สืบแค้นคุณหนูสวมรอย – ตอนที่ 211 ใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

ตอนที่ 211 ใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ

บนถนนเห็นกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินไปทั่ว เป็นภาพหลังกู้ชางป๋อเกิดเรื่อง ทำให้บรรดาขุนนางและชนชั้นสูงต่างคาดเดาสาเหตุการตายของกู้ชางป๋อไปต่างๆ นานา

บนถนนที่ตั้งจวนกู้ชางป๋อสายนั้นประดับไปด้วยผ้าขาว เสียงร้องไห้คร่ำครวญดังระงม

ฮูหยินกู้ชางป๋อฝืนความเศร้าโศกจัดงานศพด้วยจิตใจที่ตื่นตระหนก ไต้เจ๋อที่ได้ชื่อว่าคุณชายเสเพลอันดับหนึ่งในเมืองหลวงก็เหมือนจะรู้ความมากขึ้น

จนกระทั่งเขาได้ยินว่าคุณหนูโค่วร้านหนังสือชิงซงส่งคนมาคำนับศพ

“คุณหนูโค่ว…” ไต้เจ๋อพึมพำ กระโดดขึ้นทันที “ท่านแม่ ข้ามีธุระออกไปข้างนอกหน่อย!”

ฮูหยินกู้ชางป๋อถามขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “เจ้าจะไปไหน”

“มีเรื่องด่วน ไม่นานก็กลับ!”

ไต้เจ๋อยังสวมชุดไว้ทุกข์ แต่กลับไม่สนใจรีบร้อนออกไป

พ่อบ้านไล่ตามไปเตือน ไต้เจ๋อถอดชุดและหมวกออก ก่อนขี่ม้าไปทันที

ยามนี้มีคนมาคำนับศพกันแล้ว พอเห็นเช่นนี้ต่างก็มองหน้ากันไปมา แววตาเผยความคิด มีบุตรชายเสเพลไม่เอาไหนเช่นนี้ จวนกู้ชางป๋อคงใกล้จบสิ้นแล้ว

แต่ความคิดนี้ก็เป็นเพียงความคิดที่มีต่อซื่อจื่อจวนกู้ชางป๋อที่ไม่เอาไหนเท่านั้น เพราะจวนกู้ชางป๋อไม่มีทางล้มลงง่ายดายเช่นนี้ อย่างไรก็ยังมีชิ่งอ๋อง

ไต้เจ๋อไม่ได้คิดมากอันใด เขารู้เพียงแค่บิดาจบชีวิตอย่างน่าประหลาดเช่นนี้ คุณหนูโค่วเป็นผู้สูงส่งที่มีความสามารถ บางทีอาจไขข้อข้องใจของเขาได้

เขาขี่ม้าทะยานไปร้านหนังสือชิงซง

ยังเช้าอยู่มาก ร้านหนังสือเพิ่งเปิดประตูร้านได้ไม่นาน สือโถวถือไม้กวาดจะออกไปด้านนอก เกือบชนกับไต้เจ๋อที่วิ่งเข้ามา

“คุณหนูโค่วล่ะ” ไต้เจ๋อกระชากคอเสื้อสือโถวมาถาม

สือโถวงุนงง “คุณชายไต้?”

หลิวโจวได้ยินเสียงเคลื่อนไหวก็รีบเข้ามาหา “คุณชายไต้ ท่านมาหาเจ้าของร้านเราหรือ สือโถว รีบไปตามเจ้าของร้านมา”

ไต้เจ๋อปล่อยมือ สือโถวได้รับอิสระก็รีบวิ่งออกไปทันที

ผู้ดูแลร้านหูเองก็เข้ามาเอ่ยเชิญ “คุณชายไต้ เชิญเข้ามานั่งก่อน”

เดิมพวกเขาได้พบกับบรรดาคุณชายสูงศักดิ์มามากมาย ไม่ได้แสดงท่าทีระแวดระวังเพียงนี้ แต่เพราะคุณชายไต้เพิ่งสูญเสียบิดาไป เกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมาจะทำอย่างไร

ดีที่ไม่นาน ซินโย่วก็มา

“คุณชายไต้…”

ไต้เจ๋อพุ่งเข้าไปคว้าข้อมือซินโย่ว “คุณหนูโค่ว ข้ามีเรื่องคุยกับเจ้า!”

ซินโย่วมองมือชายหนุ่มที่คว้าข้อมือตนเองไว้ แต่ก็มิได้โมโห “เช่นนั้นไปคุยที่ห้องรับรอง”

ในห้องรับรอง แจกันลายครามฐานกว้างที่เคยปักดอกซิ่งเปลี่ยนเป็นดอกซานอิง เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งฤดูใบไม้ผลิ

ซินโย่วเอ่ยขึ้นก่อน “เรื่องจวนท่าน ข้าได้ยินมาแล้ว ขอคุณชายไต้โปรดระงับความเศร้าด้วย”

ไต้เจ๋อไม่สนใจฟังวาจามารยาทเหล่านี้ แต่จ้องมองซินโย่วเขม็งพลางถามขึ้นว่า “คุณหนูโค่ว ดูนรลักษณ์เป็นใช่หรือไม่ ดูให้หน่อยได้หรือไม่ว่าเหตุใดท่านพ่อข้าต้องตาย”

หลายวันนี้เขาหวาดระแวงมาตลอด คล้ายกำลังฝันร้าย ไม่อยากเชื่อว่าท่านพ่อจากไปแล้ว

เป็นไปได้อย่างไร เห็นอยู่ว่าก่อนเข้าวัง ท่านพ่อยังดุด่าเขาอยู่ เป็นปกติเช่นนี้หลายครั้ง

แต่ครั้งนี้ ที่กลับมาเป็นเพียงร่างไร้วิญญาณของท่านพ่อ

ซินโย่วจ้องมองไต้เจ๋ออย่างละเอียดทีหนึ่ง สีหน้าแปลกไปเล็กน้อย ส่ายหน้าเอ่ยว่า “เรื่องในวัง ไม่ใช่เรื่องที่บุคคลตัวเล็กๆ เช่นข้าจะเอ่ยอันใดเหลวไหลได้”

ไต้เจ๋อสังเกตสีหน้าผิดปกติของสาวน้อยตรงหน้า ก็เอ่ยอย่างตื่นเต้นทันที “คุณหนูโค่ว มองเห็นใช่หรือไม่ เจ้าต้องเห็นแน่เลย! เจ้าบอกข้าเถอะ ข้ารับรองจะไม่พูดเหลวไหลไปทั่ว!”

ชายหนุ่มน้ำตาไหลพรากต่อหน้าซินโย่ว

ซินโย่วลังเล

“คุณหนูโค่ว ถือว่าข้าขอร้องเจ้า!” ไต้เจ๋อขอบตาแดง ท่าทางคลุ้มคลั่งคล้ายว่าหากไม่ได้ดังประสงค์จะไม่ยอมเลิกรา

ซินโย่วสีหน้าลังเล ในที่สุดก็เอ่ยว่า “ข้ามองจากใบหน้าคุณชายไต้ มองเห็นว่าเรื่องที่เกิดกับบิดาท่านนั้นเกี่ยวข้องกับ…”

“เกี่ยวข้องกับอันใด” ไต้เจ๋อรีบถามทันที

ซินโย่วสีหน้าไม่ดีนัก “ข้าพูดแล้ว คุณชายไต้อาจจะไม่เชื่อ”

“เจ้าพูดมาก็พอ!”

“เกี่ยวพันกับชิ่งอ๋อง”

ปฏิกิริยาแรกของไต้เจ๋อคือเป็นไปไม่ได้ “ท่านพี่จะทำร้ายท่านพ่อข้าได้อย่างไร!”

ซินโย่วน้ำเสียงนิ่งสงบ “ไม่ได้หมายความว่าชิ่งอ๋องทำร้ายบิดาท่าน เพียงแต่บอกว่าเกี่ยวข้องกับเขา”

“แล้วเพราะเหตุใด” ไต้เจ๋อโล่งอกอย่างไม่รู้ตัว

เขายอมรับความเป็นไปได้ที่พี่ชายเขาจะฆ่าบิดาเขาไม่ได้

ซินโย่วส่ายหน้าเล็กน้อย “ข้ามองเห็นเรื่องเหล่านี้ได้ ก็เพราะคุณชายไต้มีสายโลหิตสัมพันธ์กับบิดา ส่วนเหตุใดเกี่ยวข้องกับชิ่งอ๋อง มองจากใบหน้าท่านไม่ออก”

“มองไม่ออก…” แววตาไต้เจ๋อพลันส่องประกายวาบ “แล้วหากดูนรลักษณ์พี่ชายข้าเล่า จะมองออกไหม”

“เรื่องนี้…” ซินโย่วขมวดคิ้ว “ข้าไม่รู้ จะว่าไปชิ่งอ๋องเองก็ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้…”

ไต้เจ๋อไปแล้ว จากไปรวดเร็วเหมือนกับตอนเขามา

ซินโย่วยืนอยู่นอกร้านหนังสือชิงซง สีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกมองดูชายหนุ่มขี่ม้าทะยานหายลับไปจากสายตา

โยนเหยื่อล่อไปแล้ว จะตกปลาตัวนั้นได้หรือไม่

ซินโย่วค่อนข้างมั่นใจในเรื่องนี้

การตายของกู้ชางป๋อส่งผลกระทบต่อชิ่งอ๋องสองแม่ลูกอย่างมาก หากชิ่งอ๋องไม่รู้ความจริง คิดว่าก็คงอยากรู้ความจริงแทบไม่ต่างจากไต้เจ๋อ แต่หากรู้ความจริง จะดำรงทีท่าสงบนิ่งกับวาจาของนางได้อย่างไร

ไต้เจ๋อตรงไปจวนชิ่งอ๋อง

กู้ชางป๋อเป็นลุงแท้ๆ ของชิ่งอ๋อง ไม่ว่าเขาทำผิดอันใด ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ถือสาอย่างไร ชิ่งอ๋องก็คงไม่อาจวางตัวดูดายได้ ไม่เช่นนั้นคนภายนอกก็คงวิพากษ์วิจารณ์ว่าแล้งน้ำใจ หลายวันนี้ตอนเช้าชิ่งอ๋องก็ไปจวนกู้ชางป๋อ ก่อนตะวันตกดินจึงได้กลับจวนอ๋อง

ยามนี้ชิ่งอ๋องกำลังเตรียมออกไปข้างนอก พอเห็นไต้เจ๋อก็ตกใจ “น้องพี่ เจ้ามาได้อย่างไร”

“ท่านพี่ ข้ามีเรื่องจะคุยกับท่านพี่” ไต้เจ๋อกวาดตามองคนของชิ่งอ๋อง สีหน้าลังเล

ชิ่งอ๋องตวัดมือให้ผู้ติดตามถอยออกไป “น้องพี่จะพูดเรื่องอะไรหรือ”

“ท่านพี่รู้ไหมว่าเหตุใดท่านพ่อข้าจึงเกิดเรื่อง”

ชิ่งอ๋องสีหน้าบึ้งตึง เอ่ยน้ำเสียงเตือนว่า “ข้าไม่รู้ น้องพี่ ปกติเจ้าจะอย่างไรข้าไม่ว่า แต่ตอนนี้อย่าได้เหลวไหล”

เขากำลังตกใจและหวาดระแวงหลังท่านลุงอยู่ๆ จากไป กลางคืนก็นอนไม่หลับ หากน้องชายก่อเรื่องอันใดขึ้นอีก ก็คงทำให้เขารู้สึกย่ำแย่ถึงขีดสุด

“คุณหนูโค่วอาจจะรู้” ไต้เจ๋อหรี่เสียงลง

“ผู้ใด?” ชิ่งอ๋องตวาดถาม ขมับปูดโปน

“คุณหนูโค่ว”

ชิ่งอ๋องจ้องมองไต้เจ๋อเขม็ง “น้องพี่ นี่ไม่ใช่เวลามาล้อเล่น”

“ข้าเปล่า! ท่านพี่ไม่เคยได้ยินหรือ คุณหนูโค่วดูนรลักษณ์เป็น เหตุแผ่นดินไหวที่เป่ยโหลวฝางก่อนหน้านี้ คนมากมายพ้นภัยมาได้ ก็เพราะคุณหนูโค่วมองออกว่านักเรียนคนหนึ่งในสำนักศึกษากั๋วจื่อเจี้ยนมีเคราะห์เลือดตกยางออก นักเรียนผู้นั้นพักอยู่ในเป่ยโหลวฝาง…”

ฟังไต้เจ๋อพูดจบ ชิ่งอ๋องก็รู้สึกว่าเหลวไหล “ข่าวลือเหลวไหลไร้สาระเช่นนี้ เจ้าก็เชื่อหรือ”

“แน่นอนไม่ใช่แค่นี้ ท่านพี่ยังจำจังซวี่ได้กระมัง ทุกเดือนเขาสอบได้ที่โหล่ก็จะถูกตี ปีก่อนไปให้คุณหนูโค่วดูนรลักษณ์ คุณหนูโค่วบอกว่าเดือนนี้เขาไม่โดนตี ปรากฏว่าเกิดอันใดขึ้น ท่านพี่เดา? จังโส่วฝู่ยุ่งจนไม่มีเวลากลับบ้านเพราะติ้งเป่ยประสบภัย เขารอดมาได้จริง…”

ชิ่งอ๋องยังคงไม่เชื่อ แต่ฟังแล้วไต้เจ๋อมิได้ปั้นแต่ง ดังนั้นจึงถามขึ้นว่า “แม้คุณหนูโค่วมีความสามารถนี้จริง น้องพี่ไปหานางก็ได้ มาจวนอ๋องพี่ทำไม”

ไต้เจ๋อชะงักไปก่อนจะเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “ไปหามาแล้ว คุณหนูโค่วมองออกว่าเรื่องที่เกิดกับบิดาข้าเกี่ยวข้องกับท่านพี่…”

ชิ่งอ๋องแววตาเคร่งเครียด น้ำเสียงเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง “เกี่ยวข้องกับข้าได้อย่างไร”

ไต้เจ๋อไม่ทันมองเห็นจิตสังหารในแววตาชิ่งอ๋อง เอาแต่พูดไม่หยุด “นางมองจากใบหน้าข้าไม่ออก ท่านพี่ไปให้นางมองหน่อย…”

“หุบปาก!”

เสียงชิ่งอ๋องตวาดใส่จนไต้เจ๋อนิ่งอึ้งไปทันที

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

Status: Ongoing
เมื่อมารดาถูกสังหาร ซินโย่วจึงมายังเมืองหลวงเพื่อสืบหาตัวฆาตกร แต่เมื่อสืบลึกลงไปก็กลับต้องพบกับความจริงอันน่าตกใจภายในนั้น…รายละเอียด นิยายรัก-สืบสวน ครบรสจากนักเขียนมากฝีมือ ‘ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ย’ขณะที่ ซินโย่ว กำลังเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อสืบหาเบาะแสสำคัญของฆาตกรสังหารมารดาก็ได้บังเอิญจับพลัดจับผลูตกหน้าผาแล้วเข้าสวมรอยฐานะของ โค่วชิงชิง คุณหนูหลานนอกของจวนรองเจ้ากรมพระราชยานหลวงเข้าเพราะทรัพย์สินมากมายโค่วชิงชิงจึงถูกญาติที่มาหวังพึ่งพิงผลักตกหน้าผาจนถึงแก่ความตาย นั่นทำให้นางได้เข้ามาสวมฐานะของอีกฝ่ายซินโย่วนั้นมีดวงตาที่พิเศษกว่าคนทั่วๆ ไป นางสามารถมองเห็น ‘เรื่องร้าย’ ที่จะเกิดขึ้นกับคนผู้หนึ่งได้โดยไม่เลือกว่าจะเป็นผู้ใด เวลาไหนประกอบกับไหวพริบอันชาญฉลาดทำให้นางสามารถอยู่ในสถานะนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนักเพื่อสืบเรื่องฆาตกรสังหารมารดาซินโย่วจำต้องใช้ฐานะใหม่ที่มีสืบหาเบาะแสจาก ‘บันทึกโบตั๋น’ เปื้อนเลือดที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุยิ่งสืบลงลึกเรื่องราวก็เหมือนจะซับซ้อนยิ่งกว่านั้นเรื่องราวในอดีตเบาะแสที่โยงใยสืบเนื่องกันมา ได้เวลาเผยโฉมแล้ว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท