ตอนที่ 769 ห้องใต้ดิน!
รถขับออกมาจากเขตเมืองทงเฉิงนานแล้ว ขับเข้าไปในอำเภอฉี่ตง อันที่จริง ไม่ได้มุ่งไปทางทิศเหนือ แต่มุ่งไปทางทิศใต้
ตามคำพูดของเหล่าจาง ทางตำรวจจะดำเนินการจับกุมที่เส้นการจราจรสายเหนือ แต่เถ้าแก่โจวกลับเชื่อจมูกของเจ้าลิงมากกว่า
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หลังจากเจ้าลิงได้กลิ่นแล้วยังอาเจียนจนถึงตอนนี้ หากคุณไม่ไล่ตามไปทางทิศใต้ตามที่มันบอกก็คงเกรงใจแย่
เมื่อผ่านฉี่ตง ขึ้นสะพานไป ไม่ช้าก็จะถึงเขตชานเมืองเซี่ยงไฮ้
“พวกเขาก็ฉลาด รู้จักกระทำการตรงกันข้าม เหอะๆ” โจวเจ๋อหัวเราะ เมื่อถึงด่านเก็บเงิน เขาหยิบน้ำขึ้นมาหนึ่งขวด ดื่มหนึ่งที จากนั้นยื่นให้เจ้าลิงที่อยู่ข้างหลัง
เจ้าลิงใช้อุ้งมือทั้งสองรับน้ำมา แล้วเริ่มล้างหน้าบ้วนปาก
“เหนื่อยหน่อยนะเจ้าลิง” โจวเจ๋อปลอบใจเล็กน้อย เมื่อผ่านด่านเก็บเงิน โจวเจ๋อมุ่งหน้าไปยังทิศใต้ต่อ
นักพรตเฒ่าอุ้มเจ้าลิง สีหน้าเคร่งขรึมอยู่บ้าง หนึ่งคือระยะห่างจากคู่สามีภรรยาที่เป็นคนลักพาตัวใกล้เข้ามาทุกที เป็นผลทำให้อารมณ์โกรธของเขายิ่งทวีคูณ
สองคือรู้สึกไม่สบายใจ เขามักรู้สึกว่าคำพูดที่เถ้าแก่คุยกับเขาก่อนหน้านั้น น่าตกใจพอสมควร
หลังจากจับคนได้แล้วทำอย่างไร
ผมลืมไปแล้ว ผมเป็นผี
นี่หมายความว่าอย่างไร
แตกต่างจากนักพรตเฒ่าที่ไม่สบายใจ ตอนนี้โจวเจ๋ออารมณ์ดีพอสมควร เมื่อก่อนโดนเหล่าจางลากไปทำคดี ไม่เห็นจะอามณ์ดีแบบนี้เลย
‘อา…รมณ์…ดี…จริงๆ…’
‘ผมกำลังขับรถอยู่ คุณอย่าโผล่ออกมาพรวดพราดได้ไหม’
‘ทำไม…ถึง…ชอบ…ยุ่ง…เรื่อง…คน…อื่น…’
‘ก็ไม่ทำไม ตัวผมเองก็เป็นเด็กกำพร้า’
‘เหอะ…เหอะ…’
เห็นได้ชัดว่าคนผู้นั้นไม่เชื่อ เพราะเขาไม่คิดว่าโจวเจ๋อยังไม่เดินออกมาจากประสบการณ์ที่ตัวเองเป็นเด็กกำพร้าในตอนนั้น
ชาติที่แล้วโจวเจ๋อเดินออกมาแล้วจริงๆ นับประสาอะไรกับชาตินี้ที่ต้องเจอเรื่องอีกมากมาย
‘เจ้าโง่ ผมไม่รู้ว่าควรจะอธิบายอย่างไร คุณช่วยผมวิเคราะห์หน่อย ตอนนี้ผมมีความรู้สึกบางอย่าง ตอนที่ผมต้องเผชิญหน้ากับคนบางคน กับเรื่องบางเรื่อง และตอนที่เผชิญหน้ากับเรื่องบางเรื่องของคนข้างกาย ในใจของผมมักจะมีความรู้สึกบางอย่าง ดูเหมือนมันกำลังบอกผมว่า เรื่องนี้ควรทำหรือไม่ควรทำ ต้องทำหรือไม่ เหมือนมีคนกำลังชี้ทางให้ผม ท่ามกลางความมืดมิด’
อย่างเช่นตอนที่เจอหน้าเหล่าจาง เหตุการณ์ล่าสุดนั้น จริงๆ แล้วโจวเจ๋อเล่นไปตามน้ำ
‘อืม…’
‘หืม’
‘ไม่มีอะไรแล้วเหรอ’
‘เฮ้’
โจวเจ๋อตะโกนพูดอยู่ในใจ ตัวฉันพูดไปตั้งเยอะแยะ พูดอย่างละเอียด แต่นายกลับตอบ ‘อืม’ คำเดียว
’เหอะ…เหอะ…’
‘คุณหัวเราะอะไร’
‘อย่า…ถือ…ว่า…ตัว…เอง…วิ…เศษ…’
‘ผมเปล่า’
‘เจ้า…เป็น…แค่…สุ…นัข…เฝ้า…บ้าน…ตัว…หนึ่ง…’
‘โอเคๆ คุณช่วยพูดอะไรที่แปลกใหม่กว่านี้ได้ไหม เอาแต่พูดว่าเป็นสุนัขเฝ้าบ้านอยู่นั่นแหละ พูดจริงๆ นะ ผมฟังจนหูชาแล้ว’
‘ไอ้…เลว…’
‘เจ้างั่ง!’
‘มัน…ไม่…อยู่…แล้ว…’
‘ไม่สิ เจ้าโง่เพิ่งตอบผมเมื่อกี้’
นักพรตเฒ่ารู้สึกว่าเถ้าแก่ที่กำลังขับรถอยู่พลันเปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว ขับรถไปขับรถมากลับมีอักขระปรากฏขึ้นบนตัวในทันใด และลมหายใจเริ่มรุนแรงขึ้น โอ้ว น่ากลัวจริงๆ! นี่คือขับรถด้วยความรู้สึกสนุกสุดเหวี่ยงใช่ไหม
เจ้าลิงน้อยตกใจไม่อาเจียนแล้ว มันขดตัวอยู่ในอ้อมอกของนักพรตเฒ่า
โจวเจ๋อพูดคำราม ‘คุณช่วยอยู่เฉยๆ หน่อยได้ไหม ผมกำลังขับรถอยู่ ผมกำลังขับรถอยู่นะ!’
หลังจากเถียงกันสักพักหนึ่ง โจวเจ๋อจึงถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก พิงอยู่บนเบาะรถ ความเร็วรถเปลี่ยนเป็นยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงขณะที่อยู่บนทางด่วน
‘พา…เขา…ไป…เห็น…เลือด…’ เสียงของอิ๋งโกวส่งผ่านมาอีกครั้ง
‘พาใคร พาเจ้าลิงไปหรือว่านักพรตเฒ่า หรือว่าผมต้องเรียกคนอื่นให้มาหา’ โจวเจ๋อถามติดกันเป็นพรวน แต่ไม่ได้คำตอบจากอิ๋งโกว และคนผู้นั้นก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอีก
โจวเจ๋อมองผ่านกระจกหลัง สำรวจเจ้าลิงน้อยกับนักพรตเฒ่าที่นั่งอยู่เบาะหลัง อิ๋งโกวหมายถึงใคร โจวเจ๋อรู้สึกว่าความน่าจะเป็นของเจ้าลิงน้อยมีมากกว่า
“เจี๊ยกๆๆๆ!!!!” เจ้าลิงชี้ไปทางหนึ่งในทันใด
“รู้แล้ว” โจวเจ๋อรับทราบ เลี้ยวรถตรงทางข้างหน้าออกจากทางด่วน
…
“แกจะบ้าเหรอ ใครสั่งให้แกใช้มีด ใครบอกให้แกใช้มีด หาๆๆ!” ผู้หญิงทุบหน้าอกผู้ชายอย่างบ้าคลั่ง
ผู้ชายจับมือข้างหนึ่งของผู้หญิงแล้วพูดอย่างโหดเหี้ยม “ฉันทำเพื่อใครล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนั้นต่อให้ตายก็จับเด็กคนนั้นไม่ปล่อย ฉันจะทำแบบนี้ไหม ฉันจะบอกเธอให้นะ นางโสเภณีคนนั้นเป็นคนบ้า! ไม่ใช่แม่ของเธอ เธอจะตื่นเต้นอะไร! คิดว่าฉันอยากแทงเธอคนนั้นมากนักเหรอ เธอคิดว่าฉันต้องการเหรอ แต่สถานการณ์แบบนั้น ถ้าฉันไม่จัดการเธอ พวกเราจะออกไปได้อย่างไร ตอนนี้คาดว่าคงถูกจับแล้วเธอเชื่อไหม!”
“ลักพาตัวเด็กโทษไม่ถึงขั้นประหารชีวิต แต่นี่แกจะทำให้ฉันกลายเป็นฆาตกร แกไอ้ชาติชั่ว!”
“เธอวางใจได้ ฉันเป็นคนฆ่าคน ไม่เกี่ยวกับเธอ ถึงแม้จะถูกตำรวจจับ ฉันจะพูดว่าเธอถูกฉันจับเป็นตัวประกัน ถูกฉันบังคับข่มขู่มา เธอเป็นคนที่โดนฉันลักพาตัวมาด้วยเช่นกัน ถึงตอนนั้น เรื่องทั้งหมด รวมทั้งเรื่องในอดีต จะไม่เกี่ยวกับเธอแม้แต่นิดเดียว!”
ผู้หญิงหยุดโวยวายทันที จากนั้นเงยหน้ามองอย่างขอโทษระคนดีใจอยู่บ้าง มองใบหน้าของผู้ชายแล้วเอ่ยเบาๆ “จริงเหรอ”
“ไร้สาระ เธอเป็นผู้หญิงของฉัน ฉันจะไม่มีความรับผิดชอบเลยหรือไง”
“พวกเธอคุยอะไรกัน หมั่นโถวเสร็จแล้ว มากินรองท้องก่อนเถอะ” คุณป้าใส่ผ้ากันเปื้อนคนหนึ่งเคาะประตูตะโกนเรียก
“มาแล้ว ป้าอ้วน!” ผู้หญิงลุกขึ้น เปิดประตูเดินออกไป ผู้ชายก็ลุกตาม แต่มองเงาหลังของผู้หญิง แล้วแสดงแววตาดูถูกออกมาจากในดวงตาของเขา “อีโง่”
ที่นี่ไม่ใช่บ้านนอก และไม่ใช่หมู่บ้านในชนบท บางทีที่นี่อาจจะเป็นบ้านนอกเมื่อสิบปีก่อน แต่หลังจากปรับปรุงแล้ว ทุกคนจึงย้ายเข้าไปอยู่ในตึกทรงตะวันตกหลังเดี่ยวตามการจัดการของรัฐบาล
ตึกเรียงกันเป็นแถว เป็นล็อกๆ หนึ่งตึกมีหลายห้อง แต่ยังคงห้องครัวแบบเตาอิฐเอาไว้อยู่ ผู้หญิงกับผู้ชายนั่งข้างโต๊ะ แต่ละคนถือหมั่นโถวอยู่ในมือ หมั่นโถวในหลายท้องที่ไม่มีไส้ แต่หมั่นโถวแถวมณฑลเจียงซูและมณฑลเจ้อเจียงล้วนมีไส้ เช่น ไส้หัวไชเท้าฝอย ไส้ถั่วกวนต่างๆ ด้านในยังผสมหมูหยองด้วย ในสายตาของคนทางเหนือ นี่คือซาลาเปา แต่ในสายตาของคนท้องถิ่น ขอแค่ไม่ใช่ไส้เนื้อล้วนๆ ก็คือหมั่นโถว
ผู้ชายผู้หญิงสองคนกินอย่างเอร็ดอร่อย สงสัยจะหิวจัด
“ขอข้าวต้มอีกหน่อย”
ป้าอ้วนยกข้าวต้มมาสองชาม วางตรงหน้าพวกเขา
“ขอบคุณป้าอ้วน”
สองสามีภรรยากินอย่างมีความสุข จากเมื่อวานจนถึงตอนนี้ พวกเขาคิดหนีเอาตัวรอดมาตลอด ในที่สุดก็ถึงเวลาหาอาหารเข้าท้องแล้ว
ป้าอ้วนวางผักดองหนึ่งจาน หยิบถ้วยขึ้นมาใส่หมั่นโถวสองชิ้น แล้วเดินเข้าไปในห้อง ในนั้นมีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่ ใส่เสื้อกันหนาวตัวใหญ่ นั่งขดตัวอยู่บนเก้าอี้ มีไม้เท้าอันหนึ่งวางอยู่ข้างชายชรา
“พวกเขามาได้อย่างไร” ชายชราถาม
“น่าจะผ่านมาแถวนี้ สองคนดูเร่งรีบมาก”
“หึ เกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์คือโดนตำรวจไล่ตามจับ”
“ฉันก็คิดอย่างนั้น” ป้าอ้วนพูดพลางพยักหน้า
“ให้พวกเขารีบกินแล้วรีบไสหัวไปซะ” ชายชราพูดอย่างไม่สบอารมณ์
“ไม่ว่าอย่างไรแค่กินข้าวมื้อเดียวเอง”
“โฮ่วๆๆ!!!!!!”
เวลานี้ บนเตียงในห้องเกิดเสียงดังเป็นระยะ
“คุณไปดูลูกชายของคุณสิ ลูกชายเล่นอีกแล้ว” ป้าอ้วนพูดเร่งรัด
“เด็กซนคนนี้” ชายชราจับไม้เท้าขึ้นมา แล้วเดินเข้าไปด้านในห้อง
ในผ้าห่มผ้าฝ้ายที่อยู่บนเตียง ผู้ชายวัยกลางคนตัวซูบผอมนอนอยู่คนหนึ่ง กำลังเล่นของเล่นอุลตร้าแมนที่อยู่ในมือ แต่อุลตร้าแมนที่ตกอยู่ใต้เตียงตัวหนึ่ง เขายื่นมือไปจับไม่ถึง ด้านนอกก็หนาว เขาไม่อยากออกจากผ้าห่มของตัวเอง จึงได้แต่ส่งสัญญาณเรียกไม่หยุด
“ชาติที่แล้วติดหนี้แกจริงๆ ถึงได้ไอ้ลูกเวรอย่างแกมาเกิดที่บ้านของฉัน!” ชายชรายกไม้เท้าขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์ กระทุ้งลูกชายที่อยู่ในผ้าห่มนุ่มๆ บนเตียงหนึ่งที
“โฮ่วๆๆ!!!” ลูกชายร้องพลางน้ำลายไหล แต่กลับไม่กลัว เอาแต่หัวเราะเหอะๆๆ อย่างเซ่อซ่า
ชายชราหมดหนทาง ก้มตัวเก็บอุลตร้าแมนบนพื้นขึ้นมา แล้วโยนไปบนเตียง ลูกชายอายุสามสิบกว่าปีหยิบของเล่นขึ้นมา จากนั้นขดตัวอยู่ในผ้าห่มแล้วเล่นของเล่น ทั่วห้องนี้คลุ้งไปด้วยกลิ่นปัสสาวะ ชายชราไอสองสามทีด้วยความไม่พอใจ พลางครุ่นคิด แล้วจึงถือไม้เท้ากระทุ้งลูกชายของตัวเองอีกสองสามที
“โอ๊ยๆๆ!!!” ลูกชายงงมาก ตีฉันทำไม
“ไอ้ลูกไม่ได้เรื่อง ไร้ประโยชน์จริงๆ!” ชายชราส่ายหน้า ถอนหายใจ จับไม้เท้าเดินกลับไปที่เก้าอี้ตรงประตูอีกครั้ง เขานั่งบนเก้าอี้ พิงกำแพง แล้วขดตัวขึ้นมา
ป้าอ้วนเดินลงไปด้านล่างจนมาถึงห้องใต้ดิน การก่อสร้างตึกเล็กที่นี่ล้วนสร้างด้วยแบบแปลนเดียวกัน จะมีห้องเก็บของขนาดเล็กอยู่ด้านล่างของแต่ละบ้าน
ป้าอ้วนหยิบกุญแจออกมาเปิดประตู แล้วปิดจมูกทันที กลิ่นในห้องลูกชายของเธอ เมื่อเทียบกับที่นี่แล้ว เป็นต้นแบบของอากาศหอมสดชื่นอย่างแท้จริง
ป้าอ้วนหยิบหมั่นโถวสองชิ้นในชามโยนเข้าไปข้างใน ในนั้นมีผู้หญิงผมยาวคนหนึ่งรีบกระโจนเข้ามา เก็บหมั่นโถวขึ้นมาแล้วแทะกิน บนตัวของผู้หญิงมีโซ่ตรวนสำหรับหมาป่าและสุนัข ถูกล่ามอยู่กับกำแพงด้านหลัง
‘แอ๊ด!’ ป้าอ้วนปิดประตูอีกครั้ง แล้วถือชามเปล่าเดินขึ้นไปข้างบน ชายชรานั่งขดตัว ซื้ดจมูก
“เฮ้อ เมื่อไรจะจบสิ้นเสียที เลี้ยงไปก็เสียข้าวสุก อย่างน้อยให้ฉันได้พอมีความหวังบ้างเถอะ” ป้าอ้วนจนปัญญาอย่างเห็นได้ชัด เหลือบตามองในห้องแล้วพูดต่อ “ลูกชายของเราโง่จริงๆ เรื่องพรรค์นั้นก็ทำไม่ได้”
ชายชราถอนหายใจอย่างจนใจ ก็จริง! ลูกชายคนนี้ เป็นเจ้าหนี้โดยกำเนิด! พวกเขาสองสามีภรรยา ชาตินี้มีลูกชายคนนี้เป็นภาระโดยแท้!
ป้าอ้วนมองไปที่ชายชราพลางเอ่ยว่า “คืนนี้จะต้มซุปปลาหลีฮื้อให้คุณ บำรุงร่างกายหน่อย ลูกชายไม่ไหว คุณต้องสู้ๆ”
ชายชราเหมือนตกใจ รีบส่ายหน้าพูด “ฉันอายุมากแล้ว หนึ่งครั้งต่อหนึ่งวันไม่ไหวหรอก ต้องค่อยๆ”
……………………………………………………………………….