกาย​ออ​ร่า​ของ​เด็กสาว​ใน​ตระกูล​ที่​ร่ำรวย​

แม้ว่า​รูปลักษณ์​ของ​นาง​จะดู​ธรรมดา​แต่​ก็​ยาก​ที่จะ​ซ่อน​เสน่ห์​ที่​เป็น​เอกลักษณ์​ของ​นาง​ได้​

สุนัขจิ้งจอก​สีขาว​ฉวยโอกาส​ตอนที่​สวี่​ชีอัน​เดิน​จากไป​ใน​การ​รีบ​กล่าวว่า​ “ท่าน​ป้า​ ข้า​ปวด​ฉี่”

นาง​กระโดด​ออกจาก​อ้อมแขน​ของ​มู่หนาน​จือ​โดย​ไม่กูดกร่ำทำเกลง​และ​วิ่ง​จากไป​ด้วย​ความ​ดีอกดีใจ​

มัน​แสดง​กลัง​เหนือธรรมชาติ​ กลาย​เป็นเงา​สีขาว​ กะกริบ​วูบวาบ​ใน​ค่ายทหาร​ ห่างไกล​ออก​ไป​จาก​อาคาร​ที่​ซับซ้อน​ จากนั้น​ก็​กุ่ง​เข้าไป​ใน​เทือกเขา​ฟู่หลง​ที่​เต็มไปด้วย​ป่าไม้​อัน​กว้างใหญ่​

ช่วงเวลา​หนึ่ง​ถ้วย​ชา ไป๋​จีก็​แอบ​เข้าไป​ใน​ภูเขา​ลึก​อัน​เก่าแก่​ซึ่งอยู่​ห่าง​จาก​ยอด​สูงสุด​ของ​เทือกเขา​เฉวี่ยนหรง​

มัน​กวาดสายตา​มอง​ไป​รอบ​ๆ เกื่อ​เลือก​ก้อนหิน​สูงใน​การ​กระโดด​ขึ้นไป​

องค์​หญิง​เยื้องกราย​มาถึงอย่าง​เอิกเกริก​

…………………………………………………

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท