บทที่ 968 เข้าสำเร็จ เส้นทางไม่มีปัญหา!
บทที่ 968 เข้าสำเร็จ เส้นทางไม่มีปัญหา!
ที่แห่งนี้คืออาณาจักรเฉียนฟาน ครั้งหนึ่งเคยเป็นอาณาจักรระดับกลาง ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับอาณาจักรที่หลี่จิ่วเต้าอาศัยอยู่
แน่นอน คำว่าใกล้เคียงนั้นนับเป็นตอนปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้อาณาจักรเฉียนฟานอยู่ห่างไกลจากอาณาจักรที่หลี่จิ่วเต้าอยู่เป็นอย่างยิ่ง และมีอาณาจักรจำนวนมากคั่นกลางจนไม่อาจนับได้ว่าใกล้
ทว่ายามนี้ด้วยการหลั่งไหลของสสารระดับสูง สภาพแวดล้อมฟ้าดินเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อาณาจักรที่หลี่จิ่วเต้าอยู่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผนวกรวมเข้ากับอาณาจักรโดยรอบ ทำให้อาณาจักรเฉียนฟานกลายเป็นอาณาจักรที่อยู่ใกล้เคียงไปโดยปริยาย
หลังจากอยู่ใกล้ชิดแล้ว อาณาจักรเฉียนฟานก็ได้รับประโยชน์มหาศาล สสารที่หลั่งไหลระดับสูงกว่าเดิม เต๋ากับกฎเกณฑ์สวรรค์และโลกยังสมบูรณ์เหนือชั้นขึ้นกว่าเดิม
ตอนนี้เรียกอาณาจักรเฉียนฟานว่าเป็นอาณาจักรขนาดใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด
อาณาจักรทั้งหลาย ทุกจักรวาลโกลาหล หรือกระทั่งเทวโลกที่เคยอยู่เหนือชั้น ยามนี้กลับไม่อาจเทียบได้กระทั่งมุมหนึ่งของอาณาจักรแห่งนี้เสียด้วยซ้ำ
แม้กระทั่งนำไปเปรียบเทียบกับหลังฉากจริง ๆ ก็ต่างกันเพียงไม่เท่าใด
เพราะสสารพิเศษเหนือชั้นเหล่านี้ ดึงดูดให้สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เข้ามายังอาณาจักรแห่งนี้
ไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใดหากจะบอกว่านอกจากอาณาจักรที่หลี่จิ่วเต้าอยู่แล้ว อาณาจักรแห่งนี้มีสิ่งมีชีวิตอยู่มากที่สุด
สถานที่ที่มีสมบัติประหลาดปรากฏตัวออกมาอยู่ในหมู่เทือกเขา
เดิมที่นี่เป็นเพียงเทือกเขาธรรมดา ไม่มีสิ่งใดผิดแปลก สามัญอย่างถึงที่สุด สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ภายในก็ไม่ได้แข็งแกร่งอันใดมากมาย
แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้กลับเกิดเรื่องแปลกประหลาดขึ้น แสงอันเหนือชั้นสว่างออกมาทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างต่อเนื่อง เปี่ยมด้วยจังหวะแห่งเต๋า
สิ่งมีชีวิตด้านในต่างได้รับการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง พลังและขอบเขตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกันสมบัติแปลกประหลาดก็ปรากฏออกมา เผยให้เห็นถึงพลังอันน่าตื่นตะลึง
สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรแห่งนี้ต่างถูกสมบัติแปลกประหลาดดึงดูดในทันที เพียงพริบตาเดียวก็รีบมุ่งตรงไปยังที่แห่งนั้น
ทว่าพวกเขาไม่ได้เข้าไปในทันที
เทือกเขาแห่งนั้นปกคลุมไปด้วยพลังอันไม่ธรรมดา
เมื่อพวกหลี่จิ่วเต้ามาถึง สถานที่แห่งนั้นก็รายล้อมไปด้วยสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนแล้ว กระทั่งสิ่งมีชีวิตทรงพลังจากหลังฉากก็มาปักหลักอยู่ที่นี่ด้วยเพื่อหาหนทางที่จะเข้าไปภายใน
“มีทางเข้าไป ทว่าไม่อาจมั่นใจได้ ข้าแนะนำให้ทดสอบดูก่อน”
ชายชราผมขาวผู้หนึ่งกล่าวออกมา
ร่างของเขางองุ้มเล็กน้อย ดวงตาขุ่นมัวอย่างยิ่ง ไม่ต่างอันใดจากชายชราทั่วไป
แต่ไม่มีสิ่งมีชีวิตจากหลังฉากกล้าดูแคลนชายชราผู้นี้
ชายชราผมขาวน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง มีชื่อเสียงดุร้ายอย่างมากในหลังฉาก ขนานนามตนเองว่าผู้เฒ่าดับสวรรค์ นับเป็นหนึ่งในยอดฝีมือสูงสุดของหลังฉาก
เทือกเขาถูกพลังพิเศษปกคลุมเอาไว้ ยากแก่การเข้าไป ทว่าก็ยังคงมีจุดบกพร่องที่ถูกผู้เฒ่าดับสวรรค์พบเข้า
ทว่าเขาก็ไม่มั่นใจว่าจะเกิดเรื่องขึ้นหรือไม่ จึงได้แนะนำให้ทดลองดูก่อน
“ข้าเองก็พบแล้ว ว่ามีเส้นทางสามารถเข้าไปได้จริง…”
ด้านข้างมีหญิงสาวผู้งดงามเอ่ยด้วยรอยยิ้มบาง ท่าทางอ่อนหวานน่ารัก ดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเหมือนสาวน้อย ทำให้เกิดความรู้สึกอยากเข้าไปชิดใกล้อย่างอดไม่ได้
เห็นได้ชัดว่านางไม่ใช่เผ่ามนุษย์ บนหัวมีหูกระต่ายสองข้างอยู่ ยิ่งทำให้นางดูน่ารักและมีเสน่ห์มากกว่าเดิม
ทว่าแม้กระต่ายสาวจะงดงามน่ารักถึงเพียงนี้ สิ่งมีชีวิตหลังฉากต่างก็ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้นางโดยง่าย
นางคือปีศาจกระต่ายดูดเลือด ชื่อเสียงด้านความโหดร้ายไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้เฒ่าดับสวรรค์ สิ่งมีชีวิตใดก็ตามที่เข้าใกล้ปีศาจกระต่ายดูดเลือดล้วนมีจุดจบน่าสังเวช
“ข้าเองก็เห็นว่าควรลอง ดูว่าเส้นทางนี้สามารถเข้าไปได้หรือไม่”
นางแย้มยิ้มหวาน เผยให้เห็นลักยิ้มและเขี้ยวเล็ก ๆ ที่ยิ่งทำให้นางดูมีเสน่ห์น่ารักยิ่งขึ้น
“เห็นด้วย!”
“ลองดูกันเถอะ”
ที่แห่งนี้ยังมียอดฝีมือสูงสุดจากหลังฉากหลายคนอยู่ที่นี่ ต่างพยักหน้าแสดงความเห็นด้วย
พลังที่ปกคลุมเทือกเขานั้นน่าสะพรึงกลัวเกินไป พวกเขาไม่มีความมั่นใจ จึงไม่กล้าลงมืออย่างหุนหันพลันแล่น ต้องการจะทดสอบดูก่อน
นอกจากนี้ยังมีกองกำลังยอดฝีมือสูงสุดอยู่ที่นี่ ทว่าไม่ได้แสดงความเห็นอันใดออกมา ไม่ได้เอ่ยสนับสนุน แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน นับเป็นการยอมรับไปโดยปริยาย
“ตกลง”
ผู้เฒ่าดับสวรรค์ยิ้มกว้าง เผยให้เห็นฟันเก่า ๆ สีเหลืองเรียงเป็นแถว
เขาตรงไปทางกลุ่มสิ่งมีชีวิตจากหลังฉาก บอกให้สิ่งมีชีวิตกลุ่มนั้นเข้าไปทดสอบ
“ไม่…ไม่ทำได้หรือไม่?!”
สิ่งมีชีวิตตนหนึ่งทำใจกล้าเอ่ยออกมา
กล่าวว่าการทดสอบ ไฉนเลยจะราบรื่น มันจะต้องเต็มไปด้วยอันตราย และมีโอกาสอย่างมากที่จะถึงแก่ชีวิต
“คิดว่าข้ากำลังเจรจากับเจ้าอยู่หรือ?”
ผู้เฒ่าดับสวรรค์เอ่ยอย่างไม่แยแส “ข้าเพียงแค่มาบอกให้พวกเจ้ารู้!”
เหล่าสิ่งมีชีวิตหลังฉากที่ถูกเลือกต่างมีสีหน้าไม่น่าดู หากต้องเข้าไปทดสอบจริง ๆ ก็มีโอกาสอย่างมากที่พวกเขาจะตายกันยกกลุ่ม
ผู้เฒ่าดับสวรรค์อยู่ห่างไกลเกินกว่าที่พวกเขาจะต่อกรได้ ช่องว่างที่มีต่างชั้นเกินไป หากปฏิเสธ เกรงว่าพวกเขาคงตายด้วยน้ำมือของผู้เฒ่าดับสวรรค์ในตอนนี้เลย
ใบหน้าพวกเขาซีดขาว ทำได้เพียงจำยอม ก้าวออกไปทีละก้าว เตรียมตัวทำการทดสอบตามที่ผู้เฒ่าดับสวรรค์เอ่ย
“ให้พวกเราเข้าไปเถิด!”
ตอนนั้นเองเสียงของหลี่จิ่วเต้าพลันดังขึ้นมา ต้องการจะเข้าไปทดสอบแทนเหล่าสิ่งมีชีวิตหลังฉาก
เขารู้ว่าการทดสอบหมายถึงสิ่งใด จึงไม่อาจทนเห็นสิ่งมีชีวิตเบื้องหลังเหล่านี้สิ้นชีพลงได้
ผู้เฒ่าดับสวรรค์หันไปตามเสียงนั้น ก่อนจะเห็นพวกหลี่จิ่วเต้าที่อยู่ด้านหลังของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด
เขาไม่รู้จักพวกหลี่จิ่วเต้า
อันที่จริง ไม่ใช่แค่เขาที่ไม่รู้จักพวกหลี่จิ่วเต้า แต่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างก็ไม่มีใครจดจำพวกหลี่จิ่วเต้าได้
ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะพวกหลี่จิ่วเต้าไม่มีชื่อเสียงภายนอก กลับกันเสียด้วยซ้ำ กระทั่งอาณาจักรอื่น ๆ ชื่อเสียงของหลี่จิ่วเต้าก็ชวนให้คนกริ่งเกรงอย่างถึงที่สุด ไม่มีผู้ใดกล้ายั่วยุเขาโดยง่าย
ชื่อเสียงในยามนี้ของหลี่จิ่วเต้ายิ่งใหญ่เกินไป นอกจากสิ่งมีชีวิตภายนอกส่วนน้อยแล้ว สิ่งมีชีวิตแทบทั้งหมดต่างรู้ว่าหลี่จิ่วเต้านั้นน่าสะพรึงกลัวเพียงใด
เหตุผลที่พวกเขาไม่สามารถจำหลี่จิ่วเต้ากับคนอื่น ๆ ได้ ก็เพราะพวกหลี่จิ่วเต้านั้นแปลงโฉมไม่แสดงรูปลักษณ์ที่แท้จริงออกมา
ก่อนหน้านี้หลี่จิ่วเต้าเคยลงมือต่อหน้าสิ่งมีชีวิตจำนวนมากหลายครั้ง กระตุ้นความโลภของสิ่งมีชีวิตจำนวนไม่น้อย หลังจากนั้นเขาจึงตัดสินใจทำตัวเรียบง่ายไม่โดดเด่นเกินไป
เขาไม่ได้เกรงกลัว ทว่าจุดสำคัญคือมันยุ่งยาก ผลของการมีชื่อเสียงมากเกินไปคือมีผู้คิดวางแผนใส่ และต้องการลงมือกับเขาอยู่เสมอ
ตัวเขาประสบกับการลงมือมาหลายครั้ง
ดังนั้นก่อนออกมาในครั้งนี้ เขาจึงให้ทุกคนแปลงโฉมรูปลักษณ์ของตนเอง
เขาเองก็อาศัยสมบัติจากบรรพจารย์ฝูอย่างศิลาลวงสวรรค์มาปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตนเอง วางตัวให้ต่ำเข้าไว้
“ตกลง”
ผู้เฒ่าดับสวรรค์ไม่ได้ใส่ใจมากนัก
ผู้ใดทดสอบก็ไม่สำคัญ จุดหลักคือผลลัพธ์
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดเปิดทางออก พวกหลี่จิ่วเต้าจึงมาถึงตัวผู้เฒ่าดับสวรรค์ได้อย่างราบรื่น
กลุ่มสิ่งมีชีวิตหลังฉากที่ถูกเลือกก่อนหน้านี้มองดูพวกหลี่จิ่วเต้าด้วยความซาบซึ้ง พวกเขาตระหนักได้ว่าพวกหลี่จิ่วเต้าต้องการจะช่วยเหลือตน
“พวกเจ้าไปเสีย เดินไปตามเส้นทางที่ข้าชี้ให้พวกเจ้าดู”
ผู้เฒ่าดับสวรรค์เอ่ยกับพวกหลี่จิ่วเต้า “จำเอาไว้ อย่าได้ออกไปทางอื่น ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะต้องตายโดยไม่มีแม้แต่ที่ฝังศพ!”
หลังจากนั้นเขาก็แสดงเส้นทางให้พวกหลี่จิ่วเต้าได้รับรู้
นี่คือเส้นทางที่เขาพยากรณ์ออกมาแล้วว่าเป็นเส้นทางที่ดีที่สุด มีพลังอ่อนแอที่สุดและมีความหวังที่จะเข้าไปได้สำเร็จ
“ตกลง”
หลี่จิ่วเต้ากล่าวด้วยรอยยิ้ม ไม่ได้กังวลใจแต่อย่างใด
บนร่างของเขามีสมบัติจากบรรพจารย์ฝูอยู่ อีกทั้งเขาได้พิสูจน์เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าสมบัติเหล่านั้นไร้เทียมทานสะท้านฟ้าเพียงใด ย่อมไม่มีทางเกิดเรื่องขึ้นกับเขา
ไม่เช่นนั้นเขาเองก็คงไม่เข้ามาแทนที่กลุ่มสิ่งมีชีวิตหลังฉาก เสนอตัวเข้าไปทดสอบเอง
จากนั้นพวกเขาก็เริ่มเคลื่อนไหว เดินตามเส้นทางที่ผู้เฒ่าดับสวรรค์ได้บอกเอาไว้
หลี่จิ่วเต้าลอบเตรียมตัว หากเกิดเรื่องนอกเหนือความคาดหมายอันใด เขาจะใช้สมบัติปกป้องตนเองทันที
“ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือไม่…”
ดวงตากลมโตของปีศาจกระต่ายดูดเลือดมองไปทางพวกหลี่จิ่วเต้าแล้วเอ่ยออกมาด้วยเสียงเบา
“ไม่เป็นอันใด หากครั้งนี้ไม่ได้ผลก็ยังมีครั้งหน้า”
ผู้เฒ่าดับสวรรค์เอ่ยอย่างไม่แยแส “พวกเราสามารถทดลองได้อีกหลายครั้งจนกว่าจะหาเส้นทางเข้าไปได้”
เขาไม่สนใจความเป็นตายของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ หลังจากทดสอบหลายครั้งจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน
“ไม่ผิด”
“พวกเราไม่ขาดแคลนสิ่งมีชีวิตไว้ทดสอบ”
เหล่ายอดฝีมือสูงสุดหลังฉากตอบ พวกเขาเองก็ไม่สนใจความเป็นตายของสิ่งมีชีวิตอื่นเช่นเดียวกัน
สำหรับพวกเขา สิ่งมีชีวิตอื่นเป็นเพียงมดแมลง ไม่จำเป็นต้องใส่ใจอันใด
พวกเขามุ่งความสนใจไปทางพวกหลี่จิ่วเต้า เฝ้าสังเกตอย่างระมัดระวัง
‘ก็แค่นั้นแหละ…’
ต้นหลิวคิดขึ้นมาในใจ
พลังที่ห่อหุ้มเทือกเขา สำหรับมันแล้วไม่อาจนับได้ว่าเป็นสิ่งใด อย่าว่าแต่คุณชายเลย ต่อให้เป็นมันก็ผ่านไปได้ราวกับเดินอยู่บนพื้นราบ
‘เป็นสมบัติล้ำค่าที่ผู้เบิกทางคนนั้นทิ้งเอาไว้หรือ?’
มันมองสมบัติชิ้นนั้น รู้สึกได้ถึงจังหวะเต๋าที่ไหลเวียนอยู่ด้านบน
จังหวะเต๋านี้คล้ายกับจังหวะเต๋าที่ไหลเวียนในเก้าสมบัติที่อยู่กับนักพรตอู๋เหลียง นี่ก็ควรจะเป็นสมบัติที่ผู้เบิกทางทิ้งเอาไว้
แต่เมื่อเทียบกับเก้าสมบัติแล้ว จังหวะเต๋าบนสมบัติชิ้นนี้แข็งแกร่งและเหนือชั้นกว่า เห็นได้ชัดว่ามีความแข็งแกร่งมากกว่าเก้าสมบัติ
‘ดูเหมือนว่าผู้เบิกทางคนนั้นจะไม่ได้เตรียมการเอาไว้เพียงสำหรับผู้ถูกกำหนดเท่านั้น ทว่ายังทิ้งสิ่งอื่นไว้ภายนอกด้วย ตอนนี้ก็ถึงเวลาค่อย ๆ ปรากฏออกมา’
มันคิดในใจอีกครั้ง
จากการคาดเดาของมัน นอกจากสมบัติที่ผู้ถูกกำหนดได้รับแล้ว ผู้เบิกทางยังน่าจะเตรียมสิ่งอื่นเอาไว้ด้วย ยามนี้การเตรียมการเหล่านั้นก็ค่อย ๆ ปรากฏออกมาสู่สายตาผู้คน
พวกหลี่จิ่วเต้าเข้าไปในเทือกเขา
เส้นทางมีปัญหาจริง ๆ ไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง เพียงแค่พวกเขาเข้าไป พลังก็เริ่มเคลื่อนไหวพุ่งโจมตีเข้าใส่
‘เอาความหาญกล้ามาจากที่ใดกัน!’
ต้นหลิวตวาดขึ้นในใจ จะปล่อยให้พลังเหล่านี้กำแหงต่อหน้าคุณชายได้อย่างไร
มันก้าวออกไปเบื้องหน้า พลังที่มองไม่เห็นระเบิดออกมา สยบทุกสรรพสิ่ง
ด้วยวิธีนี้พวกเขาจึงสามารถเข้าไปในเทือกเขาได้อย่างปลอดภัย
“ไม่มีปัญหาแล้ว!”
ต้นหลิวหันกลับมา เน้นไปทางผู้เฒ่าดับสวรรค์และคนอื่น ๆ บอกว่าเส้นทางนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด สามารถผ่านไปได้อย่างปลอดภัย
แน่นอน ทั้งหมดล้วนเป็นคำโกหก
มันเก็บพลังที่ใช้สยบทุกสิ่งกลับไป รอจนพวกผู้เฒ่าดับสวรรค์ก้าวเข้ามาในเส้นทาง พวกเขาจะต้องถูกจู่โจมอย่างแน่นอน
ผู้เฒ่าดับสวรรค์และยอดฝีมือคนอื่น ๆ ไม่เห็นชีวิตของผู้อื่นอยู่ในสายตา พฤติกรรมเช่นนี้เลวร้ายเกินไป จำเป็นต้องรับการสั่งสอนบทเรียน
“ยังเป็นข้าที่ทรงพลังยิ่ง สามารถพยากรณ์เส้นทางได้ถูกต้องในครั้งเดียว!”
ดวงตาของผู้เฒ่าดับสวรรค์เปล่งประกาย ไม่ต้องกล่าวเลยว่าเขาตื่นเต้นเพียงใด ไม่ได้คาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก!
“ไป!”
เขาตรงเข้าไปเป็นคนแรก
ยอดฝีมือคนอื่น ๆ ต่างเคลื่อนไหว ติดตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว กลัวว่าตนจะช้าเกินไป
“พวกเราไปกันเถิด”
หลี่จิ่วเต้านำทุกคนเดินต่อมุ่งไปยังสมบัติ
สำหรับสมบัติชิ้นนี้ เขาต้องการมัน และคิดจะคว้าเอาสมบัติขึ้นนี้ไปก่อนพวกผู้เฒ่าดับสวรรค์
พวกเขาหายไปจากสายตาของทุกคนอย่างรวดเร็ว
“สมบัติต้องเป็นของข้า!”
ดวงตาของผู้เฒ่าดับสวรรค์เปล่งประกายวาววับ เขาเป็นผู้แรกที่ตรงเข้าไปด้านในเทือกเขาด้วยความเร็วอย่างถึงขีดสุด
เหล่ายอดฝีมือหลังฉากคนอื่น ๆ เองก็ต่างพากันตรงเข้าไปในเทือกเขาเช่นกัน