ตอนที่ 1467 กลับบ้าน
ไป๋จิ่นเซ่อยืนมองไป๋ชิงเหยียนตาไม่กะพริบอยู่ด้านข้างอย่างหวังว่าตัวเองจะช่วยทำประโยชน์ได้บ้าง “พี่หญิงใหญ่…ข้าล่ะเจ้าคะ”
“เจ้าอยู่รอที่นี่…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับไป๋จิ่นเซ่อยิ้มๆ “การป้องกันทางด้านหลังสำคัญเช่นเดียวกัน ไม่แน่ตงอี๋อาจแบ่งกองกำลังบุกมาโจมตีพวกเราบนฝั่งเช่นเดียวกัน พี่ฝากชีวิตของชาวบ้านแถบชายทะเลไว้ที่พวกเจ้าแล้ว”
ไป๋จิ่นเซ่อตะลึง “พี่หญิงใหญ่ไม่พาข้าไปด้วยหรือเจ้าคะ”
“ที่ต้องการให้คนตระกูลไป๋คอยอยู่เป็นเสาหลักเช่นเดียวกัน พวกเราจะไปตงอี๋ทั้งหมดไม่ได้…” ไป๋ชิงเหยียนเอื้อมมือลูบศีรษะของไป๋จิ่นเซ่ออย่างแผ่วเบา “ไปช่วยพี่หญิงสี่ของเจ้าเถิด”
ไป๋จิ่นเซ่อคิดว่าพี่ชายเจ็ดต้องไม่ยอมอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน พี่หญิงสี่คือคนที่ชอบบุกไปทุกที่ที่มีสงคราม หากต้องมีคนหนึ่งอยู่เป็นเสาหลักที่นี่ คนคนนั้นก็คงเหลือเพียงนางแล้ว
ไป๋จิ่นเซ่อไปช่วยไป๋จิ่นจื่อขนยาที่ท่านหมอหงปรุงขึ้นนำขึ้นไปบนเรือตามคำสั่งของไป๋ชิงเหยียน
เช้าวันต่อมาไม่ได้มีเพียงกองทัพไป๋เท่านั้นที่มารวมตัวกันก่อนออกเดินทาง ยังมีทหารเรือที่ติดตามเดินทางไปในครั้งนี้ด้วย
ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้กล่าวปลุกใจเหล่าทหารเหมือนครั้งที่แม่ทัพเจียงไหวเซิงนำทหารไปออกรบ หญิงสาวยืนอยู่ด้านหน้าทหารกองทัพไป๋ทั้งหมด จากนั้นตะโกนขึ้นเสียงดัง “ทหารกองทัพไป๋ทุกคน! พวกเราจะไปรับหานเฉิงอ๋องกลับบ้าน!”
คำกล่าวของไป๋ชิงเหยียนทำให้ทหารเรือทุกคนต่างน้ำตาคลอ
รับหานเฉิงอ๋องกลับบ้าน…
จักรพรรดินีแห่งต้าโจวทำสงครามในครั้งนี้เพื่อหานเฉิงอ๋องและสหายของพวกเราที่พลีชีพกลางทะเล จักรพรรดินีต้าโจวเห็นพวกเขาเป็นทหารของตัวเองเช่นเดียวกับทหารของกองทัพไป๋
วันที่เก้า เดือนสิบ รัชศกหยวนเหอปีที่สอง จักรพรรดิต้าโจว จงกั๋วอ๋องและเกาอี้อ๋องพาทหารกองทัพไป๋บุกไปยังแคว้นตงอี๋ด้วยตัวเอง
เฉิงหย่วนจื้อที่เป็นเพียงแมลงตัวเล็กยามอยู่บนเรือกินยาที่หมอหงปรุงให้ตั้งแต่ก่อนขึ้นไปบนเรือ อาการเมาเรือของเขาบรรเทาลงกว่าเดิมมาก เป็นดั่งที่หานเฉิงอ๋องเคยบอกว่าเมื่อเมาและอาเจียนไปนานวันเข้าก็จะชินไปเอง
เมื่อขึ้นไปบนเรือจู่ๆ เฉิงหย่วนจื้อก็นึกถึงหานเฉิงอ๋องผู้อ้วนท้วมคนนั้นขึ้นมา ยิ่งคิดถึงหานเฉิงอ๋องเขาก็ยิ่งรู้สึกผิด เขายิ่งอยากให้เรือไปถึงโดยเร็วที่สุด เขาอยากไปรับร่างของหานเฉิงอ๋องกลับมาด้วยตัวเอง
เฉิงหย่วนจื้อยืนมองแคว้นตงอี๋ที่อยู่ไกลออกไปอยู่บนหัวเรือ ได้แต่หวังว่าสุนัขตงอี๋คงไม่ได้เหยียบย่ำร่างของหานเฉิงอ๋อง มิเช่นนั้นต่อให้เสี่ยวไป๋ไซว่ไม่อนุญาตให้เขาสังหารทหารยอมจำนนเขาก็ยังจะสังหารสุนัขรับใช้พวกนั้นให้สิ้นซากอยู่ดี
หากหานเฉิงอ๋องรู้ว่าเสี่ยวไป๋ไซว่เดินทางมารับเขากลับบ้านด้วยตัวเองเขาคงดีใจมากแน่นอน! เขาคงจะดีใจที่ชีวิตนี้ได้พบกับจักรพรรดินีอย่างเสี่ยวไป๋ไซว่
“แม่ทัพเฉิง…” ไป๋ชิงเจวี๋ยเดินมาหยุดอยู่ข้างกายเฉิงหย่วนจื้อ ชายหนุ่มยืนเอามือไพล่หลังพลางกล่าวขึ้น “เรื่องของหานเฉิงอ๋องไม่ใช่ความผิดของท่าน ท่านไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด ตอนนี้พี่หญิงใหญ่กำลังพาพวกเราไปรับร่างของหานเฉิงอ๋อง ไปทำลายล้างตงอี๋เพื่อแก้แค้นให้เขาแล้ว!”
เฉิงหย่วนจื้อพยักหน้ารัว “ข้าทราบขอรับ! ตู้อวี่หลางเสียชีวิตแล้ว ข้าจะตัดศีรษะจักรพรรดิตงอี๋ด้วยตัวเองให้ได้ขอรับ คุณชายเจ็ดได้โปรดบอกเสี่ยวไป๋ไซว่ให้เปิดโอกาสให้ข้าเป็นคนทำด้วยนะขอรับ!”
ไป๋ชิงเจวี๋ยตบไหล่ของเฉิงหย่วนจื้อเบาๆ “พี่หญิงใหญ่มีแผนการแล้ว ท่านไม่ต้องเป็นห่วง”
หลู่หยวนเผิงและซือหม่าผิงเดินออกมาจากตัวเรือด้านใน พวกเขาเห็นไป๋ชิงเจวี๋ยสนทนาบางอย่างอยู่กับเฉิงหย่วนจื้อ ไม่นานก็ตบไหล่ของเฉิงหย่วนจื้อแล้วเดินจากไป
หลู่หยวนเผิงรีบเอ่ยเรียกไป๋ชิงเจวี๋ย “คุณชายเจ็ดตระกูลไป๋! เดี๋ยวก่อน!”
“ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งแล้วว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าคนภายนอกอย่าเรียกคุณชายเจ็ดเช่นนี้! ตอนนี้พระองค์คือจงกั๋วอ๋อง!” ซือหม่าผิงเอ่ยเตือนหลู่หยวนเผิง
“จงกั๋วอ๋องอันใดกัน! พวกเราล้วนโตมาด้วยกัน คุณชายเจ็ดตระกูลไป๋ไม่ใช่คนชอบวางมาดต่อหน้าสหายเสียหน่อย เจ้ากังวลอันใดนักหนา!” หลู่หยวนเผิงกล่าวจบก็วิ่งไปหาไป๋ชิงเจวี๋ยทันที
ซือหม่าผิง “…”
แม้จะเป็นเรื่องจริง ทว่า เหตุใดหลู่หยวนเผิงไม่รู้จักรักษามารยาทสักนิดนะ
ไป๋ชิงเจวี๋ยหันไปมองหลู่หยวนเผิงยิ้มๆ จากนั้นยืนเอามือไพล่หลังรออยู่ที่เดิม
“ครั้งนี้พี่สาวไป๋เป็นคนนำทัพออกรบ คุณชายเจ็ดช่วยไปบอกพี่สาวไป๋ให้ข้านำทัพเป็นด่านหน้าได้หรือไม่” หลู่หยวนเผิงกล่าวจบก็เห็นเฉิงหย่วนจื้อถลึงตาใส่ตน หลู่หย่วนเผิงทำตัวไม่ถูกทันที “แม่ทัพเฉิง ข้ากล่าวสิ่งใดผิดไปอย่างนั้นหรือ”
เฉิงหย่วนจื้อเตรียมกล่าวออกมา ทว่า หลู่หยวนเผิงรีบรั้งแขนของไป๋ชิงเจวี๋ยให้เดินไปอีกทางโดยไม่ปล่อยให้เฉิงหย่วนจื้อมีโอกาสกล่าวแต่อย่างใด “เมื่อครู่ข้าไปขอร้องให้ไป๋จิ่นจื้อไปขอร้องพี่สาวไป๋ให้ข้า ทว่า นางบอกข้าว่าอย่าแย่งโอกาสนี้กับแม่ทัพเฉิง ข้าคิดว่าไป๋จิ่นจื้อรับสินบนมาจากแม่ทัพเฉิงแล้วแน่นอน กองทัพห้ามติดสินบน พวกเขาไม่มีโอกาสออกรบในสงครามครั้งนี้แล้วใช่หรือไม่”
เฉิงหย่วนจื้อ “…”
“หลู่หยวนเผิง ข้ายังอยู่ตรงนี้นะ!” เฉิงหย่วนจื้อกล่าวกับหลู่หยวนเผิง “เจ้าไม่รู้โทษของการใส่ร้ายหัวหน้าอย่างนั้นหรือ”
“แม่ทัพเฉิง ท่านควรเชื่อฟังแม่ทัพเสิ่นคุนหยางให้มาก ควรเปิดโอกาสให้เด็กรุ่นหลังบ้าง!” หลู่หยวนเผิงกล่าวกับเฉิงหย่วนจื้อด้วยท่าทีจริงจัง “คงหรงยังเสียสละลูกแพร์[1]แม่ทัพเฉิงเป็นถึงแม่ทัพที่มียศสูงถึงเพียงนี้แล้ว ท่านควรเสียสละให้คนรุ่นหลังบ้างถึงจะถูก!”
“คุณชายเจ็ด ข้าส่งหลู่หยวนเผิงกลับขึ้นฝั่งตอนนี้ทันหรือไม่ขอรับ” เฉิงหย่วนจื้อเอ่ยถามไป๋ชิงเจวี๋ยด้วยสีหน้าจริงจัง
หลังจากนั้นไม่ว่าไป๋ชิงเจวี๋ยกับซือหม่าผิงจะพยายามห้ามทัพเพียงใดก็ไม่สามารถห้ามการทะเลาะกันของหลู่หยวนเผิงและเฉิงหย่วนจื้อได้ สุดท้ายพวกเขาก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเสียที
บนเรือรบ
เจียงไหวเซิงให้ทหารเรือยอดฝีมือสามร้อยนายมารวมตัวกันก่อน เจียงไหวเซิงมองดูอดีตลูกน้องยอดฝีมือของตัวเอง การต้องคัดเลือกหน่วยกล้าตายหน่วยแรกออกมาทำให้รู้สึกเจ็บปวดใจมาก
ทว่า จักรพรรดินีต้าโจวให้ใจพวกเขาถึงเพียงนี้แล้ว ทหารเรืออย่างพวกเขาก็ต้องแสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มที่เหมือนกัน
เจียงไหวเซิงคือแม่ทัพใหญ่ของสงครามทางทะเลในครั้งนี้ แม้ไป๋ชิงเหยียนจะบอกว่าไม่จำเป็นต้องประหยัดเงิน ทว่า ตอนนี้ต้าโจวกำลังเดิมพันแคว้นกับต้าเยี่ยนอยู่ เจียงไหวเซิงไม่อยากให้จักรพรรดินีอย่างไป๋ชิงเหยียนแพ้เดิมพันเขาจึงจะหาทางช่วยต้าโจวประหยัดค่าใช้จ่ายในสงคราม
“พวกเราทุกคนล้วนรู้ดีว่าหากต้องการผลลัพธ์ที่ดีที่สุดพวกเราต้องเสียสละ” สายตาคมกริบของเจียงไหวเซิงกวาดตามองไปทางทหารเรือยอดฝีมือสามร้อยนาย “ทว่า พวกเราสามารถเอาชนะสงครามในครั้งนี้ได้ด้วยการเสียสละที่น้อยที่สุด ควบคุมให้คนที่เสียสละในครั้งนี้อยู่ในพวกเราสามร้อยคนเท่านั้น”
“วันนี้ทหารที่ยืนอยู่ตรงนี้ล้วนเป็นทหารยอดฝีมือของต้าโจว! คือทหารเรือที่กล้าหาญที่สุดของต้าโจว!” แม้เจียงไหวเซิงจะเป็นแม่ทัพใหญ่ในสงครามครั้งนี้ ทว่า เขาคือหนึ่งในทหารหน่วยกล้าตายด้วย พวกเขาเห็นเรือของหลิวซูเฉิงแล้ว เขาตัดสินใจนำทหารหน่วยกล้าตายเคลื่อนทัพในคืนนี้และฝากทหารเรือที่เหลือไว้กับหลิวซูเฉิง “เพราะพวกเรากล้าสละชีวิตของตัวเองเพื่อสหายร่วมรบและต้าโจวทั้งแคว้น พวกเราจะกลายเป็นคนสำคัญในชัยชนะของสงครามในครั้งนี้!”
[1] คงหรงเสียสละลูกแพร์ เป็นสุภาษิตโบราณที่คงหรงเสียสละลูกแพร์ให้พี่น้องของตัวเอง แสดงถึงความเสียสละและรักพี่น้อง