บทที่ 668 พรสวรรค์โดดเด่น

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

เทพ​วชิระ​ขั้น​สาม!

เมื่อ​เห็น​สวี่​ชีอัน​แสดง​พลัง​เทพ​วชิระ​ระดับ​บรรลุ​สมบูรณ์​ออกมา​ ชน​เผ่า​ลี่​กู่​ก็​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ จากนั้น​ก็​พา​กัน​ก้าว​ถอยหลัง​ เสียง​ฝีเท้า​ฟังดู​ทุลักทุเล​ยิ่ง​

“เทพ​วชิระ​ของ​สำนัก​พุทธ​รึ​?”

“นี่​มัน​สภาวะ​เหนือ​มนุษย์​…”

“กลับบ้าน​ไป​เอา​อาวุธ​มาฆ่ามัน​!”

ชน​เผ่า​ชาว​ลี่​กู่​เอาแต่​ร้อง​ตะโกน​ แววตา​หวาดระแวง​ไร้​ซึ่งความไว้วางใจ​

ใน​ยุทธการ​ด่าน​ซาน​ไห่​ สำนัก​พุทธ​กับ​ราชวงศ์​ต้าฟ่ง​เป็น​พันธมิตร​กัน​ ทั้ง​ยังมี​ยอด​ฝีมือ​เผ่าพันธุ์​กู่​มากมาย​ตาย​ไป​ภายใต้​น้ำมือ​ของ​ภิกษุ​สำนัก​พุทธ​

“เทพ​วชิระ​องค์​ใหม่​ของ​สำนัก​พุทธ​รึ​?”

ผู้อาวุโส​ใหญ่​อิง​ไม้เท้า​ทำ​สีหน้า​จริงจัง​

เขา​ไม่ได้​สนใจ​โลก​ภายนอก​มาหลาย​ปี​แล้ว​ เขา​จดจำ​เทพ​วชิระ​ที่อยู่​ตรงหน้า​เขา​ไม่ได้​

“ข้า​มาจาก​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ ข้า​มิได้​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​สำนัก​พุทธ​ ข้า​เพียง​ได้​เรียนรู้​พลัง​เทพ​วชิระ​เข้า​โดยบังเอิญ​”

เมื่อ​คำนึง​ถึงว่า​เผ่าพันธุ์​กู่​ไม่เคย​ใช้อินเทอร์เน็ต​ มัน​ก็​ยาก​ที่จะ​อธิบาย​ ครู่​ต่อ​มาสวี่​ชีอัน​จึงกระซิบ​ว่า​

“สำหรับ​ร่าง​เทพ​วชิระ​นี้​ ข้า​ได้​สังหาร​เทพ​วชิระ​ไป​สอง​องค์​ แล้ว​กลืนเลือด​ของ​เทพ​วชิระ​องค์​หนึ่ง​เข้าไป​”

เขา​บังเอิญ​โชคดี​ได้​เรียนรู้​พลัง​เทพ​วชิระ​มาและ​สังหาร​เทพ​วชิระ​ไป​สอง​องค์​เชียว​รึ​? หัว​หน้าใหญ่​จางหันไป​มอง​หลง​ถูที่อยู่​ข้างๆ​

“เจ้าก็​ทำได้​ด้วย​รึ​?”

หลง​ถูยิ้ม​ “ไม่มีปัญหา​หรอก​ จับได้​เท่าไหร่​ก็​สู้เท่านั้น​ หนึ่ง​ต่อ​สอง​ ส่วนมาก​ก็​ชนะ​”

หัวหน้า​เผ่า​รูปร่าง​สูงใหญ่​กำยำ​มอง​คนแปลกหน้า​แวบเดียว​ ก็​เห็น​จิตวิญญาณ​แห่ง​การต่อสู้​อัน​ฮึกเหิม​ใน​ดวงตา​

ผู้อาวุโส​ใหญ่​พยักหน้า​ “เด็ก​คน​นี้​พยายาม​จะทำให้​เรา​เชื่อ​ เอาจริง​ด้วย​…อะไร​ทำให้​เขา​กล้า​ขนาด​นี้​”

เป็นเรื่อง​เหลือเชื่อ​ที่​หลง​ถูซึ่งอยู่​ใน​จุดสูงสุด​ขั้น​สามจะสังหาร​เทพ​วชิระ​ได้​ถึงสอง​องค์​ นอกจากนี้​ ตาม​กฎแห่งกรรม​ของ​สำนัก​พุทธ​ หาก​เด็ก​คน​นี้​สังหาร​เทพ​วชิระ​ไป​สอง​องค์​จริงๆ​ ก็​ต้อง​มีพระอรหันต์​หรือ​พระโพธิสัตว์​มาโปรด​เขา​แล้ว​

ผู้อาวุโส​ซ้าย​เอ่ย​วาจา​เคร่งขรึม​ “ผู้อาวุโส​ใหญ่​ นี่​คือ​การ​เอาใจเขามาใส่ใจเรา​”

ผู้อาวุโส​ขวา​เอ่ย​วาจา​แก้ไข​ “ไม่ถูกต้อง​ เป็น​โฉมภายนอก​ดู​เข้มแข็ง​ แต่​ภายใน​จิตใจ​ขี้ขลาด​ตาขาว​ แข็ง​นอก​อ่อน​ใน​ต่างหาก​”

ผู้อาวุโส​ใหญ่​เคาะ​ไม้เท้า​ ขัดจังหวะ​การโต้เถียง​ของ​ทั้งสอง​คน​แล้ว​กวักมือ​ตะโกนเรียก​ “ลี่​น่า​ มานี่​ที​”

ลี่​น่า​ขยับ​ขา​ยาว​ๆ ของ​นาง​เข้ามา​ใกล้​และ​พูดจา​ปากเสีย​

“เรียก​ทำไม​ ตา​แก่ตัว​เหม็น​”

ผู้อาวุโส​ใหญ่​ถามเป็น​ภาษาชายแดน​ตอน​ใต้​

“เด็ก​คน​นี้​มีภูมิหลัง​อย่างไร​? ราชวงศ์​ต้าฟ่ง​มียอด​ฝีมือ​เหนือ​มนุษย์​เช่นนี้​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​”

ผู้อาวุโส​ซ้าย​พูด​เสริม​ว่า​ “ใน​สำนัก​พุทธ​ไม่มีเทพ​วชิระ​”

“นี่​คือ​สวี่​ชีอัน​ ฆ้อง​เงิน​สวี่​ชีอัน​ ท่าน​ไม่รู้จัก​เขา​รึ​?”

ลี่​น่า​ก็​เหมือน​เด็กผู้หญิง​ที่​เพิ่ง​กลับ​จาก​เมือง​ใหญ่​ บางคน​ก็​ดูถูก​คนแก่​ใน​หมู่บ้าน​ที่​ไม่รู้เรื่อง​โลก​ภายนอก​ “กอง​คาราวาน​จาก​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ไม่ได้​บอกข่าว​อะไร​เลย​รึ​?”

เผ่าพันธุ์​กู่​ทาง​ชายแดน​ตอน​ใต้​อยู่​ใน​สภาพ​กึ่ง​ปิด​ ชน​เผ่า​นี้​ไม่ค่อย​ออก​ไป​ไหน​และ​ไม่อนุญาต​ให้​คนนอก​เข้าไป​ใน​ดินแดน​

มีเพียง​กอง​คาราวาน​จาก​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ส่วนน้อย​เท่านั้น​ที่​ได้รับอนุญาต​ให้​เข้ามา​ค้าขาย​ได้​

ส่วนใหญ่​แล้ว​แหล่งข่าว​เกี่ยวกับ​โลก​ภายนอก​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​จะมาจาก​กอง​คาราวาน​เหล่านั้น​และ​มีเพียง​คนใน​ชน​เผ่า​ส่วนน้อย​เท่านั้น​ที่​เข้ามา​สอบถาม​โดย​ไม่ได้​สนใจ​ว่า​จะเป็น​ข่าวสาร​เรื่อง​อะไร​

หลง​ถูพูดจา​เคร่งขรึม​

“ราชวงศ์​ต้าฟ่ง​กำลัง​ยุ่งเหยิง​ นาน​มาก​แล้ว​ที่​ไม่มีกอง​คาราวาน​มาถึงฝั่งเรา​”

พวกเขา​รับรู้​ถึงเหตุการณ์​สำคัญ​ เช่น​ ความวุ่นวาย​ใน​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​และ​การ​ลุกฮือ​ของ​กลุ่ม​กบฏ​

“ตอนนี้​…สวี่​หนิง​เยี่ยน​ ไม่สิ สวี่​ชีอันเป็น​ทหาร​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ราชวงศ์​ต้าฟ่ง​และ​เป็น​ที่รัก​ของ​ปวงชน​จริงๆ​”

ผู้อาวุโส​ใหญ่​ขมวดคิ้ว​ “ทหาร​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ราชวงศ์​ต้าฟ่ง​ไม่ใช่อ๋อง​สยบ​แดน​เหนือ​รึ​?”

ลี่​น่ามอง​เขา​เหมือน​คนโง่​ “ทั้งหมด​นั้น​ล้วน​เป็นเรื่อง​ใน​อดีต​ ใน​ช่วง​ปี​ที่ผ่านมา​ มีหลาย​สิ่งหลายอย่าง​เกิดขึ้น​ใน​ราชวงศ์​ต้าฟ่ง!”​

หลง​ถูผู้​เป็น​บิดา​ขมวดคิ้ว​พลัน​ถามว่า​ “เขา​สังหาร​เทพ​วชิระ​ไป​สอง​องค์​จริง​รึ​?”

ลี่​น่า​พยักหน้า​ “ใช่ มัน​เกิดขึ้น​เมื่อเดือนที่แล้ว​”

จากนั้น​นาง​ก็​เล่าเรื่อง​ที่​สวี่​ชีอัน​ทำให้​ฟังสั้น​ๆ เช่น​ การสังหาร​อ๋อง​สยบ​แดน​เหนือ​กับ​จักรพรรดิ​แห่ง​ราชวงศ์​ซ่ง…และ​เมื่อ​เร็ว​ๆ นี้​ เขา​ยัง​ตัดหัว​อา​ซูหลัว​ บุตรชาย​คน​สุดท้อง​ของ​ราชัน​อสูร​ใน​ภูเขา​สือ​ว่าน​ด้วย​

เมื่อ​นาง​พูด​จบ​ เหล่า​ผู้อาวุโส​ก็​เงียบ​ไป​และ​ไม่พูด​อะไร​อีก​นาน​

หลง​ถูขมวดคิ้ว​ จ้องมอง​สวี่​ชีอัน​ทั้ง​กลัว​ทั้ง​ตื่นเต้น​ ดวงตา​ของ​เขา​เปล่งประกาย​เจิดจ้า​และ​หัวใจ​ของ​เขา​ก็​เต้น​เร็ว​รี่​

ลี่​น่ารู้​ว่า​นั่น​หมายถึง​เลือด​ใน​กาย​บิดา​นาง​กำลัง​เดือด​พล่าน​ แต่​ด้วย​ความหวาดหวั่น​และ​หวาดกลัว​ นาง​จึงเลือก​ที่จะ​สะกดอารมณ์​ตัวเอง​ไว้​

ตั้งแต่​เล็ก​จน​โต​นาง​ยัง​ไม่เคย​เห็น​ใคร​ทำให้​บิดา​ของ​นาง​ต้อง​สะกดอารมณ์​ขนาด​นี้​

เหล่า​ผู้อาวุโส​พึมพำ​เพื่อ​หารือ​อีกครั้ง​ จากนั้น​ผู้อาวุโส​ใหญ่​ก็​กระแอม​ไอ​และ​มอง​ไป​ยัง​สวี่​ชีอัน​

“ใน​เมื่อ​เจ้าเป็นยอด​ฝีมือ​ใน​สภาวะ​เหนือ​มนุษย์​ เรา​ก็​ไม่อยาก​รบกวน​เจ้า พา​น้องสาว​เจ้าไป​ซะ”

คำพูด​เช่นนี้​ตรง​ใจเกินไป​ ชน​เผ่า​ชาว​ลี่​กู่​ไม่ว่า​คน​ไหน​ต่าง​พา​กัน​พยักหน้า​ ไม่มีใคร​รู้สึก​ว่า​คำพูด​ของ​ผู้อาวุโส​ใหญ่​หยาบคาย​และ​ไม่ไว้หน้า​

ใน​เผ่า​ลี่​กู่​ คู่ต่อสู้​หรือ​สหาย​ที่​ทรงพลัง​จะได้รับ​ความเคารพ​อย่าง​สูง

สวี่​ชีอัน​พูดว่า​ “น้องสาว​ข้า​อยาก​กราบ​ลี่​น่า​เป็น​ครู​ของ​นาง​ ข้า​หวัง​ว่า​ผู้อาวุโส​จะให้การ​สนับสนุน​”

ถ้ามัน​เกี่ยวกับ​อนาคต​ของ​สวี่ห​ลิง​อิน​ เขา​ก็​ต้องสู้​เพื่อ​ให้ได้​มัน​มา

เจ็ด​ยอด​กู่​ใน​ร่างกาย​นาง​มีลักษณะ​แตกต่าง​จาก​ไสยศาสตร์​กู่​ประเภท​อื่นๆ​ เจ้าสิ่งนี้​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​เทพ​กู่​ เพียงแค่​ให้อาหาร​ที่​ต้องการ​ก็​สามารถ​งอกงาม​ได้​เอง​

ยกเว้น​เรื่อง​พลัง​และ​วิชา​ลับ​ของ​เทพ​กู่​

ดังนั้น​สวี่​ชีอัน​จึงไม่สามารถ​สอน​เสี่ยว​โต้​ว​ติง​ให้​ฝึกฝน​พลัง​ลี่​กู่​ได้​ นอกจากนี้​ แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​ก็​ยังอยู่​ใน​เผ่า​เทียน​กู่​ ไม่ต้อง​พูดถึง​ทัศนคติ​ที่​หญิง​ชรา​ผู้​นี้​มีต่อ​เขา​

เมื่อ​พิจารณา​จาก​มุมมอง​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​เจ็ด​เผ่า​หลัก​แล้ว​ สวี่​ชีอัน​เกรง​ว่า​แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​อาจ​ไม่สามารถ​ชี้นิ้ว​สั่งการ​เผ่า​ลี่​กู่​ใน​เรื่อง​นี้​ได้​

ที่​ข้า​เป็นอยู่​ตอนนี้​ก็​เหมือน​พ่อแม่​ใน​ชาติ​ก่อนที่​คร่ำครวญ​อยาก​ให้​ลูก​ได้​เข้า​โรงเรียน​ดี​ๆ…เขา​แอบ​บ่น​ใน​ใจ

ถ้าโอภาปราศรัย​ไป​แล้ว​ไร้ประโยชน์​ เขา​ก็​พร้อม​ที่จะ​ใช้กำปั้น​เพื่อ​กำราบ​เผ่า​ลี่​กู่​ให้​ยอมจำนน​

ลี่​น่า​พูด​ซ้ำ

“ห​ลิง​อิน​เป็น​อัจฉริยะ​ อัจฉริยะ​ที่​ไม่เคย​มีมาก่อน​ใน​หนังสือประวัติศาสตร์​ ข้า​ทำ​เช่นนี้​เพื่อประโยชน์ของ​เผ่า​ลี่​กู่​ของ​เรา​ เพื่อ​ดึงดูด​อัจฉริยะ​เข้ามา​”

“เผ่าพันธุ์​กู่​ของ​เรา​ไม่มีหนังสือประวัติศาสตร์​”

แม่นาง​ ‘อา​ซี’ ผู้​ได้รับ​คำชม​ว่า​ฉลาด​จาก​ผู้อาวุโส​ใหญ่​พูด​ขึ้น​

ลี่​น่า​สำลัก​ ตอนที่​นาง​อยู่​ใน​เมืองหลวง​ นาง​มัก​ได้ยิน​สวี่ฉือจิ้ว​เอ่ย​วาจา​เช่นนี้​ “นับตั้งแต่​พันปี​ที่แล้ว​ พิจารณา​จาก​พงศาวดาร​ประวัติศาสตร์​แล้ว​ ไม่มีสมัยโบราณ​หรือ​สมัยใหม่​ ย่อม​แสดงว่า​ท่าน​อ่าน​หนังสือประวัติศาสตร์​หมด​แล้ว​…”

หลังจาก​ได้ยิน​คำพูด​พวก​นี้​บ่อยๆ​ ลี่​น่า​ก็​รู้สึก​ว่า​ตราบใดที่​ไม่มีอยู่​ใน​หนังสือประวัติศาสตร์​ ก็​หมายความว่า​เป็น​พวก​ที่​มีพลัง​พิเศษ​

ผู้หญิง​คน​นี้​ฉลาด​มาก​…สวี่​ชีอัน​ชำเลือง​มอง​หญิงสาว​ผิวคล้ำ​ร่างกาย​บอบบาง​

ผู้อาวุโส​ใหญ่​พูดจา​แช่มช้า

“เผ่าพันธุ์​กู่​ของ​เรา​ไม่มีปัญหา​การ​ขาดแคลน​อัจฉริยะ​ แต่ละ​รุ่น​จะมีอัจฉริยะ​ถือกำเนิด​ขึ้น​หลาย​คน​ พ่อเจ้า​และ​เจ้าก็​เช่นกัน​ ดังนั้น​ถ้าผู้หญิง​คน​นี้​ที่​มาจาก​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​เป็น​อัจฉริยะ​แล้​วจะ​เป็น​เช่นไร​”

“หรือ​จะเป็นไปได้​ว่า​เผ่าพันธุ์​กู่​ของ​เรา​จะอดอยากปากแห้ง​อย่างยิ่ง​? เจ้าจึงเสนอ​นาง​ขึ้น​? เสนอ​มาแล้วก็​คิด​ว่า​เรา​จะรีบ​รับ​นาง​เป็น​ศิษย์​งั้น​หรือ​?”

สำนวนโวหาร​ของ​ผู้อาวุโส​ใหญ่​ทำให้​ลี่​น่า​พูดไม่ออก​

หลง​ถูมอง​ไป​ที่​ลูกสาว​ของ​เขา​แล้ว​ถามว่า​

“มื้อ​หนึ่ง​กินข้าว​ได้​กี่​ชาม”

ลี่​น่า​ตอบ​ว่า​

“มื้อ​เดียว​กิน​ได้​สิบ​ชาม ถ้าไม่มีผัก​ก็​กิน​ได้​สิบห้า​ชาม”

ชน​เผ่า​ชาว​ลี่​กู่​ตกตะลึง​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​ผู้อาวุโส​ใหญ่​ก็​จ้องมอง​สวี่ห​ลิง​อิน​ด้วย​ความประหลาดใจ​

“คุณสมบัติ​ดี​จริงๆ​…”

ผู้อาวุโส​คนอื่น​ ๆ พยักหน้า​เห็นด้วย​

“กิน​ได้​สิบ​ชามเหรอ​ ลูก​ข้า​อายุ​เท่านี้​แต่​กิน​ได้​ห้า​ชามเอง​”

“สิบห้า​ชามเรอะ​ ลูกชาย​เจ้าปกติ​กินข้าว​ห้า​ชาม ส่วน​ของ​คนอื่น​กินข้าว​เปล่า​สิบห้า​ชาม”

“ดูเหมือนว่า​จะมีคุณสมบัติ​ที่​ดี​จริงๆ​”

ชาว​เผ่าพันธุ์​ลี่​กู่​พูดคุย​กัน​ใหญ่​ พวกเขา​ทำ​หน้า​ประหลาดใจ​อย่าง​เห็นได้ชัด​

สวี่​ชีอัน​รู้สึก​อึดอัด​เล็กน้อย​ สไตล์​ของ​คน​เผ่า​นี้​ทั้ง​เผ่า​ทำให้​เขา​ทำตัว​ผสมกลมกลืน​ได้​ยาก​และ​มีปัญหา​ใน​การปรับตัว​

เขา​รู้สึก​อยู่​เสมอ​ว่า​กับ​คน​กลุ่ม​นี้​ ช่องว่างระหว่างวัย​และ​ความห่างเหิน​นั้น​ลึก​เกินไป​

ผู้อาวุโส​ใหญ่​กระแอม​ ยุติ​การ​สนทนา​รอบ​ๆ ตัว​ เหยียด​กล้ามเนื้อ​หน้าอก​อัน​น่าภาคภูมิใจ​ของ​เขา​ และ​พูดว่า​

“จะว่า​ดี​มัน​ก็ดี​จริงๆ​ แต่​ใน​เผ่าพันธุ์​ของ​เรา​มีเด็ก​หลาย​คน​ที่​กิน​ได้​เหมือน​นาง​”

เขา​พูด​ด้วย​สีหน้า​ภาคภูมิใจ​

สวี่​ชีอัน​ก็​ไม่คิด​ว่า​มัน​แปลก​ แม้ว่า​ห​ลิง​อิน​จะอยาก​อาหาร​มาก​ แต่​ก็​ต้อง​มีเด็ก​ที่​มีความอยาก​อาหาร​แบบ​เดียวกัน​ใน​เผ่า​ลี่​กู่​ หาก​ตัดสิน​พรสวรรค์​จาก​ความอยาก​อาหาร​แล้ว​ เผ่าพันธุ์​กู่​ก็​ย่อม​ต้อง​มีเด็ก​ที่​มีพรสวรรค์​ใน​ระดับ​เดียวกัน​แน่​

เด็ก​อย่าง​ห​ลิง​อิน​นั้น​ไม่ได้​มีอยู่​คนเดียว​ ดังนั้น​จึงเป็นไปไม่ได้​ที่​เผ่าพันธุ์​กู่​จะฝ่าฝืน​กฎเกณฑ์​ใน​เผ่า​เพื่อ​นาง​

แม่นาง​ที่​ชื่อ​ ‘อา​ซี’ มอง​ไป​ยัง​สวี่ห​ลิง​อิน​แล้ว​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ราวกับ​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​

“ผู้อาวุโส​ใหญ่​…”

แม่นาง​อา​ซีร้อง​ตะโกน​และ​เมื่อ​ทุกคน​หันไป​มอง​ นาง​ก็​ลังเล​และ​พูดว่า​

“แต่​ใน​เผ่า​มีการ​ปลูกฝัง​กู่​เจ้าชะตา​ให้​เด็ก​ๆ มาตั้งแต่​ยัง​เล็ก​”

ผู้อาวุโส​ใหญ่​พูด​ด้วย​อาการ​ไม่พอใจ​

“เจ้าอยาก​จะบอก​อะไร​ มีใคร​บ้าง​ที่​ไม่ได้​หลอม​รวม​กับ​กู่​เจ้าชะตา​ตั้งแต่​ตอน​เด็ก​…”

ทันใดนั้น​เขา​ก็​ตกตะลึง​แล้ว​บิด​คอ​แข็งทื่อ​หันไป​มอง​สวี่ห​ลิง​อิน​

“ลี่​…ลี่​น่า​ขึ้น​เหนือ​ไป​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​?”

ผู้อาวุโส​ใหญ่​ถามหลง​ถูข้าง​หลังเขา​ด้วย​น้ำเสียง​ระมัดระวัง​ระคน​สงสัย​

เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​เหล่านี้​ คนใน​เผ่าพันธุ์​ลี่​กู่​ที่อยู่​รายรอบ​ ตลอดจน​ผู้อาวุโส​คนอื่นๆ​ รวมทั้ง​หลง​ถูก็​เบิกตา​กว้าง​ทันที​เมื่อ​นึกถึง​อะไร​บางอย่าง​

เด็ก​คน​นี้​ไม่ได้​มาจาก​เผ่าพันธุ์​ลี่​กู่​…

หลง​ถูเค้น​คำพูด​ทีละ​คำ​ “ฤดูร้อน​ปี​นี้​!”

ถูกต้อง​ ห​ลิง​อิน​เพิ่ง​หลอม​รวม​พลัง​ลี่​กู่​มาได้​ไม่นาน​นี้​เอง​ เต็มที่​ก็​ไม่เกิน​สามถึงสี่เดือน​เท่านั้น​ เทียบ​เท่ากับ​ว่า​ใช้เวลา​สามถึงสี่เดือน​ตั้งแต่​ไม่มีรากฐาน​จน​มาถึงจุดสูงสุด​ขั้น​เก้า​…สวี่​ชีอัน​คิด​ตามอย่าง​มีความสุข​

ตอนนี้​เอง​ มู่หนาน​จือ​ก็​พูด​ขึ้น​อย่าง​ไม่มีปี่มีขลุ่ย​

“คน​กลุ่ม​นี้​แปลก​จริงๆ​ เลย​ อยู่​กับ​พวกเขา​นานๆ​ แล้ว​รู้สึก​เหมือน​ไม่ได้​ใช้สมอง​เลย​”

สวี่​ชีอัน​ตัว​แข็งทื่อ​ทันที​ ความสงสัย​ผุด​ขึ้น​ใน​ใจ

ทำไม​ตอนนี้​ข้า​ใช้ความอยาก​อาหาร​เพื่อ​วัด​พรสวรรค์​? ทำไม​ข้า​ไม่ทัน​คิด​ว่า​ห​ลิง​อิน​เพิ่งจะ​หลอม​รวม​พลัง​ลี่​กู่​ได้​เพียง​สามหรือ​สี่เดือน​เท่านั้น​?

“อัจฉริยะ​ อัจฉริยะ​ที่​ไม่เคย​มีมาก่อน​ใน​หนังสือประวัติศาสตร์​…”

ผู้อาวุโส​ใหญ่​รู้สึก​ตื่นเต้น​จน​แทบจะ​จับ​ไม้เท้า​ไม่อยู่​และ​รีบ​วิ่ง​ไปหา​สวี่ห​ลิง​อิน​อย่าง​รวดเร็ว​ แล้ว​จ้องมอง​ตรวจสอบ​นาง​ราวกับ​กำลัง​ตรวจสอบ​สมบัติ​ล้ำค่า​

“ข้า​จำได้​ว่า​ตอนที่​หลง​ถูยัง​เป็น​เด็ก​ เขา​อายุ​เพียง​เก้า​ขวบ​ตอนที่​เขา​อยู่​ใน​จุดสูงสุด​ขั้น​เก้า​ เขา​กิน​อาหาร​มากมาย​ไป​ใน​เวลา​เก้า​ปี​ แต่​ยัง​เทียบ​กับ​ที่​สตรี​นาง​นี้​ฝึกฝน​มาเป็นเวลา​สามหรือ​สี่เดือน​ไม่ได้​” ผู้อาวุโส​ใหญ่​พูด​เสียงดัง​

หลง​ถูดู​ละอายใจ​ยิ่ง​

จะนับ​อย่างนี้​ไม่ได้​ จะนับ​รวมถึง​เวลา​ของ​ทารก​กับ​เด็กเล็ก​ใน​นั้น​ไม่ได้​…สวี่​ชีอัน​หวนกลับ​ไป​ใช้ไหวพริบ​ตัวเอง​แล้ว​แอบ​บ่น​อยู่​เงียบๆ​

ผู้อาวุโส​ใหญ่​ยัง​ใช้มือ​ทั้งสอง​ข้าง​บีบ​ไหล่​ แขน​และ​ต้นขา​ของ​สวี่ห​ลิง​อิน​ไม่หยุด​แล้ว​จู่ๆ ก็​ตะโกน​ว่า​

“กล้ามเนื้อ​และ​กระดูก​แข็งแรง​ เปี่ยม​ไป​ด้วย​พละกำลัง​ นี่​คือ​ร่างกาย​ที่เกิด​มาเพื่อ​พลัง​ลี่​กู่​”

ผู้อาวุโส​ที่​เหลือ​อีก​ห้า​คน​รวมทั้ง​หลง​ถูก้าว​ไป​ข้างหน้า​ หมอบลง​ สัมผัส​ตาม​ร่างกาย​ของ​สวี่ห​ลิง​อิน​ให้​รู้สึก​ถึงกระดูก​และ​บีบ​เส้นเอ็น​ สีหน้า​ของ​พวกเขา​ค่อยๆ​ เปลี่ยนไป​ จาก​ประหลาดใจ​เป็น​ตกใจ​ จาก​ตกใจ​ก็​เป็น​ปีติ​ยินดี​

ผู้อาวุโส​ใหญ่​มอง​ไป​ทาง​สวี่​ชีอัน​แล้ว​ถามด้วย​ความตื่นเต้น​ “นาง​กิน​เก่ง​เป็นพิเศษ​ตั้งแต่​ยัง​เด็ก​ใช่หรือไม่​?”

อาหาร​มื้อ​ละ​สามชาม ไม่ใช่จาน​…สวี่​ชีอัน​พูดว่า​ “อืม​” โดย​ไม่แสดงท่าที​อื่น​ใด​

“เจ้าหิว​บ่อย​ใช่หรือไม่​?” ผู้อาวุโส​อีก​คน​เอ่ย​ถาม

“อืม​”

“เจ้าอยาก​กิน​ทุกอย่าง​ที่​เจ้าเห็น​ใช่หรือไม่​?” หลง​ถูยัง​พูดแทรก​

ไป๋​จีใน​อ้อมแขน​มู่หนาน​จือ​หดตัว​ลง​โดยไม่รู้ตัว​

นาง​อยาก​กิน​ผี​ด้วยซ้ำ​…สวี่​ชีอัน​ยังคง​พยักหน้า​

เหล่า​ผู้อาวุโส​ที่​ได้รับ​คำตอบ​ยืนยัน​พลัน​ตื่นเต้น​อีกครั้ง​

“ไม่เลว​จริงๆ​ อัจฉริยะ​ที่​ดี​จะต้อง​ผ่าน​ความ​เป็นผู้ใหญ่​ขั้นแรก​ให้ได้​ภายใน​สามหรือ​สี่เดือน​”

ลี่​น่า​หยิก​เอว​นาง​อย่าง​ภาคภูมิใจ​ “ใช่ไหม​ ใช่ไหม​ เขา​ว่า​เจ้าเป็น​อัจฉริยะ​”

ชาว​เผ่า​ลี่​กู่​มอง​เสี่ยว​โต้​ว​ติง​ด้วย​ความประหลาดใจ​

สวี่​ชีอัน​ตี​เหล็ก​ในขณะที่​ยัง​ร้อน​ “ถ้าอย่างนั้น​ น้องสาว​ข้า​กราบ​ลี่​น่า​เป็น​ครู​ก็​จะได้​เรียน​วิชา​ลับ​ของ​ลี่​กู่​น่ะ​สิ?”

ผู้อาวุโส​อารมณ์​เย็น​ลง​เรื่อยๆ​ พวกเขา​มองดู​เสี่ยว​โต้​ว​ติง​อย่าง​ลึกซึ้ง​แล้ว​มองหน้า​กัน​ ผู้อาวุโส​ใหญ่​เริ่ม​พูด​ก่อน​ เขา​ส่าย​หัว​และ​พูดว่า​ “ไม่เหมาะสม​!”

“มัน​ไม่ถูกต้อง​” ผู้อาวุโส​คน​หนึ่ง​เดิน​ตามมา​และ​ส่าย​หัว​

“ไม่เหมาะสม​จริงๆ​ ที่จะ​ให้​ลี่​น่า​เป็น​ครู​” ผู้อาวุโส​อีก​คน​ส่าย​หัว​

“สมควร​ต้อง​กราบไหว้​เรา​เป็น​อาจารย์​”

“ใช่ ใช่”

ลี่​น่า​ตกตะลึง​ กระโดด​ขึ้น​และ​พูดว่า​ “นี่​ลูกศิษย์​ข้า​”

ผู้อาวุโส​ใหญ่​ชำเลือง​มอง​นาง​ “เรา​คือ​ผู้อาวุโส​ เรา​ได้​ให้​คำตอบ​สุดท้าย​แล้ว​”

ลี่​น่า​บีบ​เอว​ของ​เธอ​ จ้อง​ไป​ที่​ผู้อาวุโส​ด้วย​ความโกรธ​และ​ร้อง​ตะโกน​

“ท่าน​พ่อ​ ช่วย​ข้า​ตัดสิน​ที​”

“กราบไหว้​ผู้อาวุโส​เหล่านั้น​เป็น​ครู​เป็นเรื่อง​ไม่สมควร​อย่างยิ่ง​”

หลง​ถูส่าย​หัว​และ​พูด​กับ​ลี่​น่า​ลูกสาว​ของ​เขา​

“ท่าน​พ่อ​…” ลี่​น่า​อ้อน​เสียงหวาน​น้ำเสียง​กระเง้ากระงอด​เล็กน้อย​

“แค่​รับ​ข้า​เป็น​ครู​ของ​เจ้า”

หลง​ถูไม่ได้​เข้าข้าง​ลูกสาว​ตัวเอง​

สวี่​ชีอัน​หันไป​มอง​ลี่​น่า​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ ใบหน้า​ยิ้มแย้ม​มีความสุข​ของ​นาง​แข็ง​ค้าง​เล็กน้อย​ ราวกับ​ภาพวาด​หรือ​รูปปั้น​

เผ่า​เทียน​กู่​

ใน​บ้าน​ที่​มีลาน​เฉลียง​ แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​ใน​ชุด​ผ้า​สีน้ำเงิน​นั่ง​อยู่​บน​แท่น​ไม้เล็ก​ๆ หยิบ​ตัวอ่อน​ที่​เพิ่ง​ขุด​ขึ้น​มาจาก​พื้นดิน​ซึ่งดูเหมือน​ดักแด้​จักจั่น​ขึ้น​มา

ตัว​ขาว​และ​อวบอ้วน​ ตามตัว​มีวงแหวน​ปกคลุม​ด้วย​ไขมัน​

นี่​คือ​ตัวอ่อน​ของ​กู่​ชนิด​หนึ่ง​ที่​เรียก​ว่า​ ‘หนอน​ไหม​เนื้อ​’ เมื่อ​หนอน​ไหม​เนื้อ​โต​เต็ม​วัย​จะมีสีเข้ม​และ​มีพิษ​ร้ายแรง​สามารถ​ฆ่าทหาร​ขั้น​เก้า​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

แต่​เมื่อ​มัน​ยังอยู่​ใน​ระยะ​ตัวอ่อน​ จะมีเพียง​ไขมัน​และ​พลังงาน​ ตัวอ่อน​ของ​หนอน​ไหม​ห้า​ตัว​เทียบ​เท่ากับ​อาหาร​ของ​คนธรรมดา​หนึ่ง​มื้อ​ ไม่ว่า​จะนำ​ไป​ทอด​หรือ​ประกอบอาหาร​ก็​มีรสชาติ​ดีมาก​

ใต้​ชานบ้าน​มีคน​ห้า​คน​ เรียงราย​จาก​ซ้าย​ไป​ขวา​

สวม​เสื้อคลุม​ สวม​ผ้าคลุม​หัว​ ซากศพ​เน่าเปื่อย​

โฉมงามสะคราญ​ตา​สวม​ชุด​คลุม​สีสัน​สดใส​ถือ​แมงป่อง​ไว้​ใน​ฝ่ามือ​ ตุ้มหู​เป็น​งูสอง​ตัว​ สีแดง​เรียว​เล็ก​อ้า​ปาก​งับ​หาง​ตัวเอง​เกิด​เป็น​วงแหวน​

บุรุษ​วัยกลางคน​สวม​เสื้อผ้า​ทำ​จาก​หนัง​สัตว์​นั่ง​อยู่​บน​พื้นดิน​ หยิบ​ยาพิษ​ทุกชนิด​ออกจาก​ถุงผ้า​ตัวเอง​โดย​ไม่สนใจ​สิ่งอื่น​ใด​ได้​แต่​กัด​กิน​มัน​อย่าง​เอร็ดอร่อย​

สตรี​น่า​เสน่หา​ผู้​นี้​สวม​กางเกงชั้นใน​สีขาว​ใส่เสื้อ​เกาะ​อก​สวม​กระโปรง​ผ้า​โปร่ง​ ขา​เรียว​กระชับ​ หน้า​ท้องแบน​ราบ​ เห็น​สาย​เสื้อ​ใน​ชัดเจน​ หน้าอก​อวบ​อิ่ม​สูงใหญ่​กอปร​กัน​เป็น​เรือนร่าง​มีเสน่ห์​น่าหลงใหล​

ม่านตา​สีฟ้าอ่อน​เป็นประกาย​ ดู​สดใส​เปล่งประกาย​

คน​สุดท้าย​เป็น​ชายหนุ่ม​รูปงาม​ สุภาพ​เรียบร้อย​ นุ่ง​ขาว​ห่ม​ขาว​ อ่อนช้อย​ สง่างามดุจ​บัณฑิต​ ไร้​ซึ่งความ​แข็งแกร่ง​ดุจ​ชายชาตรี​

“เหตุใด​หลง​ถูยัง​ไม่มา?”

ชาย​ใน​ชุด​คลุม​ถามเสียงแหบ​ห้าว​ น้ำเสียง​ของ​เขา​ร้อนรน​อย่างยิ่ง​

“ส่งจดหมาย​ถึงเขา​แล้ว​”

แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​หยิบ​ตัวอ่อน​หนอน​ไหม​ออกมา​ด้วยตัวเอง​และ​อธิบาย​ประโยค​หนึ่ง​อย่าง​ไม่เร่งรีบ​

ชาย​ใน​ชุด​ขาว​พูด​ไป​ยิ้ม​ไป​ “ผู้​วางแผนการ​ใหญ่​ อย่า​ได้​รีบร้อน​”

สตรี​ทรง​เสน่ห์​ใน​ชุด​กระโปรง​ผ้า​โปร่ง​หัวเราะ​คิกคัก​พลาง​พูดว่า​

“พูด​ได้ดี​ ผู้​วางแผนการ​ใหญ่​จะไม่ตระหนี่​ใน​การ​ตอบสนอง​ตัณหา​ทาส​ นายพล​เก่​อ​ คืนนี้​ข้า​จะรอ​ท่าน​อยู่​ที่​เผ่า​ฉิงกู่​”

ใบหน้า​ของ​ชาย​ชุด​ขาว​แข็ง​ค้าง​ไป​เล็กน้อย​ แต่​เขา​ก็​ฟื้น​ตัวอย่าง​รวดเร็ว​และ​พูด​กลั้ว​รอยยิ้ม​

“เมื่อ​งานใหญ่​เสร็จสิ้น​ ท่าน​นายพล​จะส่งชายฉกรรจ์​ผู้​แข็งแกร่ง​หนึ่ง​แสน​นาย​ไปหา​หัวหน้า​เผ่า​หลวนอวี้​ ปัญหา​คือ​อะไร​?”

เขา​มอง​ไป​ทาง​ทิศตะวันออก​และ​ดวงตา​ของ​เขา​ก็​เป็นประกาย​ “หัวหน้า​เผ่า​หลง​ถูอยู่​ที่นี่​”

………………………………………

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท