บทที่ 675 ปิดเกม (1)

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

สายตา​ที่​แหลมคม​ของ​หลง​ถูจ้องเขม็ง​บุตรสาว​อย่าง​ลุ​กวาว​ เขา​ชะงัก​ไป​ใน​ทันใด​ ก่อน​ส่าย​ศีรษะ​เอ่ย​ว่า​

“ไม่จริง​ ตัว​ลี่​น่า​ยัง​ไม่ชำนาญ​ศาสตร์​ลับ​ระดับ​บรรลุ​ธรรม​”

ผู้อาวุโส​ทั้ง​หก​ตอบสนอง​ เมื่อ​ครู่​โมโห​จน​ไม่ได้สติ​ จึงลืม​เรื่อง​นี้​ไป​เสีย​อย่างนั้น​

ต่อมา​ผู้อาวุโส​ใหญ่​เหมือน​จะคิด​อะไร​ขึ้น​มาได้​ เขา​ตบ​ศีรษะ​ตนเอง​ไป​ครั้งหนึ่ง​ก่อน​เอ่ย​ตะโกน​ว่า​

“ที่แท้​เป็น​เขา​นี่เอง​”

เมื่อ​พบ​ว่า​หลง​ถูและ​ผู้อาวุโส​หลาย​คน​ที่​เหลือ​มอง​มา ผู้อาวุโส​ใหญ่​จึงเอ่ย​อธิบาย​ว่า​

“วันนี้​ข้า​พบ​ว่า​พลัง​เทพ​กู่​บริเวณ​ภายนอก​เบาบาง​ผิดปกติ​ขณะ​ข้า​พา​ห​ลิง​อิน​ไป​เลื่อนขั้น​ที่​จี๋เยวียน​ ข้า​ อาวุโส​สามและ​อาวุโส​สี่จึงเข้าไป​ตรวจสอบ​สถานการณ์​อย่าง​ละเอียด​ จึงพบ​ว่า​พลัง​เทพ​กู่​บางแห่ง​ใน​ป่า​เบาบาง​ลง​เช่นเดียวกัน​

“ขณะนั้น​ข้า​คิด​ว่า​มีอสูร​กู่​ที่​แข็งแกร่ง​ปรากฏตัว​…”

เมื่อ​กล่าวถึง​ตรงนี้​ ผู้อาวุโส​ใหญ่​พูดไม่ออก​อย่าง​กะทันหัน​ เพราะ​กังวล​ว่า​เนื้อ​ยัง​สด​อยู่​จึงรีบ​นำ​กลับบ้าน​ไป​ปรุง​ให้​พวกเขา​ เลย​ไม่ได้​สนใจ​เรื่องสำคัญ​อย่าง​การ​สงสัย​ว่า​อสูร​กู่​ปรากฏตัว​บน​โลก​

ผู้อาวุโส​สามเอ่ย​เบา​ๆ ว่า​

“เขา​เริ่ม​บำเพ็ญ​ลี่​กู่​ตั้งแต่​เมื่อใด​กัน​ เหตุใด​จึงบำเพ็ญ​เกือบ​ถึงระดับ​บรรลุ​ธรรม​ ใคร​สอน​การ​บำเพ็ญ​ศาสตร์​ลับ​ให้​เขา​กัน​”

เขา​ถามสามครั้ง​ติดต่อกัน​ ถามจน​เหล่า​ผู้อาวุโส​ผันผวน​ปวดใจ​ อิจฉาริษยา​จนถึง​ขีดสุด​

แม้แต่​หลง​ถูเอง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กล่าวว่า​

“ความสามารถ​บ้าคลั่ง​…ห่าง​จาก​ระดับ​บรรลุ​ธรรม​เพียง​เส้น​เดียว​แล้ว​”

ในที่นี้​มีเพียง​ผู้อาวุโส​ใหญ่​ที่​สามารถ​แสดงความสามารถ​บ้าคลั่ง​ได้​ชั่วขณะ​ แต่​เวลา​เกิดผล​สั้น​มาก​

ผู้อาวุโส​ใหญ่​เอ่ย​พึมพำ​ว่า​ “เขา​บำเพ็ญ​มานาน​แค่​ไหน​แล้ว​ บำเพ็ญ​มานาน​เท่าใด​กว่า​จะถึงระดับ​นี้​ คงจะ​ไม่เหมือนกับ​ห​ลิง​อิน​ใช่ไหม​”

‘คงจะ​ไม่เหมือน​ห​ลิง​อิน​หรอก​มั้ง’…ทุกคน​มอง​ไป​ยัง​ผู้อาวุโส​ราวกับ​มอง​คนบ้า​ รวมถึง​หัวหน้า​เผ่า​หลง​ถูด้วย​

“เหมือน​อย่าง​ที่​กล่าว​ใน​ข่าวกรอง​ เขา​ใช้ไสยศาสตร์​กู่​เป็น​ แต่​ต่าง​ออก​ไป​ ขณะ​เขา​ประมือ​กับ​คุณชาย​จีเสวียน​และ​คุณหนู​หยวน​ซวง​ที่​ยง​โจว​ ไสยศาสตร์​กู่​เขา​พื้นๆ​ ไม่เท่า​ขั้น​สี่ด้วยซ้ำ​…”

คิ้ว​ที่​สง่าผึ่งผาย​ของ​เก่​อ​เห​วิน​ซวน​ซึ่งกำลัง​ถือ​กล้องส่องทางไกล​กระบอก​เดี่ยว​อยู่​ขมวด​เกร็ง​เมื่อ​เห็น​ฉาก​นี้​

เขา​แยก​ไม่ออ​กว่า​สวี่​ชีอัน​จงใจปกปิด​การ​บำเพ็ญ​ขณะ​อยู่​ที่​ยง​โจว​ชั่ว​ระยะ​หนึ่ง​ หรือ​เพิ่ง​บรรลุ​เมื่อ​เร็ว​ๆ นี้​

หาก​เป็น​อย่าง​แรก​ก็​หมายความว่า​เด็ก​คน​นี้​แผนการ​ล้ำลึก​จน​น่า​หวาดหวั่น​

หาก​เป็น​อย่าง​หลัง​ก็​หมายความว่า​เด็ก​คน​นี้​บำเพ็ญ​รุดหน้า​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​จน​น่า​สั่น​กลัว​

“หาก​ข่าวกรอง​ที่​ยง​โจว​ไม่ผิดพลาด​ เช่นนั้น​การพัฒนา​ของ​เขา​ก็​เร็ว​มาก​เลย​ หาก​เป็น​เช่นนี้​ ข่าวกรอง​ก็​คง​ไร้​ความหมาย​”

คิ้ว​ของ​เก่​อ​เห​วิน​ซวน​แทบจะ​ขมวด​เป็น​รูป​ตัวอักษร​ ‘川’

กับดัก​ที่​สมบูรณ์แบบ​อย่างหนึ่ง​ แผนการ​ที่​เหมาะสม​อย่างหนึ่ง​ ต้อง​มีข่าวกรอง​ที่​แม่นยำ​เพื่อ​สนับสนุน​

ไม่อาจ​วางแผน​เรื่อง​นี้​อย่าง​ค่อยเป็นค่อยไป​เช่นเดียวกับ​สวี่​ชีอัน​ได้​เลย​

เพราะ​อาจ​ล้าหลัง​ได้​ตลอดเวลา​

“การ​แบก​ชะตา​บ้านเมือง​ไว้​กับ​ตัว​ น่ากลัว​เช่นนี้​ได้​จริงๆ​ หรือ​”

เก่​อ​เห​วิน​ซวน​บำเพ็ญ​ทั้ง​วรยุทธ์​และ​ศาสตร์​ควบคู่​ เป็น​จอม​ยุทธ์​ขั้น​ห้า​และ​โหร​ขั้น​หก​ เขา​ติด​อยู่​ที่​ขั้น​หก​เพราะว่า​ขาด​ความเชื่อมั่น​ว่า​จะผ่าน​เคราะห์ร้าย​ที่​ ‘นัก​พยากรณ์​’ จะต้อง​แบกรับ​

ตัว​เขา​ใน​ฐานะ​โหร​คุ้นเคย​กับ​โชคชะตา​ แม้จะบอ​กว่า​ผู้​ที่​มีมหา​โชคชะตา​ติดตัว​ มีพร​และ​วาสนา​หยั่งลึก​ แต่​เมื่อ​ถึงระดับ​บรรลุ​ธรรม​ ผล​ของ​ดวงชะตา​ติดตัว​จะอ่อนแอ​ลง​อย่าง​ไร้ขีดจำกัด​

ซึ่งนี่​ก็​คือ​สาเหตุ​ว่า​ทำไม​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​สามขึ้นไป​จึงมีสิทธิ์​เพิกเฉย​จักรพรรดิ​แห่ง​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​

สำหรับ​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​หนึ่ง​ ขั้น​สอง​หรือ​ขั้น​สาม การสังหาร​จักรพรรดิ​แห่ง​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​จะได้รับ​ผลสะท้อน​จาก​โชคชะตา​

ที่​ไม่อยาก​ยุแหย่​จักรพรรดิ​ เป็น​เพราะ​หวาดกลัว​โชคชะตา​สะท้อน​กลับ​เท่านั้นเอง​

สำหรับ​เก่​อ​เห​วิน​ซวน​แล้ว​ นี่​เป็น​สมดุล​อย่างหนึ่ง​

มิเช่นนั้น​ ผู้​มีดวงชะตา​ติดตัว​คงจะ​เที่ยว​ก่อการ​อุกอาจ​โดย​ไร้​ซึ่งความหวาดกลัว​ได้​เลย​มิใช่หรือ​

แต่​เขา​ไม่เข้าใจ​สถานการณ์​ของ​สวี่​ชีอัน​เล็กน้อย​

“เป็น​เพราะ​ชะตา​บ้านเมือง​ต่าง​กับ​โชคชะตา​ หรือว่า​มีอีก​สาเหตุ​…

“ระบบ​โหร​มีมาเพียง​หกร้อย​ปี​ และ​ใน​ก่อนหน้านี้​ ยัง​ไม่เคย​มีระบบ​ใด​เกี่ยวข้อง​กับ​โชคชะตา​อย่าง​ใกล้ชิด​เช่นนี้​มาก่อน​ ใน​หกร้อย​ปี​มานี้​ ท่าน​โหราจารย์​รุ่น​ที่หนึ่ง​และ​ท่าน​โหราจารย์​คน​ปัจจุบัน​ล้วน​ไม่เคย​หลอม​ชะตา​บ้านเมือง​ และ​ฝาก​ไว้​ใน​ร่างกาย​คนใดคนหนึ่ง​

“อาจารย์​เป็น​ผู้ทำ​การทดลอง​เช่นนี้​คน​แรก​ ด้วย​สถานการณ์​ที่​ไม่เคย​ปรากฏ​ตัวอย่าง​มาก่อน​ บางที​กระทั่ง​เขา​เอง​ก็​คง​ไม่รู้​ว่า​ชะตา​บ้านเมือง​ติดตัว​หมายความว่า​อะไร​ แนวคิด​นี้​ของ​อาจารย์​เป็น​ผลลัพธ์​จาก​การไตร่ตรอง​อย่าง​ลุ่มลึก​ของ​ตนเอง​ หรือ​ได้รับ​การ​ชี้แนะ​จาก​ผู้ใด​”

ความคิด​ของ​เก่​อ​เห​วิน​ซวน​ผุด​ระยิบ​ ระหว่าง​ที่​ความรู้สึกนึกคิด​กำลัง​ฟุ้งซ่าน​ ตัว​เขา​ซึ่งกำลัง​ชมการต่อสู้​ผ่าน​กล้องส่องทางไกล​กระบอก​เดี่ยว​เกิด​ความ​สั่นสะท้าน​ใน​จิตใจ​

สถานการณ์​ใน​สนามรบ​เกิด​ความเปลี่ยนแปลง​อีกครั้ง​

สวี่​ชีอัน​ที่​กำลัง​นั่ง​คร่อม​อยู่​บน​ตัว​มนุษย์​ศพ​ขั้น​สามและ​ระบาย​ความป่าเถื่อน​ตามอำเภอใจ​สูญเสียการ​มองเห็น​ การ​ได้ยิน​และ​การ​ได้กลิ่น​…ประสาทสัมผัส​ทั้ง​ห้า​และ​การรับรู้​ทั้ง​หก​ถูก​ปิดกั้น​ไป​หมด​ทั้งสิ้น​

ผู้นำ​ฝ่าย​อั้น​กู่​ที่​ซุ่มอยู่​บริเวณ​รอบ​ๆ ร่าย​กลวิธี​ระดับสูง​ของ​ฝ่าย​อั้น​กู่​ใส่สวี่​ชีอัน​ ซึ่งก็​คือ​อำพราง​

‘ปัง​!’

โหย​วซือ​ฉวยโอกาส​นี้​ควบคุม​หุ่นเชิด​โดย​ใช้ศีรษะ​เข้า​ปะทะ​ศีรษะ​ของ​อีก​ฝ่าย​ หน้าผาก​ของ​ทั้งสอง​กระแทก​กัน​อย่าง​รุนแรง​

ลาง​ล่วงรู้​วิกฤต​ของ​สวี่​ชีอัน​ไม่เกิดผล​จาก​การ​ร่าย​มนตร์​ด้วย​วิชา​ดวง​ดารา​ผัน​เปลี่ยน​ ดังนั้น​จึงไม่สามารถ​รับรู้​การกระทำ​ของ​อั้น​กู่​ล่วงหน้า​ รวมไปถึง​การ​โจมตี​ของ​มนุษย์​ศพ​จาก​ด้านล่าง​

กะโหลก​หน้าผาก​ของ​หุ่นเชิด​มนุษย์​ศพ​แตกร้าว​ตาม​เสียง​ ลูก​ตาดำ​ของ​สวี่​ชีอัน​กลวง​เป็น​รู​ใน​ชั่วพริบตา​ เขา​สูญเสีย​เจตจำนง​ชั่วขณะ​ หัวสมอง​ว่างเปล่า​

ทั้ง​ร่างกาย​ของ​เขา​เอน​ไป​ข้างหลัง​อย่าง​รุนแรง​ ผิวหนัง​สีทอง​มืด​บริเวณ​หน้าผาก​ปรากฏ​รอยร้าว​เป็น​เส้น​ถี่ยิบ​

โหย​วซือ​ไม่ได้​มึนงง​ คนตาย​จะมึนงง​ได้​เช่นไร​กัน​

“ตอน​นี้แหละ​”

เขา​เอ่ย​ตะโกน​ด้วย​เสียง​แหบแห้ง​อันเป็น​เอกลักษณ์​

พวกเขา​ประเมิน​ศัตรู​ต่ำ​ไป​ แม้เงาและ​ฉุน​เอียน​จะไม่ลงมือ​ก็ตาม​ แต่​แผนการ​ช่วยเหลือ​ของ​หลวนอวี้​และ​ป๋า​จี้เป็นการ​หยั่งเชิง​ระดับ​ของ​เด็ก​คน​นี้​ก่อน​เท่านั้น​

แต่​การประเมิน​ศัตรู​ต่ำ​ก็​คือ​การประเมิน​ศัตรู​ต่ำ​อยู่ดี​ เด็ก​คน​นี้​ไม่ใช่ขั้น​สามทั่วไป​ เขา​สามารถ​ระเบิด​พลัง​การต่อสู้​อัน​สมบูรณ์แบบ​ของ​ขั้น​สามได้​ใน​ชั่วพริบตา​ และ​โค่นล้ม​ค่าย​กล​มนุษย์​ศพ​ที่​ตนเอง​ควบคุม​ได้​โดยตรง​

ผู้นำ​หลาย​คน​รู้สึก​ถึงปัญหา​นี้​เช่นเดียวกัน​ ต่าง​คน​จึงต่าง​มือ​ก่อนที่​โหย​วซือ​จะแผดเสียง​

ปรากฏ​ชาย​วัยกลางคน​ผู้​มีใบ​หน้าซีด​ขาว​ราวกับ​ไม่สัมผัส​แสงแดด​มาตลอด​ทั้งปี​จาก​เงามืด​ด้านหลัง​สวี่​ชีอัน​ เขา​ปีนป่าย​แผ่น​หลัง​ของ​ร่างกาย​เทพ​อารักษ์​อย่าง​คล่องแคล่ว​

เปลวไฟ​ซึ่งเปี่ยม​ด้วย​พลัง​หยาง​อัน​แรงกล้า​แผดเผา​ร่างกาย​ของ​เขา​ แต่​ราวกับ​แผดเผา​เพียง​เงามายา​เท่านั้น​ หา​ใช่สสาร​จริง​

กลวิธี​ป้องกัน​ขั้นสูง​ของ​ฝ่าย​อั้น​กู่​ ซึ่งก็​คือ​เงามืด​

‘เงา’ ลาก​กริช​ที่​คดเคี้ยว​เล็กน้อย​ซึ่งมีรูปร่าง​คล้าย​ตะขอ​ออก​มาจาก​แขน​เสื้อ​ ตัว​กริช​ดำขลับ​ทั้ง​เล่ม​ หยก​ก็​ไม่ใช่ เหล็ก​ก็​ไม่เชิง

นี่​ก็​คือ​อาวุธ​วิเศษ​ที่​สืบทอด​จาก​ผู้นำ​แต่ละ​รุ่น​ของ​ฝ่าย​อั้น​กู่​ ซึ่งก็​คือ​ตะขอ​แมงป่อง​

ของ​สิ่งนี้​ใช้สำหรับ​ทะลวง​กาย​หยาบ​ของ​จอม​ยุทธ์​โดยเฉพาะ​ ใน​ยุทธการ​ด่าน​ซาน​ไห่​ ‘เงา’ เคย​ใช้อาวุธ​วิเศษ​เล่ม​นี้​ผสาน​กับ​จุดเด่น​ของ​ฝ่าย​อั้น​กู่​ที่​ชำนาญ​การ​ลอบ​จู่โจมจน​เกือบ​สังหาร​เทพ​อารักษ์​สำนัก​พุทธ​ตน​หนึ่ง​ลง​ได้​

‘ฉึก​!’

ตะขอ​แมงป่อง​เจาะลง​ที่​หน้าผาก​ของ​สวี่​ชีอัน​จน​เกิด​ประกายไฟ​จ้า จน​ทำให้​รอยร้าว​ที่​เป็น​เส้น​ถี่ยิบ​เปิดกว้าง​ขึ้น​

ความเจ็บปวด​ทำให้​ดวงตา​ของ​สวี่​ชีอัน​ปะทุ​แสงสว่าง​ออกมา​ และ​บังคับ​ให้​เขา​หลุดพ้น​จาก​ความ​มึนงง​

ฉุน​เอียน​สาวงาม​ดวง​ตากลม​โต​ที่​กำลัง​วิ่ง​ตะบึง​หยุด​ฝีเท้า​ลง​ และ​อ้า​ปาก​ส่งเสียง​กรีดร้อง​ที่​ไร้​ซึ่งเสียง​ออกมา​

สวี่​ชีอัน​ราว​ถูก​โจมตี​ด้วย​สายฟ้า​ ลูก​ตาดำ​ที่​ค่อยๆ​ ฟื้นฟู​การ​จับภาพ​ปรากฏ​รู​กลวง​และ​คลาย​การ​จับภาพ​อีกครั้ง​

วิชา​ควบคุม​ของ​ซิน​กู่​ สั่น​ไหว​จิต​เดิม​ บังคับ​และ​ควบคุม​

วิชา​นี้​คงอยู่​ไม่ถึงหนึ่ง​วินาที​ แต่​สำหรับ​ ‘เงา’ ที่​สวรรค์​มอบ​ช่วง​เวลานี้​ให้​ นี่​เป็น​โอกาส​แห่ง​ชัยชนะ​ที่​อาจ​หลุด​ไป​หาก​ไม่คว้า​ไว้​

‘ฉึก​ๆๆ’ …ตะขอ​แมงป่อง​เฉาะลง​บน​หน้าผาก​สีทอง​มืด​จน​เกิด​ประกาย​ไป​ถี่ยิบ​

ท่ามกลาง​เสียง​ ‘ผุ​’ กริช​ที่​คดเคี้ยว​เล็กน้อย​แทง​ทะลุ​กะโหลก​หน้าผาก​ของ​สวี่​ชีอัน​ ทะลวง​เข้าไป​ใน​สมอง​และ​ขยี้​ไปมา​อย่าง​เหี้ยมโหด​

ผู้นำ​หลาย​คน​รวมไปถึง​โหย​วซือ​ดวง​ตาลุ​กวาว​เมื่อ​เห็น​ฉาก​นี้​ ราวกับ​เห็น​ตอนจบ​

อาการ​บาดเจ็บ​เช่นนี้​ก็​มาก​พอที่จะ​เรียก​ว่า​บาดเจ็บสาหัส​ ต่อให้​เป็น​สวี่​ชีอัน​ใน​ตอนนี้​ก็ตาม​

สมอง​ของ​เขา​ถูก​ทำลาย​ไป​แล้ว​ แต่​จิต​เดิม​กลับ​ตื่นขึ้น​อย่าง​ถึงที่สุด​

หลวนอวี้​เหิน​ฟ้ามาพอดี​พร้อมด้วย​กระโปรง​ยาว​โปร่งบาง​พลิ้วไหว​ นาง​ส่งตนเอง​เข้าไป​ใน​อ้อม​อก​ของ​สวี่​ชีอัน​ ราวกับ​คาด​ไว้​ว่า​เขา​จะฟื้น​คืนสติ​ท่ามกลาง​อาการ​บาดเจ็บ​เช่นนี้​

แขน​อัน​เรียว​ยาว​ราว​ราก​บัว​โอบ​ลำคอ​ของ​เขา​ไว้​ ดวงตา​ทั้งคู่​เปี่ยม​ไป​ด้วยเสน่หา​ นาง​เอ่ย​วิงวอน​กึ่ง​ออดอ้อน​ว่า​

“อย่า​”

รัญจวน​

นี่​คือ​ฉบับ​เลื่อนขั้น​ของ​พลัง​เสน่ห์​พิเศษ​ เปลี่ยน​จาก​ทักษะ​ติดตัว​เป็น​ทักษะ​ใช้เอง​

จิต​สังหาร​และ​จิต​โทสะ​ของ​สวี่​ชีอัน​หาย​ไป​หมดสิ้น​ เขา​มอง​ใบหน้า​แสน​งดงาม​ที่อยู่​แนบชิด​อย่าง​หลงใหล​ สภาพ​จิตใจ​มัวเมา​ลุ่มหลง​

หลวนอวี้ยก​ยิ้มมุมปาก​ เชิด​คาง​อัน​เรียว​แห​ลมขึ้น​มาประกบ​ริมฝีปาก​ของ​เขา​ไว้​ และ​ส่งจื่อ​กู่​และ​ปราณ​เสน่หา​ลง​ไป​ใน​ร่างกาย​เขา​

วินาที​ถัดมา​ ผิวหนัง​สีทอง​เข้ม​ของ​สวี่​ชีอัน​ปรากฏ​เป็น​ชั้น​สีแดง​ มีการ​ตอบสนอง​ทางกายภาพ​ที่​ชัดเจน​ในทันที​

หลวนอวี้​ดึง​ตัว​ออก​ไป​ขณะ​ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่​หลังจาก​บรรลุเป้าหมาย​

‘ปิ้วๆๆ’​

การ​โจมตี​ของ​ป๋า​จี้ตามมา​อย่าง​กระชั้นชิด​ ศร​ม่วง​ระดม​ยิง​เข้าที่​หัวเข่า​ หน้าอก​และ​ใบหน้า​ของ​สวี่​ชีอัน​จน​ทำให้​กา​ยา​ศักดิ์สิทธิ์​เทพ​อารักษ์​เปื้อน​สีม่วง​เข้ม​

ฉุน​เอียน​อ้า​ปาก​กรีดร้อง​โดย​ไร้​ซึ่งเสียง​อีกครั้ง​ ถือโอกาส​ควบคุม​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​ระหว่าง​ที่​สวี่​ชีอัน​ลุ่มหลง​ใน​ราคะ​

‘ตึง​ๆๆ’ …โหย​วซือ​คว้า​ดาบ​กระดูก​กู่​สอง​เล่ม​วิ่ง​ตะบึง​เข้า​สังหา​รส​วี่​ชีอัน​

ขณะนี้​ หน้าผาก​ของ​สวี่​ชีอัน​ถูก​เจาะทะลุ​ เลือด​แดงสด​และ​มัน​สมองไหล​ออกมา​ตาม​บาดแผล​ รัศมี​กา​ยา​จิต​เทพ​อารักษ์​มืด​สลัว​และ​อยู่​ใน​จุด​แตกสลาย​ จิต​เดิม​ถูก​ซิน​กู่​ควบคุม​ เลือด​ลม​ไหล​นอง​ร่างกาย​ท่อน​ล่าง​เนื่องจาก​ราคะ​พลุ่งพล่าน​ ไม่สามารถ​แสดงความสามารถ​บ้าคลั่ง​ของ​ลี่​กู่​ได้​

โหย​วซือ​มั่นใจ​ว่า​สามารถ​สังหาร​เขา​ต่อ​เนื่องใน​ชุด​เดียว​ได้​ อย่าง​แย่​สุด​ก็​สามารถ​ทำให้​เขา​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​

ทำให้​เขา​สูญเสีย​พลัง​ต่อสู้​จำนวนมาก​ และ​ยาก​ที่จะ​พลิก​สถานการณ์​ได้​อีก​

“นี่​ เจ้าอย่า​ฆ่าเขา​นะ​”

หลวนอวี้​ขมวดคิ้ว​ตะโกน​เมื่อ​เห็น​สถานการณ์​

นาง​ยัง​ไม่เคย​ลิ้มลอง​กา​ยา​จิต​เพศชาย​ที่​เรียก​ได้​ว่า​สมบูรณ์แบบ​ร่าง​นี้​เลย​ หาก​เสีย​สิ่งนี้​ไป​ คง​เสีย​ของ​เปล่า​

โหย​วซือ​เอ่ย​เยาะ​ว่า​

“วางใจ​เถอะ​ ข้า​จะหลอม​เขา​เป็น​มนุษย์​ศพ​และ​คง​พลัง​ไว้​แปด​ส่วน​ ถึงตอนนั้น​ค่อย​ควบคุม​เขา​ไป​หลับนอน​เป็นเพื่อน​เจ้า”

หลวนอวี้​ส่งเสียง​ ‘หือ​’

ระหว่าง​ที่​พูด​ เขา​มาอยู่​ตรงหน้า​สวี่​ชีอัน​แล้ว​ ดาบ​คู่​ไขว้​เฉือน​เข้าที่​บาดแผล​ตรงหน้า​ผากอย่าง​สุด​แรง​

‘ฉับ​!’

ดาบ​กระดูก​กู่​ซึ่งห่อ​ด้วย​พลัง​ปราณ​ที่​บิดเบี้ยว​อากาศ​เฉือน​สวี่​ชีอัน​และ​ ‘เงา’ เป็น​สอง​ท่อน​

โหย​วซือ​ที่​ดูเหมือน​จะฟัน​โดน​อากาศ​ส่งเสียง​ ‘หือ​’ ด้วย​ความเคลือบแคลง​ใจ ดาบ​คู่​ฟัน​ลง​เป็น​เครื่องหมาย​กากบาท​ แต่​ยัง​ฟัน​โดน​อากาศ​เสีย​อย่างนั้น​ ส่วน​ร่างกาย​ของ​สวี่​ชีอัน​ดู​คล้าย​ควัน​หม่น​เสมือน​เงามืด​ ซึ่งก็​คือ​ไม่ใช่ร่าง​จริง​

“เงา เจ้าทำ​บ้า​อะไร​”

โหย​วซือ​โยนความผิด​ทั้งหมด​ให้​ผู้นำ​ฝ่าย​อั้น​กู่​

ใคร​จะคิด​ว่าการ​ตอบสนอง​ของ​เงาเกินเลย​กว่า​เขา​เสีย​อีก​ เงามืด​ที่​ตื่นตระหนก​ราว​กวาง​น้อย​กระโดด​ออก​ไป​ไกล​ และ​มอง​สวี่​ชีอัน​ด้วย​สายตา​ที่​ราวกับ​เห็น​เทพ​กู่​

“เจ้าใช้วิชา​อั้น​กู่​เป็น​”

เสียง​เงาทุ้ม​ต่ำ​ มีน้ำเสียง​ยาก​ที่จะ​เชื่อ​

ขณะนี้​ โหย​วซือ​เอง​ก็​รู้สึก​ถึงความผิดปกติ​ เขา​สีหน้า​เปลี่ยน​ ถอย​ออกมา​อย่าง​ไม่ลังเล​ และ​ล้มเลิก​ความคิด​ที่จะ​ไล่ต้อน​ใน​โอกาส​ที่​ได้เปรียบ​

เขา​ใช้วิชา​อั้น​กู่​เป็น​…ผู้​คนใน​ที่เกิดเหตุ​มอง​สวี่​ชีอัน​เสมือน​กำลัง​มอง​สัตว์ประหลาด​

‘หลังจาก​สืบต่อ​ลี่​กู่​แล้ว​ ยัง​ใช้อั้น​กู่​ได้​อีก​หรือ​’

หลง​ถูและ​ผู้อาวุโส​ทั้ง​หก​ที่​ชมการต่อสู้​อยู่​ใน​จุด​ที่​ไกล​ออก​ไป​มองหน้า​กัน​อย่าง​พูดไม่ออก​

มู่หนาน​จือ​ก้มตัว​ลง​กอด​ไป๋​จีราว​ปล่อยวาง​ภาระ​อัน​หนักอึ้ง​ นาง​พลาง​ลูบ​พลาง​ปลอบโยน​ว่า​

“โอ๋​ ขี่​เจ้าเพียง​ครู่เดียว​ถึงกับ​ร้องไห้​แบบนี้​เลย​”

ไป๋​จีเอ่ย​ร้อง​ฮือ​ๆ ว่า​ “ข้า​ปวด​เอว​มาก.​..”

มู่หนาน​จือ​ปลอบโยน​ไป​ไม่กี่​ประโยค​ก็​เพ่ง​สมาธิไป​ที่​ตัว​สวี่​ชีอัน​

การต่อสู้​ยัง​ไม่จบ​ หวัง​ว่า​เขา​จะคิด​หา​วิธี​หลบหนี​ออก​ไป​ได้​…

“เป็นไปไม่ได้​ เป็นไปไม่ได้​…”

หลวนอวี้​ส่าย​ศีรษะ​ไม่หยุด​ ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​มีอัจฉริยะ​ที่​บำเพ็ญ​ไสยศาสตร์​กู่​สอง​ชนิด​พร้อมกัน​ไม่น้อย​เลย​ แต่​ไม่เคย​เกิด​กรณี​นี้​ ผู้คน​เหล่านี้​ไม่มีใคร​สามารถ​ย่าง​เข้า​ระดับ​บรรลุ​ธรรม​ได้​เลย​

สิ่งเหล่านี้​ไม่ใช่ประเด็น​ ประเด็น​คือ​ชาว​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​บำเพ็ญ​ลี่​กู่​และ​อั้น​กู่​อย่างไร​ ทั้ง​ยัง​บำเพ็ญ​ถึงระดับ​นี้​

ใน​ความเห็น​ของ​นาง​ ระดับ​ความ​ผิดแปลก​นี้​เหมือนกับ​ปีศาจ​แดน​เหนือ​ยิง​ปืนใหญ่​กับ​หน้าไม้​ และ​ถือ​ธนู​กับ​ปืนไฟ​

“เป็น​ความสามารถ​ระดับ​กำเนิด​ปราชญ์​หรือ​”

ฉุน​เอียน​ลอง​เอ่ย​ถามขณะ​หรี่​ดวง​ตากลม​โต​

ลัทธิ​ขงจื๊อ​ขั้น​หก​ ระดับ​กำเนิด​ปราชญ์​

ระดับ​ดังกล่าว​สามารถ​เรียนรู้​กลวิธี​ของ​ศัตรู​มาเป็น​ของ​ตนเอง​ได้​ จากนั้น​บันทึก​ไว้​บน​กระดาษ​โดย​ใช้พู่กัน​ ความสามารถ​หลัก​ของ​ระดับ​กำเนิด​ปราชญ์​ก็​คือ​ ‘เรียนรู้​’

หลวนอวี้​ส่าย​ศีรษะ​เอ่ย​ว่า​ “หาก​เขา​เป็น​ศิษย์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ วิชา​รัญจวน​ของ​ข้า​คง​ใช้ไม่ได้​ผล​เลย​”

พวกเขา​ที่​กำลัง​ครุ่นคิด​โดย​ไร้​ซึ่งคำตอบ​ ถามอง​ไป​ยัง​สวี่​ชีอัน​อีกครั้ง​

ข้า​ประหลาดใจ​อย่าง​ถึงที่สุด​จริงๆ​…สวี่​ชีอัน​ใช้นิ้วมือ​จิ้มบาดแผล​ตรง​หน้าผาก​ด้วย​รอยยิ้ม​อัน​ดุร้าย​

เขา​ต้อง​ยอมรับ​ว่า​บรรดา​ผู้นำ​เผ่าพันธุ์​กู่​ให้ความร่วมมือ​กัน​ มีการ​จู่โจมสังหาร​และ​การควบคุม​ที่​สามารถ​สังหาร​จอม​ยุทธ์​ขั้น​สามได้​อย่าง​ง่ายดาย​จริงๆ​

นี่​ยังมี​เพียง​ผู้นำ​ห้า​คน​ หาก​เพิ่ม​แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​กับ​หลง​ถูเข้ามา​ด้วย​ การ​ล้อม​สังหาร​จอม​ยุทธ์​ขั้น​สอง​คน​หนึ่ง​คง​ไม่ใช่เรื่อง​ยาก​ แน่นอน​ว่า​ เงื่อนไข​แรก​คือ​จอม​ยุทธ์​ขั้น​สอง​จะต้อง​ต่อสู้​อย่าง​สุด​ชีวิต​โดย​ไม่ถอย​

เมื่อ​ครู่​เป็น​เพราะ​ร่าง​ธรรม​แห่ง​ปัญญา​ใน​เจดีย์​พุทธะ​ปลุก​สติ​ของ​เขา​ขึ้น​มา ทำให้​เขา​ได้สติ​กลับมา​

แต่​ที่จริง​แล้ว​ต่อให้​ภิกษุ​เฒ่าถ่าห​ลิง​ไม่ยื่นมือ​เข้ามา​ช่วย​ สวี่​ชีอัน​ก็​คิด​ที่จะ​ใช้วิชา​กระโดด​สู่เงาสลัด​ตัว​จาก​การ​โอบล้อม​อยู่แล้ว​

บรรดา​ผู้นำ​เผ่าพันธุ์​กู่​แข็งแกร่ง​มาก​ แต่​น่าเสียดาย​ที่​กลวิธี​ที่​พวกเขา​แสน​ภูมิใจเป็นไปได้​ยาก​ที่จะ​ใช้กับ​ตน​ได้ผล​ ซึ่งนี่​ก็​คือ​ความมั่นใจ​ที่​สวี่​ชีอัน​กล้า​ดวล​หนึ่ง​ต่อ​ห้า​

“พวกเรา​ต้อง​เปลี่ยน​แผน​รับมือ​แล้ว​”

ฉุน​เอียน​สูด​หายใจ​ลึก​ ก่อน​เอ่ย​กับ​พรรคพวก​ว่า​

“เงา พวกเรา​ไม่สามารถ​โจมตี​ขณะ​ใช้วิชา​กระโดด​สู่เงาและ​วิชา​เงามืด​จำแลง​กาย​ได้​ ดังนั้น​หาก​เขา​กระโดด​สู่เงา เจ้าจะต้อง​บีบ​ให้​เขา​ออกมา​ทันที​ จากนั้น​ประสาน​วิชา​รัญจวน​กับ​การควบคุม​ของ​ข้า​เพื่อ​บังคับ​และ​ควบคุม​เขา​”

“ป๋า​จี้ เจ้าปล่อย​ศร​พิษ​ทันที​โดย​เปลี่ยนเป็น​สารพิษ​ที่​ทำให้​กาย​หยาบ​ชา เงา เจ้าฉวยโอกาส​นี้​เข้า​จู่โจมเพื่อ​สังหาร​เช่นเดียวกับ​เมื่อ​ครู่​ โหย​วซือ​ เจ้ารับหน้าที่​ตรึง​เขา​ไว้​ แล้ว​ร่วม​มือสังหาร​กับ​เงา”

เมื่อ​สิ้น​เสียง​ นาง​พบ​ว่า​สวี่​ชีอัน​หลอม​รวม​กับ​เงามืด​และ​หาย​ไป​

“เงา!”

ฉุน​เอียน​ตะโกน​

พริบตา​ที่​สวี่​ชีอัน​หลอม​รวม​กับ​เงามืด​ ‘เงา’ พุ่งตัว​ไป​ข้างหน้า​และ​หาย​ไป​โดย​ไม่ต้อง​ให้​นาง​เตือน​

……………………………………………..

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท