บทที่ 705 กู้แคว้น (2)

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

บทที่ 705 กู้แคว้น (2)

ราชันอสูรกับเสินซูไม่ใช่คนเดียวกัน…สวี่ชีอันลูบคาง มองพระอรหันต์ตู้เอ้อร์ ถามว่า

“เสินซูปรากฏตัวขึ้นเมื่อใด”

พระอรหันต์ตู้เอ้อร์หวนรำลึกชั่วครู่ พูดว่า

“ประมาณเจ็ดร้อยปีก่อน เดิมทีเขาเป็นจอมยุทธ์ภิกษุ พรสวรรค์แห่งยุค บำเพ็ญตบะกลายเป็นร่างธรรมเทพารักษ์ หลังจากนั้น เริ่มมุ่งมั่นบำเพ็ญแนวทางฉานซือ ปณิธานที่หวังไว้คือให้เผ่าพันธุ์ปีศาจชายแดนตอนใต้ถวายตัวเป็นศิษย์สำนักพุทธ

“ตั้งแต่นั้นออกจากอรัญตา หายสาบสูญไป หลังจากนั้น ก็คือสงครามกวาดล้างปีศาจ

“ยามนี้ดูเหมือนว่าตัวตนในอดีตของเขาเป็นของปลอม เขาคือราชันอสูร”

ไม่พูดถึงตัวตนของพระพุทธเจ้าชั่วคราว ราชันอสูรเป็นของปลอมหรือไม่ ร่างนี้มีโลหิตเทพอสูรไม่ผิดแน่

สวี่ชีอันวิเคราะห์ว่า

“พระพุทธเจ้าปราบราชันอสูร จากนั้นปราชญ์ขงจื๊อศักดิ์สิทธิ์ปิดผนึกพระพุทธเจ้า ประมาณสามร้อยปีต่อมา ปรากฏจอมยุทธ์ภิกษุท่านหนึ่ง ที่จริงจอมยุทธ์ภิกษุท่านนี้ก็คือราชันอสูร ปณิธานของเขาคือให้เผ่าพันธุ์ปีศาจชายแดนตอนใต้เข้าสู่สำนักพุทธ

“แต่ไม่รู้เหตุใด เผ่าพันธุ์ปีศาจไม่ถวายตัวเป็นศิษย์สำนักพุทธ แต่สู้กับสำนักพุทธจนบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ส่วนราชันอสูรก็ทอดทิ้งสำนักพุทธ จึงถูกพระพุทธเจ้าลงมือปิดผนึก ในวันนี้ห้าร้อยปีต่อมา ราชันอสูรพูดว่าเขาก็คือพระพุทธเจ้า

“ในนี้มีช่วงที่คลุมเครือเยอะเกินไป ทุกที่มีแต่ปัญหา แต่ถ้าโค่นล้มหนึ่งในข้อเท็จจริงที่พิสูจน์แล้วได้ สภาพการณ์ก็จะเปลี่ยนไป”

อาซูหลัวมองเขาแวบหนึ่ง

“ว่าอย่างไร”

สวี่ชีอันหันหลังมองอาซูหลัว

“เจ้าไม่เคยเจอราชันอสูร พวกเราก็ไม่เคยเจอราชันอสูร งั้นผู้ใดรับรองได้ว่าเสินซูจะต้องเป็นราชันอสูร”

คิ้วสีขาวของตู้เอ้อร์กระตุกอย่างแรง

อาซูหลัวมีสีหน้างงงวย

จิ้งจอกสวรรค์เก้าหางทำท่าเหมือนคิดอะไรอยู่

สวี่ชีอันพูดต่อ “ถ้าพระพุทธเจ้าทำเพื่อหลุดพ้นจากผนึก หลอมแก่นโลหิตของราชันอสูร สร้างร่างใหม่ จากนั้นบำเพ็ญตบะใหม่ ส่วนเรื่องปณิธาน เกรงว่าเป็นเพียงข้ออ้าง

“สิ่งที่พระพุทธเจ้าต้องการจริงๆ คือโชคชะตาของเผ่าพันธุ์ปีศาจชายแดนตอนใต้ นี่ช่วยเขาหลุดพ้นจากผนึกของปราชญ์ขงจื๊อศักดิ์สิทธิ์ได้”

เขาเพิ่งพูดจบ จิ้งจอกสวรรค์เก้าหางก็ส่ายหน้าปฏิเสธ

“สำนักพุทธบรรลุุเป้าหมายแล้ว ถ้าเป็นเหมือนที่เจ้าพูด งั้นเสินซูก็หวนคืนกลายเป็นพระพุทธเจ้าตั้งนานแล้ว”

สวี่ชีอันฉีกยิ้ม

“ถ้าพระพุทธเจ้าท่านนั้นในอรัญตาเป็นผู้อื่นล่ะ”

คำพูดง่ายๆ ประโยคเดียวทำให้ยอดฝีมือเหนือมนุษย์สามท่านขนลุกขนชัน ในใจประหวั่นพรั่นพรึง

ถ้าเป็นเช่นนี้ พฤติกรรมอ้างว่าเป็นพระพุทธเจ้าของเสินซู ก็มีคำอธิบายที่ดี

ในการกวาดล้างปีศาจหกสิบปี สิ่งที่พินาศไปพร้อมกับอาณาจักรหมื่นปีศาจก็คือพระพุทธเจ้าตัวจริง ส่วนท่านนั้นในอรัญตายามนี้ อยู่ได้ด้วยการแอบอ้างชื่อพระพุทธเจ้า

สวี่ชีอันพูดต่อ

“ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็อธิบายได้ว่าเหตุใดปณิธานของเสินซูคือสงเคราะห์ปีศาจตอนใต้ ผลลัพธ์กลับกลายเป็นการกวาดล้างปีศาจหกสิบปี นี่ไม่ใช่เจตนาเดิมของพระพุทธเจ้า แต่มีคนผลักดันอยู่เบื้องหลัง

“ยามนั้นเสินซูเป็นศัตรูกับสำนักพุทธ ก็เท่ากับต่อต้านท่านนั้น จะพิสูจน์การคาดคะเนนี้ ก็ต้องเข้าใจชนวนการกวาดล้างปีศาจหกสิบปี”

ทุกคนมองพระอรหันต์ตู้เอ้อร์ อีกฝ่ายส่ายหน้าเล็กน้อย

แม้แต่พระอรหันต์ขั้นสองยังไม่รู้ นี่เพิ่มความเป็นไปได้ในการคาดคะเนของสวี่ชีอันอย่างไม่ต้องสงสัย

“ความเป็นไปได้ที่สอง เสินซูกับพระพุทธเจ้าเป็นคนเดียวกัน เจ็ดร้อยกว่าปีก่อน ขั้นแรกพระพุทธเจ้าหลุดพ้นจากผนึก หลอมแก่นโลหิตราชันอสูร จึงมีเสินซู แต่การจัดการปัญหาปีศาจตอนใต้ พวกเขาเกิดความขัดแย้งกัน จึงนำไปสู่ผลลัพธ์ในยามนี้

“สุดท้ายพระพุทธเจ้าชนะ ยึดครองภูเขาสือว่านชายแดนตอนใต้ ในที่สุดก็หลุดพ้นจากผนึกของปราชญ์ขงจื๊อศักดิ์สิทธิ์ แต่การมีอยู่ของเสินซู ทำให้เขาต้องปิดผนึกด้วยตนเอง จึงเข้าสู่นิทรา”

สวี่ชีอันเล่าการคาดคะเนที่สอง

เขาไม่ได้คาดเดาเลื่อนลอย แต่กลั่นกรองออกมาทีละขั้นตามเบาะแสที่ได้รับในยามนี้

สวี่ชีอันถึงขนาดคิดว่าการคาดเดาที่สองมีความเป็นไปได้สูงกว่า เพราะแขนขาดในเจดีย์พุทธะเคยพูดว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนต่ำต้อยที่ทรยศหักหลัง

พระอรหันต์ตู้เอ้อร์ส่ายหน้าพูดว่า

“หนึ่งคนแบ่งเป็นสองคน สำนักพุทธไม่ใช่ลัทธิเต๋า ไม่มีพลังวิเศษด้านนี้ ระดับเต๋าที่ยิ่งใหญ่ทั้งสาม ร่างธรรมที่ยิ่งใหญ่ทั้งเก้า ล้วนทำเรื่องเช่นนี้ไม่ได้”

ถ้าเจ้าจะพูดเช่นนี้ ความจริงเบื้องหลังเรื่องนั้นก็ยิ่งซับซ้อนแล้ว…สวี่ชีอันพูดว่า

“จะพิสูจน์การคาดคะเนข้อสอง ง่ายมาก หลังจากที่พระอรหันต์ตู้เอ้อร์กลับอรัญตา ดูว่ารูปแกะสลักของปราชญ์ขงจื๊อศักดิ์สิทธิ์ยังอยู่หรือไม่ อืม หารูปแกะสลักของปราชญ์ขงจื๊อศักดิ์สิทธิ์สักหน่อย

“ถ้ารูปแกะสลักยังอยู่ งั้นการคาดคะเนข้อแรกก็ถูกต้อง รูปแกะสลักไม่อยู่ หรือหาไม่เจอ งั้นก็คือการคาดคะเนข้อสอง”

พระอรหันต์ตู้เอ้อร์กับอาซูหลัวมองหน้ากันแวบหนึ่ง พยักหน้าเล็กน้อย

ตบะของข้าในยามนี้ลดลงสู่ช่วงต้นขั้นสาม อาซูหลัวแข็งแกร่งกว่าข้าเล็กน้อย พระอรหันต์ตู้เอ้อร์ยังอยู่ระดับมาตรฐานขั้นสอง แต่องค์หญิงได้รับบาดเจ็บไม่มาก อีกทั้งยังมีราชาหมี โอกาสชนะทางฝ่ายพวกเรานี้สูงกว่าเล็กน้อย ส่วนเสินซูเห็นได้ชัดว่าปิดกั้นตนเองแล้ว…

ถ้าต่อสู้กัน น่าจะเจ็บหนักทั้งสองฝ่าย พินาศย่อยยับ…สวี่ชีอันพูดว่า

“เช่นนั้น อำลา?”

พระอรหันต์ตู้เอ้อร์กับอาซูหลัวมองหน้ากันอีกครั้ง คนแรกพยักหน้า

“อำลา!”

ดีมากๆ ความปรารถนาในการอยู่รอดของทุกคนไม่เลว บำเพ็ญตบะถึงขั้นเหนือมนุษย์ไม่ใช่เรื่องง่าย…สวี่ชีอันโล่งอก ขี่เจดีย์พุทธะหายไปกลางอากาศทันที

หางจิ้งจอกหลังเอวของจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางยืดออก ม้วนราชาหมีกับเสินซูไว้ เหยียบย่ำกลางอากาศ ไม่นานก็หายไป

ไม่นานหลังจากนั้น ปีศาจทหารของอาณาจักรหมื่นปีศาจก็เริ่มถอนทัพ กลับสู่ป่าลึกดึกดำบรรพ์

ถ้ำหินลับแห่งหนึ่ง

เย่จีอุ้มทารกหญิงผิวขาวน่ารักไว้ในอ้อมแขน ไป๋จียืนบนไหล่ สาวเท้าก้าวผ่านทางเดิน เข้าสู่ถ้ำหิน

ในถ้ำคบเพลิงลุกโชน ควันดำพวยพุ่งจากรอยแตกบนถ้ำ ในถ้ำยังมีสามทางเดิน นำไปสู่ที่ซึ่งลึกยิ่งกว่า

นี่คือหนึ่งในฐานที่มั่นหลายแห่งในชายแดนตอนใต้ของอาณาจักรหมื่นปีศาจ เรียกว่าเมืองเชียนคู

ถ้ำและทางเดินกระจายอยู่ทั่วทั้งภูเขา ราวกับใยแมงมุม

ข้างนอกมีแมลงพิษ สัตว์ร้าย อากาศพิษ และแม่น้ำลำธารแน่นขนัดเป็นสิ่งกำบัง ลึกลับยิ่งนัก ไม่เคยถูกค้นพบ

จะหาฐานที่มั่นลับของเผ่าพันธุ์ปีศาจในป่าบุพกาลที่มีอยู่ทั่วไปและภูเขาสือว่านที่มีแต่อันตราย แทบเป็นไปไม่ได้

ก้าวเข้าสู่ถ้ำ เย่จีเห็นองค์หญิงผู้งดงามสูงศักดิ์ นางนั่งขัดสมาธิบนที่นั่งหิน หลับตาปรับลมหายใจ

“องค์หญิง ท่านรีบช่วยชิงจี…”

เย่จีเงียบเสียงทันที เมื่อเดินเข้าไปใกล้ นางถึงพบว่ามีเด็กน้อยวัยห้าหกขวบนั่งขัดสมาธิบนเบาะฟางข้างเตียง

หางจิ้งจอกน้อยตรงสะโพกของจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางนั้นกระดิกโดยไม่รู้ตัว ลืมตา พูดเสียงเรียบ

“ไม่เป็นไร พรุ่งนี้นางจะหายดี”

ได้รับคำตอบจากองค์หญิง เย่จีถึงโล่งอก จากนั้นมองเด็กน้อยบ่อยครั้ง พูดหยั่งเชิงว่า

“สวี่หลาง?”

เด็กชายกะพริบตาอย่างใสซื่อบริสุทธิ์ หันหน้ามองจิ้งจอกเก้าหาง พูดว่า

“ท่านแม่ สตรีนางนี้คือผู้ใด”

จิ้งจอกสวรรค์เก้าหางยิ้มหวานพูดว่า

“ว่าที่เจ้าสาวที่แม่เตรียมไว้ให้เจ้า”

หางจิ้งจอกแปดหางพุ่งออกมาทันที ม้วนสวี่ชีอันขึ้นมา หางจิ้งจอกหนึ่งในนั้นฉวยโอกาสจะถอดเข็มขัดของสวี่ชีอัน

“องค์หญิง มีอะไรค่อยพูดค่อยจา”

สวี่ชีอันพูดอย่างจริงใจ

จิ้งจอกสวรรค์เก้าหางยังคงยิ้มแย้ม

“มีแม่เพิ่ม

“แม่ตีก้นลูก ถูกต้องตามหลักการ”

สุดท้ายก็ไม่ได้ถอดกางเกงของสวี่ชีอัน หางจิ้งจอกออกแรงตีก้นเขา

“สวี่หลาง เจ้าจะหายดีเมื่อใด”

เย่จีอุ้มทารกหญิง สาวเท้าเข้าใกล้ ตาจิ้งจอกหวานฉ่ำยั่วยวนแฝงด้วยความกังวล

“อีกสองวันจะหายดีเอง”

สวี่ชีอันถอนหายใจ “เจ้าให้เหล่าผู้พิทักษ์เผ่าพันธุ์ปีศาจเตรียมทหารปีศาจทุกเหล่าทัพ สามวันต่อมา ยึดเขาหมื่นปีศาจคืน”

เย่จีไม่ได้รั้งรอ อุ้มทารกหญิง เดินออกไปตามทางที่มา

สวี่ชีอันกวาดตามองเครื่องเรือนเรียบง่ายในถ้ำ พูดเสียงเบา

“องค์หญิงเคยวางแผนจะโจมตีอรัญตา แย่งศีรษะของเสินซูคืน ช่วยเขาคืนชีพโดยสมบูรณ์หรือไม่”

จิ้งจอกเก้าหางพูดเสียงเรียบ

“ไม่ว่าการคาดคะเนสองข้อของเจ้า ข้อใดถูก ข้อใดผิด ล้วนไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการของข้า เสินซูไม่อาจถอนตะปูตอกวิญญาณออกได้ชั่วคราว แม้จะลดทอนพลังต่อสู้ของเขา แต่ขั้นหนึ่งไม่ออกมา เขายังไร้คู่ต่อสู้”

“ถ้ากว่างเสียนมาด้วยร่างจริง พวกเรายังเดินหน้าตามแผนเดิม ถ้ามาเพียงร่างอวตาร มีตะปูตอกวิญญาณอยู่ เสินซูก็คงไม่คลุ้มคลั่งแล้ว” สวี่ชีอันพูด

พูดจบ เขาลุกขึ้นเดินไปข้างนอก

“เจ้าไปทำอะไร”

จิ้งจอกสวรรค์เก้าหางถาม

“เชิญฝูเซียงทานเห็ดเข็มทอง”

สวี่ชีอันไม่หันหน้ามาด้วยซ้ำ

สิบวันต่อมา

เย่จีกับชิงจีนั่งอยู่ที่เมืองเวิ่งในเมืองทางใต้ ปักษาอสูรแต่ละตัวบินขึ้นลงบนกำแพงเมือง ส่งจดหมายไปมา

‘ผู้อาวุโสทั้งสอง ยึดเมืองเฮยเฟิงทางตะวันตกได้แล้ว กำจัดทัพศัตรูดินแดนประจิมทิศสองหมื่นนาย จับเชลยศึกได้แปดร้อยนาย ชาวบ้านในเมืองหนึ่งแสนห้าหมื่นนาย ควรจัดการอย่างไร’

‘เชลยศึกให้เป็นทาส จัดการชาวบ้านในเมืองให้เหมาะสมเรียบร้อยก่อน รอสงครามสิ้นสุด ถ้าชาวบ้านในเมืองผู้ใดกล้าแอบก่อความวุ่นวายหรือต่อต้าน ฆ่าให้หมด’

‘ผู้อาวุโสทั้งสอง เมืองไป๋ปี้ทางเหนือถูกทัพดินแดนประจิมทิศยึดกลับไปอีกครั้ง ทหารปีศาจที่อยู่รักษาการณ์ในเมืองถูกฆ่าจนหมดสิ้น’

‘ปิดตายเส้นทางส่งกำลังบำรุงของเมืองไป๋ปี้ ล้อมไว้ไม่โจมตีชั่วคราว รอฆ้องเงินสวี่ว่างแล้วค่อยไปจัดการ’

‘ผู้อาวุโสทั้งสอง ขณะที่ราชาหมีโจมตีเมืองวั่วทางตะวันออก ก็เผลอหลับไป ชาวประจิมทิศหลายแสนคนในเมืองหลับสนิท ทัพเรายึดเมืองนี้ได้โดยไม่เสียทหารสักนาย แต่ไม่มีปีศาจกล้าเข้าเมือง’

‘ส่งข่าวให้องค์หญิง ให้นางตัดสินใจเถอะ’

หลังจากผ่านการสู้รบมายี่สิบวัน สุดท้ายกองทัพหลายแคว้นจากดินแดนประจิมทิศที่นำโดยพระโพธิสัตว์กว่างเสียน อาซูหลัวผู้สูงส่ง และพระอรหันต์ตู้เอ้อร์ก็ไม่อาจสยบเผ่าพันธุ์ปีศาจ ถอนทัพออกจากชายแดนตอนใต้ กลับสู่ดินแดนประจิมทิศ

เผ่าพันธุ์ปีศาจกวาดล้างทัพดินแดนประจิมทิศหนึ่งแสนแปดหมื่นนาย จับเชลยศึกได้สามหมื่นนาย ชาวบ้านหกแสนสองหมื่นคน

วันรุ่งขึ้นหลังจากที่ทหารอารักขาดินแดนประจิมทิศถอนทัพจากชายแดนตอนใต้ จิ้งจอกสวรรค์เก้าหางเรียกชุมนุมปีศาจที่เขาหมื่นปีศาจ ประกาศกู้แคว้น

เผ่าพันธุ์ปีศาจที่ร่อนเร่พเนจรห้าร้อยปี กลับสู่บ้านเกิดเมืองนอนอีกครั้ง

ในบันทึกประวัติศาสตร์ยุคหลัง เรียกวันนี้ว่า ‘ซินเจียงตอนใต้ฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรือง’

ในเรื่องนี้ จอมยุทธ์ที่ราบลุ่มภาคกลางผู้หนึ่งมีบทบาทสำคัญยิ่งนัก

……………………………………….

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท