สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 1136 ตอนพิเศษ (36-1)

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 1136 ตอนพิเศษ (36-1)

บทที่ 1136 ตอนพิเศษ (36/1)

ไฟดับลงแล้ว

บ้านทั้งหลังถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน

โชคดีที่จัดการได้ทันท่วงที สองบ้านที่อยู่ติดกันจึงรอดมาได้ แต่ถึงกระนั้น พวกชาวบ้านก็ยังประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ ทั้งสองบ้านทั้งกังวลและหวั่นวิตก

บ้านถูกไฟไหม้ ของทุกอย่างข้างในถูกเผาจนเกลี้ยง อีกทั้งสิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือศพที่ไหม้เกรียม

เค้าโครงเดิมไม่อาจมองเห็นได้ชัดแล้ว ไม่มีทางที่จะรู้ตัวตนของศพ

“ยายเฒ่า…” หลิ่วซานเฉวียนคุกเข่าลงร้องไห้ฟูมฟายกับศพที่ไหม้เกรียม “เจ้าตายเอน็จอนาถเหลือเกิน! ยายเฒ่า! เหตุใดเจ้าจึงได้โง่เขลาเพียงนี้ คิดว่าจิ่วจู๋ไม่มีคนดูแล เจ้าอดห่วงนางไม่ได้จึงมาปัดกวาดบ้านให้โดยเฉพาะ เหตุใดเจ้าต้องทำให้ตนตายด้วยเล่า ยายเฒ่า สตรีโง่เขลาผู้นี้ เจ้าจะจิตใจดีเกินไปแล้ว…”

หลิ่วซานเฉวียนร้องไห้น้ำตาไหลนอง สีหน้าโศกาอาดูรยิ่ง ใคร ๆ ต่างก็หลงลืมภาพลักษณ์เดิมของเขาไป ชั่วขณะนี้ ทุกคนต่างรู้สึกสะเทือนใจ

หลิวจิ่วจู๋ขมวดคิ้ว

อวี๋ซื่อจะใจดีเพียงนี้หรือ?

เพียงแต่ในยามเช่นนี้ นางไม่อาจกล่าวคำพูดเหล่านั้นออกไปได้ อย่างไรอวี๋ซื่อก็ถูกไฟคลอกตายในบ้านของนางจริง ๆ

สิ่งที่นางกังวลยิ่งกว่าคือตอนนี้กลางวันแสก ๆ นางไม่ได้จุดฟืนไฟ เช่นนั้นเพลิงไหม้ได้อย่างไร?

ยามนี้ไม่ใช่เวลาที่ไฟจะติดขึ้นมาง่าย ๆ แม้ว่าหมู่นี้จะอากาศร้อน ทว่าก็ไม่ควรเกิดเพลิงไหม้

“ซานเฉวียนเอ๋ย เจ้าระงับความเสียใจเถิด คนตายไม่อาจฟื้นคืน” ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ ปลอบเขา

“ใช่ เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว ผู้ใดล้วนไม่คาดคิด เรื่องเมื่อครู่เจ้าก็เห็นแล้ว ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่อยากช่วย แต่ไม่อาจช่วยได้ต่างหาก!”

หลิ่วซานเฉวียนเอาแต่ร้องไห้ ยิ่งร้องไห้ ยิ่งทำให้คนรู้สึกเห็นใจ

“จู๋จือ เจ้ากล่าวสักคำสิ” คนข้าง ๆ เอ่ย “ไม่ว่าอย่างไร อวี๋ซื่อก็ถึงแก่ความตายเพราะเจ้า เจ้าไม่อาจเมินเฉยต่อบิดาได้”

หลิวจิ่วจู๋กล่าว “สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือการจัดการงานศพ อีกอย่าง ข้าคิดว่าเหตุเพลิงไหม้ไม่ใช่อุบัติเหตุ จะต้องมีการตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจน”

“หมายความว่าอย่างไร?” หัวหน้าหมู่บ้านถาม

“ท่านอาหัวหน้าหมู่บ้าน ท่านลองคิดดูเถิด ในยามหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้จะเกิดเพลิงไหม้ที่ไม่อาจอธิบายที่มาได้อย่างไร? ข้าไม่อยู่ที่บ้าน ย่อมไม่ได้จุดไฟ”

“เช่นนั้นแม่เจ้าก่อไฟที่บ้านหรือไม่?” คนข้าง ๆ เอ่ยขึ้น “อย่างเช่น นางอาจกำลังหุงหาอาหาร เพราะเดินจากไป ไม่ได้ดูอยู่พักหนึ่ง ไฟจึงลุกลามใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ”

หลิวจิ่วจู๋ชี้ไปที่บ้านตนแล้วกล่าว “เช่นนั้น เหตุใดนางไม่หนีออกมาเล่า?”

ทุกคนนิ่งเงียบ

ใช่! บ้านหลิวจิ่วจู๋ไม่ใช่จวนหลังใหญ่โตสลับซับซ้อนอะไร เดินวนได้เพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น หากพบว่ามีอันตราย เหตุใดไม่หนีออกมาเล่า? เว้นแต่ว่านางจะหลับอยู่ เมื่อรู้ตัวไฟก็แรงมากแล้ว

หลิวจิ่วจู๋นั่งยอง ๆ มองดูศพที่ไหม้เกรียมตรงหน้า “นางถูกไฟคลอกตายทั้งที่ยังมีสติอยู่ ป้าหยาง ลุงหวัง เมื่อครู่พวกท่านอยู่บ้านหรือไม่?”

“ไม่อยู่น่ะสิ!” ลุงหวังตอบ “ข้าอยู่ที่นา หากอยู่บ้าน ข้าคงไม่ปล่อยให้ไฟลุกลามใหญ่โตเพียงนี้ ดูบ้านข้าสิ ไฟไหม้ไปเกินกว่าครึ่งแล้ว อีกนิดก็จะไหม้บ้านวอดวาย หากบ้านข้าไหม้หมด เช่นนั้นข้าจะไปร้องไห้กับผู้ใด?”

ป้าหยางที่อยู่ข้าง ๆ เองก็บ่น บอกว่าตนกำลังซักผ้าอยู่ริมแม่น้ำกับลูก ๆ ไม่ได้อยู่ที่บ้าน ไม่รู้เหตุใดไฟจึงติดขึ้นมาได้

หลิวจิ่วจู๋กล่าว “นางดิ้นรนก่อนจะเสียชีวิต แสดงให้เห็นว่าตอนนั้นนางยังมีสติและคิดจะหลบหนี อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลหลายประการ นางจึงไม่อาจหนีออกจากห้องนั้นได้”

หัวหน้าหมู่บ้านรู้สึกว่าหลิวจิ่วจู๋มีเหตุมีผลจึงติดตามนางไปตรวจสอบซากปรักหักพัง

“ตรงนี้มีกลิ่นเหมือนน้ำมัน” ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ กล่าว “ข้าเคยเป็นลูกศิษย์ร้านตีเหล็ก มักจะเห็นสิ่งนี้อยู่เป็นประจำ น้ำมันใช้เป็นเชื้อไฟได้ร้ายกาจยิ่ง”

“หัวหน้าหมู่บ้าน เห็นได้ชัดว่ามีคนจงใจฆ่านางตายที่นี่” หลังจากหลิวจิ่วจู๋รู้ว่านางไม่ใช่ลูกสาวของหลิ่วซานเฉวียน นางก็ไม่ยินดีจะเรียกหลิ่วซานเฉวียนว่าพ่ออีก นับประสาอะไรกับแม่เลี้ยงผู้หนึ่ง

“ที่แปลกคือเหตุใดนางถึงถูกไฟคลอกตายในบ้านของเจ้า” หัวหน้าหมู่บ้านถาม “ผู้ใดทำเรื่องเลวร้ายถึงเพียงนี้? คนในหมู่บ้านทะเลาะกันเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติ จะฆ่าแกงคนง่าย ๆ ได้อย่างไร? เรื่องนี้เจ้าคิดจะจัดการอย่างไร? รายงานทางการหรือ?”

“ในหมู่บ้านมีคนมากเพียงนี้ ไม่มีผู้ใดพบใครน่าสงสัยเลยหรือ?” หลิวจิ่วจู๋เอ่ย “ทุกท่านลองนึกดูเถิดว่า วันนี้มีผู้ใดทำตัวน่าสงสัยหรือมีท่าทางแปลก ๆ บ้างหรือไม่”

เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงคดีฆาตกรรม ชาวบ้านจึงเอาจริงเอาจัง พยายามไล่ไตร่ตรอง

“น้ำมันไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถใช้ได้” หลิวจิ่วจู๋กล่าว “จนถึงบัดนี้ไม่มีผู้ใดในหมู่บ้านเราใช้น้ำมัน สิ่งนี้มีกลิ่นแรง เมื่อใช้แล้วจะต้องมีกลิ่นติดกายอย่างแน่นอน ”

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย

ปกติแล้วหลิวจิ่วจู๋เป็นคนอ่อนโยน ว่านอนสอนง่าย พูดจาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกับทุกคน นางมักจะยิ้มแย้ม ทั้งยังอารมณ์ดีเป็นอย่างยิ่ง ทุกคนล้วนเห็นนางเป็นแม่นางน้อยน่ารักผู้หนึ่ง

แต่ยามนี้สีหน้าของนางกลับดูขึงขัง คล้ายคลึงกับสามีผู้นั้นของนางอยู่บ้าง ค่อนข้างดุร้ายทีเดียว

“จู๋จือกล่าวไม่ผิด ในเมื่อใช้น้ำมัน เช่นนั้นเราก็ตามร่องรอยนี้หาคนผู้นั้น หากเป็นคนในหมู่บ้านเราก็แจ้งทางการทันที และจะต้องจับคนผู้นี้เข้าคุก ไม่เช่นนั้นหากทุกคนอยู่ร่วมกับฆาตกรทั้งวัน เกรงว่าแม้กระทั่งลำคอยังรักษาไว้ไม่ได้กระมัง?”

เมื่อตามเบาะแสของน้ำมันไป พวกเขาก็พบน้ำมันที่เหลือจริง ๆ

เบาะแสที่ทิ้งไว้พร้อมกับน้ำมันคือรอยล้อรถม้า

“รถม้า… หมู่นี้ฝางซิ่วหลานกลับมาใช่หรือไม่?” มีคนเอ่ยถาม

ทุกคนคิดออกทันที

บ้านเดิมของฝางซิ่วหลานอยู่หมู่บ้านข้าง ๆ ไม่รู้ว่านางมีจิตคิดเช่นไร ถึงมักจะเทียวไปเทียวมาที่หมู่บ้านพวกเขา ราวกับต้องการให้ชาวบ้านเห็นว่าชีวิตนางในตอนนี้ได้รับการเอาอกเอาใจเพียงใด

หลิวจิ่วจู๋เอ่ย “หัวหน้าหมู่บ้าน ฝางซิ่วหลานผู้นี้น่าสงสัยยิ่ง ดูจากร่องรอยรถม้า น่าจะกลับเข้าเมืองไปแล้ว นางเป็นฮูหยินของคหบดีจาง อีกทั้งคหบดีจางยังเกี่ยวข้องกับนายอำเภอ หากไปแจ้งทางการ สุดท้ายเรื่องย่อมจบลงโดยไม่ได้อะไร”

“เจ้าคิดว่าควรทำอย่างไร?” หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เจ้าก็บอกเองว่าฝางซิ่วหลานผู้นี้จัดการยาก แถมตอนนี้ยังท้องโต ด้วยเหตุนี้ คหบดีจางย่อมต้องปกป้องนางอย่างไม่ต้องสงสัย”

คหบดีจางอายุปูนนี้ยังไม่มีลูก ฝางซิ่วหลานอาศัยทารกในครรภ์ของนางขึ้นเป็นนายหญิงจวนจาง ทั้งยังกลายเป็นคนไม่สนใจกฎเกณฑ์

หลิวจิ่วจู๋นิ่งเงียบไป

ใช่แล้ว!

นางจะทำอะไรได้?

นางจะฆ่าอีกฝ่ายได้หรือ?

ชาวบ้านต่างเดือดดาล ทว่าพวกเขาก็รู้ว่าฝางซิ่วหลานไม่ใช่คนที่ตนจะจัดการได้แล้ว

หัวหน้าหมู่บ้านมองหลิวจิ่วจู๋ด้วยความเห็นอกเห็นใจแล้วกล่าว “แล้วไปเถิด นังหนูจู๋ เจ้ารอให้สามีเจ้ากลับมาจัดการเรื่องนี้เถอะ!”

สามีหลิวจิ่วจู๋ก็เป็นเจ้าหน้าที่ทางการ แม้จะเป็นคหบดีจางกับนายอำเภอก็ยังต้องคำนึงถึงสถานะของลู่เจ๋อ หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวเช่นนี้เพราะไม่อยากให้จู๋จือกระทำการบุ่มบ่ามตามลำพัง ‘ลู่เจ๋อ’ อยู่ไกลบ้าน หากคหบดีจางทำอะไรนางในยามนี้และจัดการลบร่องรอยเสีย หลิวจิ่วจู๋จะกลายเป็นผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมานที่สุด

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท