บทที่ 618 ขับไล่ (2)
บทที่ 618 ขับไล่ (2)
เมื่อถังชุนหยานได้ยินก็หันหลังกลับออกไปโดยไม่พูดอะไรอีก
แต่ถังไห่โปกลับเรียกเธอเอาไว้และกล่าวว่า “เฮ้ย… ถังชุนหยาน ฉันหมดเงินแล้ว เอาเงินมาให้ฉัน ฉันไม่มีเงินกินข้าวแล้ว”
ทว่าถังชุนหยานไม่แม้แต่จะสนใจเขา เธอเดินจากไปโดยไม่หันไปมอง
“เฮ้ย… ถังชุนหยาน แกหยุดเดี๋ยวนี้ แกอย่าคิดว่าตอนนี้แกมีเงินขึ้นมาหน่อย แล้วจะทำท่าทีแบบนี้กับฉันได้นะ พอพ่อแม่มาปักกิ่งแล้วเราจะได้เห็นดีกัน”
ถังไห่โปด่าสาปส่งเธอ และสุดท้ายก็หันหลังกลับไปที่ห้องพัก แต่เขามีเงินติดตัวไม่มากแล้ว จึงต้องรีบไปขอเงินถังชุนหยานให้ไวที่สุด
“เหอะ… ไม่เป็นไร อีกไม่นานฉันก็จะได้ที่อยู่ถังซวงมาแล้ว พอถึงตอนนั้นก็จะรู้ว่าแกพักอยู่ที่ไหน พอเข้าไปก่อความวุ่นวาย ฉันไม่เชื่อหรอกว่าถังซวงจะยังใจดีกับแกอยู่”
เมื่อถังไห่โปคิดได้ดังนี้ก็ฮัมเพลงแล้วเดินกลับไป
ทว่าสิ่งที่ถังไห่โปไม่คาดคิดก็คือไม่ทันจะได้ตามหาที่อยู่ของพวกถังซวงได้ กลายเป็นเขาเสียเองที่กลับตกเป็นเป้า
“แก… พวกแกเป็นใคร ฉันไม่เคยเจอพวกแกมาก่อน พวกแกจะมาหาเรื่องฉันทำไม”
ผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่เป็นหัวโจกได้ยินถังไห่โปพูดก็หัวเราะเยาะพลางกล่าว “ก็จริงที่แกไม่ได้ทำอะไรพวกเรา แต่แกทำคนอื่น มีคนจ้างพวกฉันให้มาสั่งสอนแก ใครใช้ให้แกไม่ดูตาม้าตาเรือ หาเรื่องคนที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งล่ะ แกจะโทษใครก็โทษตัวเองเถอะ” เมื่อกล่าวจบ ชายคนนั้นโบกมือพลางพูดว่า “พวกเราจัดการเลย”
เมื่อได้ยินคำสั่งของชายคนนั้น กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังก็รีบรุดไปข้างหน้า
“อ๊าก… ช่วยด้วย…”
แม้ที่บ้านถังไห่โปจะชอบอำนาจบาตรใหญ่ แต่เมื่อออกไปข้างนอกจะหงอมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ที่คนจำนวนมากกำลังจะซ้อมเขา เขารีบวิ่งหนีอย่างไม่ต้องสงสัย
ทว่ายังไม่ทันที่ถังไห่โปจะวิ่งออกไปไกลนัก เขาก็ถูกตามทันและถูกซ้อม
“อ่า… อย่าทำฉัน… อย่าทำฉัน…”
ในตอนแรกถังไห่โปยังมีแรงร้องห้าม แต่ต่อมาเขาค่อย ๆ หมดเรี่ยวแรง ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเจ็บไปทั้งร่างราวกับว่ากำลังจะตาย
“เอาละ พอก่อน”
เมื่อชายคนนั้นโบกมือทุกคนก็หยุด
“ถังไห่โป จริง ๆ ฉันชี้ทางสว่างให้แกได้นะ”
เมื่อถังไห่โปถามทันที “ทางสว่างอะไร?”
“แค่แกออกไปจากปักกิ่งก็พอ แล้วพวกฉันจะไม่ไปยุ่งอะไรกับแกอีก”
“อะไรนะ… ไปจากปักกิ่ง…”
ถังไห่โปไม่กล้าแม้จะปฏิเสธ “พ่อแม่ฉันก็ต้องมาปักกิ่ง ฉันกลับไปเร็วขนาดนี้ไม่ได้ ยังไงพวกเราก็ต้องอยู่ที่นี่”
เมื่อได้ยิน ชายร่างสูงใหญ่ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ฮ่าฮ่า… แกจะไร้เดียงสาอะไรขนาดนี้ แกคิดจริง ๆ เหรอว่าพวกแกจะตั้งตัวปักหลักที่ปักกิ่งได้ ถ้าพวกแกไม่ย้ายออกไป พวกเราก็จะไม่ไปไหน และจะมาที่นี่ทุกวัน”
ถังไห่โปโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“ถังชุนหยานสั่งให้พวกแกมาใช่ไหม ก่อนหน้านี้มันเพิ่งบอกให้ฉันไปให้พ้น แล้วพวกแกก็มาไล่ฉันอีก เป็นมันแน่ ๆ ที่สั่งให้พวกแกมา”
เมื่อได้ยินถังไห่โปกล่าว คนเหล่านั้นก็ไม่ได้ตอบเอาแต่ซ้อมเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย
“อ๊าก… อ๊าก…”
เดิมถังไห่โปเริ่มจะได้สติกลับมา แต่ก็ถูกซัดอีกครั้ง เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เพิ่มมากขึ้น
ทันทีที่การทุบตีจบลง ถังไห่โปก็ร้องโอดโอย เขารู้สึกได้ว่าร่างกายของตนเละไม่เหลือชิ้นดี ขณะเดียวกันภายในใจก็เคียดแค้นถังชุนหยานอย่างถึงที่สุด ยัยถังชุนหยานโตขึ้นขนาดกล้าจ้างคนมาทำร้ายเขาแล้ว มันจริงอย่างที่ว่า ร้ายที่สุดคือจิตใจของผู้หญิง
ทว่าถังไห่โปไม่มีโอกาสนั้น ก่อนที่เขาจะเข้าไปหาเรื่องก็มีคนเข้ามาหาเรื่องเขาก่อนเสียแล้ว
“แกคือถังไห่โปสินะ พวกเรา ลุย”
ถังไห่โปตกใจและงุนงงเมื่อเห็นกลุ่มคนเบื้องหน้าที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น “พวก… พวกแกเป็นใคร”
คนกลุ่มนั้นเข้ามาซ้อมเขาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
เมื่อวานถังไห่โปเพิ่งโดนต่อยมา วันนี้ก็โดนอีก แผลเก่าไม่ทันหายยังได้แผลใหม่เพิ่มมา ช่างน่าเวทนาสิ้นดี
“พวก… แกรีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”
พอถึงตอนท้าย เสียงร้องของถังไห่โปก็ค่อย ๆ หายไป และถูกโยนทิ้งลงพื้น “ไอ้น้องเอ้ย ถ้ารู้แล้วว่าทำไมแกถึงโดนซ้อม แกก็รีบไปแก้ซะให้มันจบ ๆ”
เมื่อได้ยินพวกอันธพาลกล่าว ความคิดที่สับสนอลหม่านในตอนแรกของถังไห่โปก็สงบลงทันที เขาฟึดฟัดส่งเสียงเย็นชา “ต่อให้พวกแกซ้อมฉันให้ตาย ฉันก็ไม่ยอม ฉันจะไม่มีทางไปจากปักกิ่งเด็ดขาด”
อันธพาลพวกนั้นไม่คาดคิดว่าถังไห่โปยังจะพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ ชั่วขณะหนึ่งพวกเขาไม่รู้ว่าจะซ้อมอีกฝ่ายต่อไปดีหรือเปล่า “พวกเรากลับ วันนี้พอแค่นี้ก่อน”
หลังจากที่คนกลุ่มนั้นได้จากไป ถังไห่โปค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนพร้อมกับตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด แววตาของเขาเต็มไปด้วยความอาฆาต “ถังชุนหยาน นังตัวดี ฉันจะคอยดูซิพวกแกจะกล้าซ้อมฉันให้ตายหรือเปล่า หึ… ฉันไม่เชื่อหรอกโว้ยว่าฉันจะอยู่ปักกิ่งไม่ได้”
อีกด้านหนึ่งถังชุนหยานที่รู้ข่าวก็ขมวดคิ้ว เธอรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจเล็กน้อย
เธอไม่ได้พักผ่อนมาหลายวันเพราะเรื่องถังไห่โป จนถึงขนาดที่เธอจ้างพวกอันธพาลไปข่มขู่เขาก็ยังไม่ได้ผล
ถังเซวี่ยที่มาตามถังชุนหยานพอดี เมื่อเห็นท่าทีของเธอจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “พี่ชุนหยาน ช่วงนี้พี่มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ทำไมสีหน้าดูไม่ค่อยดีเลย”
ถังชุนหยานจึงเล่าเรื่องที่เธอจัดการกับถังไห่โปให้ฟัง และลงท้ายว่า “ดูท่าพี่คงจะต้องคิดแผนอื่นแล้วละ”
ถังเซวี่ยได้ยินก็คิดแล้วคิดอีกจึงกล่าว “พี่ชุนหยาน เพราะถังไห่โปมั่นใจว่าพี่จะไม่มีทางเอาจริงกับเขา ถึงได้กำเริบเสิบสานแบบนี้ เพราะฉะนั้นพี่ควรจะหนักแน่นให้มากกว่านี้”
เมื่อถังชุนหยานได้ยินก็ครุ่นคิด และกล่าวพลางพยักหน้า “อืม พี่เข้าใจแล้ว”
ถังชุนหยานคิดว่าที่ถังเซวี่ยพูดก็มีเหตุผล ดังนั้นตอนที่อันธพาลพวกนั้นไปหาถังไห่โปอีกครั้ง เธอเองก็ตามไปด้วย