บทที่ 639 หลี่หลิงซู่ในถิ่นอสุรา (2)

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ไฉซิ่งเอ๋อร์​สวม​ชุด​ประ​โปรง​ผ้า​ธรรมดาๆ​ แต่กลับ​ยาก​จะปกปิด​ความงาม​ตาม​ธรรมชาติ​ของ​นาง​ได้​ นาง​มีใบหน้า​รูป​ผล​แตง​ที่​สวย​ไม่หยอก​

สีหน้าที่​ซีด​ขาว​เล็กน้อย​ตาม​แบบ​คน​ป่วยไข้​ทำให้​บุคลิก​บอบบาง​ของ​นาง​ยิ่ง​ดู​น่าเอ็นดู​มากขึ้น​

นาง​เป็น​สตรี​ประเภท​ที่​ชวน​ให้​บุรุษ​ออกตัว​ปกป้อง​ได้​ แต่​ใน​สายตา​ของ​ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่ ณ เวลานี้​ นาง​เหมือนกับ​เป็น​เส้น​ชนวน​ของ​ปืนใหญ่​เสีย​มากกว่า​

ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่ยิ้ม​ขืน​ๆ

“ซิ่งเอ๋อร์​ออกมา​ได้​อย่างไร​กัน​?”

สวี่​ชีอัน​จงใจทำ​ท่าทาง​ทอดถอนใจ​ออกมา​

“พอ​รู้​ว่า​ครั้งนี้​จะต้อง​ต่อสู้​กับ​ศัตรู​แกร่ง​ ข้า​ก็​เลย​ปล่อย​ไฉซิ่งเอ๋อร์​ออกมา​ก่อน​ แต่​ลืม​บอก​เจ้าไป​ ถึงแม้นาง​จะมีความผิด​ใหญ่หลวง​ แต่​ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​หญิง​งามของ​เจ้า ดังนั้น​ข้า​ก็​ย่อม​ต้อง​รับผิดชอบ​ชีวิต​ของ​นาง​ให้​ดี​”

“ข้า​ขอบใจ​ท่าน​จริงๆ​!” ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่ตอบกลับ​ด้วย​ท่าทาง​ขบ​เขี้ยว​

ไฉซิ่งเอ๋อร์​มอง​พินิจ​ไป​ยัง​ตง​ฟางหว่าน​ชิง ตง​ฟางหว่าน​ชิงก็​มองดู​ไฉซิ่งเอ๋อร์​อยู่​เช่นกัน​

“คุณชาย​ห​ลี่​ นาง​เป็น​ใคร​?”

พวก​นาง​เอ่ย​ขึ้นเสียง​เดียวกัน​

คุณชาย​ห​ลี่​…ดี​เลย​ ทีนี้​ไม่ต้อง​ถามกัน​แล้ว​ แค่​คำ​เรียก​ก็​บอก​ทุกอย่าง​หมด​แล้ว​

ไฉซิ่งเอ๋อร์​และ​ตง​ฟางหว่าน​ชิงจ้องหน้า​กัน​ ประกายไฟ​ปะทุ​ไป​ทั่ว​ทุก​ด้าน​

‘ฟู่ ฟู่…’ ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​เกือบจะ​ยื่นมือ​มาปิดปาก​ไม่ให้​ตัวเอง​หัวเราะ​อยู่​รอมร่อ​

นาง​คิดในใจ​ ‘ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่หน​อห​ลี่​ห​ลิง​ซู่ ในที่สุด​เจ้าก็​มีวันนี้​’

ตง​ฟางหว่าน​ชิงเอ่ย​ขึ้น​ด้วย​ความเกลียดชัง​

“คุณชาย​ห​ลี่​ นี่​เป็น​นาง​จิ้งจอก​ที่​ท่าน​เลี้ยง​ไว้​ที่ไหน​อีก​เล่า​? มีแค่​ข้า​กับ​ท่าน​พี่​ยัง​ไม่พอ​ ไป​คบค้าสมาคม​กับ​นาง​แพศยา​จาก​สมาคมการค้า​เห​ลย​โจว​ก็​ยัง​ไม่พอ​ นี่​ท่าน​มีผู้หญิง​อยู่​ข้างนอก​อีก​เท่าไหร่​กัน​”

‘เยอะ​เลย​ล่ะ​ ท่าน​เทพบุตร​ (ศิษย์​พี่​) มีสาวงาม​อยู่​ทั่ว​ทั้ง​ภาค​กลาง​เลย​ ไม่แน่​นะ​ บางที​ใน​กลุ่ม​พันธมิตร​จอม​ยุทธ์​ก็​อาจจะ​มีเหมือนกัน​…’ ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​และ​สวี่​ชีอัน​เกิด​ความเข้าใจ​ตรงกัน​ขึ้น​มาในเวลานี้​เอง​

“นาง​จิ้งจอก​?”

ไฉซิ่งเอ๋อร์​เลิกคิ้ว​แล้ว​หัวเราะ​เย็น​ “ใคร​เป็น​นาง​จิ้งจอก​ตัวจริง​ก็​ยัง​ไม่แน่​หรอก​ ตอนที่​ข้า​กับ​คุณชาย​ห​ลี่​เอ่ย​คำสาบาน​ต่อกัน​ แม่หนู​อย่าง​เจ้ายัง​ไม่หย่านม​เลย​กระมัง​”

ตง​ฟางหว่าน​ชิงก้าว​เท้า​เข้าไป​ด้วย​ท่าทาง​เย็นชา​หยิ่งยโส​

“นาง​แพศยา​ ตอนนี้​ข้า​จะฉีก​เจ้าเป็น​ชิ้นๆ​”

ไฉซิ่งเอ๋อร์​ยิ้มเยาะ​ “เดิมที​ข้า​ก็​เป็น​นักโทษ​ที่​ถูก​ขัง​อยู่แล้ว​ คงจะ​มีชีวิต​อยู่​ได้​อีกไม่นาน​นัก​หรอก​”

ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่เจ็บ​ปวดใจ​ เขา​เอ่ย​เสียง​ขรึม​แทรก​คำพูด​ของ​ทั้งสอง​

“ซิ่งเอ๋อร์​ เจ้าจะไม่เป็นอัน​ใด​ พี่​สวี่​รับปาก​ข้า​แล้ว​ว่า​จะมอบ​ปราณ​ชีวิต​หนึ่ง​สาย​ให้​เจ้า”

สวี่​ชีอัน​เหลือบมอง​ไฉซิ่งเอ๋อร์​ ใน​ใจกล่าวว่า​ สุดยอด​แท้​ รู้สึก​เปลี่ยน​ข้อเสีย​ให้​เป็น​ข้อได้เปรียบ​ ทำ​ให้ได้​ความเห็นอกเห็นใจ​ของ​ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่มา ศิลปะ​การ​ชงเช่นนี้​ ด้อย​กว่า​น้องสาว​ที่​บ้าน​ข้า​นิดเดียว​เอง​

ไฉซิ่งเอ๋อร์​หลั่ง​น้ำตา​เงียบๆ​

“ข้า​รู้​มานาน​แล้ว​ว่า​ท่าน​เป็น​บุรุษ​เจ้าชู้ประตู​ดิน​ แต่​ข้า​ก็​แค่​ตัดใจ​จาก​ท่าน​ไม่ได้​ และ​ลืม​ท่าน​ไม่ลง​ ตอน​อยู่​ที่​เซียง​โจว​ ท่าน​เคย​เอ่ย​คำสาบาน​ว่า​ชีวิต​นี้​จะรัก​เพียงแต่​ข้า​คนเดียว​”

“ซิ่งเอ๋อร์​ ทุก​คำ​ที่​ข้า​เอ่ย​นั้น​เป็น​ความจริง​…”

ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่ยัง​ไม่ทัน​เอ่ย​จบ​ ตง​ฟางหว่าน​ชิงก็​คิ้ว​ตั้งขึ้น​มา

“ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่! คำพูด​เช่นนี้​เจ้าเคย​เอ่ย​กับ​สตรี​กี่​คน​แล้ว​!?”

ทาง​ด้าน​นี้​กำลัง​ปะทะคารม​กัน​อยู่​ ส่วน​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ สวี่​ชีอัน​ ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​ เหิงหย่วน​ ฉู่หยวน​เจิ่น​ และ​มู่หนาน​จือ​นั่ง​เรียง​กัน​ ทั้ง​ไม่ได้​ซ้ำเติม​และ​ไม่ได้​ประนีประนอม​ให้​

ต่าง​พา​กัน​ชมดู​เทพบุตร​แก้ปัญหา​ความรัก​อยู่​เงียบๆ​

ข้า​ต้อง​เรียนรู้​สัก​หลาย​ๆ วิธีการ​ ต่อไป​จะได้​เอา​ไป​เกลี้ยกล่อม​เหล่า​ปลา​ตัว​น้อย​ได้​…สวี่​ชีอัน​คิด​อยู่​ใน​ใจ

ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​ส่งเสียง​ทางจิต​มาให้​

“ศิษย์​พี่​ผู้​นี้​ของ​ข้า​ ความสามารถ​ไม่มี แต่​วิธีการ​ยั่วยวน​สตรี​มีมาก​นัก​ ตอนนั้น​เป็น​เพราะ​เขา​ทิ้งขว้าง​สอง​พี่น้อง​ตง​ฟางจึงได้​ถูกล่า​สังหาร​นับ​พัน​ลี้​ แล้ว​ถูกจับ​ขัง​มาตั้ง​ครึ่ง​ปี​”

ฉู่หยวน​เจิ่น​ส่งเสียง​ทางจิต​เอ่ย​ขึ้น​

“คนเจ้าชู้​ก็​ต้อง​เหน็ดเหนื่อย​เพราะ​ความรัก​เช่นนี้​ล่ะ​ แต่​เมื่อ​เทียบ​กับ​ความลำบาก​ที่​หนิง​เยี่ยน​เจอ​ใน​สำนัก​โหราจารย์​แล้ว​ เรื่อง​เหล่านี้​ล้วน​เป็น​แค่​การทะเลาะ​กัน​เล็กน้อย​”

จะดู​เรื่อง​สนุก​ก็​ดู​ไป​สิ เจ้าจะมาพูดถึง​ข้า​ทำ​อะไร​…สวี่​ชีอัน​ที่​เดิม​กำลัง​เป็นสุข​ใน​ความทุกข์​ของ​ผู้อื่น​พลัน​สีหน้า​แข็งกระด้าง​ขึ้น​มา

ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​เหลือบมอง​มู่หนาน​จือ​ แล้ว​จงใจกระแอม​ไอ​ออกมา​สอง​คำ​ก่อน​เอ่ย​ว่า​

“ศิษย์​พี่​ของ​ข้า​กับ​นิสัย​เจ้าคน​แซ่สวี่​นั้น​ ล้วนแต่​เป็น​พวก​เจ้าชู้บ้า​ตัณหา​เหมือนกัน​ พระชายา​ ท่าน​ว่า​ถูก​หรือไม่​”

‘ที่แท้​ก็​เป็น​พระชายา​…’ ฉู่หยวน​เจิ่น​รับ​รู้อยู่​ใน​ใจ

“เกี่ยว​อัน​ใด​กับ​ข้า​!”

มู่หนาน​จือ​ขมวดคิ้ว​ “ข้า​กับ​สวี่​ชีอันเป็น​แค่​เพื่อนร่วมทาง​ท่อง​ยุทธ​ภพ​เท่านั้น​ เขา​จะเจ้าชู้หรือไม่​ ไม่เกี่ยว​อะไร​กับ​ข้า​สักนิด​ เจ้าเอ่ย​ลองใจ​เช่นนี้​ หรือว่า​เจ้าเป็น​คนรัก​ของ​เขา​ด้วย​หรือ​?”

สีหน้า​ของ​ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​เปลี่ยนไป​ นาง​อุทาน​ ‘หา​’ ยกใหญ่​

“ความสัมพันธ์​ของ​ข้า​กับ​สวี่​ชีอัน​ก็​เป็น​แค่​สหาย​เต๋า​เท่านั้น​ พระชายา​อย่า​ได้​กล่าว​โดย​ไม่คำนึงถึง​ความจริง​สิ”

สวี่​ชีอัน​รีบ​ขัดขวาง​การประชัน​ของ​พวก​นาง​แล้ว​เอ่ย​ว่า​

“เมี่ยวเจิน​ พี่​ฉู่ ไต้​ซือเหิงหย่วน​ พวก​ท่าน​ไม่สงสัย​หรือว่า​ไฉซิ่งเอ๋อร์​ผู้​นี้​คือ​ใคร​ เรื่อง​นี้​พูด​แล้ว​ยาว​ ข้า​จะอธิบาย​คร่าวๆ​ ให้​ฟัง…”

“ไม่สนใจ​!”

“ไม่อยากรู้​”

“ใต้เท้า​สวี่​ อาตมา​ก็​ไม่อยากรู้​เช่นกัน​”

“…”

อีก​ด้าน​หนึ่ง​ ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่ปลอบโยน​ไฉซิ่งเอ๋อร์​และ​ตง​ฟางหว่าน​ชิงได้​อย่าง​ยากเย็น​ ในที่สุด​ก็​รู้สึก​ราวกับ​ยก​หิน​ออกจาก​อก​ ความจริง​แล้ว​เขา​มีวิธี​ประนีประนอม​ความขัดแย้ง​ระหว่าง​คน​งามใน​แบบ​ที่​ดีกว่า​นี้​อยู่​

แต่​จนใจ​ที่​เจ้าพวก​สุนัข​จาก​พรรค​ฟ้าดิน​กลุ่ม​หนึ่ง​กำลัง​ดู​ละคร​กัน​สนุก​อยู่​ข้างๆ​ ทำให้​เขา​ลำบากใจ​จะใช้วิธี​นั้น​

“วิธีการ​เกลี้ยกล่อม​สตรี​ของ​ศิษย์​พี่​ของ​ข้า​ร้ายกาจ​อย่างยิ่ง​ ผู้หญิง​ทุกคน​ต่าง​ตำหนิ​ด่าว่า​เขา​ แต่​ก็​รัก​เขา​แทบเป็นแทบตาย​กัน​ทั้งนั้น​”

เมื่อ​เห็น​ดังนั้น​ ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​ก็​ส่งเสียง​ทางจิต​เอ่ย​อย่าง​ทอดถอนใจ​

สตรี​ของ​ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่ พลัง​การต่อสู้​ช่างอ่อนแอ​เกินไป​แล้ว​ แบบนี้​เขา​เรียก​ว่า​แค่​ลด​ธงก็​เงียบเสียง​กลอง​[1] อืม​ อาจ​เป็น​เพราะ​มีข้า​อยู่​ข้างๆ​ พวก​นาง​จึงไม่กล้า​เร้า​หรือ​สินะ​…สวี่​ชีอัน​คิดในใจ​

เมื่อ​ละคร​จบ​ลง​ เขา​ก็​ปัดฝุ่น​แล้ว​ลุกขึ้น​ยืน​พร้อม​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​ยัง​มีธุระ​ เช่นนั้น​ขอให้​ทั้งสอง​เข้าไป​หลบภัย​อยู่​ใน​เจดีย์​ชั่ว​คราวก่อน​เถิด​”

เขา​หยิบ​เจดีย์​พุทธะ​ออกมา​แล้ว​นำ​ไฉซิ่งเอ๋อร์​กับ​ตง​ฟางหว่าน​ชิงเข้าไป​ไว้​ใน​ชั้น​ที่หนึ่ง​

ฉู่หยวน​เจิ่น​หยิบ​ชิ้นส่วน​หนังสือ​ปฐพี​แล้ว​เอียง​หน้า​กระจก​ จากนั้น​ก็​มีเงาคน​หลาย​คน​กลิ้ง​ออกมา​ นั่น​ก็​คือ​พวก​หลิ่ว​หง​เหมียน​นั่นเอง​

สวี่​ชีอัน​กวาดตา​มอง​ “จิ้งซิน​ล่ะ​”

ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​พอง​แก้ม​ “ปล่อย​ให้​เขา​หนี​ไป​ได้​น่ะ​สิ ข้า​รั้ง​เขา​ไม่อยู่​”

สวี่​ชีอัน​ ‘อ้อ​’ เป็น​การตอบรับ​ “ก็​แค่​ตัวละคร​ตัวเล็ก​ๆ ช่างมัน​”

ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​พอใจ​กับ​ท่าที​ของ​เขา​เป็น​อย่างยิ่ง​ จึงตบ​เข้าที่​ถุงหนัง​ใบ​หนึ่ง​แล้ว​เอ่ย​ว่า​

“วิญญาณ​ของ​พวกเขา​ ข้า​ผนึก​เอาไว้​ใน​ถุงแล้ว​ เจ้าจะจัดการ​อย่างไร​”

ส่วน​ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่ก็​ถือโอกาส​นี้​มอบ​กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​คืนให้​สวี่​ชีอัน​

สวี่​ชีอัน​เก็บ​กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​ไว้​ใน​ชิ้นส่วน​หนังสือ​ปฐพี​ พลาง​ได้ยิน​เสียง​ครวญคราง​ของ​กระจก​ดัง​ขึ้น​ใน​หู​

“สบาย​จัง สบาย​จริงๆ​ ปราณ​มังกร​เข้มข้น​กว่า​เดิม​เยอะ​เลย​…”

“อย่า​ได้​ล่อลวง​ข้า​เช่นนี้​ ข้า​ไม่มีทาง​ยอม​กลับ​ไป​อยู่​ข้าง​กาย​นาย​ท่าน​หรอ​ก.​..”

แล้ว​เสียง​นั้น​ก็​ค่อยๆ​ เลือนหาย​ไป​

หลัง​ได้รับ​ปราณ​มังกร​สอง​สาย​จาก​กลุ่ม​พันธมิตร​จอม​ยุทธ์​ มังกร​ทอง​ใน​ชิ้นส่วน​หนังสือ​ปฐพี​ก็​ยิ่ง​เป็นรูปเป็นร่าง​มากขึ้น​

สวี่​ชีอัน​รับ​ถุงหนัง​ไป​แล้ว​เปิด​ออก​ จิต​เดิม​อัน​ทรงพลัง​ทั้ง​สี่สาย​ก็​ลอย​ออกมา​แล้ว​เข้าไป​อยู่​ใน​กาย​เนื้อ​ของ​แต่ละคน​

ฉีฮวน​ตาน​เซียง​ ไป๋​หู่​ หลิ่ว​หง​เหมียน​ และ​จิ้งหยวน​ทั้ง​สี่คน​เริ่ม​ฟื้น​แล้ว​ลืมตา​ขึ้น​มา

‘ผ่าง​!’

สวี่​ชีอัน​ยก​เท้า​ขึ้น​กระทืบ​ พลัง​ปราณ​แผ่​กระจาย​ราวกับ​ระลอกคลื่น​ ทั้ง​สี่คน​ราวกับ​ถูก​ฟ้าผ่า​และ​เหมือนกับ​ถูก​สะกด​ควบคุม​เอาไว้​ การตอบโต้​รุนแรง​ที่​อยาก​จะปล่อย​ออกมา​โดยไม่รู้ตัว​ก็​ถูก​สยบ​ลง​ไป​ด้วย​

“พวก​เจ้าทั้งหลาย​ มาคุย​กัน​หน่อย​เถอะ​”

สวี่​ชีอัน​ย้าย​เก้าอี้​มาพร้อม​ยิ้ม​หยี​ ก่อน​จะนั่งลง​ตรงหน้า​พวกเขา​

สีหน้า​ของ​ฉีฮวน​ตาน​เซียง​ที่​มีนิสัย​สุดโต่ง​เต็มไปด้วย​ความ​ดูถูก​เหยียดหยาม​

ไป๋​หู่​และ​จิ้งหยวน​มีสีหน้า​ตึงเครียด​

หลิ่ว​หง​เหมียน​กลับ​มีท่าทาง​น่าเวทนา​สงสาร​

“แน่นอน​ว่า​พวก​เจ้าจะไม่ยอม​ให้ความร่วมมือ​ก็ได้​ อย่าง​มาก​ข้า​ก็​แค่​ลำบาก​นิดหน่อย​โดย​การสังหาร​พวก​เจ้าเสีย​ จากนั้น​ค่อย​เรียก​วิญญาณ​มาถาม”

คำพูด​ของ​สวี่​ชีอัน​ราวกับ​มีด​ที่​เสียดแทงใจ​ของ​ทั้ง​สี่คน​และ​ทำลาย​ความคิด​ยอม​ตาย​ไม่ยอมจำนน​ของ​พวกเขา​ทิ้ง​ไป​

หลิ่ว​หง​เหมียน​เอ่ย​อย่าง​อ่อนแรง​

“ข้าน้อย​รู้​อะไร​ก็​จะบอก​โดย​ไม่มีปกปิด​แน่นอน​เจ้าค่ะ​ ขอ​เพียง​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ไว้ชีวิต​สตรี​ตัวเล็ก​ๆ คน​นี้​ก็​พอ​”

ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่ที่อยู่​ข้างๆ​ เอ่ย​เติม​ฟืน​ลง​ไป​ “หาก​เจ้ายอม​เป็น​สาวใช้​อุ่น​เตียง​ให้​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ของ​เรา​ เขา​ก็​อาจจะ​ไว้ชีวิต​ให้​ก็ได้​”

ทำไม​จะต้อง​ทำร้าย​กัน​ด้วย​เล่า​…สวี่​ชีอัน​แอบ​จำเอาไว้​ใน​ใจ ต่อไป​จะต้องหา​โอกาส​เอาคืน​เทพบุตร​คน​นี้​ให้ได้​

“จริง​หรือ​?”

หลิ่ว​หง​เหมียน​ดวง​ตาสว่าง​วาบ​

“ฆ่าทิ้ง​เถอะ​” มู่หนาน​จือ​ตัดสิน​โทษประหาร​ให้​นาง​

“ข้า​จะช่วย​เจ้าจัดการ​นาง​เอง​” จอม​ยุทธ์​หญิง​นก​นางแอ่น​เหิน​ชอบ​ช่วยเหลือ​ผู้คน​ ทั้ง​ยัง​กล้าหาญ​และ​ใจเด็ด​

สวี่​ชีอัน​ใช้สายตา​หยุดยั้ง​เรื่องไร้สาระ​ของ​พวก​นาง​แล้ว​หันไป​จ้องเขม็ง​พวก​จิ้งหยวน​ที่​เหลือ​อีก​สามคน​

“บอก​ข้า​มา ทั้ง​เรื่อง​ผัง​ ที่ตั้ง​ กองทัพ​ และ​ข้อมูล​ต่างๆ​ ของ​เมือง​เฉียน​หลง​ ใช้ความจริง​มาแลก​ จากนั้น​ข้า​จะไว้ชีวิต​พวก​เจ้า”

ไป๋​หู่​นิ่ง​คิด​ไป​ “คำพูด​นี้​คือ​ความจริง​หรือ​?”

สวี่​ชีอัน​ยิ้ม​พร่า​ “คำสัญญา​ของ​ลูกผู้ชาย​มีค่า​ดั่ง​ทองคำ​พัน​ชั่ง”

ไป๋​หู่​พยักหน้า​ทันที​ “เช่นนั้น​เจ้าถามมา”

ผู้​ที่​รู้​สถานการณ์​คือ​วีรบุรุษ​ การ​ฝึก​ตน​มาถึงขั้น​สี่นั้น​ไม่ง่าย​เลย​ การรักษา​ชีวิต​ไว้​ต่างหาก​จึงจะเป็น​เรื่องสำคัญ​ที่สุด​

ขอ​แค่​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ต่อจากนี้​ก็​สามารถ​กลับมา​แก้แค้น​สวี่​ชีอัน​ได้​ ขอ​เพียงแค่​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ก็​ยัง​มีโอกาส​

ฉีฮวน​ตาน​เซียง​ก็​เป็น​คน​ฉลาด​เช่นกัน​ ใน​ใจจึงหวั่นไหว​ แต่​ก็​ยังมี​สีหน้า​เย่อหยิ่ง​ดังเดิม​ เขา​ให้ความร่วมมือ​โดย​การแสดง​เจตจำนง​และ​ฝังความ​คิดในใจ​ไว้​ใต้​ก้นบึ้ง​

การประนีประนอม​เป็น​กลยุทธ์​ที่​ดี​เพียง​หนึ่งเดียว​ในเวลานี้​ พวกเขา​ประสบ​ความพ่ายแพ้​ด้วย​น้ำมือ​ของ​สวี่​ชีอัน​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ แต่​การแข่งขัน​ระหว่าง​ราชครู​และ​เจ้าคน​แซ่สวี่​ยัง​ไม่จบ​

และ​สักวันหนึ่ง​ พวกเขา​จะต้อง​แก้แค้น​คืน​ให้ได้​

เมื่อ​ถึงเวลา​นั้น​ พวกเขา​จะสังหาร​ญาติสนิท​มิตรสหาย​ของ​เจ้าคน​แซ่สวี่​ทั้งหมด​

“เมือง​เฉียน​หลง​ตั้งอยู่​ใน​ภูเขา​ลึก​ทาง​ตอน​ใต้​ของ​อวิ๋น​โจว​ มีฐาน​ที่มั่น​บน​ภูเขา​กระจาย​อยู่​เจ็ด​สิบสอง​แห่ง​โดย​มีเมือง​เป็น​จุดศูนย์กลาง​ ฐาน​ที่มั่น​บน​ภูเขา​นี้​คือ​สถานที่​ฝึกอบรม​ทหาร​และ​เป็นที่​ประจำการ​ของ​กองทัพ​ มีหน้าที่​ปล้นสะดม​ผู้คน​และ​คาราวาน​พ่อค้า​ จำนวน​ประชากร​โดยละเอียด​นั้น​ไม่รู้​แน่ชัด​ แต่​ใน​หนึ่ง​ฐาน​ที่มั่น​บน​ภูเขา​ อย่าง​น้อย​มีถึงร้อย​คน​ อย่าง​มาก​มีถึงพัน​คน​ เมื่อ​คำนวณ​รวมกัน​แล้ว​ คง​ไม่ต่ำกว่า​ห้า​หมื่น​คน​”

ไป๋​หู่​พูด​จบ​ ฉีฮวน​ตาน​เซียง​ก็​เอ่ย​เสริม​ต่อ​

“ประชากร​ใน​เมือง​เฉียน​หลง​มีสอง​แสน​คน​ มีคนใน​ชุด​เกราะ​สอง​หมื่น​คน​ที่​ล้วนแต่​ปล้นสะดม​อยู่​ใน​ที่​ต่างๆ​ ขอ​งอวิ๋น​โจว​เพื่อ​เติม​จำนวน​คน​ ใน​นั้น​ยังมี​บุคคล​จาก​ยุทธ​ภพ​มากมาย​ที่​หลบหนี​มายัง​อวิ๋น​โจว​ด้วย​”

ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​คิดถึง​เรื่อง​ใน​อดีต​ขึ้น​มาได้​

“ไม่ใช่สำนัก​พ่อ​มด​ที่​สนับสนุน​โจร​ภูเขา​ แต่​เป็น​เมือง​เฉียน​หลง​ของ​พวก​เจ้างั้น​หรือ​”

สวี่​ชีอัน​ส่ายหน้า​

“ผิด​แล้ว​ สำนัก​พ่อ​มด​ก็​มีการ​สนับสนุน​โจร​ภูเขา​ ทั้ง​ยัง​สั่งสมกำลัง​ทหาร​ใน​ที่ลับ​ด้วย​ เรื่อง​นี้​น่าจะเป็น​เหตุผล​ที่​สวี่​ผิง​เฟิงช่วย​ข้า​ใน​ตอนนั้น​ เพราะ​การ​ขยายตัว​ของ​สำนัก​พ่อ​มด​ส่งผล​ถึงตัว​เขา​”

ส่วน​ที่ว่า​เหตุใด​ก่อนหน้านี้​จึงเพิกเฉย​ต่อ​พฤติกรรม​ของ​สำนัก​พ่อ​มด​ สวี่​ชีอัน​เดา​ไว้​ว่า​สวี่​ผิง​เฟิงอาจจะ​กำลัง​ใช้สำนัก​พ่อ​มด​ปิดหูปิดตา​คนอื่น​แล้ว​ลอบ​กอบโกย​ผลประโยชน์​ลับ​ๆ

ฉู่หยวน​เจิ่น​ขมวดคิ้ว​ “พอ​นับ​รวมทั้งหมด​แล้ว​ กำลัง​ทหาร​ไม่ถึงแสน​แต่กลับ​อยาก​จะก่อ​กบฏ​ ช่างเป็นเรื่อง​ยาก​”

กองทัพ​ยอดเยี่ยม​ที่​มีทหาร​เกือบ​หนึ่ง​แสน​ ว่า​ตามตรง​แล้วก็​น่ากลัว​ไม่น้อย​

ใน​ตอนนั้น​เว่ยเยวียน​ก็ได้​นำ​กองทหาร​ที่​มีจำนวน​ไม่มาก​สู้รบ​ไป​จนถึง​เมือง​จิ้งซาน​ได้​เลย​

แต่​ประชากร​ของ​ต้าฟ่ง​มีมาก​นัก​ ทั้ง​รากฐาน​ของ​อิทธิพล​ต่างๆ​ ก็​ยัง​พัวพัน​กัน​ โครงสร้าง​เช่นนี้​ซับซ้อน​ยิ่งกว่า​สำนัก​พ่อ​มด​นัก​

ทหาร​กบฏ​เจ็ด​แปด​หมื่น​คน​นี้​ ใน​สายตา​ของ​ฉู่หยวน​เจิ่น​แล้ว​ การ​จะก่อ​กบฏ​ได้​นั้น​เป็นเรื่อง​ที่​ยาก​อย่างยิ่ง​

ไป๋​หู่​เอ่ย​ขึ้น​

“นี่​เป็น​กองทัพ​สาย​ตรง​ของ​เมือง​เฉียน​หลง​ แต่​อย่า​ลืม​ว่า​ทั่ว​ทั้ง​อวิ๋น​โจว​ยังมี​กองทัพ​อีก​เกือบ​หก​หมื่น​ หยาง​ชวน​หนาน​ ผู้บัญชาการ​เมือง​อวิ๋น​โจว​คน​นั้น​ก็​คือ​คน​ของ​พวกเรา​”

ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน​

ตอนนั้น​นาง​ได้​จัดตั้ง​กองกำลัง​ขึ้น​ใน​อวิ๋น​โจว​เพื่อ​ปราบ​โจร​ หยาง​ชวน​หนาน​ผู้​เป็น​ผู้บัญชา​การเมือง​ก็​ยัง​อำนวยความสะดวก​และ​ให้​ความช่วยเหลือ​นาง​เป็นอย่างมาก​

ทั้งคู่​จึงกลาย​มาเป็น​สหาย​กัน​เพราะเหตุนี้​

จนกระทั่ง​หลังจาก​เหตุการณ์​ที่​เมืองหลวง​ สวี่​ชีอัน​ก็ได้​เปิดเผย​ข้อมูล​ นาง​จึงได้​รู้เรื่อง​วงใน​ขอ​งอ​วิ๋น​โจว​ จึงรู้​ว่า​หยาง​ชวน​หนาน​ผู้​นั้น​ใช้ประโยชน์​จาก​นาง​เพื่อ​กำจัด​โจร​ภูเขา​ที่​ได้รับ​การ​สนับสนุน​จาก​สำนัก​พ่อ​มด​

ทั้ง​ไม่ต้อง​เปิดเผย​ตัวเอง​ และ​ยัง​ทำให้​นาง​พุ่ง​เข้าสู่​สนามรบ​เอง​ราวกับ​ปืนใหญ่​

นาง​ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้คน​ด้วย​ความจริงใจ​ มองว่า​หยาง​ชวน​หนาน​เป็น​เพื่อนสนิท​คน​หนึ่ง​ จอม​ยุทธ์​หญิง​นก​นางแอ่น​เหิน​เช่น​นาง​มีน้ำใสใจจริง​ แต่​สุดท้าย​ก็​เป็น​การทุ่มเท​ที่​ผิดพลาด​

“สวี่​ผิง​เฟิงมีแผนการ​โดยละเอียด​สำหรับ​เรื่อง​นี้​หรือไม่​” สวี่​ชีอัน​เอ่ย​ถาม

พวก​หลิ่ว​หง​เหมียน​ทั้ง​สามคน​มองหน้า​กัน​แล้ว​พา​กัน​ส่ายหน้า​

“ความคิด​ของ​ท่าน​ราชครู​ ไม่มีใคร​มองออก​หรอก​”

“นอกจาก​เมือง​เฉียน​หลง​แล้ว​ ใน​ภาค​กลาง​จนถึง​ราชสำนัก​ เขา​ยังมี​สายลับ​อีก​มาก​แค่​ไหน​” สวี่​ชีอัน​ถามอีก​

ไป๋​หู่​กล่าว​ “เรื่อง​เหล่านี้​เป็นความลับ​ของ​ตำหนัก​ความลับ​สวรรค์​ พวกเรา​ไม่รู้​”

และ​ใน​ตอนนี้​เอง​ก็​มีเสียงเคาะ​ประตู​ดัง​ขึ้น​จน​ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​ทุกคน​ไป​

สวี่​ชีอัน​ผู้​เป็นเจ้าของ​ตะโกน​ตอบ​เสียงดัง​

“เข้ามา​ได้​”

ประตู​ถูผลัก​เข้ามา​ หญิง​งามสอง​คนใน​ชุด​สีสัน​สดใส​ก้าว​ผ่าน​ธรณีประตู​เข้ามา​ พวก​นาง​ก็​คือ​แม่นาง​หรงหรง​ที่​ยังอยู่​ใน​วัยสาว​อัน​รุ่งโรจน์​ กับ​สตรี​ออกเรือน​ที่​ทรง​เสน่ห์​แบบ​ผู้ใหญ่​

ใบหน้า​ของ​หรงหรง​นั้น​ราวกับ​ดอก​ท้อ​ แม้อยาก​เอ่ย​แต่​ก็​ลังเล​ เพราะ​ท่าทาง​เปี่ยม​อารมณ์​รัก​ของ​สาวน้อย​นั้น​ ไม่ว่า​ใคร​ก็​มองออก​ชัดเจน​

ใน​มือ​ของ​นาง​มีสมุนไพร​อยู่​หนึ่ง​ห่อ​ นาง​กล่าวว่า​

“ฆ้อง​เงิน​สวี่​ต่อสู้​อย่าง​หนัก​และ​ยากลำบาก​ ต้อง​เสี่ยงอันตราย​ก็​เพื่อ​กลุ่ม​พันธมิตร​จอม​ยุทธ์​ของ​ข้า​ หรงหรง​ไม่มีสิ่งใด​จะขอบคุณ​ จึงขอ​มอบ​สมุนไพร​รักษา​เหล่านี้​แทน​ความในใจ​ให้​เจ้าค่ะ​”

สวี่​ชีอัน​รู้สึก​ว่า​สายตา​ของ​แต่ละคน​จาก​ทั้ง​ซ้าย​และ​ขวา​ล้วน​พุ่ง​มาหา​เขา​ เขา​ลุกขึ้น​ยืน​ทั้ง​หน้า​ไม่เปลี่ยนสี​ จากนั้น​ก็​รับ​สมุนไพร​มาแล้ว​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ

“ขอบคุณ​แม่นาง​หรงหรง​มาก​ จาก​กันที่​เมืองหลวง​ แม่นาง​หรงหรง​สง่างามยิ่งกว่า​เดิม​เสีย​อีก​”

แม่นาง​หรงหรง​ใน​ใจเบ่งบาน​มีความสุข​ จากนั้น​ก็​สังเกตเห็น​ว่า​เทพธิดา​จาก​นิกาย​สวรรค์​กับ​สตรี​ออกเรือน​หน้าตา​ธรรมดา​ผู้​หนึ่ง​กำลัง​จดจ้อง​มาที่​ตน​อย่าง​เย็นชา​

คำพูด​ที่​มีอยู่​มากมาย​จึงถูก​เก็บ​กลับ​ไป​ทันที​

นาง​เม้มริมฝีปาก​ ทันใดนั้น​ก็​สังเกตเห็น​หลิ่ว​หง​เหมียน​ จึงอุทาน​ออกมา​

“หลิ่ว​หง​เหมียน​ เจ้า!”

สีหน้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความ​ไม่เป็นมิตร​และ​ตกตะลึง​เป็น​อย่างยิ่ง​

หลิ่ว​หง​เหมียน​ชำเลือง​มอง​สอง​ศิษย์​อาจารย์​ แล้วก็​ไม่ได้​สนใจ​อีก​

“พวก​เจ้ารู้จัก​ด้วย​หรือ​”

สายตา​ของ​สวี่​ชีอัน​สลับ​ไปมา​ระหว่าง​สตรี​ทั้ง​สาม

สตรี​คน​งามพยักหน้า​ให้​แล้ว​เอ่ย​เสียง​อ่อนโยน​

“หลิ่ว​หง​เหมียน​คือ​ศิษย์​ของ​ผู้ดูแล​หอ​คน​ก่อน​ และ​เป็น​ศิษย์​น้อง​ของ​ผู้ดูแล​หอ​เซียว​ หลังจาก​นาง​พ่ายแพ้​ใน​การแย่ง​ชิงตำแหน่ง​ผู้ดูแล​หอ​กับ​ผู้ดูแล​หอ​เซียว​แล้ว​ ก็​ออกจาก​หอ​หมื่น​บุปผา​ไป​”

นาง​ไม่ได้​เอ่ยถึง​เรื่อง​ทรยศ​หอ​หมื่น​บุปผา​ ถึงอย่างไร​ก็​เป็นเรื่อง​น่าอัปยศ​ใน​บ้าน​

ทันใดนั้น​สวี่​ชีอัน​ก็​ตระหนัก​ได้​ มิน่า​ก่อนหน้านี้​ตอน​อยู่​ใน​ค่ายทหาร​ยง​โจว​ พอ​เห็น​หลิ่ว​หง​เหมียน​ เขา​ถึงรู้สึก​ว่า​หญิง​งามเฉลา​ผู้​นี้​มีท่าทาง​คุ้นหู​คุ้นตา​นัก​

ที่แท้​ก็​เป็น​ศิษย์​ของ​หอ​หมื่น​บุปผา​แห่ง​เจี้ยน​โจว​

ตอนนี้​เอง​ หรงหรง​ก็​ถูก​ความงาม​ที่​เปล่งประกาย​ของ​ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่ดึงดูด​ไป​ได้​ นาง​อุทาน​ ‘เอ๋​’ ออกมา​แล้ว​เอ่ย​อย่าง​ประหลาดใจ​

“เจ้าคือ​ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่?”

เทพบุตร​ที่ซ่อน​ตัวเอง​ไว้​ด้านหลัง​ศิษย์​น้อง​ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​เอ่ย​เสียง​ตะกุกตะกัก​ “จะ เจ้า…”

“เจ้าลืม​ข้า​แล้ว​หรือ​ เมื่อ​สอง​ปีก่อน​ เจ้าเคย​มาเป็น​แขก​ที่​หอ​หมื่น​บุปผา​ พวกเรา​ยัง​ร่ำสุรา​ด้วยกัน​เลย​ ตอนนั้น​ท่าน​อาจารย์​ก็​อยู่​ด้วย​ ใช่หรือไม่​”

แม่นาง​หรงหรง​ยิ้ม​ร่า​พลาง​มองหน้า​อาจารย์​ จากนั้น​ก็​เอ่ย​ต่อ​

“ก่อนหน้านี้​ตอนที่​เจ้าขี่​กระบี่​บิน​ช่วยเหลือ​ฆ้อง​เงิน​สวี่​อยู่​บน​อากาศ​ ข้า​ก็​รู้สึก​คุ้นๆ​ อยู่แล้ว​ ไม่คิด​เลย​ว่า​จะเป็น​เจ้าจริงๆ​ ด้วย​”

…ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่พลัน​ตระหนัก​ได้​ “อ้อ​ๆ ที่แท้​ก็​เจ้านั่นเอง​ แม่นาง​หรงหรง​ ไม่เจอกัน​หลาย​ปี​ สบายดี​ใช่หรือไม่​”

เขา​ไม่ได้​เอ่ย​ทักทาย​สตรี​คน​งาม

สตรี​คน​งามคน​นั้น​มอง​จ้อง​ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่อย่าง​ล้ำลึก​ จากนั้น​ก็​ถอน​สายตา​ออก​แล้ว​เอ่ย​เสียง​อ่อนโยน​

“ฆ้อง​เงิน​สวี่​คล้าย​จะมีเรื่อง​ที่​ต้อง​จัดการ​ เช่นนั้น​ไม่รบกวน​แล้ว​”

แล้ว​นาง​ก็​ลา​กหรง​หรง​ที่​ท่าทาง​ไม่ยินยอม​จากไป​

จากนั้น​ สวี่​ชีอัน​ก็​เอ่ย​ถามข้อมูล​ของ​เมือง​เฉียน​หลง​ต่อ​อีก​เล็กน้อย​ เช่น​ สมาชิก​ใน​ตระกูล​จี กองกำลัง​ติดอาวุธ​ของ​เมือง​เฉียน​หลง​ เป็นต้น​

สุดท้าย​ เขา​ก็​ลังเล​เล็กน้อย​แล้ว​เอ่ย​พูดว่า​

“พวก​เจ้าคุ้นเคย​กับ​ภรรยา​ของ​สวี่​ผิง​เฟิงหรือไม่​”

หลิ่ว​หง​เหมียน​และ​ฉีฮวน​ตาน​เซียง​ส่ายหน้า​ จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​ไป๋​หู่​แล้ว​เอ่ย​ตอบ​ว่า​

“เขา​คือ​ผู้นำ​กลุ่ม​ดาว​เสือ​ขาว​ เป็น​กองกำลัง​สาย​ตรง​ของ​ท่าน​ราชครู​ “

เมื่อ​เห็น​สวี่​ชีอัน​มอง​มา ไป๋​หู่​ก็​รีบ​ตอบ​

“ข้า​เพียงแต่​เคย​พบ​นาย​หญิง​แค่​สอง​ครั้ง​ นาง​คือ​น้องสาว​ของ​เจ้าเมือง​เฉียน​หลง​ อยู่​อย่าง​สันโดษ​มาโดยตลอด​และ​ไม่เคย​ออกจาก​ที่พัก​เลย​ นาง​ถูก​กักบริเวณ​เอาไว้​ และ​ไม่ได้รับอนุญาต​ให้​ออกจาก​เมือง​เฉียน​หลง​ สมาชิก​ตระกูล​จีใน​เมือง​เฉียน​หลง​ต่าง​ก็​รังเกียจ​นาง​อย่างยิ่ง​ และ​บอ​กว่า​นาง​คือ​คน​บาป​ของ​ตระกูล​ ตระกูล​มอบ​ความรุ่งโรจน์​และ​มั่งคั่ง​ให้​กับ​นาง​ แต่​นาง​กลับ​ไม่ไยดี​ และ​ละทิ้ง​ตระกูล​ก็​เพื่อ​…เพื่อ​บุตร​ที่​ถูก​ทอดทิ้ง​คน​หนึ่ง​”

พวก​ฉู่หยวน​เจิ่น​รู้เรื่อง​ภายใน​อยู่แล้ว​ ต่าง​ก็​นิ่งเงียบ​กัน​ไป​

มีเพียง​ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่เท่านั้น​ที่​ไม่รู้​ตัวตน​ที่​แท้จริง​ของ​สวี่​ชีอัน​

ถูก​กักบริเวณ​ยี่สิบ​ปี​ สูญเสีย​อิสระ​…สวี่​ชีอัน​นิ่งเงียบ​ ไม่ได้​เอ่ย​อะไร​ออกมา​เป็นเวลา​นาน​

ฉีฮวน​ตาน​เซียง​เห็น​เขา​ไม่พูด​อะไร​อีก​ก็​เอ่ย​สะกิด​

“พวกเรา​เล่าเรื่อง​ที่​รู้​ให้​เจ้าฟังหมด​แล้ว​ ฆ้อง​เงิน​สวี่​โปรด​ทำตาม​สัญญาด้วย​”

สวี่​ชีอัน​เหลือบมอง​เขา​แล้ว​พยักหน้า​

“ได้​! เช่นนั้น​ข้า​ก็​จะมอบ​อิสระ​ให้​เจ้า”

‘พลั่ก​!’

เขา​ใช้ฝ่ามือ​ตบ​ศีรษะ​ของ​ฉีฮวน​ตาน​เซียงจน​สอง​ตา​ของ​ปรมาจารย์​ซิน​กู่​ขาวโพลน​ ตบ​จน​จิต​เดิม​ของ​อีก​ฝ่าย​แตกสลาย​

แล้ว​สิ้นชีพ​คาที่​

“เจ้า…”

สีหน้า​ของ​ไป๋​หู่​เปลี่ยนไป​ เขา​เค้น​เสียงพูด​คำ​ว่า​ ‘เจ้า’ ออกมา​ได้​คำ​เดียว​ นัยน์ตา​ก็​ฉาย​ภาพ​ฝ่ามือ​ของ​สวี่​ชีอัน​

ครู่​ต่อมา​ เขา​ก็​ถูก​โจมตี​กระทบ​จิตวิญญาณ​จน​สิ้นลม​คาที่​เช่นกัน​

“สัญญาของ​ข้า​ไม่เคย​มอบให้​ศัตรู​”

สวี่​ชีอัน​ดีด​ลูก​กู่​สอง​ตัว​ออกมา​ ลูก​กู่​ที่​มีลักษณะ​คล้าย​หนอน​สีดำ​เจาะเข้าไป​ใน​จมูก​ของ​ศพ​ทั้งสอง​ ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ฉีฮวน​ตาน​เซียง​และ​ไป๋​หู่​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​อีกครั้ง​

แล้ว​ยืน​เคียงข้าง​กัน​ด้วย​สายตา​ที่ว่างเปล่า​

เขา​ได้​หุ่นเชิด​ศพ​ขั้น​สี่มาสอง​ตัว​แล้ว​

จาก​การ​เติบโต​ของ​ยอด​กู่​ทั้ง​เจ็ด​ใน​ตอนนี้​ ซือ​กู่​สามารถ​รักษา​พลัง​การ​ฝึก​ตน​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ขั้น​สี่ได้​เกือบ​เก้า​ส่วน​

“นี่​คือ​ซือ​กู่​?”

ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​และ​ฉู่หยวน​เจิ่น​มีสีหน้า​อิจฉา​ แบบนี้​เท่ากับ​ว่า​เขา​ก็​มีนักรบ​เดนตาย​ขั้น​สี่สอง​คน​แล้ว​สิ

ส่วน​ไต้​ซือเหิงหย่วน​ เขา​ไม่มีความปรารถนา​ทางโลก​เช่นนี้​

“ถึงตา​พวก​เจ้าสอง​คน​แล้ว​”

สวี่​ชีอัน​มอง​ไป​ยัง​หลิ่ว​หง​เหมียน​ที่​สีหน้า​ขาวซีด​และ​จิ้งหยวน​ที่​ใบหน้า​ยัง​ไร้อารมณ์​

คน​เหล่านี้​ไม่ใช่ตง​ฟางหว่าน​ชิงที่​มีความสัมพันธ์​กับ​ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่คอย​ปกคลุม​อยู่​ และ​ไม่เหมือนกับ​ตง​ฟางหว่าน​ชิงที่อยู่​ใน​รอบนอก​ความขัดแย้ง​ ไม่ได้​มีความแค้น​ล้ำลึก​เกินไป​

พวก​ฉีฮวน​ตาน​เซียง​นั้น​คือ​กลุ่ม​ของ​จีเสวียน​ คือ​คน​ของ​เมือง​เฉียน​หลง​ และ​เป็น​ศัตรู​ตัวฉกาจ​ของ​เขา​

จิ้งหยวน​ก็​เช่นกัน​

สำหรับ​ศัตรู​ที่​ควร​สังหาร​ สวี่​ชีอัน​ไม่เคย​อ่อนข้อ​ให้​ แม้ว่า​อีก​ฝ่าย​จะเป็น​หญิง​งามพริ้มเพรา​ก็ตาม​

‘ปัง​ ปัง​!’

ทันใดนั้น​ เสียงเคาะ​ประตู​ก็​ดัง​ขึ้น​ ด้านนอก​มีเสียง​ที่​ดู​เป็นผู้ใหญ่​ของ​เซียว​เย​ว่​หนู​ดัง​เข้ามา​

“ฆ้อง​เงิน​สวี่​ เซียว​เย​ว่​หนู​ขอ​เข้าพบ​เจ้าค่ะ​”

แค่​ได้ยิน​เสียง​นี้​ ฉู่หยวน​เจิ่น​และ​ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่ก็​ดวงตา​สว่างไสว​

“ผู้ดูแล​หอ​เซียว​เข้ามา​ได้​”

สวี่​ชีอัน​ตอบ​

เซียว​เย​ว่​หนู​ผลัก​ประตู​เข้ามา​ นาง​สวม​ชุด​กระโปรง​สีเหลือง​ มัด​มวยผม​สตรี​แบบ​ที่​กำลัง​นิยม​ รูปร่าง​สูง มีผ้า​โปร่ง​คลุม​ใบหน้า​ ดวงตา​แคบ​และ​มีเสน่ห์​ดึงดูด​ ถึงขั้น​ยั่วยวน​ผู้คน​ได้​เลย​

ฉู่หยวน​เจิ่น​ไม่ใช่คนเจ้าชู้​ แต่​ชั่ว​ขณะที่​พบ​กับ​สตรี​ผู้​นี้​ สายตา​ของ​เขา​ก็​ยาก​จะปกปิด​ความประหลาดใจ​ได้​

แม้แต่​สตรี​อย่าง​พระชายา​ที่​มองว่า​ตน​สูงส่งก็​ยัง​อก​ประหลาดใจ​ไม่ได้​ ประหลาดใจ​ที่​กลับ​มีไข่มุก​งดงาม​เช่นนี้​อยู่​ใน​ยุทธ​ภพ​ของ​เจี้ยน​โจว​ด้วย​

จากนั้น​ นาง​และ​ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​ก็​จิตใจ​ห่อเหี่ยว​ไป​ด้วยกัน​

“ผู้ดูแล​หอ​เซียว​ สบายดี​หรือไม่​” สวี่​ชีอัน​เอ่ย​ถามพร้อม​รอยยิ้ม​

เซียว​เย​ว่​หนู​กวาดตา​มอง​แล้ว​หยุด​อยู่​บน​ร่าง​ของ​หลิ่ว​หง​เหมียน​ครู่หนึ่ง​ จากนั้น​ก็​คำนับ​ทำความเคารพ​ให้​กับ​สวี่​ชีอัน​

“ได้ยิน​จาก​ป้า​เหมย​ว่า​คน​ทรยศ​หลิ่ว​หง​เหมียน​แห่ง​หอ​หมื่น​บุปผา​อยู่​ที่นี่​ และ​กลายเป็น​นักโทษ​ของ​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ ข้า​จึงได้​เร่ง​มาดู​เจ้าค่ะ​”

“แค่​มาดูหรือ​”

สวี่​ชีอัน​มองหน้า​นาง​

เซียว​เย​ว่​หนู​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​ พลาง​เอ่ย​เสียง​เบา​

“เย​ว่​หนู​ขอ​บังอาจ​ถาม ฆ้อง​เงิน​สวี่​คิด​จะจัดการ​กับ​นาง​อย่างไร​หรือ​เจ้าคะ​”

“สังหาร​ให้​สิ้น​!” สวี่​ชีอัน​ตอบ​ตามตรง​

เซียว​เย​ว่​หนู​เม้มปาก​แล้ว​คำนับ​ลง​อีกครั้ง​ น้ำเสียง​ของ​นาง​เอ่ย​อย่าง​จริงใจ​

“ขอให้​ฆ้อง​เงิน​สวี่​โปรด​ไว้ชีวิต​นาง​ด้วย​ แล้ว​มอบให้​หอ​หมื่น​บุปผา​เป็น​คน​จัดการ​แทน​เถิด​”

สวี่​ชีอัน​นิ่งเงียบ​ไป​ “เจ้าคิด​จะจัดการ​อย่างไร​!”

…………………………………………….

[1] 偃旗息鼓 ลด​ธงเงียบเสียง​กลอง​ เป็น​สำนวน​จาก​วรรณกรรม​ “สามก๊ก​” อุปมา​ว่า​ยุติ​การวิพากษ์​ ยุติ​การ​โจมตี​

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท