บทที่ 685 เผ่าอั้นกู่

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

เมือง​เวิ่ง​ อำเภอ​ซงซาน​

หลังจากที่​สวี่​ซินเหนียน​ฟังราย​งานการ​บาดเจ็บ​และ​เสียชีวิต​จากรอง​แม่ทัพ​แล้ว​ ก็​เป่า​ลม​ออกจาก​ปาก​โดย​ไม่มีเสียง​

“ออก​ไป​ได้​ ให้​บรรดา​ทหาร​ระวัง​ให้​มาก​หน่อย​ อย่า​ให้​ยอด​ฝีมือ​จาก​กองกำลัง​ของ​ข้าศึก​ฉวยโอกาส​โจมตี​ใน​ยามวิกาล​ได้​”

หลังจาก​การ​โจมตีเมือง​สอง​ครั้ง​ กองกำลัง​ชั้นยอด​ของ​ข้าศึก​ยังคง​รักษา​กฎ​ไว้​ได้​อย่าง​ครบถ้วน​ คน​ที่​ตาย​ล้วน​เป็น​กองกำลัง​ผสม​ที่​ก่อ​ตั้งขึ้น​จาก​ผู้ลี้ภัย​

แม่ทัพ​ของ​กองทัพ​อวิ๋น​โจว​เป็น​คน​ฉลาด​ รู้จัก​ใช้ชีวิต​ของ​ผู้ลี้ภัย​มาผลาญ​กระสุน​ปืนใหญ่​และ​ลูกธนู​ของ​กองกำลัง​ป้องกัน​เมือง​ นอกจากนี้​พวกเขา​ยัง​ปล่อย​ให้​ยอด​ฝีมือ​ปะปน​อยู่​ใน​กองกำลัง​ผสม​ รอโอกาส​ที่จะ​ปีน​กำแพงเมือง​แล้ว​ทำ​การสังหาร​ครั้ง​ใหญ่​ ทำลาย​หน้าไม้​และ​ปืนใหญ่​

“แม่ทัพ​กองกำลัง​ของ​ข้าศึก​เป็น​คน​ฉลาด​ แต่​ใน​การ​โจมตี​ยามวิกาล​กลับ​ดู​โง่เขลา​อย่างยิ่ง​”

สวี่เอ้อร์​หลา​งมอง​ไป​ที่​เหมียว​โห​ย่ว​ฟางที่อยู่​ข้างๆ​ แล้ว​พูดว่า​

“แปลก​เล็กน้อย​”

เหมียว​โห​ย่ว​ฟางไม่เข้าใจ​ จึงยักไหล่​ “มีอะไร​แปลก​ ข้า​คิด​ว่า​เขา​เป็น​คน​ฉลาด​ รู้จัก​ลอบ​จู่โจมใน​ยามวิกาล​ที่​ไม่มีการ​เตรียม​การป้องกัน​”

“ข้อเสีย​ของ​การ​โจมตีเมือง​ใน​เวลา​กลางคืน​ เมื่อ​ครู่​ข้า​ได้​บอก​เจ้าแล้ว​ ว่า​แม่ทัพ​ที่​มีความ​เชี่ยวชาญ​ จะไม่หุนหันพลันแล่น​เช่นนี้​ เว้นเสียแต่ว่า​เขา​มีเวลา​จำกัด​ที่​จำเป็น​จะต้อง​โจมตี​อำเภอ​ซงซาน​ใน​ระยะเวลา​สั้น​ๆ”

สวี่​ซินเหนียน​วิเคราะห์​อย่าง​ใจเย็น​

“ถึงอย่างไร​ข้า​ก็​รับผิดชอบ​เพียง​สังหาร​ศัตรู​ เรื่อง​ใช้สมอง​ข้า​จะไม่มีวัน​มีส่วนร่วม​อย่าง​เด็ดขาด​”

เหมียว​โห​ย่ว​ฟางแสดง​จุดยืน​ก่อน​ จากนั้น​ก็​เริ่ม​คุยโว​

“ข้า​อาจจะ​ไม่เคย​บอก​เจ้า ว่าที่​ภูเขา​สือ​ว่าน​ทาง​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ใน​วันนั้น​ ตัว​ข้า​ได้​ช่วย​ฆ้อง​เงิน​สวี่​บุกเข้าไป​ใน​วัด​หนาน​ฝ่าซึ่งเป็น​สถานที่สำคัญ​ของ​สำนัก​พุทธ​ เพื่อ​สู้ตาย​กับ​เหล่า​ภิกษุ​ของ​สำนัก​พุทธ​ สุดท้าย​ก็​พยายาม​จน​เอาชนะ​อา​ซูหลัว​ ขั้น​สอง​ของ​สำนัก​พุทธ​มาจนได้​ และ​ได้​วางรากฐาน​สำหรับ​การ​ลุกขึ้น​สู้แบบ​ติดอาวุธ​ของ​ปีศาจ​ทักษิณ​ วันนี้​มีข้า​ช่วย​เจ้า เจ้าวางใจ​ได้​เลย​”

สวี่​ซินเหนียน​มอง​เขา​แวบ​หนึ่ง​ แล้ว​พูด​ช้าๆ ว่า​

“ตอน​ที่อยู่​เมือง​ชิงโจว​ ข้า​ได้​พบ​กับ​ผู้พิทักษ์​หยวน​ เขา​ได้​เล่า​เหตุการณ์​ที่​ภูเขา​สือ​ว่าน​ให้​ข้า​ฟังอย่าง​ละเอียด​แล้ว​”

เหมียว​โห​ย่ว​ฟางที่​ถูก​เปิดโปง​นิ่ง​ไป​ แล้วก็​ยิงฟัน​พูด​ทันที​

“นั่น​คือ​ปีศาจ​ลิง​ที่​น่ารำคาญ​”

สำหรับ​เรื่อง​นี้​ สวี่​ซินเหนียน​เห็นด้วย​จาก​ใจจริง​

‘สุภาพบุรุษ​คิดเห็น​เหมือนกัน​’

ทั้งสอง​คน​เหลือบมอง​อีก​ฝ่าย​อย่าง​รู้กัน​ ราวกับ​กำลัง​พูดว่า​

‘ดูเหมือน​เจ้าก็​จะมีประสบการณ์​ที่​น่าอับอาย​เช่นเดียวกัน​’

เวลานี้​ ทหาร​นาย​หนึ่ง​เข้ามา​อย่าง​รีบร้อน​ รายงาน​เสียงดัง​ว่า​

“ใต้เท้า​สวี่​ กำลัง​ของ​ข้าศึก​ส่งจดหมาย​ผ่าน​ลูกธนู​มาฉบับ​หนึ่ง​ขอรับ​”

ดวงตา​ของ​สวี่​ซินเหนียน​เป็น​ ประกาย​เล็กน้อย​ พูด​อย่าง​สงบ​ว่า​

“ส่งขึ้น​มา”

เหมียว​โห​ย่ว​ฟางลุกขึ้น​ทันที​ รับ​จดหมาย​ที่​ส่งผ่าน​ลูกธนู​มาจาก​มือ​ของ​ทหาร​แล้ว​ยื่น​ให้​สวี่​ซินเหนียน​

ฝ่าย​หลัง​เปิด​ออก​อ่าน​ เมื่อ​อ่าน​จบ​ก็​ยิ้มเยาะ​

“จดหมาย​เขียน​ว่า​อย่างไร​?”

เหมียว​โห​ย่ว​ฟางรีบ​ถาม

สวี่เอ้อร์​หลา​งพูด​เบา​ๆ ว่า​ “แม่ทัพ​กองกำลัง​ของ​ข้าศึก​ชื่อ​จัว​เฮ่าหรา​น​ เขา​บอ​กว่า​จะบุก​ตีเมือง​ภายใน​สามวัน​ จะตัดหัว​ข้า​ เพื่อ​มอบให้​พี่ชาย​คนโต​ของ​ข้า​เป็น​ของขวัญ​เมื่อ​พบ​หน้า​กัน​ครั้งแรก​”

กระโจม​จักรพรรดิ​ใน​เมือ​งอ​วิ๋น​โจว​ ห่าง​จาก​ประตูเมือง​ทิศตะวันออก​สิบ​ลี้​

กองไฟ​ลุกโชน​ กระโจม​แต่ละ​หลัง​เงียบสงัด​ บรรดา​ทหาร​หลับ​ไป​ตั้ง​นาน​แล้ว​ โดย​มีทหาร​ที่​สวม​ชุด​เกราะ​มือถือ​อาวุธ​ลาดตระเวน​ไปมา​

รอบนอก​ยังมี​หน่วย​สอดแนม​คอย​ตระเวน​ดู​

ด้านนอก​กระโจม​ทหาร​ จัว​เฮ่าหรา​น​ที่​สวม​ชุด​เกราะ​ รูปร่าง​สูงใหญ่​และ​แข็งแรง​ ตัดหัว​หน่วย​สอดแนม​ของ​กองทัพ​ต้าฟ่ง​ที่จับ​มาได้​ด้วยมือ​ตัวเอง​

เขา​เลีย​สัน​มีด​ที่​เปื้อน​เลือด​ แสยะ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​

“คิดไม่ถึง​ว่า​คน​ที่​รับผิดชอบ​ปกป้อง​อำเภอ​ซงซาน​ ก็​คือ​ญาติ​ผู้​น้อง​ของ​สวี่​ชีอัน​ เมื่อ​ข้า​ตี​อำเภอ​ซงซาน​แตก​แล้ว​ หัว​ที่​ตัด​ไป​ ต้อง​เก็บรักษา​ไว้​ให้​ดี​ แล้ว​ส่งคน​นำ​ไป​มอบให้​คน​แซ่สวี่”​

จ้าว​เถียน​รอง​แม่ทัพ​พูด​น้ำเสียง​เคร่งขรึม​

“ตาม​คำสารภาพ​ของ​หน่วย​สอดแนม​คน​นี้​ สวี่​ซินเหนียนคน​นั้น​เป็น​ศิษย์​ของ​จางเซิ่น​แห่ง​สำนัก​อวิ๋น​ลู่​ มีความ​เชี่ยวชาญ​ใน​ตำรา​พิชัยสงคราม​ จะชะล่าใจ​ไม่ได้​”

เขา​รู้​นิสัย​วาง​อำนาจบาตรใหญ่​ของ​จัว​เฮ่าหรา​น​ดี​ จึงพูด​เสริม​ทันที​ว่า​

“แต่ว่า​ ด้วย​ความ​ห้าวหาญ​ของ​ท่าน​แม่ทัพ​ การบุก​ตีเมือง​คง​เกิดขึ้น​ใน​อีกไม่นาน​ หาก​ท่าน​แม่ทัพ​รู้​ว่า​ท่าน​ตัดหัว​ของ​สวี่​ซินเหนียน​ได้​ จะต้อง​ชมเชย​และ​มีรางวัล​ให้​อย่าง​แน่นอน​”

จัว​เฮ่าหรา​นพ​ยัก​หน้า​

“ถ่ายทอด​คำสั่ง​ออก​ไป​ ใคร​ที่​ตัดหัว​ของ​สวี่​ซินเหนียน​ได้​ จะมีรางวัล​ให้​หนึ่ง​พัน​ตำลึง​เงิน​ พร้อมกับ​แต่งตั้ง​ให้​เป็น​นาย​กอง​”

วันรุ่งขึ้น​ สวี่​ชีอัน​นั่งสมาธิ​เสร็จ​ ก็​เห็น​ผู้หญิง​ท่าทาง​โศกเศร้า​เหมือน​ดอก​ไล​แล​ค​

นาง​สวย​ แต่​ท่าทาง​โศกเศร้า​กลับ​สามารถ​ทำให้​มองข้าม​ความ​สวย​ของ​นาง​ ทำให้​อด​คิด​ที่จะ​เดิน​เข้าไป​ใน​ใจของ​นาง​เพื่อ​รับฟัง​ความ​โศกเศร้า​ของ​นาง​ไม่ได้​

“สวี่​หลา​ง เจ้าตื่น​แล้ว​”

ลั่วอวี้เหิง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​นุ่มนวล​

เจ้าเอง​หรือ​ บุคลิก​โศกเศร้า​…สวี่​ชีอัน​ถอนหายใจ​โล่งอก​ ใน​เจ็ด​อารมณ์​ สิ่งที่​จัดการ​ได้​ยาก​ที่สุด​คือ​อารมณ์​สามประการ​ ได้แก่​ ‘ใคร่​’ ‘โกรธ​’ และ​ ‘หึงหวง​’

บุคลิก​โกรธ​นั้น​ดีกว่า​แบบ​อื่น​ เพียงแต่​อารมณ์ร้อน​ไป​หน่อย​ แค่​พูด​อะไร​ที่​ไม่สบอารมณ์​ ก็​จะลงมือ​ทำร้าย​คนอื่น​ทันที​

บุคลิก​ใคร่​เป็น​แบบ​ที่​สวี่​ชีอัน​กลัว​มาก​ที่สุด​ มัน​หมายความว่า​เขา​ต้อง​ออกกำลังกาย​ตลอด​ยี่สิบ​สี่ชั่วโมง​ สิ้นเปลือง​พลังงาน​เป็นอย่างมาก​

ส่วน​บุคลิก​หึงหวง​นั้น​เขา​ไม่เคย​ประสบ​มาก่อน​ ครั้งก่อน​บุคลิก​หึงหวง​ออก​หน้าเป็น​คน​สุดท้าย​ ลั่วอวี้เหิง​ได้​ขับไล่​ไป​นาน​แล้ว​

จาก​การ​ที่​ท่าน​น้า​แสดงออก​ด้วย​ความหวาดกลัว​เช่นนี้​ สวี่​ชีอัน​คาดการณ์​ว่า​บุคลิก​หึงหวง​ก็​คือ​ตัวละคร​ที่​มีอยู่​ใน​ละคร​ชิงรัก​หัก​สวาท​ใน​วัง​ ประเภท​ฮองเฮา​ผู้​อำมหิต​

ขอ​แค่​บุคลิก​ทั้ง​สามลักษณะ​นี้​ไม่ปรากฏตัว​ บุคลิก​อื่นๆ​ สวี่​ชีอัน​ก็​ไม่ได้​สนใจ​

บุคลิก​โศกเศร้า​เป็น​คน​อารมณ์​เปราะบาง​ คิด​แต่ว่า​อายุ​ของ​ตัวเอง​สามารถ​เป็น​แม่ของ​คนรัก​ได้​แล้ว​ จึงรู้สึก​เสียใจ​

“ราชครู​ ท่าน​งดงาม​ดุจ​ดวง​แสงอรุโณทัย​ ชวน​ให้​หลงใหล​”

สวี่​ชีอัน​ดูแลเอาใจใส่​คน​โศกเศร้า​เหมือน​ดูแลเอาใจใส่​ดอกไม้​ที่​บอบบาง​

บุคลิก​โศกเศร้า​มีสีหน้า​เขินอาย​ พูด​เสียง​เบา​ว่า​

“สวี่​หลา​งไม่ต้อง​เรียก​ข้า​ว่า​ราชครู​ เรียก​ว่า​อวี้เหิง​ก็ได้​”

เอา​แล้ว​เอา​แล้ว​ เจ้าจะทำให้​ข้า​ลำบากใจ​อีกแล้ว​…สวี่​ชีอัน​ตัวสั่น​ คิดในใจ​ว่า​ เพื่อ​อะไร​กัน​ เดี๋ยว​เจ้ากลับมา​เป็น​เหมือนเดิม​ ก็​คิด​จะถือ​ดาบ​ไล่​ฟัน​ข้า​อีก​

ชายป่า​บุพกาล​ รอบนอก​จี๋เยวียน​

ยอด​ฝีมือ​ขั้น​สี่ของ​เจ็ด​เผ่า​รวมตัว​กันที่​บริเวณ​ชายป่า​บุพกาล​ นำ​โดย​ผู้นำ​ระดับ​เหนือ​มนุษย์​เช่น​แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​

ใน​ใจของ​ทุก​คนใน​เผ่าพันธุ์​กู่​ต่าง​หนักอึ้ง​ พลัง​มหาศาล​ของ​เทพเจ้า​กู่​โชติช่วง​ มักจะ​หมายความว่า​อาจจะ​มีอสูร​กู่​ระดับ​เหนือ​มนุษย์​กำเนิด​ขึ้น​

สัตว์ประหลาด​ที่​รูปร่าง​พิกลพิการ​ จิตใจ​สับสน​ กลับ​อยู่​ใน​ระดับ​เหนือ​มนุษย์​ มัน​เป็น​สัญลักษณ์​ของ​การเข่นฆ่า​และ​ทำลายล้าง​ ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​ ผู้นำ​ที่​เสียชีวิต​ด้วย​ฝีมือ​ของ​อสูร​กู่​นั้น​มีไม่น้อย​

อาจ​กล่าว​ได้​ว่า​ อสูร​กู่​ระดับ​เหนือ​มนุษย์​นั้น​ถูก​ผู้นำ​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​เสี่ยงชีวิต​เพื่อ​กำจัด​ทิ้ง​

“พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​เมื่อ​เทียบ​กับ​ยาม​ปกติ​ แข็งแกร่ง​ขึ้น​หลายเท่า​”

คน​ที่​พูด​คือ​ผู้อาวุโส​ขั้น​สี่ของ​เผ่า​ซือ​กู่​ ข้าง​กาย​ของ​เขา​มีหุ่น​ของ​ศพ​เดิน​ได้ที่​มีกลิ่น​รุนแรง​สามตัว​

“ไม่ต้อง​พูดถึง​จำนวน​ของ​การ​เกิด​ของ​ระดับ​เหนือ​มนุษย์​ อสูร​กู่​ และ​หนอน​กู่​ขั้น​สี่ที่จะ​เพิ่มขึ้น​อย่าง​รวดเร็ว​ใน​ระยะเวลา​สั้น​ๆ หาก​ประมาทเลินเล่อ​ พวก​ข้า​อาจจะ​มีอันตราย​ถึงชีวิต​”

ขณะที่​ผู้อาวุโส​ของ​เผ่า​ตู๋​กู่​พูด​คำพูด​เหล่านี้​ ก็ได้​มอง​ไป​ยัง​ผู้อาวุโส​ทั้ง​หก​ของ​เผ่า​ลี่​กู่​

ผู้อาวุโส​ใหญ่​ตำหนิ​ว่า​

“เจ้าดู​อย่างไร​ อสูร​กู่​ที่​ข้า​ฆ่าไป​ทั้งหมด​ยัง​มากกว่า​เนื้อที่​เจ้ากิน​ไป​เสีย​ด้วยซ้ำ​”

ปาก​ไม่ยอมแพ้​ คิ้ว​ของ​ผู้อาวุโส​ใหญ่​ก็​ไม่คลายตัว​ ขมวด​แน่น​ตลอดเวลา​

พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​ปะทุ​ขึ้น​ไม่บ่อย​ ใน​ชีวิต​พวกเขา​เคย​ประสบ​สอง​ครั้ง​ ไม่มีครั้งไหน​ที่จะ​สามารถ​เทียบ​กับ​การเคลื่อนไหว​ของ​เมื่อวาน​นี้​ได้​

หลังจาก​ผ่าน​การ​ดูดซึม​และ​การ​ย่อย​มาตลอดคืน​ เกรง​ว่า​บรรดา​หนอน​กู่​และ​อสูร​กู่​ที่อยู่​บริเวณ​จี๋เยวียน​จะเริ่ม​มีการเปลี่ยนแปลง​แล้ว​

ความ​แข็งแกร่ง​ยัง​ไม่ใช่สิ่งสำคัญ​ สิ่งสำคัญ​คือ​ป่า​บุพกาล​ที่อยู่​รอบนอก​จี๋เยวียน​นั้น​กว้างใหญ่​ไพศาล​ ยาก​ที่จะ​ทำการ​ปูพรม​ค้นหา​ หาก​มีการ​ประมาทเลินเล่อ​ ก็​อาจจะ​เป็นการ​ให้​พื้นที่​หายใจ​กับ​หนอน​กู่​ระดับ​เหนือ​มนุษย์​ในอนาคต​

“โชคดี​ที่​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ช่วย​ไว้​ เขา​เป็น​ทหาร​ เชี่ยวชาญ​ใน​การ​ยกทัพ​จับ​ศึก​ มีเขา​คอย​ช่วย​ใน​สนามรบ​ ก็​เหมือนกับ​เสือ​ติดปีก​”

ผู้อาวุโส​รอง​ของ​เผ่า​ลี่​กู่​กล่าว​

บรรดา​ผู้อาวุโส​ของ​แต่ละ​เผ่า​พา​กัน​พยักหน้า​ ถึงแม้เผ่า​ตู๋​กู่​ ซือ​กู่​ และ​ฉิงกู่​จะไม่ชอบ​คน​จาก​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ แต่​พวกเขา​ก็​ต้อง​ยอมรับ​ว่า​สิ่งที่​ผู้อาวุโส​รอง​พูด​นั้น​เป็น​ความจริง​

“ถ้ามีโหร​ช่วย​ก็​คงจะ​ดี​ ช่วย​ระเบิด​จี๋เยวียน​ ลด​ความยุ่งยาก​ได้​มากมาย​ หรือว่า​เหมือน​นิกาย​มนุษย์​ลัทธิ​เต๋า​ที่​สามารถ​ควบคุม​ระบบ​ของ​ค่าย​กล​กระบี่​ได้​”

ชาย​วัยกลางคน​ข้างๆ​ แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​พูด​

ในขณะที่​กำลัง​ถกเถียง​กัน​ ทุกคน​ก็​เห็น​แสงสีทอง​ที่มา​พร้อม​สายลม​ นั่น​คือ​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ที่​มีวงแหวน​เพลิง​อยู่​ด้านหลัง​ศีรษะ​

และ​ข้าง​กาย​เขา​ มีผู้หญิง​คน​หนึ่ง​ขี่​กระบี่​บิน​มา เท้า​เหยียบ​กระบี่​บิน​ สวม​ชุด​ขนนก​ มือถือ​แส้หาง​ม้า ชาด​ที่​หว่าง​คิ้ว​ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​ผู้คน​เป็นพิเศษ​

ใน​พริบตา​ที่​เห็น​ผู้หญิง​ขี่​กระบี่​ ผู้ชาย​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​ต่าง​ตกตะลึง​ จากนั้น​ก็​แสดง​สีหน้า​หลงใหล​ สติสัมปชัญญะ​บอก​พวกเขา​ว่า​ นี่​คือ​หญิง​บริสุทธิ์​แห่ง​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ แต่​สายตา​บอก​พวกเขา​ว่า​ นี่​เป็น​ผู้หญิง​ที่​สวย​ที่สุด​ใน​โลก​

พวกเขา​เห็น​รูปแบบ​ของ​ผู้หญิง​ที่​พวกเขา​รัก​จาก​ผู้หญิง​คน​นี้​

สวี่​ชีอัน​ลง​สู่พื้นดิน​ พยักหน้า​ให้​กับ​แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​และ​คนอื่นๆ​ แล้ว​พูดว่า​

“นี่​คือ​ผู้นำ​เต๋า​นิกาย​มนุษย์​ ราชครู​แห่ง​ต้าฟ่ง”​

ผู้นำ​เต๋า​นิกาย​มนุษย์​…ยกเว้น​แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​แล้ว​ ทุกคน​ต่าง​จ้องหน้า​ลั่วอวี้เหิง​ด้วย​ความประหลาดใจ​ ถ้าจำไม่ผิด​ ผู้นำ​เต๋า​นิกาย​มนุษย์​คน​ปัจจุบัน​คือ​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​สอง​

“ข้า​เชิญมาร่วมกัน​กำจัด​อสูร​กู่​โดยเฉพาะ​”

สวี่​ชีอัน​พูด​ขึ้น​อีกครั้ง​

มีผู้​ฝึกฝน​กระบี่​นิกาย​มนุษย์​เข้าร่วม​ การ​กำจัด​หนอน​กู่​ และ​อสูร​กู่​จะง่าย​ขึ้น​อีก​มาก.​..ดวงตา​ของ​ผู้อาวุโส​ของ​เผ่า​ลี่​กู่​ ซิน​กู​ เทียน​กู่​ และ​อั้น​กู่​เป็นประกาย​ ดีใจ​จาก​ใจจริง​

แต่​ผู้อาวุโส​ของ​เผ่า​ตู๋​กู่​ ฉิงกู่​และ​ซือ​กู่​ บางคน​เงียบขรึม​บางคน​รู้สึก​กลืน​ไม่เข้า​าย​ไม่ออก​ เพราะ​ภายในใจ​ของ​พวกเขา​รู้สึก​อาฆาตแค้น​สวี่​ชีอัน​ เพราะ​เขา​เป็นตัวแทน​ของ​ราชวงศ์​ต้าฟ่ง​

‘ทำไม​ต้อง​ปฏิบัติ​ต่อ​ศัตรู​อย่าง​มีมารยาท​ด้วย​?’ นี่​เป็น​เสียง​จาก​ส่วนลึก​ของ​หัวใจ​ที่​เหมือนกัน​ของ​พวกเขา​

แต่​ตอนนี้​เห็น​สวี่​ชีอัน​ได้​เชิญผู้นำ​เต๋า​นิกาย​มนุษย์​ที่อยู่​ไกล​ถึงเมืองหลวง​ของ​ต้าฟ่ง​ เพื่อ​มาช่วย​เผ่าพันธุ์​กู่​กำจัด​อสูร​กู่​

ความจริงใจ​และ​เจตนา​ดี​นี้​ ทำให้​ไม่ว่า​อย่างไร​พวกเขา​ก็​พูดจา​รุนแรง​ออกมา​ไม่ได้​

สามารถ​เชิญราชครู​แห่ง​ต้าฟ่ง​มายัง​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ได้​ คิด​ว่า​คงจะ​ต้อง​ใช้ไหวพริบ​อย่าง​มาก​ …ผู้อาวุโส​ของ​ทั้ง​สามเผ่า​คิดในใจ​

“สามารถ​เชิญผู้นำ​เต๋า​นิกาย​มนุษย์​มาได้​ คง​ต้อง​ใช้ไหวพริบ​เป็นอย่างมาก​”

ผู้อาวุโส​ใหญ่​พูด​ด้วย​ความสะเทือนใจ​

ผู้คน​จาก​ชน​เผ่า​อื่น​จะเก็บ​ความสงสัย​ไว้​ใน​ใจ แต่​คน​ของ​เผ่า​ลี่​กู่​นั้น​ “พูด​อะไร​ตรงไปตรงมา​” มาแต่ไหนแต่ไร​แล้ว​

สวี่​ชีอัน​มอง​ลั่วอวี้เหิง​แวบ​หนึ่ง​ ก็​ส่งเสียง​ “อ้อ​”

“ไม่มีอะไร​ ราชครู​เป็น​คู่​บำเพ็ญ​ของ​ข้า​”

หลังจาก​พูด​จบ​ สวี่​ชีอัน​ก็​เห็น​คน​ยี่สิบ​กว่า​คนใน​ที่​นั้น​ สีหน้า​ประหลาด​ขึ้น​ทันที​

‘ผู้นำ​เต๋า​นิกาย​มนุษย์​เป็น​คู่​บำเพ็ญ​ของ​เขา​…’

‘บัดซบ​ สาวงาม​เป็น​เอก​เช่นนี้​ถูก​ทหาร​หยาบคาย​คน​นี้​ดัน​เสียแล้ว​หรือ​…’

‘ฆ้อง​เงิน​สวี่สม​กับ​ที่​เป็น​ทหาร​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ต้าฟ่ง​ ความรู้​เกี่ยวกับ​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​นั้น​ลึกซึ้ง​กว่า​พวกเรา​มาก​นัก​…’

‘หึ​ แย่ง​ผู้ชาย​ของ​ข้า​จับ​คน​ของ​ข้า​…’

ความคิด​ต่างๆ​ นานา​ ผ่าน​เข้ามา​ใน​หัวใจ​ของ​ทุกคน​

แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​พยักหน้า​ให้​ลั่วอวี้เหิง​ แล้ว​พูดว่า​

“ออกเดินทาง​เถิด​”

มีลั่วอวี้เหิง​คอย​ช่วยเหลือ​ ทำให้​การเคลื่อนไหว​เพื่อ​กำจัด​อสูร​กู่​นั้น​ง่าย​และ​รวดเร็ว​ยิ่งกว่า​เดิม​

ผู้​ฝึกฝน​กระบี่​ที่​กำลังจะ​หนี​เคราะห์กรรม​ นาง​สามารถ​ระเบิด​พลัง​สังหาร​ออกมา​ ทำให้​เผ่าพันธุ์​กู่​ทุกคน​จ้องมอง​ด้วย​ความรู้สึก​อัศจรรย์​ใจ

เมื่อ​ถึงยาม​พลบค่ำ​ สวี่​ชีอัน​และ​เผ่าพันธุ์​กู่​ทุกคน​ก็​ออกจาก​จี๋เยวียน​ กลับ​ไป​ยัง​เผ่า​

เขา​ไม่ได้​ตาม​หลง​ถูกลับ​ไป​ที่​เผ่า​ลี่​กู่​ แต่​ตาม​แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​ไป​ พูดว่า​

“แม่ย่า​ ข้า​ขอ​คุย​เป็นการ​ส่วนตัว​สักครู่​”

แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​ค้ำ​ไม้เท้า​ เดิน​เคียงข้าง​ไป​ระยะ​หนึ่ง​ ผู้อาวุโส​ถามด้วย​สีหน้า​เมตตา​ว่า​

“เกี่ยวกับ​การ​ขอ​กำลัง​เสริม​?”

สวี่​ชีอัน​พยักหน้า​

แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​เดิน​ช้าๆ พึมพำ​ว่า​

“เรื่อง​ฉิงกู่​ และ​ตู๋​กู่​ช่างมัน​เถิด​ ทั้งสอง​เผ่า​มีอคติ​ต่อ​ต้าฟ่ง​เป็นอย่างมาก​ ไม่ใช่เรื่อง​ที่​สามารถ​เปลี่ยนแปลง​ได้​ใน​ชั่ว​ข้ามคืน​ แต่​เผ่า​ซือ​กู่​นั้น​มีความเป็นไปได้​ สำหรับ​โหย​วซือ​แล้ว​มีความแค้น​ที่​เว่ยเยวียน​ฆ่าพ่อ​ของ​เขา​ แต่​คนใน​เผ่า​ของ​เขา​ไม่ได้​มีความแค้น​ต่อ​ต้าฟ่ง​มาก​นัก​”

“ส่วน​เผ่า​อั้น​กู่​มีสาเหตุ​มาจาก​นิสัย​ ที่​ดีกว่า​เผ่า​ลี่​กู่​เพียง​เล็กน้อย​ แต่​ก็​ขาดแคลน​เงินทอง​และ​อาหาร​ มีความเป็นอยู่​ขัดสน​ เจ้าสามารถ​เริ่ม​จาก​ด้าน​นี้​”

สาเหตุ​มาจาก​นิสัย​? เป็น​เพราะ​พวกเขา​เอาแต่​เล่น​ซ่อนหา​กัน​ทั้งวัน​ใช่หรือไม่​? สวี่​ชีอัน​อดกลั้น​ไว้​ ไม่ได้​พูด​ออกมา​

“คนใน​เผ่า​ซิน​กู่​ค่อนข้าง​มีเหตุผล​ ดูเหมือน​ฉุน​เยียน​จะมีความรู้สึก​ที่​ดี​ต่อ​เจ้า ปรึกษา​กัน​ดี​ๆ ไม่น่าจะ​ยาก​ เผ่า​ลี่​กู่​มอบ​อาหาร​ให้​ก็​พอแล้ว​ ชาว​เผ่า​เป็น​คน​ชอบ​ทำสงคราม​ ไม่กลัว​การ​พลีชีพ​ เผ่า​เทียน​กู่​ไม่ชำนาญ​ใน​การ​รบ​ วิชา​ดู​ดาว​ โหร​ก็​ทำได้​ จึงไม่จำเป็นต้อง​กังวล​เกี่ยวกับ​พวกเรา​แล้ว​”

“ขอบ​คุณแม่​ย่า​”

สวี่​ชีอัน​ประสานมือ​คารวะ​

หลังจาก​สอบถาม​ที่อยู่​ของ​แต่ละ​เผ่า​อย่าง​ชัดเจน​แล้ว​ เขา​และ​ลั่วอวี้เหิง​ก็​กลับ​ไป​ยัง​เผ่า​ลี่​กู่​ หลังจาก​ราชครู​เข้าไป​ใน​ห้อง​แล้ว​ สิ่งแรก​ที่​ทำ​ก็​คือ​ติด​ยันต์​ไว้​บน​ประตู​หน้าต่าง​เพื่อ​ตัดขาด​ระหว่าง​ภายใน​และ​ภายนอก​

ส่วน​สวี่​ชีอันนั้น​ได้​ไป​ส่งสวี่ห​ลิง​อิน​ที่​ห้อง​ของ​ลี่​น่า​

‘แปะ​ๆๆ…’

ใน​ห้อง​ที่​แสงเทียน​สลัว​ อากาศ​ใน​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ร้อน​ ยุง​เป็น​สิ่งที่​น่า​โมโห​ สวี่​ชีอัน​ช่วย​ตบยุง​ให้​ราชครู​ ตบ​จน​ดึกดื่น​

วันรุ่งขึ้น​ แสงอรุโณทัย​เพิ่ง​โผล่​พ้น​ขอบฟ้า​ สวี่​ชีอัน​ฉวยโอกาส​ตอนที่​ราชครู​ยัง​ไม่ตื่น​ เดินทาง​ไป​ที่​เผ่า​อั้น​กู่​

เผ่า​อั้น​กู่​อยู่​ทาง​ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้​ของ​จี๋เยวียน​ เป็น​เมือง​ที่​มีขนาด​ค่อนข้าง​ใหญ่​ กำแพง​ดิน​สูงสามเมตร​ล้อมรอบ​เมือง​ ด้านหลัง​เป็น​เทือกเขา​ ด้าน​นอกเมือง​มีแม่น้ำ​สาย​เล็ก​ๆ ไหลผ่าน​เสียงดัง​ซู่ซ่า

ประชากร​ของ​เมือง​มีประมาณ​เจ็ด​พัน​คน​

แน่นอน​ว่า​นี่​ไม่ใช่ประชากร​ทั้งหมด​ของ​เผ่า​อั้น​กู่​ เผ่าพันธุ์​กู่​เพิ่มทวี​ขึ้น​นับ​พันปี​ พัฒนา​เป็น​ชน​เผ่า​เล็ก​ๆ มากมาย​ บริเวณ​รอบ​ๆ เมือง​นี้​ มีหมู่​บ้านเล็ก​ๆ กระจัดกระจาย​อยู่​มากมาย​

สวี่​ชีอัน​ใช้วิชา​กระโดด​สู่เงาตลอดทาง​ และ​เมื่อ​มาถึงเผ่า​อั้น​กู่​ แสงอรุโณทัย​ก็​ขึ้น​สูงแล้ว​

แม่น้ำ​ที่อยู่​นอกเมือง​เป็น​สีแดง​ทอง​สวยงาม​ไหล​อย่าง​เงียบๆ​

ใน​เมือง​เงียบสงบ​ เหมือนกับ​เมือง​ที่​เต็มไปด้วย​กลิ่นอาย​ของ​ผู้คน​จู่ๆ ผู้คน​ก็​อันตรธาน​ไป​ มีความ​แปลกประหลาด​ท่ามกลาง​ความ​เงียบสงัด​

เขา​หันไป​มอง​รอบ​ๆ ตัว​ ก็​เห็น​เด็ก​ใน​สวม​ชุด​ชาว​ซินเจียง​ตอน​ใต้​นั่ง​กิน​วอ​วอ​โถวอ​ยู่​ที่​ประตู​บ้าน​

“ผู้ใหญ่​ใน​บ้าน​ล่ะ​?”

สวี่​ชีอัน​กระเถิบ​เข้าใกล้​

ขณะที่​พูด​ เขา​สังเกต​เด็กชาย​อย่าง​ละเอียด​ เด็กน้อย​แต่งกาย​เรียบง่าย​ ดูเหมือน​วอ​วอ​โถว​ใน​มือ​จะเป็น​อาหารเช้า​ของ​เขา​

เด็กชาย​มอง​เขา​อย่าง​งุนงง​ เพราะ​ฟังภาษาของ​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ไม่เข้าใจ​นั่นเอง​

ในเวลานี้​ ใน​เงามืด​ข้าง​อ่าง​น้ำ​ที่​ประตู​ มีชายหนุ่ม​คน​หนึ่ง​คลาน​ออกมา​ สวม​ชุด​สีดำ​สลับ​ฟ้า ใบหน้า​ขาวซีด​ ที่​ศีรษะ​โพก​ผ้า​สีดำ​

“ท่าน​คือ​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ใช่หรือไม่​?”

ชายหนุ่ม​พูด​ด้วย​ท่าที​นอบน้อม​

“เจ้าเป็น​พ่อ​ของ​เขา​หรือ​?”

สวี่​ชีอัน​ถามกลับ​

“ข้า​เป็น​หน่วย​ลาดตระเวน​ ทันทีที่​ท่าน​เข้ามา​ใน​เมือง​ พวกเรา​ก็​สังเกตเห็น​แล้ว​ หัวหน้า​ได้​มอบหมาย​ไว้​ ถ้าหาก​ฆ้อง​เงิน​สวี่​มาเยี่ยมเยียน​ ให้​พา​ท่าน​ไป​พบ​เขา​”

ชายหนุ่ม​พูด​จบ​ ก็​หันไป​มอง​เด็ก​

“พ่อแม่​ของ​เขา​ซ่อนตัว​อยู่​ ไม่ถึงสอง​ชั่วโมง​จะไม่ออกมา​อย่าง​แน่นอน​”

พูด​แล้ว​อาการ​ติดยา​ของ​ข้า​ก็​กำเริบ​ อยาก​จะซ่อนตัว​เหมือนกัน​…สวี่​ชีอัน​พยักหน้า​ น้ำเสียง​สงบ​

“นำทาง​เถิด​”

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท