บทที่ 736 เลื่อนสู่ขั้นสอง (3)

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

สวี่​ชีอัน​เบิกตา​กว้าง​ หยุด​ความรู้สึก​พลาง​จับจ้อง​สายตา​ไป​ที่​ใบหน้า​ของ​มู่หนาน​จือ​ นางใน​ตอนนี้​ทั้ง​ดู​อ้อนแอ้น​และ​มีเสน่ห์​อย่างยิ่ง​

สวี่​ชีอัน​มอง​สตรี​ที่อยู่​เบื้องหน้า​ไม่วางตา​ ทรง​เสน่ห์​งดงาม​แต่​ไม่อ่อนแอ​ เย้ายวน​ดุจ​บุปผา​ใน​เดือน​หก​ บริสุทธิ์​ดุจดัง​ดอกบัว​แรก​แย้ม​ ใน​ชั่วขณะหนึ่ง​เขา​ไม่รู้​ว่า​ความรู้สึก​ ‘หยก​สลาย​’ เป็น​เรื่องสำคัญ​ หรือ​สตรี​งามน้ำหนึ่ง​เป็น​เรื่องสำคัญ​กว่า​กัน​แน่​

ข้อมือขาว​กลั่น​เกล็ด​หมอก​หิมะ​ ดอกบัว​ใกล้​นาง​ยัง​ต้อง​ละอาย​ ผิวพรรณ​ขาว​เรียบ​เนียน​ บริสุทธิ์​ดั่ง​หยก​ เอว​งามคอด​ มือ​เรียว​บาง​นุ่มนวล​

ดวงตา​ของ​เขา​ค่อยๆ​ จมสู่ความ​หลงใหล​ เดิมที​เทพ​ดอกไม้​สวย​เลิศ​ล้ำ​ที่สุด​ใน​บรรดา​มนุษย์​ทั้งปวง​ ในเวลานี้​เขา​สามารถ​เด็ด​เก็บ​สตรี​งามเช่นนี้​ไว้​เป็น​ขวัญตา​ ความพึงพอใจ​ทาง​จิตวิญญาณ​อาจ​สำคัญ​กว่า​ทางกายภาพ​

พลัง​ปราณ​วิ่ง​พล่าน​หมุน​โคจร​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ ห​ลิ​งอ​วิ้น​ใน​ร่าง​ของ​มู่หนาน​จือ​ผสาน​เข้ากับ​พลัง​ปราณ​อย่าง​ต่อเนื่อง​ โคจร​ผ่าน​เข้าไป​ใน​ร่าง​ของ​สวี่​ชีอัน​ ลมปราณ​ของ​เทพ​ดอกไม้​บน​ร่าง​ของ​เขา​แข็งแกร่ง​ขึ้น​เรื่อยๆ​

เบื้องหน้า​เขา​มีเพียง​ความมืด​มิดจนกระทั่ง​ลำแสง​ทะลุ​ผ่าน​ความมืด​ แสงสว่าง​สาด​ไป​บน​ผืนดิน​อัน​รกร้าง​

จู่ๆ พื้นดิน​ก็​ ‘โค้ง​’ ขึ้น​ บางสิ่ง​ที่​มีสีเขียว​เจาะทะลุ​ผ่าน​พื้นดิน​ขึ้น​มา

นั่น​คือ​ยอด​อ่อน​ของ​ต้นไม้​

เขา​มอง​ยอด​อ่อน​ต้นไม้​พลาง​หวน​นึกถึง​การ​แบ่งปัน​ประสบการณ์​ผสาน​เต๋า​ของ​โค่ว​หยาง​โจว​

รากฐาน​เดิม​ของ​ผสาน​เต๋า​คือ​ยกระดับ​ ‘วิถี​’ ของ​จอม​ยุทธ์​ โดย​ทำ​ให้เหตุผล​สมบูรณ์แบบ​ที่สุด​ แต่​อย่างไร​ถึงจะนับว่า​สมบูรณ์แบบ​ที่สุด​? วิถี​ดาบ​มีเป็น​พัน​เป็น​หมื่น​วิถี​ มีทั้ง​รุก​และ​รับ​ มีทั้ง​เร็ว​และ​ช้า มีทั้ง​เข้า​ประชิด​และ​จู่โจมจาก​ระยะไกล​ มีทั้ง​จู่โจมจาก​ด้าน​ข้าง​ แล้ว​วิถี​ใด​จึงจะเป็น​วิถี​ที่​สมบูรณ์แบบ​ที่สุด​? โค่ว​หยาง​โจว​ก็​ไม่รู้​ ดังนั้น​กาย​เนื้อ​ของ​เขา​จึงพังทลาย​ลง​กลายเป็น​ ‘หนอน​ไม้ขีด​’ จำนวนนับ​หมื่น​ หนอน​ไม้ขีด​ทุก​ตัว​ต่าง​ก็​ยืนยัน​ว่า​วิถี​ของ​ตนเอง​สมบูรณ์แบบ​ที่สุด​ ด้วยเหตุนี้​เขา​จึงหลง​ติดหล่ม​ศาสนา​นอกรีต​ วิถี​ของ​ข้า​คือ​หยก​สลาย​ ยอม​เป็น​หยก​ที่​แหลกลาญ​ ไม่ขอ​เป็น​กระเบื้อง​สมบูรณ์​ เช่นนั้น​การ​เติมเต็ม​วิถี​ของ​ข้า​ให้​สมบูรณ์​และ​ยกระดับ​มัน​ก็​คือ​การผลักดัน​หยก​แหลก​ให้​ถึงที่สุด​ใช่หรือไม่​?

เวลานี้​ ยอด​อ่อน​สีเขียว​เติบโต​ขึ้น​ ลำต้น​หนา​ขึ้น​ แตกหน่อ​กิ่งก้านสาขา​ มัน​เติบโต​เป็น​ต้นไม้​ใหญ่​ด้วย​ความเร็ว​ที่​มองเห็น​ได้​ด้วย​ตาเปล่า​ ภายใต้​ร่มเงา​ของ​มัน​ยังมี​หญ้า​อ่อน​สีเขียว​เติบโต​ขึ้น​ ทำให้​มีความ​เขียวขจี​มากขึ้น​เล็กน้อย​

หัวใจ​ของ​สวี่​ชีอัน​กระตุก​วูบ​ราวกับ​ได้​เห็น​ตนเอง​ เขา​กล่าว​พึมพำ​ว่า​ “การพัฒนา​สิ่งต่างๆ​ ไม่จำเป็นต้อง​ถูก​ผลักดัน​จน​สุดโต่ง​ คำจำกัดความ​ของ​คำ​ว่า​สมบูรณ์แบบ​ก็​สามารถ​เป็นการ​ชดเชย​ข้อบกพร่อง​ได้​เช่นกัน​ ใน​เวลา​ที่​จำเป็น​ ข้า​สามารถ​เป็น​ไม้ที่​หัก​ดีกว่า​ยอม​งอ​ ยอม​เป็น​หยก​ที่​แหลกลาญ​ แต่​ข้า​ไม่ใช่คนบ้า​ที่จะ​เอาชีวิต​ไป​เสี่ยง​ ข้า​มีความปรารถนา​ที่จะ​อยู่รอด​ และ​ข้า​เอง​ก็​ต้องการ​ที่จะ​มีชีวิต​อยู่​ต่อไป​”

เขา​พิจารณา​ตนเอง​ มองเห็น​ตนเอง​และ​เข้าใจ​ความปรารถนา​เดิม​ของ​ตนเอง​ที่​มีต่อ​หยก​สลาย​ใน​ตอนนั้น​

ไม่มีทาง​ที่​คน​ที่อยู่​ใน​สถานการณ์​สิ้นหวัง​จะล่าถอย​ ด้วย​เหตุ​นั้น​เขา​จึงกล้า​ที่จะ​เป็น​หยก​ที่​แหลกลาญ​ แต่​บ่อเกิด​ของ​แรงจูงใจ​สูงสุด​ก็​คือ​การ​มีชีวิต​อยู่​ต่อไป​

หาก​ตอนนั้น​ชีวิต​ของ​เขา​ไร้​ความหมาย​ ไม่มีใคร​ให้​ต้อง​อาลัยอาวรณ์​ เขา​ก็​คง​ไม่สามารถ​เข้าใจ​หยก​สลาย​ได้​

ในขณะที่​ความคิด​กำลัง​แล่น​พล่าน​ ก็​มีสายฟ้า​ฟาด​ลงมา​ที่​ต้นไม้​ใหญ่​เบื้องหน้า​ มัน​ถูก​ผ่า​แยก​เป็น​สอง​ท่อน​ กลายเป็น​ถ่านโค้ก​ที่​ไร้​ซึ่งชีวิตชีวา​

หลาย​ปี​ต่อมา​ ไม้แห้งขอด​ได้​ฝน​ชะโลม​ลูบ​ กลายเป็น​ไม้กระปรี้กระเปร่า​เต็มไปด้วย​ชีวิตชีวา​ มียอด​อ่อน​สีเขียว​ผุด​ขึ้น​จาก​ลำต้น​ที่​ไหม้​เกรียม​

“หยก​สลาย​ของ​ข้า​เผด็จการ​เกินไป​…ขาด​ชีวิตชีวา​ ขาด​ความปรารถนา​ที่จะ​มีชีวิตรอด​ แต่​ข้า​เป็น​ร่าง​อมตะ​อยู่แล้ว​ การรักษา​ตนเอง​จึงไม่มีความหมาย​อะไร​สำหรับ​ข้า​…”

เขา​จ้องมอง​ไป​ยัง​ต้นไม้​ใหญ่​สูงระฟ้า​ ก่อน​จะจมเข้าสู่​ภวังค์​ความคิด​อีกครั้ง​

ต้นไม้​สูงระฟ้า​ยังคง​เติบโต​อย่าง​ต่อเนื่อง​ราวกับ​ไม่มีขีดจำกัด​ มัน​ค่อยๆ​ เติบโต​จน​กลายเป็น​สัตว์ประหลาด​ร่าง​สูงกว่า​พัน​จั้งที่​มีกิ่งก้าน​และ​ใบ​ปกคลุม​ทั่ว​ทั้งตัว​

สิ่งมีชีวิต​จำนวน​นับไม่ถ้วน​เกาะ​อาศัย​อยู่​บน​นั้น​ แย่งชิง​สารอาหาร​และ​ห​ลิ​งอ​วิ้น​ของ​มัน​

แต่​มัน​ไม่เหี่ยวเฉา​โรยรา​แม้แต่น้อย​ กลับ​ยิ่ง​แข็งแกร่ง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ยิ่ง​สิ่งมีชีวิต​พึ่งพาอาศัย​มัน​เพื่อ​ดำรงชีพ​มาก​เท่าใด​ มัน​ก็​ยิ่ง​ฉกชิง​พลัง​ของ​ฟ้าดิน​มาเติมเต็ม​ตนเอง​ได้​มากขึ้น​เท่านั้น​

จน​ในที่สุด​มัน​ก็​กลายเป็น​ต้นไม้​เทพ​อมตะ​

สวี่​ชีอัน​เงย​ศีรษะ​ขึ้นไป​และ​มอง​ต้นไม้​อมตะ​ตา​ไม่กะพริบ​ ใน​ดวงตา​ของ​เขา​สะท้อน​สีเขียวขจี​ที่​เต็มไปด้วย​ชีวิตชีวา​ เขา​รักษา​การเคลื่อนไหว​นี้​ไว้​โดย​ไม่เคลื่อนไหว​เป็นเวลา​นาน​

บำเพ็ญ​เพียร​อย่าง​หนัก​มาสิบ​ปี​ ในที่สุด​ก็​เข้าสู่​ช่วงเวลา​แห่ง​การตรัสรู้​

ชั่ว​ขณะนี้​ เขา​ได้​เข้าสู่​ขอบเขต​ผสาน​เต๋า​ขั้น​สอง​แล้ว​

ที่​นอก​หอ​ดู​ดาว​ชั่ว​ขณะนี้​ ดาว​แต่ละ​ดวง​ส่องแสง​ลงมา​บน​เวที​เข็มทิศ​แปดเหลี่ยม​

ปรากฏการณ์​แปลกประหลาด​เกิดขึ้น​โดยธรรมชาติ​

สวี่​ชีอัน​ลืมตา​ขึ้น​ ใน​ทัศนวิสัย​เบื้องหน้า​คือ​เตียง​ที่​ยุ่งเหยิง​ ร่าง​ของ​หญิง​งามกำลัง​นอน​ทอดกาย​อยู่​บน​นั้น​ ฮอร์โมน​และ​กลิ่นหอม​ของ​สตรี​ผสมผสาน​ข้า​ด้วยกัน​ดุ​งดั่ง​วสันต​โอสถ​ที่​ดุเดือด​

ดวงตา​ของ​มู่หนาน​จือ​เลือนราง​ บริเวณ​พวง​แก้ม​ ลำคอ​ และ​ผิวขาว​ราวกับ​หิมะ​ถูก​ย้อม​ด้วย​สีแดง​

ราวกับ​กำลัง​หมดสติ​อีกครั้ง​ สวี่​ชีอัน​รู้สึก​ว่า​ห​ลิ​งอ​วิ้น​ใน​ร่าง​ของ​นาง​เริ่ม​ฟื้น​คืน​สู่สภาพเดิม​ แต่​พลัง​ปราณ​ส่วนใหญ่​ของ​เขา​อยู่​ใน​ร่าง​ของ​เทพ​ดอกไม้​ เช่นเดียวกับ​ห​ลิ​งอ​วิ้น​ส่วนใหญ่​ของ​เทพ​ดอกไม้​ที่​ถูก​เขา​ดูดซับ​ไป​

ณ อาราม​รัตนะ​

ลั่วอวี้เหิง​ที่​สวม​เสื้อคลุม​ขนนก​และ​กวาน​ดอกบัว​บน​ศีรษะ​เดิน​ออกจาก​ห้อง​สงบใจ​ไป​ยัง​ลาน​ด้านหน้า​

นาง​เพ่งมอง​ไป​ที่​หอ​ดู​ดาว​ เรียว​คิ้ว​บาง​ขมวด​เข้าหา​กัน​แน่น​ หลังจาก​ผ่าน​ไป​นาน​ จู่ๆ นาง​ก็​ถอนหายใจ​ก่อน​จะสะบัด​แขน​เสื้อ​เดิน​กลับ​เข้าไป​ยัง​ห้อง​สงบใจ​

“ถ้ารู้​แต่แรก​ ตอนนั้น​ข้า​ไม่ควร​ใจอ่อน​ น่าจะ​ขาย​เข้าไป​ใน​ซ่อง​นางโลม​ซะ…”

“ฝ่าบาท​ มีข่าว​มาจาก​ภายนอก​ว่า​สำนัก​โหราจารย์​มีเรื่อง​แปลกประหลาด​เกิดขึ้น​”

ฮว๋าย​ชิ่งถูก​นางกำนัล​ที่อยู่​ข้าง​กาย​เขย่า​ร่าง​เบา​ๆ

เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​สำนัก​โหราจารย์​มีเรื่อง​แปลก​เกิดขึ้น​ นาง​ก็​ลุกขึ้น​ทันที​ ความง่วง​ซึมพลัน​หาย​ไป​และ​กล่าวว่า​ “เอา​เสื้อคลุม​มาให้​ข้า​”

น้ำเสียง​เจือ​ความ​เกียจคร้าน​ราวกับ​เพิ่ง​ตื่นนอน​

นางกำนัล​หยิบ​เสื้อคลุม​ยาว​เนื้อ​หนา​ขึ้น​มา ฮว๋าย​ชิ่งสั่น​ข้อมือ​ เสื้อคลุม​พาด​ลง​ที่​ไหล่​นาง​อย่าง​นุ่มนวล​

นาง​ลุกขึ้น​จาก​เตียง​ ร่าง​บาง​ดุ​งดั่ง​ขน​ของ​ห่าน​หงส์​เยื้องกราย​กระโดด​ขึ้นไป​บน​สันหลังคา​และ​มอง​ไป​ทาง​สำนัก​โหราจารย์​

จาก​มุมมอง​ของ​นาง​ สำนัก​โห​จารย์​ยืน​อยู่​อย่าง​เดียวดาย​ใน​ที่​รกร้าง​ เผย​ให้​เห็น​หนึ่ง​ใน​สามของ​ตัวอาคาร​

ชั่ว​ขณะนี้​ ดวงดาว​แต่ละ​ดวง​ที่​ส่อง​ลง​มาจาก​ม่าน​ราตรี​สาด​แสงลง​บน​หอ​ดู​ดาว​

‘นี่​…’ ฮว๋าย​ชิ่งขมวดคิ้ว​ครุ่นคิด​แต่​ก็​ไม่สามารถ​หา​สาเหตุ​ได้​

นาง​กระโดด​ลง​จาก​สันหลังคา​ทันที​ กลับ​ไป​ที่​ห้องส่วนตัว​ ถอยห่าง​จาก​นางกำนัล​ หยิบ​ชิ้นส่วน​หนังสือ​ปฐพี​ออก​มาจาก​ใต้​หมอน​และ​ส่งข้อความ​ว่า​

หมายเลข​หนึ่ง​ ‘สวี่​หนิง​เยี่ยน​ ปรากฏการณ์​แปลกประหลาด​ของ​สำนัก​โหราจารย์​เกี่ยวข้อง​กับ​เจ้าหรือไม่​?’

ต้าฟ่งตก​อยู่​ใน​ความ​สับสน​อลหม่าน​ ส่วน​สำนัก​โหราจารย์​ก็​เกิด​ปรากฏการณ์​แปลกประหลาด​เช่นนี้​ นาง​ย่อม​ไม่สามารถ​แสร้ง​ทำเป็น​ไม่รู้เห็น​และ​ยิ่ง​ไม่สามารถ​หยุด​คิด​หรือ​หยุด​ถามอย่าง​ใจเย็น​ได้​

ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​ส่งข้อความ​โต้กลับ​โดย​ไม่รอ​คำตอบ​ของ​สวี่​ชีอัน​

หมายเลข​สอง​ ‘เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​สำนัก​โหราจารย์​? เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​สวี่​หนิง​เยี่ยน?’​

หลังจากนั้น​ก็​เป็น​จ้วง​หยวน​หลา​งฉู่หยวน​เจิ่น​

หมายเลข​สี่ ‘คิดดู​แล้ว​ไม่น่า​ใช่เรื่อง​ร้าย​กระมัง​ แต่​ไม่กี่​วันก่อน​ สวี่​หนิง​เยี่ยน​ทำตัว​ลับๆ ล่อๆ​ ราวกับ​กำลัง​วางแผน​อะไร​บางอย่าง​ลับ​ๆ และ​ไม่ส่งข้อความ​มาบอก​พวกเรา​เช่นกัน​’

จากนั้น​ไต้​ซือเหิงหย่วน​ก็​กระโดด​ออกมา​อธิบาย​ว่า​

หมายเลข​หก​ ‘ใต้เท้า​สวี่​เชื่อมโยง​กับ​ชะตากรรม​ของ​ต้าฟ่ง​ จักรพรรดิ​หย่ง​ซิ่งกำลัง​ตั้งใจ​จะเจรจา​สงบศึก​ สำหรับ​เขา​แล้ว​ สามารถ​พูด​ได้​ว่า​เป็น​ศึก​ภายนอก​และ​ศึก​ภายใน​ แล้ว​เขา​จะยังมี​กะ​จิต​กะ​ใจข้อ​ส่งความ​มาคุย​เรื่อยเปื่อย​กับ​พวกเรา​ได้​อย่างไร​?’

เวลานี้​เอง​ สมาชิก​พรรค​ฟ้าดิน​ก็​เห็น​หมายเลข​แปด​ส่งข้อความ​มามีส่วน​ร่วมใน​หัวข้อ​กลางดึก​

หมายเลข​แปด​ ‘ดูเหมือน​จะเลื่อน​สู่ขั้น​สอง​แล้ว​กระมัง​’

หมายเลข​สอง​ ‘เข้าสู่​ผสาน​เต๋า​ขั้น​สอง​รึ​?’

ห​ลี่​เมี่ยวเจิน​พูด​ใน​ใจ ‘เจ้ากำลัง​ล้อเล่น​อะไร​กัน​ เข้าสู่​ผสาน​เต๋า​ขั้น​สอง​เป็นเรื่อง​ง่าย​ที่ไหน​กัน​?’

กวาดสายตา​มอง​แผ่นดิน​จิ่ว​โจว​ มีจอม​ยุทธ์​ขั้น​สอง​สัก​กี่​คน​?

หมายเลข​เจ็ด​ ‘ฮ่าๆ หมายเลข​แปด​น่าสนใจ​ทีเดียว​ ข้า​ชอบ​ความไร้เดียงสา​ของ​เจ้า แต่​เจ้าอาจจะ​ไม่รู้​ ตะปู​ตอก​วิญญาณ​ใน​ร่าง​ของ​สวี่​ชีอันนั้น​ยาก​ที่จะ​ขจัด​ทิ้ง​ ภายใน​สถานการณ์​เช่นนี้​ เขา​ย่อม​ไม่มีทาง​เลื่อนขั้น​ได้​’

หมายเลข​สี่ ‘ปรากฏการณ์​แปลกประหลาด​ของ​สำนัก​โหราจารย์​อาจจะ​มาจาก​การ​ถูก​รุกราน​ของ​ท่าน​โหราจารย์​หรือ​อาจจะ​เป็นเรื่อง​อื่น​ก็ได้​ แต่​เทพบุตร​พูด​ถูก​ ใน​ร่าง​ของ​สวี่​หนิง​เยี่ยน​ยังมี​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​อยู่​ อย่างไร​ก็​ไม่มีทาง​เป็น​เขา​แน่นอน​ หมายเลข​แปด​ เจ้าน่าจะ​ไม่รู้​ว่า​ตะปู​ตอก​วิญญาณ​คือ​อะไร​ ข้า​จะอธิบาย​ให้​เจ้าฟังสักหน่อย​

‘ตะปู​ตอก​วิญญาณ​เป็น​อาวุธ​เวทมนตร์​ที่​พระพุทธเจ้า​เป็น​ผู้​กลั่น​ขึ้น​ ครั้ง​นึ่ง​มัน​เคย​ปิดผนึก​ราชัน​อสูร​ อืม​ ซึ่งก็​คือ​บิดา​ของ​อา​ซูหลัว​ที่​เทพบุตร​เคย​บอก​เจ้า’

หมายเลข​สอง​ ‘แม้แต่​อา​ซูหลัว​ก็​ยัง​พ่ายแพ้​ด้วย​น้ำมือ​ของ​สวี่​ชีอัน​’

ไป๋​จีตื่นขึ้น​จาก​ความง่วง​ รู้สึก​วิงเวียน​ศีรษะ​ ไม่รู้​ว่า​ตนเอง​เป็น​ใคร​และ​อยู่​ที่ใด​

มัน​ยก​อุ้ง​เท้าหน้า​สอง​ข้างขึ้น​มาลูบ​ดวง​ตาดำ​แป๋ว​ เมื่อ​มอง​ไป​รอบ​ๆ ทั้ง​ซ้าย​และ​ขวา​ก็​พบ​ว่า​ตนเอง​อยู่​ใน​เจดีย์​พุทธะ​

มีร่าง​ธรรม​สีทอง​สอง​องค์​อยู่​ทาง​ด้าน​ทิศใต้​และ​ทิศตะวันตก​ ที่​ข้าง​โต๊ะ​น้ำชา​ทาง​ด้าน​ทิศตะวันออก​ มีภิกษุ​ชรา​เครา​ขาว​รูป​หนึ่ง​กำลัง​นั่งสมาธิ​อย่าง​สงบ​

“ท่าน​น้า​ของ​ข้า​ล่ะ​?”

ไป๋​จีเดินโซเซ​ไป​ทาง​ภิกษุ​ชรา​ถ่าห​ลิง​

ภิกษุ​ชรา​ถ่าห​ลิง​มอง​มัน​และ​กล่าว​อย่าง​อ่อนโยน​

“ดูเหมือน​เจ้าจะยัง​ไม่หาย​ดี​”

ไป๋​จีเดินโซเซ​ราวกับ​พวก​มนุษย์​ที่​เมาค้าง​ มัน​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​ของ​เด็กสาว​ที่​ยัง​ไม่บรรลุนิติภาวะ​ด้วย​ความประหลาดใจ​ “เมื่อคืน​ข้า​ฝัน​ว่า​ข้า​กำลัง​ล่องลอย​ไป​ตาม​กระแส​ทะเล​ เรือ​สั่น​โคลงเคลง​ แกว่งไปแกว่งมา​ ข้า​อยาก​จะตื่น​แต่​ก็​ตื่น​ไม่ได้​ งุนงง​และ​สับสน​ ข้า​ยัง​ได้ยิน​เสียง​ร้องไห้​ของ​ท่าน​น้า​ของ​ข้า​ ดูเหมือน​นาง​ถูก​ตี​อย่างไร​อย่างนั้น​”

มัน​ยัง​ฝัน​ว่า​ท่าน​น้า​ถูก​ตี​ เสียงดัง​โครมคราม​ ใน​ใจรู้สึก​โกรธ​มาก​ อยาก​จะแก้แค้น​ให้​ท่าน​น้า​ แต่​ไม่ว่า​จะทำ​อย่างไร​ก็​ตื่นขึ้น​มาไม่ได้​

ภิกษุ​ชรา​ถ่าห​ลิง​ฟังอย่าง​สงบ​ หลังจากนั้น​ก็​อธิบาย​ว่า​ “เจ้าถูก​ส่งเข้ามา​ ประสก​สวี่​และ​ประสก​มู่ไม่ได้​เข้ามา​ด้วย​”

ในขณะที่​พูด​ เขา​ก็​โบกมือ​ให้​ร่าง​ธรรม​เชี่ยวชาญ​โอสถ​ เศษแสงขนาดเล็ก​ที่​กระจัดกระจาย​ออก​มาจาก​ขวด​หยก​ที่อยู่​ใน​ฝ่ามือ​ของ​ร่าง​ธรรม​ลอย​เข้าไป​ใน​ร่าง​ของ​ไป๋​จี

ลูก​สุนัขจิ้งจอก​นอน​กลิ้ง​ลง​ไป​บน​พื้น​อย่าง​สบายใจ​ เผย​ให้​เห็น​หน้าท้อง​อัน​อ่อนนุ่ม​ของ​มัน​ หลังจากนั้น​มัน​ก็​ลุกขึ้น​มาและ​กล่าว​อย่าง​ชื่นมื่น​

“สบาย​จริงๆ​ สบาย​จริงๆ​ ข้า​ไม่เวียนหัว​แล้ว​ ขอบคุณ​ท่าน​ไต้​ซือ​มาก​”

ภิกษุ​ชรา​ถ่าห​ลิง​พยักหน้า​ด้วย​รอยยิ้ม​ ก่อน​จะประสานมือ​เข้าด้วยกัน​และ​ก้ม​ศีรษะ​ลง​อย่าง​สงบ​

สุนัขจิ้งจอก​ตัว​น้อย​กระโดด​ขึ้นไป​บน​ฟูก​ข้าง​ภิกษุ​ชรา​ ก่อน​จะขดตัว​เพื่อ​รอ​การ​เรียก​ของ​มู่หนาน​จือ​ หลังจาก​รอ​แล้ว​รอ​เล่า​ มัน​ก็​ผล็อย​หลับ​ไป​อีกครั้ง​

วัน​ต่อมา​ ยาม​เห​ม่า

ช่วงเวลา​ที่​ท้องฟ้า​มืด​ที่สุด​ก่อน​รุ่งสาง​ คบเพลิง​สีแดง​กำลัง​ลุกโชน​อยู่​ที่​ประตู​อู่​เห​มิน​

เหล่า​ขุนนาง​ต่าง​ก็​รวมตัวกัน​อย่าง​เงียบๆ​ ที่​นอก​ประตู​อู่​เห​มิน​ กำลัง​รอ​เสียง​กลอง​ดัง​ขึ้น​และ​รอ​เพื่อ​ประชุม​ยามเช้า​

ในเวลาเดียวกัน​นั้น​ จีหย่วน​ก็​แต่งตัว​เสร็จ​เรียบร้อย​และ​เดิน​ออกจาก​ห้อง​

สวี่​หยวน​ซวง​และ​สวี่​หยวน​ไหว​รอ​อยู่​ใน​ห้องโถง​แล้ว​ นอกจากนี้​ ใน​สมณทูต​ยังมี​ผู้อาวุโส​อีก​สี่ท่าน​ที่​มีความรู้​สูงส่งและ​มีความ​อาวุโส​

พวกเขา​เต็มไปด้วย​พลัง​อัน​กระปรี้กระเปร่า​และ​แทบ​อดใจ​รอ​ไม่ไหว​ที่จะ​กดขี่​ขุนนาง​และ​จักรพรรดิ​แห่ง​ต้าฟ่ง​ที่​ตำหนัก​กระดิ่งทอง​เพื่อ​ยกระดับ​ศักดิ์ศรี​ขอ​งอ​วิ๋น​โจว​

หลังจาก​รับประทาน​อาหารเช้า​แบบ​ง่ายๆ​ จีหย่วน​ก็​พา​ทั้ง​หก​คน​ออก​ไป​ที่​ลาน​ด้านนอก​ เขา​เห็น​ชายหนุ่ม​คน​หนึ่ง​สวม​เครื่องแบบ​ฆ้อง​เงิน​ แววตา​เรียบ​เฉย​ หน้าตา​หล่อเหลา​กำลัง​จ้อง​มาที่​ตนเอง​อย่าง​เย็นชา​

“ใต้เท้า​ท่าน​นี้​มีนาม​ว่า​อะไร​รึ​?”

จีหย่วน​ถามด้วย​รอยยิ้ม​

“ซ่งถิงเฟิง!”

น้ำเสียง​ของ​ฆ้อง​เงิน​นั่น​เย็นชา​พอๆ กับ​การแสดงออก​ของ​เขา​ไม่มีผิดเพี้ยน​

“เป็น​ชื่อ​ที่​ไม่เลว​”

จีหย่วน​แสดงความคิดเห็น​อย่าง​ไร้อารมณ์​ พลาง​เดิน​เข้า​ไปหา​เขา​ด้วย​ใบหน้า​ยิ้มแย้ม​แล้ว​ถามว่า​ “ไม่ทราบ​ว่า​ข้าน้อย​ทำ​อะไร​ให้​ใต้เท้า​ซ่งขุ่นเคือง​ที่ใด​หรือไม่​? ตั้งแต่​เมื่อวาน​ สายตา​ที่​ใต้เท้า​ซ่งมอง​ข้า​ช่างดู​ไม่เป็นที่พอใจ​นัก​”

ซ่งถิงเฟิงยิ้มเยาะ​ “ทำไม​ข้า​ต้อง​แสดง​สีหน้า​ดี​ๆ ให้​กับ​ศัตรู​ด้วย​เล่า​”

“ศัตรู​งั้น​รึ​” จีหย่วน​ส่งเสียง​จึ๊ใน​ปาก​อย่าง​ต่อเนื่อง​ “จำไว้​ให้​ดี​ล่ะ​ ข้า​หันหลัง​กลับ​ไป​พบ​จักรพรรดิ​แห่ง​ต้าฟ่ง​ของ​พวก​เจ้าที่​ตำหนัก​กระดิ่งทอง​เมื่อใด​ ข้า​จะพูดว่า​ เจ้าพนักงาน​ฆ้อง​เงิน​ซ่งถิงเฟิงเห็น​ข้า​เป็น​ศัตรู​และ​ปรารถนา​ที่จะ​ลอบสังหาร​ข้า​ ใต้เท้า​ซ่งคิด​ว่า​จักรพรรดิ​ของ​พวก​เจ้าจะจัดการ​กับ​เจ้าอย่างไร​?”

สีหน้า​ของ​ซ่งถิงเฟิงเปลี่ยนไป​ทันที​

จีหย่วน​หัวเราะ​ด้วย​ความ​เย็นชา​ “เห็น​ข้า​เป็น​ศัตรู​งั้น​รึ​ ก็​แค่​ฆ้อง​เงิน​คน​หนึ่ง​ เจ้ามีสิทธิ์​ด้วย​รึ​?”

…………………………………..………………………

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท