ตอนที่ 511 พลิกผัน(2)
ตอนที่ 511 พลิกผัน(2)
ถูเฉิงเสียงเห็นภรรรยากลับมา ก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตอนนี้จบแล้ว เรื่องของคุณแพร่ไปทุกที่แล้ว แม้แต่อารองก็ยังมาหาผมเลย”
เมื่อเห็นท่าทางของสามี คังอันเหอก็ระบายความโกรธที่อดกลั้นเอาไว้เมื่อสักครู่ออกมา
“คุณจะตวาดหาอะไร ตวาดใส่ฉันตอนนี้แล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา ตอนนั้นคุณมัวทำอะไรอยู่ล่ะ”
ไม่นานทั้งสองสามีภรรยาก็เริ่มทะเลาะกัน
ทางด้านนี้มีเรื่องหลายอย่างเกิดขึ้น ส่วนทางฝั่งฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่นั้นกลับรักใคร่กลมเกลียวกันอย่างอบอุ่น
เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น ฉินมู่หลานก็ตื่นขึ้นขณะได้ยินเสียงนกหวีด
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นแบบนี้ จึงรีบบอกกล่าว “มู่หลาน คุณนอนต่ออีกหน่อยเถอะ ผมจะไปออกกำลังกายตอนเช้าก่อน เดี๋ยวค่อยกลับมาทำอาหารเช้าให้คุณ”
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันไปกินที่มหาวิทยาลัย”
“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นผมไปก่อนนะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่ลูบหัวของฉินมู่หลาน แล้วบอกให้เธอนอนต่ออีกสักหน่อย
หลังจากเขาออกไป ฉินมู่หลานก็ยังอยากนอนต่อ แต่เธอกลับนอนไม่หลับแล้ว ดังนั้นจึงลุกขึ้นแล้วจัดแจงข้าวของ ก่อนจะเดินทางไปมหาวิทยาลัย แต่เมื่อก้าวขาออกจากประตูก็เห็นว่าเหวินเชี่ยนมาแล้ว
“เหวินเชี่ยน เธอมาทำไมเหรอ”
“ฉันมาพาพี่สะใภ้ไปมหาวิทยาลัยค่ะ”
ขณะพูด เหวินเชี่ยนก็กลอกตาไปทางกองทหารเป็นการสื่อความหมาย
ฉินมู่หลานเห็นแล้วก็เข้าใจว่าเซี่ยเจ๋อหลี่เรียกให้คนมา เธอทราบดีว่าเขาเป็นห่วงตน จึงไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงแค่ยกยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปกันเถอะ”
ฉินมู่หลานเพิ่งออกไป คังอันเหอก็ออกมา หล่อนเฝ้ามองแผ่นหลังฉินมู่หลานและเหวินเชี่ยนที่กำลังเดินจากไป ก่อนจะขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย นึกไม่ถึงเลยว่าฉินมู่หลานจะมีคนคอยอยู่ข้างกายเสมอ นี่เพื่อคุ้มกันเธอหรอกหรือ จะเล่นใหญ่เกินไปแล้ว
คังอันเหอเกลียดฉินมู่หลาน ได้แต่รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่ตอนนี้หล่อนกลับทำให้ทุกคนในบ้านพักครอบครัวนินทาตน
ดังนั้น…ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความผิดของฉินมู่หลาน
เมื่อคิดได้แบบนี้ คังอันเหอก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
หล่อนสูดลมหายใจเข้าลึกพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง จากนั้นก็ปรับสีหน้าให้สงบ แล้วไปทำงาน
ฉินมู่หลานไม่ทราบว่าเธอและคังอันเหอกำลังเดินตามกันออกมาข้างนอก แต่ถึงจะรู้ก็ไม่ได้สำคัญอะไร หลังจากเรียนเสร็จไปหนึ่งวัน เธอก็กลับมาอีกครั้ง
เพียงแต่ตอนที่เพิ่งกลับถึงบ้านก็ถูกขวางเอาไว้
“มู่หลาน รอเดี๋ยวก่อน”
เมื่อได้ยินว่าเป็นเสียงของเป่ยไห่หง ฉินมู่หลานก็หันหน้าไปหาพร้อมรอยยิ้ม “พี่สะใภ้ เรียกฉันเหรอคะ”
เป่ยไห่หงยกยิ้มพลางยื่นถุงสีแดงมาให้ ก่อนจะกล่าว “นี่ของพวกเธอ รีบรับไปสิ”
“นี่คือ?”
เป่ยไห่หงอธิบายพร้อมรอยยิ้ม “วันเกิดพ่อของอันเหอ พวกเขาสองสามีภรรยาก็เลยซื้อลูกท้อตามจำนวนวันเกิดให้กับผู้ใหญ่ที่บ้าน หล่อนบอกว่าแบ่งไปให้ทางฝั่งบ้านพ่อแม่แล้ว ที่เหลือก็ยังมีอีกเยอะมาก ก็เลยเอามาแจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน รีบรับไปสิ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็ขมวดคิ้วแล้วมองไปยังถุงสีแดง ไม่ได้ยอมรับไปในทันที
เป่ยไห่หงเห็นแบบนี้ก็อดพูดไม่ได้ “มู่หลาน วันนี้ป้าฉีบอกเรื่องบางอย่างกับพวกเรา บอกว่าลองสืบข่าวลือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้แล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่เกี่ยวกับอันเหอ แต่จะเป็นใครนั้นกำลังสืบสวนอยู่ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้อาจมีอะไรเข้าใจผิดกันก็ได้”
ฉินมู่หลานไม่ทราบเรื่องนี้เลย เมื่อได้ยินแบบนี้ จึงรู้สึกชื่นชมคังอันเหอนิดหน่อย เพียงแค่วันเดียวหล่อนก็ทำให้เรื่องพลิกผันได้ขนาดนี้ นี่คงเป็นเพราะอยากแก้ต่างให้ตัวเองอย่างนั้นใช่ไหม
ขณะที่ฉินมู่หลานกำลังจะรับถุงแดงนั้นไป เซี่ยเจ๋อหลี่ก็เข้ามาพอดี เขายิ้มแล้วหยิบถุงแดงนั้นจากมือของเป่ยไห่หง อีกทั้งยังเอ่ยขอบคุณ
“ผู้กองเซี่ยมาแล้วเหรอ ถ้าอย่างนั้นพวกเธอรีบเข้าไปข้างในกันเถอะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นก็พาฉินมู่หลานเข้าไปในบ้าน
หลังจากทั้งสองเข้าไปในบ้าน เซี่ยเจ๋อหลี่ก็วางถุงสีแดงนั้นลง ก่อนจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้ฉินมู่หลานฟัง “ผบ.เรียกผมไปพบ บอกว่าพวกเขาสืบสวนเรื่องนี้แล้ว คนแรกที่เผยแพร่ข่าวลือนี้ไม่ใช่คังอันเหอ แต่เป็นพี่สะใภ้อีกสองคน บอกว่าตอนหล่อนกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด ได้ไปหาพี่สะใภ้อีกสองคนที่เหอเป่ย ก็เลยพูดเรื่องคุณขึ้นมา เป็นสาเหตุให้ข่าวลือในครั้งนี้แพร่ไปทั่ว”
“บังเอิญจัง”
ฉินมู่หลานได้แต่รู้สึกว่าเรื่องมันบังเอิญเกินไป ที่อยู่ ๆ ก็ไปพบพวกพี่สะใภ้ที่เหอเป่ย “สอบสวนชัดเจนแล้วใช่ไหมคะว่าเป็นใคร แล้วพี่สะใภ้ที่เหอเป่ยนั่นล่ะ เรื่องนี้จะเอามาพูดพล่อย ๆ ไม่ได้ ต้องหาหลักฐานมาด้วย”
เธอรู้สึกว่าต้องเป็นฝีมือของคังอันเหอ แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับมาอ้างว่าเป็นพี่สะใภ้ที่เป็นคนนอกแทน ฉินมู่หลานย่อมไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด
เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ไม่ค่อยเชื่อนัก แต่ตอนนี้มีคนกำลังสืบสวนอยู่ พวกเขาจึงต้องรอผล
“ยังไม่รู้แน่ชัดเลย ต้องรอผลสืบสวนออกมาก่อนถึงจะรู้”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ จึงหันไปมองเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วเอ่ยถาม “คุณคิดว่ายังไงบ้างคะ?”
“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับหลักฐาน พวกเรามารอผลกันก่อนเถอะ”
ฉินมู่หลานก็เข้าใจว่าทุกอย่างต้องรอหลักฐาน เธอจึงพยักหน้าแล้วกล่าว “ได้ ฉันเข้าใจแล้ว รอผลสืบสวนก่อน แต่ว่า…คนที่ไปสืบนี่น่าเชื่อถือใช่ไหมคะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่พยักหน้าแล้วกล่าว “เชื่อได้”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีค่ะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่พูดแบบนั้นแล้ว ฉินมู่หลานก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก
เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น หลังจากฉินมู่หลานไปเข้าเรียน ถูไคหัวก็เรียกเซี่ยเจ๋อหลี่ไปเข้าพบ
“อาหลี่ ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว นายลองดูก่อนเถอะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินแบบนี้ ก็รับข้อมูลที่ถูไคหัวส่งมาให้ หลังจากอ่านระละเอียแล้ว ก็เอ่ยขึ้น “ผบ. ครับ สองคนนี้คือพี่สะใภ้พวกนั้นเหรอ?”
ถูไคหัวพยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ใช่ เป็นภรรยาของเหล่าหวังและเหล่าเฉิน เฮ้อ…เรื่องนี้ภรรยาของพวกเขาทั้งสองผิดก็จริง แต่พวกหล่อนก็ไม่ได้คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก คิดว่าเป็นเพียงแค่เรื่องซุบซิบเล็กน้อยเท่านั้น ไม่คิดว่าตอนนี้มันจะกระจายไปทั่ว จนทุกคนในบ้านพักครอบครัวทราบเรื่องนี้กันหมดแล้ว”
หลังจากพูดจบ ถูไคหัวก็กล่าวต่อ “อาหลี่เอ๊ย ฉันเข้าใจว่าภรรยาของนายเป็นผู้ถูกกระทำในครั้งนี้ ถึงเวลาพวกเราจะชดเชยให้เธออย่างเหมาะสม แล้วก็จะบอกให้เหล่าหวังและเหล่าเฉินไปสั่งสอนภรรยาของพวกเขาให้ดี”
“ผบ.ครับ พี่สะใภ้ทั้งสองยอมรับแล้วเหรอครับ?”
ถูไคหัวพยักหน้าแล้วเอ่ย “ใช่ พวกหล่อนยอมรับหมดแล้ว แล้วก็จะขอโทษภรรยาของนายด้วย หลายวันมานี้พวกหล่อนเป็นกังวลมาก ตอนนี้พอถูกจับได้แล้ว ก็เลยตระหนักว่าตัวเองทำผิด”
เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินแบบนี้ก็ไม่พูดอะไรอีก ได้แต่จ้องมองข้อมูลที่อยู่ในมือ
ถูไคหัวก้าวไปข้างหน้าพลางตบบ่าของเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วพูดว่า “อาหลี่เอ๊ย นายกับเหล่าหวังและเหล่าเฉินก็ค่อนข้างสนิทกันดี ไม่รู้เลยว่าพวกเขาจะเป็นคนแบบนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้มันเป็นเรื่องบังเอิญ แค่เป็นการซุบซิบนินทาของผู้หญิง ไม่คิดเลยว่ามันจะไปกระทบกับภรรยาของนายขนาดนั้น นับว่าไม่เหมาะสมเลยจริง ๆ เดี๋ยวรอภรรยาของนายกลับมา ก็ให้พวกเขาไปขอโทษให้เป็นกิจลักษณธแล้วกันนะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ขานรับ “ครับ”
จนกระทั่งฉินมู่หลานมา เซี่ยเจ๋อหลี่ก็บอกเรื่องนี้กับเธอ
“ใช่เหรอ นี่เป็นผลการสืบสวนเหรอคะ คาดไม่ถึงเลยจริง ๆ”
ฉินมู่หลานเห็นแบบนี้ก็ยกยิ้ม ยังไม่ทันจะได้พูดต่อ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากข้างนอก หลังจากเซี่ยเจ๋อหลี่ไปเปิดประตู ก็พบว่าเป็นเหล่าหวังและเหล่าเฉินที่มาพร้อมกับภรรยาของพวกเขา
“ผู้กองเซี่ย พวกเราไม่คิดมาก่อนเลยว่าภรรยาของพวกเราจะเป็นฝ่ายเริ่มข่าวซุบซิบ ขอโทษจริง ๆ ครับ” พูดจบก็ก้มศีรษะยอมรับความผิด หลังจากนั้นพวกเขาก็พาภรรยามาขอโทษอีก
เซี่ยเจ๋อหลี่จ้องมองเหตุการณ์ตรงหน้า แล้วหันไปมองฉินมู่หลาน
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
มีแต่แพะเต็มไปหมดเลย คนทำจริงๆ ยังลอยนวลอยู่
ไหหม่า(海馬)