บทที่ 615 จากไป (1)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

 

บทที่ 615 จากไป (1)

 

ตูม!

 

ละอองเลือดนับไม่ถ้วนโปรยปรายกลางท้องฟ้า เศษเนื้อและแขนขาเพิ่งจะหล่นลงไม่ไกลออกไป ก็ถูกด้ายกระตุ้นวิญญาณจำนวนมากกว่าเดิมฉีกเป็นชิ้นๆ ทันที

 

ด้ายกระตุ้นวิญญาณมากมายที่ไม่อาจบรรยายได้ระเบิดออกมาจากร่างของลู่เซิ่งอย่างบ้าคลั่งอย่างต่อเนื่อง

 

ตอนแรกพวกคนสวมอาภรณ์น้ำเงินยังพยายามต้านทานและร้องตะโกน แต่พอถึงภายหลัง ในที่สุดทุกคนก็พังทลาย

 

พวกสตรีในตระกูลหลิงโอบกอดสตรีเฒ่าหนีไปที่ไกลอย่างรวดเร็ว

 

บุรุษวัยกลางคนผู้นั้นผุดสีหน้าอึมครึม ขณะจ้องมองลู่เซิ่งที่อยู่กลางอากาศเขม็ง ไม่ทราบว่าควรตอบสนองอย่างไรอยู่ชั่วขณะ

 

เหนือลานเรือน ลู่เซิ่งระเบิดหนวดทั้งหมดบนร่างออกไปในพริบตาเหมือนกับปลาหมึกยักษ์ที่ขดร่างตัวหนึ่ง

 

“เด็กน้อย! หาที่ตาย!” ไกลออกไปมีเงาคนสีแดงอ่อนสายหนึ่งเหินมาด้วยความเร็วสูง ผลึกสีทองสามก้อนลอยอยู่รอบตัว ก่อนจะฟาดฝ่ามือใส่ลู่เซิ่ง

 

“เขตแดนขวางฟ้า! ตาย!”

 

ฝ่ามือนี้กระตุ้นสารกายของฟ้าดินรอบๆ ให้กลายเป็นกระแสพลังงานความร้อนสีแดงชาด ล้อมรอบลู่เซิ่งไว้ในลักษณะกรวยขนาดใหญ่

 

กบสีทองที่มีสามตาตัวหนึ่งปรากฏเหนือกรวย กำลังอ้าปากสั่งสมก้อนพลังงานที่เกิดจากอักขระสีทองเข้มจำนวนนับไม่ถ้วน เตรียมจะยิงไปด้านล่าง

 

“ไสหัวไป!” ลู่เซิ่งเอี้ยวตัว ด้ายกระตุ้นวิญญาณขนาดใหญ่รวมตัวกลายเป็นมือใหญ่ ก่อนจะฟาดใส่ด้านข้างกรวย

 

เปรี้ยง!

 

กรวยถูกเจาะเป็นช่องใหญ่ โครงสร้างพังทลาย กรวยพลันแตกสลายกลายเป็นกระแสอากาศไร้รูปร่างจำนวนมาก ทั้งยังคล้ายได้ยินเสียงร้องโหยหวนได้อย่างเลือนราง

 

“ข้าเอง!” เงาดำรูปร่างปลาเมื่อก่อนหน้าปรากฏตัวอีกครั้ง พร้อมกับพุ่งใส่เงาของลู่เซิ่งที่อยู่ด้านล่าง

 

“นครเงาวิญญาณสลาย!” เงามืดนับไม่ถ้วนกลายเป็นเชือกแยกกันมัดลู่เซิ่งทันที

 

ขุมกำลังสองฝั่งของตระกูลหลิงเริ่มผนึกกำลังสู้กับเขา

 

เชือกเงามืดรัดแน่นขึ้น พร้อมทั้งดึงดูดด้ายกระตุ้นวิญญาณที่บ้าคลั่งและเดือดพล่านในตัวลู่เซิ่ง

 

ซู่…

 

เชือกเงาดำหลายสายแยกเป็นตาข่ายเล็กๆ นับไม่ถ้วน ทั้งยังมีตาข่ายเงาจำนวนมากกว่าที่อยู่กลางอากาศหลอมรวมเข้าไปด้านใน ทำให้ตาข่ายดำบนร่างลู่เซิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น

 

ไม่นานลู่เซิ่งก็ถูกก้อนตาข่ายสีดำที่หนาขึ้นเรื่อยๆ ห่อหุ้มไว้ จนกลายเป็นก้อนสีดำขนาดใหญ่ซึ่งลอยอยู่กลางอากาศ

 

“เมื่อโดนพันธนาการจากเงามืดของข้า ต่อให้เป็นตัวตนระดับผู้อาวุโสตะกูล ก็ไม่สามารถดิ้นหลุดไปได้ง่ายๆ!” เสียงชราดังขึ้นช้าๆ เป็นเฒ่าสวี่ที่บุรุษวัยกลางคนเรียกเมื่อก่อนหน้านี้

 

“ซือเฉิง เตรียมตัว…”

 

“ถึงได้บอกไงว่า พวกเจ้ามันน่ารำคาญนัก!”

 

เสียงที่กดข่มความหงุดหงิดดังลอดออกมาจากในก้อนสีดำ

 

เงาดำรูปปลาพลันตะลึงงัน อยู่ๆ ก็รู้สึกว่าอากาศรอบๆ เหมือนจะหายใจลำบากขึ้นกว่าเดิม

 

“ข้าจะให้พวกเจ้าได้เห็น ขีดจำกัดใหญ่อันดับแรกเอง…”

 

ฟ้าว!

 

แสงสีทองสายหนึ่งพุ่งออกมาจากในก้อนสีดำ

 

ฟ้าวๆๆๆๆ!

 

จากนั้นก็ตามด้วยสายที่สอง สายที่สาม สายที่สี่…เส้นด้ายเรืองแสงสีทองนับไม่ถ้วนพุ่งกระจายออกมาจากในก้อนสีดำ

 

เกิดเสียงผ้าฉีกขาดเบาๆ ก้อนสีดำระเบิดออก เผยให้เห็นสภาพของลู่เซิ่งในตอนนี้

 

ด้ายกระตุ้นวิญญาณนับไม่ถ้วนกลายเป็นสีทองอ่อนพร้อมทั้งรวมตัวกันและเวียนวนอยู่รอบตัวเขา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นปีกขนาดใหญ่สองข้าง

 

ปีกกึ่งโปร่งแสงสีทองอ่อนที่ยาวถึงสิบกว่าหมี่สองข้าง

 

ควับ!

 

ปีกสีทองค่อยๆ สยายออก ปกคลุมท้องฟ้าเหนือลานเรือน แล้วโปรยแสงในสภาพผงสีขาวนับไม่ถ้วนออกมา

 

“แปลงวิญญาณลวง…” ถูจินที่อยู่ด้านล่างซึ่งตกอยู่ในสภาพตกตะลึงมาโดยตลอด ในที่สุดก็พึมพำสภาพประหลาดที่งดงามสว่างไสวของลู่เซิ่งออกมา

 

“แปลงวิญญาณลวงของด้ายกระตุ้นวิญญาณ…นี่คือ…นี่คือขอบเขตสุดท้ายของวิชารักษา! เป็นขอบเขตที่ทำให้ทุกอย่างบริสุทธิ์!…” ถูจินร่างสั่นเทาโดยไม่อาจควบคุม

 

นี่ไม่ใช่ขอบเขตที่วิชารักษาที่มีแบบแผนจะไปถึงได้ หากเป็นขีดจำกัดที่วิชารักษาทั้งหมดปรารถนา!

 

บุรุษวัยกลางคนหลิงซือเฉิงเกิดความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ขึ้นในใจ เขาเพียงคิดจะรั้งตัวหมอจากชายแดนที่ขจัดพิษสามคนไว้เท่านั้นเอง…

 

แต่ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่…

 

เร่งให้เกิดการต่อสู้ภายในของตระกูลก่อนเวลาหรือ

 

พอเฒ่าสวี่องครักษ์อสรพิษเมฆาที่อยู่ข้างตนลงมือ กลับถูกหมอคนหนึ่งทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส

 

พอผู้อาวุโสใหญ่ซึ่งเป็นไพ่ตายของขุมกำลังฝ่ายตรงข้ามลงมือ กลับถูกหมอคนหนึ่งทำลายท่าไม้ตายที่โด่งดังของตัวเอง ตอนนี้คงจะซ่อนตัวอยู่ตรงมุมใดมุมหนึ่งเพื่อรักษาตัวอยู่

 

จากนั้นองครักษ์ลับข้างกายก็ถูกเข่นฆ่าจนปางตาย

 

เขาไม่รู้ว่าตนเองทำอะไรลงไป เขาเพียงแค่คิดจะรั้งตัวหมอสามคนนั้นไว้รักษาโรคเท่านั้น

 

แต่ตอนนี้…เขารู้สึกว่าตัวเองไม่ต้องการความช่วยเหลือรักษาโรคให้แก่บิดาแล้ว…เพราะตัวเขากลับป่วยเสียเอง!

 

“รีบส่งตัวฮูหยินเฒ่าออกไปซะ!” เขาพยายามรักษาม่านแสงสีฟ้ารอบๆ ตัวเอาไว้ เพื่อขัดขวางเส้นด้ายสีทองอ่อนที่โจมตีไปทั่วบริเวณ

 

แค่กๆ…

 

ชายชราผมขาวคนหนึ่งที่ร่างประกอบขึ้นจากเงาสีดำโผล่ขึ้นด้านข้างเขา

 

“ซือเฉิง รอบนี้เล่นใหญ่ไปแล้ว…เจ้าพาคนที่เหลือจากไปก่อน อย่าให้โฉวฮัวได้รับบาดเจ็บ” ชายชราสะบัดแขนเสื้อ “ข้าจะหยุดเขาเอง”

 

เขาจ้องมองลู่เซิ่งที่ค่อยๆ ทิ้งตัวลงบนพื้นด้วยสายตาประดุจเหยี่ยว

 

การต่อสู้ครั้งนี้ช่างน่าประหลาดเหลือแสน

 

ตอนแรกดึงดูดขุมกำลังของศัตรูมาสอดมือ ผลคืออีกฝ่ายถูกหมอประหลาดฟาดจนมึนเช่นกัน แถมท่าไม้ตายของผู้อาวุโสใหญ่ซึ่งมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบริเวณรอบๆ ยังถูกทำลาย ทั้งยังโดนพลังคืนกลับจนได้รับบาดเจ็บและหายตัวไปแล้ว

 

สาเหตุแรกสุด เป็นเพราะหลิงซือเฉิงคิดรั้งตัวหมอวิเศษที่ขจัดพิษคนนั้นไว้ให้ได้เท่านั้น

 

ตอนแรกเขาคิดจะข่มขู่ให้หมอช่วยรักษา เพื่อเตรียมตัวสำหรับศึกใหญ่ที่กำลังจะมาถึง

 

สุดท้าย คนขู่ถูกกำจัด ไพ่ตายของเขาได้รับความเสียหาย ศึกใหญ่จบลงเพราะหมอผู้นี้

 

ตอนนี้พวกเขาตกสู่สภาพหวาดกลัว ไม่ทราบว่าต่อจากนี้หมอประหลาดผู้นั้นจะมีปฏิกิริยาอย่างไร

 

ผู้เข้มแข็งระดับนั้น หากองครักษ์ธรรมดาเข้าไปก็มีแต่จะสิ้นเปลือง

 

หลิงซือเฉิงสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่เสื้อในเปียกเหงื่อจนชุ่มโชก ขณะมองดูลู่เซิ่งที่ค่อยๆ ทิ้งตัวลงพื้น ในที่สุดเขาก็อดเอ่ยปากไม่ได้ว่า

 

“ถ้าท่านอยากระบายล่ะก็ ฆ่าข้าเพียงคนเดียวก็พอแล้ว เป็นข้าออกคำสั่งรั้งตัวพวกท่านไว้ คนที่บอกว่าจะฆ่าพวกท่านก็คือข้าเช่นกัน” เขาเป็นตัวแทนตระกูลและเป็นเสาหลักที่แท้จริงของตระกูลหลิง

 

เมื่อครู่ผู้อาวุโสใหญ่ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักถูกลู่เซิ่งฟาดกรวยหัก ท่าไม้ตายถูกทำลาย คาดว่าตอนนี้คงได้รับบาดเจ็บสาหัส จะประคองสติไว้ได้หรือไม่ก็ยังไม่แน่

 

ตอนแรกหลิงซือเฉิงมีแผนการซับซ้อนมากมายในการรับประกันความปลอดภัย และแผนการอีกสิบกว่าแผนสำหรับรับมือกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลง

 

ทั้งยังมีกับดัก ตัวกระตุ้น และสายลับที่ได้วางไว้ก่อนหน้า

 

น่าเสียดาย…

 

ที่ทุกสิ่งไม่มีประโยชน์อีกแล้ว

 

ตระกูลหลิงที่ยิ่งใหญ่ ก่อนหน้านี้หลายวันเขายังหัวเราะต่อกระซิกกับรองเจ้าเมืองของเมืองล้อมขุนเขา และดื่มสุราปราศรัยกับรองผู้บัญชาการที่ดูแลทหารม้าอยู่เลย

 

รอบๆ มีหญิงงามนับไม่ถ้วน มียอดฝีมือดุจหมู่เมฆ

 

ตอนนี้ทุกอย่างกลับไร้ความหมายหมดสิ้น…เนื่องจากล่วงเกินหมอเพียงคนเดียว

 

ในลานเล็กซึ่งเป็นหนึ่งในหลายพันลานเรือนของตระกูลหลิง

 

ขุมกำลังยิ่งใหญ่ที่เตรียมจะจบการต่อสู้ภายในและเริ่มกางใบเรือเพื่อสร้างความยิ่งใหญ่อย่างตระกูลหลิง กลับเผชิญเหตุเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่แปลกประหลาดสุดแสน

 

หมอคนหนึ่งที่ก้าวสู่ระดับชูศัตรา…

 

เรื่องน่าหัวร่อนี้ไม่น่าหัวร่อแม้แต่น้อย

 

ตอนแรกเขาคิดจะแวะมาเยี่ยมบิดาก่อนที่จะเรียกระดมพลเพื่อทำศึกเท่านั้น ผลคือบิดาอาการหนักขึ้นอย่างกะทันหัน แล้วก็เกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้นอย่างแปลกประหลาดเหลือแสน

 

ลู่เซิ่งแค่นเสียงอย่างเย็นชา หลังฆ่าคนไปมากกว่าร้อย ความโกรธของเขาก็ได้รับการระบายออกไปนิดหน่อยแล้ว

 

ตอนนี้พอมองดูหลิงซือเฉิงอีกครั้ง ดวงตาของเขาก็ฉายแววเหี้ยมเกรียม

 

“เจ้าว่าข้าควรจัดการพวกเจ้าอย่างไรดี” เขาถูกกดดันให้เผยขอบเขตอันน่าสะพรึงของวิชารักษา ขณะเดียวกันยังได้ใช้หัวใจแห่งโลหิตในขีดจำกัดใหญ่ขีดแรกมายกระดับความแข็งแกร่งของด้ายกระตุ้นวิญญาณสู่ระดับชูศัสตราด้วย

 

ทำให้ด้ายกระตุ้นวิญญาณซึ่งในตอนแรกมีแค่ความสามารถในการรักษา ระเบิดอานุภาพที่น่าสะพรึงถึงขีดสุดออกมาในพริบตา

 

ด้ายกระตุ้นวิญญาณในตอนแรก ต่อให้ใช้จิตวิญญาณระดับเจ้าแห่งอาวุธของเขาควบคุม อย่างมากสุดก็อยู่ในระดับอริยะเจ้าเท่านั้น

 

ทว่าตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว…

 

หัวใจแห่งโลหิตยกระดับด้ายกระตุ้นวิญญาณขึ้นระดับหนึ่ง ทำให้วิชารักษาไปถึงระดับช่วงต้นของเจ้าแห่งอาวุธ กลับคืนสู่แก่นแท้ และระเบิดอานุภาพอันน่ากลัวออกมา

 

“ถ้าหากท่านยินยอม ข้าจะชดใช้คืนเอง” หลิงซือเฉิงตอบเสียงขรึม

 

ตอนนี้ในลานเรือนเหลือแค่หลิงซือเฉิงกับพวกลู่เซิ่งเท่านั้น

 

ตอนแรกยังมีคนของผู้อาวุโสใหญ่จากขุมกำลังของฝ่ายศัตรู แต่ว่าหลังจากท่าไม้ตายของผู้อาวุโสใหญ่ถูกลู่เซิ่งทำลาย พวกเขาก็ไม่ปรากฏตัวอีก

 

จึงเหลือแค่เศษเลือดเนื้อละเอียดในลานเรือน รวมถึงรั้ว บุปผา และหญ้าที่ถูกย้อมจนแดงฉานเท่านั้น

 

“จะจัดการอย่างไรดี” ลู่เซิ่งกวาดตามองถูจินกับเต๋ออวิ๋น อาจารย์ศิษย์สองคนยังตกอยู่ในสภาพมึนงงอยู่

 

เขาพลันถอนใจอย่างเสียดาย หลังจากเผยพลังในครั้งนี้ เกรงว่าจะอยู่กับถูจินต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ไม่อย่างนั้นจะนำพาความยุ่งยากและอันตรายมากมายมาให้พวกเขา

 

พวกเขาไม่มีพลังป้องกันตัว และไม่มีความสามารถมากพอจะอยู่ข้างกายลู่เซิ่ง ต่อให้จะเป็นปัญหาเล็กๆ ที่เล็กน้อยถึงที่สุดก็ตาม

 

“เพราะเจ้าคนเดียว!”

 

เปรี้ยง!

 

ลู่เซิ่งลากเงาสีทองที่หลงเหลือไปฟาดใส่แก้มขวาของหลิงซือเฉิงดุจสายฟ้าฟาด

 

เกิดเสียงดังกระหึ่ม ร่างหลิงซือเฉิงกลิ้งกระเด็นจนหัวแตกเลือดอาบ เหมือนกับก้อนหินที่ถูกกระบองไม้ฟาดปลิว กระแทกเข้ากับกำแพงด้านข้างอย่างหนักหน่วง

 

ค่ายกลในคฤหาสน์ตระกูลหลิงที่อยู่บนกำแพงปรากฏอักขระสีน้ำเงินหลายสาย รั้วพังไปช่วงหนึ่ง จึงค่อยหยุดหลิงซือเฉิงไว้ได้

 

อ่อก!

 

เขากระอักเลือดออกมา แล้วล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนระทวย คิดจะลุกขึ้นแต่กลับบาดเจ็บจนกระดิกกระเดี้ยไม่ได้

 

เพียงแต่นึกดีใจที่เหล่าสตรีในตระกูลหลิงและหลิงโฉวฮัวได้หนีไปจากที่นี่แล้ว ในลานเรือนคละคลุ้งด้วยกลิ่นคาวเลือดและความว่างเปล่า

 

ในเมื่อลู่เซิ่งลงมือแล้ว ก็คร้านจะปิดบังอีกต่อไป เขาแบ่งด้ายกระตุ้นวิญญาณสายหนึ่งออกมาพันตัวถูจินกับเต๋ออวิ๋นไว้ ก่อนจะหุบปีกคลุมตัวเอง

 

ที่นี่แตกต่างจากโลกมนุษย์ เมืองล้อมขุนเขามียอดฝีมือมากมายดุจหมู่เมฆ เป็นเมืองใหญ่ที่มีไม่กี่เมืองในเขตที่สาม เจ้าแห่งอาวุธระดับชูศัตราคิดจะอาละวาดที่นี่อย่างไร้ความเกรงกลัว ยังคงเป็นไปไม่ได้

 

ลู่เซิ่งเพียงลองสัมผัสดู ก็รู้สึกได้แล้วว่า ที่นี่มีผู้เข้มแข็งระดับเจ้าแห่งอาวุธอย่างน้อยสุดสองถึงสามคน

 

บวกกับนครตราชั่งมีทรัพยากรและวิชาลับมากมาย ผู้ใดจะทราบว่ามีของขลังลี้ลับและวิชาลับอะไรที่ส่งผลต่อเจ้าแห่งอาวุธได้อยู่หรือไม่

 

ดังนั้นเขาจึงคิดจะรีบกลับไป

 

ผู้อาวุโสสองหลิงเฉิงเช่อหายดีแล้ว เป็นไปได้ถึงขีดสุดที่พิษบนตัวเขาจะเป็นฝีมือของคนใกล้ชิด และดูจากปฏิกิริยาของหลิงซือเฉิง ก็ไม่ควรตัดความเป็นไปได้นี้ออกไป

 

‘ควรทำลายศพลบร่องรอยแล้ว’ ลู่เซิ่งค่อยๆ สั่งสมพลัง

 

ฟ้าว!

 

ฟ้าวๆๆๆ!

 

ปีกสีทองแบ่งด้ายกระตุ้นวิญญาณนับไม่ถ้วนออกมา แล้วปล่อยไปยังรอบข้างอย่างบ้าคลั่งทันที

 

กำแพง พื้น บ้าน ม่านแสงค่ายกล ทั้งหมดถูกเส้นสีทองที่เหมือนห่าฝนเจาะทะลุ ปรากฏรูเล็กนับไม่ถ้วน

 

เลือดเนื้อทั้งหมดขยายใหญ่และเติบโตด้วยความเร็วสูง พร้อมกับกลายเป็นพรมเนื้อสีแดงเข้มผืนใหญ่ ก่อนจะกินและดูดซับวัตถุที่มีสารอาหารทั้งหมดอย่างรวดเร็ว

 

ตอนนี้ตระกูลหลิงตื่นตัวแล้ว ผู้เข้มแข็งระดับอสรพิษกลุ่มใหญ่ทะยานขึ้นท้องฟ้า แล้วมารวมตัวกันที่นี่

 

แต่ว่าขณะที่ยังอยู่กลางอากาศ ก็เผชิญกับเส้นด้ายเรืองแสงสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนที่ลู่เซิ่งปล่อยออกมาทันที

 

กลุ่มระดับอสรพิษที่เก่งกาจที่สุดในตระกูลหลิงได้รับความเสียหายอย่างสาหัสในชั่วพริบตา

 

……………………………………….

 

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท