บทที่ 734 เลื่อนสู่ขั้นสอง (1)

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

หลังจาก​ถอน​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ออก​ เลือด​และ​เนื้อที่​จุด​จวี้เชวี่ย​ก็​ดิ้น​พล่าน​กลับคืน​สู่สภาพเดิม​ กลิ่นอาย​ที่​เคย​ยับยั้ง​สวี่​ชีอัน​ไว้​ ก็​ไม่อาจ​ปลดปล่อย​พลัง​คุกคาม​ได้​อีกต่อไป​

ไฉซิ่งเอ๋อร์​ขยับตัว​ไม่ได้​ เหงื่อ​ไหล​โซมท่วม​กาย​ ได้​แต่​เผยอ​ปาก​สูด​ลมหายใจ​

นาง​เกือบ​สิ้นชีพ​อยู่​ตรงนั้น​ทันที​เพราะ​พลัง​คุกคาม​ที่​ปลดปล่อย​ออกจาก​ผู้​แข็งแกร่ง​วิถี​แห่ง​ความ​รู้แจ้ง​ขั้น​สาม

สภาพร่างกาย​ไม่เคย​ดี​ขนาด​นี้​มาก่อน​ ข้า​คง​ร่วมมือ​กับ​อา​ซูหลัว​ได้​อี​กรอบ​…สวี่​ชีอัน​เหลือบมอง​หมายเลข​แปด​ที่​เหนื่อยล้า​อย่างยิ่ง​ หยิบ​ขวด​ลายคราม​จากอก​เสื้อ​แล้ว​ขว้าง​มัน​ไป​

“ขอบคุณ​ที่​ให้​ยาอายุวัฒนะ​เติม​ปราณ​โลหิต​ให้​ข้า​”

อา​ซูหลัว​หยิบ​ขวด​ลายคราม​ ดึง​จุก​ออก​เสียงดัง​ ‘เป๊าะ​’ แล้ว​กลืน​ยา​ทั้งหมด​ใน​นั้น​เข้า​ปาก​ พลาง​พูดว่า​

“แม้เจ้าจะสามารถ​ฟื้นฟู​ตบะ​จน​ไป​ถึงวิถี​แห่ง​ความ​รู้แจ้ง​ขั้น​สามแล้ว​ แต่​ก็​เป็น​เพียง​หยดน้ำ​ใน​ถังใหญ่​ เจ้าก็​ไม่อาจ​ต่อกร​กับ​เจีย​หลัว​ซู่ได้​”

“เจีย​หลัว​ซู่มีหน้าที่​ดูแล​ ‘ร่าง​ธรรม​พระโพธิสัตว์​มัญชุศรี​’ กับ​ ‘ร่าง​ธรรม​วชิระ​’ แม้แต่​ท่าน​โหราจารย์​ก็​ยัง​ทำ​อะไร​เขา​ไม่ได้​ นอกจาก​สวี่​ผิง​เฟิง เฮย​เหลียน​กับ​ไป๋​ตี้​แล้ว​ ข้า​ก็​ได้ยิน​ว่า​ยังมี​จีเสวียน​อีก​คน​ คน​รุ่นเยาว์​ผู้​นี้​ก็​เลื่อน​ระดับ​เป็น​ขั้น​สามด้วย​เช่นกัน​”

เขา​กำลัง​ดู​ไพ่​ใน​มือ​ข้า​เพื่อ​ดู​ว่า​คุ้มค่า​พอ​จะลงทุน​กับ​ข้า​หรือไม่​…สวี่​ชีอัน​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ก็​ตัดสินใจ​เผย​ไพ่ตาย​ส่วนหนึ่ง​ของ​เขา​ออกมา​

“ข้า​สามารถ​เลื่อน​ระดับ​เป็น​ขั้น​สอง​ได้​ใน​ช่วง​อัน​สั้น​ ส่วน​ลั่วอวี้เหิง​ผู้นำ​ลัทธิ​เต๋า​ก็​ใช้เวลา​ไม่นาน​หลุดพ้น​จาก​บ่วง​กรรม​และ​ก้าว​เข้าสู่​ระดับ​เซียน​ครอง​พิภพ​ขั้น​หนึ่ง​”

“นอกจากนี้​ โค่ว​หยาง​โจว​ที่​เป็น​อาจารย์​เฒ่าของ​กลุ่ม​พันธมิตร​จอม​ยุทธ์​ก็​อยู่​ขั้น​สอง​”

เขา​เชื่อ​ว่า​อา​ซูหลัว​เป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​อันดับ​ต้น​ๆ ที่​สามารถ​ดึง​เข้ามา​เป็น​พันธมิตร​ได้​ซึ่งเท่ากับ​สอง​บวก​สามบวก​สอง​ หาก​สามารถ​ดึงดูด​เขา​เข้าสู่​ค่าย​ต้าฟ่ง​สำเร็จ​ ก็​ไม่ต้องสงสัย​เลย​ว่า​นี่​จะชดเชย​จุดอ่อน​เรื่อง​การ​ขาดแคลน​ผู้​แข็งแกร่ง​เหนือ​มนุษย์​ได้​มาก​

อา​ซูหลัว​พยักหน้า​ สีหน้า​เขา​ผ่อนคลาย​ลง​เล็กน้อย​

“ข้า​ร่วมมือ​กับ​เจ้า ก็​เท่ากับ​เพิ่ม​จอม​ยุทธ์​ขั้น​สอง​เข้ามา​อีก​คน​ แค่นี้​ก็​เพียง​พอแล้ว​ที่จะ​ต่อสู้​กับ​ไป๋​ตี้​หรือ​เจีย​หลัว​ซู่คนใด​ก็ได้​สัก​คน​ ส่วน​ลั่วอวี้เหิง​ก็​รับมือ​กับ​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​หนึ่ง​ได้​ แม้แต่​อวิ๋น​โจว​ก็​ยังมี​เฮย​เหลียน​ที่อยู่​ขั้น​สอง​ สวี่​ผิง​เฟิงที่อยู่​จุดสูงสุด​ขั้น​สอง​กับ​จีเสวียน​จอม​ยุทธ์​ขั้น​สามอยู่​ด้วย​”

สวี่​ชีอัน​นึก​ทบทวน​แล้ว​พูดว่า​

“นักบวช​เต๋า​จิน​เหลียน​อยู่​ขั้น​สาม สำนัก​โหราจารย์​ก็​มีซุน​เสวียน​จีอยู่​อีก​คน​ ส่วน​เจ้าสำนัก​ศึกษา​สำนัก​อวิ๋น​ลู่​ที่อยู่​จุดสูงสุด​ขั้น​สาม ข้า​ก็​จะลาก​เขา​มา…”

อา​ซูหลัว​ส่าย​หัว​เล็กน้อย​

“แค่นั้น​ยัง​ไม่พอ​ เว้นแต่​เจ้าจะหา​พันธมิตร​ขั้น​สอง​มาเพิ่ม​ได้​ หรือ​หา​จุดอ่อน​ใน​การ​สู้รบ​ได้​”

อวิ๋น​โจว​มีเฮย​เหลียน​ขั้น​สอง​ สวี่​ผิง​เฟิงขั้น​สอง​ จีเสวียน​ขั้น​สาม

ต้าฟ่ง​ก็​มีจ้าว​โส่ว​ขั้น​สาม ซุน​เสวียน​จีขั้น​สามกับ​นักบวช​เต๋า​จิน​เหลียน​ขั้น​สาม

ช่างน้อย​นิด​จริงๆ​

ใน​ตอนนี้​ก็​ขึ้นอยู่กับ​ระดับ​ของ​ผู้​เดินหมาก​แล้ว​…สวี่​ชีอัน​พึมพำ​

“นี่​เป็นเรื่อง​ที่​ข้า​ต้อง​กังวล​ ไม่ใช่เรื่อง​ที่​เจ้าต้อง​กังวล​”

ไม่ว่า​อย่างไร​ ก็​กระจ่างแจ้ง​แล้ว​ว่า​ โดยรวม​สำนัก​นี้​อ่อนแอ​ แต่​ยังมี​ที่ว่าง​ให้​จัดการ​ได้​อยู่​ ไม่เหมือน​คืน​ก่อนที่​มีแต่​ความสิ้นหวัง​ไร้​พลัง​จะต่อสู้​

อา​ซูหลัว​ครุ่นคิด​เรื่อง​นี้​แล้ว​พูดว่า​ “ข้า​มีข้อเสนอแนะ​”

พอ​สวี่​ชีอัน​พยักหน้า​ตกลง​เขา​ก็​พูดว่า​ “พระอรหันต์​ตู้​เอ้อร์​พยายาม​จะเอาชนะคะคาน​ทุกคน​ เขา​มีความเห็น​ไม่ลงรอย​กับ​พระโพธิสัตว์​กว่าง​เสีย​น​เรื่อง​พระพุทธเจ้า​ ตู้​เอ้อร์​เอง​ก็​เป็น​พวก​ลุ่มหลง​งมงาย​ใน​ศาสนาพุทธ​นิกาย​มหายาน​ ทั้ง​ยัง​เป็น​ผู้ก่อตั้ง​ศาสนาพุทธ​นิกาย​มหายาน​ขึ้น​มา”

“ลอง​ใช้ประโยชน์​จาก​ความ​โปรดปราน​นี้​ดู​สิ”

สวี่​ชีอัน​ส่าย​หัว​ทันที​

“ยัง​ไม่ถึงเวลา​ พระอรหันต์​ตู้​เอ้อร์​ยังมี​ความคาดหวัง​ใน​พระพุทธเจ้า​กับ​สำนัก​พุทธ​อยู่​ โอกาส​จะยุยง​เขา​ใน​ตอนนี้​มีไม่มาก​นัก​”

อา​ซูหลัว​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​และ​น้อม​รับ​ความคิดเห็น​ของ​เขา​

“จริง​ด้วย​”

สวี่​ชีอัน​พูด​ต่อ​

“ข้า​ยังมี​ไพ่ตาย​ที่​ท่าน​โหราจารย์​ทิ้ง​ไว้​ให้​ เมื่อ​เจรจา​หย่าศึก​เสร็จสิ้น​ ข้า​จะไปดู​ด้วยตัวเอง​”

เรื่อง​แรก​ที่​เขา​ต้อง​ทำ​เมื่อ​กลับ​มาถึงสำนัก​โหราจารย์​คือ​ ถามซ่งชิงว่า​ท่าน​โหราจารย์​ทิ้ง​อะไร​ไว้​ให้​

ซ่งชิงนึกถึง​เรื่อง​นี้​ ใน​ตอนนี้​ เขา​รู้​เพียง​ว่า​ท่าน​โหราจารย์​ได้​มอบอาวุธ​เวทมนตร์​ที่​เรียก​ว่า​ค้อน​ก่อกวน​ชะตากรรม​ให้​จงหลี​

สวี่​ชีอัน​คิด​ว่า​นั่น​เป็น​สิ่งที่​ท่าน​โหราจารย์​ทิ้ง​ไว้​ให้​เขา​ เขา​รอ​แทบ​ไม่ไหว​อยาก​ไปหา​จงหลี​ เพื่อ​ขอ​ดู​อาวุธ​เวทมนตร์​ชิ้น​นั้น​

ค้อน​ก่อกวน​ชะตากรรม​สามารถ​เปลี่ยน​ชะตากรรม​ของ​คน​ได้​ จงหลี​บอ​กว่า​ ท่าน​โหราจารย์​ทิ้ง​ของ​สิ่งนี้​ให้​นาง​เอาไว้​ใช้กับ​สวี่​ชีอัน​โดยเฉพาะ​

สวี่​ชีอัน​พูดว่า​ “ใช้มาเลย​ อย่า​ลืม​สงสาร​ข้า​ด้วย​!”

จงหลี​เอา​ค้อน​ทุบ​หัว​เขา​ เปลี่ยน​ชะตากรรม​ของ​สวี่​ชีอัน​ให้​กลายเป็น​ ‘หญิง​’ คน​ยาก​ที่​ตกเป็น​เหยื่อ​การค้าประเวณี​ โสเภณีสีขาว​แซ่สวี่​ถอดเสื้อผ้า​ออก​ทันที​ จับมือ​จงหลี​ไว้​แล้ว​พูดว่า​

“นาย​ท่าน​ บ่าว​รอ​รับใช้​ท่าน​อยู่​”

จงหลี​ตกใจ​กับ​ผลกระทบ​ที่​เกิดขึ้น​ ค้อน​เปลี่ยน​ชะตากรรม​เขา​เป็น​ผู้ซื้อ​เซาปิ่ง​ไป​เสียแล้ว​

สวี่​ชีอัน​คุกเข่า​ลง​บน​พื้น​เรียก​ตัวเอง​ว่า​ต้า​หลา​ง ออกท่าออกทาง​เสนอ​สินค้า​ส่วน​ปาก​ก็​พูดว่า​

“นาย​หญิง​ ท่าน​ไป​รอ​ที่​บ้าน​ ข้า​จะไป​ขาย​เซาปิ่ง​ให้​”

จงหลี​ใช้ค้อน​ทุบ​เขา​อีกครั้ง​ ทำให้​เขา​กลายเป็น​ปัญญาชน​ สวี่​ชีอัน​ท่อง​คัมภีร์​สามอักษร​อยู่​เงียบๆ​ ครึ่ง​ชั่วโมง​ จากนั้น​ก็​กลับคืน​สู่สภาพ​ปกติ​

หลังจาก​การทดลอง​ทั้งหมด​ทั้งมวล​ เรื่อง​หนึ่ง​ที่​รู้​คือ​ค้อน​ก่อกวน​ชะตากรรม​จะส่งผล​ต่อ​สวี่​ชีอัน​เพียง​ครึ่ง​ชั่วโมง​เท่านั้น​

ถ้าคนธรรมดา​โดน​ค้อน​นี้​ ชะตากรรม​ของ​พวกเขา​จะเป็น​เช่นนั้น​ถาวร​เว้นแต่​พวกเขา​จะโดน​ทุบ​อีกครั้ง​

ซ่งชิงผู้​เป็น​สักขีพยาน​ใน​ทุก​เรื่องราว​ที่​เกิดขึ้น​ตอนนั้น​ แสดงความคิดเห็น​ว่า​

“อาจารย์​ได้​ให้​ค้อน​ก่อกวน​ชะตากรรม​นี้​แก่​จงหลี​ แม้จะไม่ได้​ให้​กับ​มือ​ตัวเอง​ก็​เถอะ​ ใน​ตอนนี้​พวกเรา​ก็​ยัง​ไม่เข้าใจ​จุดประสงค์​ที่​ท่าน​โหราจารย์​ทิ้ง​ค้อน​ก่อกวน​ชะตากรรม​นี้​ไว้​ให้​”

แม้ซ่งชิงจะพูด​อะไร​ไร้สาระ​ แต่​สถานการณ์​ก็​เป็น​ประมาณ​นี้​

ต่อไป​ก็​จะได้​เลื่อน​ระดับ​เป็น​ขั้น​สอง​แล้ว​…สวี่​ชีอัน​รีบ​พูดว่า​

“หมายเลข​แปด​ ข้า​จะพา​เจ้าออกจาก​หอคอย​ก่อน​ หาก​มีอะไร​ต้อง​ให้​เจ้าทำ​ ข้า​จะติดต่อ​หา​เจ้า”

อา​ซูหลัว​พยักหน้า​เล็กน้อย​ มอง​เขา​อย่าง​สงบ​ แล้ว​พูดว่า​

“จู่ๆ เจ้าก็​หมด​ความอดทน​”

ต้อง​จัด​ดอกไม้​ให้​สัก​ช่อ​แล้ว​…สวี่​ชีอัน​ส่งรอยยิ้ม​ที่​สุภาพ​และ​เหมาะสม​กลับมา​ให้​

“ถึงอย่างนั้น​ เจ้าจะบอก​สมาชิก​พรรค​ฟ้าดิน​เรื่อง​ตัวตน​ของ​เจ้าได้​งั้น​หรือ​?” สวี่​ชีอัน​ถามด้วย​ความ​ไม่แน่ใจ​

อา​ซูหลัว​ออกเสียง​ ‘เฮอะ​’ เบา​ๆ

“ข้า​จะประกาศ​ตอนที่​เรา​เจอกัน​ ถ้าบอกทาง​เศษชิ้นส่วน​หนังสือ​ปฐพี​ เรา​ก็​จะมองไม่เห็น​รูปลักษณ์​น่าขัน​ของ​คน​พวก​นั้น​”

สวี่​ชีอัน​ตะลึง​ไป​ชั่วขณะ​ จากนั้น​ก็​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​สมาชิก​พรรค​ฟ้าดิน​ต่าง​ก็​นินทา​ครอบครัว​อา​ซูหลัว​จาก​ทั่ว​ทุก​มุมประเทศ​

อา​ นี่​เป็น​ข้อเสนอ​ที่​น่าตื่นเต้น​จริงๆ​…สวี่​ชีอัน​โดน​อา​ซูหลัว​ตกไป​แล้ว​

ถ้าพวกเขา​รู้​ว่า​หมายเลข​แปด​คือ​อา​ซูหลัว​ ไม่รู้​ว่า​พวกเขา​จะมีสีหน้า​แบบ​ใด​

ทั้งสอง​คน​ออกจาก​เจดีย์​พุทธะ​ทันที​และ​แยกทาง​กัน​ใน​คืน​ที่​มืด​และ​หนาวเย็น​ แล้ว​อา​ซูหลัว​ก็​หาย​ไป​กับ​สายลม​

ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​ไม่ได้​พนมมือ​ท่อง​พุทธะ​ พุทธะ​เลย​…เมื่อ​มอง​ตามหลัง​อา​ซูหลัว​ที่​หาย​ไป​ใน​ยามค่ำคืน​ สวี่​ชีอัน​ก็​นึกถึง​ขั้นตอน​ทั้งหมด​และ​สังเกตเห็น​รายละเอียด​นี้​

“ใน​พายุ​ลูก​นี้​ ปลา​ตัว​ใหญ่​ที่สุด​สอง​ตัว​ใน​พรรค​ฟ้าดิน​ถูก​พัดพา​ออก​ไป​”

แน่นอน​ว่า​ปลา​อีก​ตัว​ที่​เหลือ​คือ​ฮว๋าย​ชิ่ง

ย้อนกลับ​ไป​ใน​ตอนนั้น​เมื่อ​เขา​ไป​ที่​แม่น้ำ​และ​ทะเลสาบ​เพื่อ​รวบรวม​ปราณ​มังกร​ ซุน​เสวียน​จีเคย​บอก​ไว้​ว่า​ นานๆ ครั้ง​จะพบ​ผู้​ถูก​ปราณ​มังกร​อาศัย​อยู่​กระจัดกระจาย​และ​ผู้​ถูก​ปราณ​มังกร​อาศัย​สำคัญ​ทั้ง​เก้า​คน​ก็​หาย​ไป​อย่าง​ไร้​ร่องรอย​

ในเวลานั้น​ สวี่​ชีอัน​คาดการณ์​ว่า​มีขุม​พลัง​บุคคลที่สาม​กำลัง​รวบรวม​ปราณ​มังกร​อยู่​

ตอนนี้​เขา​รู้​แล้ว​ว่า​บุคคลที่สาม​คือ​องค์​หญิง​ใหญ่​

นาง​เป็น​ผู้สืบทอด​เครือข่าย​มืด​ของ​เว่ยกง​ มีความสามารถ​ใน​การตรวจจับ​เหตุการณ์​ผิดปกติ​รอบตัว​

“เดี๋ยวก่อน​ แม้จะมีเศษชิ้นส่วน​หนังสือ​ปฐพี​อยู่​ แต่​ถ้าไม่มีท่าน​โหราจารย์​คอย​จัดการ​แก้ไข​ นาง​ก็​ไม่สามารถ​ใช้หนังสือ​ปฐพี​ดึง​ปราณ​มังกร​ออกมา​ได้​… อา​ ท่าน​โหราจารย์​ ตา​เฒ่าเหรียญ​ปาก​ผี​……”

“เรื่อง​นี้​ก็​น่าสนใจ​ ท่าน​โหราจารย์​กำลัง​ช่วย​ฮว๋าย​ชิ่งรวบรวม​ปราณ​มังกร​อยู่​ เขา​ต้องการ​ทำ​อะไร​? เขา​ได้​เดิมพัน​อะไร​ไป​กับ​ฮว๋าย​ชิ่งรึ​?”

สวี่​ชีอัน​ยิ้ม​แล้ว​ผสาน​ตัว​เข้ากับ​เงามืด​ กลายเป็น​ปลา​ว่ายน้ำ​กลับ​ไป​ยัง​เมืองหลวง​

ยามดึก​ คฤหาสน์​ฮว๋าย​ชิ่ง

องค์​หญิง​ใหญ่​นั่ง​ที่​โต๊ะ​ แสงไฟข้าง​โต๊ะ​เผย​ให้​เห็น​รายงาน​ลับ​ใน​มือ​นาง​

มัน​แจ้งว่า​ หยาง​เยี่ยน​ หัวหน้า​ผู้บัญชาการ​แห่ง​เจี้ยน​โจว​ ได้​ลอบ​เดินทาง​กลับ​เมืองหลวง​พร้อมกับ​ทหาร​ชั้นยอด​สามร้อย​นาย​

“ใน​บรรดา​ฆ้อง​ทองคำ​ที่​เว่ยกง​ทิ้ง​ไว้​ มีเพียง​หยาง​เยี่ยน​เท่านั้น​ที่​เต็มใจ​สนับสนุน​ข้า​โดย​ไม่ลังเล​”

ฮว๋าย​ชิ่งถอนหายใจ​

นาง​นำ​รายงาน​ลับ​จ่อ​เทียน​ เผา​ไฟแล้ว​เฝ้าดู​มัน​มอดไหม้​เป็น​เถ้าถ่าน​ จากนั้น​ก็​โยน​ลง​โถล้าง​พู่กัน​ลายคราม​

“ฆ้อง​ทองคำ​ที่​เหลืออยู่​ คง​มีเพียง​เขา​เท่านั้น​ที่​กล้า​ออกหน้า​ เขา​เต็มใจ​ร่วม​ก่อการ​หัวขาด​เช่นนี้​กับ​ข้า​แน่​แล้ว​” ฮว๋าย​ชิ่งชำเลือง​มอง​หัวหน้า​องครักษ์​ที่อยู่​ใน​ห้อง​

“ท่าน​รับประกัน​ได้​อย่างไร​ว่า​ฆ้อง​เงิน​สวี่​จะร่วม​ก่อการ​กับ​ท่าน​ด้วย​? เขา​มีสัญญาเสกสมรส​เป็น​พระ​สวามี​กับ​องค์​หญิง​หลิน​อัน​”

หัวหน้า​องครักษ์​งุนงง​

“เพราะ​เขา​คือ​ฆ้อง​เงิน​สวี่”​

ฮว๋าย​ชิ่งเอ่ย​วาจา​เสียง​แผ่วเบา​

อันที่จริง​องค์​หญิง​ใหญ่​ฮว๋าย​ชิ่งกำลัง​เดิมพัน​กับ​แผนการ​หว่านพืชหวังผล​ นาง​แนะนำ​มือฉมัง​จาก​เขต​ฉางเล่อ​ให้​เว่ยเยวียน​และ​ขอให้​เขา​ทำงาน​แทน​คนอื่น​ จากนั้น​ นาง​ก็​มุ่งเน้น​ความสนใจ​ไป​ที่​การ​ปลูกฝัง​ความสามารถ​

ต่อมา​นาง​ได้​เรียนรู้​จาก​เว่ยเยวียน​ เกี่ยวกับ​กายกรรม​วจีกรรม​และ​มโนกรรม​ของ​สวี่​ชีอัน​ใน​สัมมาทิฏฐิ​สามประการ​ ซึ่งช่วย​หล่อเลี้ยง​ความคิด​ของ​ฮว๋าย​ชิ่ง ใน​การฝึกฝน​และ​สังเกต​สวี่​ชีอัน​

หลังจากนั้น​ ฮว๋าย​ชิ่งก็​ช่วยเหลือ​สวี่​ชีอัน​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ จาก​เรื่อง​หนึ่ง​ไป​สู่อีก​เรื่อง​หนึ่ง​ การ​หว่านพืชหวังผล​ของ​องค์​หญิง​ใหญ่​ฮว๋าย​ชิ่งเริ่ม​ขึ้น​ทีละเล็กทีละน้อย​ จนกระทั่ง​สุดท้าย​เขา​ก็​เลื่อน​ระดับ​เป็น​เหนือ​มนุษย์​ นาง​เฝ้าดู​มือฉมัง​เล็ก​กระจ้อย​เติบโต​จน​เป็น​ผู้ยิ่งใหญ่​เช่น​ใน​ปัจจุบันนี้​

แน่นอน​ว่า​นาง​รู้​ว่า​ สวี่​ชีอัน​จะสนับสนุน​นาง​

เป็น​เพียง​ว่า​คำพูด​เหล่านี้​จะไม่บอก​ให้​บุคคลภายนอก​รู้​

หมายเลข​แปด​ ‘ทุกคน​ ข้า​ออกจาก​การ​ปลีก​วิเวก​แล้ว​ พวก​เจ้าช่วย​นัด​เวลา​และ​สถานที่​เพื่อ​มาพบ​ข้า​ได้​หรือไม่​?’

ใน​ช่วง​กลางดึก​ สมาชิก​ของ​พรรค​ฟ้าดิน​ต่าง​ได้รับ​ข้อความ​จาก​หมายเลข​แปด​

เหล่า​สมาชิก​ตกตะลึง​เล็กน้อย​ แต่​จาก​ที่​นักบวช​เต๋า​จิน​เหลียน​คาดเดา​ไว้​เมื่อ​สอง​สามวันก่อน​ พวกเขา​จึงไม่ตกใจ​เกินไป​นัก​

หมายเลข​เจ็ด​ ‘นี่​ หมายเลข​แปด​ยังอยู่​ใน​พรรค​ฟ้าดิน​ของ​พวกเรา​อีก​หรือ​? ฮ่าฮ่า ล้อเล่น​น่า​ เจ้าเป็น​พี่ชาย​หรือ​สาวน้อย​กัน​แน่​?’

เมื่อ​พิจารณา​ว่า​บรรยากาศ​ใน​กลุ่ม​แชท​หนังสือ​ปฐพี​ครั้ง​ล่าสุด​ ค่อนข้าง​หนักหน่วง​และ​ตึงเครียด​มาก​ ดังนั้น​พวกเขา​จึงพูด​ติดตลก​เรื่อง​หมายเลข​แปด​ เพื่อให้​บรรยากาศ​มีชีวิตชีวา​

หมายเลข​สอง​ ‘ให้ความสนใจ​กับ​หมายเลข​แปด​หน่อย​ หมายเลข​เจ็ด​เป็น​คน​นิสัยเสีย​และ​ชอบ​หลอก​เอา​ความบริสุทธิ์​ของ​สาวน้อย​อย่าง​ที่สุด​ อืม​ หมายเลข​สามก็​เป็น​พวก​หื่น​กาม​ เดี๋ยว​เข้า​เดี๋ยว​ออก​ชอบ​ตกเบ็ด​ที่สุด​ ระวัง​สอง​คน​นี้​ไว้​ให้​ดี​ แต่​ถ้าเจ้าเป็น​พี่ชาย​ก็​ถือว่า​ข้า​ไม่ได้​พูด​อะไร​แล้วกัน​’

มังกร​หมอบ​กับ​หงส์​ไฟจาก​นิกาย​สวรรค์​พูด​ทีไร​ก็​คึกคัก​ทุกที​

หมายเลข​แปด​ ‘เมื่อ​ข้า​ยก​เศษชิ้นส่วน​หนังสือ​ปฐพี​ขึ้น​ มีเพียง​ชิ้นส่วน​ที่สอง​กับ​ชิ้นส่วน​ที่​เจ็ด​จาก​เก้า​ชิ้น​เท่านั้น​ที่​มีเจ้าของ​ ชิ้นส่วน​อื่นๆ​ ล้วน​ไร้​เจ้าของ​’

‘หมายเลข​แปด​อวดภูมิ​รึ​?’…ฉู่หยวน​เจิ่น​ส่งข้อความ​มาว่า​

‘ท่าน​ผู้ยิ่งใหญ่​ปลีก​วิเวก​ไป​หลาย​วัน​แล้ว​ ข้า​ยัง​ไม่รู้​เลย​ว่า​ตบะ​ของ​เจ้าคือ​อะไร​? ใน​บรรดา​สมาชิก​พรรค​ฟ้าดิน​ เว้นแต่​หมายเลข​สามกับ​นักบวช​เต๋า​จิน​เหลียน​แล้ว​ ทุกคน​ล้วน​อยู่​ขั้น​สี่ เจ้ากลับ​จาก​ปลีก​วิเวก​เมื่อใด​? เจ้าอ่าน​ข้อ​ความใน​หนังสือ​ปฐพี​ครั้ง​ล่าสุด​นี้​แล้ว​หรือยัง​?’

หาก​ยืดเวลา​ปลีก​วิเวก​ออก​ไป​ ตัวตน​ของ​หมายเลข​สามก็​ควร​ชัดเจน​กว่า​นี้​

เนื่องจาก​เนื้อหา​ใน​แชท​ล่าสุด​เป็นเรื่อง​เกี่ยวกับ​ต้าฟ่ง​และ​สวี่​ชีอัน​ หาก​ท่าน​ดู​หน้าจอ​ด้วย​ความสบายใจ​ ย่อม​แสดงว่า​ท่าน​รู้​อยู่แล้ว​ว่า​หมายเลข​สามคือ​สวี่​ชีอัน​

หมายเลข​แปด​ ‘ตบะ​เป็นเรื่อง​ตื้นเขิน​ จากไป​นาน​ขนาด​นี้​ ย่อม​ไม่ควร​พูดถึง​’

ในเวลานี้​ นักบวช​เต๋า​จิน​เหลียน​ได้​ส่งข้อความ​แจ้งว่า​

หมายเลข​แปด​ ‘ปลีก​วิเวก​มานาน​เกินไป​และ​ไม่ค่อย​รู้เรื่อง​โลก​ภายนอก​มาก​นัก​ เรื่อง​ที่​เจ้าคุย​กับ​เขา​ น่าจะเป็น​เรื่องราว​ภายใน​ระดับสูง​’

หมายเลข​สอง​ ‘อ่า​ พูด​ได้​งั้น​หรือ​? สวี่​ชีอัน​ตกลง​ตาม​นี้​นะ​’

ห​ลี่​เหมี่ยว​เจิน​นึกถึง​ความลับ​โบราณ​บางอย่าง​ที่​สวี่​ชีอัน​พูด​เมื่อนานมาแล้ว​ทันที​ เพราะ​ระดับ​นี้​ก็​สูงพอ​

หมายเลข​เก้า​ ‘ข้า​ไม่คิด​ว่า​เขา​จะสนใจ​’

หมายเลข​เจ็ด​ ‘ข้า​บอก​เจ้าแล้ว​ไง หมายเลข​แปด​ เจ้าอยากรู้​ความลับ​ของ​พระพุทธเจ้า​หรือไม่​? ครอบครัว​นั้น​น่าสนใจ​มาก​ อย่า​ถามว่า​ทำไม​ถึงเป็น​ครอบครัว​ พระพุทธ​บุตร​องค์​นี้​จะบอก​เจ้าเอง​…’

สมาชิก​พรรค​ฟ้าดิน​เริ่ม​แชท​กัน​อย่าง​กระตือรือร้น​และ​ทุกคน​แสดงท่าที​ก้าวร้าว​มากขึ้น​ต่อหน้า​หมายเลข​แปด​

สำนัก​โหราจารย์​ ห้องนอน​

แสงเทียน​ส่องสว่าง​เหมือน​เมล็ด​ถั่ว​ที่​เผาไหม้​ไป​อย่าง​เงียบเชียบ​

ทันใดนั้น​เงาโต๊ะกลม​ก็​ขยาย​ออก​ และ​สวี่​ชีอัน​ก็​โผล่​ออก​มาจาก​เงามืด​

ห้อง​เงียบสงัด​ มู่หนาน​จือ​นอนตะแคง​ห่ม​ผ้านวม​หนาน​ุ่มแล้ว​หลับ​ไป​

ไป๋​จีนอนหลับ​อยู่​ข้างๆ​ นาง​มีร่าง​เล็ก​ๆ ขนาด​สอง​ฝ่ามือ​มุด​อยู่​ใต้​ผ้าห่ม​ผืน​หนา​ ถ้าไม่ใช่เพราะ​ขน​สีขาว​กระจุก​หนึ่ง​โผล่​ออกมา​ ก็​แทบ​ไม่รู้​เลย​ว่า​มัน​อยู่​ที่นี่​

“ได้เวลา​เลื่อน​ระดับ​เป็น​ขั้น​สอง​แล้ว​ อืม​ ไป​อาบน้ำ​ก่อน​ดีกว่า​…”

สวี่​ชีอัน​พึมพำ​ เตร่​ไป​หลังฉาก​กั้น​จึงเห็น​ว่า​มู่หนาน​จือ​ยัง​ไม่ได้​เท​น้ำ​อาบ​ทิ้ง​

สวี่​ชีอัน​ถอดเสื้อผ้า​และ​กางเกง​ของ​เขา​อย่าง​เร่งรีบ​และ​เปลือยกาย​ก้าว​เข้าไป​ใน​อ่าง​อาบน้ำ​ มีกลิ่นหอม​จางๆ จาก​กลีบดอกไม้​ที่​ลอย​อยู่​บน​ผิวน้ำ​

เทพ​ดอกไม้​มัก​ปลูก​ดอกไม้​และ​พืช​แปลก​ๆ บาง​ชนิด​ แล้ว​ทำให้​แห้ง​หรือ​บด​เป็นผง​แล้ว​ใส่ลง​ไป​ใน​อ่าง​น้ำ​

“กลิ่นหอม​อ่อน​ๆ อีกหน่อย​ในอนาคต​ข้า​ต้อง​มีส้มเขียวหวาน​ประจำ​บ้าน​เสียแล้ว​…”

หลังจาก​สวี่​ชีอัน​อาบน้ำ​อย่าง​รวดเร็ว​ เขา​ก็​ก้าว​ออกจาก​ถัง หยิบ​ชุด​ของ​มู่หนาน​จือ​ที่​แขวน​อยู่​บน​ฉาก​กั้น​มาเช็ด​คราบ​น้ำ​บน​ร่าง​เขา​

จากนั้น​ เขา​ก็​เดิน​ไป​ที่​เตียง​ใน​สภาพ​เปลือยเปล่า​ เอนตัว​ไป​และ​หายใจ​รด​ไป๋​จี

นี่​คือ​ยา​ที่​ผลิต​จาก​สารพิษ​ที่​สามารถ​ทำให้​จิ้งจอก​ขาว​ตัว​น้อย​หลับ​สบาย​จนถึง​พรุ่งนี้​เช้า ในระหว่างนั้น​ แม้เขา​จะขย่ม​เตียง​ขึ้น​ลง​ เจ้าลูก​จิ้งจอก​ก็​ไม่มีทาง​ตื่น​

สวี่​ชีอัน​อุ้ม​ไป๋​จีขึ้น​แล้ว​โยน​มัน​ไว้​ที่​ปลาย​เตียง​ เลิก​ผ้าห่ม​ขึ้น​แล้ว​มุด​เข้าไป​

มู่หนาน​จือ​สะลึมสะลือ​เมื่อ​รู้สึก​ว่า​มีมือหนึ่ง​ยก​ชาย​เสื้อชั้นใน​ของ​นาง​ขึ้น​และ​ค่อยๆ​ ถอด​กางเกง​ผ้าไหม​ของ​นาง​ออก​

“อืม​…”

นาง​ขมวดคิ้ว​และ​ตื่นขึ้น​ทันที​

……………………………………….

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท