สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1477 ต่อต้านศัตรู

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1477 ต่อต้านศัตรู

เมื่อแม่ทัพกงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านบนสุดได้ยินคำกล่าวนี้ อีกทั้งเห็นสีหน้าของเฉินชิ่งเซิงจึงเดาได้ทันทีว่าไข่มุกราตรีถูกขโมยไป เมื่อคิดได้ว่าชุยเฟิ่งเหนียนอุตส่าห์ให้เฉินชิ่งเซิงนำตำราเพลงพิณโบราณมาให้ตนแม่ทัพกงจึงลุกขึ้นยืนพลางสั่งเสียงดัง “ทหารล้อมที่นี่ไว้ทั้งหมด ห้ามให้ผู้ใดออกไปได้แม้แต่คนเดียว!”

“ขอบพระคุณท่านแม่ทัพมากขอรับ!” เฉินชิ่งเซิงรีบโค้งกายคำนับแม่ทัพกง จากนั้นหันไปถามกวนจิ่วด้วยความร้อนใจ “นอกจากเจ้าแล้วมีผู้ใดแตะต้องไข่มุกราตรีอีกหรือไม่!”

“รายงาน…” ทหารส่งสารคนหนึ่งบุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงตรงหน้าแม่ทัพกวนอย่างเหนื่อยหอบ จากนั้นรายงานเสียงดังลั่น “ท่านแม่ทัพกง ต้าโจวบุกโจมตีเมืองแล้วขอรับ!”

“ว่าอย่างไรนะ!” แม่ทัพกงที่เริ่มมึนเมาได้สติขึ้นมาทันที ต้าโจวกำลังเดิมพันแคว้นกับต้าเยี่ยนอยู่ไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงกล้าทำสงครามกับตงอี๋ขึ้นมาจริงๆ เช่นนี้กัน!

ไม่เพียงแค่แม่ทัพกงเท่านั้น ขุนนางตระกูลสูงศักดิ์ที่นั่งถัดจากแม่ทัพกงต่างลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าหวาดหวั่นทันทีที่ได้ยินเสียงรายงานดังลั่นของทหารส่งสารเช่นเดียวกัน

“กำลังโจมตีกำแพงเมืองขอรับ นั่นคือธงเฮยฟานไป๋หมั่งประจำของกองทัพไป๋ของต้าโจวขอรับ!” เมื่อทหารส่งสารเอ่ยถึงกองทัพไป๋ใจของเขาสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว “กองทัพไป๋บุกมาด้วยความดุดัน ท่านแม่ทัพควรขอความช่วยเหลือจากเมืองอื่นโดยเร็วที่สุดขอรับ!”

แม้แต่แม่ทัพของต้าเหลียงยังหวาดกลัวชื่อเสียงของกองทัพไป๋ นับประสาอันใดกับแม่ทัพของตงอี๋ซึ่งเคยเป็นแคว้นบรรณาการของต้าเหลียงกัน

แม่ทัพกงได้ยินจึงหันไปทางแม่ทัพคนอื่นๆ ในงานพลางตะโกนเสียงดัง “ต้าโจวบุกโจมตีเมืองแล้ว แม่ทัพทุกคนรีบไปต้านทานศัตรูเดี๋ยวนี้!”

แม้แม่ทัพที่อยู่ในงานจะเริ่มดื่มจนเมาแล้ว บางคนถึงขนาดยืนทรงตัวตรงไม่อยู่ ทว่า เมื่อได้รับคำสั่งทางทหารทุกคนจึงรีบวิ่งตามหลังแม่ทัพกงไปทันที

“ท่านแม่ทัพกง! ท่านแม่ทัพกง!” เฉินชิ่งเซิงรีบวิ่งตามแม่ทัพกงไป “ข้ายังหาไข่มุกราตรีไม่พบ คนที่เหลือ…โอ้ยๆ”

เฉินชิ่งเซิงยังกล่าวไม่จบประโยคก็ถูกแม่ทัพข้างกายแม่ทัพกงผลักออกห่างจนล้มลงบนพื้นหญ้ากลางสวน หากบ่าวรับใช้ของเฉินชิ่งเซิงคว้าตัวเขาไว้ไม่ทันเขาคงตกลงไปในบ่อน้ำแล้ว

“จะทำเช่นไรดี! ไข่มุกราตรีหายไปแล้ว! ข้าจะรายงานเถ้าแก่ของข้าเช่นไร ชีวิตของคนตระกูลข้าทั้งตระกูลยังไม่มีปัญญาชดใช้ไข่มุกราตรีเม็ดนั้นเลย!” เฉินชิ่งเซิงทรุดกายลงนั่งบนพื้นอย่างอ่อนแรงพลางตะโกนร้องไห้ออกมาเสียงดังลั่น “สวรรค์ ผู้ใดขโมยไข่มุกราตรีของข้าไปกันแน่!”

“ผู้ดูแล ท่านอย่าเพิ่งเสียใจไปขอรับ ตอนนี้ท้องฟ้ายังมืดอยู่พวกเราสามารถส่งคนพวกเราไปสืบหาได้ขอรับ ไข่มุกราตรีเม็ดใหญ่เพียงนั้น คนที่ขโมยไปไม่มีทางซ่อนไว้ได้แน่ขอรับ” บ่าวรับใช้ที่ช่วยพยุงร่างของเฉินชิ่งเซิงอยู่รีบกล่าวเตือนสติเสียงดัง “ท่านต้องตั้งสตินะขอรับ มิเช่นนั้นพวกเราคงตอบคำถามเถ้าแก่ไม่ได้แน่ขอรับ!”

“จริงด้วย!” เฉินชิ่งเซิงสั่งให้องครักษ์ที่พามายังแคว้นตงอี๋ในครั้งนี้ออกไปค้นหาไข่มุกราตรีให้ทั่วทั้งเมืองกวาตู้ท่ามกลางสายตาของตระกูลสูงศักดิ์ของตงอี๋ที่ยังอยู่ในงาน เมื่อบ่าวรับใช้ในจวนส่งแขกทุกคนกลับไปหมดเขาจึงปิดจวนค้นหาไข่มุกราตรีให้ทั่วอีกรอบ

เกิดสงครามขึ้นแล้วคนตระกูลสูงศักดิ์ของเมืองกวาตู้จึงไม่มีอารมณ์อยู่ดูเรื่องสนุกต่อ พวกเขาต้องรีบกลับไปวางแผนว่าจะหาที่หลบซ่อนตัวในเมืองหรืออพยพหนีออกจากเมืองดี

เฉินชิ่งเซิงและคนของเขาล้วนกล่าวด้วยภาษาต้าโจวด้วยความรวดเร็ว แม้คนตระกูลสูงศักดิ์จะพอรู้ภาษาต้าโจวอยู่บ้าง ทว่า พวกเขาฟังออกเพียงคร่าวๆ เท่านั้น

เมื่อเฉินชิ่งเซิงได้สติจึงรีบวิ่งตามคนสูงศักดิ์ของตงอี๋ออกไปด้านนอก จากนั้นบอกกับพวกเขาว่าจะไปขอขมาที่จวนด้วยตัวเองในวันหลังด้วยภาษาตงอี๋ที่ไม่ค่อยคล่องแคล่วนัก

แขกจากไปอย่างรวดเร็ว ประตูใหญ่ของจวนถูกปิดลง เฉินชิ่งเซิงแสร้งตะโกนให้บ่าวรับใช้ทุกคนมารวมตัวกันที่สนามหญ้าเพื่อตามหาไข่มุกราตรีให้พบ

ทว่า ผู้ที่มารวมตัวกันที่สนามหญ้าล้วนเป็นองครักษ์ไป๋ที่แต่งกายในชุดนอกเครื่องแบบ องครักษ์ไป๋เหล่านี้ล้วนถอนตัวออกมาจากกองทัพไป พวกเขารู้ดีว่าพวกเขามีส่วนสำคัญในการร่วมมือกับกองทัพไป๋ที่กำลังโจมตีเมืองอยู่ด้านนอกเพียงใด

เฉินชิ่งเซิงยืนถือจอกสุราอยู่ในมือกลางลานหญ้า จากนั้นตะโกนเสียงดังลั่น “ทุกคนล้วนคือคนของตระกูลไป๋ ตอนนี้คุณชายเจ็ดและคุณหนูสี่กำลังโจมตีเมือง สิ่งที่พวกเราต้องทำคือการช่วยพวกเขาเปิดประตูเมือง ทำให้กองทัพไป๋บาดเจ็บและล้มตายน้อยที่สุด ทุกท่านล้วนเป็นวีรบุรุษที่ข้าเฉินชิ่งเซิงนับถือยิ่งนัก! แม้ครั้งนี้จะเสี่ยงอันตราย ทว่า เฉินชิ่งเซิงหวังว่าทุกท่านจะรอดกลับมาอย่างปลอดภัย พวกเราจะกลับบ้านด้วยกัน!”

เฉินชิ่งเซิงกล่าวจบจึงยกเหล้าในมือดื่มจนหมดจอก

องครักษ์ไป๋ที่ยืนอยู่กลางลานหญ้าเงยหน้าดื่มเหล้าจนหมดเช่นเดียวกัน จากนั้นพวกเขาออกเดินทางภายใต้การนำของหัวหน้าองครักษ์ไป๋ทันที

เฉินชิ่งเซิงขบกรามแน่น หากเขามีวรยุทธ์ หากเขาไม่ได้เป็นตัวแทนของ “ชุยเฟิ่งเหนียน” ที่เมื่อเขาไปปรากฏตัวที่สนามรบอาจทำให้คุณหนูสามซึ่งอยู่ที่ต้าเยี่ยนเดือดร้อน เขาก็อยากออกเดินทางไปรบร่วมกับองครักษ์ไป๋ทุกคนเช่นเดียวกัน

เมื่อองครักษ์ไป๋จากไปเฉินชิ่งเซิงจึงรีบสั่งให้คนซึ่งปลอมตัวเป็นบ่าวรับใช้นำบ่าวรับใช้ทั้งหมดแสร้งทำเป็นออกไปตามหาไข่มุกราตรีทั่วเมือง ทว่า แท้จริงแล้วคนพวกนั้นหาทางออกไปช่วยองครักษ์ไป๋ที่ยอมพลีชีพเหล่านั้นเปิดประตูเมืองให้กองทัพไป๋บุกเข้ามาได้อย่างราบรื่น

เฉินชิ่งเซิงรู้ดีว่าสงครามต้องมีการเสียสละ ทว่า หากพวกเขาร่วมแรงกันอาจช่วยชีวิตสหายในกองทัพไป๋ได้มากเท่าที่จะทำได้ พวกเขายินดีออกแรงช่วยเหลืออย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน

ตอนที่แม่ทัพกงเดินทางไปถึงกำแพงเมือง กองทัพไป๋ปีนขึ้นไปบนกำแพงเมืองได้สำเร็จแล้ว แม่ทัพกงตกตะลึง เขารีบสั่งให้ทหารป้องกันไม่ให้กองทัพไป๋บุกขึ้นมาบนกำแพงเมืองได้อีกอย่างสุดกำลัง…

เมื่อก่อนแม่ทัพกงเคยได้ยินแต่ผลงานของกองทัพไป๋จากปากของผู้อื่น เขารู้ว่ากองทัพไป๋ไม่เคยพ่ายแพ้ ทว่า เมื่อถึงคราวต้องเผชิญหน้ากันจริงๆ แม่ทัพกงจึงรับรู้ถึงความเก่งกาจของกองทัพไป๋อย่างแท้จริง

เดิมทีแคว้นตงอี๋คือแคว้นบรรณาการของต้าเหลียง กำแพงและการป้องกันเมืองของพวกเขาสู้ต้าเหลียงไม่ได้แม้แต่น้อย ขนาดกำแพงเมืองยังต่ำกว่าของต้าเหลียงเกือบครึ่ง สำหรับกองทัพไป๋ที่เคยโจมตีแคว้นต้าเหลียงมาก่อนการโจมตีแคว้นตงอี๋จึงถือเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว

ทหารที่ได้รับคำสั่งให้ไปขอความช่วยเหลือจากเมืองหลิ่วกวนขี่ม้าเร็วออกเดินทางไปยังเมืองหลิ่วกวนแล้ว…

แคว้นตงอี๋ถูกจัดเป็นแคว้นเล็กเพราะพวกเขามีพื้นที่ไม่มาก ระยะห่างระหว่างสองเมืองไม่ได้ไกลกันเหมือนต้าเหลียงกับต้าโจวเมื่อเฉิงหย่วนจื้อที่ดักซุ่มโจมตีอยู่ระหว่างทางนานแล้วเห็นม้าเร็วขี่ตรงไปยังเมืองหลิ่วกวนจึงขยับเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียน “เสี่ยวไป๋ไซว่ มีคนขี่ม้าเร็วไปขอความช่วยเหลือแล้วขอรับ ที่นี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเถิดขอรับ ข้ารับประกันว่าไม่มีทางผิดพลาดแน่ ให้แม่ทัพเสิ่นเหลียงอวี้และทหารของค่ายหู่อิงพาเสี่ยวไป๋ไซว่ไปพักผ่อนบนเรือก่อนเถิดขอรับ เมื่อเริ่มสู้กันข้าจะให้คนไปรายงานเสี่ยวไป๋ไซว่ พวกเราไม่จำเป็นต้องใช้มีดฆ่าสัตว์สังหารไก่หรอกขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ฝากเจ้าด้วย ห้ามปล่อยพวกเขาหลุดไปยังเมืองกวาตู้ได้เด็ดขาด!”

“เสี่ยวไป๋ไซว่ไม่ต้องเป็นห่วงขอรับ!” เฉิงหย่วนจื้อรับคำ “เหล่าเฉิงจะไม่ปล่อยให้พวกนั้นรอดไปได้แม้แต่คนเดียวขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนพาเสิ่นเหลียงอวี้และทหารอีกสองร้อยนายจากไป เฉิงหย่วนจื้อจึงวางใจลง ทว่า เขาคิดไม่ถึงเลยว่าไป๋ชิงเหยียนจะไม่ได้พาเสิ่นเหลียงอวี้และทหารสองร้อยนายกลับไปพักผ่อนบนเรือ ทว่า มุ่งหน้าไปยังเมืองหลิ่วกวนแทน หญิงสาวให้คนจับตาดูทางฝั่งของเฉิงหย่วนจื้อเอาไว้ จากนั้นให้มารายงานสถานการณ์กับนางเมื่อตงอี๋กับกองทัพไป๋เริ่มเปิดศึกกัน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท