บทที่ 651 กระจกเทพฮุ่นเทียน ‘ข้านี่ช่างลำบากจริงๆ’

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

“เป็น​สหาย​ของ​พี่​หญ่าย​นั่นเอง​…สวัสดี​ท่าน​ลุง​ ท่าน​ลุง​แซ่อะไร​หรือ​”

เมื่อ​เสี่ยว​โต้​ว​ติง​ได้ยิน​ว่า​เป็น​สหาย​ของ​พี่ใหญ่​ รอยยิ้ม​ไร้เดียงสา​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ใบหน้า​ทึม​ทื่อ​นั่น​

“เจ้าเรียก​ข้า​ว่า​ลุง​เฉิน​ก็ได้​”

เฉิน​เซียว​ก็​เผย​รอยยิ้ม​ซื่อๆ​ ออกมา​เช่นกัน​ “ได้ยิน​มานาน​แล้ว​ว่า​ฆ้อง​เงิน​สวี่​มีน้องสาว​สอง​คน​”

เขา​คลำหา​กระเป๋า​โดยไม่รู้ตัว​ และ​พบ​ว่า​ตน​สวม​ชุด​เครื่องแบบ​อยู่​ จึงไม่มีของ​อะไร​ที่​พอ​จะมอบให้​เด็ก​ได้​เลย​

“มีเรื่อง​อะไร​หรือ​”

ลี่​น่า​ใช้มือ​เดียว​จับ​ศีรษะ​ของ​ลูกศิษย์​แล้ว​ส่ายหน้า​เล็กน้อย​ เด็ก​ก็​คือ​เด็ก​ ไม่มีไหวพริบ​เอา​ซะเลย​

บุรุษ​ที่​เป็น​ฝ่าย​เริ่ม​บทสนทนา​ก่อน​เช่นนี้​นี่แหละ​ที่​อันตราย​ที่สุด​ และ​ส่วนใหญ่​มัก​ไม่มีเจตนา​ดี​อะไร​

เรื่อง​นี้​ นาง​เคย​มีประสบการณ์​สมัย​เดินทาง​จาก​ซินเจียง​ตอน​ใต้​มายัง​ต้าฟ่ง​แล้ว​

แต่​ตอนนี้​นาง​ยัง​คิดไม่ออก​ว่า​คน​ที่​ชื่อ​เฉิน​เซียว​ผู้​นี้​เข้าหา​นาง​ด้วย​เป้าหมาย​อะไร​

“ทั้งสอง​ท่าน​เดินทาง​มาใน​ครั้งนี้​ จะไป​ที่ใด​กัน​หรือ​”

เฉิน​เซียว​เอ่ย​ถาม

ลี่​น่า​เอ่ย​เสียงดัง​ “ไม่เกี่ยวกับ​เจ้า”

ระดับเสียง​ที่​เพิ่มขึ้น​อย่าง​กะทันหัน​ทำให้​เฉิน​เซียว​ตกใจ​ คน​ที่​ไม่รู้​จะคิด​ว่า​เขา​จะทำ​อะไร​อีก​ฝ่าย​เอา​ได้​น่ะ​สิ หลังจาก​มอง​ไป​รอบ​ๆ แล้ว​ เขา​ก็​เอ่ย​อย่าง​จนใจ​ว่า​

“หาก​มีเรื่อง​อะไร​ก็​มาหา​ข้า​ได้​ แต่​แน่นอน​ว่า​ใต้เท้า​สวี่​สามารถ​จัดการ​ปัญหา​ส่วนใหญ่​ได้​ด้วย​ตนเอง​อยู่แล้ว​”

เขา​สามารถ​สัมผัส​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ถึงท่าทาง​ระแวดระวัง​และ​ไม่รับแขก​ของ​สาวน้อย​จาก​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ผู้​นี้​ จึงหันไป​ยิ้ม​ให้​กับ​เสี่ยว​โต้​ว​ติง​แล้ว​หัน​กาย​เดิน​กลับ​ไป​ใน​ห้อง​โดยสาร​

“อะไร​นะ​?”

น้ำเสียง​ของ​หง​อิง​เปลี่ยนไป​ แทบจะ​กลายเป็น​การตะโกน​ร้อง​ “ฆ้อง​เงิน​สวี่​สังหาร​ระดับ​เพชร​สอง​คน​จริงๆ​ อย่างนั้น​หรือ​”

พูด​ตามตรง​ เมื่อ​ครู่​ที่​ได้​ฟังจาก​เหมียว​โห​ย่ว​ฟางว่า​สังหาร​ระดับ​เพชร​สอง​คน​ เขา​ยัง​คิด​ว่า​อีก​ฝ่าย​พูด​โม้ขึ้น​มาอย่างนั้น​เสีย​อีก​

แต่​การ​เปิดโปง​อีก​ฝ่าย​ตรงๆ​ นั้น​เป็น​วิธีการ​ของ​พวก​คนโง่เง่า​หรือ​พวก​ปีศาจ​ที่จะ​กระทำ​กัน​ ไม่สอดคล้อง​กับ​วิธีการ​จัดการ​ผู้คน​ของ​เขา​ ดังนั้น​จึงแสดงท่าที​อยากรู้อยากเห็น​และ​ชื่นชม​เลื่อมใส​ออกมา​เป็น​ฉาก​หน้า​

แต่​เขา​ไม่คิด​เลย​สักนิด​ว่า​ เรื่อง​นี้​ฟังแล้ว​กับ​คล้าย​จะเป็น​ความจริง​

ถ้าพูดโกหก​ ก็​ไม่มีทาง​จะเล่า​ได้​ละเอียดลออ​เช่นนี้​ การต่อสู้​ที่​เหนือ​สามัญอย่างนั้น​เป็น​สิ่งที่​คน​ทั่วไป​ไม่อาจ​คิด​จินตนาการ​ได้​เลย​ หาก​ไม่ได้​เห็นด้วย​ตา​ตัวเอง​ ก็​ไม่มีทาง​บรรยาย​ออกมา​ได้​แน่นอน​

ปีศาจ​สาว​ทั้งสอง​ต่าง​พา​กัน​ยกมือ​ปิดปาก​

“ใช่แล้ว​ แต่​ถึงจะเป็น​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​การ​โจมตีจาก​ระดับ​เพชร​และ​เจ้าแห่ง​วัสสาน​ของ​สำนัก​พ่อ​มด​ เขา​ก็​สะบักสะบอม​มาก​เหมือนกัน​ แต่​โชคดี​ที่​ข้าง​กาย​เขา​ยังมี​ข้า​”

เหมียว​โห​ย่ว​ฟางย่าง​นก​ใน​มือ​อย่าง​เป็นสุข​ เขา​ไม่สนใจ​คำพูด​ก่อนหน้านี้​ การ​โม้ยังคง​สำคัญ​กว่า​

“พูด​ไป​แล้วก็​เร็ว​อย่าง​เหลือเชื่อ​ ข้า​ขี่​กระบี่​บินขึ้น​มาแล้ว​หยิบ​กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​ส่อง​ไป​ ทำให้​ศัตรู​สั่นสะเทือน​จน​ชะงัก​ ฆ้อง​เงิน​สวี่​จึงได้โอกาส​แสดง​พลัง​โจมตี​อัน​ยิ่งใหญ่​น่าเกรงขาม​ออกมา​ แล้ว​จัดการ​พวก​ศัตรู​จน​พ่ายแพ้​ไม่เป็นท่า​…”

ปีศาจ​สาว​ที่อยู่​ด้าน​ซ้าย​พลัน​เอ่ย​ขึ้น​มา

“แต่​เจ้าเป็น​จอม​ยุทธ์​นะ​ เหตุใด​ถึงขี่​กระบี่​บิน​ได้​เล่า​”

‘เอ่อ​ เรื่อง​นี้​’…เหมียว​โห​ย่ว​ฟางพลัน​กระอักกระอ่วน​ทันใด​ และ​คิด​หา​คำอธิบาย​ใน​เวลา​กระชั้น​เช่นนี้​ไม่ได้​ แต่​หง​อิง​ออกตัว​ตำหนิ​ปีศาจ​สาว​อย่าง​ไม่พอใจ​ได้​ทันเวลา​

“เจ้าจะไป​รู้​อะไร​ ด้วย​ความสามารถ​ของ​พี่​เหมียว​ เขา​ย่อม​ต้อง​มีอาวุธ​เวทมนตร์​กระบี่​บิน​ดี​ๆ อยู่แล้ว​ ปีศาจ​ตัวเล็ก​ๆ แบบ​เจ้าอย่า​ได้มา​ขัดจังหวะ​”

ปีศาจ​สาว​รีบ​ก้มหน้า​ลง​ รู้สึก​ละอาย​ที่​ไป​เอ่ย​ถามใต้เท้า​เหมียว​เพราะ​ความรู้​อัน​ตื้นเขิน​ของ​ตน​

‘รู้จัก​พูด​จริงๆ​’…เหมียว​โห​ย่ว​ฟางรีบ​เอ่ย​เสริม​ “ใช่ๆๆ แบบนี้​นี่แหละ​ พี่​หง​อิง​ ท่าน​มาอยู่​ที่​ซินเจียง​ตอน​ใต้​อัน​ทุรกันดาร​เช่นนี้​ออกจะ​เสีย​พรสวรรค์​ไป​เปล่าๆ​ นะ​ ไม่สู้ตาม​พวกเรา​ไป​ท่อง​ยุทธ​ภพ​ภาค​กลาง​มิดีกว่า​หรือ​”

ผู้พิทักษ์​หง​อิง​ได้โอกาส​ตอบรับ​ “เช่นนั้น​ก็​ขอ​ร่วมมือ​กับ​จอม​ยุทธ์​ผู้ยิ่งใหญ่​แห่ง​ภาค​กลาง​อย่าง​พี่​เหมียว​แล้ว​”

‘จอม​ยุทธ์​ผู้ยิ่งใหญ่​…จอม​ยุทธ์​ผู้ยิ่งใหญ่​แห่ง​ภาค​กลาง​’…เหมียว​โห​ย่ว​ฟางรู้สึก​เหมือน​กระแทก​โดนใจ​ กำลังใจ​จึงพลัน​ท่วมท้น​ไป​ทั้งตัว​ “พี่​หง​อิง​ เรา​พบกัน​ช้าเกินไป​แล้ว​ “

ทั้งสอง​คน​หัวเราะ​ร่า​ บรรยากาศ​สมัครสมาน​กลมเกลียว​ยิ่ง​

ใน​ถ้ำ

เย่​จีหยิบ​กระถาง​เครื่องหอม​สำริด​ที่​หล่อ​เป็น​รูป​สุนัขจิ้งจอก​ออกมา​ ก่อน​ปัก​ธูป​หอม​สีดำ​ลง​ไป​แล้ว​จุดไฟ​ จากนั้น​กลิ่น​ไม้จันทน์​ก็​ลอย​ขึ้น​

ต่อมา​เย่​จีก็​สูด​หายใจเข้า​ลึก​ๆ กลิ่น​ไม้จันทน์​ลอย​เข้าไป​ใน​รู​จมูก​ ต่อมา​ ดวงตา​ข้าง​ซ้าย​ของ​นาง​ก็​บังเกิด​แสงเจิด​จรัส​ดั่ง​หมอ​กค​วันที่​เอ่อล้น​ลง​มาจาก​ดวงตา​

เจตจำนง​อัน​แข็งแกร่ง​มาเยือน​แล้ว​

“จิ๊ๆ คนรัก​เก่า​พบ​หน้า​ แต่กลับ​ไม่คว้า​โอกาส​นี้​พลอดรัก​กัน​ ดัน​มาเรียกหา​ข้า​เนี่ย​นะ​?”

จิ้งจอก​เก้า​หาง​หัวเราะเยาะ​อย่าง​ไม่จริงจัง​นัก​ ‘เย่​จี’ ก็​พลัน​กระตุก​มุมปาก​ขึ้น​ยิ้ม​ไป​ด้วย​

“คง​มิใช่อยาก​ให้​ข้า​มารับ​ชมอยู่​ข้างๆ​ หรอก​นะ​ แบบนี้​ไม่ได้​ๆ ข้า​เป็น​หญิงสาว​ใน​ห้อง​หอ​ที่​ยัง​ไม่ออกเรือน​นะ​จะบอก​ให้​”

คำพูดคำจา​ของ​เจ้าไม่ได้​เหมือนกับ​หญิงสาว​ใน​ห้อง​หอ​เลย​สักนิด​ อย่า​แก่แดด​แก่​ลม​มากเกินไป​สิ…สวี่​ชีอัน​บ่น​อยู่​ใน​ใจอย่าง​ไร้​เสียง​

เย่​จีเอ่ย​อย่าง​เคารพ​

“องค์​หญิง​ ข้าน้อย​รู้​ความลับ​ใหญ่หลวง​มาจาก​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ เรื่อง​นี้​ใหญ่​นัก​ ไม่รู้​ว่า​ท่าน​ทราบ​หรือยัง​ จึงได้​ติดต่อ​ท่าน​มากะทันหัน​เช่นนี้​ ขออภัย​ด้วย​”

ขณะที่​พูด​ ‘เย่​จี’ ก็​หันไป​มองหน้า​สวี่​ชีอัน​แล้ว​แย้มยิ้ม​ทรง​เสน่ห์​

“ข้อมูล​ลับ​หรือ​? เจ้าฝึก​ตน​ได้​แค่​ปี​กว่า​ๆ เอง​ แล้​วจะ​มีข้อมูล​ลับ​อะไร​เยอะแยะ​”

สวี่​ชีอัน​ไม่พูด​อะไร​ เขา​เหลือบมอง​ตา​ขวา​ของ​เย่​จี

เย่​จีรีบ​เอ่ย​บอก​ “พระพุทธเจ้า​ถูก​ปราชญ์​ศักดิ์สิทธิ์​ผนึก​ไว้​เมื่อ​หนึ่ง​พัน​กว่า​ปีก่อน​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

แสงสว่าง​ใน​ตา​ซ้าย​ของ​เย่​จีพลัน​สั่น​ไหว​รุนแรง​ ผ่าน​ไป​พัก​หนึ่ง​ เสียง​ของ​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ก็​ดัง​ออก​มาจาก​ปาก​นาง​ เป็น​น้ำเสียง​เคร่งเครียด​อย่าง​ที่​ไม่เคย​มีมาก่อน​

“ไม่ เป็นไปไม่ได้​ เมื่อ​ห้า​ร้อย​ปีก่อน​พระพุทธเจ้า​เป็น​ผู้ลงมือ​ ข้า​เห็น​สงคราม​นั้น​มากับ​ตา​ ไม่ผิด​แน่​”

สวี่​ชีอัน​ขมวดคิ้ว​ แล้ว​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​หนักแน่น​

“เจ้าสำนัก​จ้าว​โส่ว​แห่ง​สำนัก​อวิ๋น​ลู่​เป็น​คน​บอก​กับ​ข้า​เอง​ ปราชญ์​ศักดิ์สิทธิ์​ผนึก​ผู้​อยู่​เหนือ​ระดับ​ทุก​ตน​ที่อยู่​ใน​สมัย​นั้น​ เว้น​ก็​แต่​ปรมาจารย์​เต๋า​ที่​หายตัว​ไป​นาน​แล้ว​”

‘ปราชญ์​ศักดิ์สิทธิ์​ผนึก​ผู้​อยู่​เหนือ​ระดับ​ทุก​ตน​นอกจาก​องค์​เทพ​’…หัวใจ​ของ​เย่​จีเต้น​รัว​ดุจ​กลอง​รบ​ รู้สึก​ว่า​นี่​เป็นความลับ​ที่​ยาก​จะขบ​ให้​แตก​นัก​

ข้อมูล​สอง​อย่าง​ขัดแย้ง​กัน​

สวี่​ชีอัน​เล่า​การคาดการณ์​สามอย่าง​ของ​ตน​ก่อนหน้านี้​ออกมา​

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​เอ่ย​เสียงต่ำ​ “เจ้ารู้​หรือไม่​ว่า​จะเป็น​พระพุทธเจ้า​ได้​อย่างไร​”

น้ำเสียง​ของ​นาง​เคร่งเครียด​อย่าง​ที่​ไม่เคย​เป็นมา​ก่อน​ คำ​พูดจา​ที่​เรื่อยเปื่อย​เขินอาย​แบบ​ก่อนหน้านี้​ไม่มีอีกแล้ว​

สวี่​ชีอัน​ส่ายหน้า​

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​กล่าว​อย่าง​ชัดถ้อยชัดคำ​

“รวม​ร่าง​ธรรม​ทั้ง​เก้า​ให้​เป็นหนึ่ง​ ก็​คือ​ตำแหน่ง​แห่ง​พระพุทธเจ้า​ ปี​นั้น​ข้า​ได้​เห็น​กับ​ตา​ว่า​ร่าง​ธรรม​ทั้ง​เก้า​ปรากฏ​ขึ้น​บน​โลก​ นั่น​จะต้อง​เป็น​พระพุทธเจ้า​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ บน​โลก​นี้​ไม่มีพระพุทธเจ้า​ตน​ที่สอง​แล้ว​ เสิน​ซูเดิน​อยู่​บน​สาย​ฉาน​ซือ​ ระดับ​เพชร​ และ​จอม​ยุทธ์​ แต่​สุดท้าย​เขา​ก็​เชี่ยวชาญ​เพียง​ร่าง​ธรรม​ระดับ​เพชร​”

ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ผู้​ที่​ลงมือ​ใน​ปี​นั้น​ก็​ไม่มีทาง​เป็น​ผู้​อยู่​เหนือ​ระดับ​คนอื่น​แล้ว​ ทั้ง​ยัง​มิใช่เสิน​ซู ดังนั้น​ก็​สามารถ​ล้มล้าง​การ​คาดเดา​ทั้งสอง​อย่าง​หลัง​ของ​ข้า​ไป​ได้​เลย​ เพราะฉะนั้น​ ผู้​ที่​ลงมือ​ก็​คือ​พระพุทธเจ้า​…สวี่​ชีอัน​สูด​ปาก​อย่าง​หนักใจ​

“ห้า​ร้อย​ปีก่อน​ พระพุทธเจ้า​หลุด​ออกจาก​ผนึก​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​แล้ว​หรือ​”

“อย่า​เพิ่ง​ด่วน​สรุป​เลย​ดีกว่า​ หาก​ต้องการ​รู้เรื่อง​ทั้งหมด​อย่าง​ชัดเจน​ ก็​ต้อง​ปลด​ผนึก​ทั้งหมด​ของ​เสิน​ซูออก​ก่อน​ อืม​ ร่างกาย​แต่ละ​ส่วน​ของ​เสิน​ซูล้วน​แฝงไป​ด้วย​วิญญาณ​ร้าย​ของ​เขา​ เสิน​ซูที่อยู่​ใน​เจดีย์​พุทธะ​มีความทรงจำ​มาก​น้อย​เพียงใด​หรือ​?” จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​กล่าว​

“เจ้าเตือนสติ​ข้า​ได้​พอดี​…”

สวี่​ชีอัน​ลูบ​คาง​ “มัน​เคย​หลุด​พูด​ออกมา​ประโยค​นึง​อย่าง​ลืมตัว​ว่า​ ‘พระพุทธเจ้า​ เจ้ามัน​คน​ไร้​สัจจะ’”

‘นี่​มัน​…’ เย่​จีใจตกไป​ที่​ตาตุ่ม​ และ​คล้าย​คว้า​อะไร​บางอย่าง​ได้​รางๆ​

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ใน​ร่าง​ของ​นาง​ก็​ไม่พูด​อะไร​อยู่​นาน​เช่นกัน​

ผ่าน​ไป​พัก​หนึ่ง​ จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ก็​ค่อยๆ​ เอ่ย​พูด​ “เห็นได้ชัด​ว่า​เสิน​ซูเคย​ทำ​ข้อตกลง​กับ​พระพุทธเจ้า​มาก่อน​ และ​เป็น​ข้อตกลง​ที่​มีเพียง​พวกเขา​เท่านั้น​ที่​รู้​”

“เบาะแส​น้อย​เกินไป​ พวกเรา​ไม่อาจ​คาดเดา​ความจริง​ได้​เลย​”

สวี่​ชีอัน​สรุป​ปิดท้าย​ จากนั้น​ก็​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “ไม่มีเงื่อน​ขำ​ ปรึกษา​แล้ว​ไม่ได้​อะไร​ ข้า​บอก​ความลับ​นี้​กับ​ท่าน​ ก็​มิใช่ว่า​ไม่ต้องการ​สิ่งตอบแทน​นะ​”

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ตอบกลับ​ด้วย​ท่าที​ไม่อินังขังขอบ​ทันที​ นาง​ควบคุม​เย่​จีให้​เลีย​ริมฝีปาก​ด้วย​สีหน้า​เย้ายวน​

“สวี่​หลา​ง เช่นนั้น​คืนนี้​เจ้าอยากได้​กี่​ครั้ง​ล่ะ​”

คืนนี้​ไม่ต้อง​นอน​แล้ว​…สวี่​ชีอัน​ยัง​คงไว้​ซึ่งท่าทาง​จริงจัง​

“องค์​หญิง​ ฆ้อง​เงิน​เช่น​ข้า​นั้น​เป็น​คน​ซื่อตรง​ ไม่มีทาง​ลุ่มหลง​ไป​กับ​ความงาม​ของ​ท่าน​หรอก​ ส่วน​ค่าตอบแทน​จะคิด​รวมกัน​ทีหลัง​ ข้า​ขอ​พูด​เรื่อง​จริงจัง​ก่อน​ บุตร​ของ​ราชัน​อสูร​ อา​ซูหลัว​ ได้​กลับคืน​สู่ตำแหน่ง​แล้ว​ ตอนนี้​อยู่​ที่วัด​หนาน​ฝ่า ด้วย​พลัง​ต่อสู้​ของ​ข้า​มิอาจ​เอาชนะ​เขา​ได้​เลย​”

สอง​บวก​หนึ่ง​ เทียบ​เท่ากับ​อรหันต์​หนึ่ง​คน​ร่วมมือ​กับ​ระดับ​เพชร​หนึ่ง​คน​ สวี่​ชีอัน​ยัง​พอ​คิด​คำนวณ​อยู่​ใน​ใจได้​

“ดังนั้น​ ข้า​ต้องการ​ให้​ท่าน​ทำตาม​สัญญาล่วงหน้า​ โดย​การ​ถอด​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​สอง​ดอก​ออก​ เช่นนี้​ข้า​จึงพอ​จะชนะ​ได้​”

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​นิ่ง​คิด​ไป​ “ถอด​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ ก็​จะชนะ​ได้​หรือ​?”

สวี่​ชีอัน​ยิ้ม​ “ข้า​ย่อ​มหา​คน​ช่วย​อยู่แล้ว​”

“ได้​ ข้า​จะให้​เย่​จีพา​เจ้าไป​พบ​ชิ้นส่วน​อื่นๆ​ ของ​เสิน​ซู”

จิ้งจอก​เก้า​หาง​เอ่ย​ถามอย่าง​แจ่มใส “ยัง​มีเรื่อง​ใด​อีก​”

สวี่​ชีอัน​เหลือบมอง​ตา​ขวา​ของ​เย่​จี

“ฝูเซียง…​ไม่สิ ต่อไป​เย่​จีก็​จะเป็น​คน​ของ​ข้า​ ข้า​ไม่มีทาง​บังคับเอา​ตัวนาง​ไป​ แต่​หลังจาก​วันนี้​ ข้า​หวัง​ว่า​ท่าน​จะเข้าใจ​เรื่อง​นี้​ด้วย​ นาง​ไม่ใช่บ่าว​ของ​ท่าน​ ท่าน​สามารถ​สั่งการ​นาง​ได้​ แต่​ไม่อาจ​ควบคุม​นาง​”

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​หัวเราะ​ “ความจริง​แล้ว​ถึงเจ้าพา​ตัวนาง​ไป​ข้า​ก็​ไม่ได้​คัดค้าน​อะไร​ ข้า​ยัง​สามารถ​มอบ​ไป๋​จีให้​เจ้าได้​ด้วย​นะ​”

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนั้น​ ไป๋​จีก็​ร้อง​ลั่น​ “ข้า​ไม่เอา​ ข้า​ไม่เอา​!”

…สวี่​ชีอัน​เหลือบมอง​เจ้าลูก​สุนัขจิ้งจอก​แล้ว​คิด​ว่า​ ข้า​เป็น​คน​น่ารังเกียจ​ขนาด​นั้น​เลย​หรือ​

“คำขอ​สุดท้าย​ กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​มีประโยชน์​กับ​ข้า​เป็นอย่างมาก​ ข้า​หวัง​ว่า​จะสามารถ​ควบคุม​มัน​ได้​พัก​หนึ่ง​ มาก​สุด​ไม่เกิน​สามเดือน​แน่นอน​ ถ้าหาก​ยืดเยื้อ​ ข้า​จะจ่าย​ค่าตอบแทน​เพิ่ม​ให้​ท่าน​ หรือไม่​ก็​ช่วย​ท่าน​ทำ​บางอย่าง​ได้​”

กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​เกี่ยวข้อง​กับ​แผนการ​ต่อจากนี้​ของ​เขา​ จึงไม่อาจ​ส่งกลับ​คืนให้​จิ้งจอก​เก้า​หาง​ได้​ชั่วคราว​

“จะเกินไป​แล้ว​!”

จิ้งจอก​เก้า​หาง​เอ่ย​ด้วย​ความ​โกรธเกรี้ยว​ “มัน​คือ​ของ​ตกทอด​ของ​มารดา​ข้า​ และ​เป็น​ของเล่น​ตั้งแต่​เด็ก​ของ​ข้า​ มัน​มีความทรงจำ​ส่วนหนึ่ง​ของ​ข้า​อยู่​ใน​นั้น​ คำขอ​นี้​ข้า​ไม่อาจ​รับปาก​เจ้าได้​”

สวี่​ชีอัน​ก็​แข็งแกร่ง​อย่าง​คาดไม่ถึง​ “ไม่ใช่ ข้า​ไม่ได้​ต้องการ​มัน​ หาก​เรา​ตกลง​กัน​ไม่ได้​ใน​ประเด็น​นี้​ การ​ร่วมมือ​ระหว่าง​เรา​ก็​จะถูก​ยกเลิก​”

ตา​ซ้าย​ของ​เย่​จีหม่น​แสงลง​แล้ว​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ “ยกเลิก​ก็​ยกเลิก​ไป​สิ ข้า​ไม่ได้​เดือดร้อน​เสียหน่อย​”

ทั้งคู่​มองหน้า​กัน​ด้วย​สีหน้า​ไร้อารมณ์​ ไม่มีใคร​ยอม​ถอย​ก่อน​

เย่​จีผู้​อยู่​ตรงกลาง​กลับเป็น​ฝ่าย​ลำบากใจ​

“ถึงจะไม่ถอด​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ออก​ ข้า​ก็​เป็น​ขั้น​สามเหมือนกัน​ เรื่อง​ที่​ทำได้​มีเยอะ​นัก​ อย่าง​มาก​ก็​แค่​ไล่​สังหาร​อรหันต์​ต่อไป​ นาน​วัน​เข้า​ก็​จะสามารถ​ปลด​ผนึก​ออก​ได้​แล้ว​ แต่​เจ้าจะยอม​ทิ้ง​โอกาส​ที่​พันปี​ยาก​จะมีได้​ไป​เช่นนี้​หรือ​”

สวี่​ชีอัน​เชี่ยวชาญ​ทักษะ​การเจรจาต่อรอง​จึงไม่มีทาง​ประนีประนอม​ เขา​พยายาม​ช่วงชิง​มาอย่าง​เต็มที่​

“ภาค​กลาง​วุ่นวาย​มาจนถึง​ทุกวันนี้​ สำนัก​พุทธ​จะต้อง​ส่งกำลัง​เสริม​มาแน่​ นี่​เป็น​ช่วงเวลา​ที่ว่างเปล่า​ที่สุด​ของ​อรัญ​ตา​”

จิ้งจอก​เก้า​หาง​เอ่ย​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ “หาก​ไม่ปลด​ผนึก​ เจ้าก็​ไม่อาจ​ฟื้น​คืน​พลัง​ที่​แท้จริง​ได้​ และ​ยิ่ง​ไม่สามารถ​โจมตี​ขั้น​สอง​ได้​ด้วย​ ใน​ศึก​ระดับ​ขั้น​เช่นนี้​ เรื่อง​ที่​เจ้าทำได้​นั้น​มีจำกัด​ เมื่อ​ร่วมมือ​กัน​ก็​จะชนะ​ไป​ด้วยกัน​ หาก​ไม่ร่วมมือ​ก็​เสีย​ทั้งสองฝ่าย​ เจ้าคิดดู​ให้​ดี​ก่อน​เถอะ​”

การทำงาน​ของ​กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​เป็น​สิ่งสำคัญ​อย่างยิ่ง​สำหรับ​นาง​ นาง​ไม่มีทาง​ยอมให้​สวี่​ชีอัน​ได้​ไป​ง่ายๆ​ หรอก​

สวี่​ชีอัน​หัวเราะ​ “ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ เหตุใด​ทุกคน​ไม่ถอย​กัน​คนละ​ก้าว​เล่า​”

จิ้งจอก​เก้า​หาง​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ “ถอย​อย่างไร​”

“กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​มีจิตสำนึก​ของ​ตัวเอง​ ไม่ใช่สิ่งของธรรมดา​ เช่นนั้น​ก็​ให้​มัน​เลือก​แล้วกัน​” สวี่​ชีอัน​กล่าว​

“ไม่มีปัญหา​!”

จิ้งจอก​เก้า​หาง​มั่นใจ​ใน​ตัวเอง​อย่าง​มาก​

สวี่​ชีอัน​หยิบ​ชิ้นส่วน​หนังสือ​ปฐพี​ออกมา​ เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​จิ้งจอก​เก้า​หาง​ เขา​ไม่จำเป็นต้อง​ปกปิด​สถานะ​ของ​สมาชิก​พรรค​ฟ้าดิน​ ไม่ใช่เพราะ​เชื่อใจ​นาง​ แต่​เป็น​เพราะ​นาง​รู้เรื่อง​นี้​มาตั้ง​นาน​แล้ว​

เขา​ใช้นิ้ว​เคาะ​กระจก​เบา​ๆ จากนั้น​กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​ครึ่งหนึ่ง​ก็​หลุด​ออกมา​แล้ว​ตกลง​บน​โต๊ะ​

“ข้า​ตาบอด​แล้ว​ ตาบอด​แล้ว​ๆ บาดแผล​ของ​ข้า​ยัง​ไม่หาย​ดี​ ทำงานต่อ​ไม่ได้​แล้ว​”

กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​ตะโกน​ร้อง​เสียง​ดังลั่น​

เย่​จี ไม่สิ จิ้งจอก​เก้า​หาง​ชะงักงัน​ไป​ทันใด​ ราวกับ​รู้สึก​ไม่คุ้นเคย​กับ​กระจก​บาน​นี้​ แต่​ไม่นาน​สีหน้า​ก็​กลับมา​เป็นปกติ​แล้ว​เอ่ย​ด้วย​เสียง​อ่อนโยน​

“เจ้ากระจก​ ไม่เจอกัน​มาห้า​ร้อย​ปี​ คิดถึง​ข้า​หรือไม่​”

เสียง​ของ​นาง​เปลี่ยน​จาก​ความ​เย้ายวน​เปี่ยม​เสน่ห์​ไป​เป็น​เสียง​ใสราวกับ​สาวน้อย​

กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​สงบ​ลง​ทันใด​ หน้า​กระจก​มีดวงตา​ที่​ไร้​ขน​ตา​ข้าง​หนึ่ง​นูน​ขึ้น​มา ลูก​ตากลม​กลอก​วน​แล้ว​มอง​ไป​ที่​เย่​จี

มัน​ตกตะลึง​ไป​เล็กน้อย​ จากนั้น​ กระจก​ก็​สั่นสะท้าน​อย่าง​รุนแรง​ขึ้น​มา มัน​ตะโกน​ร้อง​เสียง​ดังลั่น​

“องค์​หญิง​ องค์​หญิง​ เป็น​ท่าน​จริงๆ​ หรือ​!?”

ตอนนั้น​ที่อยู่​ใน​วัด​เฉิงหวง​ ตอนที่​สวี่​ชีอัน​มอบ​มัน​ให้​กับ​จิ้งจอก​เก้า​หาง​ มัน​เพิ่ง​ถูก​ภิกษุ​ชรา​ถ่าห​ลิง​ผนึก​ไว้​ จึงไม่รู้เรื่อง​โลก​ภายนอก​

ต่อมา​ก็ได้​รู้เรื่อง​การ​แลกเปลี่ยน​นั้น​จาก​ปาก​ของ​สวี่​ชีอัน​

จิ้งจอก​เก้า​หาง​เอื้อมมือ​ไป​หยิบ​กระจก​ขึ้น​มาแล้ว​แค่น​เสียง​เอ่ย​

“ตอนนั้น​ข้า​ถามเจ้าว่า​ บน​โลก​นี้​ใคร​คือ​จิ้งจอก​ที่​งดงาม​ที่สุด​ เจ้าก็​ตอบ​ทุกครั้ง​ว่า​เป็น​มารดา​ ตอนนี้​ข้า​ขอ​ถามเจ้าอีกครั้ง​ ใคร​คือ​จิ้งจอก​ที่​งดงาม​ที่สุด​ใน​โลก​นี้​”

กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​ตะโกน​เสียงดัง​ “นั่น​ก็​คือ​ท่าน​ นั่น​ก็​คือ​ท่าน​…”

มัน​เอ่ย​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ตื่นเต้น​ที่​ติด​สะอื้น​เล็กน้อย​ “ในที่สุด​หม่อมฉัน​ก็ได้​พบ​ท่าน​ พเนจร​พลัดพราก​อยู่​ข้างนอก​มาห้า​ร้อย​ปี​ ไม่นึก​เลย​ว่า​จะยัง​ได้​กลับมา​พบ​กับ​องค์​หญิง​อีกครั้ง​ ตอนนี้​ต่อให้​ต้อง​กลายเป็น​เถ้าธุลี​อย่างไร​ ก็​ยินยอม​ทุกอย่าง​เลย​”

ช่างเป็น​การพบกัน​ระหว่าง​นาย​บ่าว​ที่​ชวน​ให้​คน​หลั่ง​น้ำตา​เสีย​จริง​…สวี่​ชีอัน​กลอกตา​มอง​บน​

จิ้งจอก​เก้า​หาง​เหลือบมอง​เขา​แล้ว​เอ่ย​เสียงหวาน​พราว​เสน่ห์​

“เจ้าเด็ก​นี่​อยาก​ให้​เจ้าอยู่​ข้าง​กาย​เขา​ไป​อีก​สักพัก​หนึ่ง​ แต่​ข้า​ไม่ยอม​ ถึงอย่างไร​พวกเรา​ก็​ไม่ได้​เจอ​หน้า​กัน​มาหลาย​ปี​ ไม่อาจ​ตัดใจ​ได้​จริงๆ​”

สวี่​ชีอัน​ไม่ให้โอกาส​นาง​ได้​นำ​ เขา​เอ่ย​เสริม​มาว่า​

“ดังนั้น​เรา​จึงตัดสินใจ​ว่า​จะให้​เจ้าเป็น​คน​ตัดสิน​เอง​ว่า​จะอยู่​กับ​ข้า​อีก​สักพัก​หรือไม่​”

“เอ่อ​ เรื่อง​นี้​…เรื่อง​นี้​…”

เสียง​ของ​กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​พลัน​เปลี่ยนไป​ เกิด​การปะทะ​ทาง​ความคิด​อย่าง​รุนแรง​ภายในใจ​ จากนั้น​ก็​เอ่ย​เสียง​เบา​

“ได้​เจอ​องค์​หญิง​เช่นนี้​เป็น​โชคดี​ของ​บ่าว​จริงๆ​ ต่อให้​ตาย​ก็​ไม่เสียดาย​ แต่​หม่อมฉัน​ขอ​เลือก​อยู่​กับ​เจ้าคน​แซ่สวี่​พ่ะย่ะค่ะ​”

รอยยิ้ม​ที่​เพิ่ง​ประดับ​ขึ้น​มาบน​ใบหน้า​ของ​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​พลัน​แข็ง​ค้าง​

นาง​จ้อง​กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​เขม็ง​แล้ว​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​คล้าย​จะยืนยัน​ “เจ้าว่า​อะไร​นะ​?”

“เอ่อ​ เรื่อง​นี้​…ได้​เจอ​องค์​หญิง​เช่นนี้​เป็น​โชคดี​ของ​บ่าว​จริงๆ​ ต่อให้​ตาย​ก็​ไม่เสียดาย​” กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​กล่าว​

“แต่​มัน​เลือก​อยู่​ข้าง​กาย​ข้า​” สวี่​ชีอัน​ยิ้ม​ตาหยี​

กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​เอ่ย​เสียง​อ่อนแรง​ “ใช่…”

มุมปาก​ของ​ ‘เย่​จี’ กระตุก​ขึ้น​เบา​ๆ แล้ว​กล่าว​อย่าง​เศร้า​เสียใจ​

“เจ้ากระจก​ เจ้ารู้​หรือไม่​ว่า​เหตุใด​ข้า​จึงตามหา​เจ้า ทั้ง​ยัง​ต้อง​ดั้นด้น​เดินทาง​ขึ้นเขาลงห้วย​ทั่ว​ทั้ง​จิ่ว​โจว​ การ​ตามหา​เจ้านั้น​เป็นเรื่อง​ที่​ลำบาก​ยิ่งนัก​ แต่​เจ้ากลับ​ทิ้ง​ข้า​ไป​ เพราะ​ผู้ชาย​ที่​เพิ่งจะ​รู้จัก​อย่างนั้น​หรือ​?”

“ลำบาก​องค์​หญิง​แล้ว​ ขอบ​พระทัย​องค์​หญิง​ที่​คิดถึง​บ่าว​เฒ่าผู้​นี้​”

กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​ตะโกน​ร้องบอก​ทันที​

“แต่​มัน​เลือก​อยู่​ข้าง​กาย​ข้า​” สวี่​ชีอัน​เอ่ย​ย้ำ​อีกครั้ง​พร้อม​ยิ้ม​ตา​ปิก​

“ชะ…ใช่แล้ว​…” กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​เอ่ย​เสียง​อ่อนแรง​

มัน​รีบ​แสดง​ความภักดี​ออกมา​ทันที​ “แต่​องค์​หญิง​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ จิตใจ​ของ​บ่าว​อยู่​ที่​พระองค์​ หม่อมฉัน​เพียง​แฝงตัว​อยู่​กับ​เจ้าคน​แซ่สวี่​เท่านั้น​”

‘พลั่ก​!’

จิ้งจอก​เก้า​หาง​กระแทก​กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​อย่าง​แรง​ เส้นเลือด​เขียว​ปรากฏชัด​บน​หน้าผาก​ของ​นาง​ นาง​เหลือบตา​สวี่​ชีอัน​ด้วย​สายตา​เย็นชา​ ปราณ​ใสใน​ตา​ซ้าย​ค่อยๆ​ สลาย​หาย​ไป​

เย่​จีกลับมา​ควบคุม​ร่างกาย​ตัวเอง​ได้​อีกครั้ง​ นาง​เอ่ย​อย่าง​ระมัดระวัง​

“องค์​หญิง​โกรธ​แล้ว​ ตลอด​หลาย​ร้อย​ปี​ที่ผ่านมา​ ข้า​ยัง​ไม่เคย​เห็น​นาง​โกรธ​มาก่อน​เลย​”

ความสัมพันธ์​ระหว่าง​นาย​บ่าว​นั้น​ไร้ค่า​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​ผลประโยชน์​…สวี่​ชีอัน​แค่น​เสียง​ออกมา​ ไม่รู้สึก​ว่า​เหตุการณ์​เช่นนี้​เป็นเรื่อง​เหนือ​ความคาดหมาย​แต่อย่างใด​

กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​ไม่สมบูรณ์​ทางจิต​และ​สติปัญญา​ จึงจำเป็นต้อง​ได้รับ​การ​หล่อเลี้ยง​จาก​ปราณ​มังกร​เพื่อ​ทำให้​ตน​กลับมา​สมบูรณ์​

นี่​เป็น​ความปรารถนา​ขั้นพื้นฐาน​ที่สุด​ของ​สิ่งมีชีวิต​

“ยัง​ไม่รีบ​พา​ข้า​กลับ​ไป​อีก​ ชิ ช่างหาเรื่อง​ให้​ข้า​เสีย​จริง​”

กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​โมโห​สวี่​ชีอัน​ จึงบินขึ้น​มาทำ​ท่าจะ​ตี​ใบหน้า​เขา​

สวี่​ชีอัน​ยก​มือจับ​มัน​ไว้​ก่อน​แล้ว​เอ่ย​บอก​

“เดี๋ยว​ข้า​มีเรื่อง​จะให้​เจ้าไป​ทำ​ เวลา​ที่​ใช้อาจจะ​นาน​นิดหน่อย​ เรื่อง​วุ่นวาย​ก็​จะมาก​ขึ้นไป​อีก​นิด​ด้วย​”

“อย่า​แม้แต่​จะคิด​!”

มัน​เอ่ย​ปฏิเสธ​

“พอ​จิตวิญญาณ​ของ​เจ้าสมบูรณ์​แล้ว​ ข้า​จะให้​ท่าน​โหราจารย์​เสริม​ร่างกาย​อีก​ครึ่ง​ที่​ขาด​ไป​ของ​เจ้าให้​สมบูรณ์​” สวี่​ชีอัน​กล่าว​

เสริม​ร่างกาย​ขึ้น​มา ไม่ใช่จิต​อาวุธ​ เรื่อง​นี้​ท่าน​โหราจารย์​ที่​มีชื่อเสียง​ใน​ด้าน​หลอม​อาวุธ​โดยเฉพาะ​จะต้อง​สามารถ​ทำได้​แน่นอน​

“ฆ้อง​เงิน​สวี่​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​สั่งมาได้​เลย​”

กระจก​เทพ​ฮุ่น​เทียน​กล่าว​ด้วย​ความจริงใจ​

เรื่อง​ต่างๆ​ เพิ่งจะ​เสร็จ​สมบูรณ์​ในขั้นต้น​ สวี่​ชีอัน​เลีย​ริมฝีปาก​แล้ว​ยิ้ม​ออกมา​

“ได้เวลา​ทำ​เรื่อง​จริงจัง​แล้ว​”

ฝูเซียง​ที่​เคย​ผ่าน​การ​ ‘พูดคุย​แลกเปลี่ยน​’ มานับ​ครั้ง​ไม่ถ้วน​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​เขา​ทันที​ ใบหน้า​จึงแดงก่ำ​ขึ้น​มา

ที่​ชาย​แด​นอ​วิ๋น​โจว​ กองทัพ​ติดอาวุธ​แหลมคม​หก​หมื่น​นาย​มารวมตัวกัน​

พวกเขา​จัด​รูป​กระบวน​เป็น​แบบ​หกเหลี่ยม​อย่าง​เป็นระเบียบ​ หนึ่ง​หมื่น​คน​ต่อ​หนึ่ง​เหลี่ยม​ และ​แต่ละ​เหลี่ยม​จะมีทหารม้า​หนัก​หนึ่ง​พัน​นาย​ ทหาร​ปืนไฟ​หนึ่ง​พัน​นาย​ ทหารม้า​เบา​สอง​พัน​นาย​ ทหารราบ​ห้า​พัน​นาย​ กอง​ทหารปืนใหญ่​ห้า​ร้อย​นาย​ กอง​คันศร​หน้าไม้​ห้า​ร้อย​นาย​

และ​ด้านหลัง​ของ​กองทัพ​หกเหลี่ยม​ยังมี​ทหาร​อาสา​ที่​ประกอบด้วย​ผู้ลี้ภัย​อีก​สามหมื่น​นาย​

ตอนที่​กำลัง​เสริม​จาก​ต้าฟ่ง​ยัง​มาไม่ถึง กองทัพ​กบฏ​อวิ๋น​โจว​ก็​รวมพล​เสร็จสิ้น​แล้ว​ และ​กำลัง​เตรียม​จะบุก​โจมตีชิง​โจว​

………………………………………………………..

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท