Hell mode – ตอนที่ 59

ตอนที่ 59

บทที่ 59 ไวท์เดียร์ 1

อีก 3 วันจะเป็นวันปีใหม่ เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด อเลนเลยออกจากคฤหาสน์มาตั้งแต่เช้าท่ามกลางหิมะที่ตกทับถม เนื่องจากหิมะเกิดการทับถมเลยขอยืมรองเท้าบูทที่ทำจากฟาง

“โอ้ วันนี้ก็ออกไปเหรอ? หิมะมันตกหนักระวังตัวด้วยนะ หือ? แล้วนั่นอะไรเหรอ?”

“ยืมมาจากคนสวนครับ วันนี้จำเป็นต้องใช้ครับ”

ตอบคำถามของคนเฝ้าประตู ตรงกลางหลังของอเลนมีพลั่วขนาดใหญ่ผูกอยู่ เพราะว่าส่วนที่ใช้ตักดินของพลั่วขนาดมันใหญ่เกิน 30 เซนติเมตร เลยใส่เข้าไปในช่องเก็บของไม่ได้ เชือกที่ใช้ผูกขอยืมมาจากคอกม้า โดยขอยิมเส้นยาวๆหนาๆมา 6 เส้น โดย 1 เส้นใช้ผูกพลั่วไว้กลางหลัง ส่วนอีก 5 เส้นทำการเก็บไว้ในช่องเก็บชอง

บอกกลับไปว่า จะระวังตัวครับ ก่อนพุ่งออกจากประตู

วิ่งท่ามกลางหิมะร่วมหลาย 10 นาที พอห่างจากเมืองแถวที่มีต้นไม้ขึ้นประปราย

(จะเอายังไงดี จะล่าก็อบลินแค่ช่วงเช้าดีไหมนะ ไม่สิ น่าจะต้องใช้เวลามากเสียด้วย วันนี้จดจ่อกับการล่าไวท์เดียร์ก็แล้วกัน เหล่าฮอคออกมา)

ทำการเรียกสัตว์อัญเชิญนก E 6 ตัวออกมาบนท้องฟ้า

(ไวท์เดียร์เป็นมอนสเตอร์กวางที่มีขนาดใหญ่ขนสีขาว คิดว่าคงอรู้อยู่แล้วมันมีเขาขนาดใหญ่เกิน 2 เมตรอยู่ตรงหัว ออกไปหาในระยะ 10 กิโลเมตรนี้ โดยเอาตัวที่อยู่ใกล้ๆก่อน)

ทันใดนั้นสัตว์อัญเชิญนก E ก็บินกระจายตัวออกไป

(เอาละ เริ่มกันเลย โมคุสุเกะออกมา ขุดหลุมที)

สัตว์อัญเชิญสัตว์ G 4 ตัวปรากฏตัวขึ้นมา สัตว์อัญเชิญที่มีรูปร่างของตัวตุ่น พอรับคำสั่งให้ใช้ทักษะพิเศษ [ขุดหลุม] ก็เริ่มทำการขุดรู จากการขุดของทั้ง 4 ตัวหิมะแยกออกจนหลุมค่อยๆใหญ่ขึ้น

เนื่องจากรู้แล้วว่าสัตว์อัญเชิญมีอัตตาเป็นของตัวเอง เลยเพิ่มเนื้อหาคำสั่งให้กับสัตว์อัญเชิญนก E ไปอีกนิดหน่อย

ออกคำสั่งให้สัตว์อัญเชิญนก E ทำการหามอนสเตอร์ แต่ถ้าเจอนักผจญภัยที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ให้มาบอกเพื่อมุ่งหน้าไปทางนั้น โดยวิธีการที่บอกให้รู้ถึงกรณีเร่งด่วนคือ เกาะที่ต้นไม้แล้วร้องออกมา 3 ครั้งติดต่อกัน

อเลนออกห่างจากรอบเมืองมาค่อยข้างไกล ระยะทางหลายร้อยกิโลเมตรสำหรับการล่าที่ต้องเดินทาง 1 วัน พอเดินทางมาขนาดนี้ ก็พบกับซากศพที่ชวนให้นึกว่าเป็นของนักผจญภัย ไม่มีการล่าที่ปลอดภัยสมบูรณ์แบบ

(ต้องสื่อสารกันให้ได้เป็นอย่างดี)

สัตว์อัญเชิญมีอัตตา ดังนั้นเลยรู้ว่าขัดคำสั่งได้ ไม่ใช่หุ่นเชิดโดยสมบูรณ์แบบ

(สัตว์อัญเชิญที่มีอัตตา และสามารถอยู่ต่อเนื่องได้ 30 วันเหรอ)

ตอนอยู่หมู่บ้านคุเรนะ ทำการตรวจสอบแล้วว่าสามารถอัญเชิญออกมาได้ถึง 30 วัน ไม่เกี่ยงว่าจะระดับไหนก็อยู่ได้แค่ 30 วัน สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องกินอะไรเลยทั้งเดือน แถมยังเคลื่อนไหวตามความคิดของตัวเอง ทำให้ความเป็นไปได้ขยายไปอย่างไร้ที่สิ้นสุด

พอคิดอะไรอย่างนั้น สัตว์อัญเชิญนก E 3 ตัวก็บินกลับมา

(เอาละ มีเหยื่อในระยะ 1 กิโลเมตรไหมนะ?)

ไม่บินลงมา แต่ค่อยๆบินห่างกันไปเรื่อยๆ แล้วพอระที่ระยะ 5 กิโลมตร สัตว์อัญเชิญนก E 1 ตัวก็บินลงไป

(5 กิโลเมตรเหรอ ระยะทางพอตัวเลยนะเนี่ย)

สัตว์อัญเชิญถ้าระยะห่างเกิน 50 เมตรจะไม่สามารถสั่งได้ สัตว์ G ที่ความฉลาดไม่สูง ถ้าออกห่างจากระยะ 50 เมตรจะหยุดขุดหลุม ต้องคอยอยู่ใกล้ๆเพื่อออกคำสั่งให้ใช้ทักษะพิเศษอยู่เรื่อยๆ เนื่องจากยังขุดหลุมไม่เสร็จ เอาพลั่วตัดดินที่ขุดขึ้นมาไปรวบรวมไว้ตรงตำแหน่งเดียว พร้อมกับรอหลุมเสร็จ

การจะขุดหลุมลึกนี่ใช้เวลาพอตัวเลยนะเนี่ย

ในระหว่างนั้น สัตว์อัญเชิญนก E ก็บินมาหลายครั้ง เพื่อทำการตรวจสอบว่าตำแหน่งยังไม่ออกจากระยะ 5 กิโลเมตร ถึงจะมีการเคลื่อนไหวเล็กน้อยแต่ไม่ได้ไปไกลมากนัก

ทันทีที่ขุดหลุมเสร็จก็มุ่งหน้าไปหาไวท์เดียร์ เพราะรองเท้าบูทฟางทำให้มุ่งหน้าไปบนหินมะได้อย่างราบรื่น

หลังจากเคลื่อนที่ไปประมาณ 5 กิโลเมตร ก็พบมอนสเตอร์ที่กำลังกินกระต่ายมีเขาอยู่ ถึงส่วนสูงระดับไหล่จะเตี้ยกว่าเกรซบอร์เล็กน้อย แต่ถ้ารวมคอกับหัวเข้าไปด้วยก็น่าจะราวๆ 3.5 เมตรได้ แต่ละด้านมีเขายาว 2 เมตรยืดขนานไปกับพื้น

(โอ๊ะ! เจอแล้วๆ)

ไวท์เดียร์ที่จับได้ตรงหมู่บ้านคุเรนะ เพราะมันตัวขาวทำให้พบได้ยาก แถมจำนวนยังมีค่อนข้างน้อย จำได้เลยว่าใน 1 เดือนจับได้แค่ราวๆ 1 ตัวเท่านั้นเอง

ทำการเรียกสัตว์อัญเชิญแมลง G จากตรงเงาไม้

(เอาละ ใช้ยั่วยุ)

เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นมอนสเตอร์ระดับ C เลยอัญเชิญออกมา 4 ตัว มากกว่าตอนที่ใช้กับมอนสเตอร์ระดับ D อย่างอัลบาเฮรอน 1 ตัว

จู่ๆสัตว์อัญเชิญแมลง G ที่มีรูปร่างเป็นกบปรากฏตัวขึ้นมา สั่งให้ใช้ทักษะพิเศษยั่วยุในขณะที่มันกระโดดห่างออกไปไกลนิดหน่อย

‘อ๊บๆ!’

ไวท์เดียร์รู้สึกถึงการคงอยู่ของสัตว์อัญเชิญแมลง G และพุ่งเข้าใส่โดยไม่สนใจว่าจะอยู่ในหิมะ พอใกล้จะโดนเหยียบ ก็ทำการเปลี่ยนสัตว์อัญเชิญกลับมาเป็นการ์ด

กลายเป็นการ์ดในพริบตา แล้วทำการเคลื่อนที่พร้อมกับอัญเชิญอีกครั้ง ใช้ยั่วยุจากตรงนั้น จากการที่สัตว์อัญเชิญกระโดดล่อไวท์เดียร์หลายต่อหลายครั้ง ในที่สุดก็ล่อมาจนถึงหลุมที่ขุดเมื่อครู่ ถึงสีเสื้อของอเลนจะค่อนข้างสะดุดตาในโลกสีขาวนี้ก็ตาม สมแล้วที่เป็นยั่วยุ เพราะอยู่ในสภาพโกรธ ทำให้ไม่สังเกตเห็นอเลนที่แอบชี้นำอยู่ในเงาไม้

แล้วในที่สุดก็ล่อมาถึงหลุมกับดัปลายทาง

สัตว์อัญเชิญแมลง G 4 ตัวกระโดดไปมาในขณะที่ใช้ยั่วยุ

1‘อ๊บๆ!’

ไวท์เดียร์ที่พุ่งเข้าไปหมายจะจับกิน แต่ดูเหมือนจะไม่รู้ถึงหลุมกับดักที่ซ่อนไว้ด้วยหิมะ ทำให้พรวดพราดตกลงไป

(อืม ยั่วยุนี่ทำให้ความฉลาดลดลงด้วยหรือเปล่านะ ทั้งที่เป็นหลุมกับดักแบบลวกๆ)

ทำการพิจารณาในขณะที่มองดูไวท์เดียร์ที่ตกลงไปในหลุมกับดัก

ถึงจะพยายามขึ้นมาข้างบน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ หลุมกับดักนี้ลึก 10 เมตร แต่ไวท์เดียร์ไม่ได้ตกไปถึงก้นหลุม หลุมมีความกว้างเกิน 2 เมตรนิดหน่อย แต่ความยาวรวมเขามันเกิน 4 เมตร ทำให้เขาติดอยู่ปากหลุมไม่ร่วงลงไป

ส่วนหัวของไวท์เดียร์อย่างเดียวที่อยู่ตรงพื้น

อเลนวิ่งไปหาไวท์เดียร์พร้อมกับกอดคอของมันก่อนที่จะอาละวาดจนหลุมถล่ม ไวท์เดียร์ที่พยายามสลัดอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เนื่องจากขาลอยอยู่ทำให้เปล่งพลังไม่ได้

อเลนที่กอดคออยู่ ใส่แรงเข้าไปในมือข้างหนึ่งและเอาดาบสั้นเสียบเข้าไปในคอ เสียงร้องที่รุนแรงแตกต่างกับเมื่อครู่จนสั่นไปทั้งตัว แต่ยังทำการเสียบเข้าไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงเส้นเลือดตรงคอ จนในที่สุดก็ตัดเส้นเลือดได้ พอทำการถอนดาบสั้นออก ก็มีเลือดสดๆ ไหลทะลักออกมา ทำให้โลกสีขาวถูกย้อมไปด้วยสีแดงสด

หลังจากนั้นไม่นาน ไวท์เดียร์ก็ไม่ไหวติง

อเลนเรียกสมุดเวทมนตร์ออกมา พร้อมกับตรวจสอบข้อความตรงหน้าปก

‘กำจัดไวท์เดียร์ 1 ตัว ได้รับค่าประสบการณ์ 2500’

(จัดการได้แล้ว)

หลังจากยืนยันการกำจัด ก็ใช้แรงดึงมันขึ้นมาแล้วลากไปที่ต้นไม้ใหญ่ เอาเชือก 3 เส้นผูกขาหลังแต่ละข้าง เพื่อทำการห้อยไวท์เดียร์

เลือดไหลทะลักออกมาจากเส้นเลือดตรงคอ

(ยังไงก็ต้องรีดเลือด ถึงอย่างนั้นหนักเอาเรื่องอยู่ เท่านี้น่าจะเบาขึ้นอีกหน่อย เอาละ ทำการเก็บกวาดจนกว่าจะถึงตอนนั้นดีกว่า)

ทำการถมดินใส่หลุมที่ขุดไว้ลึก 10 เมตร

(ถึงอย่างนั้นประสบการณ์ห่วยแตกมากเลยนะเนี่ย ล่า 1 วันแต่ได้ค่าประสบการณ์แค่ 2500)

อเลนที่ตั้งโควตาในการกำจัดก็อบลิน 100 ตัวในวันหยุด 1 วัน จะเก็บค่าประสบการณ์ได้มากว่า 20000 วันนี้ต้องขุดหลุม ล่อ รีดเลือด แล้วจัดการเก็บกวาดหลังทำงานเสร็จอีก ต่อจากนี้จะไปล่าก็ยากด้วย ทำให้การล่าไวท์เดียร์ต้องใช้เวลา 1 วันเต็มๆ

(ไม่สิ เนื้อนี้น่าจะราวๆ 500 กิโลกรัม ถ้า 1 กิโลกรัมมีค่า 1 เหรียญเงินแล้วละก็ ทั้งหมดมัน 5 เหรียญทองเลยไม่ใช่เหรอ? คงต้องให้พ่อบ้านขอบคุณงามๆซะแล้ว)

เนื่องจากไม่ได้ค่าประสบการณ์ เลยคิดจะให้ตอบแทนด้วยของที่สมน้ำสมเนื้อสักหน่อย มีของที่อยากซื้ออยู่เยอะเลยด้วย ตั้งแต่มาถึงเมืองนี้ยังไม่ได้ซื้ออาวุธกับเครื่องป้องกันใหม่ๆเลย

หลังจากรีดเลือดไปหลายชั่วโมง จนเลย 4 โมงเย็นไปแล้ว ดูเหมือนเลือดเองก็ออกไปเยอะแล้ว เลยค่อยๆปล่อยไวท์เดียร์ลงกับพื้น

ใช้เชือกมัดขาของไวท์เดียร์ให้ติดกับลำตัว เพื่อจะไม่ให้ขามาเกะกะตอนแบก พลั่วเองก็เกะดังนั้นเลยมัดรวมกันไปด้วย

ทำการเปลี่ยนสัตว์อัญเชิญแมลง G เป็นสัตว์ E เพื่อเพิ่มพลังโจมตีขึ้นอีกนิดหน่อย ก่อนจะใส่แรงแบกไวท์เดียร์ขึ้นหลัง

(แย่แล้ว ค่อนข้างหนักนะเนี่ยคงปวดเอวแน่ กลับเมืองกันเถอะ)

เนื่องจากล่าไวท์เดียร์ได้อย่างปลอดภัย อเลนเลยตั้งใจจะแบกกลับไปจนถึงคฤหาสน์

Hell mode

Hell mode

Status: Ongoing

ยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า “สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ” ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท