สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1463 ทำลายล้าง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1463 ทำลายล้าง

จอมเวทย์หนุ่มมองไปทางซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นที่มีสีหน้าเคร่งเครียดแวบหนึ่งจากนั้นเม้มปากแน่น ไม่นานจึงกล่าวเสริมขึ้น “ฝ่าบาท ตอนนี้พวกเราควรให้ความสำคัญกับสถานการณ์ของใต้หล้าในตอนนี้ แคว้นเทียนเฟิ่งของเรามีเพียงผงหมึกดำและช้างศึกเท่านั้น ประชากรและทาสของแคว้นเราน้อยเกินไป หากพวกทาสรบชนะความดีความชอบจะกลายเป็นของเจ้านาย หากพวกเขารบแพ้ พวกเขาจะถูกประหาร ดังนั้นพวกเขาเลยไม่กล้าสู้จนตัวตายเหมือนทหารของต้าโจว พวกเรา…ทำสงครามไม่ชนะต้าโจวและต้าเยี่ยนในตอนนี้แน่พ่ะย่ะค่ะ”

จอมเวทย์หนุ่มรู้ดีว่าซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นรู้เรื่องนี้ดีเช่นกัน ทว่า แคว้นเทียนเฟิ่งเป็นแคว้นแข็งแกร่งมาโดยตลอด จักรพรรดิแคว้นเทียนเฟิ่งของเขาจะยอมรับความพ่ายแพ้ได้อย่างไรกัน หลังจากรอดจากความตายมาได้จอมเวทย์หนุ่มมีสติขึ้นมาก เขารู้กระทั่งว่าหากอยากกลายเป็นคนแข็งแกร่ง อันดับแรกต้องยอมรับความอ่อนแอของตัวเองให้ได้เสียก่อน

ดังนั้นวันนี้จอมเวทย์หนุ่มจึงเสี่ยงกล่าวถ้อยคำที่อาจทำให้ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นโมโหกับซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเช่นนี้

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกำถ้วยชาในมือแน่น หากเขาไม่รู้เหตุใดเขาต้องเดินทางมายุยงให้ตงอี๋ก่อสงครามกับต้าโจวเช่นนี้กัน เขารู้ดีว่าแคว้นเทียนเฟิ่งเพียงแคว้นเดียวไม่สามารถรับมือกับต้าโจวและต้าเยี่ยนได้ดังนั้นเขาจึงเดินทางมาที่นี่

หลิ่วหรูซื่อนั่งขัดสมาธิอยู่ในคุกที่กำแพงเต็มไปด้วยตะไคร่น้ำและเหม็นอับไปด้วยกลิ่นไม่พึงประสงค์ เศษหญ้าในคุกไม่ได้แห้งสนิท มีแมลงไต่ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด แสงไฟสลัวที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างรูเล็กทำให้หลิ่วหรูซื่อพอมองเห็นหนูประมาณห้าหกตัวกำลังวิ่งหาของกินอยู่ในคุก

หลิ่วหรูซื่อหลับตาลงอย่างพยายามข่มความสะอิดสะเอียนและน่าขยะแขยง

ขุนนางต้าโจวที่เพิ่งถูกจับมาขังไว้ในคุกเดียวกับหลิ่วหรูซื่อไม่ยอมกินอาหารที่แม้แต่สุนัขยังไม่กินที่คนคุมคุกนำมาให้เหมือนกับที่หลิ่วหรูซื่อเป็นตอนแรก พวกเขามองดูหนูคว่ำจานข้าวจนหกกระจายนิ่งโดยไม่ยอมแตะต้องอาหารเหล่านั้นแม้แต่น้อย

หลิ่วหรูซื่อพยายามโน้มน้าวพวกเขาแล้ว ทว่า ไม่ได้ผล แต่อีกไม่นานพวกเขาก็คงทนความหิวไม่ได้และยอมกินอาหารเหล่านั้นเอง การมีชีวิตรอดสำคัญกว่าสิ่งใดทั้งหมด หลิ่วหรูซื่อเชื่อว่าขอเพียงพวกเขายังมีชีวิตอยู่ไป๋ชิงเหยียนต้องส่งคนมาช่วยพวกเขาอย่างแน่นอน เพราะจักรพรรดินีของพวกเขาเป็นจักรพรรดินีที่ไม่มีทางทอดทิ้งขุนนางและชาวบ้านของตัวเองแม้แต่คนเดียว

ทันใดนั้นหลิ่วหรูซื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ ขุนทางต้าโจวอีกสี่คนที่ถูกขังรวมกับหลิ่วหรูซื่อหันไปสบตากันเอง จากนั้นมองไปทางหัวหน้าของพวกเขาอย่างหลิ่วหรูซื่อ พวกเขาเห็นหลิ่วหรูซื่อลืมตาขึ้นพลางมองไปทางนอกห้องขังเช่นกัน

“ใต้เท้าหลิ่ว…” ขุนนางต้าโจวคนอื่นๆ รีบยืดกายตรงพยางขยับเข้าไปใกล้หลิ่วหรูซื่อโดยไม่รู้ตัวราวกับหลิ่วหรูซื่อคือเสาหลักของพวกเขา “เหมือนจะมีคนมาขอรับ!”

ในคุกมีเพียงหน้าต่างบานเล็กๆ เพียงบานเดียวเท่านั้น พวกเขาไม่รู้เวลาของโลกภายนอก ได้แต่คำนวณวันผ่านความมืดและแสงสว่างจากนอกหน้าต่างเท่านั้น ตอนนี้นอกหน้าต่างมองไม่เห็นดวงจันทร์เสี้ยวแล้ว จากประสบการณ์ของหลิ่วหรูซื่อเขาคิดว่าฟ้าคงใกล้สว่างแล้ว

“มิเป็นอันใด ไม่ต้องกลัว…” หลิ่วหรูซื่อกล่าวเสียงแหบพร่า

ไม่นานทหารองครักษ์ของราชวงศ์สองกองทัพก็เดินมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องขังอย่างรวดเร็ว พวกเขากำดาบที่เอวของพวกเขาแน่น องครักษ์กลุ่มหนึ่งยืนเฝ้าทางซ้ายและขวาของประตูห้องขัง องครักษ์อีกกลุ่มยืนอยู่หน้าประตูห้องขัง

จักรพรรดิตงอี๋ซึ่งสวมชุดประจำตำแหน่งจักรพรรดิเดินเข้ามาอย่างช้าๆ เมื่อเห็นหลิ่วหรูซื่อที่ซูบผอมลงไปมากจึงนึกขึ้นได้ว่าหลิ่วหรูซื่อถูกขังอยู่ในนี้นานแล้ว ทว่า สีหน้าของเขาไม่ได้หม่นหมองเหมือนนักโทษที่ถูกขังอยู่ในคุกคนอื่นๆ แม้เครื่องแต่งกายของเขาจะไม่ได้เป็นระเบียบเหมือนตอนที่พบกันครั้งแรก ทว่า ยังดูสะอาดเรียบร้อยดี นอกจากร่างของเขาจะซูบผอมลงกว่าเดิม อย่างอื่นดูไม่แตกต่างจากเดิมสักนิด

จักรพรรดิตงอี๋ยืนเอามือไพล่หลังอยู่หน้าประตูห้องขัง เขารู้ว่าหลิ่วหรูซื่อคือขุนนางที่ใกล้ชิดกับไป๋ชิงเหยียนจึงกล่าวขึ้น “หลิ่วหรูซื่อ ข้าได้ยินว่าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวให้ความสำคัญกับเจ้ามาก เจ้าคิดว่าจักรพรรดินีต้าโจวจะให้ความสำคัญกับเจ้าหรือการเดิมพันกับต้าเยี่ยนมากกว่ากัน”

ดวงตาล้ำลึกของหลิ่วหรูซื่อจ้องไปทางจักรพรรดิตงอี๋นิ่งโดยไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น

“เจ้าคิดว่าหากข้าใช้ชีวิตของเจ้าและขุนนางต้าโจวอีกสี่คนรวมถึงศพของหานเฉิงอ๋องแลกหยกจักจั่นกับจักรพรรดินีของต้าโจว จักรพรรดินีต้าโจวจะตกลงหรือไม่” จักรพรรดิตงอี๋เอ่ยถามยิ้มๆ

หลิ่วหรูซื่อกระจ่างแจ้งในทันที ที่แท้จักรพรรดิตงอี๋พุ่งเป้าไปที่หยกจักจั่นเช่นเดียวกับจักรพรรดิเทียนเฟิ่ง การย้อนเวลาทำให้พวกเขาเสียสติไปแล้ว พวกเขาเชื่อเรื่องเหลวไหลพรรค์นี้ลงได้อย่างไรกัน!

เมื่อเห็นท่าทีของจักรพรรดิตงอี๋รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่ดวงตาของหลิ่วหรูซื่อเล็กน้อย “จักรพรรดินีของกระหม่อมส่งหยกจักจั่นสามชิ้นมาให้องค์ชายสองแล้วไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายสองยังไม่ได้รับหรือพ่ะย่ะค่ะ”

หลิ่วหรูซื่อไม่ได้เปลี่ยนสรรพนามเรียกขานองค์ชายสอง ในสายตาของหลิ่วหรูซื่อองค์ชายสองเป็นเพียงกบฏ สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากขึ้นครองบัลลังก์คือสังหารพี่ชายของตัวเอง ตอนนี้ยังคงส่งคนออกตามหาองค์ชายเจ็ดไม่หยุดหย่อนเพราะกลัวว่าองค์ชายเจ็ดจะเป็นอันตรายต่อบัลลังก์ของตัวเอง

สัตว์เดรัจฉานไร้ความเมตตาเช่นนี้ไม่คู่ควรสวมชุดจักรพรรดิ เขาเป็นเพียงกบฏโหดร้ายเท่านั้น ช่างน่าสมเพชสิ้นดี!

หลิ่วหรูซื่อคือขุนนางของต้าโจว เขาไม่มีทางยอมรับจักรพรรดิเลวทรามยิ่งกว่าสุนัขผู้นี้เป็นจักรพรรดิของตงอี๋แทนต้าโจวแน่นอน

จักรพรรดิตงอี๋หรี่ตาแคบลงเล็กน้อย เขาเดินเข้าไปใกล้ประตูห้องขังอีกนิดราวกับต้องการมองหน้าหลิ่วหรูซื่อให้ชัดเจน เขาใช้นิ้วมือลูบหยกจักจั่นตัวเมียของตัวเองเบาๆ จากนั้นกล่าวขึ้น “มารอดูกันว่าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวจะเห็นความสำคัญของพวกเจ้าและศพของหานเฉิงอ๋องมากเพียงใด เรา…จะให้เวลาจักรพรรดินีต้าโจวเพียงสามเดือนเท่านั้น หากต้าโจวยังหาหยกจักจั่นไม่พบภายในสามเดือน เกรงว่าพวกเจ้าคงต้องกลายเป็นศพเช่นเดียวกับหานเฉิงอ๋องแน่ ใต้เท้าหลิ่วกลัวหรือไม่”

“องค์ชายสองก่อกบฏขึ้นเป็นจักรพรรดิ เปิดศึกกับต้าโจวอย่างไร้เหตุผลจนหานเฉิงอ๋องของต้าโจวเสียชีวิตในสนามรบ ทหารเรือที่คุ้มครองชาวประมงออกมาหาปลาในทะเลต้องจบชีวิตลงในสงครามทั้งหมด ท่านจับตัวขุนนางของต้าโจวขังไว้ในคุก ตอนนี้ยังกล้าคิดใช้ชีวิตของพวกข้าและหานเฉิงอ๋องแลกหยกจักจั่นของพระภัสดาจากฝ่าบาทของพวกเราอีกหรือ!” หลิ่วหรูซื่อแสยะยิ้มออกมาอย่างไม่หวาดกลัวจักรพรรดิตงอี๋แม้แต่น้อย “องค์ชายสองคงยังหลับฝันอยู่กระมัง หากยังไม่ตื่นจากฝันก็เชิญกลับไปนอนต่อเถิด บางทีความฝันอาจกลายเป็นความจริงได้บ้าง!”

จักรพรรดิตงอี๋ชะงักมือที่ไพล่อยู่ทางด้านหลังที่กำลังลูบหยกจักจั่นอยู่ เขาพยายามข่มไอสังหารของตัวเองเอาไว้พลางกล่าวเสียงเยือกเย็น “ดูเหมือนว่าใต้เท้าหลิ่วไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วจริงๆ”

“ข้าไม่ได้อยากตาย เกรงว่าคนที่ไม่น่ารอดน่าจะเป็นองค์ชายสองมากกว่า!” หลิ่วหรูซื่อยกยิ้มมุมปาก ไอสังหารที่ไม่เหมือนกับบัณฑิตคนหนึ่งเกิดขึ้นในแววตาของหลิ่วหรูซื่อ “องค์ชายสองยังไม่รู้จักจักรพรรดินีของต้าโจวดีพอ กระหม่อมเคยมีโอกาสติดตามฝ่าบาทไปเจรจากับซีเหลียงตอนที่ซีเหลียงพ่ายแพ้ต้าโจวในสงครามที่หนานเจียง ตอนนั้นฝ่าบาทของกระหม่อมตรัสไว้ว่าผู้ใดสังหารคนของต้าโจวแม้แต่คนเดียว ฝ่าบาทจะสังหารพวกนั้นกลับเป็นพันหมื่นคน ฝ่าบาทจะยกทัพบุกไปทำลายแคว้นนั้นให้ย่อยยับ! ขนาดแคว้นใหญ่อย่างซีเหลียง…ต้าโจวยังทำลายย่อยยับมาแล้วเลย!”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท