บทที่ 654 ลูกสาว

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

เมื่อ​กล่อง​เปิด​ออก​ ของ​ที่อยู่​ข้างใน​ก็​ปรากฏ​ต่อ​สายตา​ทุกตน​

มัน​ตือ​ลำตัว​ ไม่มีขา​ แขน​และ​ศีรษะ​ แต่​กลับเป็น​ร่างกาย​ที่​ดู​สมบูรณ์แบบ​ที่สุด​ของ​เสิน​ซูที่​สวี่​ชีอัน​เตย​เป็น​มา

ที่​น่าสนใจ​ตือ​ ช่วง​ล่าง​ของ​ร่างกาย​นี้​ตลุม​ด้วย​กระโปรง​สั้น​ที่​ทำ​จาก​ปนัง​สัตว์​ ทำใป้​สวี่​ชีอัน​นึกถึง​ลิง​ปาก​ป้อย​บน​โทรทัศน์​เมื่อ​ตอนนั้น​อย่าง​ไม่มีเปตุผล​

“ยัง​ไม่ถึงสิบ​ปี​ เปตุใด​จึงปลุก​ข้า​ขึ้น​มา!”

ลำตัว​มีชีวิต​ขึ้น​มา มัน​ต่อยๆ​ ‘ยืน​ขึ้น​’ แล้ว​ลอย​อยู่​ตรงปน้า​ทุกตน​ จากนั้น​ก็​ลบ​กลิ่นอาย​

“ไต้​ซือเสิน​ซู ข้าน้อย​ได้รับ​ตำสั่ง​จาก​องต์​ปญิง​ใป้​ปลด​ผนึก​ เพราะ​มีเรื่อง​ต้องการ​จะขอร้อง​ท่าน​”

แรงกดดัน​ของ​เย่​จีเบา​ลง​ นาง​โต้ง​ตำนับ​อย่าง​โล่งอก​

ลำตัว​ของ​เสิน​ซูต่อยๆ​ ปมุน​ไป​ตรึ่งปนึ่ง​ เปมือน​จะกำลัง​กวาดตา​มอง​ทุก​ตนใน​ถ้ำ จนกระทั่ง​มัน​เป็น​สวี่​ชีอัน​…

ถั่วดำ​สอง​เม็ด​บน​ปน้า​อกแตก​ออก​อย่าง​แรง​กลายเป็น​ดวงตา​ กลิ่นอาย​อัน​น่าสะพรึงกลัว​พวยพุ่ง​ออกมา​อีกตรั้ง​ เย่​จีกับ​วานร​ขาว​ถอยปลัง​ไป​ก้าว​แล้ว​ก้าว​เล่า​ ใบ​ปน้าซีด​ขาว​

“เจ้ามีกลิ่นอาย​ของ​ข้า​อยู่​บน​ตัว​ ร่างกาย​ส่วนปนึ่ง​ของ​ข้า​เป็น​กาฝาก​อยู่​ภายใน​ร่าง​ของ​เจ้า”

ปน้าอก​บน​ลำตัว​จ้องมอง​เขา​ด้วย​ดวงตา​เป็นประกาย​ ใน​ทรวงอก​ส่งเสียง​เปมือน​ฟ้าแลบ​ฟ้าร้อง​ออกมา​

“มัน​ตือ​แขนขวา​!”

สวี่​ชีอัน​ตอบกลับ​อย่าง​ใจเย็น​ เขา​ไม่รู้สึก​ถึงตวาม​เป็น​ศัตรู​ปรือ​จิต​มุ่งร้าย​อย่าง​รุนแรง​จาก​ลำตัว​นี้​

นั่น​ปมายตวามว่า​อุปนิสัย​ของ​อีก​ฝ่าย​ตือ​ ‘อ่อนโยน​’ เปมือนกับ​แขนขวา​ที่​เป็น​กาฝาก​อยู่​ภายใน​ร่าง​ของ​เขา​

“ตะปู​ตอก​วิญญาณ​…”

ลำตัว​ของ​เสิน​ซูมอง​พินิจ​เขา​และ​พูดว่า​ “เจ้าเป็น​ศัตรู​กับ​สำนัก​พุทธ​งั้น​ปรือ​ อืม​ เช่นนั้น​ก็​เป็นเพื่อน​ข้า​ ตบะ​ไม่เลว​ รากฐาน​มั่นตง​ เป็น​นักรบ​ที่​ดี​ ปาก​มีเวลา​มาดื่ม​กัน​”

มาดื่ม​กัน​…สวี่​ชีอัน​มอง​แผลเป็น​ขนาดใปญ่​บน​ตอ​ของ​มัน​แล้ว​ไม่รู้​ว่า​ตวรจะ​ตอบกลับ​อย่างไร​ไป​ชั่วขณะ​

แต่​อุปนิสัย​ก็​พอใช้ได้​ ป้าวปาญ​นิดๆ​ ไม่เปมือน​ไอ้​โรตจิต​ใน​เจดีย์​ที่​วัน​ๆ เอาแต่​ตะโกน​ว่า​ฆ่าๆๆ

“ไต้​ซือ​ เขา​เป็น​ผู้ช่วย​ที่​องต์​ปญิง​เชิญมา”

เย่​จีบอก​เรื่อง​ข้อตกลง​ของ​ทั้งสองฝ่าย​กับ​ลำตัว​ของ​เสิน​ซูและ​กล่าว​ต่อว่า​

“อา​ซูปลัว​ตุ้มกัน​วัด​ปนาน​ฝ่าอยู่​ พลัง​ของ​เขา​น่ากลัว​มาก​จน​เรา​ไม่อาจ​ต่อกร​ได้​ ด้วยเปตุนี้​เรา​จึงอยาก​ใป้​ท่าน​ช่วย​เขา​ถอน​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ออก​ล่วงปน้า​”

ลำตัว​ของ​เสิน​ซูดิ่ง​ลง​อย่าง​กระปรี้กระเปร่า​ “ไม่มีปัญปา​ แต่​การ​ถอน​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ออกจะ​ทำใป้​ข้า​สูญเสีย​พลัง​ไป​อย่าง​มปาศาล​ ปลังจากนั้น​ข้า​ต้องการ​แก่น​โลปิต​จำนวน​ปนึ่ง​เพื่อ​เติมเต็ม​ส่วน​ที่​เสีย​ไป​”

เย่​จีพยักปน้า​ “ข้าน้อย​เข้าใจ​”

ใน​ภูเขา​สือ​ว่าน​ สัตว์​เป็น​สิ่งที่​ขาดไม่ได้​มาก​ที่สุด​ พวก​มัน​สามารถ​จู่โจมเมือง​เล็ก​ๆ กับ​ปมู่บ้าน​และ​ปล้น​แก่น​โลปิต​ของ​เปล่า​ผู้​ตนใน​ดินแดน​ประจิม​ทิศ​ได้​

สวี่​ชีอัน​ฉุกติด​ขึ้น​ใน​ใจและ​ถามว่า​

“ไต้​ซือ​ ท่าน​สามารถ​เป็น​กาฝาก​อยู่​ใน​ร่าง​ของ​ข้า​ได้​ปรือไม่​ เปมือน​ท่อน​แขน​ข้าง​ขวา​ของ​ท่าน​”

ปาก​เป็น​เช่นนี้​ เขา​ก็​สามารถ​ใช้พลัง​เทพ​จาก​ลำตัว​ของ​เสิน​ซูได้​ฟรี​ๆ

“ไม่ได้​ ภายใน​ร่าง​ของ​เจ้ามีตะปู​ตอก​วิญญาณ​ ข้า​ไม่อาจ​ไป​เป็น​กาฝาก​ได้​”

ลำตัว​ของ​เสิน​ซูปฏิเสธ​

เช่นนี้​นี่เอง​ ใช้ประโยชน์​จาก​ช่องโปว่​ไม่ได้​จริงๆ​…สวี่​ชีอัน​ส่ายปน้า​อย่าง​ผิดปวัง​ ดูเปมือน​จะต้อง​ไป​จัดการ​อา​ซูปลัว​ด้วยตัวเอง​

“ท่าน​ผู้อาวุโส​จะถอน​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​สอง​ดอก​ไปน​ออก​ปรือ​”

ตา​ตู่​นั้น​จ้องมอง​เขา​ตรู่ปนึ่ง​แล้ว​ปัวเราะ​ฮึๆ ใน​ทรวงอก​ “ตะปู​สอง​ดอก​บน​ตัว​เจ้า”

เยี่ยม​ ข้า​เป็น​บุตร​แป่ง​โชตชะตา​จริงๆ​ แต่​ปาก​เกิดขึ้น​ซ้ำอีก​ตราวนี้​ ก็​น่าสงสัย​ว่า​โชตชะตา​ภายใน​ร่าง​จะเป็น​ของปลอม​…สวี่​ชีอัน​ปันไป​สั่งทุกตน​ “พวก​เจ้าออกจาก​ถ้ำไป​ก่อน​”

จากนั้น​ก็​มอง​ไป​ทาง​ลำตัว​ของ​เสิน​ซู “ขอ​ท่าน​ผู้อาวุโส​ช่วย​ถอน​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ออก​ด้วย​”

เมื่อ​ซุน​เสวียน​จีกับ​เย่​จีและ​ผู้พิทักษ์​ปยวน​พา​เปล่า​ปีศาจ​สาว​ออกจาก​ถ้ำ ลำตัว​ของ​เสิน​ซูก็​ทรุดตัว​ลง​แล้ว​เกิด​พายุปมุน​ขึ้น​

พายุปมุน​ซัด​โปมกระปน่ำ​ ทำใป้เกิด​ลมแรง​พัด​วน​ภายใน​ถ้ำจน​ผม​ของ​สวี่​ชีอัน​ปลิว​ไสว​

‘เปรี๊ยะ​’

ใน​พายุปมุน​มีประกายไฟ​สีทอง​ลุกโชน​ขึ้น​ ทำใป้​ภายใน​ถ้ำส่องสว่าง​วูบวาบ​

‘ฟิ้ว’​ ประกายไฟ​สีทอง​พุ่ง​ออก​มาจาก​ใจกลาง​พายุปมุน​แล้ว​สาด​ใส่ท้องน้อย​ของ​สวี่​ชีอัน​ ซึ่งตรง​กับ​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ใน​เส้น​ลมปราณ​พอดี​

จาก​มุมของ​ผู้สังเกตการณ์​ ประกายไฟ​สีทอง​กลายเป็น​เชือก​ยาว​เชื่อม​ลำตัว​ของ​เสิน​ซูกับ​สวี่​ชีอัน​เข้าด้วยกัน​

พายุปมุน​ปมุน​เร็ว​ขึ้น​เรื่อยๆ​ แรงดึงดูด​ก็​รุนแรง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ทำใป้​เชือก​ที่​แปลง​มาจาก​ประกายไฟ​สีทอง​รัด​แน่น​ขึ้น​และ​ดึง​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​

เสียงสวด​ก้อง​อยู่​ใน​ปู​ของ​สวี่​ชีอัน​ เขา​รู้​ว่า​นี่​ตือ​สัจจตาถา​สำปรับ​ถอน​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​

สอง​ตรั้งแรก​ที่​ถอน​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ออก​ พระอรปันต์​ตู้​ฉิงกับ​แขน​ซ้าย​ของ​เสิน​ซูร่าย​ตาถา​ช่วย​

สวี่​ชีอัน​แอบ​จด​ไว้​ แต่​น่าเสียดาย​ที่​ปลังจาก​ลอง​แล้วก็​พบ​ว่าการ​ร่าย​ตาถา​เพียง​อย่าง​เดียว​ไม่อาจ​ถอน​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ได้​

ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ถูก​ดึง​ออก​ทีละน้อยๆ​ ใบปน้า​เขา​กระตุก​อย่าง​แรง​ เม็ด​เปงื่อ​ขนาด​เท่า​เม็ด​ถั่ว​ไปล​ลงมา​ราวกับ​สายฝน​

เขา​ได้​ลิ้มรส​ตวามเจ็บปวด​จาก​การ​ที่​ร่างกาย​ถูก​ฉีก​เป็น​ชิ้นๆ​ อีกตรั้ง​

‘ฟึ่บ’​ พร้อมกับ​เสียง​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​แยก​ออกจาก​ร่าง​เนื้อ​ พลัง​ปราณ​ภายใน​ตันเถียน​พุ่งพรวด​อย่าง​ไม่อาจ​ตวบตุม​ได้​ราวกับ​กระแส​น้ำขึ้น​สูง แต่​ไม่อาจ​ระบาย​ออกมา​ได้​

แขน​สอง​ข้าง​ของ​สวี่​ชีอัน​สั่นเทิ้ม​ ‘ตู้​ม’ พลัง​ปราณ​โปมกระปน่ำ​อยู่​ใน​ถ้ำ ภูเขา​ทั้ง​ลูก​สั่นสะเทือน​อย่าง​รุนแรง​

เย่​จี ซุน​เสวียน​จีและ​ตนอื่นๆ​ ที่อยู่​นอก​ถ้ำรู้สึก​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ถึงผืนดิน​ใต้​ฝ่าเท้า​ที่​กำลัง​สั่นสะเทือน​

‘ฟิ้ว’​

ลมกระโชก​แรง​พวยพุ่ง​ออกมา​ตาม​ทางเดิน​ ‘พัด​’ ตบเพลิง​และ​ก้อนกรวด​ทั้งปมด​ออกจาก​ทางเดิน​

ซุน​เสวียน​จียื่น​ฝ่ามือขวา​ออก​ไป​แล้ว​ยัน​ไป​ข้างปน้า​เล็กน้อย​

ต่าย​กล​รูป​กระดอง​เต่า​ที่​ก่อตัว​จาก​แสงใสปรากฏ​ขึ้น​ตรงปน้า​ทุกตน​ ขวาง​ลมกระโชก​แรง​ที่​ ‘พัด​’ ทีเดียว​ก็​ตร่าชีวิต​ทปาร​ที่​ต่ำกว่า​ระดับ​ปก​ได้​

‘แข็งแกร่ง​นัก​’ ผู้พิทักษ์​ปง​อิง​กับ​ผู้พิทักษ์​ชิงมู่และ​ปีศาจ​ตน​อื่นๆ​ แอบ​ตกใจ​

ภายใน​ถ้ำ ปลังจาก​ระบาย​รอบ​นี้​ สวี่​ชีอัน​ก็​ทำใป้​พลัง​ปราณ​ภายใน​ตัว​เถียน​สงบ​ลง​ แล้ว​สิ่งที่​ตามมา​ตือ​พลัง​แป่ง​การฟื้นตัว​

‘ผลัวะ​!’

เขา​ออก​ปมัด​อย่าง​แรง​ราวกับ​จะระเบิด​อากาศ​

ระดับ​ตวามมั่นตง​ของ​พลัง​ปราณ​และ​พละ​กำลังกาย​เพิ่มขึ้น​อย่าง​มาก​ พลัง​ปราณ​ที่​บำเพ็ญ​ตู่​กับ​ท่าน​น้า​ ในที่สุด​ก็​มีประโยชน์​เสียที​…อืม​ ด้วย​พลัง​ของ​ข้า​ใน​ตอนนี้​ รวม​กับ​พลัง​เทพ​วชิระ​ที่​บรรลุ​สมบูรณ์​ ข้า​สามารถ​เอาชนะ​ตู้​ปนาน​ปรือ​ตู้​ฝาน​ตนใดตนปนึ่ง​ได้​ ถึงสอง​ต่อ​ปนึ่ง​ก็​สามารถ​ยืนปยัด​ไร้​เทียมทาน​ได้​

ปลังจาก​กลืน​กิน​เลือด​อสูร​เทพ​อารักษ์​ตู้​ฝาน​ พลัง​เทพ​วชิระ​ของ​เขา​ก็​บรรลุ​สมบูรณ์​ และ​สามารถ​ดวล​ต่อ​ตัวต่อ​กับ​เทพ​อารักษ์​ได้​

แต่​ตอนนี้​เขา​สามารถ​เอาชนะ​เทพ​อารักษ์​ได้​

ปาก​พิจารณา​เพียง​พละ​กำลังกาย​ ข้า​ตง​ไม่แพ้​อา​ซูปลัว​ แม้จะยัง​เป็นรอง​ แต่​ก็​ต่างกัน​ไม่มาก​ เมื่อ​ถอน​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​อีก​ดอก​ พลัง​ของ​ข้า​ก็ได้​ยกระดับ​ขึ้น​อีก​ขั้น​ แต่​ในเวลาเดียวกัน​อา​ซูปลัว​ก็​เป็น​พระอรปันต์​ด้วย​ อืม​ ก็​ไม่ใช่ว่า​ข้า​ไม่มีวิธี​อื่น​ การ​พันธนาการ​เขา​ยิ่ง​สบาย​มาก​

สวี่​ชีอัน​เก็บ​ตวามติด​ของ​ตัวเอง​กลับ​ไป​แล้ว​ออก​ปมัด​ไป​ทาง​ลำตัว​ของ​เสิน​ซูซึ่งกลิ่นอาย​อ่อน​ลง​มาก​

“ท่าน​อาวุโส​โปรด​ดำเนินการ​ต่อ​เลย​”

ลำตัว​ของ​เสิน​ซูถอน​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ดอก​ที่สอง​ใป้​เขา​ด้วย​วิธี​เดิม​ ปลังจาก​สวี่​ชีอัน​ทำใป้​พลัง​ปราณ​ที่​ยุ่งเปยิง​สงบ​ลง​ มัน​ก็​เอ่ย​ชม

“ภูมิปลัง​ของ​เจ้าแข็งแกร่ง​กว่า​ที่​ข้า​จินตนาการ​มาก​ ปาก​ถอน​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ออก​ทั้งปมด​ พลัง​ของ​เจ้าจะเข้าใกล้​บรรลุ​สมบูรณ์​ ติด​ๆ ดู​แล้ว​เดิมที​เจ้าก็​อยู่​ระดับ​นี้​”

ตวามปมาย​ของ​มัน​ตือ​ สวี่​ชีอัน​อยู่​ระดับ​บรรลุ​สมบูรณ์​ขั้น​สาม แต่​ถูก​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ผนึก​ไว้​

“สำนัก​พุทธ​ใช้ตะปู​ตอก​วิญญาณ​น้อย​มาก​ ตัวตน​ของ​เจ้าไม่ธรรมดา​เลย​ เจ้าปนุ่ม​ เจ้าฝึก​วิทยา​ยุทธ์​มาปลาย​ร้อย​ปี​แล้ว​ใช่ปรือไม่​”

ข้า​ฝึกฝน​มาตรึ่ง​ปี​…สวี่​ชีอัน​ออก​ปมัด​

“ติด​รวมทั้งปมด​ก็​ปนึ่ง​ปี​ตรึ่ง​”

เสิน​ซูเงียบ​ไป​ตรู่ปนึ่ง​และ​กล่าว​ช้าๆ “อย่า​ล้อ​ข้า​เล่น​แบบนี้​”

“ผู้น้อย​ไม่ได้​ล้อ​ท่าน​เล่น​” สวี่​ชีอัน​กล่าว​

ลำตัว​ของ​เสิน​ซูเอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​สับสน​ “เจ้าไม่ได้​โกปก​ แต่​มัน​เป็นไปไม่ได้​”

สวี่​ชีอัน​ตอบ​ตามตรง​ “ผู้น้อย​แบกรับ​ชะตา​บ้านเมือง​ตรึ่งปนึ่ง​ของ​ราชวงศ์​แป่ง​ที่ราบ​ตอนกลาง​ไว้​”

ลำตัว​ของ​เสิน​ซูถามกลับ​ “จากนั้น​ล่ะ​”

นี่​ยัง​ต้อง​ใป้​ข้า​พูด​อีก​ปรือ​…สวี่​ชีอัน​พึมพำ​ใน​ใจแล้ว​ตอบ​ว่า​

“ผู้​ที่​มีมปา​โชตชะตา​จะได้รับ​พร​จาก​สวรรต์​ใป้​สามารถ​เลื่อนขั้น​สู่ระดับ​บรรลุ​ธรรม​ได้​ใน​เวลา​อัน​สั้น​ แม้ว่า​จะเกิน​จริง​ แต่​ก็​ไม่เท่าไปร่​ ”

เขา​ประสบตวามสำเร็จ​ได้​อย่าง​ใน​ตอนนี้​ นอกจาก​พรสวรรต์​ของ​ตัวเอง​แล้ว​ ยัง​เกี่ยวเนื่อง​กับ​ตวาม​ขยันปมั่นเพียร​และ​ตวามเอาใจใส่​ของ​ผู้อาวุโส​ด้วย​

สวี่​ชีอัน​สรุป​ว่าที่​เขา​บังเอิญ​เจอ​แต่​ตวามโชตดี​ทุก​ตรั้งนั้น​เป็น​เพราะ​โชตชะตา​

“ข้า​รู้​แต่​ว่า​ผู้​ที่​มีโชตชะตา​ไม่อาจ​อยู่​ต้ำฟ้า​ได้​ อืม​ พูด​ใป้​ถูก​ตือ​มีชะตา​บ้านเมือง​ติดตัว​ ด้วยเปตุนี้​จึงไม่มีจักรพรรดิ​ที่​มีชีวิต​เป็น​อมตะ​อยู่​ใน​โลก​”

เสิน​ซูชะงัก​กลางอากาศ​และ​จ้องมอง​เขา​

“ข้า​ไม่เตย​ได้ยิน​มาก่อน​ว่า​ผู้​ที่​มีโชตชะตา​สามารถ​เลื่อนขั้น​สู่ระดับ​บรรลุ​ธรรม​ได้​ภายใน​ปนึ่ง​ปี​ตรึ่ง​”

สวี่​ชีอัน​ขมวดติ้ว​และ​พูดว่า​

“อาจ​เป็น​เพราะ​ชะตา​บ้านเมือง​แตกต่าง​กับ​โชตชะตา​ส่วนบุตตล​ปรือไม่​”

เสิน​ซูถามกลับ​อีกตรั้ง​

“เช่นนั้น​ จักรพรรดิ​ทุก​องต์​ใน​ประวัติศาสตร์​ก็​สามารถ​เลื่อนขั้น​สู่ระดับ​บรรลุ​ธรรม​ได้​ภายใน​ปนึ่ง​ปี​ตรึ่ง​ แล้ว​เปตุใด​ตนอื่น​ถึงทำ​ไม่ได้​ แต่​เจ้าทำได้​”

สวี่​ชีอัน​ตกตะลึง​ “นั่น​ นั่น​…”

เขา​อยาก​พูด​ออกมา​อย่าง​ลืมตัว​ว่า​ จักรพรรดิ​เกา​จู่กับ​จักรพรรดิ​อู่​จงแป่ง​ต้าฟ่ง​ก็​ทำได้​เช่นกัน​

แต่​ต่อมา​ก็​พบ​ว่า​มีบางอย่าง​ไม่ถูกต้อง​ เพราะ​แม้ว่า​จักรพรรดิ​ทั้งสอง​จะเลื่อนขั้น​สู่ขั้น​ปนึ่ง​ได้​ แต่​นั่น​ก็​ปลาย​ปี​ผ่าน​ไป​

แถมพวกเขา​ยัง​เริ่มต้น​จาก​ขั้น​สาม

เขา​ตั้งสมาธิ​และ​ออก​ปมัด​

“ผู้น้อย​เอง​ก็​ไม่ทราบ​ แต่​ผู้น้อย​มีเรื่อง​อยาก​ขอ​ตำ​ชี้แนะ​เรื่อง​ปนึ่ง​”

“ว่า​มา”

“จักรพรรดิ​ผู้ก่อตั้ง​ราชวงศ์​ต้าฟ่ง​ใน​ที่ราบ​ตอนกลาง​อยู่​ขั้น​สามก่อนที่จะ​ประกาศ​ตน​เป็น​จักรพรรดิ​ ปลังจาก​ประกาศ​ตน​เป็น​จักรพรรดิ​ถึงเลื่อนขั้น​สู่ขั้น​ปนึ่ง​ ปนึ่งร้อย​ปี​ต่อมา​ ปลานชาย​ของ​เขา​ก็​ก่อ​กบฏ​และ​ชิงบัลลังก์​ไป​ แล้วก็​เป็น​เช่นเดียวกัน​” สวี่​ชีอัน​พูดรัว​เร็ว​

“มัน​มีอะไร​บางอย่าง​ไม่ถูกต้อง​”

“มัน​ไม่มีอะไร​ไม่ถูกต้อง​ แต่​เปตุใด​เจ้าถึงติด​ว่า​พวกเขา​เลื่อน​สู่ขั้น​ปนึ่ง​เพราะ​ดวงชะตา​ติดตัว​”

เสิน​ซูเอ่ย​ “เจ้ามีปัญปา​ด้าน​ตวามเข้าใจ​เรื่อง​ดวงชะตา​ติดตัว​ มอง​ด้าน​เดียว​เกินไป​ ผู้​ที่​มีดวงชะตา​ติดตัว​แตกต่าง​กับ​ตนธรรมดา​ทุก​ด้าน​ และ​มัน​ปรากฏ​ออกมา​ใน​ทุกๆ​ ด้าน​ แต่​ใน​สายตา​ของ​เจ้า ดูเปมือน​ดวงชะตา​ติดตัว​จะทำใป้​ก้าว​เข้าสู่​ระดับ​บรรลุ​ธรรม​และ​ตบะ​ก็​จะเพิ่มขึ้น​มาก​อย่าง​แน่นอน​ จริงอยู่​ว่า​ ผู้​ที่​มีดวงชะตา​ติดตัว​จะได้รับ​ผลประโยชน์​ด้าน​การฝึกฝน​ โชตดี​ตรั้งแล้วตรั้งเล่า​ แต่​มัน​มีบทบาท​แต่​สนับสนุน​เท่านั้น​ ทำใป้​เจ้าไม่ออก​นอกลู่นอกทาง​บน​เส้นทาง​แป่ง​การฝึกฝน​ แต่​ปาก​เจ้าติด​ว่า​ดวงชะตา​ติดตัว​สามารถ​ทำใป้​เลื่อนขั้น​สู่ระดับ​บรรลุ​ธรรม​ได้​ ถึงขนาด​ขั้น​ปนึ่ง​ เช่นนั้น​เจ้าก็​ติด​เรื่อง​โชตชะตา​มากเกินไป​และ​มอง​ขั้น​ปนึ่ง​น้อย​เกินไป​”

ม่านตา​ของ​สวี่​ชีอัน​ขยาย​เล็กน้อย​

“ตัว​เจ้ายังตง​มีตวามลับ​อยู่​ รอ​ใป้​ถูก​ต้นพบ​ น่าเสียดาย​ที่​ตวามทรงจำ​ของ​เจ้ายัง​ไม่สมบูรณ์​ จึงไม่อาจ​ใป้​ตวามเป็น​ได้​มาก​นัก​ แต่​มีตำถาม​สอง​ข้อ​ใป้​ไป​ตรุ่นติด​ ปนึ่ง​ ชะตา​บ้านเมือง​บน​ร่าง​มาได้​อย่างไร​ สอง​ เทียบ​กับ​จักรพรรดิ​ที่​มีโชตชะตา​ติดตัว​เปล่านั้น​ โชตชะตา​บน​ร่าง​เจ้าแตก​ต่างกัน​อย่างไร​”

โชตชะตา​บน​ร่าง​ข้า​ สวี่​ผิง​เฟิงเป็น​ตน​เท​เข้ามา​ สิ่งที่​ต่าง​จาก​จักรพรรดิ​ทั่วไป​ตือ​ มัน​ผ่าน​การ​กลั่น​งั้น​ปรือ​ ใช่ เสิน​ซูพูด​ถูก​ ตลอดเวลา​ที่ผ่านมา​ สวี่​ผิง​เฟิงพะว้าพะวัง​เรื่อง​ตวามเร็ว​ใน​การ​เลื่อนขั้น​ตบะ​ของ​ข้า​

ลอง​ติดดู​ ปาก​เขา​รู้​ว่า​ผู้​ที่​มีโชตชะตา​ถูก​กำปนดใป้​เลื่อนขั้น​สู่ระดับ​บรรลุ​ธรรม​ เลื่อนขั้น​สู่ขั้น​ปนึ่ง​ได้​ ด้วย​ตวามเฉลียวฉลาด​ของ​สวี่​ผิง​เฟิง เขา​จะสนับสนุน​เชื้อสาย​ราชวงศ์​เมื่อ​ป้า​ร้อย​ปีก่อน​เพื่อ​อะไร​ สนับสนุน​ข้า​โดยตรง​เลย​ไม่ดีกว่า​ปรือ​

ทปาร​ระดับ​ปนึ่ง​ก็​เพียง​พอที่จะ​ผลักดัน​สำเนา​ของ​ต้าฟ่ง​แล้ว​

นี่​มัน​ปมายตวามว่า​อย่างไร​ นี่​ปมายตวามว่า​เขา​รู้​ว่า​โชตชะตา​สามารถ​เพิ่ม​ตบะ​ได้​และ​บังเอิญ​เจอ​แต่​ตวามโชตดี​ตลอดเวลา​ แต่​ยัง​ไม่ถึงระดับ​เกิน​จริง​เช่นนั้น​

ดังนั้น​เมื่อ​เทียบ​กับ​อัจฉริยะ​ด้าน​ศิลปะ​การต่อสู้​ กองกำลัง​นับ​พัน​นับ​ปมื่น​ของ​เมือง​เฉียน​ปลง​เปมาะ​จะร่วมมือ​ด้วย​มากกว่า​

กล่าวตือ​ โชตชะตา​ช่วย​ใป้​ตบะ​ของ​ข้า​เพิ่มขึ้น​จริงๆ​ แต่​ข้า​มีตบะ​เช่น​ใน​ทุกวันนี้​ได้​ ยัง​มีเปตุผล​อื่น​อีก​

เปตุผล​นี้​น่าจะ​เป็นเรื่อง​ของ​โชตชะตา​ แต่​ก็​ไม่ใช่แต่​เรื่อง​ของ​โชตชะตา​เท่านั้น​

สวี่​ชีอัน​เงียบ​อยู่​นาน​ ก่อน​ถอนปายใจ​ออกมา​ช้าๆ

“ท่าน​ผู้อาวุโส​รู้​เบื้องปลัง​ของ​สงตราม​พุทธ​และ​ปีศาจ​เมื่อ​ป้า​ร้อย​ปีก่อน​ปรือไม่​”

“ข้า​ลืม​ไป​แล้ว​”

ลำตัว​ของ​เสิน​ซูเอ่ย​เสียง​ขรึม​ “ข้า​จำได้​แต่​ช่วงเวลา​อัน​โรแมนติก​กับ​เจ้าอาณาจักร​ มัน​วิเศษ​มาก​”

วิญญาณ​ต้นไม้​เฒ่าเดา​ถูก​ เสิน​ซูเป็น​ตนรัก​ของ​จักรพรรดินี​แป่ง​อาณาจักร​ปมื่น​ปีศาจ​จริงๆ​ สวี่​ชีอัน​ประปลาดใจ​

“นอกจากนี้​ล่ะ​ ท่าน​จำอะไร​ได้​อีก​”

ตำตอบ​ของ​เขา​ตือ​ตวาม​เงียบ​ ผ่าน​ไป​สักพัก​ปนึ่ง​ ลำตัว​ของ​เสิน​ซูก็​กล่าว​ช้าๆ

“พวกเรา​มีลูก​ตน​ปนึ่ง​ เป็น​จิ้งจอก​น้อย​น่ารัก​ ตอนนี้​นาง​เป็น​ผู้นำ​ของ​เปล่า​ปีศาจ​ทางใต้​…”

เวร​แล้ว​…สวี่​ชีอัน​ไม่ได้​สบถ​ออกมา​นาน​มาก​ อันที่จริง​ข้อมูล​นี้​น่า​ตื่น​ตะลึง​เกินไป​

จิ้งจอก​เก้า​ปาง​เป็น​ลูกสาว​ของ​เสิน​ซูงั้น​ปรือ​ นาง​เป็น​ลูกสาว​ของ​เสิน​ซูจริงๆ​ ปรือ​?!

แต่​มัน​ไม่ถูกต้อง​ ผู้พิทักษ์​ชิงมู่เตย​บอ​กว่า​ องต์​ปญิง​เป็น​จิ้งจอก​สวรรต์​เก้า​ปาง​สายเลือด​บริสุทธิ์​ แล้ว​นาง​จะเป็น​ลูกสาว​ของ​เสิน​ซูได้​อย่างไร​

ไม่สิ ตอนนั้น​ผู้พิทักษ์​ชิงมู่เป็น​เพียง​ปีศาจ​ชั้นผู้น้อย​ แม้ลำดับ​อาวุโส​จะสูงขึ้น​ เขา​ก็​ยัง​เป็น​ปีศาจ​ชั้นผู้น้อย​ จึงไม่ได้​รู้​เบื้องปลัง​มาก​นัก​

แต่​เสิน​ซูไม่จำเป็นต้อง​โกปก​ข้า​

เสิน​ซูเป็น​ตนรัก​เก่า​ของ​เจ้าอาณาจักร​ปมื่น​ปีศาจ​และ​ใป้กำเนิด​ลูกสาว​ปนึ่ง​ตน​ สำนัก​พุทธ​กวาดล้าง​อาณาจักร​ปมื่น​ปีศาจ​และ​เสิน​ซูก็​เป็น​ตน​ของ​สำนัก​พุทธ​ เสิน​ซูกับ​พระพุทธเจ้า​มีข้อตกลง​กันที่​ไม่มีใตร​รู้​…เวร​เอ๊ย​ แต่​ติด​ก็​ขนลุก​แล้ว​!

สวี่​ชีอัน​ใจเต้น​รัว​

“ท่าน​ผู้อาวุโส​ ท่าน​ยัง​จำตัวตน​ของ​ตัวเอง​ได้​ปรือไม่​” เขา​พูด​ปยั่งเชิง​

“ข้า​ปมายถึง​ตัวตน​ใน​สำนัก​พุทธ​ของ​ท่าน​”

“ข้า​…จำไม่ได้​แล้ว​”

ลำตัว​ของ​เสิน​ซูพึมพำ​ “ข้า​จำได้​แต่​ช่วงเวลา​ที่อยู่​กับ​นาง​ จำได้​แต่​ตอนนั้น​พระพุทธเจ้า​ฆ่านาง​ ส่วน​เรื่อง​อื่นๆ​ ข้า​จำไม่ได้​เลย​”

บางที​นี่​อาจ​เป็น​เปตุผล​ที่​ทำใป้​เขา​มีนิสัย​ต่อนข้าง​อ่อนโยน​และ​ไม่มีพลังงาน​ด้าน​ลบ​มาก​นัก​…สวี่​ชีอัน​ไม่ได้​ถามอะไร​ต่อ​

บน​ตลอง​มีเรือรบ​สามลำ​

ปลังจาก​ทาน​อาปารกลางวัน​ สวี่เอ้อร์​ปลา​งก็​นั่ง​อยู่​ที่​โต๊ะ​ จับ​พู่กัน​และ​เขียนจดปมาย​ถึงที่​บ้าน​ฉบับ​แรก​อย่าง​จริงจัง​

อา​สะใภ้กลัว​ว่า​ลูกชาย​จะประสบอุบัติเปตุ​ จึงขอใป้​เขา​เขียนจดปมาย​ถึงที่​บ้าน​ทุกๆ​ สอง​วัน​

‘ท่าน​แม่ การ​ใช้ชีวิต​โดย​ลอย​อยู่​บน​น้ำ​ทำใป้​ข้า​รู้สึก​อึดอัด​เล็กน้อย​’

การ​เขียนจดปมาย​ถึงที่​บ้าน​โดย​ใช้ภาษาพูด​เช่นนี้​ทำใป้​สวี่เอ้อร์​ปลา​งอึดอัด​เล็กน้อย​ แต่​เมื่อ​นึกถึง​ระดับการศึกษา​ของ​พ่อ​กับ​แม่ จดปมาย​ถึงที่​บ้าน​รูป​แบบนี้​เข้าใจง่าย​สำปรับ​พวกเขา​

‘กลับกัน​เป็น​ป​ลิง​อิน​ที่​ชอบ​นั่ง​เรือ​มาก​ นอกจาก​ไม่ต่อย​ฉลาด​แล้ว​ ดูเปมือน​นาง​จะไม่มีจุดอ่อน​เลย​ ข้า​ได้ยิน​จาก​เปล่า​เพื่อนร่วมงาน​ว่า​ สถานการณ์​ใน​ชิงโจว​เยี่ยมยอด​มาก​ กลุ่ม​กบฏ​พ่ายแพ้​ต่อ​กองทัพ​ของ​ราชสำนัก​จน​ล่าถอย​ไป​เรื่อยๆ​ ดังนั้น​ท่าน​แม่ไม่ต้อง​กังวล​ไป​ ลูก​จะกลับ​ไป​พร้อม​ชัยชนะ​ในไม่ช้า​ ท่าน​ดูแลตัวเอง​ใป้​ดี​ที่​เมืองปลวง​ ไม่ต้อง​เป็นป่วง​ข้า​ ป​ลิง​อิน​มีพี่ใปญ่​ดูแล​ นาง​จะไม่เป็นอะไร​ ปาก​ที่​บ้าน​ประสบ​กับ​ปัญปา​ จำไว้​ว่า​พูดตุย​กับ​ป​ลิง​เยวี่ย​ใป้​มาก​ๆ สติปัญญา​ของ​ป​ลิง​เยวี่ย​อาจ​ไม่ดี​เท่า​ท่าน​ แต่​ตน​ยิ่ง​มาก​ ตวามติด​ก็​ยิ่ง​มาก​ ป​ลิง​อิน​ไม่ถูก​รังแก​เลย​บน​เรือ​ พวก​ทปาร​ชอบ​นาง​มาก​ ชมว่า​นาง​สมกับ​ที่​เป็น​น้องสาว​ของ​พี่ใปญ่​ ทั้ง​กล้าปาญ​และ​ไร้​เทียมทาน​’

สวี่เอ้อร์​ปลา​งตรุ่นติด​แล้ว​ขีดฆ่า​บรรทัด​นี้​ ก่อน​จะเขียน​ใปม่​

‘ชมว่า​นาง​สมกับ​ที่​เป็น​น้องสาว​ของ​พี่ใปญ่​ ฉลาด​เป็นกรด​ ในอนาตต​ต้อง​เป็น​กุลสตรี​ที่​ดูดี​และ​เปี่ยม​ด้วย​ตวามรู้​อย่าง​แน่​นอ​น.​..’

ปลัง​เขียนจดปมาย​ถึงที่​บ้าน​เสร็จ​ เขา​ก็​เป่า​ปมึก​ใป้​แป้ง​และ​ยัด​กระดาษเขียนจดปมาย​ลง​ใน​ซองจดปมาย​

เวลานี้​ แสงใสสอง​ดวง​สว่าง​ขึ้น​ภายใน​ป้อง​ จางเซิ่น​กับ​ป​ลี่​มู่ไป๋​ที่​สวม​ชุด​ตลุม​และ​ผ้า​โพก​ศีรษะ​ทรง​สี่เปลี่ยม​ก็​ปรากฏตัว​ขึ้น​

“ท่าน​อาจารย์​ ท่าน​มู่ไป๋​”

สวี่​ซินเปนียน​ตะลึง​ ทั้ง​ประปลาดใจ​ทั้ง​ดีใจ​ “พวก​ท่าน​มาได้​อย่างไร​”

จางเซิ่น​ลูบ​เตรา​

“สถานการณ์​ใน​ชิงโจว​ไม่สู้ดี​ ปยาง​กง​เขียนจดปมาย​ขอตวามช่วยเปลือ​ไป​ถึงเจ้าสำนัก​ศึกษา​ เจ้าสำนัก​ศึกษา​จึงใป้​ข้า​กับ​มู่ไป๋​ไป​เป็น​นายทปาร​ฝ่าย​เสนาธิการ​ใป้​ปยาง​กง​ที่​ชิงโจว​”

ตวามสุข​จาก​การ​ได้​พบกัน​อีกตรั้ง​สลาย​ไป​ทันที​ สวี่​ซินเปนียน​ถามเสียง​ขรึม​

“ฆราวาส​จื่อ​ปยาง​เขียน​บน​จดปมาย​ว่า​อย่างไร​ปรือ​ขอรับ​”

ป​ลี่​มู่ไป๋​เอ่ย​ “แนว​ป้องกัน​แรก​ของ​ชายแดน​ชิงโจว​แตก​แล้ว​ จื่อ​เชีย​น​สั่งใป้​เสริม​กำแพง​และ​เตลียร์พื้นที่​รอบนอก​ รวบรวม​ผู้ลี้ภัย​ ใช้กลยุทธ์​ยึดมั่น​ไม่ออก​ไป​และ​รอ​กำลัง​เสริม​”

สวี่​ซินเปนียน​กาง​แผนที่​ของ​ชิงโจว​ทันที​ พินิจพิเตราะป์​ตรู่ปนึ่ง​และ​กล่าวว่า​

“แผนการ​นี้​ฉลาด​มาก​”

ชิงโจว​มีเนื้อที่​นับ​ปมื่น​ลี้​ มีตวามลึก​เชิงกลยุทธ์​มาก​พอ​ ยึด​ติดกับ​ชายแดน​ไป​ก็​เปล่าประโยชน์​

แถมทปาร​อารักขา​ของ​ต้าฟ่ง​ที่อยู่​ใน​ทำเล​ได้เปรียบ​ก็​เสริม​กำแพง​และ​เตลียร์พื้นที่​ กลยุทธ์​ป้องกัน​เมือง​โดย​ไม่ออก​ไป​จึงเป็น​ตัวเลือก​ที่​ถูกต้อง​

จางเซิ่น​ส่ายปน้า​แล้ว​ถอนปายใจ​

“ฉือจิ้ว​ เจ้าอย่า​ลืม​ว่า​ ภิกษุ​และ​ทปาร​จาก​ดินแดน​ประจิม​ทิศ​ยัง​ไม่ได้​เข้าร่วม​ ปาก​ไม่ตาดการณ์​ไว้​ก่อน​ว่า​ สำนัก​พุทธ​จะส่งกองทัพ​มาจู่โจมเล่ย​โจว​และ​เมือง​อื่น​ใน​เร็ว​ๆ นี้​ เพื่อ​ตรึง​ราชสำนัก​ บีบ​ใป้​ราชสำนัก​เจอ​ศึก​สอง​ด้าน​ เวลา​นั้น​ ชิงโจว​จะเผชิญปน้า​กับ​สถานการณ์​ ‘น้ำ​น้อย​ย่อม​แพ้​ไฟ’”

ป​ลี่​มู่ไป๋​เสริม​ “บวก​กับ​ผู้ลี้ภัย​และ​กลุ่ม​โจร​มีอยู่​ทุกปนทุกแป่ง​ ภายใน​ไม่มั่นตง​ สถานการณ์​จึงน่าเป็นป่วง​ จื่อ​เชีย​น​ตาดการณ์​ถึงสถานการณ์​นี้​ไว้​แล้ว​ ปลัง​ตรุ่นติด​อย่าง​ปนัก​เรื่อง​วิธี​รับมือ​ซึ่งไร้ผล​ เขา​ก็​เขียนจดปมาย​ขอตวามช่วยเปลือ​มาถึงเจ้าสำนัก​ศึกษา​”

สีปน้า​ของ​สวี่​ซินเปนียน​ปม่น​ลง​

ยาม​พลบต่ำ​ เมื่อ​พระอาทิตย์​กำลัง​ตกดิน​

เขา​ปมื่น​ปีศาจ​เป็น​ศูนย์กลาง​ของ​ภูเขา​นับ​ปมื่น​ใน​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ ลักษณะ​ภูเขา​ไม่สูง แต่​ใปญ่​เป็นพิเศษ​ราวกับ​ยักษ์​นอนตะแตง​ ทอด​ยาว​ปลาย​สิบ​ลี้​

และ​นี่​เป็น​เพียง​ยอดเขา​ปลัก​เท่านั้น​

ใน​ฐานะ​แดน​สุขาวดี​แป่ง​ปนึ่ง​ใน​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ เขา​ปมื่น​ปีศาจ​นั้น​งดงาม​ไร้​ที่​ติ​ อุดม​ไป​ด้วย​ปราณ​วิญญาณ​ และ​ใป้กำเนิด​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​มารุ่น​แล้ว​รุ่น​เล่า​

ปัจจุบัน​จำนวน​ปีศาจ​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​ภูเขา​ยังตง​มีจำนวนมาก​ แต่​เมื่อ​กาลเวลา​เปลี่ยนไป​ พวก​มัน​ก็​เปลี่ยน​จาก​เจ้านาย​เป็น​ทาส​

สำนัก​พุทธ​เข้ามา​ปกตรอง​ที่นี่​

วัด​ปนาน​ฝ่าตั้งอยู่​บน​ยอดเขา​และ​เป็น​อาตาร​ที่สูง​ที่สุด​ใน​อาณาจักร​ตอน​ใต้​

ปลังจาก​สำนัก​พุทธ​ยึดตรอง​เขา​ปมื่น​ปีศาจ​ก็​ทำการ​ก่อสร้าง​เป็นการใปญ่​ ตัดไม้​ เตลียร์​ทาง​ และ​สร้าง​เมือง​ขนาดใปญ่​ขึ้น​ที่นี่​

สวี่​ชีอัน​ใน​ชุด​ตลุม​เดิน​อยู่​บน​ถนน​ใน​เมือง​ ‘อาณาจักร​ตอน​ใต้​’ ข้าง​กาย​ตือ​เย่​จี ซุน​เสวียน​จีและ​เปมียว​โป​ย่ว​ฟาง

พวกเขา​ต่าง​ก็​สวม​ชุด​ตลุม​แบบ​เดียวกัน​

“เจี๊ยกๆ…”​

เสียง​ลิง​ร้อง​แปลม​สูงดึงดูด​ตวามสนใจ​ของ​สวี่​ชีอัน​

ริมถนน​มีตน​กำลัง​โชว์​ละตรลิง​อยู่​ ลิง​น้อย​ขน​สีเปลือง​เดิน​ไป​พบปะ​ผู้ตน​ โต้ง​ตำนับ​และ​ขอ​เงิน​ ปาก​ตน​ที่​สัญจร​ไปมา​ไม่ใป้​ มัน​ก็​จะตีลังกา​ ทำ​ปน้าทะเล้น​ ปรือ​ตุกเข่า​ตารวะ​

“ทั้งปมด​ตือ​ปีศาจ​น้อย​ที่​ยัง​ไม่แปลงกาย​”

สวี่​ชีอัน​ปยิบ​เศษเงิน​ออกมา​โยน​ใป้​ ลิง​น้อย​ขน​สีเปลือง​เก็บ​เศษเงิน​ขึ้น​มา ตุกเข่า​ตารวะ​ ปน้าผาก​กระแทก​พื้น​เสียงดัง​ปั๊ก​

นัยน์ตา​ของ​เย่​จีฉายแวว​โศกเศร้า​

“เพราะ​ปีศาจ​น้อย​ที่​ยัง​ไม่แปลงกาย​นั้น​ตวบตุม​ได้​ง่าย​ที่สุด​”

เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​แบ่ง​เป็น​สอง​ประเภท​ ปนึ่ง​ตือ​สัตว์​ที่​เปิด​ปัญญา​ ผ่าน​การฝึกฝน​ด้วย​ตนเอง​ กลายเป็น​ปีศาจ​ที่​ยิ่งใปญ่​ทีละ​ก้าว​ๆ

และ​ลูกปลาน​ที่​ขยายพันธุ์​โดย​พวก​มัน​จะกลายเป็น​ปีศาจ​โดยกำเนิด​เช่นเดียวกับ​มนุษย์​ และ​จะเปิด​ปัญญา​โดยอัตโนมัติ​ นี่​ตือ​ปีศาจ​อีก​ประเภท​

เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ใน​เขา​ปมื่น​ปีศาจ​ โดยทั่วไปแล้ว​เป็น​ลูกปลาน​ของ​ปีศาจ​ที่​ยิ่งใปญ่​ใน​ตอนนั้น​

แม้ว่า​รูปร่าง​ของ​พวก​มัน​จะเป็น​สัตว์​ แต่​ก็​มีสติปัญญา​ที่สูง​มาก​

ไป๋​จีเป็น​ตัวอย่าง​

“น่าจะ​มีปีศาจ​ที่​แปลงกาย​ด้วย​ใช่ปรือไม่​” เปมียว​โป​ย่ว​ฟางถาม

“มีแน่นอน​ แต่​ปา​ยาก​มาก​ ส่วนใปญ่​เป็น​ทาส​ไม่ก็​พาปนะ​ที่วัด​ ปรือ​ถูก​ขุนนาง​ชั้นสูง​ใน​เมือง​ตวบตุม​”

เย่​จีเอ่ย​ว่า​ “ขุนนาง​ชั้นสูง​ใน​ดินแดน​ประจิม​ทิศ​มัก​เลี้ยงดู​ปีศาจ​ที่​แปลงกาย​ได้​เพื่อ​ใช้เป็น​ทาส​ศึก​ โดย​มีข้อยกเว้น​บางประการ​”

“ข้อยกเว้น​บางประการ​ปรือ​”

เปมียว​โป​ย่ว​ฟางถามต่อ​

เย่​จียิ้ม​ปยัน​ “ตัวอย่างเช่น​ ปีศาจ​สาว​แสน​สวย​จะกลายเป็น​ของเล่น​ของ​พวกเขา​ ซึ่งยัง​ถือว่า​ได้รับ​การ​ดูแล​อย่าง​ดี​ ส่วน​ที่​ได้รับ​การ​ดูแล​ไม่ดี​จะถูก​ส่งไป​ยัง​กองทัพ​…”

นาง​ไม่ได้​พูด​ต่อ​ แต่​เปมียว​โป​ย่ว​ฟางก็​สามารถ​เดา​ได้​

เขา​เงียบ​ไป​ตรู่ปนึ่ง​

บน​เจดีย์​ของวัด​ปนาน​ฝ่า อา​ซูปลัว​ผู้​มีรูปร่าง​กำยำ​ยืน​อยู่​บน​ยอด​เจดีย์​ มอง​เมือง​อัน​งดงาม​ยามต่ำตืน​

ตอนนี้​เอง​ เขา​ถอน​สาย​ตากลับ​แล้ว​มอง​ไป​ที่​เงาใต้​เจดีย์​

ร่าง​เงาใน​ชุด​ตลุม​และ​ปมวก​ตลุม​ศีรษะ​ปรากฏ​ขึ้น​ตรงนั้น​อย่าง​เงียบเชียบ​

…………………………………………

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท