ตอนที่ 198 ช่วยไว้ได้
คำพูดซินโย่วทำให้ไต้เจ๋อเผยแววตาตกใจ “คุณหนูโค่วรู้ได้อย่างไร”
จังซวี่ตบไหล่เขา “เจ้าลืมแล้วหรือว่าคุณหนูโค่วเป็นใคร”
ไต้เจ๋อตบหน้าผากตนเอง แววตาสนิทสนมยิ่ง “คุณหนูโค่วช่างเทพจริง จวนข้ามีวานรตัวหนึ่ง!”
“คุณชายไต้บอกเล่าเรื่องของวานรได้หรือไม่ว่าเริ่มเลี้ยงตอนไหน มีที่มาอย่างไร”
ไต้เจ๋อไม่คิดอันใด เอ่ยเล่าออกมาหมดเปลือก “ข้าได้อ่าน ‘บันทึกตะวันตก’ แล้วก็นึกสนใจวานรมาก เจ้าวานรนี่ข้าให้คนที่บ้านนำกลับมาให้ข้า คล้ายเป็นวานรจากเขาเชียนอิง…”
จังซวี่อดชื่นชมอิจฉาไม่ได้ “ครอบครัวเจ้าตามใจเจ้าจริง”
ไม่อยากเรียนก็ไม่ต้องเรียน คิดอยากเลี้ยงวานรก็เลี้ยงวานร…ไหนเลยจะเหมือนเขา ถูกบีบให้เข้าไปเรียนในสำนักศึกษากั๋วจื่อเจี้ยนไม่ว่า สอบได้ที่โหล่ก็ถูกตี ปัญหาก็คือเขาสอบได้ที่โหล่ทุกปี ผู้ใดจะทนไหวกัน!
ซินโย่วได้ยินชื่อเขาเชียนอิง แน่ใจว่าวานรในภาพที่เห็นก็คือเจ้าวานรตัวนั้น
โค่วชิงชิงเคยขึ้นไปบนเขาเชียนอิง
“คุณหนูโค่ว เจ้าวานรมีอันใดไปหรือ” ไต้เจ๋อสีหน้าแปรเปลี่ยน “หรือว่าจะทำร้ายข้า”
คงไม่เหมือนเจ้านกยูงควรตายนั่นกระมัง..ไต้เจ๋อบ่นพึมพำขึ้นด้วยสัญชาตญาณ สีหน้ายิ่งย่ำแย่
เห็นสีหน้าแปรเปลี่ยนของไต้เจ๋อแล้ว ซินโย่วก็พยักหน้าด้วยสีหน้านิ่งเรียบ “เจ้าวานรจะข่วนเจ้าบาดเจ็บ”
“เจ้าเดรัจฉานนั่นกล้าข่วนข้าบาดเจ็บจริงหรือ” ไต้เจ๋อแค่นเยาะ “กลับไป ข้าจะลอกหนังเจ้าวานรมาเคาะกะโหลก!”
แววตาซินโย่วเย็นเยียบ
ในภาพที่เห็นเจ้าวานรข่วนไต้เจ๋อบาดเจ็บแล้ว บรรดาบ่าวก็กรูเข้าไปตะโกนลงมือฟาด คิดถึงว่าครั้งนี้เจ้าวานรคงเอาชีวิตไม่รอด ส่วนหนึ่งก็เพราะนางบอกเล่าเรื่องนี้
เจ้าวานรตัวนั้นมีบุญคุณนำทางให้นางกับเสี่ยวเหลียนได้พบโค่วชิงชิง นางไม่อาจเห็นมันกำลังจะตายแล้วนิ่งดูดายได้
แม้รู้สึกไม่ดีที่ไต้เจ๋อมองสรรพชีวิตดังผักปลา แต่สีหน้าซินโย่วยังคงไม่แสดงออก เอ่ยน้ำเสียงลุ่มลึก “คุณชายไต้ อย่าได้ทำเช่นนี้เด็ดขาด ตีเจ้าวานรตาย โชคร้ายอาจไปเกิดที่อื่น”
ไต้เจ๋อเริ่มลนลาน “แล้วข้าควรทำอย่างไร”
ซินโย่วหลุบตาลงครุ่นคิดแล้วก็เอ่ยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “เอาอย่างนี้ คุณชายไต้มอบเจ้าวานรตัวนั้นให้ข้าได้หรือไม่ วันหน้าท่านกับมันก็ไม่มีเหตุผลต้นกรรมเกี่ยวข้องกันอีก”
“จริงหรือ” ไต้เจ๋อเผยสีหน้ายินดี “ข้ากลับไปจะรีบส่งเจ้าเดรัจฉานมา…”
“แค็ก แค็ก แค็ก!” จังซวี่กระแอมไอเตือน
ไต้เจ๋อมองจังซวี่ทีหนึ่ง
จังซวี่สีหน้าไร้คำพูด
เขาเป็นคนไม่ค่อยรู้จักมารยาทในสังคมแล้ว เหตุใดไต้เจ๋อยังสู้เขาไม่ได้อีก พอได้ยินคุณหนูโค่วบอกให้ส่งเจ้าวานรมาได้ก็รีบรับคำ อย่างไรก็ควรเอ่ยวาจาเกรงใจสักหน่อยไหม
ไม่ใช่ว่าเขาคิดเผื่อคุณหนูโค่ว แต่เพราะวันหน้ายังคิดอาศัยคุณหนูโค่วดูนรลักษณ์ให้ดี จำต้องรักษาความสัมพันธ์ให้ยืนยาวไหม
ไต้เจ๋อเองก็ได้สติ ประสานมือกล่าวขอบคุณ
“คุณชายไต้รีบไปเถอะ”
จังซวี่รีบถามขึ้นว่า “คุณหนูโค่ว ข้าล่ะ”
ซินโย่วจ้องมองจังซวี่ทีหนึ่ง ยิ้มเอ่ยขึ้นว่า “ระยะนี้คุณชายจังไม่มีปัญหา”
“เช่นนั้นก็ดี” จังซวี่โล่งอก
ไต้เจ๋อไม่มีเวลามาอิจฉาความโชคดีของสหาย รีบออกจากร้านหนังสือกระโดดขึ้นม้า วิ่งกลับจวนกู้ชางป๋อ พบว่าจังซวี่ก็ตามมาด้วย
“เจ้าไม่กลับบ้าน?”
“ข้าเป็นเพื่อนเจ้าเอาเจ้าวานรนั่นมาส่ง”
เรื่องน่าสนุกเช่นนี้น่าสนใจกว่าชมโคมไฟมาก
มีคนเป็นเพื่อนก็ย่อมดี ไต้เจ๋อพาจังซวี่ตรงไปยังที่เลี้ยงวานร
เจ้าวานรถูกขังในกรง เดิมขยับตัวไม่ได้ แต่พอเห็นไต้เจ๋อมาก็กระโดดจะพุ่งใส่เขาพลางส่งเสียงร้องดุร้าย
จังซวี่อ้าปากค้าง “นี่ก็คือเจ้าวานรนั่นหรือ ดุร้ายจริง”
มิน่าจะทำร้ายไต้เจ๋อบาดเจ็บได้
เดิมไต้เจ๋อรู้สึกว่าเจ้าวานรเป็นของเล่นใหม่น่าสนใจ แต่ตอนนี้มองเจ้าวานรนี่แล้วก็รู้สึกว่าโชคร้าย สั่งให้คนงานย้ายกรงขึ้นรถม้าตรงไปร้านหนังสือชิงซง
ร้านหนังสือชิงซง หลิวโจวอยากรู้ถามขึ้นว่า “ท่านเจ้าของร้าน คุณชายไต้จะถูกวานรข่วนบาดเจ็บจริงหรือขอรับ”
ซินโย่วยิ้ม “คุณชายไต้ส่งเจ้าวานรมาก็ไม่มีเรื่องนี้แล้ว”
หลิวโจวรู้สึกเป็นห่วง “แล้วเจ้าวานรมาร้านหนังสือเราชิงซง จะไม่ก่อเรื่องกระมัง”
เสี่ยวเหลียนค้อนใส่เขาทีหนึ่ง “วานรตัวเดียว จะทำให้ฟ้าถล่มได้หรือ”
“ราชาวานรใน ‘บันทึกตะวันตก’ ไม่ใช่ถล่มสวรรค์หรือ” หลิวโจวงึมงำ
ผู้ดูแลร้านหูเอ่ยแทรกขึ้น “ท่านเจ้าของร้าน ‘บันทึกตะวันตก’ เล่มสองจะออกวางขายได้เมื่อใด”
วันนี้ได้ดูท่าทีคุณชายไต้กับคุณชายจังต่อเจ้าของร้าน ก็พอวางใจได้บ้าง
“เช่นนั้นก็วันที่สิบแปดเดือนหนึ่ง”
ตอนนี้ทุกคนในร้านหนังสือต่างไม่รู้สึกลังเลสงสัยกับการตัดสินใจของซินโย่วแม้สักนิด กำหนดการวางขาย ‘บันทึกตะวันตก’ เล่มสองจึงถูกกำหนดเช่นนี้แล้ว
“คุณหนูโค่ว เจ้าวานรมาแล้ว!” ไต้เจ๋อเดินนำหน้ามา เอี้ยวตัวหลบให้เห็นคนงานแบกกรงเข้ามาด้วย
ซินโย่วสบตากับเจ้าวานรในกรง มุมปากอดแย้มยกไม่ได้
เป็นเจ้าวานรตัวนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ล้วนกล่าวว่าได้พบเพื่อนเก่าเป็นเรื่องมงคล การได้พบเจ้าวานรที่เคยได้พบกันอีกครั้ง ก็นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี
เจ้าวานรนิ่งอึ้งไปทันที ครู่หนึ่งผ่านไปก็ไม่รู้ว่าจำซินโย่วได้หรืออย่างไร ก็เริ่มส่งเสียงร้องอย่างตื่นเต้นขึ้นมา
“คุณหนูโค่ว เจ้าระวังหน่อย เจ้าวานรนี้ดุร้ายมาก” ตอนนี้ไต้เจ๋อยิ่งมองเจ้าวานรก็ยิ่งขัดตา
เจ้าวานรคล้ายฟังเข้าใจ หันขวับไปหาไต้เจ๋อทันที พร้อมส่งเสียงร้อง “เจี๊ยก เจี๊ยก”
“ไม่เป็นไร ข้าจะดูแลมันเอง” ซินโย่วน้ำเสียงมั่นใจ คิดจะส่งเจ้าวานรกลับไปหุบเขาลึก เพราะนางเองก็ไม่ได้คิดว่าตนเองจะควบคุมเจ้าวานรได้
เขาเชียนอิงอาจไม่ปลอดภัยพอ น่าจะส่งไปไกลอีกหน่อยได้
คิดถึงเขาเชียนอิง ซินโย่วก็นึกถึงโค่วชิงชิงที่ยังนอนอยู่ที่ถ้ำใต้หน้าผา นางได้หารือกับเสี่ยวเหลียนไว้แล้ว รอถึงฤดูใบไม้ผลิ จะเลือกวันที่เหมาะสมไปเก็บกระดูกโค่วชิงชิง ให้นางฝังลงดินเป็นสุขนิรันดร์
จะว่าไปก็แปลก เจ้าวานรคล้ายฟังซินโย่วเข้าใจ นิ่งสงบลงทันที
สีหน้าไต้เจ๋อนึกคาดไม่ถึง จังซวี่เองก็มีสีหน้าตกใจ แต่ไม่นานทั้งสองคนก็คิดได้ นี่คือคุณหนูโค่ว เจ้าวานรเชื่อฟังคำพูดนางมีอันใดแปลก
“มิน่าคุณหนูโค่วให้ข้าเอาเจ้าวานรมาส่งที่นี่” ไต้เจ๋อขยิบตาให้คนงานอีกคน
คนงานผู้นั้นรีบยกกล่องสี่เหลี่ยมออกมา
“นี่คือของขวัญขอบคุณที่มอบให้คุณหนูโค่ว ขอคุณหนูโค่วโปรดรับไว้” ไต้เจ๋อหัวเราะเบาๆ พลางเอ่ย
“ไม่ต้อง แค่ความช่วยเหลือเล็กน้อยเท่านั้น”
“คุณหนูโค่วต้องรับไว้ วันหน้าข้ายังต้องมาขอให้เจ้าดูนรลักษณ์อีก”
จังซวี่เองก็ส่งถุงเงินให้ “นี่คือของขวัญขอบคุณของข้า ขอคุณหนูโค่วรับไว้ด้วย”
“คุณชายจังไม่เป็นไร จะรับของขวัญขอบคุณได้อย่างไร…”
จังซวี่รีบเอ่ยว่า “คุณหนูโค่วดูนรลักษณ์ให้ข้า ข้าจึงได้รู้ว่าตนเองไม่เป็นอันใด คงไม่อาจให้คุณหนูโค่วดูนรลักษณ์ให้ข้าเปล่าๆ กระมัง”
ทั้งสองคนกลัวซินโย่วปฏิเสธ ทิ้งเจ้าวานรแล้วก็รีบวิ่งหนีไป
“ท่านเจ้าของร้าน เจ้าวานรนี่ทำอย่างไรดีขอรับ” หลิวโจวถาม
ซินโย่วคิดแล้วก็เอ่ยว่า “เสี่ยวเหลียน ไปที่ห้องครัวเอาผลไม้มาหน่อย ดูท่ามันหิวแล้ว”
เจ้าวานรหิวจริง แม้มีพวกผู้ดูแลร้านหูมุงดู ก็ยังเขมือบกินผลไม้สดหมดเกลี้ยง
“กินอิ่มแล้ว?” ซินโย่วยิ้มถามเจ้าวานร แน่นอนว่าไม่หวังว่ามันจะฟังเข้าใจ สั่งการหลิวโจวเตรียมรถ
คนที่พาเจ้าวานรไปส่งคืนป่าพร้อมกับซินโย่ว นอกจากเสี่ยวเหลียน ยังมีขบวนผู้คุ้มกันนำโดยหัวหน้า หยาง ไม่นานทุกคนก็มาถึงเชิงเขา รถม้าจอดสนิทลง