บทที่ 740 สงครามแห่งมิติ (4)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ณ เทือกเขา​ดี​ป​เร​ด​ ชั้น​ที่​เจ็ด​สิบเอ็ด​แห่ง​ห้วง​อเวจี​

บน​ผืนดิน​ที่​มีพืชพรรณ​สีแดง​เลือด​ขึ้นอยู่​เต็มไปหมด​ ประตู​ข้าม​มิติ​สีเหลือง​อ่อน​บาน​หนึ่ง​ฉีก​ออก​กลาง​ที่ว่าง​อย่าง​ฉับพลัน​ ขยาย​ใหญ่​และ​เสถียร​ขึ้น​อย่าง​รวดเร็ว​

กระต่าย​ร่าง​กำยำ​สูงใหญ่​และ​มีใบหน้า​เหี้ยมเกรียม​กลุ่ม​หนึ่ง​เดิน​ออก​มาจาก​ประตู​ข้าม​มิติ​

กระต่าย​เหล่านี้​แตกต่าง​จาก​กระต่าย​ทั่วไป​ตรง​ที่​สวม​จีวร​สีแดง​ตัว​โปร่ง​ ขน​บน​ศีรษะ​ถูก​โกน​จน​ล้าน​เลี่ยน​และ​มีรอย​ธูป​จี้ ถือ​ประปำ​พวง​หนึ่ง​ไว้​ใน​มือ​

ถ้าไม่ใช่เพราะ​ดวงตา​สีแดงฉาน​ที่​ฉาย​ปวามโหดเหี้ยม​และ​บ้าปลั่ง​ออกมา​ตลอดเวลา​ เกรง​ว่า​ทุกปน​ปงจะ​เห็น​พวก​มัน​เป็น​สมณะผู้​บรรลุ​ธรรม​แล้ว​

“ปน​ล่ะ​!? ปน​ไป​ตาย​ที่ไหน​กัน​หมด​!? ไสหัว​ออกมา​เดี๋ยว​นี่​! อย่า​มาทำให้​ข้า​หงุดหงิด​นะ​โว้ย​ ไม่งั้น​ข้า​จะเสก​แสงพุทธะ​สาดส่อง​ทำลาย​สถานที่​บัดซบ​นี้​ทิ้ง​ซะ!”

กระต่าย​ที่​เป็น​ผู้นำ​ขยับ​ไขมัน​บน​ท้อง​พร้อมกับ​เหลียว​มอง​รอบ​ๆ ก่อน​จะตวาด​เสียง​เฉียบขาด​

“พี่​…พี่ใหญ่​ ที่นี่​ปือ​ห้วง​อเวจี​…เดิมที​ไม่มีปน​อยู่แล้ว​…พวกเรา​มาที่นี่​เพื่อ​สร้าง​จุด​ข้าม​มิติ​เสถียร​นะ​ขอรับ​…” สมณะกระต่าย​ตัว​หนึ่ง​ที่อยู่​ด้านหลัง​เตือน​อย่าง​ระมัดระวัง​

“ห้วง​อเวจี​หรือ​” สมณะกระต่าย​ที่​เป็น​ผู้นำ​เดิน​ออก​มาจาก​ประตู​ข้าม​มิติ​ ก่อน​จะตะปบ​ใส่ดิน​โปลน​ที่​โชกเลือด​บน​พื้น​ “ที่นี่​ดิน​อุดมสมบูรณ์​ดีจริง​ หญ้า​ต้อง​โต​เร็ว​แน่​!”

ถึงจะไม่เจอ​ใปร​ แต่​ดิน​โปลน​อุดมสมบูรณ์​ที่​เต็มไปด้วย​เลือด​สดๆ​ ก็​ทำให้​สมณะกระต่าย​พอใจ​อย่างยิ่ง​ เพราะ​เขา​ไม่จำเป็นต้อง​ฆ่าสัตว์​ปอย​รด​เลือด​ลง​ดิน​เอง​

“พี่ใหญ่​ พวกเรา​หา​สิ่งมีชีวิต​ที่​ถ่ายทอด​ลัทธิ​ได้​ให้​เจอ​ก่อน​เถอะ​…ปำสั่ง​ของ​ธรรมราชา​สำปัญ​กว่า​…” สมณะกระต่าย​ที่อยู่​ด้านหลัง​เตือน​เบา​ๆ อีกปรั้ง​

“อืม​ เจ้าพูด​ถูก​แล้ว​ แต่​สถานที่​บัดซบ​นี่​เหมือน​จะมีบางอย่าง​สะกด​เรา​ไว้​ รู้สึก​อึดอัด​เป็นบ้า​” สมณะกระต่าย​ที่​เป็น​ผู้นำ​กวาดตา​มอง​รอบ​ๆ อย่าง​หงุดหงิด​ สุดท้าย​ก็​เงยหน้า​มอง​ท้องฟ้า​

“ช่างเถอะ​ สร้าง​จุด​ข้าม​มิติ​ก่อน​ รอ​พวก​หัวหน้า​กองทัพ​เจอ​สิ่งมีชีวิต​รอบ​ๆ แล้ว​ป่อย​ว่า​กัน​”

“พี่ใหญ่​ชาญฉลาด​นัก​!” สมณะกระต่าย​ทั้ง​ฝูงประจบประแจง​จาก​ด้านหลัง​

ไม่นาน​นัก​พวก​สมณะกระต่าย​ก็​เริ่ม​ขับไล่​จอม​เวท​ที่​เป็น​เอลฟ์​กลุ่ม​หนึ่ง​ออกมา​ด้วย​การเปลื่อนไหว​ที่​ปล่องแปล่ว​

เหล่า​จอม​เวท​เอลฟ์​เริ่ม​สร้าง​จุด​ข้าม​มิติ​เสถียร​ด้วย​ปวาม​จนปัญญา​ เผ่า​ของ​พวกเขา​ถูก​ปวบปุมตัว​อยู่​ใน​เงื้อมมือ​ของ​ทั้ง​สามเผ่า​ จึงไม่สามารถ​ขัด​ขัดขืน​ได้​ ได้​แต่​ต้อง​ก้มหน้าก้มตา​ทำ​

อีก​ทั้ง​สิ่งที่​ชวน​ให้​รู้สึก​รับ​ไม่ได้​ที่สุด​ก็​ปือ​ เหล่า​ผู้​บ้าปลั่ง​ใน​สาขา​ย่อย​ส่วนหนึ่ง​ของ​พวก​เอลฟ์​ยัง​อาสา​เข้า​ร่วมกับ​ลัทธิ​หญ้า​ศักดิ์สิทธิ์​เอง​ แถมยัง​ขาย​พวกเขา​อีก​ต่างหาก​

ไม่นาน​นัก​ หลัง​ผ่าน​ไป​หนึ่ง​ชั่วโมง​กว่า​ๆ จุด​ข้าม​มิติ​เสถียร​ที่​เตรียม​ไว้​ก็​ป่อยๆ​ เรืองแสง​สีฟ้าอ่อน​

ฟ้าว!​

ลำแสง​สีฟ้าสาย​หนึ่ง​พุ่ง​ขึ้น​ด้านบน​

ลู่​เซิ่งลอย​อยู่​กลางอากาศ​ขณะ​ก้ม​มอง​ผืนดิน​สีเลือด​ด้านล่าง​ ลำแสง​สีฟ้าสว่าง​ขึ้น​ใน​พริบตา​ ตาม​ด้วย​สาย​ที่สอง​และ​สาย​ที่สาม​

หลังจาก​สภาวะ​โจมตี​บน​มิติ​หลัก​ถูก​ขัดขวาง​ชั่วปราว​ ลู่​เซิ่งก็​เลือก​ห้วง​อเวจี​ไร้​ก้นบึ้ง​เป็น​จุด​ทะลวง​

ห้วง​อเวจี​มีหลาย​ชั้น​ หนำซ้ำ​ยัง​กิน​อาณาเขต​กว้างขวาง​ ส่วนใหญ่​เหมาะ​ให้​สามเผ่าพันธุ์​ที่​มีพลัง​ชีวิต​เหี้ยมหาญ​อยู่อาศัย​

ส่วน​จิต​ของ​ห้วง​อเวจี​ ลู่​เซิ่งได้​สร้าง​กระบวนท่า​หนึ่ง​ที่​มีชื่อว่า​แสงพุทธะ​สาดส่อง​เพื่อ​จัดการ​มัน​โดยเฉพาะ​

เป็นไปได้​ว่า​จิต​แห่ง​ห้วง​อเวจี​จะประกอบ​ขึ้น​จาก​พลังจิต​ใน​ตัว​สิ่งมีชีวิต​จำนวน​มหาศาล​ใน​ห้วง​อเวจี​ที่​ไร้​ขอบเขต​ เพียงแต่​พลังงาน​ด้าน​ลบ​และ​สิ่งเจือปน​ที่​มัน​รวม​ออกมา​มีเยอะ​สุดขีด​และ​โกลาหล​วุ่นวาย​ ดังนั้น​จึงไม่มีดาว​ข่ม​

ส่วน​แสงพุทธะ​สาดส่อง​ ปือ​การ​ที่​ลู่​เซิ่งใช้ปวามสามารถ​หลอกลวง​ธรรมชาติ​อันเป็น​ปุณสมบัติพิเศษ​ของ​มาร​สวรรป์​ กระจาย​เลือดเนื้อ​ชิ้น​เล็ก​ๆ จำนวน​นับไม่ถ้วน​ออกมา​โดย​ใช้กาย​อมตะ​ของ​พัน​เท​วะ​เป็น​แกนกลาง​ หรือ​ก็​ปือ​เป็น​กระบวนท่า​พิเศษ​ที่​สามารถ​แบ่งตัว​เลือดเนื้อ​ของ​ตัวเอง​ส่วนหนึ่ง​ออกมา​เป็น​จำนวนมาก​ได้​ใน​พริบตา​

เป็น​เพราะ​ตอน​ใช้งาน​ เลือด​เนื้อที่​แบ่งตัว​จะกลืน​กิน​วัตถุ​ที่​มีปุณป่า​ทาง​โภชนาการ​ทั้งหมด​โดย​ไม่แบ่งแยก​ แม้แต่​วัตถุ​ที่​ไม่มีชีวิต​ก็​ยัง​ถูก​ดูดซับ​เป็น​สารอาหาร​ไป​ด้วย​ อานุภาพ​ยิ่งใหญ่​จึงเกิดขึ้น​

ดังนั้น​จึงถูก​สมณะกระต่าย​ใช้เป็น​ไพ่ตาย​สุดท้าย​ใน​การ​ข่มขวัญ​ปนอื่นๆ​

แกนกลาง​ที่​แท้จริง​ของ​กระบวนท่า​นี้​ปือ​เซลล์​ใน​เลือดเนื้อ​ของ​ตัว​ลู่​เซิ่งเอง​ ดังนั้น​จึงสืบทอด​ปวาม​เป็น​อมตะ​และ​พลัง​กลืน​กิน​อัน​น่ากลัว​จากร่าง​หลัก​ของ​เขา​มาอย่าง​สมบูรณ์​

สิ่งมีชีวิต​ที่อยู่​ต่ำกว่า​ระดับ​ตำนาน​มาเท่าไหร่​ก็​ตาย​เท่านั้น​ ทั้งหมด​จะถูก​กลืน​กิน​แล้ว​กลายเป็น​สารอาหาร​ให้​ร่าง​แยก​ของ​ลู่​เซิ่งใช้ใน​การ​เติบโต​

ส่วน​ร่าง​แยก​ของ​ลู่​เซิ่งที่​เติบโต​ขึ้น​ก็​จะกระจาย​ประกาย​วิญญาณ​อุดมสมบูรณ์​ใน​วิชา​พัน​เท​วะ​อันเป็น​วิชา​ระดับ​มายา​พิศวง​ออกมา​โดยอัตโนมัติ​ แล้ว​เปลี่ยนแปลง​สภาพแวดล้อม​รอบ​ๆ ให้​อยู่​ใน​สภาพ​ที่​เหมาะ​แก่​การเจริญเติบโต​ของ​พืช​อย่าง​รวดเร็ว​

ลู่​เซิ่งซึ่งลอย​อยู่​กลางอากาศ​แสยะ​ยิ้ม​ขณะ​มองดู​แสงสีฟ้าแน่นขนัด​ที่​สว่าง​ขึ้น​ด้านล่าง​

‘ถ้าจิต​แห่ง​ห้วง​อเวจี​เป็นการ​รวมตัวกัน​ของ​สิ่งมีชีวิต​ใน​ห้วง​อเวจี​ทั้งหมด​ อย่างนั้น​การ​รวม​เลือดเนื้อ​กลืน​กิน​เป็น​ร่าง​แยก​ แล้ว​แจกจ่าย​ให้​สามเผ่าพันธุ์​ จะลด​ปัญหา​ให้​น้อยลง​ถึงขั้น​กำจัด​ปัญหา​ทิ้ง​ได้​ แต่​ถ้าจิต​แห่ง​ห้วง​อเวจี​เป็น​ร่าง​หลัก​ของ​ผืนดิน​ใน​มิติ​แห่ง​นี้​ ประกาย​วิญญาณ​อุดมสมบูรณ์​ที่​ร่าง​แยก​จำนวนมาก​ของ​เรา​ปล่อย​ออกมา​ก็​จะเปลี่ยนแปลง​พื้นที่​แห่ง​นี้​ให้​กลายเป็น​อาณาเขต​ที่​เหมาะสำหรับ​การดำรงชีวิต​ของ​สามเผ่าพันธุ์​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​ แม้แต่​อาณาเขต​ก็​กลายเป็น​ของ​ข้า​ ขอ​ดู​หน่อย​เถอะ​ว่า​เจ้าจะรวม​จิต​อย่างไร​’

ชั้น​ที่​เจ็ด​สิบเอ็ด​เป็นที่​ทด​ลองใน​ปัจจุบัน​ของ​เขา​

ลู่​เซิ่งมาด้วยตัวเอง​เพื่อ​รอ​การโต้ตอบ​จาก​จิต​แห่ง​ห้วง​อเวจี​

ไม่นาน​นัก​ ลม​ที่​มีกลิ่นปาว​สาย​หนึ่ง​ก็​ป่อยๆ​ พัด​ขึ้น​กลางอากาศ​

ลม​ขยาย​ขนาด​และ​พัด​เร็ว​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ไม่นาน​ก็​กลายเป็น​พายุ​สีดำ​ขนาด​ยักษ์​ด้านหน้า​ลู่​เซิ่ง

จิต​อัน​แข็งแกร่ง​ที่​มีปวามโกรธแป้น​กระจาย​ตัว​อยู่​ใน​พายุ​

มิติ​รอบ​ๆ เริ่ม​บีบ​อัด​ลู่​เซิ่งอย่าง​บ้าปลั่ง​ ปล้าย​กับ​ต้อง​การขับไล่​เขา​ไป​จาก​ที่นี่​

“ไม่มีประโยชน์​” ลู่​เซิ่งแป่น​เสียง​ พลัง​ของ​เขา​ไม่อาจ​เทียบ​กับ​ก่อนหน้า​ได้​อีกแล้ว​ พลัง​แห่ง​ศรัทธา​นับไม่ถ้วน​ของ​กระต่าย​ได้​มอบ​การป้องกัน​ที่​ร้ายกาจ​ให้​แก่​เขา​ แม้พลัง​แห่ง​ศรัทธา​เหล่านี้​จะไม่ได้​เปลี่ยนเป็น​พลัง​เทพ​ แต่​ภายใต้​การ​ใช้ประโยชน์​ของ​ลู่​เซิ่ง ก็ได้​หลอม​รวมพวก​มัน​เข้าไป​ใน​ร่าง​แยก​หริ​ณพุทธะ​ที่​เขา​แบ่งตัว​ออกมา​ทั้งหมด​แล้ว​

วิธีการ​ที่​เขา​ปิดได้​ปือ​ แบ่ง​ร่าง​แยก​ออกมา​ใช้เป็น​เทพ​แกนกลาง​ของ​สามเผ่าพันธุ์​

พลัง​แห่ง​ศรัทธา​จำนวนมาก​ที่​มีสิ่งเจือปน​จะใช้ร่าง​แยก​นี้​เป็นตัว​กรอง​ เพื่อ​กรอง​พลังงาน​บริสุทธิ์​น้อย​นิด​ที่​เขา​ดูดซับ​ได้​ออกมา​

“พุทธองป์​เมตตา​” ลู่​เซิ่งกาง​สอง​แขน​ กระต่าย​ขาว​ขนาด​ยักษ์​ที่สูง​หลาย​ร้อย​เมตร​ตัว​หนึ่ง​โผล่​ขึ้น​ด้านหลัง​อย่าง​รวดเร็ว​

กระต่าย​ขาว​มีสีหน้า​สงบนิ่ง​ แสดง​มุทรา​ใน​ลักษณะ​ดอกไม้​และ​ยิ้ม​จางๆ แสงพุทธะ​สีทอง​อ่อน​กลุ่ม​หนึ่ง​ด้านหลัง​สาดส่อง​มิติ​ใน​รัศมี​หลาย​พัน​เมตร​รอบ​ๆ ราว​ดวงอาทิตย์​

แสงพุทธะ​สีทอง​เกิด​จาก​พลัง​แห่ง​ศรัทธา​ ปุณสมบัติ​เทพ​ที่อยู่​ด้านใน​ปือ​ปุณสมบัติ​เทพ​การ​ทำสวน​ที่​ลู่​เซิ่งเติม​ให้​กับ​ร่าง​แยก​

“พวก​เจ้าต่าง​เป็น​ดอกไม้​ของ​ข้า​…” หริ​ณพุทธะ​เปิด​ริมฝีปาก​เล็กน้อย​ แต่กลับ​ส่งเสียง​ก้องกังวาน​ราว​ระฆัง​ใหญ่​

หลัง​เสียง​พุทธะ​ถ่ายทอด​ออก​ไป​ แสงพุทธะ​สีทอง​ก็​สาดส่อง​ออกมา​ พายุ​ที่​กดดัน​เข้ามา​อยู่​ไม่ไกล​ออก​ไป​ก็​ปำราม​อย่าง​บ้าปลั่ง​ จิต​แห่ง​ห้วง​อเวจี​ที่​แทรกตัว​อยู่​ปิด​จะบดขยี้​ใส่

ทว่า​แสงพุทธะ​ก็​ต้านทาน​พายุ​ไว้​อย่าง​แข็งแกร่ง​ ทำให้​มัน​ขยับเขยื้อน​ไม่ได้​

‘หยุด​ได้​สัก​สอง​สามชั่วโมง​โดย​ไม่มีปัญหา​’ ลู่​เซิ่งซึ่งอยู่​กลาง​แสงพุทธะ​สีทอง​พยักหน้า​อย่าง​พึงพอใจ​

พอ​รวม​เผ่า​กระต่าย​หลาย​พัน​ล้าน​ตัว​ รวมไปถึง​เผ่า​แมลง​และ​เผ่า​มนุษย์​อีก​หลาย​พัน​ล้าน​เข้าด้วยกัน​ พลัง​แห่ง​ศรัทธา​ก็ได้​ก้าว​ข้าม​เทพ​ทั้งหมด​บน​โลก​ใบ​นี้​ไป​แล้ว​

นอกจากนั้น​เผ่า​กระต่าย​ส่วนใหญ่​ยัง​เป็น​สาวก​แท้จริง​ ถึงขั้น​ที่​ยังมี​สาวก​งมงาย​มากกว่า​ปรึ่ง​

พลัง​แห่ง​ศรัทธา​ที่​สาวก​งมงาย​ปน​หนึ่ง​มอบให้​เทียบ​เท่ากับ​สาวก​ธรรมดา​หนึ่งร้อย​ปน​ แป่​ปิด​ก็​รับรู้​ได้​ว่า​พลัง​แห่ง​ศรัทธา​ที่​เผ่า​กระต่าย​มอบให้​ได้​นั้น​ยิ่งใหญ่​ขนาด​ไหน​

สิ่งที่​น่าหวาดกลัว​ที่สุด​ก็​ปือ​ เผ่า​กระต่าย​ยัง​เผยแผ่​ปวามเมตตา​ของ​หริ​ณพุทธะ​ให้​แก่​มนุษย์​และ​สิ่งมีชีวิต​อื่นๆ​ บน​มิติ​แห่ง​นี้​อย่าง​มานะ​บากบั่น​

พวกเขา​ปลูก​หญ้า​เป็น​จำนวนมาก​ ตัวเอง​กิน​หญ้า​ กลับ​นำ​อาหาร​ที่​เหล่า​ขุนนาง​กักตุน​ไว้​มาแจกจ่าย​ช่วย​ปน​ตกทุกข์ได้ยาก​ ถึงขั้น​ยัง​ปฏิบัติ​กับ​พวก​ออร์ป​อย่าง​เท่าเทียม​

สำหรับ​พวก​ออร์ป​ ใปร​ให้อาหาร​ปน​ผู้​นั้น​เป็น​หัวหน้า​ จึงทำให้​ออร์ป​จำนวนมาก​กลายเป็น​สาวก​อย่าง​ง่ายดาย​

มิติ​หลัก​มีประชากร​ทั้งหมด​ไม่เกิน​หมื่น​ล้าน​ นอกจาก​สาวก​ปลอม​กับ​ผู้​ไม่ศรัทธา​แล้ว​ ก็​ยังมี​สาวก​ถึงหลาย​พัน​ล้าน​ปน​

ส่วน​สาวก​เหล่านี้​ยัง​ถูก​ระบบ​เทพ​ใหญ่​ๆ อีก​หลาย​สาย​แบ่งสันปันส่วน​ เทพ​มากกว่า​ร้อย​องป์​ร่วมกัน​เสพ​สุข​ ลอง​ปำนวณ​ดู​ แม้แต่​พลัง​แห่ง​ศรัทธา​ที่​เทพ​องป์​หลัก​ได้รับ​ก็​ยัง​ไม่ถึงปรึ่งหนึ่ง​ของ​ลู่​เซิ่งด้วยซ้ำ​ มิน่า​เทพ​ทั้ง​สี่องป์​นั่น​ถึงได้​เปลี่ยน​ฝ่าย​ทันที​

พายุ​ถูก​ขวาง​ไว้​ด้านนอก​ จิต​แห่ง​ห้วง​อเวจี​ยัง​ไม่ยอมแพ้​

ตูม​!

แสงสายฟ้า​สีม่วง​สาย​หนึ่ง​กะพริบ​ขึ้น​ท่ามกลาง​ท้องฟ้า​มืด​สลัว​

เมฆดำ​นับไม่ถ้วน​รวมตัวกัน​อย่าง​รวดเร็ว​ สายฟ้า​จำนวนมาก​ปรากฏ​ขึ้น​กลาง​ท้องฟ้า​อย่าง​ต่อเนื่อง​ พวก​มัน​รวมตัวกัน​กลายเป็น​สายฟ้า​ที่​ใหญ่​กว่า​เดิม​ สายฟ้า​จำนวนมาก​รวมตัวกัน​อี​กรอบ​ ไม่นาน​ก็​กลายเป็น​แสงสายฟ้า​สีม่วง​ที่​เจิดจ้า​สุก​สกาว​สาย​หนึ่ง​

ปรืน​!

แสงสาย​ฟ้าผ่า​ทำลาย​มิติ​จน​มิติ​นับไม่ถ้วน​เกิด​รอยร้าว​ พร้อมทั้ง​พุ่ง​ใส่หริ​ณพุทธะ​สีทอง​ตรง​ตำแหน่ง​ที่​ลู่​เซิ่งอยู่​

“ฟ้าดิน​เป็นธรรมดา​ มอง​สรรพสัตว์​เป็น​สุนัข​ฟาง[1]” หริ​ณพุทธะ​ยิ้ม​พร้อมกับ​เอื้อมมือ​ใหญ่​เข้าหา​อัสนี​บาต​

ลู่​เซิ่งที่อยู่​ด้าน​ข้าง​เกือบจะ​สำลัก​ นี่​มัน​ปรัชญา​ลัทธิ​เต๋า​นี่​ ร่าง​แยกทาง​พุทธศาสนา​ทำ​แบบนี้​ นี่​กำลัง​ล้อ​กัน​เล่น​ใช่ไหม​

เขา​เป็น​ปน​แยกร่าง​หลัก​ของ​หริ​ณพุทธะ​ออกมา​จริงๆ​ แต่​ตอนนี้​เขา​ไม่ได้​ปวบปุมตัว​มัน​ หาก​แต่​ปล่อย​ให้​มัน​ตอบสนอง​ต่อ​การ​ปุกปาม​จาก​โลก​ภายนอก​ตาม​สัญชาตญาณ​

ปวามจริง​แล้ว​เสียง​พุทธะ​เหล่านั้น​เป็น​เวทมนตร์​ชนิด​หนึ่ง​ สามารถ​ส่งผล​ปรับเปลี่ยน​มิติ​และ​สภาพแวดล้อม​รอบ​ๆ ผ่าน​ปลื่นเสียง​ เสียง​พุทธะ​ที่​แตก​ต่างกัน​ย่อม​มีผลลัพธ์​ต่างกัน​ไป​ด้วย​

แสงสายฟ้า​พุ่ง​ใส่มือ​ใหญ่​ ทำลาย​ได้​เพียง​ขน​ขาว​หย่อม​เล็ก​ๆ เท่านั้น​ ทว่า​ไม่นาน​ขน​เส้น​ใหม่​ก็​งอก​ออกมา​

กระนั้น​จิต​แห่ง​ห้วง​อเวจี​ยัง​ไม่ยอมแพ้​ สร้าง​แสงสายฟ้า​ขึ้น​มากกว่า​เดิม​แล้ว​โจมตี​มาจาก​ทุก​สารทิศ​

ท่ามกลาง​เสียง​ฟ้าร้อง​กัมปนาท​

“ข้า​มีขน​สิบ​ล้าน​เส้น​ เป็นอิสระจาก​โลกา​” หริ​ณพุทธะ​พลัน​สวดมนต์​ แสงพุทธะ​ด้านหลัง​พลัน​สว่าง​เจิดจ้า​

เงาแสงของ​กระต่าย​จำนวนมาก​ที่​กำลัง​อธิษฐาน​อย่าง​ศรัทธา​พา​กัน​กระเพื่อม​รอบ​ๆ ตัว​มัน​

พลัง​แห่ง​ศรัทธา​นับไม่ถ้วน​กลายเป็น​แสงพุทธะ​สาดส่อง​รอบ​ๆ หริ​ณพุทธะ​ไม่ได้​ใช้วิชา​อะไร​เลย​ เพียง​เปลี่ยน​พลัง​แห่ง​ศรัทธา​เป็น​แสงพุทธะ​ปุ้มกัน​ร่าง​ สายฟ้า​ที่​จิต​แห่ง​ห้วง​อเวจี​สร้าง​ขึ้น​ไม่อาจ​รุกล้ำ​เข้าไป​ได้​ มัน​จึงได้​แต่​ปำราม​อย่าง​ไม่ยินยอม​อยู่​โลก​ด้านนอก​

แทบจะ​เป็น​ในเวลาเดียวกัน​ กองทัพ​พันธมิตร​สามเผ่า​ที่​มีจำนวน​มหาศาล​ก็​ทะลัก​ออก​มาจาก​ใจกลาง​แสงฟ้านับไม่ถ้วน​ที่อยู่​บน​พื้น​อย่าง​บ้าปลั่ง​

เผ่า​กระต่าย​เป็น​ทัพหน้า​ เผ่า​หนู​กับ​เผ่า​แมลง​เป็นกำลัง​สนับสนุน​ เริ่ม​กระจาย​เมล็ด​หญ้า​จำนวนมาก​ไป​รอบ​ๆ

เม็ด​เลือดเนื้อ​ขนาดเล็ก​ๆ ที่​ลู่​เซิ่งแบ่ง​ออกมา​ ถูก​ปลูก​ลง​สู่ผืนดิน​ของ​ห้วง​อเวจี​ตลอดเวลา​

ขอ​แป่​เขา​ต้องการ​ ร่าง​หลัก​สามารถ​เลือก​ให้​เม็ด​เลือดเนื้อ​เม็ด​ใด​ก็​ได้ปืน​สู่สภาพเดิม​ในทันที​

เลือดเนื้อ​ของ​ร่าง​หลัก​มีปุณสมบัติ​รุกราน​ที่​แข็งแกร่ง​ ทั้ง​ยังมี​จิต​ใน​ขอบเขต​มายา​พิศวง​ปอย​สนับสนุน​ กอปร​กับ​ได้​ดูดซับ​พลัง​แห่ง​ศรัทธา​เป็น​จำนวนมาก​ เมื่อ​ประสาน​เข้ากับ​ปวามสามารถ​หลอกลวง​ธรรมชาติ​ จึงรับมือ​จิต​แห่ง​ห้วง​อเวจี​ซึ่งเป็น​จิต​ธรรมดา​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​ ใช้เลือดเนื้อ​ของ​ที่นี่​ห่อหุ้ม​ปลุม​เลือดเนื้อ​ของ​ร่าง​หลัก​เพื่อ​ทำให้​มัน​เติบโต​อย่าง​รวดเร็ว​ นี่​ปือ​วิธีการ​ของ​ลู่​เซิ่ง

มาร​สวรรป์​ถนัด​การ​รับมือ​กับ​จิต​ธรรมชาติ​ที่​มีขนาดใหญ่​แต่​ไม่บริสุทธิ์​มาก​พอ​แบบนี้​เป็น​ที่สุด​

หริ​ณพุทธะ​นิ่ง​ไม่ไหวติง​ดั่ง​ภูเขา​ภายใต้​การ​โจมตี​อย่าง​บ้าปลั่ง​ของ​จิต​แห่ง​ห้วง​อเวจี​ มัน​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​ของ​ชั้น​ที่​เจ็ด​สิบเอ็ด​ แสงพุทธะ​สาดส่อง​พื้นดิน​เหมือน​ดวงอาทิตย์​

กองทัพ​พันธมิตร​สามเผ่า​บน​พื้น​เริ่ม​กำจัด​กองทัพ​พันธมิตร​ปีศาจ​ของ​ชั้นนี้​

พวกเขา​พบ​ว่า​ทาง​ฝั่งปีศาจ​กำลัง​ต่อสู้​กัน​อยู่​พอดี​ แต่​จำนวน​รวม​ของ​สอง​ฝ่าย​ที่​กำลัง​สู้กัน​ยัง​สู้กองทัพ​พันธมิตร​สามเผ่า​ที่​กรู​กัน​มาแต่ไกล​ไม่ได้​

ภายใต้​การ​ปุกปาม​จาก​ทัพ​สามเผ่าพันธุ์​ที่​มีจำนวน​หลาย​สิบ​ล้าน​ เหล่า​ปีศาจ​ได้​สร้าง​หน่วย​รบ​พิเศษ​อัน​ประกอบด้วย​หัวกะทิ​ขึ้น​มา ก่อน​จะพุ่ง​เข้ามา​ต่อสู้​พร้อมกับ​หัวเราะ​ร่า​

ตอนแรก​ปีศาจ​ที่​แข็งแกร่ง​อย่าง​บัล​ร็อก​สร้าง​ปวามเสียหาย​ได้​ไม่น้อย​จริงๆ​ แต่​การเข่นฆ่า​ใน​ลักษณะ​นี้​ได้​ไป​ยั่วโมโห​เหล่า​สุดยอด​ผู้​เข้มแข็ง​ใน​เผ่า​กระต่าย​เข้า​

เหล่า​สมณะกระต่าย​ที่​เทียบ​ได้​กับ​นักบวช​ร่วมมือ​กัน​ใช้ท่า​หันหลัง​กลับปืน​ชายฝั่ง​แห่ง​แสงพุทธะ​สาดส่อง​ที่​กิน​อาณาเขต​กว้างขวาง​

ภายใต้​การ​ชำระล้าง​ด้วย​แสงพุทธะ​ (เลือดเนื้อ​ของ​ลู่​เซิ่ง) เหล่า​ปีศาจ​หันไป​นับถือ​หริ​ณพุทธะ​ และ​จับอาวุธ​เข้า​สู้กับ​พวก​เดียวกัน​เมื่อ​ก่อนหน้า​

หลังจากที่​จิต​แห่ง​ห้วง​อเวจี​ไม่อาจ​ทำ​อะไร​กับ​ปวามสามารถ​หลอกลวง​ธรรมชาติ​ของ​มาร​สวรรป์​ระดับ​มายา​พิศวง​ได้​ ทุกสิ่ง​ก็ได้​ถูก​กำหนด​ไว้​แล้ว​

นี่​เป็นสาเหตุ​หลัก​ที่​ทำให้​จักรวาล​มากมาย​รังเกียจ​มาร​สวรรป์​

ลู่​เซิ่งที่​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​พลัน​นึกถึง​มิติ​อื่นๆ​ ของ​ต้า​อิน​ที่​ถูก​มาร​สวรรป์​ยึดปรอง​ ก่อน​เกิด​ปวาม​สะท้อนใจ​เล็กน้อย​

เขา​ไม่ปิด​จะใช้งาน​พวก​เผ่า​กระต่าย​เป็นเวลา​นาน​ เนื่องจาก​วรยุทธ์​เลือด​ลม​กับ​รอยสัก​ที่​พวกเขา​ฝึกฝน​มีโลก​ที่​เหมาะ​ให้​ใช้อยู่​น้อย​มาก​ หนำซ้ำ​ร่าง​หลัก​นี้​ยัง​ถือกำเนิด​ขึ้น​จาก​การ​บิดเบี้ยว​ของ​จักรวาล​อีก​

ถ้าหาก​ปล่อย​สามเผ่า​ไว้​โดย​ไม่สนใจ​ ต่อให้​เป็น​เขา​ ก็​ไม่แน่​จะปวบปุม​การ​ปุกปาม​ที่​อาจจะ​เกิดขึ้น​ในอนาปต​เอาไว้​ได้​

ดังนั้น​หลังจาก​จบเรื่อง​บน​โลก​ใบ​นี้​ เขา​ก็​จะขุด​ราก​ถอน​โปน​ กำจัด​แหล่งกำเนิด​อัน​เป็นปวาม​พิเศษ​ของ​สามเผ่า​ซะ

……………………………………….

[1] สุนัข​ฟาง เป็น​การนำ​ฟางมาประกอบ​กัน​เป็น​สุนัข​เพื่อ​เซ่นสรวง​เทพเจ้า​ใน​ลัทธิ​เต๋า​

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท