บทที่ 740 ก่อกบฏ (1)

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ณ ห้อง​ทรง​พระ​อักษร​

จักรพรรดิ​หย่ง​ซิ่งกาง​หนังสือสัญญา​ออก​ และ​ตรวจ​อ่าน​ ‘ข้อตกลง​’ ของ​ทั้งสองฝ่าย​อย่าง​ละเอียดถี่ถ้วน​ เนื้อหา​ข้อตกลง​มีความ​ซับซ้อน​ และ​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​ไป​ถึงกฎระเบียบ​ที่​ละเอียด​เคร่งครัด​อย่าง​มาก​ที่สุด​ โดย​เงื่อน​ไขข้อ​แรก​ยังคง​ไม่เปลี่ยนแปลง​ ซึ่งก็​คือ​

ตั้งแต่​รัช​ศก​หย่ง​ซิ่งปี​ที่หนึ่ง​เป็นต้นไป​ ต้าฟ่ง​ต้อง​ส่งเครื่องบรรณาการ​ให้​อวิ๋น​โจว​ห้า​แสน​ตำลึง​และ​แพร​ไหม​หก​แสน​พับ​ทุกปี​

มีการ​ยืด​และ​แก้ไข​กฎระเบียบ​ที่​เคร่งครัด​ว่า​

ใน​ปี​แรก​จะต้อง​ส่งเครื่องบรรณาการ​เพียง​หนึ่ง​แสน​ห้า​หมื่น​ตำลึง​และ​แพร​ไหม​สามแสน​พับ​ก่อน​ โดย​จะต้อง​ส่งให้​หมด​ใน​ปี​ถัดไป​

เงื่อนไข​ที่สอง​ยังคง​ไม่เปลี่ยนแปลง​ หลังจาก​จบ​การ​เจรจา​สงบศึก​ ราชสำนัก​ต้าฟ่ง​จะต้อง​ส่งแถลงการณ์​ราชสำนัก​ให้​ที่ว่า​การปกครอง​ทุกแห่ง​ว่า​ ให้การ​ยอมรับ​ว่า​สายเลือด​อวิ๋น​โจว​เป็น​เชื้อสาย​ดั้งเดิม​ของ​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ พร้อม​ติดประกาศ​ให้​เป็นที่​ประจักษ์​ทั่ว​ใต้​หล้า​

เงื่อนไข​ที่สาม​เป็นที่​ถกเถียง​กัน​ยาวนาน​ที่สุด​

ทา​งอ​วิ๋น​โจว​ขอ​เรียกร้อง​ให้​ราชสำนัก​ส่งมอบ​ยง​โจว​ อวี่​โจว​และ​จางโจว​

ยง​โจว​ขึ้นไป​ทางเหนือ​เป็น​เขตแดน​เมืองหลวง​ ด้วยเหตุนี้​จึงเป็นไปไม่ได้​ที่จะ​ยก​ยง​โจว​ให้​ นี่​เป็นปัญหา​ทาง​หลักการ​

ระหว่าง​การ​เจรจา​ จีหย่วน​กดดัน​ด้วย​ผู้​แข็งแกร่ง​ระดับ​บรรลุ​ธรรม​ขอ​งอ​วิ๋น​โจว​อีกครั้ง​ แต่​ครั้งนี้​ไม่เป็นผล​ เจ้ากรม​พิธีการ​และ​ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล​หง​หลู​ไม่ยอม​อ่อนข้อ​ให้​

ส่วน​อวี่​โจว​และ​จางโจว​ ที่​แรก​อุดม​ไป​ด้วย​ทรัพยากร​แร่​เหล็ก​ ที่สอง​เป็นหนึ่ง​ใน​สามยุ้งข้าว​หลัก​ของ​ต้าฟ่ง​ หาก​ยก​สอง​โจว​นี้​ให้​กองทัพ​กบฏ​อวิ๋น​โจว​ เพียง​คิด​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​จะเกิด​ผลลัพธ์​แบบ​ใด​

แต่​หาก​รักษา​ยง​โจว​ไม่ได้​ ก็​คง​จำเป็นต้อง​ยก​อวี่​โจว​และ​จางโจว​ให้​ หาก​กล่าว​จาก​ตำแหน่ง​ภูมิศาสตร์​ ยัง​ถือว่า​สอง​โจว​นี้​ห่าง​จาก​เมืองหลวง​อีก​ไกล​ จึงไม่อันตราย​เท่า​ยง​โจว​

เงื่อนไข​ที่สี่​ วัสดุ​หลอม​ของ​ท่าน​โหราจารย์​

จักรพรรดิ​หย่ง​ซิ่งส่งคน​ไป​รับ​ที่​สำนัก​โหราจารย์​เมื่อวันก่อน​ คาดไม่ถึง​ว่า​ ซ่งชิงของ​สำนัก​โหราจารย์​จะมอบให้​อย่าง​สบาย​อก​สบายใจ​

สบายใจ​ราวกับ​สิ่งนี้​ไม่ใช่สมบัติ​ของ​อาจารย์​ผู้ล่วงลับ​

“ฝ่าบาท​ แม้การ​เจรจา​สงบศึก​จะสำเร็จ​อย่าง​ราบรื่น​ แต่​กองทัพ​กบฏ​อวิ๋น​โจว​โฉด​ชั่ว​เหมือน​หมาป่า​ ไม่อาจ​เชื่อได้​ง่ายๆ​”

ลี่​หวา​งผู้ชรา​ ขณะนี้​เขา​อยู่​ใน​ห้อง​ทรง​พระ​อักษร​ด้วย​ เขา​เป็น​เพียง​คนเดียว​ที่​ได้รับอนุญาต​ให้​นั่ง​ใน​ที่​แห่ง​นี้​

“ท่าน​อา​โปรด​วางใจ​”

ในที่สุด​ใบหน้า​ของ​จักรพรรดิ​หยาง​ซิ่งก็​พอ​มีรอยยิ้ม​ใน​อดีต​อยู่​บ้าง​ เขา​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​ผ่อนคลาย​ว่า​

“เรื่อง​นี้​ ข้า​เคย​หารือ​กับ​หลาย​ๆ คน​มานาน​แล้ว​ รอ​ส่งคณะ​ทู​ตอ​วิ๋น​โจว​ไป​ ข้า​จะไปหา​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ด้วย​ตนเอง​ ให้​เขา​ไป​ขอ​กำลัง​เสริม​ที่​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ เผ่าพันธุ์​กู่​และ​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​ล้วน​มีผู้​แข็งแกร่ง​ระดับ​บรรลุ​ธรรม​ไม่น้อย​ ให้​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ไป​เชิญพวกเขา​มาก็​พอ​”

“อีก​หนึ่ง​เดือน​จะเป็น​เทศกาล​ไหว้​วสันต์​ หลัง​ผ่าน​เทศกาล​ไหว้​วสันต์​ แผ่นดิน​จะหวนคืน​สู่ฤดูใบไม้ผลิ​ และ​สามารถ​ขจัด​ภัย​หนาว​ สถานการณ์​จะต้อง​ดีขึ้น​เป็นแน่​”

ลี่​หวา​งรับทราบ​ เขา​พยักหน้า​เล็กน้อย​ก่อน​เอ่ย​ว่า​

“ข้า​ได้ยิน​ว่า​ก่อนหน้านี้​หลาย​วัน​ ฝ่าบาท​ทะเลาะ​กับ​ฆ้อง​เงิน​สวี่จน​ไม่สบายใจ​หรือ​”

จักรพรรดิ​หย่ง​ซิ่งส่าย​มือ​พร้อม​เอ่ย​ว่า​

“เรื่อง​เล็กน้อย​เท่านั้นเอง​ โดยปรกติ​ข้า​เคารพ​เขา​อยู่แล้ว​ แต่​ประเทศชาติ​เป็น​เรื่องใหญ่​ ข้า​มีความคิดเห็น​ของ​ข้า​เอง​ จะไม่ยอมให้​เขา​โอ้อวด​ความกล้าหาญ​อย่าง​คน​เขลา​”

ส่วน​เรื่อง​ขอ​กำลัง​เสริม​ จักรพรรดิ​หย่ง​ซิ่งไม่เคย​คิด​ว่า​สวี่​ชีอัน​จะเปลี่ยน​การ​เชิญอย่างไร​ เชิญยาก​หรือไม่​ ราวกับ​ทุกอย่าง​เป็น​สิ่งที่​สวี่​ชีอัน​ควร​ทำ​

เหมือน​เขา​พัฒนา​ความ​สัมพันธุ์​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​และ​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ​เป็น​พันธมิตร​

ลี่​หวา​งส่งเสียง​ ‘ฮืม’ เอ่ย​ช้าๆ ด้วย​สีหน้า​ผ่อนคลาย​เล็กน้อย​ว่า​

“ที่แท้​ฝ่าบาท​ก็​วางแผน​ไว้​ล่วงหน้า​แล้ว​ เช่นนั้น​ข้า​ก็​วางใจ​แล้ว​”

จักรพรรดิ​หย่ง​ซิ่งมีความคิด​อะไร​ เมื่อ​ครู่​ได้​พูด​ไว้​อย่าง​ชัดเจน​ เจรจา​สงบศึก​เพื่อ​สร้าง​เสถียรภาพ​ให้​กองทัพ​กบฏ​ก่อน​ จากนั้น​ให้​ฆ้อง​เงิน​สวี่​บากหน้า​ไป​ขอความช่วยเหลือ​จาก​พันธมิตร​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ ในขณะเดียวกัน​ก็​รอ​ให้​เข้าสู่​ฤดูใบไม้ผลิ​ เพื่อ​บรรเทา​ภัย​หนาว​

ลี่​หวา​งก็​ไม่เคย​คำนึงถึง​ความ​ยาก​ของ​ภารกิจ​เช่นเดียวกัน​

ที่​นอก​ประตูเมือง​ ทหารม้า​หก​นาย​เฆี่ยน​ม้าตะบึง​เข้ามา​ พวกเขา​สวม​ผ้าคลุม​ ขี่​คร่อม​ม้าเร็ว​ ส่งเสียงร้อง​ขณะ​ผ่าน​ประตู​

ความเร็ว​ใน​การ​วิ่ง​ของ​ม้าลดลง​อย่าง​รวดเร็ว​เมื่อ​เข้าสู่​ประตูเมือง​ ทหารม้า​ที่​เป็น​ผู้นำ​ดึง​บังเหียน​ม้า แล้ว​หัน​ศีรษะ​มอง​ไป​ทาง​กำแพง​

เขา​มีสีหน้า​ตายด้าน​ ขาด​อารมณ์​ความรู้สึก​ เหมือน​สลัก​มาจาก​ก้อนหิน​

หยาง​เยี่ยน​

หลังจาก​คดี​สังหาร​หมู่​ที่​ฉู่โจว​ หยาง​เยี่ยน​ก็​อยู่​ที่นั่น​ ราชสำนัก​แต่งตั้ง​ให้​เขา​เป็น​หัวหน้า​ผู้บัญชาการ​ฉู่โจว​และ​ผู้บัญชาการ​ฉู่โจว​

แม้เว่ยเยวียน​จะเสียชีวิต​ไป​แล้ว​ เขา​ก็​ยังอยู่​ที่​ฉู่โจว​ตลอด​ ไม่เคย​กลับ​เมืองหลวง​

“เรียก​พี่น้อง​ทั้งหมด​ที่​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​เมืองหลวง​มารวมตัว​ และ​รอ​คำสั่ง​” หยาง​เยี่ยน​ชาย​ศีรษะ​มอง​ลูกน้อง​ทาง​ซ้ายมือ​

“รับทราบ​”

ลูกน้อง​ยกมือ​คำนับ​ ก่อน​ดึง​บังเหียน​ม้า ลาก​เบา​ๆ แยก​ออก​ไป​จาก​กลุ่ม​ และ​ควบม้า​ไป​ยังอีก​เส้นทาง​หนึ่ง​

‘ไม่สามารถ​ประคอง​พระราชโอรส​ที่สี่​ขึ้น​ครอง​บัลลังก์​ก่อน​พ่อบุญธรรม​เสียชีวิต​ บัดนี้​ ควร​เป็น​ฝ่าย​พวก​ข้า​ควบคุม​ดูแล​ฟ้าดิน​’…หยาง​เยี่ยน​เคลื่อน​สายตา​ไป​ตาม​เส้นทาง​หลัก​ที่​กว้างขวาง​ และ​มอง​ไป​ทาง​พระราชวัง​

ณ ที่ทำการ​หน่วย​ลาดตระเวน​ยามวิกาล​

ฆ้อง​ทองคำ​ทั้ง​สี่มารวมตัวกัน​ ประตู​และ​หน้าต่าง​ถูก​ปิด​อย่าง​แน่นหนา​

ฆ้อง​ทองคำ​จ้าว​จิ่น​จ้อง​ฆ้อง​เงิน​ซ่งถิงเฟิงที่อยู่​ตรงหน้า​ ก่อน​หรี่ตา​เอ่ย​ว่า​

“ฆ้อง​เงิน​สวี่​พูด​เช่นนั้น​จริง​หรือ​”

ฆ้อง​เงิน​สวี่​กลายเป็น​ฉายา​อย่างหนึ่ง​ไป​แล้ว​ ไม่ใช่ตำแหน่ง​ขุนนาง​อีกต่อไป​

ขอ​เพียง​เอ่ย​ว่า​ ‘ฆ้อง​เงิน​สวี่’​ สามคำ​ที่​ต้าฟ่ง​ ทุกคน​ล้วน​รู้​ว่า​หมายถึง​คนใด​

ซ่งถิงเฟิงเอ่ย​เยาะ​ว่า​

“บัดนี้​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ไร้​เสถียรภาพ​ ราชสำนัก​เอง​ก็​อยู่​ใน​ภาวะวิกฤติ​ ฆ้อง​ทองคำ​ทั้งหลาย​สามารถ​คว้า​โอกาส​ท่ามกลาง​กระแสน้ำ​ที่​ไหลบ่า​นี้​ได้​หรือไม่​ ก็​ต้อง​ดู​ที่​การ​เลือก​ใน​วันนี้​”

“หนิง​เยี่ยน​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​เว่ยกง​ ใต้เท้า​ทั้ง​สี่ก็​มีความชอบ​พอกับ​เขา​ หา​ใช่คนแปลกหน้า​ เกรง​ว่า​เขา​คง​หลอก​พวก​ท่าน​ไม่ได้​ อีก​อย่าง​ หาก​จะให้​กล่าว​คำพูด​ที่​ผิด​หลัก​ทำนอง​คลอง​ธร​รร​ม บัดนี้​ใน​ต้าฟ่ง​ ผู้ใด​มีแนวโน้ม​ถวาย​ความจงรักภักดี​มาก​ที่สุด​”

“ไม่ใช่คน​ที่นั่ง​กระดิก​หาง​เอาใจ​กองทัพ​กบฏ​อยู่​ใน​ตำหนัก​กระดิ่งทอง​ แต่​เป็น​พี่น้อง​ของ​ข้า​”

จ้าว​จิ่น​และ​ฆ้อง​ทองคำ​อีก​สามคน​ที่​เหลือ​จ้องมอง​ซึ่งกันและกัน​ พวกเขา​ไตร่ตรอง​เล็กน้อย​ ก่อน​เอ่ย​ว่า​

“เหตุใด​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ไม่มาเอง​”

ซ่งถิงเฟิงไม่ตอบ​ แต่​หยิบ​บันทึก​ออกมา​แทน​ ซึ่งเขียน​ไว้​ว่า​

“อ่าน​จบ​พวก​เจ้าจะรู้​เอง​”

จ้าว​จิ่น​รับ​ไว้​ พร้อม​คลี่​บันทึก​ออกมา​อ่าน​ เขา​ถอนหายใจ​อย่าง​โล่งอก​เป็น​อย่าง​แรก​ ก่อน​เอ่ย​ประเมิน​ว่า​

“ใช่ลายมือ​ของ​เขา​”

จากนั้น​ดวงตา​ก็​แข็ง​เกร็ง​ และ​จ้อง​มองหน้า​กระดาษ​เป็นเวลา​นาน​

จ้าว​จิ่น​สูด​หายใจ​ลึก​ ข่ม​ความรู้สึก​ตื่นเต้น​ที่​พลุ่งพล่าน​ใน​หัวใจ​ไว้​ และ​ส่งบันทึก​ให้​ฆ้อง​ทองคำ​อีก​สามคน​โดย​ไม่แสดง​อารมณ์​ หลังจาก​ผลัดกัน​อ่าน​เรียบร้อย​ เขา​จึงเอ่ย​ว่า​

“เจ้าตอบกลับ​เขา​ ตราบใดที่​เขา​ไม่หลอก​ข้า​ ข้า​จ้าว​จิ่น​ผู้​นี้​มอบ​ชีวิต​ให้​เขา​ได้​ แต่​พวก​ข้า​ต้องการ​เจอ​กับ​เขา​”

ณ ศาลา​พัก​ม้า

จีหย่วน​ถือ​หอยสังข์​กระแสจิต​ไว้​ และ​เอ่ย​ว่า​

“น่าเบื่อ​”

จักรพรรดิ​น้อย​แห่ง​ต้าฟ่ง​ช่างน่าเบื่อ​ ขุน​นางใน​ท้องพระโรง​เอง​ก็​น่าเบื่อ​ บัณฑิต​ใน​ราช​วิทยาลัย​เอง​ก็​ยิ่ง​น่าเบื่อ​ไป​อีก​

“ข้า​ได้ยิน​มาว่า​ขณะ​ขนย้าย​พระศพ​ของ​อ๋อง​สยบ​แดน​เหนือ​กลับ​ไป​ยัง​เมืองหลวง​ใน​ตอนแรก​ หยวน​จิ่งปิด​วัง​และ​ไม่พบเห็น​เจ้าหน้าที่​คนใด​ มีซู่จี๋ซื่อ​นาม​ว่า​สวี่​ซินเหนียน​ยืน​ขวาง​ประตู​อู่​ตำหนิ​เขา​ตั้ง​แต่เช้า​ยัน​ค่ำ​ ด่า​จน​หยวน​จิ่งประนีประนอม​ให้​เปิด​ประตู​”

“น่าเสียดาย​ที่​ไม่เห็น​คน​คน​นี้​ที่​ท้องพระโรง​ ระหว่าง​การ​เจรจา​ก็​ไม่เห็น​ อาจ​เพราะ​เขา​มีฐานะ​ต่ำต้อย​และ​คำพูด​ไม่มีน้ำหนัก​ ไม่มีคุณสมบัติ​ที่จะ​ร่วม​ถกเถียง​กับ​ข้า​”

ส่วน​เรื่อง​ของ​สวี่​ซินเหนียน​ เขา​ได้ยิน​ว่า​มีคน​แอบ​ซุบซิบ​เป็นการ​ส่วนตัว​จาก​การ​เจรา​เมื่อ​ไม่กี่​วัน​มานี้​เป็นครั้งคราว​ว่า​ เจ้าหนุ่ม​ที่มา​จาก​อวิ๋น​โจว​นั่น​เขี้ยวเล็บ​แหลมคม​ หาก​ใต้เท้า​สวี่​แห่ง​สำนัก​บัณฑิต​ฮั่น​หลิน​มาได้​ จะต้อง​ตำหนิ​เขา​จน​ร้องไห้​ขี้มูก​ไหล​คาที่​ และ​กลิ้ง​กลับ​อวิ๋น​โจว​ไป​อย่าง​ว่านอนสอนง่าย​

หอยสังข์​กระแสจิต​ส่งเสียงหัวเราะ​ของ​เก่​อ​เห​วิน​เซวียน​มาว่า​

“ถ้าเช่นนั้น​เกรง​ว่า​เจ้าคง​ไม่มีโอกาส​เจอ​แล้ว​ สวี่​ซินเหนียนคน​นี้​เป็น​น้อง​ชายฝั่ง​บิดา​ของ​สวี่​ชีอัน​ และ​พี่​ชายฝั่ง​บิดา​ของ​หยวน​ซวง​กับ​หยวน​ไหว​

“เขา​ไม่ได้​อยู่​ที่​เมืองหลวง​ แต่​ตาม​กองทัพ​ต้าฟ่ง​ไป​สู้รบ​ที่​ชิงโจว​ ฮึม หลังจาก​ชิงโจว​สูญเสีย​การป้องกัน​ เขา​ก็​ถูก​จัว​เฮ่าหรา​น​สะบั้น​ไป​หนึ่ง​ดาบ​ เป็น​ตาย​ไม่รู้​”

จีหย่วน​ทำ​เสียง​จุปาก​พร้อม​ส่าย​ศีรษะ​และ​เอ่ย​ว่า​

“บัณฑิต​ผู้​หนึ่ง​ ดันทุรัง​สังหาร​แม่ทัพ​ เกรง​ว่า​ท่าจะ​ไม่ดี​ ขอ​ไม่เอ่ยถึง​เขา​แล้ว​ แม่ทัพ​เก่​อ​ คน​ที่​สกุล​สวี่​นั่น​จนถึง​ตอนนี้​ยัง​ไม่ปรากฏตัว​อีก​เลย​”

เก่​อ​เห​วิน​เซวียน​ไตร่ตรอง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ก่อน​เอ่ย​ว่า​

“ดูเหมือน​คลาดเคลื่อน​กับ​ที่​พวกเรา​คาดเดา​ไว้​ก่อนหน้านี้​ไม่มาก​นัก​ คน​ที่​สกุล​สวี่​นั่น​หมด​น้ำยา​แล้ว​ จึงยอม​เจรจา​สงบศึก​โดยดี​เพื่อ​ยื้อ​เวลา​ให้​ทน​ผ่าน​ฤดูหนาว​ จากนั้น​ไป​ขอความช่วยเหลือ​ที่​ซินเจียง​ตอน​ใต้​”

นี่​เป็นเรื่อง​ที่​สามารถ​อนุมาน​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​ พลัง​ต่อสู้​ใน​ระดับ​บรรลุ​ธรรม​ของ​ต้าฟ่ง​ขาดแคลน​ ทั้งหมด​เป็น​ขั้น​สามจำนวน​หนึ่ง​ ซึ่งเป็นไปไม่ได้​เลย​ที่จะ​เอาชนะ​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​หนึ่ง​และ​ขั้น​สอง​

และ​เมื่อ​ถึงระดับ​บรรลุ​ธรรม​แล้ว​ หาก​คิด​จะเลื่อนขั้น​ไป​อีก​ ตั้งแต่​ขั้น​สามเป็นต้นไป​ นั่น​เป็นเรื่อง​ยาก​มาก​

ผู้​ที่​ขาด​ปัญญา​ ก็​เหมือน​อย่าง​โค่ว​หยาง​โจว​ของ​กลุ่ม​พันธมิตร​จอม​ยุทธ์​ ห้า​ร้อย​ปี​กว่า​จะฝืน​เลื่อนขั้น​กลายเป็น​จอม​ยุทธ์​ขั้น​สอง​ได้​

ผู้​ที่​ปัญญา​โดดเด่น​ อย่างเช่น​พวก​ราชครู​และ​ลั่วอวี้เหิง​ พวกเขา​บรรลุ​ขั้น​สอง​ตั้งแต่​อายุ​ยัง​น้อย​ แต่​ก็​ติด​อยู่​ที่​ขั้น​สอง​ยี่สิบ​ปี​เต็มๆ​

ใน​เมื่อ​ไม่สามารถ​เลื่อนขั้น​เพื่อ​ตีเสมอ​พลัง​ต่อสู้​โดย​การ​พึ่งพา​ตนเอง​ใน​ระยะเวลา​อัน​สั้น​ได้​ เช่นนั้น​การ​ขอความช่วยเหลือ​จึงเป็น​ตัวเลือก​เพียง​อย่าง​เดียว​ของ​สวี่​ชีอัน​

จีหย่วน​เอ่ย​ด้วย​เสียง​เยาะเย้ย​ว่า​

“เผ่าพันธุ์​กู่​ทาง​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ได้รับ​ข้อจำกัด​จาก​พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​ ซึ่งจาก​ที่จะ​กำเนิด​ขั้น​หนึ่ง​ ใน​เจ็ด​ฝ่าย​มีเพียง​แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​ที่​เป็น​ขั้น​สอง​ แต่​ไม่ชำนาญ​การต่อสู้​ ผู้​แข็งแกร่ง​ระดับ​บรรลุ​ธรรม​ของ​ปีศาจ​ตอน​ใต้​ก็​ยิ่ง​หา​ยากจน​น่าสงสาร​”

“ศพ​ที่​น่ากลัว​นั่น​คง​ไม่สามารถ​ออกจาก​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ได้​ จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​อาจจะ​แทรกแซง​ศึก​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ แต่ว่า​ หาก​นาง​มายัง​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ เช่นนั้น​ดินแดน​ประจิม​ทิศ​ก็​คง​ไม่ถูก​ตรึง​ไว้​ สามารถ​แบ่ง​กำลัง​ทหาร​ส่วนหนึ่ง​มาโจมตี​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ได้​”

“ที่จริง​แล้ว​ตัวแปร​เพียง​อย่าง​เดียว​อยู่​ที่​สำนัก​พ่อ​มด​ หลังจาก​น่า​ห​ลัน​เทียน​ลู่​หลุดพ้น​จาก​สถานการณ์​ที่​ยากลำบาก​ สำนัก​พ่อ​มด​ก็ได้​มีพ่อ​มด​ผู้ยิ่งใหญ่​หนึ่ง​คน​ เจ้าแห่ง​วัสสาน​หนึ่ง​คน​”

“หาก​พวกเขา​ผูก​พันธมิตร​กับ​ต้าฟ่ง​ คงจะ​ปวดหัว​เล็กน้อย​”

“คุณชาย​เก้า​ฉลาด​มาก​” เก่​อ​เห​วิน​เซวียน​เอ่ย​ยิ้ม​ว่า​

“ข้า​เอง​ก็​คิด​เช่นนี้​ แต่​พูด​ตามตรง​ ไม่ต้อง​สนใจ​สำนัก​พ่อ​มด​สัก​ระยะ​ ส่วน​มูลเหตุ​ ข้า​เอง​ก็​ไม่รู้​”

เขา​นิ่ง​ไป​ครู่หนึ่ง​ ก่อน​เอ่ย​ต่อว่า​

“ใน​เมื่อ​สวี่​ชีอัน​เต็มใจ​เป็น​เต่า​หดหัว​ ก็​ปล่อย​เขา​ไป​เถอะ​ จอม​ยุทธ์​ขั้น​สามคนเดียว​ พลิก​คลื่น​ลม​อะไร​ไม่ได้​หรอก​ ว่าแต่​ออกจาก​เมืองหลวง​พรุ่งนี้​หรือ​”

จีหย่วน​ส่งเสียง​ ‘อืม​’ แล้ว​เอ่ย​ว่า​

“แลกเปลี่ยน​หนังสือสัญญา​ตอน​ประชุม​ราชสำนัก​รอบ​เช้าของ​วันพรุ่งนี้​ และ​จากนั้น​ก็​ออกจาก​เมืองหลวง​กลับ​ไป​ยัง​อวิ๋น​โจว​”

นี่​คือ​ขั้น​ตอนที่​จำเป็น​ หลังจาก​การ​เจรจา​สิ้นสุด​ ทั้งสองฝ่าย​จะแลกเปลี่ยน​หนังสือสัญญา​ จากนั้น​ ‘อำลา​’ ใน​ที่สาธารณะ​อย่าง​การประชุม​ราชสำนัก​

หลังจาก​สิ้นสุด​การ​โทรจิต​ จีหย่วน​คืน​หอยสังข์​กระแสจิต​ให้​สวี่​หยวน​ซวง​ และ​ยิ้ม​ตาหยี​ถามสวี่​หยวน​ไหว​ที่อยู่​อีก​ข้าง​ว่า​

“หยวน​ไหว​ คณิกา​ใน​สำนัก​สังคีต​ของ​เมืองหลวง​ ทุกคน​ล้วน​เป็น​สตรี​งามที่​โดดเด่น​ ก่อน​ออกจาก​เมืองหลวง​วันนี้​ พี่​เก้า​ขอ​ถือโอกาส​ที่​ยังมี​เวลา​พา​เจ้าไป​เพลิดเพลิน​สักหน่อย​ได้​หรือไม่​”

สวี่​หยวน​ไหว​ไม่สนใจ​เขา​

ขณะ​จีหย่วน​เดินเล่น​พัด​พับ​ออกจาก​ประตู​ไป​โดย​ไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย​ เขา​พลัน​เอ่ย​ไป​ว่า​ ไม่กล้า​ไป​สำนัก​สังคีต​จริงๆ​ สมมุติ​ว่า​ถูก​ลอบสังหาร​ขึ้น​มาจะทำ​เช่นไร​

…………………………………………..

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท