บทที่ 965 การปล้นสุสานชั้นสูงมักใช้วิธีเรียบง่ายที่สุด!
บทที่ 965 การปล้นสุสานชั้นสูงมักใช้วิธีเรียบง่ายที่สุด!
โฮก! โฮก! โฮก!
มังกรทองคำรามกราดเกรี้ยว พลังปราณสยดสยองพุ่งขึ้นนภา หมาน้อยตัวหนึ่งเท่านั้นแต่กลับต่อสู้กับมันมาได้ขนาดนี้ มันทนไม่ได้ เต็มไปด้วยความเจ็บใจ
ต้องรู้ว่านอกจากผู้เบิกทางท่านนั้น มันไม่เคยเสียเปรียบขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยเจอคู่มือสักครา สุนัขดำแค่มีห่วงสัมฤทธิ์เท่านั้นถึงได้ต่อสู้กับมันอย่างสูสี จะให้มันทนอย่างไรไหว?
ทนไม่ได้เลย!
มันเริ่มระเบิดพลัง สำแดงวิชาลับ ร่างมังกรขยายใหญ่ขึ้นกว่าสิบเท่า อ้าปากพ่นลมหายใจมังกรออกมา พอจะทำลายปฐพี ลบล้างทุกสิ่ง!
สุนัขดำดุดันยิ่งกว่า ร่างหมาของมันขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่าตัวในชั่วพริบตาเช่นกัน กรงเล็บโบกไปมา กฎระเบียบทรงพลังพวยพุ่ง บดขยี้ลมหายใจมังกรที่โถมทับเข้ามา
มันกระโจนตัวขึ้นด้วยความเร็วเกินจินตนาการ ขณะที่เงายังอยู่ที่เดิม ร่างของมันมาถึงแผ่นหลังของมังกรทองแล้ว
ตึง! ตึง! ตึง!
มันตั้งจิต ห่วงสัมฤทธิ์บนคอปรากฏในมือ ก่อนที่มันจะกระหน่ำทุบหัวมังกรทองด้วยห่วงสัมฤทธิ์
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก มังกรทองไม่ทันตั้งตัวเลย ศีรษะของมันถูกอัดจนระเบิด โลหิตสีทองสาดกระจาย!
มังกรทองไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง ราวกับฟื้นคืนชีพแล้วโดยสมบูรณ์ โลหิตที่กระจัดกระจายแทบไม่เหลือกลิ่นอายแห่งความตาย เปี่ยมไปด้วยขุมปราณชีวิตอันอุดมสมบูรณ์!
หากโลหิตเช่นนี้สาดรดพื้นดิน ย่อมสร้างความเปลี่ยนแปลงถึงแก่นของดินให้กลายเป็นดินวิเศษสูงส่ง หากสาดรดพืชพันธุ์ ย่อมช่วยให้พืชต้นนั้นกลายเป็นสมุนไพรวิเศษสูงส่งได้เช่นกัน
ตู้ม!
เวลานั้นเอง จู่ ๆ มังกรทองก็ปรากฏตัวขึ้นจากอีกตำแหน่ง ศีรษะมังกรที่เคยถูกอัดระเบิดปรากฏให้เห็นอีกครั้ง และกลืนสุนัขดำเข้าไป!
มันนั้นไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง ใช้วิชา ‘เคลื่อนลักษณ์ย้ายเงา’ ในช่วงวิกฤติและหลบพ้นจากการโจมตีอันรุนแรง
สุนัขดำถูกมันกลืนลงไปในท้อง มันระเบิดพลังในร่างทันทีเพื่อสังหารสุนัขดำ
“เข้ามาอยู่ในท้องข้าแล้ว เจ้าจะพลิกฟ้าอีกได้อย่างไร?!”
มังกรทองแค่นเสียงเย็น ภายในช่วงท้องกลายเป็นสนามรบ พลังสุดกล้าแกร่งปะทุไม่หยุดเพื่อโจมตีสุนัขดำ
การโจมตีระดับนี้น่าครั่นคร้ามอย่างแท้จริง มิหนำซ้ำยังเกิดขึ้นในท้องมัน ต่อให้เป็นสิ่งมีชีวิตเหนือขอบเขตอิสระก็ต้านมิไหว ต้องถูกฆ่าอย่างสมบูรณ์
ตึง!
เวลานั้นเอง สุนัขดำพุ่งออกจากท้องมังกรทองพร้อมด้วยห่วงสัมฤทธิ์
พลังของห่วงสัมฤทธิ์นั้นเกินหยั่ง ท้องของมังกรทองไม่อาจจองจำตัวมันไว้ได้!
“ไส้เดือนน้อยอย่าได้พูดจามาดมั่นเกินไปนัก!”
สุนัขดำทุบตีมังกรทองด้วยห่วงสัมฤทธิ์ไม่หยุด มังกรทองสู้ไม่ไหว สุดท้ายก็ถูกสุนัขดำปราบปรามในที่สุด
มันมิได้ฆ่ามังกรทอง เพราะรู้ดีว่าฆ่าไปก็เปล่าประโยชน์ มังกรทองสามารถปรากฏตัวออกมาได้อีก
“สุนัขจากแห่งหนใด ห่วงสัมฤทธิ์จากรกรากไหน?!”
ศพทั้งหลายตกตะลึงกันหมด มิกล้าอยู่ที่นี่ต่อ พากันเหินกลับไปยังสุสานหลัก
ตู้ม!
เวลานั้นเอง สุ้มเสียงดังขึ้นจากสุสานหลัก ภาพเงาหนึ่งปรากฏออกมาช้า ๆ
ร่างนั้นเลือนรางมองไม่เห็นรูปลักษณ์ พลังปราณสยดสยองน่าพรั่นพรึง ตั้งตระหง่านอยู่บนสุสานหลัก น่าเกรงขามโดยมิต้องกราดเกรี้ยว
สุนัขดำกำห่วงสัมฤทธิ์ในมือ มีพลังห่วงสัมฤทธิ์คอยคุ้มครอง แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น มันก็ยังได้รับผลกระทบ ร่างกายสั่นไหวเบา ๆ อย่างอดมิได้
สุสานหลักสยดสยองอย่างแท้จริง สิ่งที่อยู่ในนั้นไม่ทันได้ก้าวออกมา เป็นเพียงภาพเงาร่างหนึ่งเท่านั้นยังเปี่ยมด้วยบารมี ส่งผลกระทบถึงมันโดยทะลุผ่านพลังห่วงสัมฤทธิ์ที่คอยคุ้มครองมันอยู่
มันไม่นึกสงสัยเลยว่าหากเป็นสิ่งมีชีวิตตนอื่น ต่อให้เป็นพวกที่อยู่เหนือขอบเขตอิสระไปแล้วก็ไม่มีทางต้านบารมีระดับนี้ไหว ต้องถูกบดขยี้แหลกเหลวในพริบตาด้วยแรงกดดันจากบารมีนี้
“อย่าได้โอหัง!”
นักพรตอู๋เหลียงคำราม เรียกอัตประวัติโจรปล้นสุสานเล่มนั้นออกมาด้วยความเด็ดขาด
หลังหนังสือเล่มนี้ถูกเรียกออกไปก็พุ่งขึ้นนภา ม่านแสงทาบทับลงมาผืนใหญ่ เจิดจ้าแยงตา ไม่อาจมองตรง ๆ ได้เลย
ซ่า!
หลังจากนั้นหนังสือพลิกหน้าด้วยตนเอง กฎระเบียบสูงส่งพิเศษบางอย่างพวยพุ่งออกมา
ตัวละครในหนังสือราวกับมีชีวิตขึ้นมากันถ้วนหน้า โผล่ขึ้นจากหนังสือ ปรากฏตัวสู่สายตา
ตัวเอกในนั้นปรากฏตัวออกมาเช่นกัน เขาคือนักพรตตนหนึ่ง สวมใส่ชุดนักพรตเก่า ๆ ขาด ๆ ท่าทางมิใช่ดีนัก ดวงหน้าเปี่ยมไปด้วยความใจคด
ชื่อในหนังสือของมันคือ…นักพรตอัษฎสมบูรณ์
จากเก้ากลับเป็นหนึ่ง เก้าคือจำนวนสูงสุด
ครานั้น หลังนักพรตอู๋เหลียงอ่านหนังสือเล่มนี้จบยังเอ่ยอย่างสะท้อนใจว่า ตัวเอกไม่ควรชื่อนักพรตอัษฎสมบูรณ์ ควรชื่อว่านักพรตนวสมบูรณ์มากกว่า
ถึงอย่างไรตัวเอกผู้นี้ก็ดุดันเหลือแสน กวาดล้างได้ทุกสิ่ง เรียกว่านักพรตนวสมบูรณ์ย่อมเหมาะสมกว่า
ทว่าสุนัขดำแย้งขึ้นมาทันที มองว่าชื่อนักพรตอัษฎสมบูรณ์ต่างหากที่เหมาะสม
“สมบูรณ์ด้วยแปดประการ ขาดไปหนึ่ง และหนึ่งประการที่ขาดไปคล้ายคลึงกับเจ้า”
ครานั้นสุนัขดำเอ่ยเช่นนี้ต่อนักพรตอู๋เหลียง
นักพรตอู๋เหลียงพลันฉงนกับคำกล่าวของสุนัขดำ หมายความว่าอย่างไรที่ว่าคล้ายคลึงกับเขา
“เจ้าขาดคุณงามความดี เขาขาดคุณธรรม! เรียกว่านักพรตอัษฎสมบูรณ์นับว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว!”
สุนัขดำอธิบาย
เรื่องนี้เป็นผลให้นักพรตอู๋เหลียงโมโหอย่างยิ่ง
ทว่าลองคิดดูดี ๆ แล้ว ที่สุนัขดำว่ามาใช่ว่าไร้เหตุผล นักพรตอัษฎสมบูรณ์ผู้เป็นตัวเอกในหนังสือออกจะ…ไร้คุณธรรมไปหน่อยจริง ๆ!
สมแล้วที่หนังสือเล่มนี้ประพันธ์ขึ้นโดยคุณชาย ประเสริฐอย่างแท้จริง แฝงไว้ด้วยบารมีเกินหยั่ง
หลังร่างของนักพรตอัษฎสมบูรณ์ปรากฏออกมา ก็หยุดยั้งแรงกดดันที่ภาพร่างจากสุสานหลักคลี่แผ่ได้ทันที
เวลานั้นเอง นักพรตอัษฎสมบูรณ์เคลื่อนไหว บารมีในตัวพลุ่งพล่าน พลังอันน่าครั่นคร้ามไร้ขีดจำกัดไหลหลั่ง ม่านแสงเจิดจ้าน่าสะพรึงทาบทับผืนฟ้า อย่าให้เอ่ยเลยว่าเกรียงไกรปานใด!
“มาแล้ว มหาศึกเลือดร้อนใกล้อุบัติเต็มที!”
นักพรตอู๋เหลียงตาเป็นประกาย เอ่ยด้วยความเต็มตื้นเหลือแสน
ดูจากท่าทีของนักพรตอัษฎสมบูรณ์ต้องต่อสู้ห้ำหั่นกับภาพร่างสุสานหลักเป็นแน่ เขาตื่นเต้นอย่างยิ่งยวด ตั้งตารอศึกใหญ่นี้
ร่างของนักพรตอัษฎสมบูรณ์พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมด้วยพลังแสนยิ่งใหญ่ ผละจากที่เดิม บุกไปหาภาพเงาสุสานหลักอย่างดุดัน
“สุดยอด! ดูความองอาจเกรียงไกรนี่สิ! บุรุษควรต้องกล้าหาญชาญชัยเช่นนี้แหละ!”
นักพรตอู๋เหลียงตะโกนด้วยความตื้นตัน ส่งเสียงชูใจให้นักพรตอัษฎสมบูรณ์
ทว่าลมหายใจต่อมา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป ไม่เหลือความตื้นตันอีก สายตาทอประกายชอบกล
“พรืด! นี่น่ะหรือองอาจเกรียงไกรที่เจ้าว่า องอาจเกรียงไกรกับผีน่ะสิ!”
สุนัขดำหัวเราะร่วนอย่างกลั้นไม่อยู่ “ทว่าเข้ากับนิสัยของเขาอยู่!”
นักพรตอัษฎสมบูรณ์ตั้งใจไปห้ำหั่นกับภาพร่างสุสานหลักที่ไหน บุกไปครึ่งทางก็เปลี่ยนเป้าหมาย ละทิ้งภาพร่างสุสานหลักแล้วรุดหน้าไปที่สุสานหลัก!
เขาทุบสุสานหลักด้วยพลั่วกับจอบเสียงดังเคร้งคร้าง ซ้ำขณะทุบยังโวยวายไปด้วยว่า “อย่าได้ยั่วโมโหข้า หากยั่วโมโหข้า ข้าจะขุดสุสานของเจ้า!”
นี่เป็นเหมือนท่อนหนึ่งในนิราศอัตประวัติโจรปล้นสุสาน
ในนิราศกล่าวว่า ยามนักพรตอัษฎสมบูรณ์เผชิญศัตรูมิเคยเอื้อนเอ่ยให้มากความ และมิกล้าต่อสู้กับศัตรู เขาหันหลังทิ้งการต่อสู้และออกตามหาหลุมศพซึ่งเกี่ยวข้องกับศัตรูและเริ่มขุดทุกครั้งไป!
อย่าให้เอ่ยเลยว่าเรื่องนี้สร้างความปวดหัวให้ศัตรูเพียงใด
การที่นักพรตอัษฎสมบูรณ์ขุดสุสานของบรรพบุรุษผู้อื่นนับเป็นเรื่องชั่วช้าอย่างยิ่ง!
“ขุดกันดื้อ ๆ เช่นนี้เลยหรือ!”
นักพรตอู๋เหลียงยังกระดากแทนนักพรตอัษฎสมบูรณ์ ไม่ประมือตรง ๆ แต่ไปขุดหลุมศพยังไม่เท่าไหร่ ที่สำคัญเขามิได้เผยให้เห็นกลวิธีขุดสุสานอันเป็นพิเศษเลยสักนิด ขุดกันดื้อ ๆ ด้วยพลั่วและจอบ!
ก่อนนี้เขารึอุตส่าห์ตะโกนชูใจนักพรตอัษฎสมบูรณ์ บัดนี้รู้สึกขายหน้าจากใจจริง
“เจ้าจะรู้อะไร! การปล้นสุสานชั้นสูงมักใช้วิธีเรียบง่ายที่สุด!”
หารู้ไม่ ดูเหมือนนักพรตอัษฎสมบูรณ์จะได้ยินถ้อยคำของนักพรตอู๋เหลียง เขาหันกลับมาถลึงตาใส่และตอกกลับประโยคหนึ่ง
“บ้าเอ๊ย!”
นักพรตอู๋เหลียงทนไม่ไหว กระอักเลือดออกไป
“ชั่วช้า ๆ ชั่วช้าอย่างแท้จริง!”
เขาตะโกนด้วยความปวดใจ นักพรตอัษฎสมบูรณ์ผู้นี้คือที่สุดของที่สุด!
สุนัขดำขำจนลงไปนอนกับพื้น นักพรตอัษฎสมบูรณ์ผู้นี้ตลกเกินไปแล้ว!
ตู้ม!
ภาพร่างสุสานหลักเคลื่อนไหว มือใหญ่ข้างหนึ่งฟาดใส่นักพรตอัษฎสมบูรณ์
ร่างต้นในหลุมศพสำคัญอย่างยิ่งยวด เป็นอันใดไปมิได้เด็ดขาด มันไม่มีทางปล่อยให้นักพรตอัษฎสมบูรณ์ขุดหลุมศพขึ้นมาแน่
“ขุด ๆ ๆ!”
นักพรตอัษฎสมบูรณ์ไม่แยแสภาพร่างสุสานหลักสักนิด ลมหายใจต่อมาก็ปรากฏตัวอยู่อีกด้านของสุสานหลัก ใช้พลั่วกับจอบทุบต่อเสียงดังเคร้งคร้าง
“วิชาลับปล้นสุสานอันสูงส่งน่าทึ่งของเราเล่า”
นักพรตอู๋เหลียงปิดหน้า ไม่อาจทนมองต่อไปได้จริง ๆ
มีอย่างที่ไหนปล้นสุสานแบบนักพรตอัษฎสมบูรณ์ ขืนผู้อื่นรู้เข้าคงขายหน้าแย่!
ต้องยอมรับว่า นักพรตอัษฎสมบูรณ์นั้นเก่งกาจอย่างแท้จริง ภาพร่างสุสานหลักทรงพลังปานใด กำลังรบเหนือขอบเขตอิสระยังฆ่าได้ง่าย ๆ
ทว่าบัดนี้ มันกลับทำอะไรนักพรตอัษฎสมบูรณ์ไม่ได้เลย!
มันจู่โจมไม่หยุด แต่ไม่อาจเล็งเป้าไปที่นักพรตอัษฎสมบูรณ์สำเร็จ ไม่อาจจับต้องแม้เงาของนักพรตอัษฎสมบูรณ์ด้วยซ้ำ นักพรตอัษฎสมบูรณ์เลี่ยงการโจมตีของมันได้ทุกครั้งไป
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
นักพรตอัษฏสมบูรณ์มิได้แยแสภาพร่างสุสานหลัก ยังคงเคาะสุสานหลักด้วยพลั่วและจอบต่อไป
ต้องยอมรับว่าวิธีปล้นสุสานพื้นฐานที่สุดของเขาได้ผลจริง!
สุสานหลักเริ่มมีรอยร้าว หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาขุดสุสานหลักนี้ขึ้นมาได้แน่
นักพรตอู๋เหลียงเห็นแล้วตาค้าง ทำเช่นนี้ก็ได้หรือ ผิดคาดกันสุด ๆ
เขาเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ว่า “หรือเป็นเพราะสุสานหลักนี้สมบูรณ์แบบเกินไป ไม่มีจุดอ่อนสักจุด ไม่ว่าสุดยอดวิชาปล้นสุสานใดล้วนไร้ผล ถึงต้องใช้วิธีเรียบง่ายพื้นฐานที่สุดเช่นนี้หรือ”
เขายิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าความจริงเป็นเช่นนั้น สุดท้ายตบศีรษะตนเองพลางกล่าว “เป็นเช่นนี้แน่! พละกำลังสร้างปาฏิหาริย์ เมื่ออยู่เบื้องหน้าพลังเบ็ดเสร็จ ทุกอย่างล้วนไร้ความหมาย!”
สุสานหลักเกิดรอยร้าว ภาพร่างสุสานหลักร้อนใจอย่างเห็นได้ชัด เริ่มจู่โจมอย่างบ้าคลั่ง พลังสยดสยองน่ากลัวซัดสาดออกมานับคณา ถักทอเป็นตาข่ายเพื่อเข่นฆ่านักพรตอัษฎสมบูรณ์จากทุกทิศทาง
หลุมศพนี้สำคัญมากเช่นกัน ปล่อยให้ถูกทำลายมิได้ หากหลุมศพถูกทำลายต้องเกิดปัญหาใหญ่แน่!
ทว่านักพรตอัษฎสมบูรณ์แข็งแกร่งดุดันมากพอ หลบหลีกการโจมตีจากภาพร่างสุสานหลักได้เสมอ พลั่วและจอบในมือยังคงกระหน่ำบนสุสานหลักไม่หยุดหย่อน!
คราวนี้รอยร้าวบนสุสานหลักมากขึ้นไปอีก!
“ทลายได้แน่!”
นักพรตอู๋เหลียงเอ่ยด้วยตาเป็นประกาย “ขอพวกเราดูหน่อยเถิดว่ามีสิ่งใดอยู่ในสุสานหลักกันแน่ ชายหญิงวัยเยาว์คู่นั้นวางแผนอะไรอยู่!”
สุนัขดำก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมาเช่นกัน
ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ นักพรตอัษฎสมบูรณ์มีโอกาสทลายสุสานหลักลงไปสูง
“ดูเหมือนพวกเขาทำการทดลองบางอย่างอยู่ คิดคืนชีพผู้ที่ตายไปแล้วหรืออย่างไร”
สุนัขดำเอ่ยเสียงเข้ม “พวกเขาทรงพลังปานใด นี่ต้องมิใช่การคืนชีพธรรมดาแน่ หากเป็นการคืนชีพธรรมดา พวกเขาต้องทำได้ง่ายดายแน่นอน”
แม้ว่าชายหญิงวัยเยาว์คู่นั้นจะไม่เคยลงมือ แต่สุนัขดำรู้ดีว่าชายหญิงคู่นั้นไม่ธรรมดาแน่นอน พลังฝีมือที่มีน่าสะพรึงอย่างแท้จริง
มันเริ่มรู้สึกตั้งตารอ
อยากเห็นว่าชายหญิงวัยเยาว์คู่นั้นต้องการคืนชีพบุคคลเช่นไรกันแน่