บทที่ 742 จุดจบ (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

มาร​สวรรค์​มีโลก​รูป​จิต​ทั้ง​ใบ​เป็น​ฉาก​หลัก​ หลัง​ตาย​แล้ว​ยัง​ดึง​พลัง​ใน​โลก​รูป​จิต​ออกมา​คืนชีพ​ได้​อีก​ จึงฆ่าไม่ตาย​

นอก​เสีย​จาก​ทำลาย​โลก​รูป​จิต​ทิ้ง​ จุด​นี้​จึงยัง​เหมือนกับ​เทพ​ที่อยู่​ใน​อาณาจักร​เทพ​อยู่​บ้าง​

ถ้าเทพ​อยู่​ใน​อาณาจักร​เทพ​ไม่ยอม​ออกมา​ เพียง​ใช้พลัง​เทพ​สร้าง​ร่าง​จุติ​ออก​ไป​ด้านนอก​ ความจริง​ก็​มีคุณสมบัติ​ไม่ต่าง​จาก​มาร​สวรรค์​

แต่​พวกเขา​แตก​ต่างกัน​ตรง​ที่​ มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​เป็น​อัจฉริยะ​องค์​รวม​ จะต้อง​เข้าใจ​และ​สร้าง​กฎเกณฑ์​ทั้งหมด​ใน​โลก​รูป​จิต​ของ​ตัวเอง​

ส่วน​เทพ​เป็น​กาฝาก​ที่​อาศัย​อยู่​บน​มิติ​ พวกเขา​เพียง​จำเป็นต้อง​เข้าใจ​กฎเกณฑ์​หลัก​ของ​ตัวเอง​ และ​ทำหน้าที่​เทพ​หลัก​ของ​ตัวเอง​เท่านั้น​ ที่​เหลือ​กฎธรรมชาติ​จะเติมเต็ม​ให้​เอง​

นี่​เป็น​ความแตกต่าง​ที่​ใหญ่​ที่สุด​อย่าง​แท้จริง​

บรรยาย​ง่ายๆ​ ก็​คือ​ มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​เหมือนกับ​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​ที่​เก่ง​ทุก​ด้าน​ ส่วน​เทพ​ธรรมดา​เป็น​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​ในเวอร์ชั่น​ที่​อ่อนแอ​ลง​และ​ไม่สมบูรณ์​

และ​ความอ่อนแอ​ชนิด​นี้​ก็​ส่งผล​อย่าง​มากมาย​มหาศาล​

นี่​ทำให้​พลัง​เทพ​ของ​พวก​เทพ​ไม่สมบูรณ์​ แทบ​สู้ลู่​เซิ่งไม่ได้​เลย​

‘เทพ​มากมาย​ขนาด​นี้​ร่วมมือ​กัน​ยัง​สู้แรงกดดัน​ของ​จิต​แห่ง​ห้วง​อเวจี​ก้อน​นั้น​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​’

ลู่​เซิ่งส่ายหน้า​เล็กน้อย​ ก่อน​จะมอง​ผืนดิน​ด้านล่าง​เป็น​ครั้งสุดท้าย​ พื้นดิน​สีแดง​อม​ดำ​ใน​ตอนแรก​ บัดนี้​ครึ่งหนึ่ง​ได้​กลายเป็น​สีเขียว​อ่อน​ไป​แล้ว​

กองทัพ​พันธมิตร​อสูร​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​ก็ได้​หาย​ไป​จน​ไม่เห็น​แม้แต่​เงาแล้ว​เช่นเดียวกัน​

‘จบ​แล้ว​ เทพ​ที่ว่า​เป็น​เพียง​ตัวแทน​ของ​จิต​ธรรมชาติ​ของ​โลก​ใบ​นี้​เท่านั้น​ ไม่มีความหมาย​แม้แต่น้อย​’

ลู่​เซิ่งผิดหวัง​เล็กน้อย​ หลังจาก​เข้าใจ​แก่นสาร​ของ​เทพ​แล้ว​ บน​โลก​ใบ​นี้​ก็​ไม่มีความลี้ลับ​ที่​คุ้มค่า​ให้​เขา​ขุดค้น​อีกต่อไป​

ห้วง​อเวจี​และ​ยมโลก​ก็​เป็น​สภาพ​เดียวกัน​

เขา​หมุนตัว​และ​ตะปบ​มือ​ใส่

มิติ​แห่ง​ห้วง​อเวจี​ที่อยู่​ด้านหลัง​ถูก​ขยุ้ม​จน​ทับซ้อน​และ​บิดเบี้ยว​เป็น​กลุ่ม​ใหญ่​เหมือนกับ​ผ้าม่าน​

นิ้ว​แหลม​ของ​ลู่​เซิ่งเขี่ย​เบา​ๆ มิติ​ของ​ห้วง​อเวจี​พลัน​ถูก​ฉีกขาด​อย่าง​ง่ายดาย​ เส้นทาง​สีดำ​ที่​เชื่อม​สู่ความว่างเปล่า​ถูก​กาง​ออกมา​

หลัง​เอาชนะ​การ​ร่วมมือ​ของ​เหล่า​เทพ​ได้​ ลู่​เซิ่งก็​ไม่คิด​ที่จะ​เสียเวลา​อีกต่อไป​ เขา​วางแผน​นำ​ของดี​ๆ ทั้งหมด​ใน​โลก​ใบ​นี้​ไป​จน​หมดสิ้น​ จากนั้น​ค่อย​รีบ​กลับ​

หาก​สมาชิก​เงามาร​จะเข้าออก​โลก​ใบ​อื่น​ จะต้อง​มีการ​ปรับ​แต่ง​และ​ปรับ​ตัวอย่าง​ใหญ่หลวง​ ไม่ใช่ไป​แล้​วจะ​ดำรงชีวิต​อยู่​ได้​อย่าง​ราบรื่น​

สิ่งมีชีวิต​แข็งแกร่ง​ที่​จิตใจ​ปั่นป่วน​เหมือน​อสูร​คล้าย​กับ​อุปกรณ์​ที่​มีความ​เปราะบาง​สุดขีด​ หาก​กฎเกณฑ์​เกิด​ปัญหา​นิดเดียว​ จะทำให้​ร่างกาย​พังทลาย​ใน​พริบตา​

ดังนั้น​หาก​คิด​จะพา​เงามาร​ไป​ยัง​โลก​ใบ​อื่น​ ลู่​เซิ่งจะต้อง​ศึกษา​ความ​ประหลาด​และ​การปรับตัว​ระหว่าง​กฎเกณฑ์​ต่างๆ​ อย่าง​ละเอียด​เสีย​ก่อน​

มองดู​ความ​เขียวขจี​ไร้​สิ้นสุด​บน​พื้นดิน​เป็น​ครั้งสุดท้าย​ จากนั้น​ลู่​เซิ่งก็​ก้าว​เท้า​เข้าไป​ใน​ความว่างเปล่า​ของ​โลก​ใบ​นี้​

ความว่างเปล่า​ของ​โลก​ใบ​นี้​ไม่ใหญ่​มาก​ เทียบ​ได้​กับ​ระบบ​ดาว​แห่ง​หนึ่ง​ใน​โลก​มาร​สวรรค์​ มิติ​กับ​อาณาจักร​เทพ​ขนาด​ต่างๆ​ กำลัง​ส่องแสง​ระยิบระยับ​เหมือนกับ​ดาวเคราะห์​และ​ทวีป​ลอยฟ้า​

ทุก​แห่งหน​คือ​ดาว​ดวง​หนึ่ง​

ลู่​เซิ่งหันไป​มอง​ ด้านหลัง​ตน​คือ​ดวงตา​สีแดงเข้ม​ที่​ใหญ่โตมโหฬาร​

ม่านตา​ของ​ดวงตา​คือ​รอยแตก​สีดำ​สนิท​ มัน​เป็น​ทางเข้าออก​ห้วง​อเวจี​ที่​ไร้​ก้นบึ้ง​

หาก​ให้​ตำแหน่ง​ของ​เขา​เป็น​ศูนย์กลาง​ ทางซ้าย​จะเป็น​มิติ​หลัก​ ส่วน​ทางขวา​เป็น​มิติ​ธาตุ​ดิน​

ด้าน​หนึ่ง​เหมือนกับ​ก้อน​กลม​ขนาดใหญ่​สีน้ำเงิน​ อีก​ด้าน​เหมือน​ไอ​หมอก​สีเหลือง​ตุ่น​กลุ่ม​หนึ่ง​

ไม่ไกล​ออก​ไป​ยังมี​ยมโลก​สีดำ​สนิท​ที่​เหมือนกับ​กะโหลก​ขนาดใหญ่​

ยังมี​ภพ​สวรรค์​ที่​มีขนาดใหญ่​รอง​จาก​มิติ​หลัก​อีกด้วย​

มองดู​ภพ​สวรรค์​ไกลๆ​ เหมือนกับ​หอคอย​ที่​ถูก​ห่อหุ้ม​อยู่​ใน​ก้อน​สีขาว​ เงย​มอง​ขึ้นไป​ มีสิ่งมีชีวิต​บน​ภพ​สวรรค์​หลายชนิด​อาศัย​อยู่​

ส่วน​อาณาจักร​เทพ​ก็​หมุน​วน​อยู่​เหนือ​ภพ​สวรรค์​อย่าง​ช้าๆ เหมือนกับ​ดาวเทียม​

‘ทด​ลองดู​ได้​แล้ว​…’ ลู่​เซิ่งสัมผัส​ร่าง​หลัก​ของ​ตัวเอง​ ตอนนี้​เลือดเนื้อ​ของ​ร่าง​หลัก​ได้​กลายเป็น​เม็ด​อนุภาค​นับไม่ถ้วน​โปรยปราย​อยู่​ทั่ว​ผิว​มิติ​หลัก​ ห้วง​อเวจี​ ยมโลก​ และ​มิติ​ธาตุ​แห่ง​อื่น​แล้ว​

แสงพุทธะ​สาดส่อง​ไป​ที่​พวก​กระต่าย​ซึ่งกระจาย​เลือดเนื้อ​ของ​เขา​ออก​ไป​ทุก​วินาที​ เพื่อ​ทำให้​กลายเป็น​เมล็ด​ที่​เติบโต​คืนชีพ​ใน​สถานที่​ใดๆ​ ก็ได้​

“มาเลย​ พัน​เท​วะ​” เขา​ค่อยๆ​ เอื้อมมือ​ออกมา​

ของเหลว​สีดำ​จำนวนมาก​แผ่​กระจาย​ออก​มาจาก​ใต้เท้า​ของ​เขา​ แล้ว​กลายเป็น​สิ่งที่​เหมือนกับ​ทะเลสาบ​

กระเรียน​น่ากลัว​ที่​ใหญ่โต​หลาย​พัน​เมตร​ตัว​หนึ่ง​ค่อยๆ​ ลอย​ขึ้น​มาจาก​ด้านใน​ทะเลสาบ​สีดำ​

นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​ลู่​เซิ่งอัญเชิญ​ร่าง​หลัก​ของ​พัน​เท​วะ​หลังจาก​มาถึงโลก​ใบ​นี้​

ครั้งนี้​ลักษณะ​ของ​พัน​เท​วะ​แตกต่าง​ออก​ไป​อีกแล้ว​

เพื่อ​ป้องกัน​การ​สะกด​และ​การ​ทำลาย​ของ​จิต​โลกา​ ลู่​เซิ่งได้​กระจาย​ร่าง​หลัก​ของ​ตัวเอง​ไป​ยัง​มิติ​ต่างๆ​ โดย​หลอม​รวม​ตัวเอง​เข้ากับ​โลก​ใบ​นี้​ หลอม​รวม​ตัวเอง​เข้ากับ​วัฏจักร​การทำงาน​ของ​มิติ​ทั้งหมด​จน​กลายเป็น​ส่วนหนึ่ง​ใน​นี้​

และ​เพื่อ​ดำเนินการ​ปกปิด​อำพราง​ ลู่​เซิ่งยัง​เปลี่ยน​พลัง​แห่ง​ศรัทธา​จำนวนมาก​เป็น​แสงพุทธะ​พลัง​เทพ​ โดย​ใช้ประโยชน์​จาก​แสงเทพ​ใน​การ​ห่อหุ้ม​พัน​เท​วะ​เอาไว้​

ดังนั้น​พัน​เท​วะ​แบบ​ใหม่​จึงถือกำเนิด​ขึ้น​

ท่ามกลาง​ความว่างเปล่า​ สัตว์ประหลาด​น่ากลัว​ที่​มีหัว​เป็น​กระเรียน​ตัว​เป็น​คน​ สลัก​บทสวดมนต์​จำนวนมาก​ไว้​บน​ร่าง​ และ​พัน​ประคำ​สีแดง​พวง​หนึ่ง​ไว้​รอบ​ๆ เอว​ปรากฏ​กาย​ขึ้น​

‘ใช้สัจธรรม​พุทธะ​ของ​ราชา​หมิง​และ​อาศัย​พลัง​เทพ​ที่​โลก​ใบ​นี้​พัฒนา​ขึ้น​มาเป็นตัว​ห่อหุ้ม​ เมื่อ​บวก​รวม​กับ​ความสามารถ​หลอกลวง​ธรรมดา​ ก็​ปิดบัง​จิต​โลกา​ของ​ที่นี่​ได้​จริงๆ​…’

ลู่​เซิ่งเชยชม​ร่าง​พัน​เท​วะ​ที่อยู่​ด้านหน้า​อย่าง​พึงพอใจ​

ความจริง​พัน​เท​วะ​เป็น​รูปลักษณ์​วิญญาณ​ของ​เขา​ หรือ​ควร​บอ​กว่า​สัตว์ประหลาด​ร่าง​มหึมา​ที่​มีหัว​เป็น​กระเรียน​ร่าง​เป็น​คน​ตัว​นี้​ เป็น​ร่าง​วิญญาณ​ของ​เขา​เอง​

พัน​เท​วะ​ไม่ดับสูญ​ เขา​ก็​ไม่มีทาง​ตาย​

แถมเบื้องหลัง​พัน​เท​วะ​ยังมี​โลก​รูป​จิต​อัน​ไพศาล​ ไม่ว่า​มัน​จะถูก​ทำลาย​กี่​ครั้ง​ ขอ​แค่​โลก​รูป​จิต​ยังมี​สสาร​พลังงาน​มาก​พอ​ มัน​ก็​จะเกิด​ใหม่​ได้​เรื่อยๆ​

‘ด้วย​การ​เก็บสำรอง​ของ​เรา​ใน​ตอนนี้​ พัน​เท​วะ​ตาย​ได้​มาก​สุด​หกสิบ​กว่า​ครั้ง​ หาก​มากกว่า​นี้​ โลก​รูป​จิต​จะก่อตัว​ขึ้น​ไม่ได้​อี​ก.​..ดังนั้น​เรา​จึงต้องการ​การ​เก็บสำรอง​ที่​มากกว่า​นี้​…’

ลู่​เซิ่งมอง​ห้วง​ลึก​อย่าง​เงียบงัน​

“ครอบครัว​ของ​ข้า​เอ๋ย​…จงเร่งฝีเท้า​ของ​พวก​เจ้าเถอะ​…” เขา​ไม่ขยับ​ริมฝีปาก​ ทว่า​วิญญาณ​กลับ​กระเพื่อม​ถ่าย​ทอดเสียง​ออก​ไป​ จากนั้น​เสียง​ก็​ป้อน​ผ่าน​เส้นสาย​ศรัทธา​นับไม่ถ้วน​ไป​ถึงสมอง​ของ​กองทัพ​พันธมิตร​สามเผ่า​ใน​สงคราม​บน​มิติ​ใหญ่​ทั้งหลาย​

ฉับพลัน​นั้น​กองทัพ​พันธมิตร​สามเผ่า​จำนวน​หลาย​ร้อย​ล้าน​ก็​กรู​กัน​เข้า​ห้วง​อเวจี​ผ่าน​วงแหวน​เวท​ข้าม​มิติ​อย่าง​บ้าคลั่ง​

ใน​ช่วง​ที่​ลู่​เซิ่งลอย​อยู่​กลาง​ความว่างเปล่า​ ใช้เวลา​เพียง​สามวัน​ ห้วง​อเวจี​ชั้น​ที่​แปดสิบ​ก็​ถูก​ทะลวง​

ไฟอสูร​ความร้อน​สูงใน​ชั้น​ที่​แปดสิบ​ถูก​เผ่า​มนุษย์​ที่​โผล่​มาใหม่​ใช้วงแหวน​รอยสัก​ดูดซับ​ความร้อน​เก็บ​ไว้​ และ​แปลง​เป็น​บ่อน้ำพุร้อน​ ก่อน​จะตั้ง​เป็น​รีสอร์ท​สำหรับ​ให้​ฝ่าย​พลาธิการ​ใช้

หลังจาก​มนุษย์​เข้าร่วม​ลัทธิ​หญ้า​ศักดิ์สิทธิ์​ ก็​เจอ​ตำแหน่ง​ที่​แน่ชัด​ของ​ตัวเอง​อย่าง​รวดเร็ว​

พวกเขา​มีมันสมอง​ชาญฉลาด​ที่สุด​ สามารถ​ทำ​การศึกษา​และ​ทำหน้าที่​พลาธิการ​ได้​อย่าง​ว่องไว​

ใน​หุบเหว​เกลือ​ซึ่งอยู่​ใน​ชั้น​ที่​แปด​สิบเอ็ด​ หลังจาก​เจ้าชาย​อสูร​เกลือ​ถูก​เผ่า​กระต่าย​กวาดล้าง​ พื้นที่​ทั้งหมด​ก็​กลายเป็น​แหล่ง​เกลือ​ที่​มั่นคง​ให้​กับ​ทั้ง​สามเผ่าพันธุ์​

ทะเล​กรด​ใน​ชั้น​แปด​สิบห้า​ของ​ห้วง​อเวจี​ถูก​เผ่า​แมลง​ ปล่อย​แมลง​ที่​มีกรด​รุนแรง​จำนวนมาก​เข้าไป​ล่า​อสูร​ที่อยู่​ด้านใน​ พวก​มัน​มีความสามารถ​แพร่พันธุ์​ที่​น่ากลัว​ พวก​มัน​กิน​สิ่งมีชีวิต​ส่วนหนึ่ง​ใน​ทะเล​กรด​จน​เกลี้ยง​โดย​ใช้เวลา​ไม่นาน​ หลังจาก​ทำลาย​ห่วง​โซ่อาหาร​เรียบร้อย​แล้วก็​พา​กัน​ขึ้นฝั่ง​อย่าง​รวดเร็ว​

พวก​อสูร​ใน​ทะเล​กรด​ที่​เหลือ​ไม่มีอะไร​กิน​ เลย​ได้​แต่​ฆ่ากันเอง​ จนกระทั่ง​สุดท้าย​ไม่มีอะไร​ให้​กิน​อีก​ จอม​อสูร​ที่​จนปัญญา​จึงโดด​ออกจาก​ท้องทะเล​เพื่อ​ฝ่าวงล้อม​ สุดท้าย​ก็​ถูก​สามเผ่า​กลุ้มรุม​แยก​ซากศพ​มาแบ่ง​กัน​กิน​

ห้วง​อเวจี​หลาย​ชั้น​ถูก​พิชิต​อย่าง​ต่อเนื่อง​ จอม​อสูร​ที่​หันหน้า​เข้าหา​ธรรม​ก็​มีมากขึ้น​เรื่อยๆ​ เช่นกัน​

แสงพุทธะ​สาดส่อง​ของ​ลู่​เซิ่งมีอานุภาพ​อหังการ​ถึงขีดสุด​ สิ่งมีชีวิต​ทั้งหมด​ที่​ถูก​แสงพุทธะ​สาดส่อง​ใส่ ขอ​แค่​พลังจิต​สู้ลู่​เซิ่งไม่ได้​ ก็​จะถูก​เลือดเนื้อ​มุด​เข้า​ร่าง​ โดน​ควบคุม​ความเป็นความตาย​ จน​ต้อง​ขาย​ชีวิต​เพื่อ​ลู่​เซิ่ง

ใน​เวลา​สั้น​ๆ แค่​สามปี​

ความสามารถ​แพร่พันธุ์​และ​ความสามารถ​ใน​การ​กิน​อัน​น่ากลัว​ของ​สามเผ่าพันธุ์​ ทำให้​สิ่งมีชีวิต​บน​โลก​ใบ​นี้​ได้​ประจักษ์​ว่า​อะไร​คือ​ผู้​ทำลายล้าง​ทางธรรมชาติ​

ห้วง​อเวจี​ถูก​ตี​แตก​ในทันที​ ความจริง​ตอนที่​ถูก​โจมตี​ถึงชั้น​ที่​ร้อย​ จิต​แห่ง​ห้วง​อเวจี​ก็ได้​ถูก​เปลี่ยน​กลายเป็น​จิต​ของ​หริ​ณพุทธะ​แล้ว​

สามเผ่าพันธุ์​ยึดครอง​ได้​เกือบ​ทุก​มุมใน​ร้อย​ชั้นแรก​ สงคราม​จบ​ลง​ ทุก​พื้นที่​ถูก​ใส่ปุ๋ย​ปรับปรุง​ดิน​ ปลูก​หญ้า​และ​นา​ข้าว​ทั้งหมด​

แสงพุทธะ​สาดส่อง​ ทุก​แห่งหน​สงบสุข​

หลังจาก​จิต​แห่ง​ห้วง​อเวจี​สลาย​ ราย​ต่อไป​ก็​คือ​ยมโลก​

ราชา​ยมโลก​ยัง​หลับใหล​ ว่า​กัน​ว่า​เป็น​เพราะ​ร่าง​ใหญ่โต​เกินไป​ กว่า​มัน​จะฟื้น​อย่าง​น้อย​ต้อง​ใช้เวลา​อีก​ครึ่ง​ปี​

น่าเสียดาย​ที่​กองทัพ​พันธมิตร​สามเผ่า​ร่วมกับ​อสูร​ จอม​อสูร​ และ​เหล่า​เทพ​ที่​เปลี่ยน​ความเชื่อ​แล้ว​ ใช้เวลา​แค่​สามวัน​ก็​เอาชนะ​ยมโลก​ทั้ง​เก้า​ชั้น​ได้​

ราชา​ยมโลก​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ลืมตา​ ก็​ถูก​แสงพุทธะ​นับไม่ถ้วน​สาดส่อง​ใส่เต็ม​หน้า​ เลือดเนื้อ​จำนวนมาก​ของ​ลู่​เซิ่งมุด​เข้าไป​ผ่าน​ส่วนหัว​ของ​มัน​ แล้ว​ทำให้​มัน​แปรพักตร์​ได้​ใน​เวลา​ไม่นาน​

ร่าง​หลัก​ของ​ลู่​เซิ่งเอาชนะ​สิ่งมีชีวิต​ที่​มีข้อบกพร่อง​ชัดเจน​แบบนี้​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

การ​ล่มสลาย​ของ​ห้วง​อเวจี​ทำให้​ขุม​กำลัง​ของ​ลู่​เซิ่งขยาย​ขึ้น​จน​น่ากลัว​

ขอบเขต​ของ​เขา​ไม่เปลี่ยนแปลง​ สิ่งที่​เปลี่ยนแปลง​คือ​การสำรอง​ทรัพยากร​

กิน​เลือดเนื้อ​ของ​สิ่งมีชีวิต​จำนวนมาก​ มอบ​ทรัพยากร​จำนวน​มหาศาล​ที่​ยาก​จินตนาการ​ให้​แก่​โลก​รูป​จิต​ สิ่งมีชีวิต​ที่​ลู่​เซิ่งกิน​ไป​ใน​ช่วงเวลา​สามปี​เยอะ​กว่า​ตอนที่​กิน​ดาวเคราะห์​ดวง​หนึ่ง​เมื่อ​ครั้งกระโน้น​หลาย​เท่าตัว​

หลัง​ยมโลก​ล่มสลาย​ พลัง​ของ​ลู่​เซิ่งก็​ขยาย​ขึ้น​อีก​เท่า​หนึ่ง​

โลก​ใบ​นี้​มาถึงช่วงเวลา​เก็บเกี่ยว​แล้ว​ ร่าง​หลัก​ของ​เขา​ลอย​อยู่​กลาง​ความว่างเปล่า​ด้านนอก​ สถานที่​อื่นๆ​ ใช้ประโยชน์​จาก​ความสามารถ​กาย​อมตะ​พัน​เท​วะ​ แบ่ง​แยกร่าง​แยก​หลาย​ร้อย​ร่าง​ที่​มีพลัง​เท่ากับ​เทพ​ระดับ​กลาง​ออกมา​

จากนั้น​ทุกที่​ทั่ว​สารทิศ​ก็​ราบเป็นหน้ากลอง​

มิติ​หลัก​ก็ดี​ มิติ​ธาตุ​แห่ง​อื่นๆ​ ก็ดี​ ใน​เวลา​เพียง​ห้า​ปี​ นอกจาก​มนุษย์​ลู่​เซิ่งได้​กิน​สิ่งมีชีวิต​ของ​โลก​ใบ​นี้​เข้าไป​ใน​โลก​รูป​จิต​เกือบ​หมด​

เทียบ​กับ​ตอนที่​เพิ่ง​มาถึงใหม่​ๆ โลก​รูป​จิต​ของ​เขา​ขยาย​มากกว่า​เดิม​สิบ​เท่าตัว​ ใหญ่​เป็น​ครึ่งหนึ่ง​ของ​โลก​ใบ​เดิม​แล้ว​

หลังจาก​มาถึงขั้น​นี้​ ลู่​เซิ่งก็ได้​ครอบครอง​พลัง​อัน​น่ากลัว​ของ​ผู้ยิ่งใหญ่​ขอบเขต​มายา​พิศ​วงใน​ระดับ​ทำลาย​ดวงดาว​ขั้นต้น​แล้ว​

ไม่ใช่แค่​ทำลาย​สิ่งมีชีวิต​บน​ดาวเคราะห์​เท่านั้น​ หาก​ทำลาย​ตัว​ดาวเคราะห์​ไป​พร้อมๆ กัน​อีกด้วย​

เมือง​เมฆหมอก​

ด้านใน​คฤหาสน์​สีแดง​ของ​เงามาร​

ลู่​เซิ่งพิง​อยู่​บน​เก้าอี้หวาย​ถือ​ถ้วยกาแฟ​ที่​มีควัน​ลอย​กรุ่น​ขณะ​มองดู​บุรุษ​ผม​ทอง​สวม​เสื้อคลุม​สีขาว​ที่​มีสีหน้า​เรียบ​เฉย​เคร่งขรึม​ตรงหน้า​

มาถึงขั้น​นี้​ ถ้าหาก​นิกาย​แสงสว่าง​และ​เงายัง​ไม่มีปฏิกิริยา​อีก​ อย่างนั้น​ก็​คง​โง่เง่าเต่าตุ่น​ถึงขีดสุด​จริงๆ​

ทว่า​ปัจจุบันนี้​ กองทัพ​พันธมิตร​สามเผ่า​จำนวน​เจ็ด​พัน​ล้าน​กว่า​ได้​บุกรุก​เข้ามา​ใน​โลก​ใบ​นี้​หมด​แล้ว​

แม้แต่​จิต​ธรรมชาติ​และ​สภาพแวดล้อม​ก็​เริ่ม​ได้รับ​ผลกระทบ​ไม่น้อย​

พูด​ตามตรง​ จิต​ธรรมชาติ​ก็​คือ​ร่าง​จิต​ขนาด​ยักษ์​ที่​รวมตัว​จาก​กฎเกณฑ์​และ​สิ่งมีชีวิต​นับไม่ถ้วน​ ซึ่งมัน​จะกีดกัน​คุณสมบัติ​กับ​การเปลี่ยนแปลง​ที่​มีอันตราย​ต่อ​ตัวเอง​โดยสัญชาตญาณ​

ทว่า​ลู่​เซิ่งได้​แอบ​แทรกซึม​ผ่าน​ความสามารถ​หลอกลวง​ธรรมชาติ​ รอ​จนกระทั่ง​จิต​ธรรมชาติ​ค้นพบ​ ก็​สาย​ไป​เสียแล้ว​

“เรื่องราว​มาถึงขั้น​นี้​ พวก​เจ้าควรจะ​รู้​ว่า​ ไม่ว่า​ข้า​จะเสนอ​เงื่อนไข​อะไร​ พวก​เจ้าก็​ต้อง​ตอบรับ​”

ลู่​เซิ่งมอง​ร่าง​แปลง​ของ​เทพ​จาก​นิกาย​แสงสว่าง​ตรงหน้า​และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​

“เปลือกนอก​เป็น​อย่าง​ที่ว่า​ แต่​ท่าน​อาจจะ​ไม่รู้​สาเหตุ​หลัก​ที่​เทพ​แห่ง​แสงสว่าง​และ​เทพ​แห่ง​เงาห้ำหั่น​กัน​มาหลาย​ปี​” บุรุษ​ที่​เป็น​ร่าง​แปลง​ของ​เทพ​จันทรา​ มงซิเออร์​ ใน​ระบบ​เทพ​แสงสว่าง​เอ่ย​ขึ้น​

ซึ่งเป็น​เทพ​ระดับ​กลาง​ที่​แข็งแกร่ง​ใกล้เคียง​กับ​เทพ​ระดับ​บน​

“ที่​พวกเรา​มาปรับความเข้าใจ​กับ​ท่าน​ ไม่ได้​หวัง​ช่วย​ระบบ​เทพ​สาย​อื่น​ สิ่งที่​พวกเรา​ต้องการ​คือ​ไม่ยุ่งเกี่ยว​กันและกัน​เท่านั้น​” มงซิเออร์​กล่าว​อย่าง​ราบเรียบ​

“หือ​?” ลู่​เซิ่งพลัน​เกิด​ความสนใจ​ “ข้า​ยึด​มิติ​หลัก​ไป​แล้ว​หนึ่ง​ใน​สามส่วน​ เจ้าไม่กังวล​หรือ​”

“แสงของ​เทพ​องค์​หลัก​สาดส่อง​ทุกสิ่ง​ ขอ​แค่​พรุ่งนี้​ดวงอาทิตย์​ยัง​ขึ้น​ แสงสว่าง​จะไม่โรยรา​ชั่วนิรันดร์​” มงซิเออร์​สีหน้า​ไม่เปลี่ยนแปลง​

ลู่​เซิ่งเลิกคิ้ว​ “ดวงอาทิตย์​ เจ้าหมายถึง​ไอ้​นั่น​รึเปล่า​” เขา​ชี้ไป​ที่​นอก​หน้าต่าง​

กลาง​ท้องฟ้า​นอก​หน้าต่าง​ หริ​ณพุทธะ​สีทอง​ที่​ทำ​มุทรา​บุปผา​และ​ยิ้ม​น้อย​ๆ กำลัง​ปล่อยแสง​สีทอง​ไร้​สิ้นสุด​ออกมา​ดุจ​ดวงอาทิตย์​สีทอง​เพื่อ​สาดส่อง​เมือง​บน​ผืนดิน​ด้านล่าง​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท