บทที่ 697 จิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

หลังจาก​ได้ยิน​ฮองเฮา​กล่าว​แล้ว​ ความคิด​แรก​ที่​เกิดขึ้น​ของ​หลิน​อัน​คือ​ เสด็จ​พี่​จักรพรรดิ​วางแผน​ที่จะ​ประนีประนอม​กับ​บุคคล​สำคัญ​ใน​ราชสำนัก​ โดย​การ​ให้​ผู้หญิง​ใน​ตระกูล​ตนเอง​แต่งงาน​กับ​ลูกหลาน​ของ​กั๋วกง​บางท่าน​เพื่อ​รักษา​เสถียรภาพ​ของ​ระบอบ​การปกครอง​

ไม่ใช่ว่า​นาง​คาดเดา​โดย​ไม่มีเหตุผล​ ก่อนหน้านี้​เสด็จ​แม่ก็​เคย​กล่าว​เรื่อง​ทำนอง​นี้​มาก่อน​ ว่า​อยาก​ให้​นาง​แต่งงาน​กับ​ลูกชาย​คน​ที่สอง​ของ​กั๋วกง​

ฮองเฮา​กล่าว​ต่อไป​ด้วย​น้ำเสียง​เบา​และ​ราบเรียบ​อย่าง​มาก​ “อย่างไร​ข้า​ก็​เป็น​แม่ในนามของ​เจ้า ข้า​ต้อง​ดูแล​เรื่องใหญ่​อย่าง​งาน​อภิเษก​ของ​เจ้า ตอนที่​จักรพรรดิ​องค์​ก่อน​ยังมี​พระชนม์ชีพ​อยู่​ก็​ไม่ได้​สนใจ​เรื่อง​การ​อภิเษก​ของ​พวก​เจ้า ข้า​เอง​ก็​มีความสุข​อยู่​กับ​การพักผ่อน​ แต่​ตอนนี้​จักรพรรดิ​องค์​ใหม่​มีแผน​เช่นนี้​แล้ว​ ข้า​ก็​ไม่สามารถ​ผลักภาระ​ให้​ผู้อื่น​ได้​”

‘เสด็จ​พี่​จักรพรรดิ​ก็​รู้ดี​ว่า​ข้า​สนิทสนม​กับ​สุนัข​รับใช้​ ถึงแม้ข้า​จะไม่เคย​ยอมรับ​มาก่อน​ว่า​ชื่นชอบ​เขา​ แต่​เสด็จ​พี่​จักรพรรดิ​ก็​น่าจะ​มองออก​กระมัง​’…หลิน​อัน​ข่มใจ​เอาไว้​

สีหน้า​ของ​นาง​จมดิ่ง​ลง​ภายใน​พริบตา​ และ​กล่าว​ด้วย​ความเคารพ​ที่​แฝงไป​ด้วย​ความ​ไม่แยแส​ “เรื่อง​นี้​ไม่จำเป็นต้อง​รบกวน​ฮองเฮา​ เดี๋ยว​หลิน​อัน​คุย​กับ​เสด็จ​พี่​จักรพรรดิ​เอง​ได้​เพคะ​”

ฮองเฮา​เหลือบตา​มอง​นาง​ด้วย​ความประหลาดใจ​เล็กน้อย​ “เจ้าไม่อยาก​แต่งงาน​รึ​?”

หลิน​อัน​เงยหน้า​ขึ้นไป​ “ข้า​ไม่อยาก​แต่งงาน​กับ​ใคร​ทั้งนั้น​เพคะ​”

ฮองเฮา​พยักหน้า​และ​กล่าว​เสียง​เบา​ด้วย​ท่าที​เฉยเมย​ “ช่างเถอะ​ ได้ยิน​ฝ่าบาท​ตรัส​ว่า​เจ้าสนิทสนม​รักใคร่​กับ​ฆ้อง​เงิน​สวี่​มาก​ ที่แท้​ฝ่าบาท​ก็​เข้าใจผิด​นี่เอง​”

…หลิน​อัน​มอง​นาง​ด้วย​สีหน้า​ตกตะลึง​

ผ่าน​ไป​ไม่กี่​วินาที​ หลิน​อัน​ก็​กล่าว​ตะกุกตะกัก​ว่า​ “สะ เสด็จ​แม่ตรัส​ว่า​อะไร​นะ​เพคะ​?”

ฮองเฮา​กล่าว​เสียง​เบา​ว่า​ “ฝ่าบาท​ต้องการ​ให้​เจ้าแต่งงาน​กับ​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ หาก​เจ้าไม่ยินยอม​ก็​กลับ​ไป​บอ​ก.​..”

ยัง​ไม่ทัน​กล่าว​จบ​ หลิน​อัน​ก็​กล่าว​แทรก​ขึ้น​มาเสียงดัง​ว่า​ “ใน​เมื่อ​เสด็จ​พี่​จักรพรรดิ​ตรัส​เช่นนี้​แล้ว​ ต่อให้​หลิน​อัน​ไม่ยินยอม​ อย่างไร​ก็​ทำได้​เพียง​เชื่อฟัง​ รบกวน​ฮองเฮา​จัดการ​ด้วย​เพคะ​”

ฮองเฮา​จ้อง​นาง​ครู่หนึ่ง​ ก่อน​จะเผย​รอยยิ้ม​เล็กน้อย​ “ผ่าน​เรื่องราว​มากมาย​ เจ้าโต​เป็นผู้ใหญ่​ขึ้น​มาก​ ข้า​เอง​ก็​พูด​อะไร​ที่​ต้อง​พูด​เรียบร้อย​แล้ว​ เจ้ากลับ​ไป​เถอะ​”

“หลิน​อัน​ทูล​ลา​เพคะ​!”

นาง​ทำความเคารพ​ด้วย​สีหน้า​ปกติ​และ​ออก​ไป​จาก​ตำหนัก​เฟิ่งชีพร้อมกับ​นางกำนัล​สอง​คน​

ทันทีที่​ก้าว​เท้า​ออกจาก​ตำหนัก​เฟิ่งชี เข่า​ของ​หลิน​อัน​ก็​อ่อนระทวย​จน​เกือบจะ​ล้ม​ลง​ไป​ที่​พื้น​

“องค์​หญิง​เพคะ​…”

โชคดี​ที่​นางกำนัล​ทั้งสอง​ผู้​มีสายตา​เฉียบแหลม​และ​มือ​ที่​ว่องไว​สนับสนุน​นาง​ได้​ทัน​

“องค์​หญิง​เป็น​อะไร​ไป​หรือ​เพคะ​? บ่าว​ไป​เรียก​หมอ​หลวง​ก่อน​นะ​เพคะ​”

นางกำนัล​ที่อยู่​ทาง​ด้าน​ซ้าย​รีบ​วิ่ง​ออก​ไป​ไกล​ทันที​

หลิน​อัน​พิง​ร่าง​ไป​ที่​นางกำนัล​อีก​คน​เบา​ๆ ด้วย​ความ​มึนงง​และ​เหม่อลอย​

“องค์​หญิง​ พระองค์​ทรง​เป็น​อะไร​ไป​หรือ​เพคะ​?”

เมื่อ​เห็น​เช่นนั้น​ นางกำนัล​ก็​ร้อนรน​ขึ้น​มาทันที​

หลิน​อัน​ได้ยิน​เสียง​หัวใจ​ของ​ตนเอง​เต้น​ตุบๆ​ ภาพ​เบื้องหน้า​เริ่ม​มืด​ลง​ นาง​อยาก​จะยก​ยิ้ม​แต่​น้ำ​ตากลับ​ไหล​ออกมา​ นาง​กล่าว​พึมพำ​ว่า​ “ข้า​ก็​ไม่รู้​ว่า​เป็น​อะไร​…”

กลางดึก​ ซินเจียง​ตอน​ใต้​

บริเวณ​รอบ​ภูเขา​สือ​ว่าน​ มีภูเขา​สูงชื่อว่า​ ‘หุบเขา​ชิงเฟิง’

ดวงจันทร์​ลอย​เด่น​อยู่​บน​ท้องฟ้า​ เงาหนา​ทึบ​กำลัง​วุ่น​อยู่​ภายใต้​แสงจันทร์​ที่​สว่างไสว​ มีทั้ง​แบบ​รูปลักษณ์ภายนอก​เป็น​มนุษย์​ แบบ​ที่​เป็น​มนุษย์​แต่​ลักษณะเฉพาะ​เป็น​สัตว์​ และ​แบบ​ที่​รูปร่าง​เป็น​สัตว์​อย่าง​สมบูรณ์​

เหล่า​เผ่า​ปีศาจ​จำนวน​มากมาย​กำลัง​โยน​สิ่งมีชีวิต​ลง​ไป​ใน​หลุม​ขนาดใหญ่​ ซึ่งใน​บรรดา​สิ่งมีชีวิต​เหล่านี้​มีสิ่งมีชีวิต​ทุก​ประเภท​

ถ้าพวก​มัน​ไม่กำลัง​หมด​ลมหายใจ​เฮือกสุดท้าย​ก็​กำลัง​หมดสติ​โดย​ไม่รู้​ถึงชะตากรรม​ที่​กำลัง​มาถึงของ​ตนเอง​

บน​ท้องฟ้า​อัน​กว้างใหญ่​ ลั่วอวี้เหิง​เหยียบ​อยู่​บน​กระบี่​บิน​ ส่วน​สวี่​ชีอัน​เหยียบ​อยู่​บน​ดาบ​ไท่​ผิง​โดย​มีไป๋​จีเกาะ​อยู่​บน​ไหล่​

“การ​เซ่นไหว้​อัน​ยิ่งใหญ่​และ​นองเลือด​” สวี่​ชีอัน​มอง​ลง​ไป​เบื้องล่าง​พลาง​กล่าว​เสียงทุ้ม​

สิ่งมีชีวิต​เหล่านี้​ถูก​รวบรวม​เพื่อ​จุดประสงค์​ใน​การฟื้นฟู​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​เสิน​ซู

เสิน​ซูถูก​ผนึก​เป็นเวลา​ห้า​ร้อย​ปี​ เลือด​และ​ชี่หมด​พลัง​ลง​ สิ่งนี้​ไม่สามารถ​ฟื้นฟู​ได้​เพียงแค่​ฝึก​ลมหายใจ​แบบ​สบาย​ๆ หาก​ต้อง​การฟื้นฟู​พลัง​ระดับ​บรรลุ​ธรรม​ก็​จำเป็นต้อง​ดูดซับ​พลัง​ใน​ระดับ​เดียวกัน​

ใน​มุมมอง​ของ​สวี่​ชีอัน​ มัน​สอดคล้อง​กับ​ความ​ถาวร​ของ​พลังงาน​

ยา​โลหิต​ของ​ระดับ​บรรลุ​ธรรม​หา​ยาก​เกินไป​ เช่นนั้น​จึงมีเพียง​การเปลี่ยนแปลง​เชิงปริมาณ​เท่านั้น​ที่จะ​นำไปสู่​การเปลี่ยนแปลง​เชิงคุณภาพ​

“ทำไม​หรือ​ นัก​ดาบ​ผู้พิชิต​คนพาล​ช่วย​คนดี​อย่าง​ฆ้อง​เงิน​สวี่ทน​เห็น​สิ่งมีชีวิต​ด้านล่าง​เสียชีวิต​โดย​เปล่าประโยชน์​ไม่ได้​รึ​?”

ลั่วอวี้เหิง​หยอกล้อ​ด้วย​รอยยิ้ม​ราวกับ​แมว​ยั่ว​สวาท​

สวี่​ชีอัน​ไม่ได้​ตอบ​ตรงๆ​ แต่​กล่าว​ด้วย​ความรู้สึก​อัน​ลึกซึ้ง​ว่า​ “ความสำเร็จ​ของ​นายพล​คน​หนึ่ง​ ต้อง​แลก​มาซึ่งความเจ็บปวด​ล้มตาย​ของ​ทหาร​นับ​พัน​”

เขา​ตอบกลับ​อี​กว่า​ “มนุษย์​เป็น​สิ่งที่​รู้จัก​ปรับตัว​และ​ยัง​จำเป็นต้อง​ตัดสินใจ​เลือก​ การทำตาม​หลักการ​บางอย่าง​อย่าง​สุ่มสี่สุ่มห้า​ไม่ใช่สิ่งที่​คน​ฉลาด​ทำ​”

ลั่วอวี้เหิง​ยก​มือขึ้น​แสดง​รอยยิ้ม​ปลาบปลื้ม​ แขน​เสื้อ​กว้าง​เลื่อน​ลง​ เผย​ให้​เห็น​ข้อมือขาว​ราวกับ​หยก​ขาว​ที่​ค่อยๆ​ ลูบ​ศีรษะ​ของ​เขา​อย่าง​แผ่วเบา​ “เจ้าไม่มีความคิด​คร่ำครึ​มาตั้ง​แต่ไหนแต่ไร​แล้ว​”

ในขณะที่​กล่าว​ เสียงสะท้อน​ดังสนั่น​ลั่น​มาจาก​ใน​ป่า​ด้านล่าง​ ต้นไม้​ล้ม​จน​ราบเป็นหน้ากลอง​

ใน​มุมของ​สวี่​ชีอัน​ เขา​สามารถ​มองเห็น​งูยักษ์​เกล็ด​สีดำ​ได้​โดยตรง​ มัน​เลื้อย​อย่าง​ช้าๆ บดขยี้​ต้นไม้​ทุก​ต้น​ที่​มัน​เลื้อย​ผ่าน​

‘ฟ่อ​ ฟ่อ​…’

งูยักษ์​เงยหน้า​ขึ้น​และ​แลบลิ้น​ไป​ทาง​ดวงจันทร์​เต็มดวง​ที่​ลอย​เด่น​บน​ท้องฟ้า​

“งูพิทักษ์​สำนัก​พุทธ​ งูพิทักษ์​สำนัก​พุทธ​มาแล้ว​”

“ร่าง​ของ​งูพิทักษ์​สำนัก​พุทธ​ยัง​ใหญ่​เหมือน​ใน​อดีต​ ไม่สิ ใหญ่​ขึ้น​อีก​เท่า​หนึ่ง​ใช่หรือไม่​?”

เหล่า​เผ่า​ปีศาจ​ที่อยู่​เบื้องล่าง​ต่าง​ก็​พูดคุย​กัน​เซ็งแซ่

ส่วน​ท้อง​ของ​งูยักษ์​ขยับ​ขยุกขยิก​พร้อมกับ​รอย​นูน​ของ​ลูก​กลม​ๆ ที่​ปรากฏ​อยู่​ใน​ผิว​ ลูก​กลม​นั้น​ค่อยๆ​ เลื่อน​ขึ้น​มาด้านบน​อย่าง​ช้าๆ เมื่อ​ถึงบริเวณ​คอ​ของ​งูยักษ์​ มัน​ก็​ถูก​พ่น​ออกมา​ดัง​ ‘ผลุบ​’

นั่น​คือ​เนื้อ​ก้อน​กลม​ๆ ขนาดใหญ่​ที่​ถูก​ห่อหุ้ม​ด้วย​อากาศ​

‘วี๊ด​ วี๊ด!’​

เสียง​กรีดร้อง​ดังก้อง​อยู่​ใน​ท้องฟ้า​ยามค่ำคืน​

สัตว์​ตัว​ใหญ่​มหึมา​สอง​ตัว​โบย​บินลง​มาจาก​ท้องฟ้า​ยามค่ำคืน​ ตัว​หนึ่ง​เป็น​นก​ยักษ์​สีแดงเข้ม​ขนาด​สอง​จั้ง ขน​ของ​มัน​มีสีแดงสด​ราวกับ​เปลวไฟ​ อีก​ตัว​หนึ่ง​เป็น​นก​อินทรี​ขนาด​หนึ่ง​จั้งสามฟุต​ ขน​ของ​มัน​มีสีน้ำตาล​แซมทอง​

นก​ยักษ์​ทั้งสอง​ตัว​ต่าง​ก็​ตะครุบ​โซ่เหล็กเส้น​หนึ่ง​ไว้​ใน​กรงเล็บ​อัน​แข็งแรง​ ระหว่าง​กลาง​ของ​โซ่เหล็ก​มีกรง​ไม้ขนาด​กว้าง​และ​ยาว​สอง​จั้ง

สิ่งมีชีวิต​หลายชนิด​ถูก​กักขัง​อยู่​ใน​กรง​ไม้นั้น​ ทั้ง​สัตว์​กิน​พืช​และ​สัตว์กินเนื้อ​ต่าง​ก็​ปะปน​อยู่​ด้วยกัน​

นก​ยักษ์​ทั้งสอง​ตัว​บิน​อยู่​เหนือ​กลุ่ม​ปีศาจ​ ทันใดนั้น​กรงเล็บ​ของ​มัน​ก็​คลาย​ออก​ ทำให้​กรง​ไม้ขนาดใหญ่​ร่วง​ลงมา​ทันที​

‘งูพิทักษ์​สำนัก​พุทธ​’ ใช้หางยาว​ของ​มัน​พัน​รอบ​กรง​ไม้อย่าง​ง่ายดาย​และ​ค่อยๆ​ วาง​ลง​อย่าง​มั่นคง​

หลังจากนั้น​ เสียง​หอน​ยาว​ก็​ดัง​ขึ้น​ภายใต้​แสงจันทร์​ยามค่ำคืน​ สุนัข​ยักษ์​ที่​มีลำตัว​ยาว​ถึงสามจั้งก็​วิ่ง​ไป​ข้างหน้า​ ขา​ทั้ง​สี่ข้าง​ของ​มัน​เหยียบ​ลง​ไป​บน​อากาศ​ราวกับ​เดิน​บน​พื้นราบ​

จาก​เสียงดัง​เซ็งแซ่ของ​กลุ่ม​ปีศาจ​ด้านล่าง​ สวี่​ชีอัน​รู้​ได้​ทันที​ว่า​นี่​คือ​สุนัข​พิทักษ์​สำนัก​พุทธ​ของ​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​

ใน​ชั่วโมง​ต่อมา​ กลุ่ม​ปีศาจ​พิทักษ์​สำนัก​พุทธ​ก็​เตรียมตัว​ลงสนาม​ ผู้มาเยือน​สิบ​แปด​ท่าน​ล้วน​เป็น​เผ่า​ปีศาจ​ขั้น​สี่

สิ่งมีชีวิต​ใน​หลุม​ขนาดใหญ่​เริ่ม​กอง​สูงขึ้น​เรื่อยๆ​

“สำหรับ​เผ่า​ปีศาจ​แล้ว​ สัดส่วน​ของ​ผู้​ที่​แข็งแกร่ง​นั้น​ไม่เลว​เลย​ และ​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​คง​มีปรมาจารย์​ปีศาจ​ขั้น​สี่มากกว่า​สิบ​แปด​ท่าน​แน่นอน​ เย่​จีก็​ไม่มา ต้อง​มีเผ่า​ปีศาจ​ขั้น​สี่ทำ​เรื่อง​อะไร​อยู่​ที่อื่น​แน่นอน​…”

สำหรับ​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​ที่​ซ่อนตัว​อยู่​ห้า​ร้อย​ปี​ด้วย​ความ​มุมานะ​ที่จะ​ลบ​คำสบประมาท​ การ​มีกองกำลัง​ขนาดใหญ่​เช่นนี้​ สวี่​ชีอัน​ไม่แปลกใจ​สักนิด​

“น่าเสียดาย​ที่​ยอด​ฝีมือ​เหนือ​มนุษย์​มีเพียง​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​และ​ราชา​หมี​” เขา​กล่าว​ด้วย​ความเสียใจ​

ยอด​ฝีมือ​เหนือ​มนุษย์​มีจำนวน​น้อย​และ​หา​ยาก​มาก​

ช่วงเวลา​รุ่งเรือง​ของ​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​ จำนวน​ปรมาจารย์​ปีศาจ​ระดับ​บรรลุ​ธรรม​เป็นรอง​เพียงแค่​สำนัก​พุทธ​ แม้แต่​ต้าฟ่ง​ก็​ยังมี​ไม่เท่า​

อย่างไรก็ตาม​ ปีศาจ​ทางใต้​ก็​เป็น​สัญลักษณ์​ดั้งเดิม​ของ​เผ่า​ปีศาจ​และ​แช่แข็ง​โชค​ทั้งหมด​ของ​เผ่า​ปีศาจ​ไว้​

แต่​เผ่า​ปีศาจ​ทางเหนือ​นั้น​ยัง​ตามหลัง​อยู่​มาก​

เวลานี้​เอง​ เขา​ก็​ได้ยิน​เสียง​ปีศาจ​น้อย​ตะโกน​มาจาก​ด้านล่าง​

“ผู้อาวุโส​ชิงจี”

สวี่​ชีอัน​มอง​ไป​ตาม​เสียง​ทันที​ เห็น​สตรี​ร่าง​สูงใน​ชุด​กระโปรง​สีฟ้ายืน​อยู่​บน​ยอดเขา​ชิงเฟิง มีผ้าไหม​บาง​ปิด​ที่​ใบหน้า​ ดวงตา​คู่​สวย​อัน​ทรง​เสน่ห์​มอง​ลง​ไป​ยัง​กลุ่ม​ปีศาจ​ด้านล่าง​

นาง​ปราก​ฎตัว​ตั้งแต่​เมื่อใด​ นาง​มีพลัง​เหนือธรรมชาติ​โดยกำเนิด​คล้าย​กับ​การ​ล่องหน​ของ​ฝ่าย​อั้น​กู่​งั้น​รึ​? สวี่​ชีอัน​ได้ยิน​ไป๋​จีร้อง​อุทาน​ออกมา​ด้วย​ความประหลาดใจ​

“ไอ​ห​ยา​ พี่​ชิงจี”

เกือบ​ลืม​ไป​เลย​ เจ้าเด็ก​นี่​ก็​เป็น​ผู้อาวุโส​ไป๋​จีผู้​สง่างามเหมือนกัน​…สวี่​ชีอัน​ถามว่า​ “นี่​คือ​พี่สาว​ของ​เจ้ากับ​เย่​จีรึ​?”

ไป๋​จีพยักหน้า​อย่าง​หนักแน่น​

“ข้า​ไม่ได้​เจอ​พี่​ชิงจีมานาน​แล้ว​ พี่​ชิงจีทำอาหาร​อร่อย​มาก​”

ตกลง​เจ้ามีพี่สาว​กี่​คน​กัน​แน่​…สวี่​ชีอัน​ถามหยั่งเชิง​ว่า​ “นาง​งดงาม​หรือไม่​?”

ไป๋​จียัง​ไม่ทัน​ตอบ​ เขา​ก็​รีบ​ชี้แจ้งข้อเท็จจริง​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ทันที​ “แต่​จะงดงาม​เพียงใด​ก็​ไม่เท่า​ท่าน​ราชครู​หรอก​”

ลั่วอวี้เหิง​พยักหน้า​ด้วย​ความพึงพอใจ​ ก่อน​จะชักดาบ​ที่​จ่อ​อยู่​ที่​คอ​เขา​กลับมา​

สตรี​ที่​มีผ้า​ปกคลุม​ใบหน้า​มอง​ลง​ไป​ยัง​กลุ่ม​ปีศาจ​ด้านล่าง​และ​ตะโกน​เสียงดัง​ว่า​ “ยินดีต้อนรับ​ท่านหญิง​!”

เนื้อ​เสียง​ของ​นาง​ชัดเจน​มาก​ ไม่มีจริต​ของ​สตรี​ ไม่อ่อนหวาน​ แต่​ใสสะอาด​ราวกับ​ระฆัง​

“ยินดีต้อนรับ​ท่านหญิง​!”

เผ่า​ปีศาจ​ทั้งหมด​ที่อยู่​ใน​พื้นที่​ต่าง​ก็​ตะโกน​ขึ้น​มา เสียงดัง​รวมกัน​กลายเป็น​คลื่น​ทะเล​

เสียง​ระฆัง​ใสแจ๋ว​ดังก้อง​อยู่​ใน​หู​ของ​เผ่า​ปีศาจ​ทุก​ตัว​ เช่นเดียวกับ​สวี่​ชีอัน​และ​ลั่วอวี้เหิง​

เวลานี้​เอง​ ดวงจันทร์​เต็มดวง​ที่​เย็นยะเยือก​ก็​ดูเหมือน​จะมืด​สลัว​ลง​เล็กน้อย​ ราวกับ​มัน​ถูก​ปกคลุม​ด้วย​บางสิ่ง​

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​มาแล้ว​…สวี่​ชีอัน​หัว​ใจเต้น​แรง​ และ​หันไป​มอง​ทาง​ดวงจันทร์​

เผ่า​จิ้งจอก​ขึ้นชื่อ​ใน​ด้าน​ความงาม​ พวก​มัน​ทั้งหมด​ล้วน​มีความงดงาม​อยู่​ใน​ระดับแนวหน้า​

แล้ว​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ที่​มีเพียง​ตัว​เดียว​ใน​แผ่นดิน​จิ่ว​โจว​จะงดงาม​จน​เป็น​ชนวน​ให้​บ้านเมือง​ล่มสลาย​หรือไม่​?

…………………………………………………

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท