บทที่ 666 เผ่าลี่กู่

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ลูกธนู​ที่​ยิง​ใน​ระยะ​ประชิด​นั้น​รวดเร็ว​กว่า​มาก​ แฝงไป​ด้วย​พลัง​ใน​การเจาะ​ทะลุ​ทอง​และ​หิน​ ยิง​ใส่หน้าอก​ของ​ลี่​น่า​

‘ติ๊ง!’​

ลี่​น่า​ดีด​ลูกธนู​กระเด็น​ออก​ไป​อย่าง​ง่ายดาย​

นาง​หันไป​มอง​ศิษย์​น้อย​ที่​ไร้เดียงสา​ และ​สวี่​ชีอัน​กับ​มู่หนาน​จือ​ที​หนึ่ง​ นางอาย​สุด​ที่จะ​ทน​ได้​ จึงตะคอก​ด้วย​ความโมโห​

“หาเรื่อง​โดน​ตี​!”

พลัง​ระเบิด​ของ​ขา​เรียว​ยาว​ทั้งสอง​น่า​ตกใจ​เป็น​อย่างยิ่ง​ นาง​ดีดตัว​ขึ้น​มา และ​หมุนตัว​เตะ​ชายหนุ่ม​ที่​ยิง​ธนู​จน​กระเด็น​ออก​ไป​

ก่อนที่​ชายหนุ่ม​ใบหน้า​รูปสี่เหลี่ยม​อีก​คน​จะดึง​ดาบ​กระดูก​ออกมา​ นาง​ก็​บิด​เอว​เหวี่ยง​แขวน​ วาด​แขนขวา​เป็น​รูป​ครึ่งวงกลม​ พอ​มีเสียง​ฝ่ามือ​ดัง​ ‘ป้าบ​!’ ชายหนุ่ม​ใบหน้า​รูปสี่เหลี่ยม​ก็​หมุน​อยู่กับที่​สอง​รอบ​ และ​ล้ม​ลงพื้น​ท่ามกลาง​ดวงดาว​สีทอง​ที่​หมุนติ้ว​ๆ

ชายหนุ่ม​เผ่า​ลี่​กู่​สอง​คน​โดน​ตี​ แต่​ไม่เป็นอะไร​เลย​แม้แต่น้อย​ ไม่นาน​ก็​ลุกขึ้น​อย่าง​รวดเร็ว​ ชายหนุ่ม​ที่​ยิง​ธนู​จ้องมอง​ลี่​น่า​อย่าง​ระแวง​

“เป็น​ลี่​น่า​จริงๆ​ ด้วย​ เหตุใด​เจ้าถึงเปลี่ยนไป​ ขาว​เหมือนกับ​บรรดา​หญิงสาว​ใน​ที่ราบ​กลาง​”

พอได้​แลก​มือ​กัน​ ก็​รับรู้​ได้​ทันที​ว่า​เป็น​เผ่าพันธุ์​เดียวกัน​หรือไม่​

เท้า​ที่​รวดเร็ว​และ​รุนแรง​ ฝ่ามือ​ที่​ปราดเปรียว​ ไม่ผิด​แน่​

ชายหนุ่ม​ใบหน้า​รูปสี่เหลี่ยม​กล่าว​เสริม​

“ทั้ง​ยัง​อ้วน​ขึ้น​ด้วย​”

สภาพอากาศ​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ร้อน​อบอ้าว​ พลัง​แสงอาทิตย์​รุนแรง​ คนใน​พื้นที่​ที่​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​ซินเจียง​ตอน​ใต้​มีผิวดำ​ กล้ามเนื้อ​และ​ผิวหนัง​เป็น​สีแทน​

แต่​ลี่​น่า​บำรุง​อยู่​ใน​จวน​ตระกูล​สวี่​มาครึ่ง​ค่อน​ปี​ หลบเลี่ยง​การ​ทำลาย​ผิว​ของ​พลัง​แสงอาทิตย์​ ประกอบ​กับ​แอบ​กิน​โอสถ​ชะลอ​วัย​ของ​อา​หญิง​ ผิวหนัง​จึงขาว​ละเอียดอ่อน​ ซึ่งแตกต่าง​จาก​ชายหนุ่ม​เผ่าพันธุ์​กู่​ทั้งสอง​อย่าง​สิ้นเชิง​

“หรือ​พวก​เจ้าจำใบหน้า​ของ​ข้า​ไม่ได้​” ลี่​น่า​เอา​มือ​เท้า​เอว​

“ไม่แน่​อาจ​แปลง​โฉมก็ได้​!”

ชาย​ที่​ยิง​ธนู​เถียง​ไป​หนึ่ง​ประโยค​ จากนั้น​ก็​ทำ​เสียง​ “ฮึๆ” อย่าง​ได้ใจ​

“เมื่อ​ครู่​ข้า​กำลัง​ทดสอบ​ความสามารถ​ของ​เจ้า ลี่​น่า​ตัวจริง​จะต้อง​รับ​ลูกธนู​ข้า​ได้​”

ลี่​น่า​สำลัก​อยู่​ครู่หนึ่ง​ นาง​ไม่มีอะไร​จะเถียง​จึงหันไป​กล่าว​กับ​สวี่​ชีอัน​และ​คนอื่นๆ​

“ไม่เป็นไร​ ไม่เป็นไร​ คน​เผ่า​ลี่​กู่​ของ​ข้า​ระมัดระวัง​และ​ฉลาด​รอบคอบ​มาโดยตลอด​ เมื่อ​ครู่​พวกเขา​กำลัง​ทดสอบ​ข้า​”

ไม่ใช่สิ คน​ที่ราบ​กลาง​สามารถ​เรียกชื่อ​พวกเขา​ออกมา​ได้​หรือ​ จะว่า​ไป​แล้ว​หาก​เป็นการ​แปลง​โฉมจริง​ ใคร​จะสามารถ​แปลง​โฉมคน​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ให้​มีผิวขาว​สวยงาม​ได้​ นี่​ไม่ใช่การโอ้อวด​อย่าง​แจ่มแจ้งหรือ​…สวี่​ชีอัน​แขวะ​อยู่​ใน​ใจ

สวี่ห​ลิง​อิน​ใช้พลัง​ส่งเสียง​ “อา​” ด้วย​ความรู้สึก​หวาดกลัว​ใน​ภายหลัง​

“ยัง​ดี​ที่​อาจารย์​ท่าน​เป็น​คน​ซินเจียง​ตอน​ใต้​อย่าง​แท้จริง​”

พอ​ชายหนุ่ม​ที่​ยิง​ธนู​เห็น​ว่า​เด็กสาว​ใน​ที่ราบ​กลาง​มีสีหน้า​หวาดกลัว​ เขา​ก็​แสดง​สีหน้า​ภาคภูมิใจ​ออกมา​ และ​กล่าวว่า​

“ลี่​น่า​ พวกเขา​เป็น​ใคร​”

“นาง​คือ​ศิษย์​ใน​ที่ราบ​กลาง​ของ​ข้า​ นี่​คือ​พี่ชาย​ของ​ศิษย์​ข้า​ ตอนที่​ข้า​อยู่​ใน​เมืองหลวง​ได้รับ​การ​ดูแล​จาก​พวกเขา​”

ลี่​น่า​แนะนำ​สวี่​ชีอัน​กับ​สวี่ห​ลิง​อิน​ให้​กับ​คนใน​เผ่า​ทั้งสอง​ และ​มองข้าม​มู่หนาน​จือ​ไป​เพราะ​ไม่สนิท​กับ​นาง​

จาก​การ​แนะนำ​ของ​นาง​ สวี่​ชีอัน​ก็​รู้​ชื่อ​ชายหนุ่ม​เผ่าพันธุ์​กู่​ทั้งสอง​คน​

ชายหนุ่ม​ที่​ยิง​ธนู​ชื่อ​ถู่หลง​ แขน​ทั้งสอง​เรียว​ยาว​ กล้ามเนื้อ​ได้สัดส่วน​ แค่​มอง​ก็​รู้​ว่า​เป็น​มือ​ธนู​ฟ้าประทาน​

ชาย​ใบหน้า​รูปสี่เหลี่ยม​ชื่อ​มู่โถว​ เนื่องจาก​ตอน​คลอด​ออกมา​มีใบ​หน้าเป็น​รูปสี่เหลี่ยม​ พ่อแม่​จึงตั้งชื่อ​ให้​ว่า​ ‘มู่โถว’​

“ศิษย์​หรือ​”

มู่โถวต​ก​ใจมาก​ “เจ้าเป็น​ลูกสาว​หัวหน้า​เผ่า​ จะแอบ​รับ​ศิษย์​ด้วย​ตนเอง​ได้​อย่างไร​ ทั้ง​ยัง​เป็น​คน​ที่ราบ​กลาง​ด้วย​ บรรดา​ผู้อาวุโส​จะตี​เจ้าได้​”

ถู่หลง​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ ถึงจะไม่คล้อยตาม​ด้วย​ แต่​มองออก​ว่า​เขา​ไม่พอใจ​เป็น​อย่างยิ่ง​

เคล็ด​วิชา​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​ไม่ถ่ายทอด​ให้​กับ​คนนอก​ แม้แต่​ใน​เผ่าพันธุ์​กู่​ทั้ง​เจ็ด​ด้วย​กันเอง​ ก็​หวงแหน​เป็นอย่างมาก​ มีความ​ยึดมั่น​ใน​ฝักฝ่าย​ของ​ตนเอง​

นับประสาอะไร​กับ​การ​รับ​เด็กสาว​จาก​ที่ราบ​กลาง​เป็น​ศิษย์​ ประจักษ์ชัด​ว่า​ฝ่าฝืน​กฎ​ของ​เผ่า​ เป็น​การกระทำ​ต้องห้าม​ที่​สำคัญ​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​

“ข้า​ไม่กลัว​พวกเขา​หรอก​นะ​ บรรดา​ผู้อาวุโส​ล้วน​เป็น​ขั้น​สี่ ข้า​ก็​ขั้น​สี่เช่นกัน​ ใคร​จะตี​ใคร​ยัง​ไม่สามารถ​พูด​ได้​”

ลี่​น่า​ทำ​เสียง​ขึ้น​จมูก​ “ตา​เฒ่าคนใด​กล้า​ลงมือ​ ข้า​จะตี​ให้​ตาย​ใน​หมัด​เดียว​”

“หัวหน้า​เผ่า​จะตี​เจ้าเป็น​คน​แรก​!”

มู่โถว​น้ำเสียง​เคร่งขรึม​

ผ่าน​ไป​สักพัก​ ทั้งสอง​ก็​มีปฏิกิริยา​ตอบสนอง​พร้อมกัน​ และ​กล่าว​ด้วย​ความตกใจ​

“เจ้าเลื่อน​ขึ้น​ขั้น​สี่แล้ว​หรือ​”

ลี่​น่า​ไม่ทัน​ได้​กระหยิ่ม​ยิ้มย่อง​ก็​ตะโกน​ออกมา​

“ศิษย์​ที่​ข้า​รับ​มาผู้​นี้​ คือ​บุคคล​ผู้​มีพรสวรรค์​ที่​มีเพียง​หนึ่งเดียว​ใน​ผู้คน​นับ​หมื่น​ เป็น​ เป็น​พรสวรรค์​ที่​ไม่เคย​ปรากฏ​ใน​บันทึก​ประวัติศาสตร์​มาก่อน​”

นาง​พยายาม​ใช้คำศัพท์​ที่​มีไม่มาก​ของ​ตัวเอง​มาบรรยาย​สวี่ห​ลิง​อิน​

มู่โถว​กับ​ถู่หลง​ชะงัก​ฝีเท้า​และ​มองดู​เสี่ยว​โต้​ว​ติง​ที่​ดู​ซื่อๆ​ ที​หนึ่ง​ก่อน​ถาม

“พรสวรรค์​หรือ​ มื้อ​หนึ่ง​กินข้าว​ได้​กี่​ถ้วย​ล่ะ​”

ลี่​น่า​ทำ​เสียง​ขึ้น​จมูก​

“มื้อ​หนึ่ง​ห​ลิง​อิน​สามารถ​กินข้าว​ได้​สิบ​ถ้วย​ ไม่รวม​กับข้าว​”

มู่โถว​กับ​ถู่หลง​สบตา​กัน​ที​หนึ่ง​ด้วย​สีหน้าที่​ดู​ซาบซึ้ง​เล็กน้อย​

“เป็น​พรสวรรค์​ที่​หา​ได้​ยาก​จริงๆ​ แล้ว​อย่างไร​ กฎ​ก็​คือ​กฎ​ เจ้าก็​เป็น​บุคคล​ผู้​มีพรสวรรค์​ แต่​เจ้ากล้า​แอบ​ถ่ายทอด​เคล็ด​วิชา​เผ่าพันธุ์​กู่​ก็​ต้อง​ถูก​ลงโทษ​ด้วย​เช่นกัน​”

สวี่​ชีอัน​ฟังพวกเขา​ใช้ภาษาซินเจียง​ตอน​ใต้​พูดคุย​กัน​ราวกับ​เสียง​นก​เพรียก​ร้อง​แล้วก็​ขมวดคิ้ว​ถาม

“พวก​เจ้าคุย​อะไร​กัน​”

ลี่​น่า​พ่น​ลมหายใจ​ออกมา​ และ​พูด​อธิบาย​

“พวกเขา​บอ​กว่า​ข้า​แอบ​รับ​คน​ที่ราบ​กลาง​เป็น​ศิษย์​ จะถูก​บรรดา​ผู้อาวุโส​ลงโทษ​อย่าง​เฉียบขาด​”

“ข้า​เคย​ได้ยิน​ว่า​วิชา​กู่​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​ใน​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ของ​พวก​เจ้าจะไม่ถ่ายทอด​ให้​คนนอก​ แต่​กฎ​ที่​เป็น​รูปธรรม​นั้น​เป็น​เช่นใด​”

สวี่​ชีอัน​กล่าว​จบ​ก็​มองหน้า​นาง​เพื่อ​รอ​คำอธิบาย​

“กฎ​ที่​เป็น​รูปธรรม​น่ะ​หรือ​…” ลี่​น่า​นึก​กฎ​ของ​เผ่า​อยู่​ครู่หนึ่ง​และ​กึ่ง​พูด​กึ่ง​ท่อง​ออกมา​

“ถ่าย​ถอด​วิชา​กู่​ให้​กับ​ผู้​ที่​เป็น​ทาส​โดย​ไม่ได้รับอนุญาต​ เฆี่ยน​สามหมื่น​หก​พัน​…อืม​ เผ่าพันธุ์​ที่​แตก​ต่างกัน​ จำนวน​การ​เฆี่ยน​ก็​แตก​ต่างกัน​ เผ่า​ลี่​กู่​ของ​พวกเรา​เยอะ​สุด​ ถ่ายทอดวิชา​กู่​ให้​กับ​ต่าง​เผ่า​โดย​ไม่ได้รับอนุญาต​ โดย​เฉพาะคน​ที่ราบ​กลาง​ ลงโทษ​ตาย​! อาจารย์​ต้อง​ตาย​ ศิษย์​ก็​ต้อง​ตาย​ด้วย​”

สวี่​ชีอัน​มองดู​นาง​เงียบๆ​

“ทำไม​เจ้าถึงไม่แจ้งให้​ชัดเจน​ก่อน​รับ​ห​ลิง​อิน​เป็น​ศิษย์​ ใน​เมื่อ​เจ้ารู้​กฎ​ของ​เผ่า​ตนเอง​ ทำไม​ถึงยัง​พา​ห​ลิง​อิน​กลับมา​ซินเจียง​ตอน​ใต้​อีก​”

หา​กลี่​น่า​กล้า​พูดว่า​ ‘ลืม​ไป​’ สวี่​ชีอัน​สาบาน​ว่า​จะต้อง​ทุบตี​นาง​จน​อุจจาระ​ราด​เลย​ทีเดียว​

ผิด​ไป​จาก​ที่​คาด​ไว้​ ลี่​น่า​พูด​มีเหตุมีผล​อย่าง​ฉะฉาน​

“ใน​ยุค​บรรพกาล​ พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​แผ่ขยาย​เป็น​วงกว้าง​ออก​ไปนอก​เหว​ลึก​ บรรพบุรุษ​ของ​พวกเรา​ผ่าน​ความเหน็ดเหนื่อย​เมื่อยล้า​มานับ​หมื่น​นับ​พัน​ แสวงหา​เคล็ด​วิชา​ที่​ใช้พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​ นับแต่​บัดนั้น​เป็นต้นมา​ ก็​มีเผ่าพันธุ์​กู่​เจ็ด​เผ่าพันธุ์​ใหญ่​ เคล็ด​วิชา​คือ​พื้นฐาน​ใน​การตั้งตัว​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​เรา​ พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​แผ่ขยาย​ออกจาก​กลาง​เหว​ลึก​ เปลี่ยน​สิ่งมีชีวิต​บริเวณ​นั้น​ให้​กลายเป็น​ ‘กู่​’ ว่า​ตามหลักการ​แล้ว​ ใคร​ก็​สามารถ​ใช้พลัง​นี้​ได้​ เพียงแค่​เรียนรู้​เคล็ด​วิชา​ที่​ประสาน​รับ​กัน​ ด้วยเหตุนี้​เผ่าพันธุ์​กู่​ให้ความสำคัญ​กับ​เคล็ด​วิชา​มาก​ แอบ​ถ่ายทอด​คือ​โทษ​ตาย​”

มิน่าล่ะ​บรรพบุรุษ​ตระกูล​ไฉถึงติด​อยู่​ที่​ระดับ​ศพ​เหล็ก​ ดูท่า​คง​ไม่ได้​เรียน​เคล็ด​วิชา​ที่​ต่อเนื่อง​…สวี่​ชีอัน​กล่าว​ด้วย​ความโมโห​

“ไม่ใช่ว่า​เจ้าจำได้​อย่าง​ชัดเจน​หรอก​หรือ​ แต่​ที่​เจ้าทำ​มัน​ถูก​หลัก​ทำนองคลองธรรม​หรือ​”

ลี่​น่า​ไม่ลนลาน​แม้แต่น้อย​ และ​กล่าว​ต่อ​

“กู่​เจ้าชะตา​ที่​เติบโต​เต็มที่​มีเก้า​ระดับ​ แต่ละ​ระดับ​มุ่งตอบโต้​หนึ่ง​ขั้น​ เมื่อ​กู่​เจ้าชะตา​จะเลื่อนขั้น​นั้น​ จำเป็นต้อง​เสริม​เคล็ด​วิชา​ของ​เผ่าพันธุ์​ตนเอง​และ​พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​ ถึงจะพัฒนา​กู่​เจ้าชะตา​จนถึง​ขีดสุด​ได้​ เพียง​มีเคล็ด​วิชา​ ไม่มีพลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​ ก็​สามารถ​เลื่อน​ระดับ​ได้​ รากฐาน​ก็​อาจ​ไม่มั่นคง​ พลัง​ต่อสู้​ก็​ห่าง​ชั้น​จาก​ยอด​ฝีมือ​ระดับ​เดียวกัน​มาก​ ดังนั้น​ข้า​ถึงพา​ห​ลิง​อิน​มาซินเจียง​ตอน​ใต้​นี่แหละ​”

มู่หนาน​จือ​เอ่ยปาก​แทรก​ “พา​นาง​มากิน​แส้หรือ​”

วิธีการ​พูด​ละมุนละไม​ที่​น่า​สมควร​ตาย​เป็น​อย่างยิ่ง​

ลี่​น่า​ไม่พอใจ​เล็กน้อย​ “ไอ้​ห​ยา​ เจ้าฟังข้า​พูด​จบ​ก่อน​สิ เจ้านี่​นะ​ไม่สนิท​กัน​สักหน่อย​ ทำไม​ต้อง​ขัด​คำพูด​ข้า​ด้วย​”

ว่า​ให้​มู่หนาน​จือ​ไป​ประโยค​หนึ่ง​แล้ว​ นาง​ก็​กล่าว​ต่อ​

“แอบ​ถ่ายทอด​เคล็ด​วิชา​ถือ​เป็นโทษ​ตาย​อย่าง​แน่นอน​ ทว่า​เพียง​ให้​ห​ลิง​อิน​ได้รับอนุญาต​จาก​ผู้อาวุโส​และ​ท่าน​พ่อ​ของ​ข้า​ กลายเป็น​ศิษย์​ของ​ข้า​อย่าง​แท้จริง​ก็​ไม่มีเรื่อง​อะไร​แล้ว​ ยอด​ฝีมือ​เผ่าพันธุ์​กู่​ของ​พวกเรา​ก็​ออก​ไปหา​บุคคล​ผู้​มีพรสวรรค์​ด้านนอก​อยู่​บ่อยๆ​ จากนั้น​พา​กลับมา​รับ​การ​ทดสอบ​จาก​เผ่า​ ผ่านการทดสอบ​ก็​จะได้รับอนุญาต​”

สวี่​ชีอัน​เข้าใจ​แผนการ​ของ​ลี่​น่า​ในทันที​ นาง​อยาก​พา​ห​ลิง​อิน​กลับมา​รับ​การ​ทดสอบ​จาก​เผ่า​ ให้​นาง​กลายเป็น​คน​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​อย่าง​สมบูรณ์​ เช่นนี้​ก็​ไม่ต้อง​กังวล​กับ​การ​เลื่อนขั้น​ใน​ภายหน้า​แล้ว​

“ทว่า​…” ลี่​น่า​เปลี่ยน​หัวข้อ​สนทนา​

“เผ่าพันธุ์​รุ่น​ก่อน​ยัง​ไม่เคย​รับ​คน​ที่ราบ​กลาง​เป็น​ศิษย์​ เชลยศึก​กลับ​มีไม่น้อย​ แต่​ข้า​คิด​ว่า​นี่​ไม่มีปัญหา​ เพราะ​ห​ลิง​อิน​เป็น​บุคคล​ผู้​มีพรสวรรค์​ที่​ไม่มีบันทึก​ใน​ประวัติศาสตร์​มาก่อน​ ท่าน​พ่อ​กับ​ผู้อาวุโส​จะต้อง​ยกเว้น​ให้​เป็น​กรณีพิเศษ​อย่าง​แน่นอน​”

ทำไม​ข้า​ถึงไม่เชื่อ​นะ​ ฟังดู​แล้ว​ไว้ใจ​ไม่ได้​เลย​…สวี่​ชีอัน​ได้ยิน​มู่หนาน​จือ​ถามด้วย​รอย​ยิ้มเยาะ​

“เผ่าพันธุ์​กู่​ของ​พวก​เจ้ามีตำรา​ประวัติศาสตร์​ด้วย​หรือ​”

“ไม่มี” ลี่​น่า​ตอบ​

“…” สวี่​ชีอัน​พูด​อยู่​ใน​ใจ ข้า​จะตี​นาง​จน​อุจจาระ​ราด​เลย​

ภายใต้​การนำทาง​ของ​มู่โถว​กับ​ถู่หลง​ชายหนุ่ม​เผ่า​ลี่​กู่​ พวกเขา​ข้าม​เนินเขา​สูงลูก​หนึ่ง​ไป​ถึงเขา​ป๋อ​ที่​เป็น​ที่อยู่อาศัย​ของ​เผ่า​ลี่​กู่​มาหลาย​ยุค​หลาย​สมัย​

ยืน​อยู่​บน​เนินเขา​สูงทอดสายตา​มองออก​ไป​ เขา​ป๋อ​ก็​เหมือนกับ​กำแพงเมือง​ที่​สูงตระหง่าน​ ทอด​ยาว​ติดกัน​หลาย​ร้อย​ลี้​ ปิดกั้น​ทางเหนือ​ทั้งหมด​

ท่ามกลาง​ขุนเขา​มีเมฆหมอก​ปรากฏ​รางๆ​ กลิ่นอาย​ดั้งเดิม​แผ่​ออกมา​สุดลูกหูลูกตา​

ตีนเขา​คือ​พื้นที่ราบ​กว้างขวาง​แห่ง​หนึ่ง​ แม่น้ำ​ปกคลุม​อย่าง​หนาแน่น​ ที่นา​ถูก​แบ่ง​เป็น​สี่เหลี่ยม​เล็ก​ๆ พืชผล​การเกษตร​ที่​แตก​ต่างกัน​ ก็​มีสีสัน​ที่​แตก​ต่างกัน​ สีสัน​ต่างๆ​ รวม​เข้าด้วยกัน​เป็น​ภาพสีน้ำมัน​ที่​สวย​วิจิตรตระการตา​

ระหว่าง​ทุ่งนา​กับ​พื้นที่ราบ​มีเงามนุษย์​ที่​ดูเหมือน​มด​ตัวเล็ก​กำลัง​เร่งมือ​ทำงาน​อยู่​ บ้าง​ก็​ทอดแห​จับ​ปลา​ บ้าง​ก็​ทำการ​เพาะปลูก​

กระท่อม​หลังคา​จาก​และ​บ้าน​ดิน​แต่ละ​หลัง​กระจาย​อยู่​ตาม​ภูเขา​และ​ทุ่งนา​ ก่อตัว​เป็น​กลุ่ม​ก่อสร้าง​ที่​มีทั้ง​ขนาดใหญ่​และ​ขนาดเล็ก​

ทิวทัศน์​งดงาม​มาก​ ราวกับ​ชนบท​ขนาดใหญ่​ที่​ไม่มีการ​แก่งแย่ง​ช่วงชิง​กับ​โลก​ภายนอก​

มู่โถว​ที่​มีใบหน้า​รูปสี่เหลี่ยม​กระแอม​ไอ​ก่อน​กล่าว​ “อะ​แฮ่ม!”

“พวกเรา​มาส่งแค่นี้​ ยัง​ต้อง​กลับ​ไป​ลาดตระเวน​ต่อ​”

เขา​พูด​ด้วย​ภาษาราชการ​ของ​ที่ราบ​กลาง​ที่​ไม่ค่อย​จะดี​นัก​

สวี่​ชีอัน​ได้ยิน​มานาน​แล้ว​ว่า​ พ่อค้า​ทาง​ตอน​ใต้​ทำการค้า​กับ​คน​ซินเจียง​ตอน​ใต้​อยู่​บ่อยๆ​ เช่น​เครื่องเคลือบ​ ใบชา​ แพร​ต่วน​ เกลือ​ เหล็ก​ และ​สินค้าต้องห้าม​อื่นๆ​

ดู​ท่าจะ​เป็นจริง​ตามนั้น​ หาก​เผ่าพันธุ์​กู่​ไม่แก่งแย่ง​ช่วงชิง​กับ​โลก​ภายนอก​ คน​ที่นี่​จะพูด​ภาษาราชการ​ของ​ที่ราบ​กลาง​ได้​อย่างไร​

ถู่หลง​ที่​แบก​ธนู​พิจารณา​ลี่​น่า​อย่าง​ละเอียดถี่ถ้วน​ เขา​กล่าว​ด้วย​คำพูด​ที่​อัด​แน่น​ไป​ด้วย​น้ำใสใจจริง​และ​แฝงความหมาย​ลึกซึ้ง​

“กลับบ้าน​แล้ว​ตากแดด​ให้​มาก​ๆ หน่อย​ ผิวขาว​ละเอียด​แบบนี้​น่าเกลียด​จะตาย​ มิเช่นนั้น​จะไม่มีคน​ยอม​แต่ง​กับ​เจ้า”

กล่าว​จบ​เขา​ก็​มอง​มู่หนาน​จือ​ที​หนึ่ง​

‘มอง​ข้า​ทำไม​…’ มุมปาก​พระชายา​กระตุก​ รู้สึก​ว่า​ตนเอง​ถูก​กล่าว​แฝงไป​ด้วย​

แม้หน้าตา​ของ​นาง​จะธรรมดา​พื้นๆ​ แต่​ผิวหนัง​ยัง​นวล​เนียน​เกลี้ยงเกลา​อยู่​

หลังจาก​บอกลา​ถู่หลง​กับ​มู่โถว​แล้ว​ กลุ่มคน​สามคน​ สุนัขจิ้งจอก​หนึ่ง​ตัว​ และ​เด็ก​หนึ่ง​คน​ก็​เดินตาม​ทาง​ที่​ลาดเอียง​ไป​ด้านล่าง​จน​เข้าสู่​พื้นที่ราบ​

ลี่​น่า​ทักทาย​คน​เผ่า​ลี่​กู่​ตาม​ระหว่างทาง​อย่าง​เบิกบานใจ​

“อา​อา​ซัง ข้า​กลับมา​แล้ว​”

“ลี่​น่า​หรือ​ ทำไม​ถึงขาว​จน​เป็น​หญิง​อัปลักษณ์​เลย​!”

“อา​เฮย​ปา​ ข้า​กลับมา​แล้ว​”

“ลี่​น่า​กลับมา​แล้ว​หรือ​ คน​ข้าง​กาย​เจ้าผู้​นี้​คือ​ทาส​ที่​เจ้าชิงมาจาก​ที่ราบ​กลาง​ใช่หรือไม่​”

“ไม่ใช่ เป็น​สหาย​ของ​ข้า​”

“ยาย​ฉาน​ ข้า​กลับมา​แล้ว​”

“คือ​ลี่​น่า​หรือ​ ลี่​น่า​กลับมา​แล้ว​นี่​ ยาย​สายตา​ไม่ค่อย​ดี​ เจ้าเข้ามา​ใกล้​หน่อย​ ยาย​จะบอก​เจ้านะ​ เดิมที​เมื่อ​ตอน​ต้นปี​ยาย​อยาก​ไปหา​หัวหน้า​เผ่า​เพื่อ​พูดคุย​เรื่อง​การ​หมั้น​ หลาน​ยาย​ยัง​ไม่แต่งงาน​ พวก​เจ้าเติบ​โตมา​ด้วยกัน​…ช่างเถอะ​ ยาย​คิด​ว่า​พวก​เจ้าไม่ค่อย​เหมาะ​สมกัน​มาก​นัก​”

สวี่​ชีอัน​สังเกต​คน​เผ่า​ลี่​กู่​อย่าง​เงียบๆ​ พวกเขา​บางคน​สวม​ชุด​ที่​ทำ​จาก​ผ้า​ บางคน​สวม​ชุด​ทำ​จาก​หนัง​สัตว์​ รูปร่าง​สูงใหญ่​และ​กำยำ​กว่า​คน​ที่ราบ​กลาง​มาก​ พวกเขา​ไม่ใช้ปศุสัตว์​ไถนา​ แต่​ใช้กำลังคน​

พวกเขา​แค่​คนเดียว​ก็​สามารถ​ลาก​สินค้า​ประมง​ที่​หนัก​หลาย​ร้อย​จิน​ได้​ คนเดียว​ก็​สามารถ​แบก​เรือ​ลำ​เล็ก​ๆ วิ่ง​ไปมา​ได้​

“ดูเหมือน​คน​จะน้อย​…”

หวัง​จาก​สวี่​ชีอัน​สังเกต​ดู​แล้วก็​แสดงความคิดเห็น​

“ทุกคน​ต่าง​ก็​ไป​ล่าสัตว์​หมด​น่ะ​สิ” ลี่​น่า​กล่าว​อย่าง​เศร้าใจ​

“ซินเจียง​ตอน​ใต้​ของ​พวกเรา​แห้งแล้ง​ ไม่ดี​เหมือน​ที่ราบ​กลาง​ของ​พวก​เจ้าที่​มีของกิน​มากมาย​ คน​เผ่า​ลี่​กู่​ของ​พวกเรา​ แต่ละวัน​ต้อง​ทำงาน​เหนื่อย​จน​มืดค่ำ​เพื่อให้​มีกิน​ แต่​ก็​ยัง​กิน​ไม่อิ่ม​”

ที่​เศร้าใจ​ไม่ใช่เพราะ​พวก​เจ้ากิน​เก่ง​เกินไป​หรอก​หรือ​…สวี่​ชีอัน​ไม่ได้​พยายาม​โต้แย้ง​ ขณะที่​เดินตาม​นาง​ผ่าน​พื้นที่ราบ​ ก็​มีบ้านเรือน​เยอะ​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ทางเดิน​ก็​กว้างขวาง​และ​ราบเรียบ​มากขึ้น​

พวกเขา​มาถึงกลุ่ม​สิ่งก่อสร้าง​ขนาดใหญ่​สุด​ที่อยู่​บน​เขา​ป๋อ​ สถานที่​แห่ง​นี้​เป็น​ที่อยู่อาศัย​ของ​คนชั้นสูง​ของ​เผ่า​ลี่​กู่​

บ้าน​ของ​ลี่​น่าอยู่​ตรงจุด​ที่สูง​ที่สุด​ของ​กลุ่ม​สิ่งก่อสร้าง​ คือ​ลาน​ขนาดใหญ่​ที่​มีทางเข้า​สอง​ด้าน​

บน​ขอบ​ของ​ลาน​ขนาดใหญ่​ยังมี​กระท่อม​มุงจาก​ และ​บ้าน​ดิน​สร้าง​ขึ้น​ติดกัน​ ตามที่​ลี่​น่า​บอก​ไว้​ คน​ที่พัก​อยู่​ด้านใน​คือ​ทาส​รับใช้​บ้าน​นาง​

“ท่าน​พ่อ​ ข้า​กลับมา​แล้ว​…”

ลี่​น่า​ส่งเสียง​ดังลั่น​ ช่างเป็น​เด็ก​ที่​ไม่รู้จัก​กฎ​เอา​เสีย​เลย​

ผ่าน​ไป​ไม่กี่​ลมหายใจ​ เสียง​ฝีเท้า​หนัก​ๆ ดัง​เข้ามา​ พื้นดิน​สั่นสะเทือน​ตาม​ มนุษย์​ยักษ์​ที่สูง​เก้า​ฉื่อ​ผู้​หนึ่ง​เดิน​ออก​มาจาก​ใน​เรือน​

คน​ผู้​นี้​สวม​ชุด​และ​เสื้อคลุม​ยาว​ที่​เย็บ​จาก​หนัง​สัตว์​ สวม​กางเกง​ยาว​ที่​ทำ​จาก​ผ้าป่าน​ เปลือย​เท้าเปล่า​ ใบหน้า​เหลี่ยม​เล็กน้อย​ อวัยวะ​ทั้ง​ห้า​บน​ใบ​หน้าที่​ดู​ดุดัน​ห่างไกล​จาก​คำ​ว่า​ประณีต​มาก​

ดวงตา​เป็น​สีคราม​เข้ม​ เส้น​ผม​มอง​ไม่ออ​กว่า​หยิก​โดยธรรมชาติ​หรือไม่​ เพราะ​มีเพียง​ชั้น​บาง​ๆ ปกคลุม​หนัง​ศีรษะ​อยู่​ คล้าย​กับ​ภิกษุ​เพิ่ง​สึก​ที่​ผม​เริ่ม​ยาว​

ร่าง​ของ​เขา​สูงใหญ่​กว่า​เทพ​อารักษ์​สำนัก​พุทธ​มาก​

ทุก​ย่างก้าว​ล้วน​ทำให้​พื้น​สั่นสะเทือน​เล็กน้อย​ ราวกับ​ไม่สามารถ​รับ​น้ำหนัก​ของ​เขา​ได้​

พอ​เห็น​บุตรสาว​ที่​กลับมา​อีกครั้ง​หลังจากที่​ได้​จากกัน​มานานนม​กา​เล​ หลง​ถูก็​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ​ หลังจาก​พยักหน้า​แล้วก็​กล่าว​เสียงต่ำ​ทุ้ม​ด้วย​ความ​ปลื้มใจ​

“ดูท่า​เจ้าคง​ประสบ​เรื่องราว​มากมาย​ใน​ที่ราบ​กลาง​ ถึงได้​มีการเปลี่ยนแปลง​อย่าง​พลิก​ฟ้าพลิก​ดิน​เช่นนี้​”

กล่าว​จบ​เขา​ก็​กวาดสายตา​มอง​สวี่​ชีอัน​และ​คนอื่นๆ​ และ​หยุด​อยู่​ที่​สวี่ห​ลิง​อิน​

“คน​เหล่านี้​คือ​ทาส​ที่​เจ้าจับ​มาหรือ​”

“พวกเขา​ไม่ใช่ทาส​ เป็น​สหาย​ที่​ข้า​รู้จัก​ใน​ที่ราบ​กลาง​เจ้าค่ะ​” ลี่​น่า​ให้​มือ​ข้าง​หนึ่ง​จับ​ศีรษะ​ของ​เสี่ยว​โต้​ว​ติง​

“นี่​คือ​ศิษย์​ที่​ข้า​รับ​มา”

‘ศิษย์​…’ ดวงตา​ทั้งคู่​ของ​หลง​ถูคมกริบ​ใน​ฉับพลัน​ กลิ่นอาย​ราวกับ​อสูร​ร้าย​ยุค​ดึกดำบรรพ์​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​ลาน​หน้า​

………………………………………

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท