บทที่ 760 ต่อสู้ (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

แก​ร๊ก​

พื้น​ของ​เหลา​สุรา​ด้านหลัง​ลู่​เซิ่งเกิด​รอยเท้า​สีดำ​เกรียม​ที่​ชัดเจน​ขึ้น​หลาย​รอย​ตาม​การ​ก้าว​ย่ำ​ของ​ผู้​มา

บุรุษ​นัยน์ตา​สีแดง​พลิก​มือ​ชักดาบ​หนาม​กระดูก​สอง​ท่อน​จาก​ด้านหลัง​ออกมา​ถือ​ไว้​ใน​มือ​

ความ​บิดเบี้ยว​ที่​โปร่งแสง​สาย​หนึ่ง​ปกคลุม​ลู่​เซิ่งรวมถึง​เหลา​สุรา​รอบ​ๆ ไว้​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​ก็​ไม่ทราบ​

“นี่​คือ​เขต​มายา​พิศวง​กลับชาติมาเกิด​หรือ​” ลู่​เซิ่งวาง​กา​สุรา​และ​พิจารณา​รอบ​ๆ อย่าง​ฉงน​ฉงาย​

“ถูกต้อง​ นี่​คือ​เขต​มายา​พิศวง​จุติ​ ผู้อาวุโส​นอ​กลู่​เป็น​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​ซึ่งแตกต่าง​กับ​พวกเรา​ อาจจะ​ไม่ทราบ​” ผู้​มาส่งเสียงแหบ​พร่า​เหมือนกับ​เครื่อง​สูบลม​รั่ว​ ใน​ลำคอ​มีแต่​เสียง​กระแสลม​ดัง​ฟู่ๆ

“หลัง​เลื่อน​เป็น​มายา​พิศวง​ จิต​ สาร​กาย​ และ​จิตวิญญาณ​จะรวม​เป็นหนึ่ง​ บรรลุ​ปฐม​พลัง​ และ​รวม​หลวม​เข้ากับ​ปฐม​พลัง​ จากนั้น​ก็​สร้าง​วัฏจักร​ เลียนแบบ​ฟ้าดิน​ มายา​พิศวง​หมายถึง​ความเป็นมา​ยา​ไม่เป็นจริง​” ผู้​มาอธิบาย​อย่าง​ราบเรียบ​

“เขต​มายา​พิศวง​จุติ​ คือ​พลัง​ที่​พวก​เจ้าครอบครอง​หลังจาก​สร้าง​วัฏจักร​หรือ​” ลู่​เซิ่งย้อนถาม​

“ถูกต้อง​ หาก​อยู่​ใน​เขต​จุติ​ พลัง​ทั้งหมด​ของ​เรา​จะยกระดับ​ขึ้น​อย่าง​ใหญ่หลวง​ ขณะเดียวกัน​ใน​ร่าง​ยัง​มีพลัง​ไร้​สิ้นสุด​และ​สามารถ​สะกด​ไม่ให้​อีก​ฝ่าย​แสดง​พลัง​ได้​ด้วย​” ผู้​มาเอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​เย็นชา​

“ถ้าหาก​บอ​กว่า​ความแตกต่าง​ของ​พลัง​ใน​ตอน​เริ่มต้น​ของ​ข้า​กับ​ท่าน​คือ​สามต่อ​หนึ่ง​ อย่างนั้น​หลังจาก​กาง​เขต​จุติ​แล้ว​ ก็​จะกลายเป็น​สามต่อ​สิบ​ ต่อ​ยี่สิบ​ หรือ​สามสิบ​!” บุรุษ​วาด​สอง​ดาบ​เป็น​เส้น​สีแดงเข้ม​สอง​สาย​กลางอากาศ​

“สุดท้ายนี้​ จงจำชื่อ​ของ​คน​ที่จะ​ฆ่าท่าน​ไว้​เถอะ​…ข้า​คือ​เจิง ฉายา​อสูร​…เจ็ด​วิญญาณ​” เสียง​เพิ่งจะ​ขาด​ลง​ บุรุษ​พลัน​เร่งความเร็ว​ แล้ว​ปรากฏตัว​ขึ้น​ด้าน​ข้าง​ลู่​เซิ่งใน​ชั่วพริบตา​เหมือน​เคลื่อน​ร่าง​เปลี่ยน​เงา ก่อน​จะฟัน​สอง​ดาบ​ลง​ใส่

ตูม​!

เหลา​สุรา​ระเบิด​อย่าง​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​ ชิ้นส่วน​กระจาย​ออก​ไป​รอบ​ๆ เหมือนกับ​ของเล่น​ พื้น​ยุบตัว​และ​พังทลาย​ลง​ หลุม​ลึก​ขนาด​ยักษ์​ที่​มีเส้นผ่าศูนย์กลาง​หลาย​ร้อย​หมี่​แผ่ขยาย​ออกมา​

เมฆหมอก​และ​ฝุ่นผง​นับไม่ถ้วน​พลิกตัว​ฟุ้งกระจาย​ ไม่อาจ​เห็น​ก้น​หลุม​ได้​

ฟ้าว!​

ลมแรง​หอบ​หนึ่ง​พัด​ฝุ่นผง​จำนวนมาก​ออก​ไป​ เผย​ให้​เห็น​ก้น​หลุม​ตรงกลาง​

ลู่​เซิ่งจับ​ดาบ​กระดูก​ใน​มือ​ของ​เจิงด้วย​สอง​มือ​ เลือด​หลาย​หยด​ไหล​ลงมา​ตาม​ฝ่ามือ​ของ​เขา​

เลือด​สดๆ​ ที่​หยด​ลง​ด้านล่าง​ยัง​ไม่ทัน​ตก​ถึงพื้น​ก็​ถูก​พลัง​ประหลาด​สีแดงเข้ม​สาย​หนึ่ง​กลืน​กิน​และ​ทำลาย​ทิ้ง​

“ไม่มีประโยชน์​หรอก​ ท่าน​อยู่​ใน​ขอบเขต​ขั้น​สอง​อย่าง​วัฏจักร​ลวง​เท่านั้น​ กาย​เนื้อ​ไม่อาจ​ต้านทาน​เขต​จุติ​ฟาดฟัน​ของ​ข้า​ไหว​” เจิงไม่แสดง​สีหน้า​ใดๆ​ หมุน​ตัวอย่าง​ฉับพลัน​ แล้ว​กระแทก​คม​หนาม​กระดูก​จำนวนมาก​จาก​ด้านหลัง​ใส่ลู่​เซิ่ง

ลู่​เซิ่งถอยฉาก​หลบ​ดุจ​สาย​ฟ้าแลบ​ สอง​มือ​ปรากฏ​ดาบ​ยาว​สีเหลือง​อ่อน​สอง​เล่ม​ แล้ว​ใช้ท่า​คร่า​วิญญาณ​ฟัน​ใส่อีก​ฝ่าย​

เกิด​เสียงดัง​เปรี้ยง​ ดาบ​ยาว​สีเหลือง​อ่อน​แหลก​สลาย​ ลู่​เซิ่งป้องกัน​ไม่ทัน​ถูก​การ​โจมตี​ที่​รุนแรง​ถึงสอง​รอบ​ฟัน​ใส่บ่า​อีกครั้ง​

ซู่!

การป้องกัน​ทางกาย​เนื้อที่​แข็งแกร่ง​ของ​เขา​ถูก​ดาบ​กระดูก​ฟัน​เป็น​ปาก​แผล​ที่​ลึก​จน​เห็น​กระดูก​สอง​สาย​ภายใต้​การ​สะกด​ของ​เขต​จุติ​

เลือด​สดๆ​ จำนวนมาก​พุ่งกระฉูด​ออกมา​อย่าง​บ้าคลั่ง​ ก่อน​จะถูก​พลังงาน​สีแดงเข้ม​ทำลาย​หาย​ไป​กลางอากาศ​

“ต่อให้​ท่าน​จะเป็น​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​ แต่​หากว่า​แม้แต่​เซลล์​ทั้งหมด​ที่จะ​คืนชีพ​ถูก​ทำลาย​ไป​ด้วย​ ข้า​ก็​อยาก​เห็น​เหมือนกัน​ว่า​เจ้าจะเอา​อะไร​มาใช้คืนชีพ​” เจิงส่งเสียง​กู่​ร้อง​ ก่อน​จะหมุน​ร่าง​จาก​ซ้าย​ไป​ขวา​และ​ฟาด​ฟันดาบ​กระดูก​บน​ร่าง​ใส่ลู่​เซิ่งอย่าง​บ้าคลั่ง​ทั้ง​สามร้อย​หกสิบ​องศา​โดย​ไม่หยุดชะงัก​แม้แต่น้อย​ วรยุทธ์​ระดับ​ปรมาจารย์​ถูก​สำแดง​ออกมา​อย่าง​เต็มที่​

ลู่​เซิ่งเป็น​ปรมาจารย์​ระดับ​สูงสุด​เช่นกัน​ จึงขยาย​และ​สำแดง​ความได้เปรียบ​ของ​ตน​ออกมา​กลบ​จุดอ่อน​ได้​ในเวลาเดียวกัน​

ควบคุม​ตัวเอง​อย่าง​สมบูรณ์​ แสดง​ขีดจำกัด​ของ​พลัง​ที่​สามารถ​แสดงออก​ได้​ ผสาน​พลัง​เข้ากับ​ทักษะ​ได้​อย่าง​แนบเนียน​ นี่​เป็น​อานุภาพ​ที่​แท้จริง​ของ​ปรมาจารย์​

ลู่​เซิ่งใช้วิชา​หมัด​เงาใน​พริบตา​สุดกำลัง​ ร่างกาย​เคลื่อนไหว​ไปมา​อย่าง​ต่อเนื่อง​เหมือนกับ​ภาพลวงตา​ รวดเร็ว​ราว​สายฟ้า​ฟาด​ มีแต่​ตอนที่​หมดหนทาง​จริงๆ​ แล้ว​เท่านั้น​ถึงจะปะทะ​กับ​เจิง

“ถ้าท่าน​มีพลัง​แค่นี้​ อย่างนั้น​ข้า​ขอ​แนะนำ​ให้​ท่าน​หนี​ไป​เสีย​ตั้งแต่​ตอนนี้​จะดีกว่า​” เจิงโจมตี​อย่าง​ต่อเนื่อง​โดย​ไม่หยุดพัก​เหมือนกับ​ปรอท​กระฉอก​ลงพื้น​ สร้าง​ละออง​เลือด​หลาย​กลุ่ม​บน​ตัว​ลู่​เซิ่งไม่หยุด​

“ไม่อย่างนั้น​ท่าน​จะต้อง​ตาย​ใน​สามกระบวนท่า​!” เขา​พลัน​ถอยหลัง​ แล้ว​ใช้สอง​มือ​ชักดาบ​กระดูก​ออกมา​อีก​สอง​เล่ม​ ก่อน​จะประกอบ​เข้าด้วยกัน​ด้านหน้า​ กลายเป็น​อาวุธ​ประหลาด​ที่​เหมือนกับ​ไม้กางเขน​

ลู่​เซิ่งถอยหลัง​ไป​หลาย​ก้าว​และ​เลียแผล​ลึก​ของ​ตัวเอง​บน​ข้อมือ​ที่​ถูก​ฟัน​ ก่อน​จะเผย​รอยยิ้ม​แปลกประหลาด​

“แม้แต่​ตัว​ข้า​ยัง​ไม่แน่ใจ​ว่า​ตาย​ได้​หรือเปล่า​ สามกระบวนท่า​หรือ​ เจ้าลองดู​สิ”

เขา​ขยาย​ร่าง​กลายเป็น​สัตว์ประหลาด​ร่าง​สูงใหญ่​ที่​มีหาง​และ​ใบหน้า​สามข้าง​ ก่อน​จะกระโจน​ออก​ไป​

เปรี้ยง​!

คน​สอง​คน​ปะทะ​กัน​อีกครั้ง​ดุจ​สาย​ฟ้าแลบ​ บน​ร่าง​ลู่​เซิ่งมีแขน​สิบ​กว่า​ข้าง​งอก​ออกมา​ มือ​แต่ละ​คู่​ถือ​ดาบ​ยา​วสี​ดำ​เอาไว้​พร้อมกับ​ฟัน​ออก​ไป​ดัง​ค​วับๆ​ เหมือนกับ​การ​สร้าง​สายฝน​สีดำ​และ​พายุ​คาวเลือด​ขึ้น​จาก​ความว่างเปล่า​!

อสูร​เจ็ด​วิญญาณ​เจิงร้อง​คำราม​ หนาม​กระดูก​บน​ร่าง​งอก​ออกมา​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ เขา​ใช้ท่า​ร่าง​ต่างๆ​ ใน​การเคลื่อนไหว​ตลอดเวลา​ ทำให้​ดาบ​กระดูก​ด้านหลัง​กลายเป็น​อาวุธ​โจมตี​ด้วย​อย่าง​เป็นธรรมชาติ​ ป้องกัน​การฟาดฟัน​จาก​มือ​ทั้ง​สิบ​กว่า​คู่​ของ​ลู่​เซิ่ง

ทุกๆ​ ดาบ​ที่​ทั้งสอง​ฟัน​ปะทะ​กัน​ก่อให้เกิด​เสียงดัง​กึกก้อง​ปาน​อัสนี​บาต​ สนาม​พลัง​ที่​น่า​หวั่น​สะพรึง​กระจาย​ตัว​และ​บีบ​อัด​ไป​รอบ​ๆ หลังจาก​กระแทก​ใส่ผนัง​ปิดผนึก​ของ​เขต​จุติ​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​ พวก​มัน​ก็​ดีด​กลับ​กลายเป็น​การกดทับ​ภายใน​ต่อ​

การกดทับ​ภายใน​นี้​ดูดซับ​พลัง​ที่​กระจัดกระจาย​ใน​ตอนที่​ลู่​เซิ่งกับ​เจิงปะทะ​กัน​ไว้​ จากนั้น​ก็​กลายเป็น​แรงกดดัน​ กด​ทับ​ใส่ลู่​เซิ่ง

นี่​คือ​จุด​ที่​น่ากลัว​ที่สุด​ของ​แดน​จุติ​ ยิ่ง​สู้กัน​นาน​เท่าไหร่​ การ​สะกด​จาก​แดน​จุติ​ก็​จะยิ่ง​เพิ่มขึ้น​ เทียบ​กับ​ความ​เป็น​อมตะ​อัน​น่ากลัว​ของ​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​แล้ว​ ความ​แข็งแกร่ง​ที่​แท้จริง​ของ​มายา​พิศวง​ธรรมดา​อยู่​ตรงนี้​นี่เอง​

“หนึ่งต่อหนึ่ง​ พลัง​ของ​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​ไม่ได้​ร้ายกาจ​อะไร​ หลัก​ๆ อยู่​ที่​ไม่อาจ​ฆ่าให้​ตาย​ต่างหาก​” สตรี​ที่​สวม​กระโปรง​สีดำ​และ​เสื้อคลุม​ กำลัง​มอง​ภาพ​ที่​ลู่​เซิ่งกำลัง​ต่อสู้​กับ​เจิงอยู่​บน​ท้องถนน​แห่ง​หนึ่ง​นอก​แดน​จุติ​

“นาย​หญิง​กล่าว​ถูกต้อง​ เมื่อ​ไม่มีแดน​จุติ​คอย​ช่วยเหลือ​ มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​จะแข็งแกร่ง​กว่า​ผู้​เข้มแข็ง​ใน​ระดับ​เดียวกัน​จริงๆ​ ทำให้​ต่อสู้​ใน​การ​รบ​ซึ่งหน้า​ได้​ไม่ดี​นัก​” บุรุษ​ดวงตา​สีขาว​ซึ่งอยู่​ด้าน​ข้าง​กล่าว​อย่าง​นอบน้อม​

“ดังนั้น​ข้า​เลย​ใช้วิธี​อื่น​ เลือก​เส้นทาง​เฉกเช่น​ใน​ตอนนี้​” สตรี​มองดู​การ​รบ​และ​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​เฉยชา​

ตอนนี้​ลู่​เซิ่งสู้กับ​เจิงมาได้​สักพัก​แล้ว​ แต่​ยัง​ไม่ได้ผล​แพ้ชนะ​ สอง​ฝ่าย​จึงหงุดหงิด​เล็กน้อย​ แยกกัน​ถอย​ไป​ด้านหลัง​ดุจ​สายฟ้า​ฟาด​

“ค่าย​กล​อัคคี​แปลง​พรหมจารี​!” ลู่​เซิ่งยกมือ​ เสาเพลิง​สีทอง​หลาย​กลุ่ม​ปรากฏ​ขึ้น​บน​พื้น​รอบ​ๆ ตัว​ตั้งแต่​ตอน​ไหน​ก็​ไม่ทราบ​

เพลิง​สีทอง​หลาย​กลุ่ม​ถูกจุด​ขึ้น​รอบ​ๆ อย่าง​ต่อเนื่อง​

เปลวเพลิง​บาง​กลุ่ม​ถูก​พลัง​กำเนิด​ที่​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​กระตุ้น​กลายเป็น​แสงเพลิง​ขนาด​ต่างๆ​

แสงเพลิง​นับไม่ถ้วน​ลอย​ขึ้น​มาเกาะ​บน​ร่าง​เขา​อย่าง​รวดเร็ว​

ค่าย​กล​นี้​ไม่ได้​ใช้โจมตี​ศัตรู​ หาก​เป็น​ค่าย​กล​สนับสนุน​ที่​ลู่​เซิ่งออกแบบ​มาเพื่อ​ใช้เพิ่ม​พลัง​ต่อสู้​ของ​ตัวเอง​

เจิงก้าว​ขึ้นหน้า​ก้าว​หนึ่ง​ก่อน​จะชูดาบ​กระดูก​ขึ้น​

“ธาร​โลหิต​พลิก​โลกันตร์​!”

เลือด​หลาย​สาย​ทะลัก​ออก​มาจาก​ด้านหลัง​และ​ใต้​ร่าง​เขา​ ก่อน​จะแผ่ขยาย​ไป​รอบ​ๆ ใน​พริบตา​

ทุกสิ่ง​ที่​เลือด​ไหลผ่าน​ถูก​หลอมละลาย​หมดสิ้น​

เจิงชูดาบ​ขึ้น​ เลือด​พุ่ง​ขึ้น​มาจาก​บริเวณ​รอบ​ๆ ส่วนหนึ่ง​วนเวียน​และ​ตกลง​บน​ดาบ​กระดูก​และ​ร่างกาย​ของ​เขา​

“ดาบ​โลหิต​อเวจี​มืดมิด​…!” พอ​เขา​ชูดาบ​กระดูก​ขึ้น​ เลือด​จำนวนมาก​ด้านหลัง​ก็​รวมตัวกัน​เป็น​มังกร​อสรพิษ​โลหิต​ขนาดใหญ่​ตัว​หนึ่ง​จับ​จ้องมอง​ลู่​เซิ่งอย่าง​ดุดัน​

“สังหาร​!”

เขา​ฟันดาบ​ลง​ใส่ลู่​เซิ่งอย่าง​รุนแรง​

“เงาชั่วพริบตา​ ทลาย​อัสสนี​!” มือ​สิบ​กว่า​คู่​ของ​ลู่​เซิ่งออก​ดาบ​พร้อมกัน​ ประกาย​ดาบ​สิบ​กว่า​เล่ม​กลายเป็น​เส้น​สีดำ​จำนวนมาก​พุ่ง​เข้าหา​อีก​ฝ่าย​จาก​มุมต่างๆ​ ใน​ลักษณะ​บิด​งอ​

เค​ร้งๆๆๆ!​

ประกาย​ดาบ​ของ​สอง​ฝั่งฟัน​ปะทะ​กัน​

ในเวลานี้​เอง​ มังกร​อสรพิษ​โลหิต​ถึงกับ​เมิน​ประกาย​ดาบ​ พุ่ง​ไป​ถึงด้านหน้า​ลู่​เซิ่ง ก่อน​จะงับ​ร่าง​ท่อน​บน​ของ​เขา​อย่าง​รุนแรง​

กร๊อบ​!

ขณะ​เกิด​เสียง​กระดูก​หัก​เบา​ๆ ร่าง​ท่อน​บน​ของ​ลู่​เซิ่งถึงกับ​ถูก​ขย้ำ​ขาด​จาก​ร่างกาย​

ตูม​!

ไฟนรก​สีดำ​อม​ม่วง​กลุ่ม​หนึ่ง​ระเบิด​ออก​มาจาก​ปาก​มังกร​โลหิต​ แล้ว​ระเบิด​ส่วน​ศีรษะ​ของ​มัน​จน​มลาย​ไป​

เลือดเนื้อ​จำนวนมาก​รวมตัวกัน​ หมาย​จะฟื้น​คืน​กาย​เนื้อ​ของ​ลู่​เซิ่งกลับมา​

เจิงเหยียบ​อากาศ​กระโจน​ขึ้น​

“จบสิ้น​แล้ว​” ประกาย​สีเลือด​ใน​ดวงตา​สอง​ข้าง​ของ​เขา​เจิดจ้า​ถึงขีดสุด​อยู่​ชั่วขณะ​ มือ​ควง​ดาบ​กางเขน​เป็น​จันทร์​เพ็ญ​ดวง​หนึ่ง​

“วิญญาณ​ที่สอง​! โลกันตร์​ไร้​ขุม​!”

จันทร์​เพ็ญ​ที่​เรืองแสง​สีเลือด​ดวง​หนึ่ง​ร่วง​ตก​จาก​ฟ้า ปกคลุม​ตำแหน่ง​ของ​ลู่​เซิ่งเอาไว้​

ฟิ้วๆๆๆๆ!​

ลู่​เซิ่งที่อยู่​ใน​แสงสีเลือด​ต้อง​รับ​การฟาดฟัน​จำนวน​หลาย​พัน​ครั้ง​ต่อ​วินาที​ ทุก​การฟาดฟัน​มีอานุภาพ​เป็น​ครึ่งหนึ่ง​ของ​การ​ลงมือ​อย่าง​สุดกำลัง​ของ​เจิงเมื่อ​ก่อนหน้า​

กาย​เนื้อที่​แข็งแกร่ง​ของ​เขา​คิด​จะฟื้นฟู​อย่าง​บ้าคลั่ง​ แต่​ก็​ถูก​การฟาดฟัน​ผลาญ​พลัง​ของ​ร่างกาย​ตลอดเวลา​

พลังงาน​ประหลาด​ที่​บรรจุ​ใน​แสงสีแดง​จำนวนมาก​ทลาย​พลัง​ฟื้นตัว​ของ​ลู่​เซิ่งอย่าง​ทรง​ประสิทธิภาพ​

“จบสิ้น​สักที​ โลกันตร์​ไร้​ขุม​จะเผาไหม้​กาย​เนื้อ​ของ​ท่าน​เป็น​พลังงาน​ เพื่อ​สร้าง​สภาวะ​โจมตี​ที่จะ​ผลาญ​พลัง​ของ​ท่าน​ไป​จนกระทั่ง​ทำลาย​เลือดเนื้อ​จน​หมดสิ้น​” เจิงชี้ดาบ​กระดูก​ลงพื้น​ด้วย​สีหน้า​สงบนิ่ง​ “ต่อให้​ท่าน​จะเป็น​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​ ถ้าหาก​หลุด​จาก​พันธนาการ​นี้​ไม่ได้​ ไม่ช้าก็เร็ว​จะถูก​ผลาญ​พลัง​จนตาย​”

แปะ​ๆๆๆ…

อยู่​ๆ บน​ยอด​ซากปรักหักพัง​แห่ง​หนึ่ง​ที่อยู่​ไม่ไกล​ออก​ไป​ก็​มีเสียง​ปรบมือ​ดัง​มา

“เป็น​การแสดง​ที่​มีสีสัน​จริงๆ​” ลู่​เซิ่งปรากฏ​ร่าง​ขึ้น​บน​ซากปรักหักพัง​และ​ถอนใจ​ชมเชย​ด้วย​ใบหน้า​ชื่นชม​

สีหน้า​ของ​เจิงเปลี่ยนแปลง​ไป​ กล้ามเนื้อ​ทั่ว​ร่าง​เกร็ง​เขม็ง​ เขา​คิด​ถอยหลัง​ แต่​ก็​ไม่ทัน​กาล​แล้ว​

เศษเนื้อ​กลุ่ม​หนึ่ง​ที่​เหลืออยู่​บน​ไหล่เขา​ขยาย​ใหญ่​ขึ้น​ พริบตาเดียว​ก็​กลายเป็น​หนาม​เลือดเนื้อ​แท่ง​หนึ่ง​ปัก​ทะลุ​กลาง​หลัง​ของ​เขา​

ฟ้าวๆๆ!​

หนาม​เลือดเนื้อ​เพิ่งจะ​ปัก​เข้าไป​ใน​ร่างกาย​ของ​เขา​ ก็​ระเบิด​เส้นเลือด​นับไม่ถ้วน​ออกมา​รุกราน​อวัยวะ​ทั้งหมด​ใน​ตัว​เขา​ทันที​

“ตะ​…ตั้งแต่​เมื่อไหร่​กัน​…!” เจิงร่าง​แข็งทื่อ​ ดาบ​กระดูก​ใน​มือ​ร่วงหล่น​ลงพื้น​ดัง​ตึง​

“ตั้งแต่แรก​แล้ว​ คน​ที่​สู้กับ​เจ้าคือ​ร่าง​แยก​ของ​ข้า​” ลู่​เซิ่งนั่งขัดสมาธิ​บน​ซากปรักหักพัง​ สายตา​มอง​เงาร่าง​สะโอดสะอง​สีดำ​สนิท​ที่อยู่​ด้านหลัง​ของ​เจิง

“ผู้อาวุโส​มาร​สวรรค์​อยู่​นี่​ด้วย​ทั้งคน​ ผู้​แซ่ลู่​จะกล้า​เสียเวลา​กับ​เจ้าโดย​ไม่มีสาเหตุ​อยู่​ตรงนี้​ได้​อย่างไร​”

ร่าง​หลัก​ของ​เขา​ไม่ได้​ถูก​แดน​มายา​พิศวง​จุติ​ครอบคลุม​ตั้งแต่แรก​แล้ว​

หนำซ้ำ​ เขา​ซึ่งมีความสามารถ​อย่าง​กาย​อมตะ​พัน​เท​วะ​อยู่​ด้วย​ ได้​แยก​เนื้อ​ออกมา​แล้ว​นำ​ไป​วาง​ไว้​ไกลๆ​ เป็น​จำนวน​ไม่น้อย​

อสูร​เจ็ด​วิญญาณ​ใน​ขอบเขต​ที่สาม​อย่าง​วัฏจักร​ลวง​เพียง​คนเดียว​ แค่​ใช้ร่าง​หลัก​ถ่วงเวลา​ไว้​ จากนั้น​ก็​สั่งให้​ก้อน​เนื้อ​กลุ่ม​หนึ่ง​ลอบ​จู่โจมจาก​ด้านหลัง​ ก็​สามารถ​จบ​การต่อสู้​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​แล้ว​

แม้แดน​จุติ​จะแข็งแกร่ง​ แต่​ลู่​เซิ่งร้ายกาจ​กว่า​

ก้อน​เนื้อ​แต่ละ​ก้อน​ของ​เขา​สามารถ​ปรับ​พลัง​ได้​อย่าง​เป็นอิสระ​ตั้งแต่​อ่อนแอ​ที่สุด​ถึงแข็งแกร่ง​ที่สุด​

เมื่อ​มีแผ่น​เลือดเนื้อ​ที่​มีก้อน​เนื้อ​มหาศาล​คอย​ช่วยเหลือ​ ความจริง​หนาม​เลือดเนื้อ​แท่ง​ที่​ใช้ลอบ​โจมตี​เมื่อ​ครู่​ เทียบ​ได้​กับ​พลัง​ทำลายล้าง​แปด​ส่วน​ของ​ร่าง​หลัก​แล้ว​

ทั้งๆ ที่​เป็น​ก้อน​เนื้อ​ขนาด​เท่า​เส้น​ผม​เท่านั้น​ กลับ​บรรจุ​พลัง​ถึงแปด​ส่วน​ของ​ร่าง​หลัก​เอาไว้​

นี่​จึงเป็นความ​น่ากลัว​ที่​แท้จริง​ของ​กาย​อมตะ​พัน​เท​วะ​

ร่าง​แยก​ก่อกำเนิด​ได้​โดย​ไร้ขีดจำกัด​

นี่​เป็น​ความสามารถ​อัน​แข็งแกร่ง​ที่​แตกต่าง​อย่าง​สิ้นเชิง​กับ​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​ทั่วไป​ มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​ธรรมดา​นั้น​ได้​แต่​ครอบครอง​โอกาส​คืนชีพ​บน​ร่าง​หลัก​เท่านั้น​

แต่ทว่า​ร่าง​แยก​ทั้งหมด​ของ​ลู่​เซิ่งมีความสามารถ​นี้​ทุก​ตัว​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท