Hell mode – ตอนที่ 28

ตอนที่ 28

บทที่ 28 สารภาพ

การเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินกับคุเรนะจบลงตอนเลย 4 โมงเย็นไปแล้ว เนื่องจากพระอาทิตย์ตกดินเร็ว ทำให้เธอวิ่งกลับบ้าน

ช่วยเทเรเซียที่ท้องโตมากทำอาหารเย็น พอทำอาหารเย็นเสร็จก็เอาจานออกมาเรียง และทำการย้ายอัลบาเฮรอนเข้ามาในห้องพื้นดิน การที่จะแขวนไว้นอกบ้านทั้งคืนมันก็ดูกระไรอยู่

เนื่องจากทำการล่าไปแล้ว 10 ตัว ทำให้เรื่องที่แขวนอัลบาเฮรอนไว้หน้าบ้าน เป็นที่รู้กันไปทั่วของทาสติดที่ดินแถวๆนี้ ถึงจะมีบอกเรื่องจับมันได้กับทาสติดที่ดินตรงที่ตักน้ำจนถูกเอาไปลือกัน แต่อธิบายแค่ว่าจับตอนมันลงมาเท่านั้น

เพื่อที่จะทำการล่าโดยไม่ให้ใครเห็น จึงทำการล่าตรงที่ดินรกร้างที่มีหญ้าขึ้นสูง เนื่องจากเป็นหญ้าแห้ง ถ้ามีคนเข้ามาจะได้ยินเสียงแกร๊บๆ เลยตั้งใจไว้ว่าถ้ามีใครเข้ามาตรงที่ดินรกร้างจะหยุดการล่า แต่ไม่เคยเกิดขึ้นเลย

“เท่านี้ก็จับอัลบาเฮรอนได้ 10 ตัวแล้วสินะ”

“ครับคุณพ่อ”

โรดันพูดกับอเลนตอนล้อมวงรอบเตาอิฐเพื่อกินข้าว

“สุดยอดไปเลยนะ”

ดูเหมือนจะค่อนข้างสนใจอยู่ ทำงานสวนและตักน้ำด้วยแรงที่มากกว่าคนปกติ ถึงสวนจะค่อนข้างกว้าง แต่ใช้เวลาแค่ 2 วันก็ถอนมันฝรั่งจนเสร็จ แถมยังล่าอัลบาเฮรอนราวกับเป็นเรื่องปกติ ถึงเมื่อก่อนจะคิดว่าเป็นเด็กฉลาด แต่ช่วงนี้แสดงพลังให้มากยิ่งขึ้นไปอีก

พอมองเทเรเซีย ดูเหมือนจะเป็นห่วงอยู่เล็กน้อย ยิ่งไม่พูดอะไรอย่างนี้ยิ่งทำให้คาใจเอาเรื่องอยู่ เลยมองไปที่โรดันอีกครั้ง

“ถ้ามัชชูนอนแล้ว มีเรื่องจะคุยกับคุณพ่อกับคุณแม่หน่อยครับ”

พูดออกมาในระหว่างที่มองมัชชูที่ตั้งใจกิน

“เข้าใจแล้ว”

ดูเหมือนโรดันจะเข้าใจคำพูดของอเลน สำหรับอเลนก็คิดว่าน่าจะถึงเวลาอันสมควรคิดว่าควรจะเริ่มพูดถึงเรื่องที่ตัวเองมีพลังได้แล้วด้วย

ช่วงนี้พ่อแม่อยู่ที่บ้าน ถึงอเลนจะไม่อยู่ มัชชูก็ไม่งอแง แค่เล่นด้วยกันนิดหน่อยก็นอนหลับแล้ว

พอมัชชูหลับก็กลับไปที่ห้องนั่งเล่น และเห็นโรดับกับเทเรเซียนั่งอยู่ ดูเหมือนจะรอมาตลอดอเลนเลยไปนั่งที่ประจำ

“ฉันคิดว่าอเลนก็ยังเป็นอเลนค่ะ”

เทเรเซียชิงบอกออกมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแบบไหนความคิดที่มีต่ออเลนก็จะไม่เปลี่ยนแปลง

“ขอบคุณครับ มันอาจจะยาวนิดหน่อย ไม่เป็นไรนะครับ”

“อือ”

โรดันตอบกลับมา

“ที่จริงแล้ว มีประกาศมาตั้งแต่ตอน 1 ขวบ”

““ประกาศ?””

“ครับ ประกาศจากพระเจ้า”

““!?””

“บอกว่า อเลนเอ๋ย ขอมอบพลังและความรู้ให้กับเจ้า”

““พลัง?””

“อือ มันให้ความรู้สึกเหมือนจะเป็นพลังและความฉลาดที่มากกว่าคนทั่วไป”

“หือ”

“แล้วบอกว่า ได้ให้บททดสอบที่ต่อให้มีคน 100 คนก็ไม่อาจผ่านได้มาด้วย จงใช้พลังและความรู้ที่ได้ผ่านการทดสอบนั้นให้ได้”

““100 คน?””

ให้บททดสอบที่คน 100 คนยังไม่อาจะผ่านได้ให้กับคนคนเดียว สิ่งนั้นน่าจะเป็นการทดสอบที่แทบจะไม่เห็นจุดสิ้นสุดเลย

โรดันเคยบอกไว้ว่าการเลเวลอัพเป็นการก้าวข้ามการทดสอบ เลยแสดงออกมาให้ใกล้เคียง

“อะไรกัน……การทดสอบที่คน 100 คนไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ ทำไมพระเจ้าถึงให้อเลนทำสิ่งนั้น……”

เทเรเซียถึงกับพูดไม่ออก

“งั้นเหรอ วันนี้ผ่านการดสอบนั้นได้ 1 อย่างแล้วสินะ”

“เอ๊ะ?”

แต่เหมือนโรดันจะเข้าใจเนื้อหาที่พูดอยู่ เขาเลยทำการจับแก้มของอเลน

“อาจจะไม่ได้สังเกต แต่ก่อนเที่ยงยังมีแผลอยู่นี่”

ตรงแก้มมีแผลที่ได้มาจากการสู้ศึกแรกกับอัลบาเฮรอน ตอนเกือบจะโดนกินตรงแก้มถูกปลายจะงอยบาดจนเป็นแผลลึก อเลนแทบจะไม่รู้สึกตัวเลย ว่าสิ่งนั้นได้หายไปแล้ว

(เอ๊ะ? ถ้าเลเวลอัพพลังกายจะฟื้นจนเต็ม สิ่งนั้นรวมไปถึงฟื้นฟูแผลเก่าด้วยงั้นเหรอ)

ข้อเท็จจริงที่รู้เป็นครั้งแรก ถ้าอย่างนั้นตอนที่โรดันบาดเจ็บสาหัส หากให้ทาสติดที่ดินคนอื่นทำการล่าเกรซบอร์อย่างสุดความสามารถ หากจัดการได้จนโรดันผ่านการทดสอบ น่าจะทำหายดีได้อยู่

“คิดว่าคงเป็นการผ่านการทดสอบครั้งแรก พลังพรั่งพรูออกมาเลย”

“งั้นเหรอ ประกาศจากพระเจ้าเหรอ พระเจ้าได้บอกชื่อไว้หรือเปล่า?”

ต่างโลกนี้มีเทพอยู่มากมาย คงอยากรู้ว่าพระเจ้าองค์ไหนให้การทดสอบกับอเลน

“เอ๊ะ? เอ่อ บอกว่าเอลเมียร์”

“ทะ เทพแห่งผู้สร้างเหรอ อย่าเรียกห้วนๆอย่างนั้นสิ ต้องเรียกว่าท่านเอลเมียร์”

“เข้าใจแล้วครับ ต่อหน้าคนอื่นจะพูดว่าท่านครับ”

“นะ นั่นสินะ…”

ไม่มีเศษเสี้ยวของความศรัทธา

“ถ้างั้น ตอนพิธีประเมินมันยังไงเหรอ?”

ที่พิธีประเมินอเลนถูกตัดสินว่าไร้พรสวรรค์ และค่าความสามารถทุกอย่างเป็น E ซึ่งรู้สึกประหลาดใจมาโดยตลอด ไม่คิดว่าจะไม่มีพรสวรรค์ด้วย เป็นเด็กที่มีความสามารถจนไม่คิดว่าค่าความสามารถจะต่ำเลย

“เรื่องนั้น 2 เดือนก่อนเอลเมียร์ได้มีการประกาศมาอีกครั้งแล้ว”

“มะ เมื่อเร็วๆนี้เองนี่!?”

“บอกเอาไว้ว่า เกี่ยวกับความสามารถไม่ได้แสดงผิดพลาดเพราะทำการคำนวณจากความเร็วในการเติบโต กับความเร็วในการผ่านการทดสอบ เกี่ยวกับพรสวรรค์เนื่องจากเป็นพรสวรรค์ใหม่ทำให้ยังประเมินไม่ได้ ซึ่งยังไม่ได้ถามถึงพรสวรรค์”

“ยะ อย่างนั้นเหรอ”

อเลนคิดว่ายังไม่ควรบอกเกี่ยวกับนักอัญเชิญ พรสวรรค์ที่สามารถเรียกมอนสเตอร์จากความว่างเปล่าได้ บางทีอาจจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ เลยบอกโรดันและเทเรเซียไปว่าเป็นพรสวรรค์ที่เพิ่งมาใหม่

คิดว่ารอดูอีกสักพัก แล้วค่อยหาโอกาสสารภาพอีกครั้งดีกว่า

ตอนนี้เพื่อที่จะอธิบายถึงพลังและความฉลาด เลยอธิบายแค่ว่าอเลนมีการทดสอบที่คน 100 คนยังไม่อาจทำให้สำเร็จได้ จึงมอบความรู้และพลังให้ไปก่อน

แน่นอนว่าไม่ได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องมาเกิดใหม่ แรกเริ่มตั้งแต่กลับมาเกิดใหม่ควรที่จะปิดบังเรื่องมีความทรงจำเกี่ยวกับโลกก่อนหน้าไว้ด้วย ถ้าเส้นผมกับดวงตาสีดำเป็นหลักฐานของการเกิดใหม่ แสดงว่าผู้มาเกิดใหม่ในชาวบ้านน่าจะมีอยู่น้อยมากๆ หรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้ ถึงจะคิดว่าการตอบสนองอย่างนั้นเพราะเป็นหมู่บ้านแคบๆ แต่หัวหน้ากลุ่มอัศวินเองก็จ้องเหมือนกัน ดูท่าเส้นผมกับดวงตาสีดำจะค่อนข้างหายากอยู่กระมัง

เทเรเซียเข้าไปกอดอเลน

พอจะเข้าใจเหตุผลแล้วว่าทำไมถึงต้องขว้างหินอย่างต่อเนื่องจนต้นไม้ยุบซะขนาดนั้น ตอนนี้ก็ต่อสู้กับอัลบาเฮรอนเพื่อครอบครับ ต่อสู้กับการทดสอบของพระเจ้าเพียงคนเดียวมาโดยตลอด

“ยะ อยากจะให้บอกเร็วกว่านี้สักหน่อยนะ”

“นั่นสินะ น่าจะบอกให้เร็วกว่านี้หน่อย เพราะเป็นพ่อของลูกไง งั้นเหรอการที่ลูกฉลาดอย่างนี้เพราะความรู้ที่พระเจ้าประทานมาให้สินะ”

“ขอโทษครับคุณแม่ คุณพ่อ ที่มาบอกช้าอย่างนี้ ผมคิดว่าอยากจะผ่านการทดสอบนี้ให้ได้ครับ”

พูดเรื่องหลังจากนี้ เทเรเซียทำหน้าสงสัยออกมา ลูกที่น่ารักของตัวเองอยากจะมุ่งหน้าไปยังหนทางที่ยากลำบากลูกของตัวเองที่อยากจะเดินไปยังบทสอบที่คน 100 คนยังไม่อาจผ่านได้

“……งั้นเหรอ นั่นสินะ ท่านเทพแห่งผู้สร้างได้มอบบทสอบให้กับลูกนี่ พระเจ้าคงไม่มอบบททดสอบที่ไม่มีทางผ่านได้หรอก ถ้าหากมีปัญหาแล้วละก็มาบอกพ่อกับแม่ได้เลยนะ”

แต่ดูเหมือนโรดันจะเห็นด้วย สำหรับโรดันที่ล่าหมูป่ามาโดยตลอด ทำให้การทดสอบของพระเจ้าเป็นอะไรที่ใกล้ตัวมากกว่าเทเรเซีย

“ขอบคุณครับ”

“เรื่องนี้บอกกับคนอื่นหรือยัง?”

“ยังครับ คุเรนะเองก็ยังไม่ได้บอกเลย”

“งั้นเหรอ ท่านเทพแห่งผู้สร้างถือเป็นที่สิ้นสุด อย่าพูดกับคนอื่นจะดีกว่า”

ถ้าบอกไปว่ามีแค่ตัวเองที่ได้ยินเสียงของพระเจ้า มีบางคนที่คิดว่าสิ่งนั้นไม่ใช่เรื่องดี

(เอาเถอะ เพราะเป็นครอบครัวก็เลยยอมฟังอยู่ ถ้าบอกคนอื่นคงไม่มีหลักฐานยืนยัน อาจจะบอกว่าโดนพระเจ้าหลอกลวงด้วยซ้ำ)

“อืม”

“แต่ว่านะ”

“เอ๊ะ?”

“โม้กับเกลด้าได้หรือเปล่า?”

“……”

“ไม่ได้งั้นเหรอ?”

“ก็ได้อยู่หรอก”

“นั่นแหละๆ เจ้าหมอนั่นเอาแต่บอกว่ายอดนักดาบๆด้วยความดีใจ ถึงเวลาบอกความสุดยอดของลูกให้รู้บ้างแล้ว”

เห็นได้ชัดเลยว่าพ่อเป็นคนที่อิจฉาเอาเรื่อง ที่เห็นลูกสาวของเพื่อนสนิทยอดเยี่ยม

ถึงจะไม่ค่อยอยากให้พูด แต่ความรู้สึกอึดอัดนั้นก็หายไปในเวลาไม่กี่วัน

Hell mode

Hell mode

Status: Ongoing

ยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า “สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ” ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท