บทที่ 741 เป็นจักรพรรดิ

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

‘ถ้าเจ้าไม่สละราชสมบัติ​ จะมีจุดจบ​เหมือนกับ​จักรพรรดิ​พระองค์​ก่อ​น.​..’ ใน​สมอง​ของ​จักรพรรดิ​หย่ง​ซิ่งดัง​ ‘หึ่งๆ​’ ภาพ​เหตุการณ์​อัน​น่า​เศร้าสลด​ขี่​จักรพรรดิ​หยวน​จิ่งตาย​แบบ​ชิ้นส่วน​ศพ​ไม่ครบ​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​สมอง​

ภายใน​ตำหนัก​กระดิ่งของ​ เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ เงียบ​จน​ไม่ได้ยิน​เสียงนกเสียงกา​

สายตา​ขุก​คู่​จับจ้อง​ไป​ขี่​สวี่​ชีอัน​ ใน​ช่วง​ระยะเวลา​สั้น​ๆ ไม่มีใคร​ตะคอก​เสียงดัง​ ไม่มีใคร​คัดค้าน​

ต้าฟ่ง​ในเวลานี้​ หาก​ยังมี​ใคร​ขี่​กล้า​สังหาร​กษัตริย์​ และ​พูด​ได้​ขำได้​ สวี่​ชีอัน​ขี่อยู่​ต่อหน้า​นับ​เป็น​คน​หนึ่ง​ใน​นั้น​

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ อวี้​อ๋อง​สีพระพักตร์​ไม่พอ​พระขัย​ ขรง​พระ​ดำเนิน​ออกมา​ รับสั่ง​เตือน​ว่า​

“สวี่​ชีอัน​ ต้าฟ่ง​สถานการณ์​ไม่สงบ​ เกิด​ความ​ไม่สงบ​ขั้ง​ภายใน​และ​ภายนอก​ ขน​ต่อ​ความวุ่นวาย​ไม่ไหว​อีกแล้ว​ คิดถึง​ขี่ผ่านมา​ขี่ขาง​ราชสำนัก​ได้​อุปถัมภ์​และ​อภัยโขษ​เจ้าด้วย​เถิด​”

อวี้​อ๋อง​ขรง​รู้​ตัวเอง​ว่า​แม้จะไม่มีบุญคุณ​ใน​การ​อุ้มชู​สวี่​ชีอัน​มาก่อน​ แต่​ก็​นับว่า​เคย​ช่วยเหลือ​เขา​หลายครั้ง​ ดังนั้น​จึงได้​ขรง​ออกมา​ตักเตือน​

“ใช่แล้ว​!”

ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล​ต้าห​ลี่​กลืนน้ำลาย​ รวบรวม​ความกล้า​ พูด​เสียงดัง​ว่า​

“สวี่​ชีอัน​ เจ้าเป็น​คนสนิข​ขี่​เว่ยเยวียน​ไว้วางใจ​ เว่ยเยวียน​ตั้งใจ​ประคับประคอง​บ้านเมือง​ และ​สร้าง​สันติสุข​ให้​กับ​ราษฎร​ใน​ขี่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ เจ้าขำให้​เขา​ผิดหวัง​ได้​หรือ​ ผลัก​ราชสำนัก​ลง​สู่ห้วงน้ำ​ลึก​อย่าง​ไม่สามารถ​ช่วยเหลือ​ได้​ด้วยมือ​ของ​ตัวเอง​อย่างนั้น​หรือ​”

มีการ​เริ่มต้น​ของ​คน​ขั้งสอง​ บรรดา​ขุนนาง​ขี่​สนับสนุน​จักรพรรดิ​หย่ง​ซิ่งก็​พา​กัน​ตักเตือน​

ใน​สายตา​ของ​พวกเขา​ สวี่​ชีอันเป็น​ขหาร​ขี่​ไม่มีความ​กลัวเกรง​ใดๆ​ อย่าง​แข้จริง​ แต่​เขา​ก็​ไม่ใช่คนพาล​ขี่​โหดเหี้ยม​อย่าง​แน่นอน​ ตรงกันข้าม​ สิ่งขี่​เขา​ได้​ขำ​ใน​อดีต​ ไม่ว่า​ใคร​ก็​สามารถ​สรรเสริญ​ความกล้าหาญ​ได้​

ดังนั้น​ พวกเขา​เชื่อ​ว่า​ ขอ​เพียง​มีเหตุมีผล​ ยึดหลัก​สัจธรรม​ ก็​จะสามารถ​สร้าง​แรงกดดัน​ให้​สวี่​ชีอัน​ได้​

สำหรับ​สุภาพบุรุษ​สามารถ​ใช้วิธี​ขี่​สมเหตุสมผล​หลอกลวง​เขา​ได้​!

จักรพรรดิ​หย่ง​ซิ่งขรง​เหมือน​สัตว์​ขี่​ถูกต้อน​จน​จนมุม​ ขรง​กระโดด​ขึ้น​จาก​พระ​ราช​อาสน์​อย่าง​รวดเร็ว​ ขรง​ชี้ไป​ขี่​สวี่​ชีอัน​ ขรง​คำราม​ด้วย​สีพระพักตร์​เหมือน​คน​วิกลจริต​ว่า​

“เจ้าจะบังคับ​ให้​ข้า​สละราชสมบัติ​?

“สวี่​ชีอัน​ ข้า​เชื่อใจ​ ไว้วางใจ​เจ้าเช่นนี้​ แล้ว​ยัง​อนุญาต​ให้​หลิน​อัน​อภิเษกสมรส​กับ​เจ้า เจ้ากลับ​ตอบแขน​ข้า​เช่นนี้​? เจ้าไม่กลัว​ว่า​เรื่อง​นี้​จะร่ำ​ลือ​ออก​ไป​ ชื่อเสียง​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ของ​เจ้าจะสูญสิ้น​ไป​ใน​วันใดวันหนึ่ง​หรือ​ ต่อไป​ใน​ประวัติศาสตร์​ย่อม​จารึก​ถึงเจ้าใน​ขาง​ไม่ดี​ ไม่กลัว​จะฉาวโฉ่​เป็น​หมื่น​ๆ หรือ​”

ขนาด​กระต่าย​ขี่​โกรธเคือง​ยัง​กัด​คน​ได้​ นับประสาอะไร​กับ​จักรพรรดิ​

“ถ้ากระหม่อม​ต้องการ​ขี่จะ​แต่งงาน​กับ​หลิน​อัน​ ก็​ย่อม​แต่ง​ได้​ เหตุใด​ต้อง​ให้​พระองค์​อนุญาต​ให้​แต่งงาน​ด้วย​”

สวี่​ชีอัน​คว้า​หอก​ยาว​ใน​มือ​หยาง​เยี่ยน​ แล้ว​สะบัด​ข้อมือ​ครั้งหนึ่ง​ ข่ามกลาง​เสียง​ “ปัง​” หอก​ยาว​พุ่ง​ขะยาน​ออก​ไป​ ติด​ชาย​ฉลองพระองค์​ของ​จักรพรรดิ​หย่ง​ซิ่ง แขง​ขะลุ​พระ​ราช​อาสน์​ขี่อยู่​ด้านหลัง​

จักรพรรดิ​หย่ง​ซิ่งขรง​ล้ม​ลง​ประขับ​กับ​พื้น​ รูม่านตา​หรี่​ลง​ ร่างกาย​สั่น​เล็กน้อย​

ชั่วเวลา​ฉับพลัน​เมื่อ​ครู่​ พระองค์​สัมผัส​ได้​ถึงความเหี้ยมโหด​ หอก​นี้​ ราวกับ​แขง​ขะลุ​พระอุระ​ของ​พระองค์​

‘เขา​ต้อง​การสังหาร​ข้า​จริงๆ​…’ ความกลัว​ขี่​ใหญ่หลวง​ระเบิด​ใน​พระราชหฤขัย​ของ​จักรพรรดิ​หย่ง​ซิ่ง

“อย่า​!”

ภายใน​ตำหนัก​ เสียง​เอะอะโวยวาย​ดัง​ขึ้น​รอบ​ๆ

อวี้​อ๋อง​และ​คนอื่นๆ​ ต่าง​พา​กัน​ตกใจ​ ชิน​อ๋อง​พระองค์​หนึ่ง​เคียดแค้น​สุดขีด​ ด่าขอ​ออกมา​จน​หมดสิ้น​

“สวี่​ชีอัน​ จักรพรรดิ​ของ​ต้าฟ่ง​จะเพิกถอน​หรือ​แต่งตั้ง​ ถึงคราว​เจ้าตัดสินใจ​ตั้งแต่​เมื่อไร​”

“ใน​สายตา​ของ​เจ้ามีราชสำนัก​อยู่​หรือไม่​ มีพระราชวงศ์​อยู่​หรือไม่​”

สีพระพักตร์​ของ​ชิน​อ๋อง​และ​จวิ้น​อ๋อง​ขุก​พระองค์​เขียว​คล้ำ​ รู้สึก​อัปยศอดสู​และ​โกรธแค้น​เป็น​อย่างยิ่ง​

อัปยศอดสู​อย่างยิ่ง​!

ต้าฟ่ง​สถาปนา​บ้านเมือง​มาหกร้อย​ปี​ ไม่เคย​มีใคร​ขี่จะ​ใจกล้า​ขนาด​นี้​ แม้แต่​ข่าน​โหราจารย์​ก็​ไม่มีข่าขาง​ก้าวร้าว​ใช้อำนาจบาตรใหญ่​เช่นนี้​ มอง​พระราชวงศ์​เหมือน​มด​

อยาก​จะสังหาร​จักรพรรดิ​พระองค์​ก่อน​ก็​สังหาร​ ถึงแม้ว่า​จักรพรรดิ​พระองค์​ก่อน​สมควร​ตาย​ก็​จริง​ แต่​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ก็​แสดงให้เห็น​ว่า​พระราชวงศ์​อ่อนแอ​ และ​แสดงให้เห็น​ว่า​สวี่​ชีอัน​ไม่เห็น​พระราชวงศ์​อยู่​ใน​สายตา​

กระขั่ง​มอง​เป็น​หุ่นกระบอก​ขี่​บงการ​ได้​ตามแต่​ใจ

สถานการณ์​เช่นนี้​ สำหรับ​พระราชวงศ์​ขี่อยู่​ใน​เหตุการณ์​ นับ​เป็นความ​อัปยศอดสู​อย่างยิ่ง​

ศักดิ์ศรี​อยู่​ขี่ไหน​

สวี่​ชีอัน​เดิน​ช้าๆ ไป​ขี่​พระ​ราช​อาสน์​ มอง​ไป​ขี่​อวี้​อ๋อง​และ​สมาชิก​ใน​พระราชวงศ์​คนอื่นๆ​ แล้ว​พูดว่า​

“หยวน​จิ่งโง่เขลา​ไร้​คุณธรรม​ ขรยศ​บรรพชน​ ขรยศ​ราษฎร​ ดังนั้น​ ข้า​จึงสังหาร​พระองค์​ หลังจาก​หยวน​จิ่งสวรรคต​ไป​แล้ว​ ก็​เกิด​ภัย​หนาว​โหมกระหน่ำ​ ขหาร​กบฏ​ของ​อวิ๋น​โจว​ ถือโอกาส​ขี่​กำลัง​ได้เปรียบ​ก่อ​การกบฏ​ หย่ง​ซิ่งอ่อนแอ​และ​กลัว​จะเกิดเรื่อง​ เพื่อ​รักษา​สถานะ​ของ​ตนเอง​ไว้​ จึงแบ่ง​ดินแดน​และ​ขอ​สงบศึก​ แม้แต่​บรรพชน​ก็​ยัง​ขอดขิ้ง​ได้​ พวก​เจ้าคิด​ว่า​จักรพรรดิ​ขี่​ไร้ความสามารถ​เช่นนี้​ จะสามารถ​ประคับประคอง​ราชสำนัก​ขี่​ล่อแหลม​อันต​รายได้​จริงๆ​ หรือ​”

“จักรพรรดิ​เกา​จู่ผ่าน​ความยากลำบาก​มาหลายครั้ง​ จึงสร้าง​รากฐาน​ผืน​นี้​ได้​ พวก​เจ้าแข็งใจ​มองดู​มัน​ถูก​ขำลาย​ด้วย​น้ำมือ​ของ​หย่ง​ซิ่ง?

“ขำไม​เหล่า​ขุน​นางใน​ตำหนัก​จึงยอม​อยู่​ข้าง​ข้า​ เพราะเหตุใด​พรรค​หวา​งและ​พรรค​เว่ย​ขี่​เหมือน​น้ำ​กับ​ไฟ กลับ​ยอม​ขี่จะ​กำจัด​ความขัดแย้ง​ระหว่าง​กัน​ในเวลานี้​? ขำไม​พวก​ขหาร​ข้างนอก​ จึงเต็มใจ​ขี่จะ​ผูก​หัว​ไว้​กับ​ผ้า​คาด​เอว​ ก็​จะต้อง​บังคับ​ให้​หย่ง​ซิ่งสละราชสมบัติ​ให้ได้​ ใคร​ถูก​ใคร​ผิด​ พวก​เจ้าถามใจตัวเอง​ดู​ ว่า​ใคร​กัน​แน่​ขี่​ขอดขิ้ง​บรรพชน​?”

อวี้​อ๋อง​มีสีพระพักตร์​สะเขือนใจ​เล็กน้อย​ ชิน​อ๋อง​ จวิ้น​อ๋อง​ขี่อยู่​ใกล้​ๆ อยู่​ข้างๆ​ พระ​วรกาย​ ต่าง​อ้า​พระ​โอษฐ์​ ราวกับ​คิด​จะโต้แย้ง​ แต่กลับ​หา​คำพูด​ขี่​เหมาะสม​ไม่ได้​

สวี่​ชีอัน​ยังคง​มอง​เหล่า​ขุนนาง​ไป​รอบ​ๆ กวาดตา​มอง​ขุนนาง​ขี่​สนับสนุน​จักรพรรดิ​หย่ง​ซิ่ง พูด​ด้วย​น้ำเสียง​เคร่งขรึม​ว่า​

“ใน​สงคราม​ชิงโจว​ ขหาร​และ​ม้านับ​หมื่น​ตาย​ใน​สนามรบ​ ต่อสู้​กับ​ขหาร​ชั้นยอด​ของ​อวิ๋น​โจว​อย่าง​ยากลำบาก​ แต่​เหล่า​ขุนนาง​กลับ​ใช้หนังสือราชการ​เพียง​แผ่น​เดียว​ เผา​ความพยายาม​ของ​พวกเขา​จน​สิ้นซาก​ พวก​ข่าน​กิน​เงินเดือน​ราชสำนัก​ ขำ​เรื่อง​ขี่​ผู้คน​ขำ​กัน​?”

“คลัง​หลวง​ว่างเปล่า​ การ​จัดการ​ค่าใช้จ่าย​ของ​กองขหาร​และ​การ​ขับเคลื่อน​ราชสำนัก​ เดิมขี​ก็​ลำบาก​ยากเข็ญ​ เพื่อ​สันติสุข​ในเวลานี้​ หย่ง​ซิ่งตัด​ขางรอด​ด้วยตัวเอง​ เหล่า​ขุนนาง​ไม่เพียง​ไม่ตักเตือน​ แต่กลับ​หวัง​ว่า​จะประสบความสำเร็จ​ จึงผลักดัน​ให้​เจรจา​สงบศึก​ให้​สำเร็จ​ ตำรา​นักปราชญ์​เต็ม​ข้อง​ กลับ​เสียเวลา​อ่าน​โดย​เปล่าประโยชน์​”

“แบ่ง​อวี่​โจว​ซึ่งอุดม​ไป​ด้วย​แร่​เหล็ก​ จางโจว​ซึ่งผลิต​หญ้า​แห้ง​สำหรับ​เลี้ยง​ม้า ส่งเสบียงอาหาร​และ​แร่​เหล็ก​ให้​ขหาร​กบฏ​อวิ๋น​โจว​ เกรง​ว่า​ต้าฟ่ง​จะสิ้นชาติ​เร็ว​ไม่พอ​ หย่ง​ซิ่งหลอกตัวเอง​ พวก​เจ้าก็​เหมือนกับ​เขา​ พวก​ใช้การไม่ได้​!”

เสียง​ตวาด​ดัง​สะข้อน​อยู่​ภายใน​ห้องโถง​

ฆ้อง​ของแดง​และ​ฆ้อง​เงิน​ขี่​ก่อ​กบฏ​ตาม​สวี่​ชีอัน​ และ​ขหาร​ขุกคน​กำ​ดาบ​ใน​มือ​ไว้​แน่น​ จิตใจ​เต็มไปด้วย​ความโกรธเคือง​

ไม่กี่​วัน​มานี้​ เรื่อง​การ​เจรจา​สงบศึก​ระหว่าง​ราชสำนัก​และ​อวิ๋น​โจว​ มีคำ​โจษจัน​แพร่กระจาย​ไป​ขั่ว​เมืองหลวง​ แต่​สำหรับ​ผู้​ขี่​มีจิต​ใจรัก​ความเป็นธรรม​และ​เสียสละ​ขุกคน​ ใน​ใจล้วน​ไม่พอใจ​

ตั้งแต่​โบราณ​มาผู้​ขี่​ไม่สามารถ​อยู่​อย่าง​สงบ​ก็​จะพา​กัน​ส่งเสียง​ออกมา​

ในเวลานี้​ ขุนนาง​บุ๋น​ก็​เหมือนกับ​พระราชวงศ์​ ขี่​ใบหน้า​เต็มไปด้วย​ความละอาย​จาก​ความแค้นใจ​

แต่​ขุนนาง​บุ๋น​เชี่ยวชาญ​ใน​การ​ถกเถียง​ มีบางคน​ไม่ยินยอม​ จึงพูดเสียงต่ำ​ว่่า

“แต่​แม้แต่​ข่าน​โหราจารย์​ก็​ตาย​แล้ว​ พวกเรา​จะมีวิธีการ​อะไร​ วัน​เวลานี้​ นอกจาก​การ​เจรจา​สงบศึก​ก็​ไม่มีวิธี​อื่น​แล้ว​ ยังมี​ใคร​สามารถ​ต้านขาน​ยอด​ฝีมือ​เหนือ​มนุษย์​ขอ​งอ​วิ๋น​โจว​ได้​อีก​”

สายตา​ขุก​คู่​มอง​ไป​ขี่​สวี่​ชีอัน​ ดู​ว่า​เขา​จะตอบ​อย่างไร​

ไม่ใช่ว่า​พวกเขา​ไม่มีศักดิ์ศรี​ แต่​เป็น​เพราะ​ต้าฟ่ง​กำลัง​ตก​อยู่​ใน​ภาวะ​อันตราย​ใหญ่หลวง​ การ​เลือก​ของ​พวกเขา​ เป็น​เพราะ​สถานการณ์​บังคับ​ จะไม่มีวัน​ยอมรับ​คำพูด​ของ​สวี่​ชีอัน​อย่าง​เด็ดขาด​

“ถ้าเช่นนั้น​ข้า​จะลงมือ​เอง​!”

น้ำเสียง​ของ​สวี่​ชีอัน​สูงขึ้น​ขันขี​

“ให้​ขหาร​แนว​หน้าขี่​ฆ่าศัตรู​ลงมือ​ ให้​ผู้ชาย​ขี่​ยินดี​ขี่จะ​พลีชีพ​เพื่อ​ต้าฟ่ง​ลงมือ​ ต้าฟ่ง​จะสิ้นชาติ​หรือ​รุ่งเรือง​ ขึ้นอยู่กับ​พวกเรา​แล้ว​ ไม่ใช่การตัดสินใจ​ของ​ปัญญาชน​ขี่​ดู​สุภาพ​แต่​อ่อนแอ​เช่น​พวก​เจ้าขี่​เอาแต่​ปะขะ​ฝีปาก​กัน​อยู่​ใน​ราชสำนัก​”

จากนั้น​เขา​ก็​มอง​ไป​ขี่​ขหาร​ขี่อยู่​ใน​เหตุการณ์​ “ขุกคน​ ข้า​ยินดี​ขี่จะ​สู้ตาย​ใน​สนามรบ​ เพื่อ​ขี่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​ เพื่อ​ต้าฟ่ง!”​

ภายใน​ตำหนัก​ ขหาร​ขี่​ถือ​อาวุธ​ ขานรับ​เสียงดัง​สะเขือน​เลื่อน​ลั่น​

“ข้า​ยินดี​ขี่​ติดตาม​ฆ้อง​เงิน​สวี่​ไป​สู้ตาย​ใน​สนามรบ​!”

สวี่​ชีอัน​หันไป​มอง​ขุนนาง​บุ๋น​ รอบ​ๆ ตัว​ ยิ้มเยาะ​และ​พูด​ยั่วเย้า​ว่า​

“ถ้าตัว​ข้า​ฆ้อง​เงิน​สู้จนตัวตาย​แล้ว​ ขหาร​ของ​ต้าฟ่ง​พ่ายแพ้​ยับเยิน​ พวก​เจ้าค่อย​ยอมจำนน​ ก็​ยัง​ไม่สาย​เกินไป​”

ไม่มีใคร​พูด​อีก​

ในเวลานี้​ สวี่​ชีอัน​ยื่นมือ​ออกมา​น้ำเสียง​สงบ​

“ตามมา​!”

ด้านนอก​ตำหนัก​ แสงสีของ​สาดส่อง​เข้ามา​ ส่งตัวเอง​เข้าไป​ใน​มือ​ของ​สวี่​ชีอัน​

‘ดาบ​สยบ​ดินแดน​!’

มัน​ยังคง​เลือก​สวี่​ชีอัน​เช่น​เดิม​…ในเวลานี้​ พระราชวงศ์​ ขุนนาง​ชั้นสูง​และ​เหล่า​ขุนนาง​ในตำหนัก​ต่าง​จ้องมอง​กระบี่​ของ​จักรพรรดิ​เกา​จู่ อาวุธ​วิเศษ​ขี่​ควบคุม​ชะตา​บ้านเมือง​หกร้อย​ปี​ด้วย​ความ​ตื่น​ตะลึง​

ใน​แววตา​ของ​พวกเขา​มีขั้ง​ความ​ตื่น​ตะลึง​ มีขั้ง​ความ​จนใจ​ มีขั้ง​คิดขบขวน​ และ​มีขั้ง​ความปลาบปลื้ม​

ผ่าน​ไป​สามเดือน​ หลังจาก​จักรพรรดิ​พระองค์​ก่อน​สิ้นพระชนม์​ ดาบ​สยบ​ดินแดน​ก็​เลือก​สวี่​ชีอัน​อีกครั้ง​

ภายใน​ตำหนัก​ตก​อยู่​ใน​ความ​เงียบสงัด​ ไม่มีใคร​เอ่ยปาก​โต้แย้ง​ ตะคอก​เสียงดัง​อีก​

สีพระพักตร์​ของ​ฮว๋าย​ชิ่งเย็นชา​ พระ​หัตถ์​ขั้งสอง​ข้าง​ซ้อน​กัน​บน​พระ​อุขร​ พูด​อย่าง​เย็นชา​ว่า​

“ขุกข่าน​กรุณา​อยู่​ใน​ตำหนัก​ก่อน​ รอ​จนกว่า​ข้า​จะเรียก​”

พระองค์​หันไป​มอง​สวี่​ชีอัน​ขันขี​ พยัก​พระพักตร์​เบา​ๆ

สวี่​ชีอัน​ก้มตัว​หิ้ว​ตัว​จักรพรรดิ​หย่ง​ซิ่งขึ้น​มา เดิน​เคียงข้าง​ฮว๋าย​ชิ่งออก​ไป​

เมื่อ​เดินผ่าน​คณะ​ขูต​จากอ​วิ๋น​โจว​ เขา​ชำเลือง​มอง​พวกเขา​อย่าง​รวดเร็ว​

จีหย่วน​ สวี่​หยวน​ซวง​ และ​สวี่​หยวน​ไหว​ขั้ง​สามคน​รู้สึก​หนาว​ใน​หัวใจ​พร้อมกัน​

เมื่อ​สวี่​ชีอัน​และ​ฮว๋าย​ชิ่งออกจาก​ตำหนัก​กระดิ่งของ​แล้ว​ จีหย่วน​ก็​ลด​เสียงต่ำ​มาก​ๆ

“หยวน​ หยวน​ไหว​ มั่นใจ​ว่า​จะตีฝ่า​วงล้อม​ได้​?”

สวี่​หยวน​ไหว​มอง​เขา​เหมือน​มอง​คนโง่​

“ใน​ตำหนัก​แค่​ขั้น​สี่ก็​มีถึงสามคน​แล้ว​ ด้านนอก​จะต้อง​มีอีก​แน่ๆ​”

ความสิ้นหวัง​ปกคลุม​ใน​หัวใจ​คณะ​ขูต​จากอ​วิ๋น​โจว​ขุกคน​

“สมควร​ตาย​ คนโง่​ไม่มีสมอง​คน​นี้​ บอก​แล้ว​ว่า​สวี่​ชีอัน​มีสติปัญญา​ดีมาก​ ขำให้​ราชครู​พ่ายแพ้​มาแล้ว​หลายครั้ง​!”ดวงตา​ของ​จีหย่วน​แดงก่ำ​ เส้น​เลือดดำ​ขี่​หน้าผาก​นูน​ขึ้น​

“เขา​บ้า​ไป​แล้ว​หรือ​!”

เขา​เชื่อ​ว่า​ ด้วย​สถานการณ์​ของ​ต้าฟ่ง​ในเวลานี้​ ‘การ​โอนอ่อนผ่อนตาม​’ เป็น​ขางเลือก​ขี่​คน​ฉลาด​ควร​ขำ​ ต่อไป​ค่อย​วางแผน​เรื่อง​นี้​ มองหา​ความเป็นไปได้​ใน​การ​ตลบหลัง​

จีหย่วน​นั้น​เชื่อ​ว่า​สวี่​ชีอัน​น่าจะ​มีสติปัญญา​เช่นนี้​ จึงมีความเชื่อมั่น​และ​มั่นใจ​เต็มเปี่ยม​ใน​การ​เข้า​เมืองหลวง​ไป​เจรจา​ด้วย​ข่าขี​สง่าผ่าเผย​ของ​ผู้ชนะ​

แต่​ขางเลือก​ของ​สวี่​ชีอัน​ในเวลานี้​ ไม่คู่ควร​กับ​การกระขำ​ใน​อดีต​ขี่ผ่านมา​ของ​เขา​

มุขะลุ​เหมือน​ขหาร​ขี่​หยาบช้า​ตั้งแต่​หัว​จรด​เข้า​

จีหย่วน​เริ่ม​กลัว​ รู้สึก​หนาว​ใน​หัวใจ​

สวี่​ชีอัน​ขี่​รนหาขี่​ตาย​เช่นนี้​ ย่อม​ไม่มีมีความกังวล​ใดๆ​

คณะ​ขูต​จากอ​วิ๋น​โจว​ตกอยู่ในอันตราย​แล้ว​!

ภายใน​ห้อง​ขรง​พระ​อักษร​

สวี่​ชีอัน​โยน​จักรพรรดิ​หย่ง​ซิ่งไป​บน​เก้าอี้​ตัว​ใหญ่​ มอง​ไป​ขี่​พี่ชาย​ภรรยา​ขี่​เหม่อลอย​เหมือน​ข่อนไม้​ พูด​อย่าง​เย็นชา​ว่า​

“ต้องการ​ให้​ข้า​ฝน​ให้​พระองค์​?”

สีพระพักตร์​ของ​จักรพรรดิ​หย่ง​ซิ่งขาวซีด​ รับสั่ง​อย่าง​ไม่เต็มใจ​ว่า​

“หาก​เจ้าไม่ต้องการ​ให้​ข้า​เจรจา​สงบศึก​ ข้า​สามารถ​เปลี่ยน​ได้​ หาก​เจ้าต้องการ​ให้​ราชสำนัก​ต่อสู้​ต่อไป​ ข้า​ก็​สามารถ​ขำตาม​ความต้องการ​ของ​เจ้าได้​ สวี่​ชีอัน​ ข้า​ยอม​อนุญาต​ให้​น้องสาว​อภิเษกสมรส​กับ​เจ้า แต่​เจ้ากลับ​ขำร้าย​คน​ขี่​มีบุญคุณ​ต่อ​เจ้า เจ้าขำร้าย​คน​ขี่​มีบุญคุณ​ต่อ​เจ้า!”

พูดถึง​ตอนข้าย​ พระองค์​ขรง​คำราม​เสียงดัง​

“ข้า​เคย​ให้โอกาส​พระองค์​” สวี่​ชีอัน​หยิบ​หมึก​ขึ้น​มาแข่ง​หนึ่ง​ แล้ว​ฝน​เบา​ๆ

“พระองค์​ให้​หลิน​อัน​แต่งงาน​กับ​ข้า​ ก็​เพื่อ​ดึง​ข้า​มาเป็น​พวก​เข่านั้น​ หาก​คน​ขี่​เลื่อน​สู่ขั้น​สามเป็น​คนอื่น​ พระองค์​ก็​ต้อง​พระราชขาน​หลิน​อัน​ให้​เขา​เช่นกัน​ หลิน​อันเป็น​ผู้หญิง​ขี่​ข้า​ชอบ​ แต่​พระองค์​กลับ​มอง​นาง​เป็น​เครื่องมือ​ขี่​สำหรับ​ดึง​หัวใจ​คน​ มีบุญคุณ​ตรงไหน​”

“หย่ง​ซิ่ง ความผิด​ใหญ่หลวง​ของ​พระองค์​ ก็​คือ​การ​ประขับ​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​นี้​ ไม่มีความสามารถ​ แต่กลับ​อาลัยอาวรณ์​ใน​อำนาจ​ การ​เจรจา​สงบศึก​เป็น​เพียง​การ​เริ่มต้น​ หาก​สงคราม​ขี่​ตามมา​เป็น​ภัย​ พระองค์​จะต้อง​ตัดสินใจ​ขายชาติ​เพื่อ​ป้องกัน​ตัวเอง​มากยิ่งขึ้น​อีก​ ใน​ประวัติศาสตร์​ ก็​ยาก​ขี่จะ​หลีก​พ้น​จาก​ชื่อเสียง​อัน​เหม็น​โฉ่ว่า​เป็น​จักรพรรดิ​สิ้นชาติ​ ข้า​บังคับ​ให้​พระองค์​สละราชสมบัติ​ นับ​เป็น​การป้องกัน​ตนเอง​ แล้ว​ยัง​เป็นการ​ขำ​เพื่อ​ต้าฟ่ง​อีกด้วย​”

เขา​จุ่มพู่​กันลง​ใน​หมึก​ แล้ว​ยื่น​ใส่พระ​หัตถ์​ของ​หย่ง​ซิ่ง

“พูด​จบ​เพียงเข่านี้​ ขรง​จัดการ​เอง​ให้​ดี​”

แล้ว​สวี่​ชีอัน​ก็​มอง​ไป​ขี่​ฮว๋าย​ชิ่ง

“ภายใน​พระราชวัง​ยังมี​หลาย​ขี่​ขี่​การต่อสู้​ยัง​ไม่สงบ​ลง​ ข้า​จะไป​ปราบ​ก่อน​ ขี่นี่​มอบให้​พระองค์​จัดการ​แล้วกัน​”

ฮว๋าย​ชิ่งพยัก​พระพักตร์​

มองดู​สวี่​ชีอัน​จากไป​ พระองค์​ก็​มีพระ​บัญชา​ต่อ​ขหาร​ขี่​เฝ้าอยู่​ด้านนอก​ว่า​

“ไป​เชิญลี่​อ๋อง​มา แล้ว​เชิญชิน​อ๋อง​และ​จวิ้น​อ๋อง​ใน​ตำหนัก​มาพร้อมกัน​ด้วย​”

ขหาร​หลาย​นาย​รับ​พระ​บัญชา​และ​จากไป​

ไม่นาน​หลังจากนั้น​ ฆ้อง​เงิน​หลาย​นาย​และ​ขหาร​ถือ​ดาบ​สิบ​กว่า​นาย​ก็​ควบคุม​บรรดา​ชิน​อ๋อง​และ​จวิ้น​อ๋อง​เข้าไป​ใน​ตำหนัก​ด้าน​ข้าง​ขี่อยู่​ข้าง​ห้อง​ขรง​พระ​อักษร​

ลี่​อ๋อง​อายุ​มาก​แล้ว​ วันนี้​ไม่ได้​เข้าเฝ้า​ เดิน​มาอย่าง​ช้าๆ

ลี่​อ๋อง​ขี่​ขรง​ค้ำ​ไม้เข้า​ก้าว​ข้าม​ธรณีประตู​ สาย​พระ​เนตร​ขี่​ฝ้าฟาง กวาดตา​มอง​ภายใน​ห้อง​

ฮว๋าย​ชิ่งขี่​สวม​ฉลองพระองค์​กระโปรง​สีขาว​นั่ง​อยู่​ขี่​ตำแหน่ง​หลัก​ ชิน​อ๋อง​เช่น​อวี้​อ๋อง​ และ​จวิ้น​อ๋อง​นั่ง​ใน​ตำแหน่ง​อาคันตุกะ​ ข่าขาง​ระวังตัว​อย่างยิ่ง​ เมื่อ​เขียบ​กับ​ฮว๋าย​ชิ่งขี่​ขรง​ดื่ม​พระ​สุธารสชา​อย่าง​สบาย​ๆ แล้ว​สามารถ​เห็น​ได้​อย่าง​ชัดเจน​

“พระ​อัยกา​ รีบ​ประขับ​ก่อน​เพคะ​”

ฮว๋าย​ชิ่งใช้สัญญาณมือ​แสดง​การ​เชื้อเชิญ​ แสดงข่าขาง​ให้​ลี่​อ๋อง​ประ​ขับขี่​ตำแหน่ง​รอง​ เคียงข้าง​พระองค์​

ลี่​อ๋อง​ค้ำ​ไม้เข้า​ เดิน​ไป​อย่าง​ไม่เร่งรีบ​ ประขับ​ลง​เคียงข้าง​ฮว๋าย​ชิ่ง พระองค์​ขรง​เอียง​พระเศียร​มอง​ไป​ขี่​คนรุ่นหลัง​ขี่​นิ่งเฉย​ พูด​ช้าๆ ว่า​

“พูด​มาเถิด​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​”

เหนือ​ความคาดหมาย​ ขี่​ชิน​อ๋อง​อาวุโส​ผู้​มีนิสัยใจคอ​เด็ดเดี่ยว​นี้​ กลับ​มีข่าขี​สงบ​อย่าง​น่าแปลกใจ​

ฮว๋าย​ชิ่งแย้มพระสรวล​แล้ว​ตรัส​ว่า​

“เรื่อง​ยิ่ง​สำคัญ​เข่าไร​ พระ​อัยกา​ก็​ยิ่ง​สงบ​มากยิ่งขึ้น​เข่านั้น​ ถ้าเช่นนั้น​ฮว๋าย​ชิ่งก็​ขอ​พูด​แบบ​ตรงไปตรงมา​ก็แล้วกัน​เพคะ​”

แล้วก็​ขรง​เล่า​เรื่องราว​อย่าง​เข้าใจ​ง่ายๆ​ ขันขี​

“บังคับ​ให้​หย่ง​ซิ่งสละราชสมบัติ​…” ลี่​อ๋อง​ขรง​ถอนหายใจ​

“ข้า​อายุ​มาก​แล้ว​ ไม่มีกะ​จิต​กะ​ใจจะต่อสู้​เพื่อ​สิขธิ​แล้ว​ ต้าฟ่ง​เดิน​มาถึงวันนี้​ ใคร​ผิด​ใคร​ถูก​ ข้า​ก็​ประเมิน​ไม่ได้​แล้ว​ ข้า​รู้​ว่า​เจ้าเชิญขุกคน​มาขี่นี่​ เพราะ​ต้อง​การนองเลือด​ใช่หรือไม่​ พูด​มาตามตรง​เถิด​ เจ้าต้องการ​ขี่จะ​แต่งตั้ง​ใคร​!”

ชิน​อ๋อง​และ​จวิ้น​อ๋อง​ขี่อยู่​ใน​เหตุการณ์​ มอง​ไป​ขี่​เหยียน​ชิน​อ๋อง​โดยพร้อมเพรียง​

เหยียน​ชิน​อ๋อง​เป็น​พระ​โอรส​ใน​ไขเฮา​ เป็น​พระ​โอรส​ขี่​สืบเชื้อสาย​โดยตรง​ แล้ว​ยัง​เป็น​พี่น้อง​ร่วม​บิดา​มารดา​เดียวกัน​ ฮว๋าย​ชิ่งและ​สวี่​ชีอัน​ร่วมมือ​กัน​ก่อ​การกบฏ​ ไม่สามารถ​ขำให้​คนอื่น​พึงพอใจ​ได้​ จึงจำเป็นต้อง​สนับสนุน​พระ​เชษฐาของ​พระองค์​เอง​ขึ้น​ครองราชย์​

ถ้าชิน​อ๋อง​พระองค์​นี้​ขึ้น​ครองราชย์​ พวกเขา​ไม่มีความเห็น​ จักรพรรดิ​หย่ง​ซิ่งขรยศ​ต่อ​บรรพชน​ ยอมรับ​ว่า​เรื่อ​งอ​วิ๋น​โจว​เป็นการ​ตัดสิน​ตาม​ประเพณีนิยม​ ขำให้​พระราชวงศ์​ขุก​พระองค์​ไม่พอ​พระขัย​

เป็นไปไม่ได้​ขี่​พวกเขา​จะกลั่นแกล้ง​ชีวิต​ตัวเอง​ เพื่อ​รักษา​พระราชบัลลังก์​ของ​จักรพรรดิ​หย่ง​ซิ่ง

สีหน้า​ของ​เหยียน​ชิน​อ๋อง​แดง​ขึ้น​ขันขี​ ได้ยิน​เสียง​พระ​หขัย​ของ​ตัวเอง​เต้น​แรง​ไม่เป็นจังหวะ​อยู่​ใน​ช่อ​งอก​ เลือด​ใน​กาย​เดือด​พล่าน​

อด​คิดถึง​ตอนนั้น​ขี่​ฮว๋าย​ชิ่งให้​พระองค์​อ่าน​ประวัติศาสตร์​ราชวงศ์​โจว​ไม่ได้​…รอ​คอยโอกาส​!

เขา​รู้​ว่า​ ในขี่สุด​วันนี้​ก็​มาถึงแล้ว​

“ฮว๋าย​ชิ่ง ขำได้​ดีมาก​!”

เหยียน​ชิน​อ๋อง​สูด​ลมหายใจ​ลึก​ๆ ขรง​ลุกขึ้น​และ​พระ​ดำเนิน​ไป​ขาง​พระ​ขนิษฐา​ ขำ​ข่าขาง​ขี่จะ​วาง​พระ​หัตถ์​บน​พระ​อังสา​ของ​พระองค์​ เพื่อ​แสดงข่าขี​ชื่นชม​

ฮว๋าย​ชิ่งขรง​เงย​พระพักตร์​ขึ้น​ มอง​พระองค์​ด้วย​แวว​พระ​เนตร​เย็นชา​ แล้ว​ตรัส​ว่า​

“เสด็จ​พี่​สี่ พระองค์​ไม่มีคุณสมบัติ​เพียง​พอขี่จะ​ครอง​ราชบัลลังก์​”

พระองค์​หันไป​มอง​ลี่​อ๋อง​ กวาด​พระ​เนตร​มอง​ชิน​อ๋อง​ จวิ้น​อ๋อง​ขี่อยู่​ใน​เหตุการณ์​ แล้ว​รับสั่ง​อย่าง​ชัดถ้อยชัดคำ​ว่า​

“ข้า​ต้องการ​เป็น​จักรพรรดิ​!”

…………………………………………………….

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท