บทที่ 698 โหมโรงมหาสงคราม

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ภายใต้​ดวงจันทร์​วันเพ็ญ​ สิ่งแรก​ที่​สวี่​ชีอัน​เห็น​คือ​หาง​ของ​นาง​จิ้งจอก​เก้า​หาง​ที่​อวด​โอ่​งดงาม​ ราวกับ​นกยูง​รำแพน​หาง​

เป็น​ปุย​สีขาว​บริสุทธิ์​อวด​โฉมงดงาม​แปลกตา​

จากนั้น​เทพธิดา​ตัวจริง​ก็​ปรากฏ​ นี่​คือ​สตรี​ที่​ไม่มีใคร​หา​ถ้อยคำ​ใด​มาบรรยาย​ได้​อย่าง​เหมาะ​สมใน​ช่วงเวลา​อัน​สั้น​

นาง​มีหู​จิ้งจอก​ขน​ปุกปุย​และ​ผม​สีเงิน​ราวกับ​น้ำแข็ง​

นาง​มีใบหน้า​งดงาม​เย้ายวนใจ​ ดวงตา​ของ​นาง​คมกริบ​ตามแบบฉบับ​ของ​นาง​จิ้งจอก​

นาง​สวม​ชุด​ผ้า​โปร่งบาง​ ทรวงอก​อวบอั๋น​เต็มไม้เต็มมือ​ของ​นาง​ห่อ​อยู่​ใน​หนัง​สัตว์​ขนาด​กำลัง​พอดี​ ไม่กว้าง​หรือ​แคบ​เกินไป​ ช่วง​ท้อง​ที่อยู่​ต่ำ​ลง​ไป​ขาวผ่อง​เนียน​กระชับ​

ขน​จิ้งจอก​สีขาว​ที่​ผูก​รอบเอว​นาง​ห้อย​ระ​ลงมา​เหมือน​เสื้อคลุม​ ทว่า​มิได้​บดบัง​ท่อ​นขา​ยาว​ระหง​สอง​ข้าง​ที่​เหมือน​ดั่ง​งูเหลือม​สีขาว​อวบอ้วน​สอง​ตัว​ไว้​

รอบ​ข้อเท้า​ขวา​มีกำไล​คล้อง​อยู่​ ย่างเท้า​แต่ละ​ครา​จะมีเสียง​ระฆัง​ทองเหลือง​ดัง​ ‘กรุ๊ง​กริ๊ง​’ ทุกครั้งที่​ก้าวเดิน​

ท้องฟ้า​ยามค่ำคืน​ที่​ทั้ง​ลึกล้ำ​และ​กว้างใหญ่​ยังมี​พระจันทร์เต็มดวง​เย็นยะเยือก​ประดับ​อยู่​ นาง​ค่อยๆ​ เยื้องย่าง​มาอย่าง​ช้าๆ พร้อม​รอยยิ้ม​ที่​ประดับ​บน​ริมฝีปาก​ของ​นาง​

เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​เบื้องล่าง​ ไม่ว่า​ชาย​หรือ​หญิง​ต่าง​เฝ้ามอง​นาง​ด้วย​ความ​เคลิบเคลิ้ม​ลุ่มหลง​

สวี่​ชีอัน​ยอมรับ​ว่า​ จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ผู้​นี้​เป็นหนึ่ง​ใน​สตรี​ที่​ดึงดูดใจ​ที่สุด​เท่าที่​เขา​เคย​พบ​มา

ใน​ยุค​แห่ง​แม่มด​ทรง​เสน่ห์​ ความงาม​คือ​หายนะ​

“จักรพรรดินี​งดงาม​มาก​ จักรพรรดินี​ของ​ข้า​แล้ว​ยัง​เป็น​ป้า​ของ​ข้า​ด้วย​!”

ไป๋​จีพร่ำเพ้อ​ลุ่มหลง​งมงาย​

หู​สัตว์​ หาง​จิ้งจอก​ นาง​แม่มด​ชั่วร้าย​ ซิน​กู่​แน่ๆ​…สวี่​ชีอัน​ร้อนรุ่ม​ไป​ทั้งตัว​ ปรารถนา​จะเกี้ยวพาราสี​และ​เสพ​สม

นี่​เป็น​แรงกระตุ้น​ที่​เขา​ไม่เคย​มีเมื่อ​ครั้งแรก​เจอ​มู่หนาน​จือ​

วินาที​ต่อมา​ ก็​มีกระบี่​เหล็ก​เล่ม​หนึ่ง​พาด​คอ​เขา​ ปราณ​กระบี่​สูงปรี๊ด​ สวี่​ชีอัน​สะดุ้ง​เฮือก​ไป​ทั้งตัว​และ​ได้สติ​ทันที​

“ทอดตา​มอง​ทั่ว​จิ่ว​โจว​ ย่อม​ไม่มีใคร​เทียบ​นาง​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ได้​ในแง่​ของ​พลัง​เสน่ห์​”

ลั่วอวี้เหิง​เลีย​ริมฝีปาก​ ชม้าย​ดวงตา​งดงาม​ของ​นาง​มอง​ พ่น​ลมใส่​หู​เขา​แล้ว​กระซิบ​เสียง​แผ่วเบา​

“ถ้าสวี่​หลา​งชอบ​ ข้า​จะจับ​มัน​มาเป็น​นางบำเรอ​เอาไว้​คอย​ปรนนิบัติ​ท่าน​ทุกวัน​ ดี​หรือไม่​”

สวี่​ชีอัน​ที่​ถูก​ขโมย​ซีน​ไป​กะพริบตา​

เขา​หายใจเข้า​ลึก​ๆ สงบสติอารมณ์​ เมื่อ​รู้สึก​ว่า​มนตร์​เสน่ห์​ไม่มีผล​อะไร​กับ​ตัว​เขา​อีก​แล้วก็​หัวเราะ​ หึ​ หึ​ แล้ว​พูดว่า​

“ด้วย​มนต์​เสน่ห์​อัน​น่าสะพรึงกลัว​เช่นนี้​ ใคร​เล่า​จะกล้า​ต่อกร​กับ​นาง​ ข้า​เกรง​ว่า​เจ้าอาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​ใน​ตอนนั้น​ก็​เป็น​เหมือนกัน​ สำนัก​พุทธ​ก็ช่าง​เป็น​พระอิฐพระปูน​จริงๆ​ ไม่รู้จัก​สงสาร​และ​ทะนุถนอม​หยก​บ้าง​เลย​”

“เป็น​นางบำเรอ​รึ​ ลืม​เสียเถิด​ ชั่วชีวิต​นี้​ข้า​รัก​ท่าน​ราชครู​เพียงผู้เดียว​”

เขา​กลอกตา​ไปมา​อย่าง​ขัดใจ​และ​หัน​ไปหา​ลั่วอวี้เหิง​

“ตบะ​ของ​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​เป็น​เช่นไร​?”

ลั่วอวี้เหิง​มอง​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​ส่าย​หัว​

“ข้า​มองไม่เห็น​ แต่​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ก็​เฉก​เช่นเดียวกับ​จอม​ยุทธ์​ เน้น​ที่​กา​ยา​จิต​และ​พลัง​ต่อสู้​เป็นสำคัญ​ หาก​นางบำเรอ​ของ​เจ้ามีพลัง​ขั้น​หนึ่ง​อยู่แล้ว​ นาง​คง​ไม่จำเป็นต้อง​ขอให้​เจ้าช่วย​”

ขีดจำกัด​ล่าง​ใน​ระดับ​ขั้น​หนึ่ง​ของ​จอม​ยุทธ์​นั้น​สูงนัก​ ด้วยเหตุนี้​ อย่า​ทำให้​ข้า​ต้อง​ลงไม้​ลงมือ​ ไม่อย่างนั้น​อาจ​ตาย​ใน​กระบวน​ท่าเดียว​

สำหรับ​จอม​ยุทธ์​ขั้น​หนึ่ง​ของ​ระบบ​อื่น​ ไม่ว่า​ท่าน​จะเย่อหยิ่ง​โอหัง​ปานใด​ ท่าน​ก็​ยัง​เป็น​เพียง​จอม​ยุทธ์​ขั้น​หยาบ​

อย่าง​แรก​ย่อม​อยู่ยงคงกระพัน​ภายใต้​สภาวะ​ปกติ​

อย่าง​หลัง​แม้ไม่อาจ​เอาชนะ​ได้​ แต่​ก็​อยู่ยงคงกระพัน​เช่นกัน​

นั่น​คือ​หาก​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​เป็น​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ขั้น​หนึ่ง​ สำนัก​พุทธ​ย่อม​ต้อง​ส่งพระโพธิสัตว์​สัก​องค์​สอง​องค์​ออก​ไป​กำราบ​นาง​ ตอนนี้​หลิว​หลี​กำลัง​อยู่​ใน​ช่วง​พักฟื้น​ ส่วน​เจีย​หลัว​ซู่อยู่​ใน​อวิ๋น​โจว​ มีเพียง​กว่าง​เสีย​น​เท่านั้น​ที่​สามารถ​เคลื่อนไหว​ได้​

พูด​ได้​ว่า​ เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​มีความมั่นใจ​ว่า​จะเอาชนะ​ได้​และ​ไม่จำเป็นต้อง​ขอความช่วยเหลือ​จาก​สวี่​ชีอัน​

“ท่าน​ราชครู​ ระหว่าง​ท่าน​กับ​นาง​ใคร​แข็งแกร่ง​กว่า​?”

ลั่วอวี้เหิง​สางผม​ตรง​ขมับ​เขา​ พลาง​พูดจา​ยิ้มแย้ม​ “เหตุใด​เจ้าจึงถามเช่นนี้​”

เพราะ​มีเพียง​ฉลาม​เท่านั้น​ที่​สามารถ​ต่อสู้​กับ​ฉลาม​ได้​…สวี่​ชีอัน​พึมพำ​อยู่​ใน​ใจตัวเอง​

ขณะที่​พูด​ จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ก็​บิด​เอว​ โยกย้าย​ไปมา​อย่าง​สง่างามบน​ขั้นบันได​ดอกบัว​ จน​มาถึงยอด​หน้าผา​ท่ามกลาง​เสียง​กำไล​ข้อเท้า​ดัง​ ‘กรุ๊ง​กริ๊ง​’

สตรี​สวมหน้ากาก​ใน​ชุด​สีน้ำเงิน​ก้าว​ออก​ไป​ด้วย​ความเคารพ​

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ยืน​อยู่​บน​ยอด​ผา​ ฉากหลัง​เป็น​ค่ำคืน​มืดมิด​ พระจันทร์​สว่าง​ราวกับ​แผ่น​หยก​ขาว​ สายลม​พัด​ผม​สีเงิน​ยาว​สยาย​และ​ลูบไล้​หาง​จิ้งจอก​แสน​งามของ​นาง​

นาง​มอง​ลง​ไป​ยัง​เหล่า​ปีศาจ​ที่อยู่​เบื้องล่าง​ อ้าแขน​ออก​แล้ว​พูด​เสียงดัง​

“ลูกหลาน​ชาว​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​ทั้งหลาย​!”

“เมื่อ​ห้า​ร้อย​ปี​ที่แล้ว​ สำนัก​พุทธ​ได้​เข่นฆ่า​เผ่าพันธุ์​เรา​ ทำลาย​บ้านเกิด​ของ​เรา​และ​ขับไล่​พวกเรา​ออกจาก​บ้านเกิด​ของ​เรา​เอง​”

“ตลอด​ห้า​ร้อย​ปี​ที่ผ่านมา​เรา​ซัดเซพเนจร​หา​ที่หลบภัย​ หลบ​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​ภูเขา​หรือ​ตลาด​ร้านค้า​ ต้อง​อาศัย​อยู่​ร่วมกับ​เผ่าพันธุ์​มนุษย์​ ไม่กล้า​เปิดเผย​ตัวตน​ที่​แท้จริง​ของ​เรา​ไป​ชั่วขณะหนึ่ง​”

“ยังมี​สมาชิก​ใน​เผ่าพันธุ์​ของ​เรา​บางส่วน​ต้อง​ตกเป็น​ทาส​รับใช้​ใน​ยี่สิบ​เจ็ด​เมือง​ที่​สำนัก​พุทธ​สร้าง​ขึ้น​ และ​ถูก​ผู้​คนใน​ดินแดน​ประจิม​ทิศ​กดขี่ข่มเหง​มานาน​หลาย​ชั่วอายุคน​”

“เรา​ซัดเซพเนจร​มาห้า​ร้อย​ปี​ เรา​ได้​พเนจร​มาห้า​ร้อย​ปี​แล้ว​ วันนี้​ เรา​จะยึด​บ้านเกิดเมืองนอน​ของ​เรา​คืน​ ขับไล่​สำนัก​พุทธ​ออกจาก​บ้านเกิด​ของ​เรา​ และ​สร้าง​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​ขึ้น​มาใหม่​!”

เลือด​ของ​เหล่า​ปีศาจ​เดือด​พล่าน​ด้วย​ความ​ฮึกเหิม​ พวก​มัน​ตอบสนอง​ด้วย​เสียงร้อง​โหยหวน​

“เอา​บ้านเกิด​ของ​เรา​คืน​มา!”

“สร้าง​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​ขึ้น​มาใหม่​!”

เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​นับ​หมื่น​กู่​ร้อง​ด้วย​ความ​โกรธเกรี้ยว​ ความตื่นเต้น​ ความเกลียดชัง​และ​ตอนนี้​ต่าง​ก็​ตะโกน​ออกมา​พร้อมกัน​

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​โบกมือ​ลง​ แล้ว​เสียง​ที่​เหมือน​คลื่น​ยักษ์​ถล่มทลาย​ก็​พลัน​ยุติ​

ราชินี​หรือ​…สวี่​ชีอัน​เดาะ​ลิ้น​ใน​ใจตัวเอง​สอง​ครั้ง​ติด​ เพียงแค่​รายละเอียด​เล็กน้อย​ ก็​เห็น​ได้​ว่า​ใน​หัวใจ​เหล่า​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ทั้งหลาย​ จิ้งจอก​เก้า​หาง​มีสถานะ​โดดเด่น​ต่าง​จาก​ผู้อื่น​

เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​นั้น​ไร้​กฎ​ไร้​ระเบียบ​ไม่มีวินัย​เหมือน​อย่าง​ทหาร​เผ่าพันธุ์​มนุษย์​ อาจ​พูด​ได้​ว่า​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​เป็น​เหมือน​จอม​ยุทธ์​ตาม​แม่น้ำ​และ​ทะเลสาบ​ ที่​ทั้ง​เกเร​ดื้อรั้น​และ​รังเกียจ​ระเบียบวินัย​เป็น​ที่สุด​

“วันนี้​ข้า​ได้​เชื้อเชิญ​คน​ยิ่งใหญ่​ผู้มีชื่อเสียง​จาก​จิ่ว​โจว​มาร่วม​ต่อต้าน​สำนัก​พุทธ​ด้วยกัน​กับ​พวกเรา​”

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้​ เหล่า​ปีศาจ​ก็​กระซิบกระซาบ​พูดคุย​

“ใคร​ ใคร​คือ​คน​ยิ่งใหญ่​ที่​จักรพรรดินี​เชิญมา”

“ต้อง​เป็น​จู๋จิ่ว​แน่​ ใน​เหล่า​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ของ​เรา​ นอกจาก​จักรพรรดินี​กับ​ราชา​หมี​แล้ว​ ก็​มีเพียง​จู๋จิ่ว​คนเดียว​เท่านั้น​ที่อยู่​ขั้น​เหนือ​มนุษย์​”

“ตบะ​ของ​ใต้เท้า​จู๋จิ่ว​นั้น​ไร้​ผู้​เปรียบ​ ถ้าเขา​ให้​ความช่วยเหลือ​ พวกเรา​ก็​เหมือน​เสือ​ติดปีก​”

“ข้า​ไม่คิด​ว่า​จะเป็น​จู๋จิ่ว​ ข้า​ได้ยิน​ปีศาจ​น้อย​ที่​ปกป้อง​ภูเขา​สือ​ว่าน​บอ​กว่า​ เมื่อไม่นานมานี้​ฆ้อง​เงิน​สวี่​จาก​ราชวงศ์​ต้าฟ่ง​มาที่นี่​และ​เอา​ของ​ที่​ถูก​ปิดผนึก​มาคืน​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​”

“เชื่อถือได้​รึ​?”

พอ​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ได้ยิน​เรื่อง​นี้​ พวก​มัน​ก็​ตื่นเต้น​ทันที​

เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​กระจัดกระจาย​ไป​ทั่ว​ทุกที่​ บ้าง​ก็​เคย​ได้ยิน​ชื่อ​สวี่​ชีอัน​ บ้าง​ก็​ไม่เคย​ แต่​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​พวก​ที่​เคย​อาศัย​อยู่​ใน​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ย่อม​เข้าใจ​อย่าง​ลึกซึ้ง​ว่า​ใน​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​คำ​ว่า​ ‘ฆ้อง​เงิน​สวี่’​ หมายถึง​อะไร​

ปีศาจ​ที่​มีเขา​สอง​เขา​อยู่​บน​หัว​พูด​อย่าง​ตื่นเต้น​

“ถ้าเชิญเขา​มาก็​คง​ดี​ เขา​เป็น​เผ่าพันธุ์​มนุษย์​ที่​แข็งแกร่ง​กว่า​ราชา​หมี​”

“อะไร​นะ​? แข็งแกร่ง​กว่า​ราชา​หมี​ กิน​หญ้า​เลี้ยงสัตว์​มากเกินไป​หรือเปล่า​? เจ้าแกะ​โง่”

เหล่า​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ไม่อยาก​จะเชื่อ​

ราชา​หมี​เป็น​ปีศาจ​ผู้ยิ่งใหญ่​ที่​ก้าว​เข้าสู่​ขั้น​เหนือ​มนุษย์​เมื่อ​ห้า​ร้อย​ปี​ที่แล้ว​ แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​บรรดา​ปีศาจ​ตอน​ใต้​ เว้น​ไว้​แต่เพียง​องค์​จักรพรรดินี​

ใน​ใจเผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ทั่วไป​ พวกเขา​เป็น​เหมือน​เทพเจ้า​

ปีศาจ​แกะ​ตะคอก​ “หู​ย​ แล้ว​อย่างไร​ล่ะ​ คน​ก็​กิน​หญ้า​เหมือนกัน​ พวก​เจ้ากิน​เนื้อ​ก็​มีแต่​ขี้​แพะ​เต็ม​ท้อง​”

หลังจาก​โต้เถียง​กัน​ มัน​ก็​พูดว่า​

“ตอน​อยู่​ใน​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ ข้า​เคย​ได้ยิน​ชื่อ​เขา​มานับ​ครั้ง​ไม่ถ้วน​ เขา​เป็น​ทหาร​ที่​สังหาร​ได้​แม้กระทั่ง​จักรพรรดิ​ขั้น​สอง​ ไม่นาน​มานี้​ราชสำนัก​ถึงกับ​ออก​ประกาศ​ว่า​ สวี่​ชีอัน​ตัดหัว​วชิระ​ไป​ถึงสอง​องค์​ใน​เจี้ยน​โจว​”

“ข้า​ไม่รู้​ว่า​จริง​หรือไม่​ แต่​ปฏิเสธ​ไม่ได้​ว่า​เขา​ทรงพลัง​มาก​ นอกจากนี้​ข้า​ยัง​ไม่เคย​ได้ยิน​มาก่อน​ว่า​เขา​มีความสัมพันธ์​อะไร​กับ​เหล่า​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ของ​พวกเรา​ ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​เอง​ก็​กำลัง​วุ่นวาย​ เขา​จะเดินทาง​หลาย​พัน​ลี้​มายัง​ชายแดน​ตอน​ใต้​เพื่อ​ช่วย​พวกเรา​ได้​อย่างไร​”

“อย่า​คิด​เลย​ เจ้าหา​ตัว​ช่วย​แบบ​นั้น​ไม่ได้​หรอก​”

เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ที่​อาศัย​อยู่​ทาง​ชายแดน​ตอน​ใต้​ข้างๆ​ เขา​ส่าย​หัว​ “เท่าที่​ข้า​รู้​ เมื่อ​สิบ​วันก่อน​ฆ้อง​เงิน​สวี่​อยู่​ที่​ชายแดน​ตอน​ใต้​”

เหล่า​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ของ​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​นั้น​กระจัดกระจาย​ไป​ทั่วประเทศ​และ​ขอบข่าย​ใน​การรับรู้​ข่าวสาร​ก็​ห่างไกล​ยิ่งนัก​ เหล่า​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ใน​ชายแดน​ตอน​ใต้​ย่อม​ไม่รู้​เหตุการณ์​ใน​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​และ​เหล่า​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ก็​ย่อม​ไม่รับรู้​ถึงเรื่อง​ที่เกิด​ใน​ชายแดน​ตอน​ใต้​

แน่นอน​ ข้อผิดพลาด​ใน​เรื่อง​ข่าวสาร​ตาม​ที่กล่าวมา​นี้​ย่อม​ไม่เกิด​ขึ้นกับ​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ระดับสูง​เป็นแน่​

“การ​อภิปราย​ที่​คล้าย​กัน​นี้​เกิดขึ้น​ใน​วง​สนทนา​กลุ่มย่อย​เช่นกัน​

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​เงยหน้า​ขึ้น​เล็กน้อย​ด้วย​รอยยิ้ม​เปี่ยม​เสน่ห์​

“ฆ้อง​เงิน​สวี่​ ท่าน​ยัง​ไม่เข้ามา​อีก​หรือ​?”

เหล่า​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​กลุ่ม​นั้น​มอง​ย้อนกลับ​ไป​ด้วย​ความประหลาดใจ​ เงยหน้า​ขึ้น​ ไล่​สายตา​ตาม​การ​จ้องมอง​ของ​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ไป​ยัง​ท้องฟ้า​ยามค่ำคืน​เบื้องหลัง​พวก​มัน​

ถึงเวลา​ที่​ข้า​ต้อง​ปรากฏตัว​แล้ว​…สวี่​ชีอัน​สัมผัส​ได้​ถึงความสามารถ​ใน​ ‘วิชา​ดวง​ดารา​ผัน​เปลี่ยน​’ ของ​เทียน​กู่​จน​ต้อง​ ‘เปิดเผย​’ ตัวเอง​ต่อ​ผู้ชม​

ทุก​สายตา​จับจ้อง​มาที่​เขา​

สวี่​ชีอัน​ก้าว​ไป​ข้าง​หน้าหนึ่ง​ก้าว​ เหมือน​เดิน​ไป​บน​พื้นราบ​ เหยียบย่าง​ขึ้นไป​บน​ท้องฟ้า​เหนือ​เหล่า​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​และ​เดิน​ขึ้นไป​บน​หน้าผา​

ใน​แต่ละ​ช่วง​ก้าว​นั้น​ เคลือบ​สีทอง​ตรงกลาง​หว่าง​คิ้ว​ก็​สว่าง​ขึ้น​และ​หลังจาก​เดิน​ไป​เจ็ด​ก้าว​ เคลือบ​สีทอง​ก็​ปกคลุม​ทั่ว​ทั้ง​ร่าง​ สร้าง​ร่าง​วชิระ​ที่​แข็งแกร่ง​ดุจ​หยาง​

‘พรึ่บ​!’

จู่ๆ วงแหวน​เพลิง​ด้านหลัง​ศีรษะ​ของ​เขา​ก็​ลุกไหม้​ แผดเผา​ลุกโชติช่วง​

“เทพ​วชิระ​สำนัก​พุทธ​?!”

เหล่า​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​หน้าซีด​ด้วย​ความตกใจ​

“ใช่ ฆ้อง​เงิน​สวี่​ชีอัน​แห่ง​ราชวงศ์​ต้าฟ่ง​จริงๆ​ รึ​!”

แล้ว​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ที่​รู้เรื่อง​ของ​เขา​ก็​ร้อง​ตะโกน​ด้วย​ความตื่นเต้น​

ในเวลานี้​ เมื่อ​เหล่า​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ระดับ​ล่าง​เห็น​ผู้​แข็งแกร่ง​แห่ง​เผ่าพันธุ์​มนุษย์​อยู่​สูงขึ้นไป​ใน​ฟากฟ้า​ พวก​มัน​ก็​ยก​มือขึ้น​ทันที​และ​ใช้ฝ่ามือ​ดึง​วงแหวน​เพลิง​ด้านหลัง​ศีรษะ​ไป​ถือ​แอบ​ไว้​

แสงเจิดจ้า​แผดเผา​หาย​ไป​ทันที​ เหลือ​เพียง​ร่าง​สีทอง​ส่องสว่าง​

เขา​กำลังจะ​ทำ​อะไร​…ท่ามกลาง​ความ​สับสน​ของ​เหล่า​ปีศาจ​ สวี่​ชีอัน​เหวี่ยง​มือขวา​ของ​เขา​อย่าง​รุนแรง​ แล้ว​พ่น​เปลวไฟ​ใน​ฝ่ามือ​ของ​เขา​

“ตูม​!”

ทันใดนั้น​ไฟที่​ลุกโชน​ก็​ระเบิด​ขึ้น​และ​เปลวไฟ​ไหล​กระจาย​ไป​ใน​อากาศ​กลายเป็น​เสื้อคลุม​สง่างามที่​สร้าง​จาก​เปลวไฟ​

เปลวไฟ​กลายเป็น​เสื้อคลุม​

เสื้อคลุม​เปลวไฟ​อวด​โอ่​ทรงพลัง​เข้าคู่​กับ​ร่าง​เทพ​วชิระ​สีทอง​ ทำให้​สวี่​ชีอัน​ดูเหมือน​เทพ​เจ้าที่​สง่างามน่าเกรงขาม​เสด็จ​ลง​มายัง​พื้นโลก​

เหล่า​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​จ้องมอง​ด้วย​ความลุ่มหลง​งมงาย​ เหลือ​เพียง​ร่าง​สีทอง​เปล่งประกาย​เฉิดฉาย​นี้​เท่านั้น​ที่​สวม​เสื้อคลุม​เปลวไฟ​

ทำ​ให้สี​เดียว​ที่​ยังคง​ติดตา​พวก​มัน​อยู่​คือ​สีทอง​และ​สีแดง​

ข้า​ก็​มิได้​เสแสร้ง​ มัน​เป็น​ตบะ​ที่​ข้า​ควร​มีอยู่​ใน​ตอนนี้​…สวี่​ชีอัน​บอก​ตัวเอง​ใน​ใจและ​ในที่สุด​เขา​ก็​ก้าว​ขึ้นไป​บน​ยอด​ผา​ ยืน​อยู่​เคียงข้าง​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​

การ​ปรากฏตัว​ของ​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ใน​ตอนนี้​สร้าง​แรงบันดาลใจ​ให้​เขา​

ผู้​แข็งแกร่ง​เหนือ​มนุษย์​ย่อม​ต้อง​มีเอฟเฟกต์​พิเศษ​เป็น​ของ​ตัวเอง​เมื่อ​ปรากฏตัว​บน​เวที​ และ​จะดี​ยิ่งขึ้นไป​อีก​หาก​มี bgm (ดนตรี​พื้น​หลัง​) ประกอบ​

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​มอง​เขา​ด้วย​รอยยิ้ม​ แม้ว่า​สวี่​ชีอัน​จะไม่ได้​พูด​อะไร​ แต่​ดูเหมือน​สวี่​ชีอัน​จะเห็น​คำ​หก​คำ​ใน​ดวงตา​นาง​

เจ้าช่างมีสีสัน​จริงๆ​…

สวี่​ชีอัน​พยักหน้า​โดย​ไม่แสดง​ความรู้สึก​ สายตา​จับจ้อง​ไป​ยัง​ใบหน้า​งดงาม​ของ​นาง​ชั่วขณะหนึ่ง​ จากนั้น​จึงเหลือบมอง​ไป​ยัง​สตรี​ชุด​กระโปรง​สีน้ำเงิน​ที่อยู่​ข้าง​นาง​

บังเอิญ​ธิดา​จันทรา​ก็​แอบมอง​เขา​เช่นกัน​ เมื่อ​พวกเขา​สบตา​กัน​ นาง​ก็​ยิ้ม​ให้​อย่าง​สุภาพ​และ​หลบตา​เขา​

โอกาส​ไม่อำนวย​ สวี่​ชีอัน​จึงมิได้​ทักทาย​ธิดา​จันทรา​หรือ​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ หาก​แต่​หัน​กลับมา​มอง​เหล่า​ปีศาจ​เบื้องล่าง​แล้ว​พูด​เสียงดัง​

“เมื่อ​ห้า​ร้อย​ปี​ที่แล้ว​ ดินแดน​ประจิม​ทิศ​อาศัย​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​ตัวเอง​ อหังการ์​เข้ายึดครอง​อาณาเขต​ของ​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​ไว้​ และ​ตอนนี้​พวก​มัน​กำลังจะ​ยึดครอง​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ด้วย​ พวก​ที่​ใช้กำลัง​เบียดเบียน​ผู้อื่น​ย่อม​ต้อง​ถูก​บดขยี้​”

“ในนามของ​ราชวงศ์​ต้าฟ่ง​จาก​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ ข้า​ขอ​เป็น​พันธมิตร​กับ​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ​ จากนี้ไป​ เรา​จะสู้ด้วยกัน​ถอย​ด้วยกัน​เพื่อ​ต่อสู้​กับ​สำนัก​พุทธ​”

หยุด​ไป​ชั่วขณะ​แล้ว​แอบ​ระดม​พลัง​ของ​ซิน​กู่​และ​เปล่งเสียง​ออกมา​

“พี่น้อง​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ เรา​จะกล้ำกลืน​ฝืนทน​ต่อไป​ได้​รึ​?”

ทันใดนั้น​ ความโกรธ​ความเกลียด​ก็​ก่อตัว​ขึ้น​ใน​ใจพวกเขา​ ความเกลียดชัง​ที่​หยั่งราก​ลึก​ต่อ​สำนัก​พุทธ​ถูก​จุดประกาย​ขึ้น​ แม้แต่​ใน​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ที่​สงบเสงี่ยม​ที่สุด​ก็​ยัง​ระลึกถึง​ความอัปยศ​ที่​บ้านเกิดเมืองนอน​ของ​ตัวเอง​ล่มสลาย​ไป​เมื่อ​ห้า​ร้อย​ปี​ที่แล้ว​

“ไม่ได้​!”

เหล่า​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ร้อง​คำราม​บรรยากาศ​เบื้องล่าง​เดือด​พล่าน​ทันที​ เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ทุก​ตน​กัดฟัน​จน​เส้นเลือด​ของ​พวกเขา​แทบจะ​ระเบิด​ด้วย​ความโกรธ​

สวี่​ชีอัน​คำราม​ “เช่นนั้น​ก็​ฆ่ามัน​”

คลื่นเสียง​ด้านล่าง​พุ่งตรง​ขึ้น​สู่ท้องฟ้า​ทันที​ เหล่า​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​กำลัง​เดือดดาล​ ใน​ตอนนี้​กำลังภายใน​และ​จิตวิญญาณ​การต่อสู้​แข็งแกร่ง​ยิ่งกว่า​ตอนที่​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ ‘พูด​’ ถึงสามเท่า​

ไกล​ออก​ไป​ ไป๋​จีที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​ลั่วอวี้เหิงยก​อุ้งเท้า​ขวา​ขึ้น​ ตะโกน​ด้วย​เสียงร้อง​ของ​เด็กหญิง​ที่​ยัง​ไม่บรรลุนิติภาวะ​

“ฆ่ามัน​ ฆ่ามัน​”

ดู​ลุ่มหลง​งมงาย​ยิ่งนัก​

ใน​บรรยากาศ​เช่นนี้​ จิ้งจอก​สาว​ทั้ง​สี่ตน​ถือ​กล่อง​สอง​กล่อง​ไป​ข้าง​หลุม​ ไขกุญแจ​แล้ว​ถอย​ออก​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​

‘ตูม​!’

ฝากล่อง​กระเด็น​ไป​ไกล​ สอง​ขา​บิน​ออกจาก​กล่อง​ทางซ้าย​ส่วน​ลำตัว​บิน​ออกจาก​กล่อง​ทางขวา​ วิ่ง​เข้าไป​ใน​หลุม​ลึก​ทันที​

ในเวลาเดียวกัน​ เจดีย์​พุทธะ​ก็​ลอย​ขึ้น​จาก​แขน​สวี่​ชีอัน​ ประตู​เจดีย์​ชั้นแรก​เปิด​ออก​ ก่อนที่​แขน​สีดำ​สนิท​ก็​บิน​ออก​ไป​และ​ตกลง​ไป​ใน​หลุม​ขนาดใหญ่​

ก่อนที่จะ​มาถึงภูเขา​สือ​ว่าน​ สวี่​ชีอัน​ได้​สนทนา​อย่าง​ลึกซึ้ง​กับ​ภิกษุ​ชรา​ถ่าห​ลิง​ ด้วยเหตุนี้​มู่หนาน​จือ​จึงถูก​ไล่​ไป​อยู่​ชั้นสอง​

ไม่มีใคร​นอกจาก​คู่สนทนา​สอง​คน​ที่​รู้​ว่า​พวกเขา​พูด​อะไร​ ที่ไหน​และ​อย่างไร​

แต่​หลังจาก​การ​สนทนา​จบ​ลง​ เมื่อ​มู่หนาน​จือ​กลับ​ไป​ยัง​เจดีย์​พุทธะ​ชั้น​สาม นาง​ก็​เห็น​ว่า​ภิกษุ​ชรา​ถ่าห​ลิง​เงียบกริบ​ไม่พูด​อะไร​สัก​คำ​

ใน​หลุม​ขนาดใหญ่​ สัตว์​หลาย​หมื่น​ตัว​เหี่ยวแห้ง​อย่าง​รวดเร็ว​จน​กลายเป็น​ศพ​ตายซาก​

แสงสีเลือด​ลอย​ขึ้น​มาจาก​หลุม​ เห็นได้ชัด​เจน​ว่า​ท้องฟ้า​ยามค่ำคืน​กว่า​ครึ่ง​ถูก​ย้อม​ด้วย​แสงสีเลือด​ที่อยู่​ห่าง​ออก​ไป​หลาย​ลี้​จน​กลายเป็น​สีแดง​

ฐาน​ที่มั่น​อีก​แห่ง​ที่ซ่อน​อยู่​ใน​ถ้ำ

เย่​จีใน​ชุด​ผ้า​โปร่ง​สีดำ​ พูด​ปิดท้าย​ด้วย​อารมณ์​เร่าร้อน​ว่า​ ให้​เหล่า​ปีศาจ​ใน​ถ้ำระดม​จิตวิญญาณ​แห่ง​การต่อสู้​ให้​มากกว่า​นี้​

นาง​พยักหน้า​ด้วย​ความพึงพอใจ​และ​หันไป​มอง​ยักษ์​ที่อยู่​ข้างๆ​ นาง​

นี่​คือ​สัตว์ร้าย​กิน​เหล็ก​ขนาดใหญ่​ มีขน​สีขาว​ดำ​ มีขน​สีเข้ม​เฉพาะ​รอบ​ดวงตา​

มัน​สูงหนึ่ง​จั้ง รูปร่าง​ไม่โดดเด่น​เมื่อ​อยู่​ท่ามกลาง​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ แต่​เมื่อ​เทียบ​กับ​เย่​จีที่อยู่​ข้างๆ​ ก็​พอ​จะเรียก​มัน​ว่า​ยักษ์​ได้​

“ราชา​หมี​ เจ้ามีอะไร​จะพูด​หรือไม่​”

เย่​จีกระซิบ​

สัตว์ร้าย​กิน​เหล็ก​ทำ​เสียง​ “อาห์”​ สอง​ครั้ง​ ราวกับว่า​มัน​เพิ่ง​รู้สึกตัว​ตื่น​จาก​การ​งีบหลับ​ มัน​มอง​ไป​ยัง​เหล่า​ปีศาจ​และ​พูด​ช้าๆ

“สำนัก​พุทธ​เป็น​พวก​น่า​รัง​เกีย​จ…พวกเขา​ ฉกฉวย​เอา​อาณาเขต​ของ​เรา​ไป​…เรา​ เรา​ต้อง​กา​ร.​..”

เสียง​เบา​ลง​เรื่อยๆ​ ดวงตา​ค่อยๆ​ หรี่​ปิด​ลง​

เหล่า​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ที่​แต่เดิม​คึกคะนอง​ อยู่ดีๆ​ ก็​รู้สึก​ง่วง​ เปลือกตา​ของ​พวกเขา​หรุบ​ปิด​ลง​อย่าง​ไม่อาจ​ควบคุม​ได้​ พวก​มัน​แกว่งไปแกว่งมา​ราวกับว่า​พวก​มัน​จะเอนตัว​ลงนอน​และ​หลับ​ไป​ได้​ทุกเมื่อ​

“ราชา​หมี​ เจ้าต้อง​อดทน​ไว้​…” เย่​จีดึง​เข็ม​เหล็ก​ออก​มาจาก​แขน​เสื้อ​ของ​นาง​แล้ว​แทง​เข้าไป​ที่​เอว​ของ​สัตว์ร้าย​กิน​เหล็ก​อย่าง​ดุเดือด​

“แก้แค้น​!”

สัตว์ร้าย​กิน​เหล็ก​สั่นสะท้าน​และ​คำราม​ทันที​

“แก้แค้น​ แก้แค้น​!”

เหล่า​ปีศาจ​พวก​นั้น​หาย​ง่วง​เป็นปลิดทิ้ง​ พา​กัน​เปล่งเสียง​ดังสนั่น​ด้วย​ความลุ่มหลง​งมงาย​

ภายใต้​แสงจันทร์​ เขา​หมื่น​ปีศาจ​เปรียบเสมือน​ยักษ์​นอน​ราบ​ ภูเขา​ไม่สูงชัน​แต่​ทอด​ยาว​หลาย​ร้อย​ลี้​

เขา​หมื่น​ปีศาจ​เป็น​ทิวเขา​หลัก​ใน​ชายแดน​ตอน​ใต้​ที่​สวยงาม​ยิ่งนัก​ ตั้งแต่​สมัยโบราณ​ ปีศาจ​ที่​ยิ่งใหญ่​มัก​ถือกำเนิด​ขึ้น​ใน​ภูเขา​และ​ได้รับ​การ​เลี้ยงดู​ให้​เป็น​กลุ่ม​ผู้​ทรงพลัง​

แต่​ปัจจุบัน​เป็นที่ตั้ง​ของ​สำนัก​พุทธ​ หลังจาก​อพยพ​ผู้คน​จาก​ดินแดน​ประจิม​ทิศ​มากว่า​ห้า​ร้อย​ปี​ก็ได้​ก่อตั้ง​ประเทศ​ขึ้น​ที่นี่​…ซินเจียง​ตอน​ใต้​!

โดย​มีเมือง​ทางใต้​เป็น​ศูนย์กลาง​ แล้ว​แผ่รัศมี​กระจาย​ออก​ไป​ยี่สิบ​หก​เมือง​

บน​กำแพงเมือง​สูงตระหง่าน​ของ​เมือง​ทางใต้​ ทหารยาม​ใน​ชุด​เกราะ​กำลัง​เคี้ยว​ผลไม้​แห้ง​ที่​มีอยู่​มากมาย​ทาง​ชายแดน​ตอน​ใต้​เพื่อ​ใช้เติม​ความสดชื่น​เพิ่ม​ความ​กระปรี้กระเปร่า​ขณะ​พูด​กับ​เพื่อนร่วมงาน​ว่า​

“พวก​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​จะก่อ​กบฏ​จริง​หรือ​?”

ดินแดน​ประจิม​ทิศ​ส่งทหาร​หนึ่ง​แสน​นาย​ไป​เสริมกำลัง​กองกำลัง​ป้องกัน​ใน​ชายแดน​ตอน​ใต้​และ​ในขณะเดียวกัน​ก็​รวบ​รวมกำลัง​พล​จำนวนมาก​ ทั้ง​ยัง​ซื้อ​สมุนไพร​และ​ทำลาย​เส้นทาง​บน​ภูเขา​ยกเว้น​ถนน​ที่​เป็นทางการ​

รวบรวม​ผู้คน​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​ดินแดน​ประจิม​ทิศ​ ทั้ง​จาก​เมือง​บน​ภูเขา​ลูก​ต่างๆ​ มาเสริม​กำแพง​และ​สร้าง​พื้น​ที่รกร้างว่างเปล่า​เป็น​สนามรบ​

เพื่อนร่วมงาน​ยัง​เคี้ยว​ผลไม้​แห้ง​และ​ส่งเสียง​ดูถูก​เหยียดหยาม​ว่า​

“ข้า​ไม่รู้​ว่า​ปศุสัตว์​กลุ่ม​นี้​ไป​เอา​ความมั่นใจ​มาจาก​ไหน​ เมื่อ​ห้า​ร้อย​ปีก่อน​ ปีศาจ​ทักษิณ​ทรงพลัง​มาก​จน​กวาดล้าง​ดินแดน​ประจิม​ทิศ​ซะเหี้ยน​”

“อยู่​มาตั้ง​ห้า​ร้อย​ปี​แล้ว​ เพิ่ง​อยาก​ฟื้นฟู​ประเทศ​หรือ​?”

“แต่​ข้า​ได้ยิน​จาก​เจ้าหน้า​ที่ว่า​ ไม่ช้าก็เร็ว​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​จะก่อ​กบฏ​ ถ้าเรา​ดับ​เสียง​เรียกร้อง​นี้​ได้​ ก็​จะไม่มีพายุ​อีก​”

ยาม​คน​แรก​ส่งเสียง​ “เฮ้ เฮ้”

“อีก​ครึ่ง​ชั่วโมง​จะเข้าเวร​แล้ว​ ไป​เล่น​กัน​เถอะ​ เมื่อไม่นานมานี้​ ข้า​เจอ​นาง​ปีศาจ​หน้าตา​ดี​สอง​สามตัว​ใน​ ‘คอก​สัตว์​’ ทาง​ตะวันออก​ของ​เมือง​ พวก​มัน​ราคา​ถูก​ประลัย​เลย​”

เมื่อ​ยาม​ที่อยู่​ใกล้​ๆ ได้ยิน​ พวกเขา​ก็​หัวเราะ​ออกมา​พร้อมกัน​

“เช่นนั้น​ ยา​จิน​ชว​งสอง​สามเม็ด​” เพื่อนร่วมงาน​หัวเราะ​

ยาม​ถ่มน้ำลาย​รด​กาก​ผลไม้​แห้ง​ “บ๊ะ​” แล้ว​สบถ​ออกมา​ว่า​

“ถ้ามีครั้งไหน​ข้า​ไม่วาง​นาง​ปีศาจ​ลง​บน​เตียง​…”

ทันใดนั้น​เขา​ก็​เบิกตา​กว้าง​ ยก​มือขวา​ที่​สั่น​ระริก​ชี้ขึ้นไป​บน​ท้องฟ้า​

“แล้ว​นั่น​มัน​อะไร​!”

ณ ขอบฟ้า​อัน​ไกลโพ้น​ ‘เมฆดำ​’ ก้อน​ใหญ่​เคลื่อนตัว​เข้ามา​ใกล้​

……………………………………….

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท