คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า – ตอนที่ 675 เชือดแกะอ้วนเฉวียน

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 675 เชือดแกะอ้วนเฉวียน

หวงซื่อแสร้งทำเป็นเดือนร้อนหากท่านไม่ยอมรับกล่องถังเช่านี้ ฉินหลิวซีจึงทำได้เพียงวางไว้ด้านข้างก่อน แล้วให้เขาเอาผลหลิงกั่วไป

ผลหลิงกั่วสองกล่องวางไว้ในกล่องหยก ผลไม้มีลักษณะกลมสีแดงส่องประกายแวววาว เพียงแค่มองดูก็ทำเอาน้ำลายสอ

“นี่ก็คือผลไม้แปลกๆ หรือ ดูเหมือนว่าจะไม่เคยเห็นมาก่อน” เฉวียนอันกลืนน้ำลาย

ฉินหลิวซีเอ่ยว่า “ผลไม้เหล่านี้อยู่ในภูเขาลึกและป่าที่เก่าแก่ ส่วนใหญ่เติบโตบนหน้าผาที่ผู้คนเข้าถึงไม่ได้ ยากต่อการเก็บเกี่ยว ระยะเวลาออกผลสั้น คนทั่วไปยากที่จะหาพบ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่าจะมีขายในตลาด”

เฉวียนอันเหลือบมองหวงซื่อ “แต่พวกเขาขายเป็นกล่อง”

“ผลไม้ที่มีจิตวิญญาณเช่นนี้ยากที่จะหามาได้ มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่เก็บมาขายได้” ปีศาจตัวอื่นก็อาจจะมี แต่ปีศาจที่ไม่สามารถกลายร่างได้จะเอาออกมาขายได้อย่างไร

เฉวียนอันไม่เข้าใจว่านางหมายความว่าอย่างไร เพียงรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังปกป้องยอดเขาที่ไหนสักแห่ง ที่นั่นมีผลไม้เช่นนี้ ราวกับตระกูลชนชั้นสูงบางตระกูลที่มีเหมืองแร่

“ผลไม้เหล่านี้ดีต่อร่างกายจริงๆ หรือ” ก็เพียงผลไม้ ต่อให้ดีแค่ไหนก็คงไม่ได้วิเศษเพียงนั้น

ฉินหลิวซีเอ่ยตอบเสียงเรียบ “มีประสิทธิภาพในการล้างไขกระดูกได้ เจ้าว่าอย่างไรล่ะ”

เฉวียนอันตกตะลึง มองนางด้วยความประหลาดใจ ท่านกำลังคุยโม้อยู่กระมัง

แต่เขาไม่กล้าตั้งคำถามกับคำพูดของฉินหลิวซี มองไปยังหวงซื่อ “สิ่งนี้ราคาเท่าใดหรือ”

หวงซื่อคิดในใจ ‘ในเมื่อเป็นลูกค้าที่ฉินหลิวซีแนะนำ คิดว่าคนที่ต้องการผลไม้ย่อมได้รับการยอมรับจากนาง เช่นนั้นก็เรียกเก็บแพงไม่ได้แล้ว’ จึงเอ่ยว่า “หนึ่ง….”

ฉินหลิวซีเอ่ยเสริมขึ้นมาว่า “หนึ่งหมื่นตำลึง”

เฉวียนอันมือสั่น “เท่าใดนะ”

หวงซื่อก็มองฉินหลิวซีด้วยความประหลาดใจ คือว่า แม้ว่าผลไม้นี้จะหาได้ยาก แต่สำหรับพวกมันแล้วกลับสามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างง่ายดาย และต้นของมันก็ถูกพวกมันทำเครื่องหมายไว้แล้ว ง่ายต่อการค้นหาเป็นอย่างมาก

เขายังคิดที่จะขายเป็นน้ำใจให้ฉินหลิวซีด้วยซ้ำ ขายในราคาหนึ่งร้อยตำลึงก็พอแล้ว

แต่ฉินหลิวซีกลับเอ่ยขึ้นมาหนึ่งหมื่นตำลึง คิดจะเชือดแกะอ้วนตัวนี้หรือ

โหดเหี้ยมจริงๆ!

“หนึ่งหมื่นตำลึงเงิน” ฉินหลิวซีเอ่ยว่า “กินสิ่งนี้บำรุงร่างกายได้ดีกว่ากินข้าว ข้าบอกว่าแพงมาก ย่อมไม่ใช่เรื่องโกหก

เฉวียนอันเอ่ยตะกุกตะกักว่า “แต่นี่มันก็แพง แพงเกินไปแล้ว”

ผลไม้หนึ่งกล่องนี้ ผลขนาดหนึ่งข้อนิ้ว มีประมาณสามสิบผล กลับขายในราคาหนึ่งหมื่นตำลึง จะกินได้สักกี่วันเชียว

“ความจริงแล้ว…” หวงซื่อเอ่ยอย่างลังเล

“ข้าบอกได้เพียงว่าของสิ่งนี้คุ้มค่าเกินราคามากๆ” ฉินหลิวซีขัดจังหวะเขา เอ่ยต่อ “อย่างแรกเลยคือผลไม้นี้ใช้เวลาสามปีกว่าจะสุก และไม่ได้เกิดผลทุกปี ซ้ำยังต้องปีนหน้าผาไปเก็บมัน กำลังคนและทรัพยากรที่เสียไปนั้นไม่น้อยเลย มิเช่นนั้นผลไม้ที่พบเห็นในตลาด มีกี่อย่างที่ไม่ได้มีเกลื่อนกลาดเต็มถนน ไม่คุ้มค่าเงินใช่หรือไม่ เจ้าเคยเห็นของล้ำค่าเช่นนี้ในตลาดหรือ”

ก็ไม่เคยเห็นมาก่อนหรอก แต่รู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบ จากนั้นเฉวียนอันก็มองไปยังถังเช่าที่มีเกลื่อนกลาดถนนซึ่งถูกนางวางไว้ด้านข้าง อีกอย่างที่เจ้าบอกว่าเกลื่อนกลาดถนนดูเหมือนจะเป็นเพียงการโอ้อวดเท่านั้น

“หากพลาดไปจะไม่มีอีกแล้ว ไม่ต้องการก็ช่างเถิด ข้ายังมีคนไข้ที่ต้องการเช่นกัน” ฉินหลิวซีปิดกล่อง ไม่รู้จักของดี

“ต้องการ ต้องการอยู่แล้ว” เฉวียนอันรีบแย่งมา เดินไปที่หน้าประตู กำชับเฉวียนหมิงไปถอนตั๋วเงินที่ร้านรับฝากเงิน แล้วจึงเอ่ย “ให้ข้าเอาไปให้นายท่านกินสักผลตอนนี้เลยหรือไม่”

“ไปเถิด”

เมื่อหวงซื่อมองดูเฉวียนอันเดินจากไปอย่างทุลักทุเลแล้ว ก็เอ่ยเสียงเบาขึ้นว่า “ความจริงไม่ต้องแพงเพียงนั้นก็ได้ขอรับ”

“เป็นเรื่องปกติที่จะปล้นคนรวยมาให้คนจน” ฉินหลิวซีเอ่ยว่า “ปีนี้ที่ดินแดนสู่มีหายนะ หากได้รับเงินจากการขายผลไม้แล้ว พวกเจ้าก็แบ่งส่วนหนึ่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ความเมตตาอันใหญ่หลวงนี้ บุญกุศลที่ได้ย่อมเป็นประโยชน์แก่พวกเจ้าเป็นอย่างมาก”

หวงซื่อตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกซาบซึ้งใจจนสับสนในทันที ท่านเจ้าอาวาสน้อยคิดเพื่อเผ่าหวงเซียนของพวกมันมากเกินไปแล้ว ซ้ำยังช่วยแนะนำเช่นนี้

ฉินหลิวซีเห็นดวงตาเล็กๆ ของหวงสิบเก้าสั่นระริก ก็ยกยิ้มพลางหยิบเครื่องรางหยกมอบให้กับมัน ซ้ำยังลูบหัวของมันพลางเอ่ย “ขอสวรรค์จงประทานพรอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เป็นคนนั้นไม่ง่ายเลย จงตั้งใจฝึกบำเพ็ญ”

หวงสิบเก้ารับมันมาผูกไว้ที่เอวอย่างมีความสุข แล้วโค้งคำนับนางอีกครั้ง “สิบเก้าขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับคำอวยพรของท่านเจ้าอาวาสน้อย”

“ท่านเจ้าอาวาสน้อย ในเมื่อท่านยังต้องการ กล่องนี้ก็มอบให้แก่ท่านขอรับ” หวงสิบเก้านำกล่องผลไม้ล้ำค่าที่เหลือดันไปให้

ครั้งนี้ฉินหลิวซีไม่ได้ผลักกลับคืน “หากขายผลไม้นี้ได้แล้วจะให้เว่ยเสียนำเงินไปส่งให้แก่พวกเจ้า”

“ไม่ต้องหรอก เงินหนึ่งหมื่นตำลึงเพียงพอสำหรับผลไม้สองกล่องแล้ว พวกเราได้กำไรแล้ว” หวงซื่อเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าอาวาสน้อยยินดี ช่วยจุดตะเกียงนิรันดร์ในอารามให้แก่พวกเราได้หรือไม่”

“ย่อมได้”

“เช่นนั้นก็ดีเป็นอย่างยิ่งแล้ว”

องครักษ์เฉวียนหมิงมากลับอย่างรวดเร็ว นำตั๋วเงินจำนวนหนึ่งหมื่นตำลึงมอบให้แก่หวงซื่อ

หวงซื่อเก็บไว้ในอ้อมแขนอย่างสบายใจ แล้วจึงเอ่ยลาฉินหลิวซี จากนั้นก็พาหวงสิบเก้าจากไป

ฉินหลิวซีมอบกล่องให้เถิงเจา จากนั้นก็หยิบกล่องหยกมาหนึ่งกล่อง นับมาห้าผลแล้วใส่ลงไป เตรียมที่จะเอาไปให้ตู้เหมี่ยน

ในห้องเต๋า เฉวียนอันนำผลไม้หนึ่งลูกยื่นให้เฉวียนจิ่ง “คุณชาย ท่านรีบกินเร็วเข้า ดูว่าประสิทธิภาพเป็นอย่างไร”

อาศัยจังหวะที่คนยังไม่ไป หากผลไม้ล้ำค่านี้ไม่ได้ผลจะได้รีบคืนสินค้า

เอ่อ คงจะคืนได้กระมัง

เฉวียนจิ่งรับผลไม้สีแดงสดที่มีความแวววาวมา มองดูแล้วจึงเอ่ย “ผลไม้ชนิดนี้ ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลยจริงๆ”

สามสิบผลหนึ่งหมื่นตำลึง แน่นอนว่าไม่เคยเห็นมาก่อน ถังเช่ายังไม่แพงเท่ามันเลย

เฉวียนจิ่งได้กลิ่นหอมเย็นและหวานของผลไม้ กระตุ้นความอยากอาหารของเขาทันที

หลังจากที่เขาถูกยาพิษ ก็ไม่มีความอยากอาหาร หลายครั้งที่กินสิ่งใดเข้าไปก็จะอาเจียนออกมา บวกกับที่พิษแทรกซึมเข้าไปในไขกระดูก ร่างกายก็ยิ่งอ่อนแอลง ยิ่งทำให้กลืนอาหารได้ยาก

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเกิดความปรารถนาในอาหารชนิดหนึ่งหลังจากที่ถูกยาพิษ

เฉวียนจิ่งนำผลไม้เข้าปากแล้วค่อยๆ เคี้ยวอย่างละเอียด ผลไม้ขนาดหนึ่งข้อนิ้วและไม่มีเมล็ด แต่กลับเต็มไปด้วยน้ำผลไม้ที่ทำให้รู้สึกอิ่มและสดชื่น รสชาติหอมหวาน เนื้อเนียนละเอียดไม่มีกาก หลังจากกลืนลงไป ท้องก็รู้สึกราวกับถูกเตารีดนาบ อุ่นขึ้นเล็กน้อย สบายเป็นอย่างมาก

“เป็นอย่างไรบ้างขอรับ” เฉวียนอันเอ่ยอย่างกังวลใจ

เฉวียนจิ่งไม่เอ่ยอะไร เพียงแต่ยื่นมือออกไปหยิบอีกหนึ่งผล แล้วก็อีกหนึ่งผล และเอื้อมมือไปหยิบอีกครั้ง

กล่องถูกปิดลง

เฉวียนอันปิดกล่องหยกเบาๆ มองเข้าไปในดวงตาหงส์ที่มืดมนและลุ่มลึกของเฉวียนจิ่งด้วยความไม่พอใจ เอ่ยว่า “คุณชาย ทั้งหมดแค่สามสิบผลเอง ท่านลองเดาดูเถิดว่าจ่ายเงินไปเท่าใด”

เฉวียนจิ่งใช้ลิ้นเลียน้ำบนริมฝีปาก กลับรู้สึกไม่กล้าตอบอยู่ครู่หนึ่ง

ฉินหลิวซีบอกว่าราคาแพงเล็กน้อย แต่หลังจากที่เขากินไปสามผล เฉวียนอันก็ปิดกล่องหยกอย่างตระหนี่ไม่ให้กินอีก คิดว่าคงจะแพงมากจริงๆ

“เจ้าว่ามา” ข้ารับได้

เฉวียนอันเผยให้เห็นรอยยิ้มที่น่าเกลียดกว่าร้องไห้เสียอีก “ที่ท่านกินไปเมื่อครู่เป็นเงินเกือบหนึ่งพันตำลึงแล้ว”

เฉวียนจิ่งปลายนิ้วสั่น หลังจากเงียบไปนาน ก็เอ่ยว่า “หนึ่งผลราคาสามร้อยตำลึง ไม่แพง”

เขายังไม่ได้แต่งงาน เงินเก็บส่วนตัวก็มี คงจะพอได้กินอยู่

เฉวียนจิ่งมองไปยังกล่องหยกใบนั้นด้วยความโลภเล็กน้อย

เฉวียนอันเห็นดังนั้นก็นำกล่องหยกใส่ไว้ในอ้อมแขน กล่าวว่า “คุณชาย มากไปก็ไม่ดี สามร้อยกว่าตำลึงต่อหนึ่งผลไม่แพง แต่แพงเพราะมันหาได้ยาก ท่านเจ้าอาวาสน้อยบอกว่าสิ่งนี้ระยะเวลาออกผลสั้น เก็บเกี่ยวยาก หากท่านกินหมดในคราวเดียวก็ไม่มีกินแล้ว ต่อให้พวกเรามีเงินก็ซื้อไม่ได้แล้ว”

เฉวียนจิ่งรู้สึกเสียดายเล็กน้อย ความจริงก็ไม่ได้จะกินมากเกินไป เขายังกินได้อีกหนึ่งผล

ขณะที่กำลังจะเอ่ยปาก ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป เขาอ้าปากพ่นเลือดสีดำออกมาเต็มปาก

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Status: Ongoing
คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้านางคือปรมาจารย์ปู้ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น!รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นเลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่งฉินหลิวซี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเต๋าเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไปเบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู้ฉิวผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงินปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิดเมื่อโชคชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่านปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมเริ่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัวเฮ้อ แม้ไม่หวังการก้าวหน้าใดๆ แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเชียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้าเขาก็ดั้นด้นเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า!“เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ”“ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ”“ไม่เป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง”“ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า” ฉีเชียนเอ่ย“ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป…”ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ“เดิมทีท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน”“….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท