บทที่ 757 ม่านมืด (1)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ด้านนอก​คฤหาสน์​รกร้าง​

จิ้งจอก​ขาว​กระโดด​ขึ้นไป​บน​คา​คบไม้​ขนาดใหญ่​อย่าง​แผ่วเบา​

“ใช้พลัง​ร่าง​แยก​ของ​เจ้านั่น​ไป​ครั้งหนึ่ง​ น่าจะ​จัดการ​มัน​ได้​ เพียงแต่​หลังจาก​จัดการ​ทูตทิ้ง​ พวกเรา​ต้อง​พิจารณา​ถึงความยุ่งยาก​ที่จะ​ตามมา​ สำนัก​หลัก​ไม่มีทาง​เลิกรา​แน่​”

“แน่นอน​ เพียงแต่​ขอ​แค่​มารดา​แห่ง​ความเจ็บปวด​สนับสนุน​ พวกเรา​ก็​จะปลอดภัย​ไร้​เรื่องราว​” งูหลาม​สีดำ​ที่​มีขนาด​เท่า​อ่าง​น้ำ​ตัว​หนึ่ง​เลื้อย​ออก​มาจาก​พุ่มไม้​ที่อยู่​ไม่ไกล​อย่าง​ช้าๆ ดวงตา​สอง​ข้าง​ของ​มัน​เป็น​สีดำ​สนิท​ดุจ​น้ำหมึก​สอง​จุด​

“เพียงแต่​…ทูต​ผู้​นั้น​ ข้า​รู้สึก​ว่า​เคย​เจอกัน​ที่ไหน​สัก​แห่ง​…คุ้นตา​จริงๆ​…” จิ้งจอก​ขาว​ไม่รู้​ว่า​เหตุใด​จึงเกิด​ความ​กระสับกระส่าย​

“บางที​พวกเรา​อาจจะ​เจอ​ตอนที่​ใช้ร่าง​ลูก​รวบรวม​วิญญาณ​ก็ได้​” งูหลาม​เอ่ย​เสียงทุ้ม​

จิ้งจอก​ขาว​ใคร่ครวญ​อยู่​ชั่วครู่​ ขณะ​กำลังจะ​ตอบ​นั่นเอง​

ตูม​!

เกิด​เสียงดัง​กึกก้อง​ พื้น​สั่นสะเทือน​อย่าง​รุนแรง​

“เกิด​อะไร​ขึ้น​!?” พวก​จิ้งจอก​ขาว​รีบ​ตั้งหลัก​

“แย่​แล้ว​! ร่าง​ลูก​แหลก​สลาย​! รีบ​หนี​เร็ว​!” สายตา​ของ​งูหลาม​พลัน​ฉายแวว​ตื่นตระหนก​ มัน​กลายเป็น​สายฟ้า​สีดำ​และ​พุ่ง​ไป​ยัง​ที่​ไกล​ใน​พริบตา​

จิ้งจอก​ขาว​กับ​ไก่​ดำ​ก็​ไม่ชักช้า​ ตัว​หนึ่ง​กระโดด​ขึ้น​ต้นไม้​ อีก​ตัว​มุด​ลง​ดิน​

แต่​ทุกอย่าง​ก็​สาย​ไป​แล้ว​

ฟ้าวๆๆๆ!​

สายฟ้า​สีดำ​มากมาย​พุ่ง​ออก​มาจาก​กลาง​คฤหาสน์​ แผ่​กระจาย​ไป​ปกคลุม​อาณาเขต​หลาย​ร้อย​หมี่​รอบ​ๆ เหมือนกับ​รอยแตก​สีดำ​สนิท​

ไก่​ดำ​ จิ้งจอก​ขาว​ และ​งูหลาม​หนี​ห่าง​ออกมา​ได้​แค่​สิบ​กว่า​หมี่​ ก็​ถูก​แสงสายฟ้า​สีดำ​พุ่ง​เข้าใส่​แล้ว​กลายเป็น​ ตอ​ตะโก​ใน​พริบตาเดียว​ ระเบิด​แหลกลาญ​เป็นผง​สีดำ​นับไม่ถ้วน​

ก้อน​แสงสีดำ​ก้อน​หนึ่ง​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​เหนือ​คฤหาสน์​

ฟู่!

อยู่​ๆ ก็​มีแขน​ข้าง​หนึ่ง​ยื่น​ออก​มาจาก​ก้อน​กลม​ ตาม​ด้วย​ข้าง​ที่สอง​ ข้าง​ที่​สาม…

แขน​ที่​ยื่น​ออก​มาจาก​ก้อน​สีดำ​จับ​ขอบ​ของ​ก้อน​กลม​ไว้​แล้ว​ออกแรง​บิด​

เกิด​เสียงดัง​แค​ว่ก​ ก้อน​กลม​พลัน​ถูก​ฉีก​ออก​เป็น​ช่อง​แยก​ขนาดใหญ่​กว้าง​หลาย​หมี่​

ลู่​เซิ่งคลาน​ออก​มาจาก​ใน​ช่อง​แยก​ แขน​สิบ​กว่า​คู่​บน​ร่าง​จับ​กรอบ​ของ​ก้อน​สีดำ​รอบ​ๆ ตัว​ไว้​อย่าง​แน่ว​หนา​เหมือนกับ​ตะขาบ​ ดวงตา​หก​ข้างบน​ใบหน้า​สามด้าน​ลุกไหม้​ด้วย​เพลิง​สีทอง​หก​กลุ่ม​

สามารถ​เห็น​ซากศพ​ของ​วิญญาณ​ร้าย​สีขาว​ซึ่งกระจาย​อยู่​ทั่ว​หุบเขา​ทั้ง​ลูก​เหมือนกับ​เกล็ด​หิมะ​ได้​จาก​ใน​ช่อง​แยก​ด้าน​หลังเขา​

แมลง​ยักษ์​ร่าง​ซูบผอม​ที่​มีศีรษะ​เป็น​หญิง​แก่ตัว​หนึ่ง​ถูก​ฉีก​ออก​เป็น​ชิ้นๆ​ ทั้งเป็น​ ร่าง​ที่​เหลืออยู่​ดิ้น​พล่าน​อยู่​บน​พื้น​

“บังอาจ​ใช้ของ​สิ่งนั้น​กับ​ข้า​ พวก​เจ้า…เยี่ยมยอด​นัก​!” ร่าง​ยักษ์​ของ​ลู่​เซิ่งค่อยๆ​ คลาน​ออกจาก​ก้อน​สีดำ​แล้ว​ลุกขึ้น​ยืน​อยู่​บน​พื้นดิน​

เขา​กวาดตา​มอง​รอบ​ๆ กลับ​ไม่พบ​เงาร่าง​ของ​เจ้าสามตัว​เมื่อ​ครู่​แม้แต่น้อย​

“หือ​?”

เมื่อ​ครู่​เขา​ใช้แรง​ไป​แค่​นิดเดียว​เพื่อ​ทะลวง​มิติ​พิศวง​นั้น​ จึงเผย​พลัง​ออก​ไป​นิดหน่อย​

ตอนนี้​พอ​ออกมา​ ถึงกับ​ไม่พบ​เจ้าสามตัว​เมื่อ​ครู่​แล้ว​

ลู่​เซิ่งขยาย​พลังจิต​อย่าง​รวดเร็ว​ พริบตาเดียว​ก็​ปกคลุม​อาณาเขต​หลาย​กง​ห​ลี่​รอบ​ๆ ระยะห่าง​เพียง​พอแล้ว​ หาก​ใหญ่​กว่า​นี้​เกรง​ว่า​จะกระตุ้น​การโต้ตอบ​อัตโนมัติ​จาก​ตาข่าย​ดำ​กฎเกณฑ์​เข้า​ อาจ​ถูก​พบ​ร่องรอย​เอา​ได้​

ทว่า​อาณาเขต​ใหญ่​ขนาด​นี้​ยังคง​ไม่พบ​ร่องรอย​ของ​เจ้าสามตัว​จาก​สำนัก​ไตร​อริยะ​

“หนี​ไว​จริง​เชียว​” ลู่​เซิ่งคืน​ร่าง​เดิม​อย่าง​ไม่พอใจ​เล็กน้อย​ กลับเป็น​ร่าง​คนธรรมดา​อีกครั้ง​

เดิน​ออก​มาจาก​คฤหาสน์​ รอบ​ๆ เละเทะ​ เต็มไปด้วย​ผง​สีดำ​กับ​ถ่าน​ดำ​เกรียม​ซึ่งถูก​สายฟ้า​สีดำ​เผาไหม้​ ยังมี​หลุม​ดิน​มากมาย​ที่​ถูก​อานุภาพ​ยิ่งใหญ่​ระเบิด​ขึ้น​

ผู้​ถูก​ดัดแปลง​หลาย​คน​ค่อยๆ​ ปรากฏตัว​ขึ้น​จาก​มุมหนึ่ง​แล้ว​มารวมตัว​ทาง​เขา​

“ท่าน​หัวหน้า​สมาคม​!” แขน​ของ​ผู้​ถูก​ดัดแปลง​ที่​เป็น​ผู้นำ​ถูก​เผา​จน​เกรียม​เช่นกัน​ แต่​เหมือน​จะเป็น​เพราะว่า​พลัง​มาจาก​แหล่ง​เดียว​กับ​ลู่​เซิ่ง แขน​ของ​เขา​เลย​กำลัง​ฟื้นฟู​อย่าง​รวดเร็ว​

“ที่นี่​อยู่​นาน​ไม่ได้​ ถอนกำลัง​เถอะ​” ลู่​เซิ่งกวาดตา​มอง​รอบ​ๆ แต่​สัมผัส​ไม่พบ​กลิ่นอาย​ของ​สำนัก​ไตร​อริยะ​อีกแล้ว​

“ขอรับ​!”

ครั้น​เหล่า​ผู้​ถูก​ดัดแปลง​นึกถึง​สายฟ้า​สีดำ​เมื่อ​ครู่​ก็​พา​กัน​หวาดผวา​ ตอนนี้​ได้ยิน​คำสั่ง​ พวกเขา​ก็​ห้อมล้อม​ลู่​เซิ่งถอย​ไป​ยัง​ที่​ไกล​อย่าง​รวดเร็ว​

หลังจาก​กลับ​ไป​ถึงศูนย์​ใหญ่​ของ​สมาคม​วิจัย​ใน​เมือง​ ลู่​เซิ่งก็​เริ่ม​รับสมัคร​เหล่า​ผู้​น่าสงสาร​ที่​มีความเคียดแค้น​เต็มอก​เพราะ​พบ​เจอ​เรื่อง​เลวร้าย​อย่าง​เป็นการ​ลับ​ทันที​

บ้าง​ก็​เป็น​เพราะ​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​ บ้าง​ก็​เป็น​เพราะ​แนว​คิดในใจ​ บ้าง​ก็​เป็น​เพราะ​ถูก​ทำร้าย​ คน​ประเภท​นี้​จะมีความเคียดแค้น​ชิงชัง ทำให้​มีพลัง​ใจแน่วแน่​กว่า​คน​ทั่วไป​

พอดี​กับ​ลู่​เซิ่งได้รับ​การ​ส่งสัญญาณลับ​จาก​สำนัก​นที​คราม​ว่า​ทางโลก​ด้านนอก​เตรียมการ​เรียบร้อย​แล้ว​ จึงเป็นเวลา​ที่จะ​เตรียม​ตัวอย่าง​แท้จริง​สักที​

หลังจาก​ได้รับ​ข่าว​ ลู่​เซิ่งก็​สร้าง​ร่าง​ฝังตัว​ที่​ผสาน​เซลล์​ของ​ตัวเอง​กับ​เงิน​จันทรา​ไว้​ด้วยกัน​ขึ้น​เป็น​จำนวนมาก​ ขอ​แค่​ฝังตัว​พวก​นี้​ด้วย​การ​ผ่าตัด​ที่​เรียบง่าย​ ก็​จะดัดแปลง​สำเร็จ​ ทักษะ​นี้​ได้​สุกงอม​ถึงขีดสุด​แล้ว​

ต่อมา​ เขา​เตรียม​จะแอบ​กลับ​ต้า​อิน​ ไม่ใช่เพราะเหตุใด​อื่น​ หาก​เพราะ​จะเตรียม​ไป​พบ​กับ​สหาย​ใน​อดีต​ หรือ​ห​ลี่​ซุ่น​ซีใน​ตอนนี้​

หาก​อาศัย​พลัง​ของ​ห​ลี่​ซุ่น​ซีทาง​ต้า​อิน​ พัฒนาการ​อาจจะ​ไว​กว่า​ทาง​ต้า​ซ่ง

แต่​ในเวลานี้​เอง​ แขก​ที่​ทำให้​เขา​นึกไม่ถึง​ก็​มาหา​และ​ปั่นป่วน​แผนการ​ของ​เขา​

ชั้น​บนสุด​ของ​หอ​เรื่อง​พิสดาร​

ลู่​เซิ่งนั่งไขว่ห้าง​อยู่​บน​เก้าอี้​หนัง​ หันไป​มองดู​สายฝน​และ​เมฆดำ​ที่​ขมุกขมัว​อยู่​ด้านนอก​หน้าต่าง​

“ดูเหมือน​เจ้าจะมีชีวิต​ไม่เลว​ทีเดียว​” ผู้​มานั่ง​บน​ที่นั่ง​และ​มอง​ลู่​เซิ่งด้วย​สีหน้า​ซับซ้อน​

คน​ผู้​นี้​มีผม​ยา​วสี​ขาว​ราว​หิมะ​ แม้แต่​ขนคิ้ว​ก็​เป็น​สีขาว​ สวม​ชุด​คลุม​แพร​ต่วน​สีดำ​สนิท​ซึ่งปัก​ลวดลาย​สัตว์ประหลาด​อสูร​เทพ​ที่​ไม่รู้จัก​ชื่อ​ไว้ตัว​หนึ่ง​ สีดำ​กับ​สีขาว​ที่​ตัดกัน​ทำให้​คน​อด​นึกถึง​คำศัพท์​อย่าง​คำ​ว่า​เลือด​และ​การเข่นฆ่า​ไม่ได้​

สิ่งที่​สำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​ คน​ผู้​นี้​เป็น​สตรี​ และ​เป็น​สตรี​ที่​ลู่​เซิ่งเคย​รู้จัก​เป็น​อย่าง​ดี​ด้วย​

“ผ่าน​มาตั้ง​หลาย​ปี​ จิ่วห​ลี่​เจ้ายัง​ใจร้อน​เหมือนเดิม​ พอ​ได้ยิน​ข่าว​เรื่อง​ข้า​ ก็​รีบ​มาหา​ข้า​ทันที​โดย​ไม่มีการ​ตรวจสอบ​” ลู่​เซิ่งหมุนตัว​มาสบตา​กับ​นาง​ พร้อมกับ​ผุด​รอยยิ้ม​ที่​ไม่อาจ​บรรยาย​

ซั่งหยาง​จิ่วห​ลี่​เห็น​ในที่สุด​เขา​ก็​ยอมรับ​ ตอนแรก​นาง​เพียง​คาดเดา​ ตอนนี้​พอ​ได้รับ​การ​ยืนยัน​ ใน​ใจก็​เกิด​ความ​ตื่นตระหนก​เหลือ​จะกล่าว​

ลู่​เซิ่ง บุรุษ​ที่​เหมือนกับ​ภูตผี​และ​เทพ​เท​วะ​ผู้​นี้​ใช้เวลา​สิบ​กว่า​ปี​ใน​การ​สร้าง​อำนาจ​เทียมฟ้า​ขึ้น​มา

ตอน​อยู่​ที่​แดน​เหนือ​ นาง​นึก​ว่า​ตัวเอง​ประเมิน​อีก​ฝ่าย​ไว้​สูงมาก​พอแล้ว​ กระนั้น​กลับ​นึกไม่ถึง​ว่า​สิ่งที่​บุรุษ​ผู้​นี้​ซ่อน​ไว้​ใต้​รูปลักษณ์​ที่​ไร้​อันตราย​ กลับเป็น​ศักยภาพ​อัน​น่ากลัว​ราวกับ​อสูร​ดึกดำบรรพ์​

“ผ่าน​มาตั้ง​หลาย​ปี​ ข้า​ได้ยิน​ว่า​เจ้าไป​ต้า​อิน​ หลังจากนั้น​เล่า​ เหตุใด​จึงคิด​กลับมา​อีก​” ซั่งหยาง​จิ่วห​ลี่​เว้น​ไป​ชั่วครู่​ ก่อน​จะถามเบา​ๆ

“ข้า​กลับมา​เพราะ​มีเป้าหมาย​ของ​ตัวเอง​” ลู่​เซิ่งยิ้ม​อย่าง​อบอุ่น​ “แต่​ตอนนี้​สิ่งที่​ควร​ทำ​ก็ได้​ทำ​ไป​พอสมควร​แล้ว​ ข้า​เตรียม​จะมุ่งหน้า​ไป​ยัง​ต้า​อิน​ นึกไม่ถึง​ว่า​เจ้าจะเจอ​ตัว​ข้า​เสีย​ก่อน​”

“เจ้าจะไป​อีก​หรือ​ ใช่สินะ​ สำหรับ​เจ้าแล้ว​ ต้า​ซ่งเล็ก​เกินไป​” ตอนนี้​ซั่งหยาง​จิ่วห​ลี่​ฝึกฝน​มาเป็นเวลา​ร้อย​ปี​ เป็น​ผู้​เข้ม​แข้ง​ระดับ​ผู้​ถือ​อาวุธ​มานาน​แล้ว​ แต่​แม้จะมีพลัง​แบบนี้​ก็​ยังคง​เกิด​ความรู้สึก​กดดัน​ที่​เหมือน​หายใจไม่ออก​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​ลู่​เซิ่งอยู่ดี​

“อยาก​ไป​กับ​ข้า​หรือไม่​” ลู่​เซิ่งถาม “ด้วย​แผนการ​ของ​ข้า​ใน​ปัจจุบัน​ การพา​คน​ไป​ส่วนหนึ่ง​ไม่ถือเป็น​อะไร​”

ปัจจุบัน​ลู่​เซิ่งมาถึงขั้น​นี้​แล้ว​ ย่อม​ยินดี​ช่วยเหลือ​สหาย​ใน​อดีต​ ยิ่งไปกว่านั้น​ซั่งหยาง​จิ่วห​ลี่​ยัง​มีพรสวรรค์​เกินคน​และ​พลัง​ใจที่​ไม่เลว​ ขอ​แค่​ได้รับ​เวที​ที่​เหมาะสม​ การพัฒนา​ขึ้นไป​อีก​ขั้น​ไม่ใช่ปัญหา​อะไร​

โลก​ปิดผนึก​ที่​มารดา​แห่ง​ความเจ็บปวด​ควบคุม​ใบ​นี้​ได้​จำกัด​นาง​เอาไว้​

“ไป​กับ​เจ้าหรือ​” ซั่งหยาง​จิ่วห​ลี่​งุนงง​ นางใน​ตอนนี้​เป็น​ประมุข​ตระกูล​ซั่งหยาง​ หลังจาก​ซั่งหยาง​เฟย​หายตัว​ไป​อย่าง​ลึกลับ​และ​นาง​รอด​มาจาก​ภัยพิบัติ​มาร​มาได้​ ตัวนาง​ก็ได้​กลายเป็น​คน​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ท่ามกลาง​คนรุ่นก่อน​ที่​เหลืออยู่​

ซั่งหยาง​จิ่วห​ลี่​อด​เกิด​ความลังเล​ไม่ได้​เมื่อ​มองดู​ลู่​เซิ่งผู้​ลึกลับ​ยาก​คาดเดา​ตรงหน้า​

นาง​เข้า​ใจดี​ว่า​ การ​ติดตาม​บุรุษ​ตรงหน้า​ไป​จะทำให้​พบ​เจอ​อันตราย​มากมาย​ที่​เสี่ยง​กว่า​เดิม​ พูดถึง​การพัฒนา​ สมัย​ที่​ลู่​เซิ่งออกจาก​ต้า​ซ่ง พลัง​ของ​เขา​ก็​ก้าว​ข้าม​นางใน​ตอนนี้​ไป​แล้ว​ ยิ่ง​อย่า​ว่าแต่​ไป​ต้า​อิน​นาน​ขนาด​นั้น​ กอปร​กับ​ตอนนี้​ผ่าน​ไป​หลาย​ร้อย​ปี​ ยิ่ง​ไม่ทราบ​ว่า​พลัง​ไป​ถึงระดับ​ไหน​แล้ว​

การ​ติดตาม​เขา​ไป​จะต้อง​ทำให้​สามารถ​พัฒนา​ศักยภาพ​ได้​อย่าง​ใหญ่หลวง​แน่​ เพียงแต่​…

“ไม่ต้อง​รีบร้อน​ เจ้าไป​ตรึกตรอง​ดูก่อน​” ความจริง​ลู่​เซิ่งคิด​จะสร้าง​องค์กร​ที่​เอาไว้​ใช้วิจัย​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​จริงๆ​

ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​ไม่อาจ​ถูก​ทำลาย​ เรื่อง​นี้​ไม่ใช่เกิดขึ้น​บน​ดาวเคราะห์​ของ​มารดา​แห่ง​ความเจ็บปวด​เท่านั้น​ ดาวเคราะห์​ดวง​อื่นๆ​ ก็​มีอยู่​บ้าง​เช่นกัน​ แต่​ไม่ได้​ชุกชุม​ขนาด​นี้​

หนำซ้ำ​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​ยัง​ค่อยๆ​ ทวี​จำนวน​อีกด้วย​

สิ่งที่​ลู่​เซิ่งกังวล​ก็​คือ​ จะมีวันหนึ่ง​ที่​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​ยึดครอง​สภาพแวดล้อม​ที่​สิ่งมีชีวิต​อาศัย​อยู่​ส่วนใหญ่​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​ แล้ว​เปลี่ยน​โลก​ทั้ง​ใบ​ให้​กลายเป็น​สภาพแวดล้อม​ที่​อันตราย​และ​แปลกประหลาด​

ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​พวก​นี้​เหมือนกับ​ผู้ป่วย​อาการหนัก​ที่​หมดหวัง​ บน​ตัว​มีตุ่ม​หนอง​มากมาย​ผุด​ขึ้น​เต็มไปหมด​

ลู่​เซิ่งพลัน​ฉุกใจ​ได้​

‘บางที​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​…อาจ​เป็น​เพราะ​จักรวาล​ป่วย​จริงๆ​ ก็ได้​’

เขา​คิด​ว่า​ตัวเอง​ควร​สร้าง​ระบบข้อมูล​เพื่อ​ตรวจสอบ​อย่าง​ละเอียด​ดู​

ตอนนี้​ซั่งหยาง​จิ่วห​ลี่​ก็​ไตร่ตรอง​เสร็จ​แล้ว​เช่นกัน​

“ขออภัย​ ข้า​ยังมี​หลานสาว​หลานชาย​ ยังมี​คน​หลาย​คน​ที่​ต้องการ​ให้​ข้า​ปกป้อง​…”

“เจ้าแต่งงาน​แล้ว​หรือ​” ลู่​เซิ่งพลัน​กล่าว​อย่าง​ประหลาดใจ​

ซั่งหยาง​จิ่วห​ลี่​พยักหน้า​

“แต่ง​ตั้งแต่​หกสิบ​กว่า​ปีก่อน​แล้ว​”

เพราะ​มีพันธนาการ​จาก​ทาง​ครอบครัว​ จึงไม่อาจ​ทำตัว​อิสระ​ได้​เหมือน​เมื่อก่อน​อีก​ ลู่​เซิ่งเอง​ก็​ไม่ได้​ฝืนใจ​อีก​

“ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ เช่นนั้น​ก็​ช่วย​ข้า​รักษา​พัฒนาการ​ของ​สมาคม​วิจัย​ก็แล้วกัน​” ลู่​เซิ่งโบกมือ​ดีดนิ้ว​ หยดน้ำ​หยด​หนึ่ง​กลายเป็น​ตราประทับ​สีทอง​อ่อน​แล้ว​ประทับ​ลง​บน​หลัง​มือ​ของ​ซั่งหยาง​จิ่วห​ลี่​

“พวกเรา​จะเจอกัน​อีก​ วางใจ​เถอะ​” สิ้น​เสียง​ เขา​ก็​ค่อยๆ​ หาย​ไป​จาก​ที่นั่ง​

ซั่งหยาง​จิ่วห​ลี่​มอง​ตราประทับ​ทรง​หยดน้ำ​บน​หลัง​มือ​ ใน​ใจเกิด​ความรู้สึก​ผิดหวัง​ที่​บรรยาย​ไม่ได้​โดย​ไม่มีสาเหตุ​

ต้า​อิน​ ริม​ฝั่งแม่น้ำ​ไหล​เอื่อย​

ห​ลี่​ซุ่น​ซียืน​นิ่ง​อยู่​บน​เรือ​เล็ก​ลำ​หนึ่ง​ เขา​สวม​ชุด​คลุม​สีขาว​อม​เทา​ ยืน​เอา​มือ​ไพล่หลัง​พร้อมกับ​มอง​ท้องฟ้า​ดวง​ดารา​

ลม​กลางคืน​พัดผ่าน​ พัด​เครา​ที่​ยาว​ถึงหน้าอก​ของ​เขา​ให้​ขยับ​ไหว​เล็กน้อย​

“น้ำค้าง​สารท​กลาง​สายลม​เย็น​เมื่อ​สาย​ ความ​เดียวดาย​ถึงชนะ​ความ​หนาว​ได้​…” เขา​ถอนใจ​ยาว​แล้ว​หยิบ​เอา​กระดาษ​ข้อมูล​ที่​ส่งมาจาก​สำนัก​ไตร​อริยะ​ใน​ต้า​ซ่งขึ้น​มา

“สำนัก​ไตร​อริยะ​ใน​ต้า​ซ่ง…พี่ใหญ่​ลู่​เซิ่ง…” องค์กร​ลึกลับ​ที่​มีชื่อว่า​สมาคม​วิจัย​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​ผุด​ขึ้น​อย่าง​กะทันหัน​ ผู้นำ​ของ​องค์กร​ถึงกับ​ชื่อว่า​ลู่​เซิ่ง

นี่​ทำให้​ห​ลี่​ซุ่น​ซีที่​ส่งคน​ออก​ตามหา​ที่อยู่​ของ​ลู่​เซิ่งมาโดยตลอด​ได้​เบาะแส​อย่าง​รวดเร็ว​ ก่อน​จะส่งคน​ไป​สังเกตการณ์​และ​วาด​ภาพเหมือน​

และ​ภาพเหมือน​ที่​ได้รับ​ก็​เหมือนกับ​ที่​ห​ลี่​ซุ่น​ซีคิด​ไว้​ เป็น​ลู่​เซิ่งที่​หายสาบสูญ​ไป​ร้อย​กว่า​ปี​นั่นเอง​

หลังจาก​อาจารย์​หายตัว​ไป​เมื่อ​สามสิบ​กว่า​ปีก่อน​ ห​ลี่​ซุ่น​ซีก็​รับ​อำนาจ​ปกครอง​สาขา​หนึ่ง​ใน​สำนัก​ไตร​อริยะ​มา

ด้วย​พลัง​ของ​เขา​ใน​ปัจจุบัน​ ทำให้​ตัว​เขา​มีคุณสมบัติ​ควบคุม​สำนัก​อริยะ​ทั้งหมด​ได้​จริงๆ​ นอกจาก​จะใจโลเล​ไป​บ้าง​ ใน​ช่วงเวลา​ที่​เขา​ปกครอง​สำนัก​อริยะ​ สาขา​ของ​เขา​กลับ​พัฒนา​เร็ว​กว่า​อีก​สอง​สาขา​

ใน​เวลา​สั้น​ๆ แค่​ยี่สิบ​ปี​ สำนัก​ไตร​อริยะ​ของ​ต้า​อิน​ก็​กลายเป็น​ของ​เขา​คนเดียว​ ราชา​อริยะ​อีก​สอง​คน​เสีย​วาจา​สิทธิ์​ไป​อย่าง​สมบูรณ์​

สำนัก​ไตร​อริยะ​เปลี่ยน​จาก​สภาพ​กึ่ง​ซ่อนเร้น​เป็น​องค์กร​ขนาดใหญ่​ที่​มีความสัมพันธ์​อัน​แนบแน่น​กับ​ต้า​อิน​

หลัง​ภัยพิบัติ​ใหญ่​ ต้า​อิน​ได้​ฟื้นคืนชีพ​ สาเหตุ​ที่​ราชวงศ์​สถาปนา​ขึ้น​ใหม่​ตั้งตัว​ได้​อย่าง​ราบรื่น​ เป็น​เพราะ​การ​สนับสนุน​อย่าง​สุดกำลัง​ของ​ห​ลี่​ซุ่น​ซีนั่นเอง​

เพียงแต่​ชีวิต​ใน​ปัจจุบัน​เหี่ยวเฉา​ลง​เรื่อยๆ​ เสียแล้ว​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท