คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า – ตอนที่ 681 เชี่ยวชาญในการรักษาคนปากแข็งทุกชนิด

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 681 เชี่ยวชาญในการรักษาคนปากแข็งทุกชนิด

“ท่านเจ้าอาวาสน้อย โปรดรอก่อน”

ฉินหลิวซีหันกลับมา เห็นเหวินจิ่นซูเดินออกมาจากในห้องอย่างรวดเร็ว จึงหยุดฝีเท้า

เหยียนฉีซานขวางอยู่ข้างหน้านาง เอ่ยกับเหวินจิ่นซูว่า “นางหนูจิ่น หากพวกเจ้าไม่เชื่อนาง ข้าก็จะพานางไป ถือเสียว่าข้ายุ่งเรื่องชาวบ้านเอง”

เมื่อฟังออกว่าน้ำเสียงของเขาไม่ดี เหวินจิ่นซูจึงคุกเข่าคำนับ กล่าวขอโทษ “ท่านอากล่าวเกินไปแล้ว ท่านก็รู้นิสัยของท่านพ่อดี ก็เป็นเช่นนี้ หากไปล่วงเกินเข้า ข้าขอโทษท่านแทนเขาด้วย”

เหยียนฉีซานสบถเบาๆ แน่นอนว่าเขารู้นิสัยของตาเฒ่าผู้นั้นดี แต่ก็ยังมีความไม่พอใจ

เหวินจิ่นซูหมดปัญญา มองไปยังฉินหลิวซี จากนั้นจึงเอ่ย “ท่านเจ้าอาวาสน้อย ที่ท่านกล่าวเมื่อครู่นี้เป็นเรื่องจริงหรือ แผลของสามีข้า หมอทั่วไปไม่สามารถรักษาได้จริงๆ หรือ”

ฉินหลิวซีเอ่ย “เขาแบกรับกรรมจากฆ่า ใบหน้านั้นบนหลังของเขาเป็นใคร ในใจของเขาคงจะรู้ดี ความขุ่นเคืองรุนแรง ทั้งยังได้รับการหล่อเลี้ยง จึงได้ปรากฏขึ้นมาเป็นใบหน้าของคน ดังนั้นพลังหยินรอบตัวเขา แม้แต่เจ้าก็ติดมาด้วยไม่น้อย อย่างไรเสียก็ปรนนิบัติอยู่ข้างกายเขาเป็นประจำ คาดว่าช่วงนี้แม่นางเหวินก็รู้สึกว่าร่างกายหนักอึ้งและเหนื่อยล้า ไม่สบายเล็กน้อย”

สีหน้าของเหวินจิ่นซูเปลี่ยนไป บีบนิ้วแน่น

ฉินหลิวซีมองไปยังตำแหน่งบุตรบริเวณใต้ตาของนาง เอ่ยว่า “ข้าก็ดูโหงวเฮ้งเป็นด้วยเล็กน้อย เดิมทีชะตาชีวิตเจ้ามีบุตรสามคน หนึ่งในนั้นแท้งก่อนที่จะเป็นตัวอ่อนด้วยกระมัง คงจะเป็นเรื่องในปีนี้ ความจริงแล้วก็เป็นการชดใช้บาปชีวิตอย่างหนึ่ง หนี้ของจังหัวยังไม่หมดสิ้น เช่นนั้นก็ให้บุตรชายของเขามาชดใช้”

เหวินจิ่นซูตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าว มือบังที่หน้าท้องโดยไม่รู้ตัว

นางเสียบุตรไปหนึ่งคนจริงๆ เกิดขึ้นในเดือนสาม ตอนนั้นแผลของจังหัวเริ่มลุกลามหนักขึ้นแล้ว นางต้องดูแลสำนักศึกษาสตรี ทั้งยังต้องอบรมสั่งสอนบุตรทั้งสอง แล้วก็ต้องดูแลจังหัว แต่กลับไม่รู้ว่าร่างกายของตัวเองเปลี่ยนไป กว่าจะพบความผิดปกติก็รักษาเด็กไว้ไม่ได้แล้ว

เรื่องแท้งบุตรเช่นนี้ ซ้ำยังพึ่งตั้งครรภ์ นางจึงไม่ได้แพร่งพรายออกไป อย่าว่าแต่เหยียนฉีซานไม่รู้เลย แม้แต่บิดามารดานางก็ไม่กล้าบอก ประการแรกเป็นเพราะท่านแม่เองก็อ่อนแอนอนอยู่บนเตียง ประการที่สองเนื่องจากพวกท่านก็อายุมากแล้ว ทนไม่ได้ที่จะได้ยินเรื่องเช่นนี้ ดังนั้นจึงไม่ได้บอก

เหยียนฉีซานก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ถอนหายใจ เดินหลบออกไปสองสามก้าว บาปกรรมจริงๆ

“สิ่งที่ข้าเอ่ยไปเมื่อครู่ก็เป็นคำเตือน หากอยากจะรักษา มีเพียงต้องไถ่บาปอย่างจริงใจและการขออภัย เชิญนักพรตมาสวดส่งวิญญาณไปเกิดใหม่ จากนั้นก็ใช้มีดปราบปีศาจคว้านบาดแผลจึงจะรักษาชีวิตไว้ได้ แม้ว่าแผลจะดีขึ้น แต่บาปนั้นยังคงต้องชดใช้ไปตลอดชีวิต เขาหนีไม่พ้น แน่นอนว่าไม่ได้หมายความว่าอดีตที่ผ่านมาจะถูกลบล้างได้ด้วยการไถ่บาป สิ่งที่เคยทำล้วนถูกบันทึกไว้ในใบกรรมที่อยู่ในมือของผู้พิพากษา ไว้ชำระบัญชีหลังจากตายไปแล้ว ข้ากล่าวเพียงเท่านี้ พวกเจ้าตัดสินใจกันเอาเองเถิด หากไม่รีบจัดการ หน้าผีจะกัดกินร่างเขาอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นก็จะเจ็บปวดยิ่งกว่าตอนนี้ กัดกินทั้งวันทั้งคืน ตายยังจะดีกว่ามีชีวิตอยู่”

เหวินจิ่นซูตกใจกลัวจนล้มลงนั่งบนพื้น

หลังประตู มือของเหวินฝู่หลินสั่นเทาเมื่อได้ฟังคำพูดเหล่านี้ มองไปยังจังหัวที่ออกมาหา สายตาแฝงไว้ด้วยความตำหนิอย่างรุนแรง ก้าวไปข้างหน้าหลายก้าว ซักถามว่า “ก่อนหน้านี้จิ่นซูแท้งบุตรจริงๆ เช่นนั้นหรือ”

จังหัวตัวแข็งทื่อ เอ่ยด้วยริมฝีปากซีด “เป็นเพราะไม่รู้ว่าตั้งครรภ์ ไม่ได้ใส่ใจก็เลยแท้งขอรับ น้องหญิงบอกว่าท่านกับท่านแม่อายุมากแล้ว กลัวว่าพวกท่านจะเสียใจ จึงไม่กล้าบอก”

“เจ้า เจ้า…” เหวินฝู่หลิวชี้ไปที่เขาด้วยนิ้วที่สั่นเทา โกรธจนปวดกล้ามเนื้อหัวใจ ร่างกายโอนเอนเกือบจะล้มลง

เหวินจิ่นซูบังเอิญเข้ามาเห็นฉากนี้พอดี ตกจึงรีบเข้าไปพยุงเขา “ท่านพ่อ ท่านเป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ”

“แท้งบุตรเรื่องใหญ่เพียงนี้ เจ้ากลับกล้าปิดบังข้า ไม่แปลกใจเลยที่ช่วงนั้นสีหน้าของเจ้าไม่ดี กินอาหารบำรุงอยู่ตลอด ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ เจ้ายังไม่ได้อยู่ไฟก็ไปสำนักศึกษาแล้ว เจ้า เจ้าจะทำให้ข้ากับแม่ของเจ้าโกรธจนตายหรือ”

เหวินฝู่หลินโกรธมากจริงๆ แต่ก็รู้สึกปวดใจในเวลาเดียวกัน

เรื่องเช่นนี้กลับต้องรู้จากปากของคนภายนอก

ทั้งคนภายนอกผู้นี้ยังพึ่งเจอกันเป็นครั้งแรก

ร่างกายของเหวินฝู่หลินแข็งทื่ออีกครั้ง ฉินหลิวซีกล่าวถูกทุกอย่าง แล้วเรื่องของจังหัวล่ะ

“เจ้าบอกมา ที่เจ้าอาวาสผู้นั้นกล่าวมาเป็นความจริงหรือไม่ เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าแผลหน้าผีที่อยู่บนหลังเจ้านั้นเป็นหน้าของผู้ใด” เหวินฝู่หลินตะคอกด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด

จังหัวเอ่ย “ท่านพ่อ น้องหญิง ขงจื้อไม่สอนเรื่องอำนาจลี้ลับ ข้าเป็นคนอย่างไร พวกท่านไม่รู้หรือ แต่กลับไปเชื่อคำพูดเหลวไหลของคนแปลกหน้าคนหนึ่ง”

เหวินฝู่หลินกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “คนแปลกหน้าที่เจ้าพูดถึงได้บอกให้รู้เรื่องที่เหวินจิ่นซูแท้งบุตร เรื่องนี้จะอธิบายอย่างไร”

“นางเป็นหมอไม่ใช่หรือ ในเมื่อเป็นหมอ คงมองออกได้ไม่มีปัญหา หรือบางทีอาจเป็นเรื่องบังเอิญ” จังหัวแก้ตัว

เหวินฝู่หลินหัวเราะด้วยความโกรธ กล่าวว่า “เจ้ายังจะแก้ตัวอยู่อีกหรือ ได้ เช่นนั้นก็ถือว่านางเป็นหมอ วิชาแพทย์โดดเด่น บังเอิญมองออกเกี่ยวกับปัญหาบนร่างกายของจิ่นซู แล้วแผลของเจ้าล่ะ”

จังหัวตกตะลึง

“นางบอกแล้วว่าหมอทั่วไปรักษาโรคนี้ของเจ้าไม่หาย หากยืดเยื้อต่อไปก็มีแต่จะตาย” เหวินฝู่หลินจ้องมองเขาอย่างเย็นชา “เช่นนี้เจ้าจะยังยืนกรานเชิญแต่หมอมาอยู่หรือไม่”

ดวงตาของจังหัวมีแสงเย็นชาวาบเข้ามาเล็กน้อย

เหวินฝู่หลินมองออกว่าหัวใจของเขาราวกับมีก้อนหินผูกติด ตกลงมาอย่างแรง

เหวินจิ่นซูก็โซเซเล็กน้อย นางไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสามีที่รักของนางซึ่งอยู่กินด้วยกันมาหลายปีจะเคยสังหารคนจริงๆ

นางกัดปลายลิ้นอย่างแรง ความเจ็บปวดทำให้สมองของนางแจ่มชัดขึ้น เอ่ย “ท่านพี่ ท่านเจ้าอาวาสน้อยผู้นั้นบอกแล้วว่าใบหน้าข้างหลังของท่านมีฟันออกมาแล้ว จะกัดกินร่างกายของท่านไม่ช้าก็เร็ว ท่านเอ่ยความจริงออกมาเถิด จะได้แก้ไขโดยเร็ว”

“น้องหญิง ข้าเพียงมีแผลหนอง…โอ๊ย” ก่อนที่เขาจะเอ่ยจบ ทันใดนั้นก็รู้สึกเจ็บปวดที่หลังอย่างรุนแรง ราวกับว่ามีคนหมอบอยู่บนหลังแล้วแทะเนื้อของเขาทั้งเป็น เจ็บปวดอย่างยิ่ง

จังหัวกลิ้งไปมาบนพื้นพลางร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เอื้อมมือไปเกาข้างหลัง อยากจะดึงใบหน้านั้นออกมา

เหวินจิ่นซูกับเหวินฝู่หลินตกใจจนก้าวถอยหลัง ขนลุกชัน

ไม่ใช่เพราะว่าจู่ๆ จังหัวก็คลุ้มคลั่ง แต่เป็นเพราะพวกเขาดูเหมือนจะได้ยินเสียงหัวเราะเยาะดังมาจากแผ่นหลังของเขา

เหวินจิ่นซูสีหน้าซีดขาว ริมฝีปากสั่นระริก หากไม่ใช่เพราะบิดาของนางยังอยู่ คาดว่านางคงจะหนีออกนอกประตูไปแล้ว

“ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้ว ข้าขอโทษ ข้าผิดไปแล้วจริง ข้าไม่ได้ตั้งใจ” แผ่นหลังของจังหัวกลายเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว แผลที่เป็นหนองก็ถูกเขาข่วนจนเลือดซึมออกมา ส่งกลิ่นเหม็น

เหวินจิ่นซูและคนอื่นๆ กลับไม่มีกะจิตกะใจมาสนใจกลิ่นเหม็นนี้ แต่ตกใจกับคำสารภาพของเขา

“น้องหญิง ท่านพ่อ ช่วยข้าด้วย รีบให้คนผู้นั้นมาช่วยข้า ข้าไม่ได้ตั้งใจ” จังหัวคลานอยู่บนพื้นด้วยแขนทั้งสองข้าง เงยหน้าขึ้นแล้วร้องไห้พลางเอ่ย “ข้าไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเขา ตอนที่ทหารของทางการเข้ามา คนร้ายลักพาตัวผู้นั้นโมโหต้องการจะฟันข้าให้ตาย เป็นเขาเข้ามาขวางมีดของคนร้ายลักพาตัวผู้นั้นให้ข้า ทันใดนั้นข้าก็เกิดความคิดขึ้นมา อยากจะให้เขาตาย ข้าก็จะได้เป็นหลานชายเพียงคนเดียวของตระกูลจัง จึงได้ใช้มีดเล่มนั้นแทงเขา เป็นความผิดของข้า เดิมทีเขาไม่ควรตาย เป็นข้าที่หลงผิด ข้าขอโทษ พี่ใหญ่ ข้าผิดไปแล้ว ท่านปล่อยข้าไปเถิด ข้าสำนึกผิดต่อท่าน”

จังหัวคุกเข่าอยู่บนพื้นแล้วร้องไห้อย่างเจ็บปวด

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Status: Ongoing
คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้านางคือปรมาจารย์ปู้ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น!รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นเลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่งฉินหลิวซี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเต๋าเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไปเบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู้ฉิวผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงินปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิดเมื่อโชคชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่านปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมเริ่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัวเฮ้อ แม้ไม่หวังการก้าวหน้าใดๆ แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเชียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้าเขาก็ดั้นด้นเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า!“เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ”“ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ”“ไม่เป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง”“ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า” ฉีเชียนเอ่ย“ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป…”ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ“เดิมทีท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน”“….”

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท