ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) – ตอนที่ 20

ตอนที่ 20

หลังจากออกจากโรงน้ำชาที่พูดคุยกับตาแก่นั่น ในมือผมก็มีของเพิ่มมาสามสิ่ง

สองสิ่งในนั้นคือใบรับรองความเป็นพลเมืองและนักเวทอาณาจักรของจักรวรรดิเอส สองสิ่งนี้ถูกผมโยนไปไว้ในแหวนเก็บของทันที

ของแบบนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะต้องใช้ในจักรวรรดิเอส เวลาแบบนี้โยนไว้ในแหวนเก็บของจะดีซะกว่า

และสิ่งที่เหลือก็คือบันทึกเวทมนตร์ที่ได้มาจากจักรพรรดิ

ได้ยินว่านี่เป็นบันทึกที่เทพแห่งน้ำแข็งทิ้งเอาไว้ที่จักรวรรดิเอสเมื่อนานมาแล้ว ข้างในจดประสบการณ์เวทมนตร์ไว้มากมาย

แน่นอน ของแบบนั้นผมอ่านไปก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่มีประโยชน์จริงๆ คือบันทึกเวทมนตร์ที่เทพเจ้าองค์นั้นสร้างไว้

สำหรับจักรพรรดิของจักรวรรดิเอสแล้ว นี่ก็แค่คอลเลกชั่นทางประวัติศาสตร์เล็กน้อยเท่านั้น เมื่อกี้เขาหาในแหวนเก็บของอยู่นานถึงจะพบหนังสือเล่มนี้

เพราะผมบอกว่าผมจะไม่ยืมตำราที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์มาอ่าน ตาแก่นั่นเลยนำสิ่งสิ่งนี้ให้ผมอย่างเต็มใจ

“อ่านได้ตามสบาย ถ้าเจ้าชอบอ่านหนังสือ อยากอ่านเท่าไหร่ก็ไม่มีปัญหา”

นี่เป็นคำพูดของจักรพรรดิเอส เป็นไปได้ว่าเขาคงคิดว่ามูลค่าของหนังสือไม่ได้สำคัญเท่าเงินทองเหล่านั้น?

แต่สำหรับผมแล้ว หนังสือพวกนี้เป็นวิธีได้รับสกิลที่เร็วที่สุด ผมไม่หวังว่าจะมีคนบนถนนมาจับผมแล้วพูดว่า ‘หนุ่มน้อยข้าเห็นเจ้ามีคุณสมบัติไม่เลว ข้าจะฝึกสอนเจ้าเอง’ หรอก

แล้วก็ปัญหาเรื่องเงิน…คงหามาได้ไม่ยากถ้าพวกเราได้เรียนรู้สกิล น่าเสียดายที่มอนสเตอร์ในโลกนี้ตายแล้วไม่ดรอปเงิน ไม่งั้นผมคงวิ่งไปเก็บเงินข้างนอกแล้ว

ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ผมจะมีโอกาสได้ขายวัตถุที่ผมเก็บมาได้ตอนฝึกฝน แก่นของสัตว์อสูรก็ดูเหมือนจะดูดี บางทีคงขายได้เงินไม่น้อย

ถ้าขายให้ลาน่าคงถูกบดเป็นผงนำไปทำเป็นยา แล้วยัยนี่ก็ต้องแลกเปลี่ยนด้วยสินค้า คงเอายาฟื้นฟูสักสองสามขวดให้ผมแน่นอน สู้หาโอกาสอื่นขายจะดีกว่า

รอกลับไปถึงบ้านค่อยศึกษาบันทึกเล่มนั้นแล้วกัน…

ขณะคิดแบบนี้ ผมก็หยุดฝีเท้าที่ก้าวไปข้างหน้า

ผมหยุดฝีเท้าเพราะมองเห็นอะไรบางอย่างที่เลวร้าย…ถ้าผมจำไม่ผิด ไม่ห่างไปนั้นคือห้องพักของผม ทำไมตอนนี้ถึงมีคนแออัดขนาดนี้ล่ะ?

มีการติดต่อจากอาร์ย่า ต้องการรับหรือไม่?

ทันใดนั้น กล้องโต้ตอบก็เด้งออกมาจากทางด้านขวาของสายตา ผมเหม่อไปอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกดรับ

“เฮ้ๆ ได้ยินไหม?”

“…อืม”

“โอ้ๆๆ ดูเหมือนอุปกรณ์ติดต่อนี่จะมีประโยชน์มากเลย คล้ายกับโทรศัพท์เลย แบบนี้ก็สะดวกขึ้นไม่น้อยเลย!”

ฟังเสียงแล้วดูเหมือนอาร์ย่าจะตื่นเต้นมาก บางทีคงเบื่อไม่มีอะไรทำ ดังนั้นจึงเริ่มเล่นฟังก์ชันที่เปิดใหม่นี้

“สะดวกมากจริงๆ แต่เวลาที่สายเข้ามาดูเหมือนจะบังวิสัยทัศน์นิดหน่อย”

“จริงเหรอ? อ่า ไม่เป็นไร ใช่แล้ว ว่าจะบอกนายอยู่ ที่พักนายถูกคนขวางเบียดเสียดแน่นมาก ดูเหมือนคราวนี้จำนวนแฟนคลับนายจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลย”

“อย่าโวยวายสิ เธอคิดว่านี่คือเว่ยป๋อเหรอ? แฟนคลับเยอะยิ่งอันตราย กลายเป็นบุคคลสาธารณะก็ทำอะไรตามใจไม่ได้”

จะว่าไป ‘เวทเปลี่ยนสีผม’ เคยแจ้งเตือนว่ามันสามารถพัฒนาเป็น ‘เวทปลอมตัวได้’ ดูแล้วคราวหน้าคงต้องลองสักหน่อย ยังไงซะการเปลี่ยนหน้าออกไปข้างนอกคงสะดวกทีเดียว

“โธ่ อย่าพูดแบบนี้สิ แฟนคลับของนายจะเสียใจเอานะ”

“เอาเถอะ ไม่ว่าจะยังไง ดูเหมือนคืนนี้ไม่กลับห้องพักจะดีที่สุด ฉันไปอยู่ที่ห้องสมุดสักคืนแล้วกัน”

“เอ๋ นายทำแบบนี้จะไม่เป็นไรเหรอ? มะรืนนี้ก็ต้องแข่งแล้วนะ”

“ไม่มีปัญหา ขอแค่ไม่ได้ใช้กำลัง ค่าความเหนื่อยก็จะฟื้นฟู พรุ่งนี้ค่อยกลับไปอาบน้ำ น่าจะกลับมาเต็มได้”

“พูดแล้วก็ใช่ เอาล่ะ ฉันไปกินมื้อดึกละ”

“ระวังอ้วนแล้วความว่องไวลดนะ”

“ถ้านายพูดมากกว่านี้ฉันจะตะโกนบอกตำแหน่งของนายตอนนี้กับแฟนคลับนาย นายเชื่อไหมล่ะ?”

“ขอท่านจงรีบไปรับประทาน กินดื่มให้อร่อยเถอะ”

“ฮึ่ม!”

ตัดการสื่อสาร ผมจึงถอนหายใจอย่างจนปัญญา จากนั้นหมุนตัวเดินไปทางสถาบัน

ห้องสมุดในเวลาแบบนี้มีคนแค่ไม่กี่คน ผมแอบเข้าไปจากนั้นก็หาห้องว่างแล้วนั่งลง

ในห้องของที่นี่มีอุปกรณ์เทอร์มินัลที่คล้ายคลึงกับคอมพิวเตอร์ ขอแค่ใช้บัตรนักเรียนก็สามารถตรวจหาเนื้อหาข้างในได้

แต่ฟังก์ชันจำกัดเพียงการค้นหาข้อมูลทั่วไป สำหรับพวกเขาแล้ว ความบันเทิงจำพวกเกมก็ยังคงไม่ใช่ฟังก์ชันที่สิ่งนี้มีอยู่ดี

แต่ว่า คนที่พัฒนาเจ้าสิ่งนี้คงไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่นอน หวังว่าต่อไปคงไม่เห็นกลุ่มนักเรียนขโมยคอมพิวเตอร์เล่นเกมทุกวันนะ

ผมปิดประตูห้องแล้วเปิดบันทึกทันที

แม้ว่าคนของจักรวรรดิเอสจะไม่มีใครสามารถเข้าใจสกิลบนนี้ได้ แต่สำหรับผมแล้ว ขอแค่อ่านก็เรียนรู้ได้

กวาดตาอ่านคร่าวๆ รอบหนึ่ง อย่างที่คิดเลย บนกระดานแจ้งเตือนก็มีข้อความเด้งออกมาทันที

ต้องการเรียนรู้เวทมนตร์สายน้ำแข็งที่ผสมผสานรูปแบบดั้งเดิมหรือไม่

เขตแดนผลึกน้ำแข็งแห่งแสง

แดนแช่แข็งมืดมิดชั่วนิรันดร์

จันทราหิมะบุปผาน้ำแข็ง

ผมกดเรียนรู้อย่างรวดเร็ว แถบความคืบหน้าการอ่านจึงเริ่มทันที

เรียนรู้เขตแดนผลึกน้ำแข็งแห่งแสงเสร็จสิ้น

เรียนรู้แดนแช่แข็งมืดมิดชั่วนิรันดร์เสร็จสิ้น

เรียนรู้จันทราหิมะบุปผาน้ำแข็งล้มเหลว

แถบความคืบหน้าอ่านไปได้ครึ่งทางจู่ๆ ก็หยุดลง และด้านบนก็เด้งข้อความแบบนี้ออกมา

ผมตะลึงไปครู่หนึ่ง เปิดบันทึกอีกครั้ง กล่องโต้ตอบถามว่าเรียนรู้หรือไม่ก็เด้งออกมาอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้เหลือแค่เรียนรู้จันทราหิมะบุปผาน้ำแข็ง ดูเหมือนจะเรียนรู้อีกสองเวทสำเร็จแล้ว

นี่มันเรื่องอะไร? อ่านข้อมูลล้มเหลว? หรือว่าไม่สามารถเรียนรู้สกิลนี้ได้?

บางทีนี่คงเป็นบัคของตัวผมเองที่เรียนรู้ได้ทุกสกิล แต่ไม่สามารถเรียนรู้ได้ก็ไม่แจ้งอะไรเลยนี่ก็ดูไร้เหตุผลไปบ้าง

ผมกดยืนยันอีกครั้ง แถบความคืบหน้าก็เริ่มเคลื่อนอีกครั้ง

เรียนรู้จันทราหิมะบุปผาน้ำแข็งล้มเหลว

คราวนี้เมื่อแถบความคืบหน้าใกล้จะสิ้นสุดก็มีข้อความแบบนี้เด้งออกมาอีกครั้ง พระเจ้า ถึงคุณไม่ให้ผมเรียนรู้สำเร็จก็อธิบายสาเหตุที่ไม่สำเร็จหน่อยสิ เลเวลไม่พอหรือสกิลไม่สอดคล้องกันล่ะ?

คิดอยู่สักพัก ผมจึงเปิดบันทึก พลิกไปหน้าที่มีสกิลจันทราหิมะบุปผานี้อย่างเร่งรีบ

สกิลนี้ดูเหมือนจะสุดยอดมาก เปลี่ยนวัตถุธาตุน้ำแข็งของตัวเองให้กลายเป็นพื้นที่ช่วยโจมตีได้ มันสามารถโจมตีศัตรูโดยอัตโนมัติ และสามารถป้องกันโดยอัตโนมัติด้วย

ทำไมเจ้านี่ถึงเรียนไม่ได้ล่ะ?

จนกระทั่งผมพลิกไปหน้าสุดท้ายคำตอบจึงปรากฏขึ้น

‘สกิลนี้จำกัดให้เรียนรู้ได้เฉพาะเพศหญิง ถ้าเพศชายฝืนใช้งาน จะกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง ไม่ช่วยเหลือภายในหนึ่งชั่วโมงจะถึงแก่ความตาย’

เอาเถอะ แม้ว่าผมจะเปลี่ยนหน้าได้ก็คงเปลี่ยนเป็นผู้หญิงไม่ได้หรอก

ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?)

ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?)

Status: Ongoing

ผมตื่นขึ้นมาหน้าหมู่บ้านแปลกๆ แห่งหนึ่ง ผมลองคิดว่าก่อนหน้านี้ผมทำอะไรมาถึงมาอยู่ที่นี่ แต่ผมกลับนึกอะไรไม่ออก นอกจากชื่อของผม “หลิน ฟีล”

ผมเดินเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ กลับพบว่าทุกคนในหมู่บ้านมีชื่อและหลอด HP ลอยอยู่เหนือศีรษะ

เอ๊ะ…ทำไมมันเหมือนเกม RPG จัง หรือว่า…ผมจะหลุดเข้ามาในเกม RPG?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท