บทที่ 743 เปิดเผย (1)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

เทพ​จันทรา​งุนงง​เล็กน้อย​ ก่อนหน้านี้​พุทธะ​องค์​นั้น​ไม่แสดงตัว​ จึงมอง​ไม่ออ​กว่า​ดวงอาทิตย์​ดวง​นี้​เกิด​มาจาก​มัน​ ตอนนี้​กลับ​โผล่​มาพร้อม​เสียง​ของ​ลู่​เซิ่ง เขา​จึงค่อย​เห็นชัด​กับ​ตา​ว่า​ดวงอาทิตย์​ดวง​นี้​ถึงกับ​…

ถึงแม้ดวงอาทิตย์​ดวง​นี้​จะไม่ใช่ดาวฤกษ์​ที่​แท้จริง​ มีขนาด​เท่า​มิติ​ขนาดเล็ก​ๆ แห่ง​หนึ่ง​เท่านั้น​ แต่​แสงสว่าง​กับ​ความร้อน​ของ​มัน​ ต่อให้​เป็น​คาถา​เทพ​ระดับ​สูงสุด​หรือ​เทพ​ระดับ​ล่าง​ก็​ไม่อยาก​จะไป​ยุ่ง​ด้วย​

ทว่า​ลู่​เซิ่งใช้หริ​ณพุทธะ​ส่องแสง​แทน​ดวงอาทิตย์​ใน​พื้นที่​ขนาดใหญ่​

เทพ​จันทรา​ไม่ทราบ​ว่า​ทำได้​อย่างไร​ แต่​นี่​ไม่ได้​เป็น​อุปสรรค​ให้​เขา​เกิด​ความ​กริ่งเกรง​ลู่​เซิ่งยิ่งกว่า​เดิม​

“ใน​เมื่อ​ราชา​แห่ง​ประกาย​รุ้ง​มีแผนการ​ตั้ง​แต่ต้น​แล้ว​ ข้า​ก็​ไม่ขอ​พูดมาก​ เพียงแต่​…”

“ข้า​ไม่สนใจ​เป้าหมาย​และ​สงคราม​เทพ​ของ​พวก​เจ้า ข้า​เพียง​ต้องการ​รวบรวม​วัตถุ​โบราณ​หรือ​อาวุธ​เทพ​ที่​มีประวัติศาสตร์​ยาวนาน​เท่านั้น​ ถ้าหาก​พวก​เจ้ามีสมบัติ​คล้ายๆ​ กัน​นี้​ ข้า​จะให้ความร่วมมือ​กับ​ปฏิบัติการ​ของ​พวก​เจ้าใน​เชิงยุทธศาสตร์​ด้วย​” ลู่​เซิ่งพลัน​ตัดบท​เขา​ด้วย​รอยยิ้ม​

“การ​ร่วมมือ​เชิงยุทธศาสตร์​หรือ​” เทพ​จันทรา​งงงัน​

สำหรับ​เขา​นี่​เป็นเรื่อง​ที่​ประหลาด​มาก​ กองทัพ​พันธมิตร​สามเผ่าพันธุ์​ได้​ยึดครอง​อาณาเขต​และ​สาวก​ไป​มากมาย​ หาก​ต้องการ​เงินทอง​และ​ทรัพย์สมบัติ​ ก็​สามารถ​รวบรวม​ได้​เลย​ ทั้ง​ยัง​จะได้​ไป​ไม่น้อย​ด้วย​

กระนั้น​คำพูด​ของ​ราชา​แห่ง​ประกาย​รุ้ง​หมายถึง​อะไร​

ยอม​อ่อนข้อ​หรือ​

เป็นไปไม่ได้​ แม้แต่​ห้วง​อเวจี​ยัง​ว่า​กัน​ว่า​ถูก​บุรุษ​ที่​น่ากลัว​ตรงหน้า​ฮุบ​กลืน​ไป​มากกว่า​ครึ่ง​แล้ว​ ยมโลก​เอง​ก็​กลายเป็น​อาณาเขต​ของ​เขา​แล้ว​เช่นกัน​

ใน​ฐานะ​ราชา​แห่ง​ห้วง​อเวจี​และ​ยมโลก​ ชื่อเสียง​และ​พลัง​ของ​ราชา​แห่ง​ประกาย​รุ้ง​ไม่มีทาง​อ่อนด้อย​ไป​กว่า​ระบบ​เทพ​ของ​ตน​ ไป​จน​ถึงขั้น​เหนือกว่า​!

“ขออภัย​ที่​ข้า​กล่าว​ตามตรง​ วัตถุ​โบราณ​ที่​มีประวัติศาสตร์​ยาวนาน​ซึ่งท่าน​ต้องการ​ ระบบ​เทพ​หรือ​นิกาย​เรา​มีเยอะ​มาก​ๆ…”

“สิ่งที่​ข้า​ต้องการ​คือ​วัตถุ​โบราณ​ที่​มีตำนาน​ของ​ตัวเอง​ ข้า​เป็น​คนจริง​ ถ้าพวก​เจ้าเอา​ของ​แบบนี้​ออกมา​ได้​มาก​พอ​ ข้า​ก็​จะมอบ​เขต​ฟราน​ที่อยู่​ทางเหนือ​ของ​อัลตูร์​ให้​พวก​เจ้าทันที​” ลู่​เซิ่งกล่าว​อย่าง​ราบเรียบ​

“ท่าน​แน่ใจ​หรือ​!” ม่านตา​ของ​เทพ​จันทรา​หดตัว​

“แน่​สิ!”

“ข้า​จะไป​แจ้งเทพ​องค์​หลัก​ของ​พวกเรา​ก่อน​” พอ​เทพ​จันทรา​ได้รับ​ข่าว​ก็​ผลุนผลัน​กลับ​ไป​ทันที​

ลู่​เซิ่งนั่ง​ดื่ม​กาแฟ​อยู่​ตามลำพัง​ พิง​เก้าอี้​ด้วย​สีหน้า​เกียจคร้าน​

ทรัพยากร​เพียง​หนึ่งเดียว​บน​โลก​ใบ​นี้​คือ​คุณสมบัติ​เทพ​และ​พลัง​อาวรณ์​ เขา​ได้​ทำความเข้าใจ​คุณสมบัติ​เทพ​ไป​พอประมาณ​แล้ว​ ทั้ง​ยัง​มีความรู้​อย่าง​ล้ำลึก​ต่อ​การทำงาน​ใน​ขอบเขต​พิเศษ​ส่วนหนึ่ง​ของ​โลก​อีกด้วย​

สิ่งที่​เขา​ต้องการ​เป็นหลัก​คือ​กฎเกณฑ์​พื้นฐาน​ สาขา​ใน​ระดับ​ที่สูง​เกินไป​ไม่เหมาะ​จะใช้กับ​โลก​รูป​จิต​ของ​เขา​

การปรับปรุง​โลก​รูป​จิต​ดีขึ้น​มาก​เพราะ​สาเหตุนี้​

แม้การ​รั้ง​อยู่​ต่อ​ยัง​มีประโยชน์​ที่​ไม่เลว​ แต่​ตอนนี้​เขา​ไม่คิด​จะอยู่​อีกต่อไป​ เป็น​เพราะ​หาก​จะศึกษา​คุณสมบัติ​เทพ​ต่อ​ จำเป็นต้อง​ฆ่าเทพ​มากกว่า​นี้​ กระนั้น​ระบบ​เทพ​สมุทร​กับ​ระบบ​เทพ​น้ำแข็ง​ต่าง​หดหัว​อยู่​ใน​อาณาจักร​เทพ​ของ​ตัวเอง​ไม่ยอม​ออกมา​

คิด​จะสู้กับ​เทพ​องค์​หลัก​ที่​ไม่ออก​มาจาก​อาณาจักร​เทพ​ของ​ตัวเอง​ ต่อให้​เขา​มีพลัง​แข็งแกร่ง​กว่า​นี้​สัก​สิบ​เท่า​ ก็​ไม่แน่​ว่า​จะสำเร็จ​

ตอนนี้​เขา​เป็น​เทพ​ระดับ​กลาง​ขั้นสูงสุด​ เพียงแต่​อาศัย​กาย​อมตะ​กับ​พลัง​สำรอง​ที่​ยิ่งใหญ่​มหาศาล​เท่านั้น​ เลย​สามารถ​สร้าง​ร่าง​แยก​เทพ​ระดับ​กลาง​หลาย​ร้อย​ตัว​ออกมา​รุม​โจมตี​ร่วมกัน​ได้​เป็น​ระยะเวลา​สั้น​ๆ กอปร​กับ​มิติ​หลัก​ไม่สามารถ​สะกด​เขา​ได้​ด้วย​

ถ้าไม่ใช่แบบนี้​ เขา​เอง​ก็​เอาชนะ​เทพ​ระดับ​บน​ไม่ได้​เหมือนกัน​ อย่าง​มาก​สุด​ก็​แค่​ก้ำกึ่ง​สูสีเท่านั้น​

คิด​จะฆ่าเทพ​เหล่านี้​ ได้​แต่​ถ่วงเวลา​ แต่​เขา​ไม่มีเวลา​ขนาด​นั้น​

‘ขจัด​สงคราม​ ปกป้อง​สันติภาพ​ ขอ​แค่​ทำให้​ผลกรรม​ที่​ใหญ่​ที่สุด​นี้​สำเร็จ​ได้​ จากนั้น​ก็​สร้าง​เสถียรภาพ​ให้​แก่​ตำแหน่ง​และ​อำนาจ​ของ​เงามาร​ เรา​ก็​จะออกจาก​ที่นี่​ได้​เป็นการชั่วคราว​’

ลู่​เซิ่งเข้า​ใจดี​ เป็น​เพราะ​การ​ไหล​ของ​เวลา​แตก​ต่างกัน​มาก​ ทำให้​แผนการ​ใดๆ​ ของ​เขา​ที่อยู่​ที่นี่​มีตัวแปร​มากมาย​

ดังนั้น​เขา​จึงไม่คิด​ปล่อย​ให้​เงามาร​รั้ง​อยู่​บน​โลก​ใบ​นี้​

‘ต้องหา​โลก​ที่​การ​ไหล​ของ​เวลา​ไม่ต่าง​มาก​นัก​ให้​เงามาร​อยู่​…’ ลู่​เซิ่งใคร่ครวญ​ “ยังมี​เผ่า​มังกร​สีรุ้ง​ด้วย​…”

พอ​นึกถึง​ตรงนี้​ เขา​ก็​ลุกขึ้น​และ​เดิน​ออกจาก​ห้องสมุด​

ติง​ติง​ๆๆ ติง​ๆ

ด้านใน​ห้อง​ซ้อม​ดนตรี​ด้านบน​ ลูกสาว​ลู่​หง​เย่​กำลัง​ฝึกฝน​พิณ​อย่าง​ขะมักเขม้น​

เดิมที​เมื่อวานซืน​นาง​จะต้อง​ไป​ช่วยเหลือ​เผ่า​มังกร​ทอง​ ด้วย​การ​เปิด​ใช้มรดก​และ​ชิงอาวุธ​เทพ​ เพื่อ​เอาชนะ​กองทัพ​มังกร​นิล​

แต่​หลังจาก​ถูกลู่​เซิ่งตี​ไป​รอบ​หนึ่ง​ ก็ได้​แต่​ซ้อม​พิณ​อยู่​ที่​บ้าน​อย่าง​เชื่อฟัง​

ลู่​เซิ่งใคร่ครวญ​ สุดท้าย​ก็​ตัดสินใจ​บอกกล่าว​ยัย​หนู​น้อย​สัก​คำ​

ก๊อก​ๆๆ

“หงเย่”​ ลู่​เซิ่งเรียก​เบา​ๆ

“ท่าน​พ่อ​ มีอะไร​หรือ​คะ​” ประตู​เปิด​ออก​ทันที​ ผ่าน​ไป​หลาย​ปี​ รูปโฉม​ของ​ลู่​หง​เย่​ยังอยู่​ใน​วัย​สิบ​หกสิบ​เจ็ด​ มีความ​องอาจ​แฝงอยู่​ใน​ความบริสุทธิ์​ ยังคง​งดงาม​น่ารัก​และ​มีหน้าอก​ราบเรียบ​เหมือนเดิม​

สิ่งที่​แตกต่าง​ออก​ไป​ก็​คือ​รูปร่าง​เริ่ม​มีส่วนโค้ง​ส่วน​เว้า​ ดูเหมือน​จะอวบ​ขึ้น​เล็กน้อย​ มีแต่​เอว​เล็ก​ๆ เท่านั้น​ที่​ยัง​เพรียวบาง​ สอง​ขา​ยังคง​เต่งตึง​เรียว​ยาว​เพราะ​ออกกำลังกาย​เป็นประจำ​ ผม​ยาว​ที่​เรียบ​ละมุน​สยาย​ลงมา​ ยังมี​กลิ่น​กาย​ตาม​ธรรมชาติ​จางๆ

ลู่​เซิ่งย่น​จมูก​ ดม​แก่นสาร​ของ​กลิ่น​นี้​ออก​

นี่​เป็น​กลิ่น​กาย​อันเป็น​เอกลักษณ์​ของ​ราชา​มังกร​ทอง​ตาม​มาตรฐาน​ แม้จะได้​กลิ่นหอม​ตอน​ดม​ แต่​ความจริง​มีกลิ่น​ข่มขวัญ​มังกร​ทอง​ตัว​อื่นๆ​ มีความสามารถ​สะกด​ใน​ระดับ​หนึ่ง​

“ไม่ได้​มาหา​เจ้านาน​ ช่วงนี้​ผอม​หมด​แล้ว​” ลู่​เซิ่งลูบ​ศีรษะ​ของ​ลูกสาว​ “ช่วงนี้​ข้า​ยุ่ง​นิดหน่อย​ ไม่มีเวลา​ดูแล​เจ้า เจ้าเพิ่งจะ​เรียนจบ​ไม่นาน​ ไอ้​งาน​นิตยสาร​ท่องเที่ยว​นั่น​ยัง​ทำ​อยู่​ไหม​”

งาน​นิตยสาร​ท่องเที่ยว​ที่ว่า​นั่น​เป็น​เหตุผล​ที่​ลู่​หง​เย่​แต่ง​ขึ้น​เท่านั้น​ ความจริง​นาง​คอย​ช่วยเหลือ​เผ่า​มังกร​ทอง​มาโดยตลอด​

“ยัง​…ยัง​ทำ​อยู่​ค่ะ​…” ลู่​หง​เย่​ก้มหน้า​ลง​อย่าง​ขาด​กลัว​อยู่​บ้าง​ ด้วย​ไม่ต้องการ​ให้​พ่อ​เห็น​ดวงตา​ของ​ตัวเอง​

“รู้จัก​แบ่ง​ความสำคัญ​ก็ดี​ จริง​สิ ข้า​มาบอก​เจ้าว่า​ อีกไม่นาน​พวกเรา​อาจ​ต้อง​ย้ายบ้าน​ ย้าย​ไป​ยัง​สถานที่​ที่อยู่​ไกล​มาก​ เจ้าเตรียมตัว​ไว้​ด้วย​ล่ะ​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​เบา​ๆ

“ย้ายบ้าน​หรือ​คะ​”

“อือ​ ถึงเวลา​นั้น​ งาน​ของ​เจ้าต้อง​ปรับเปลี่ยน​เหมือนกัน​ อีก​ประเดี๋ยว​ไป​บอกลา​เพื่อนร่วมงาน​ให้​เรียบร้อย​ อย่างไร​ก็​อยู่​ด้วยกัน​มาตั้ง​นาน​” ลู่​เซิ่งกำชับ​

“…อ้อ​…” ลู่​หง​เย่​ครุ่นคิด​ อย่างไร​ด้วย​ความเร็ว​ใน​การ​บิน​ของ​เผ่า​มังกร​ทอง​ ต่อให้​ย้ายบ้าน​ก็​คง​ย้าย​ไม่ไกล​เท่าไหร่​ อย่าง​มาก​สุด​ก็​บิน​โดย​ใช้เวลา​นิดเดียว​ก็​ถึงแล้ว​

หลังจาก​กำชับ​ลูกสาว​เสร็จ​ ลู่​เซิ่งก็​ลังเล​ว่า​จะพา​นาง​ไป​ด้วยดี​ไหม​

บางที​ให้​นาง​อยู่​ที่​โลก​ใบ​นี้​ก็​ไม่เลว​เหมือนกัน​ อย่าง​น้อย​ก็​มีมังกร​ทอง​คอย​ปกป้อง​ ทำให้​นาง​มีหลักประกัน​ความปลอดภัย​มาก​พอ​

หลังจาก​สั่งเสร็จ​ ลู่​เซิ่งก็​ลง​ไป​ชั้นล่าง​ ตรวจสอบ​สวนดอกไม้​แฟรี่​แห่ง​ความกลัว​กับ​พ่อบ้าน​แฮงค์​ และ​บอก​แผนการ​ที่จะ​ย้ายบ้าน​ไป​ด้วย​

เมือง​แสงอรุณ​ใน​ตอนนี้​ได้​กลายเป็น​เมืองหลวง​แกนกลาง​ที่​แท้จริง​ภายใต้​การปกครอง​ของ​ทัพ​พันธมิตร​สามเผ่าพันธุ์​แล้ว​

กลุ่ม​วิศวกร​จำนวนมาก​ขยาย​สิ่งก่อสร้าง​ ประชากร​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ถูก​อพยพ​เข้ามา​

กำแพงเมือง​ที่​เหมือน​ป้อมปราการ​ถูก​จัดแสดง​เหมือน​ของ​ตกแต่ง​ แม้แต่​ออร์ค​จำนวนมาก​ก็​มีการอพยพ​เข้ามา​ส่วนหนึ่ง​ เพื่อให้​ใช้ชีวิต​ใน​ฤดูหนาว​ได้​ผ่าน​การ​แลกเปลี่ยน​สิ่งของ​และ​ได้รับ​อาหาร​

ลู่​เซิ่งตรวจสอบ​สภาพ​ใน​เมือง​สักครู่​ เขา​จำเป็นต้อง​ทิ้ง​รากฐาน​ส่วนหนึ่ง​ไว้​บน​โลก​ใบ​นี้​ โดย​ใช้แผนการ​ลับ​เผื่อว่า​วันหน้า​อาจ​ได้​กลับมา​

การ​วางแผนการ​ลับ​ไว้​นั้น​ง่ายดาย​ยิ่ง​ หลังจาก​เขา​ออกคำสั่ง​หลาย​สิบ​คำสั่ง​ใน​ที่ว่าการ​เจ้าเมือง​ แผนการ​ลับ​ทั้งหมด​ก็​ได้รับ​การ​จัดการ​เรียบร้อย​

เวลานี้​ระบบ​แสงสว่าง​และ​เงาต่าง​ส่งข่าว​มา

เนื่องจาก​แรงกดดัน​อัน​มหาศาล​ของ​กองทัพ​พันธมิตร​สามเผ่าพันธุ์​ ระบบ​เทพ​สอง​สาย​จึงเห็นด้วย​กับ​ข้อเสนอ​ของ​ลู่​เซิ่งเหมือน​ที่​คาดการณ์​ไว้​

พวกเขา​จะใช้วัตถุ​โบราณ​จำนวนมาก​มาแลก​กับ​อาณาเขต​และ​สาวก​ที่​ลู่​เซิ่งยึดครอง​อยู่​

ระบบ​เทพ​ทั้งสอง​สายส่ง​ทูต​มาลงนาม​ข้อตกลง​กับ​ลู่​เซิ่ง วัน​ต่อมา​ สัญญาที่​มีชื่อว่า​ข้อตกลง​พิภพ​ดารา​ก็​ถูก​ลงนาม​สำเร็จ​ใน​เมือง​แสงอรุณ​

นี่​หมายความว่า​ในที่สุด​สงคราม​อัน​รุนแรง​บน​มิติ​หลัก​ก็​เข้าสู่​ช่วง​สงบสุข​

ลู่​เซิ่งทำ​ความปรารถนา​ผลกรรม​ของ​พลัง​แห่ง​วัฏจักร​ที่​เขา​ดูดซับ​ไว้​สำเร็จ​ลง​ส่วนหนึ่ง​ นั่น​คือ​การ​หยุด​สงคราม​

ใน​วัน​ที่สาม​ เกราะ​และ​อาวุธ​โบราณ​ระดับ​ตำนาน​จำนวนมาก​ได้​ถูก​ทยอย​ขนส่ง​มาถึงเมือง​แสงอรุณ​ ในเวลาเดียวกัน​ วัตถุ​โบราณ​จำนวนมาก​ก็​ถูก​ขน​มาที่​เมือง​แสงอรุณ​ผ่าน​กองทัพ​พันธมิตร​สามเผ่าพันธุ์​ภายใต้​คำสั่ง​ของ​ลู่​เซิ่งเช่นกัน​

แสงใน​การข้าม​มิติ​กะพริบ​เป็นเวลา​เกือบ​ยี่สิบ​สี่ชั่วโมง​ ต่อมา​วงแหวน​เวท​ข้าม​มิติ​มากกว่า​ร้อย​อัน​ได้รับ​การ​บำรุงรักษา​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ถึงจะสามารถ​คง​การข้าม​มิติ​ใน​ระดับสูง​เอาไว้​ได้​

ถัด​จากนั้น​ลู่​เซิ่งก็​กลืน​กิน​พลัง​อาวรณ์​ใน​วัตถุ​โบราณ​ที่​ถูก​ขน​มาจาก​สถานที่​ต่างๆ​ ติดต่อกัน​ห้า​วัน​ ถ้าโชคดี​ เขา​จะได้​พลัง​อาวรณ์​มากกว่า​ล้าน​หน่วย​ใน​หนึ่ง​วัน​ ถ้าโชคไม่ดี​ก็ได้​แค่​สามแสน​สี่แสน​หน่วย​เท่านั้น​

วัตถุ​โบราณ​หลาย​ชิ้น​ไม่มีพลัง​อาวรณ์​แม้แต่​หน่วย​เดียว​

ห้า​วันก่อน​ วัตถุ​โบราณ​นับไม่ถ้วน​ที่​ถูก​ขน​มามีจำนวนมาก​ที่สุด​ ต่อมา​ก็​ลดน้อยลง​เรื่อยๆ​

จุดสำคัญ​สุดท้าย​คือ​อาวุธ​เทพ​ก้น​หีบ​ของ​นิกาย​แสงสว่าง​ นิกาย​เงา และ​นิกาย​อื่นๆ​

อาวุธ​กึ่ง​เทพ​พวก​นี้​เป็น​สมบัติ​ทาง​ประวัติศาสตร์​ที่​มีอายุ​ยาวนาน​ถึงขีดสุด​ พลัง​อาวรณ์​ย่อม​ยิ่งใหญ่​มหาศาล​

อาวุธ​เทพ​ที่​สมบูรณ์​ทั้งหมด​สิบ​กว่า​ชิ้น​มอบ​พลัง​อาวรณ์​เกือบ​ห้าสิบ​ล้าน​หน่วย​ให้​แก่​ลู่​เซิ่ง น่า​หวั่น​สะพรึง​อย่างยิ่ง​

ทั้งหมด​รวมกัน​ ใน​เวลา​สิบ​กว่า​วัน​ เขา​ได้​ดูดซับ​พลัง​อาวรณ์​ทั้งหมด​แปดสิบ​ล้าน​กว่า​หน่วย​

นี่​ได้​ชดเชย​การเผาผลาญ​อย่าง​สาหัส​ตอน​เรียนรู้​วรยุทธ์​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​ ถึงขั้น​ได้​กำไร​มามหาศาล​ พึง​ทราบ​ว่า​ตอน​ลู่​เซิ่งเพิ่ง​เข้าสู่​โลก​ใบ​นี้​ เขา​มีแค่​แปด​ล้าน​กว่า​หน่วย​ ตอนนี้​รวมกัน​แล้ว​มีถึงแปดสิบ​ล้าน​กว่า​หน่วย​ ทบ​ทวี​ขึ้น​สิบ​เท่า​

ลู่​เซิ่งเริ่ม​มอบ​พื้นที่​จำนวนมาก​ที่สาม​เผ่าพันธุ์​ยึดครอง​อยู่​ให้​ระบบ​เทพ​ตาม​ข้อตกลง​

เป็น​เพราะ​บารมี​อัน​ยิ่งใหญ่​ของ​หริ​ณพุทธะ​ สามเผ่าพันธุ์​จึงไม่มีใคร​โต้แย้ง​

ลู่​เซิ่งฉวยโอกาส​เลือก​ชั้น​ที่​ไม่มีร่าง​มีชีวิต​ใดๆ​ ด้านใน​ห้วง​อเวจี​ และ​เปิด​เส้นทาง​ที่​เชื่อม​ไป​ยัง​โลก​รูป​จิต​ของ​ตัวเอง​

สำหรับ​การ​จัดหา​ที่อยู่​ให้​แก่​สามเผ่าพันธุ์​ เขา​คิด​จะรับ​พวกเขา​เข้าไป​ใน​โลก​รูป​จิต​

โลก​รูป​จิต​อนุญาต​ให้​สิ่งมีชีวิต​ที่​มีสิทธิ์​พิเศษ​อาศัย​อยู่​ได้​ แม้จะได้​แต่​อยู่​ใน​สภาพ​วิญญาณ​ แต่​มัน​ก็​เป็น​โลก​ที่​สมบูรณ์​เหมือนกัน​ ไม่แตกต่าง​อะไร​กับ​โลก​ภายนอก​

โดยเฉพาะ​โลก​รูป​จิต​ใน​ปัจจุบัน​ยัง​ใหญ่​เท่ากับ​ครึ่งหนึ่ง​ของ​โลก​ใบ​เดิม​ มีพื้นที่​ไพศาล​ มาก​พอให้​สามเผ่าพันธุ์​อยู่อาศัย​

สิ่งมีชีวิต​ใน​โลก​รูป​จิต​ยิ่ง​มาก​เท่าไหร่​ ก็​ยิ่ง​มีส่วนช่วย​ต่อ​การขยับขยาย​พื้นที่​ของ​โลก​รูป​จิต​มาก​เท่านั้น​ การวิวัฒนาการ​ของ​กฎเกณฑ์​ก็​จะสมบูรณ์​มากขึ้น​เช่นกัน​ นอกจากนี้​เนื่องจาก​เขา​เป็น​ผู้ควบคุม​วัฏจักร​ใน​นั้น​ เขา​จึงคัดเลือก​วิญญาณ​ที่​แข็งแกร่ง​จาก​ด้านใน​ แล้ว​ปล่อย​ออกมา​ใช้งาน​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​

เมื่อ​เป็น​แบบนี้​ ศักยภาพ​ของ​ร่าง​หลัก​ของ​ลู่​เซิ่งจึงแข็งแกร่ง​กว่า​เดิม​

เพียงแต่​ตอนนี้​เขา​ยัง​ไม่มีแผนการ​นี้​

นอกจากนี้​สุดท้าย​แล้ว​ยัง​มีปัญหา​ที่​สำคัญ​ที่สุด​อยู่​อีก​อย่างหนึ่ง​ นั่น​ก็​คือ​ควรจะ​จัดการ​ห้วง​อเวจี​และ​ยมโลก​ที่​ถูก​เลือดเนื้อ​เขา​ยึดครอง​พื้นที่​ไป​มากกว่า​ครึ่ง​อย่างไร​ดี​

ไม่นาน​ลู่​เซิ่งก็​บอก​ตำแหน่ง​ที่​เตรียม​จะย้ายบ้าน​ให้​ลู่​หง​เย่​ฟัง เป็น​สถานที่​ที่​ไม่เคย​มีใคร​ได้ยิน​มาก่อน​

ลู่​หง​เย่​หรือ​เผ่า​มังกร​ทอง​ย่อม​ไม่มีใคร​เคย​ได้ยิน​มาก่อน​ เป็น​เพราะ​ที่​แห่ง​นั้น​เป็น​เมือง​ลอยฟ้า​ขนาด​ยักษ์​ที่​ลู่​เซิ่งเพิ่ง​สร้าง​ขึ้น​ใน​มิติ​แห่ง​หนึ่ง​กลาง​ความว่างเปล่า​

ถ้าไม่มีเรื่อง​เหนือ​ความคาดหมาย​ เขา​คิด​จะนำ​เมือง​ลอยฟ้า​นี้​ออกจาก​โลก​ใบ​นี้​ด้วย​

เพียงแต่​นั่น​จะเพิ่ม​เงื่อนไข​ให้​แก่​ค่าย​กล​ข้าม​มิติ​มากเกินไป​ ต่อให้​เขา​เป็น​ปรมาจารย์​ค่าย​กล​ ก็​จำเป็นต้อง​เตรียมการ​ล่วงหน้า​มากมาย​เช่นกัน​ หนำซ้ำ​จะสำเร็จ​หรือไม่​ก็​ยัง​ไม่รู้​

ในเวลานี้​เอง​ ทาง​ลู่​หง​เย่​ผู้​เป็น​ลูกสาว​กลับมา​เปิดเผย​ความจริง​กับ​เขา​อย่าง​ที่​คาดการณ์​ไว้​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท