บทที่ 754 เมล็ดพันธุ์ (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

“ขอ​ไม่ปิดบัง​สหาย​เฝิง ข้า​คิด​จะก่อตั้ง​สมาคม​วิจัย​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​ขึ้น​ที่นี่​ โดย​จะรวบรวม​คน​มีความรู้​ซึ่งสนใจ​เรื่อง​พวก​นี้​มาตั้ง​เป็น​องค์กร​ เพื่อ​วิจัย​ต้นกำเนิด​กับ​แบบแผน​ของ​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​ สร้าง​คุณูปการ​ให้​แก่​ชาว​ประชา​”

คน​ที่อยู่​ใน​ช่วงอายุ​นี้​จะยอม​เชื่อ​วาจา​ที่​ฟังดู​สูงส่งพวก​นี้​

เฝิงจงเจิ้งได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ทำท่า​เคร่งขรึม​ขึ้น​

“ถ้าหาก​เป็นจริง​ ขอให้​สหาย​ลู่​นับ​ข้า​เข้าไป​ด้วย​คน​หนึ่ง​”

“แน่นอน​ๆ! แต่​ก่อนหน้า​นั้น​ พวกเรา​จะต้อง​สร้าง​ชื่อเสีย​ก่อน​” ลู่​เซิ่งกล่าว​อย่าง​ตั้งใจ​

“นี่​ย่อม​แน่นอน​!”

“ข้า​จะรับผิดชอบ​ค่าใช้จ่าย​ของ​สมาคม​วิจัย​นี้​เอง​ นอกจากนี้​ข้า​ได้​ซื้อ​ที่พัก​แห่ง​หนึ่ง​ใน​เมือง​แห่ง​นี้​เพื่อ​มอบให้​สมาคม​วิจัย​ใช้ทำ​การวิจัย​โดยเฉพาะ​ไว้​แล้ว​ และ​ข้า​ยัง​เตรียม​เชิญยอด​ฝีมือ​ใน​ยุทธ​ภพ​ที่​มีพลัง​กล้าแข็ง​หลาย​คน​มาสอน​ความสามารถ​ใน​การ​รับมือ​อันตราย​ให้​แก่​สมาชิก​แล้วด้วย​”

ตอนแรก​เฝิงจงเจิ้งนึก​ว่า​ลู่​เซิ่งเกิด​อารมณ์​ชั่ววูบ​ แต่​พอ​ฟังต่อ​ แม้แต่​บ้าน​ก็​ซื้อ​ไป​แล้ว​ เขา​เลย​ตกใจ​

“สหาย​ลู่​ยอม​จ่าย​เงิน​ขนาด​นี้​เชียว​หรือ​!”

“ใต้​หล้า​ใน​ปัจจุบัน​ ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​เหิมเกริม​ ชาวบ้าน​ยากลำบาก​ ราชวงศ์​ไม่มีความสามารถ​กำจัด​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​ พวกเรา​คน​มีความรู้​ ถ้าหาก​พยายาม​ค้นหา​แบบแผน​ของ​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​จน​เจอ​วิธีการ​กำจัด​พวก​มัน​ นั่น​จะเป็นการ​สร้าง​ผล​งานใหญ่​ที่​ช่วยเหลือ​สรรพสัตว์​ได้​อย่าง​แท้จริง​!” ลู่​เซิ่งกล่าว​อย่าง​ฮึกเหิม​

“สหาย​ลู่​มีคุณธรรม​สูงส่งจริงๆ​!” เฝิงจงเจิ้งเอาจริงเอาจัง​ขึ้น​ ก่อน​จะยก​จอก​ชาดื่ม​คารวะ​ลู่​เซิ่งสามจอก​ “ใน​เมื่อ​สหาย​ลู่​ทำ​ถึงขั้น​นี้​แล้ว​ อย่างนั้น​ผู้​แซ่เฝิงก็​จะไม่กล้า​อ้าง​ไป​เรื่อย​อีก​ ได้​! ข้า​ขอ​เข้าร่วม​ด้วย​!”

“ไม่ใช่แค่นี้​เท่านั้น​ พวกเรา​ต้อง​พยายาม​ดึง​ตัวผู้​มีอุดมการณ์​เดียวกัน​ใน​บริเวณ​รอบ​ๆ มาเข้า​ร่วมกับ​สมาคม​วิจัย​เท่า​ที่จะ​ทำได้​เพื่อ​ปรึกษา​การ​ใหญ่​ด้วย​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​

“ถูกต้อง​ ข้า​รู้จัก​คนใน​เมือง​นี้​ไม่น้อย​เลย​ คน​ที่​มีความสนใจ​ด้าน​นี้​เอง​ก็​มีหลาย​คน​ ข้า​จะไป​บอก​เอง​!” เฝิงจงเจิ้งรู้สึก​ตื่นเต้น​ เสมือน​แบกรับ​คำสั่ง​ที่​หนักอึ้ง​ไว้​บน​บ่า​

เดิมที​เขา​เป็น​ลูกหลาน​เสเพล​ที่​ขี้เกียจ​ตัว​เป็น​ขน​ ตอนนี้​กลับ​รู้สึก​เหมือน​ตนเอง​องอาจ​ขึ้น​เพราะ​ความรู้สึก​รับผิดชอบ​อัน​หนักอึ้ง​นี้​

เขา​กลับ​ไป​รวบรวม​คน​ทันที​

เป็นไป​ตามที่​ลู่​เซิ่งคิด​ไว้​ เฝิงจงเจิ้งแอบ​ดึง​คน​สามคน​เข้ามา​ร่วม​สมาคม​ใน​วัน​ต่อมา​

คน​ห้า​คน​รวม​ลู่​เซิ่งไปดู​คฤหาสน์​หลัง​ใหญ่​แถบ​ชานเมือง​ที่​ลู่​เซิ่งซื้อ​ไว้​ก่อน​ แบบ​แผนที่​มีหอ​เล็ก​ห้า​ชั้น​จำนวน​สามหอ​ บวก​กับ​บ่อ​เลี้ยง​ปลา​ตรงกลาง​ทำให้​คน​ทั้ง​สี่อุทาน​ว่า​ช่างลงทุนลงแรง​นัก​

ดังนั้น​ สมาคม​วิจัย​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​จึงถูก​ก่อตั้ง​อย่าง​เร่งรีบ​ด้วยประการฉะนี้​

ลู่​เซิ่งเป็น​หัวหน้า​สมาคม​ เฝิงจงเจิ้งเป็น​รองหัวหน้า​สมาคม​

ลู่​เซิ่งเสนอ​เงินทุนหมุนเวียน​จำนวนมาก​ ส่วน​เฝิงจงเจิ้งคอย​ติดต่อ​กับ​กรรมกร​และ​พ่อค้า​แม่ค้าหาบเร่​ หลัง​จ่าย​เงิน​อีก​นิดหน่อย​ ก็​สร้าง​เครือข่าย​ข้อมูล​ขนาด​ยักษ์​แบบ​หลวม​ๆ ขึ้น​มาได้​

ชาวบ้าน​ชาว​ช่อง​ต่าง​สนใจ​เรื่อง​ประหลาด​ลี้ลับ​พวก​นี้​ จึงสืบ​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

ทาง​สมาคม​วิจัย​ได้​จ้างคน​ไป​ตั้ง​แผง​ขาย​น้ำชา​ที่​ชายป่า​ซึ่งอยู่​ไม่ใกล้ไม่ไกล​กับ​ทางหลวง​นอกเมือง​ โดย​เสนอ​น้ำชา​และ​ขนมขบเคี้ยว​ให้​แบบ​ไม่คิดเงิน​

แต่​หาก​คิด​จะดื่ม​แบบ​ไม่เสียเงิน​ จะต้อง​บอกเล่า​ข่าวลือ​ประหลาด​ที่​ตน​เคย​ได้ยิน​มาก่อน​

หลังจาก​ลู่​เซิ่งรู้เรื่อง​แผง​น้ำชา​ก็​ชมเชย​เป็นการใหญ่​ จากนั้น​ก็​จ่าย​เงิน​อีก​หลาย​ร้อย​ตำลึง​เพื่อ​จ้างคน​ไป​ตั้ง​แผง​น้ำชา​บน​ทางหลวง​ของ​เมือง​อีก​สามแห่ง​

เฝิงจงเจิ้งรับผิดชอบ​รวบรวม​ข้อมูลข่าวสาร​ ส่วน​เด็กน้อย​ที่​มีชื่อว่า​หลี่ว์เจี้ยน​หัว​รับผิดชอบ​ตรวจสอบ​ความน่าเชื่อถือ​

ยังมี​อีก​สอง​คน​เป็น​สตรี​ สอง​คน​นี้​รับผิดชอบ​ช่วย​ตรวจสอบ​ความน่าเชื่อถือ​ของ​ข้อมูล​

หลังจาก​วาง​โครงสร้าง​แล้ว​ สมาคม​วิจัย​ก็​เป็นรูปเป็นร่าง​

ลู่​เซิ่งเชิญคน​ทำความสะอาด​และ​เหล่า​ป้า​ๆ ที่​ทำอาหาร​เป็นมา​ จากนั้น​ก็​จ้างชายฉกรรจ์​สอง​คน​ที่​เกษียณ​จาก​สำนัก​คุ้มกัน​และ​ที่ว่าการ​มาเฝ้าประตู​

สมาคม​วิจัย​เริ่ม​ทำงาน​ด้วย​ตัว​มัน​เอง​

ลู่​เซิ่งจ่าย​แท่ง​เงิน​ไป​ทั้งหมด​มากกว่า​พัน​ตำลึง​ แต่​นี่​คุ้มค่า​มาก​สำหรับ​เขา​

ใน​สถานการณ์​ที่​ไม่ได้​ใช้พลัง​ใดๆ​ การ​ที่​สร้าง​โครงสร้าง​ใช้สืบ​ข่าวสาร​ของ​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​แบบนี้​ขึ้น​มาได้​ ก็​ถือว่า​ไม่เลว​แล้ว​

ไม่นาน​นัก​ เขา​ที่นั่ง​อยู่​เฉย​ๆ ก็ได้​ทำความเข้าใจ​รูปแบบ​การ​อยู่​ร่วมกัน​ระหว่าง​ต้า​ซ่งกับ​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​จาก​ข้อมูล​ทุก​ประเภท​ที่​ได้มา​อย่าง​คร่าวๆ​

หลังจาก​ภัยพิบัติ​มาร​เมื่อ​ก่อนหน้า​ ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​ก็​คล้าย​ลด​จำนวน​ลง​เพราะ​สาเหตุ​บางประการ​ เมื่อ​ต้า​ซ่งถูก​สร้าง​ขึ้น​ใหม่​ พวก​มัน​ก็​ค่อยๆ​ ฟื้นตัว​กลับมา​

ทาง​ฝ่าย​ราชการ​ของ​ต้า​ซ่งก็​เหมือน​จะไม่สนใจ​เรื่อง​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​ที่​ไม่อาจ​ทำลาย​ได้​พวก​นี้​เท่าใด​นัก​ อย่างไร​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​ก็​ไม่ย้าย​ตำแหน่ง​ไป​ไหน​ แค่​คอย​หลบเลี่ยง​ก็​พอ​

ใน​หมู่​ประชาชน​เอง​ก็​มีการ​ตั้ง​องค์กร​ไม่น้อย​เพื่อ​ขับไล่​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​โดยเฉพาะ​ แต่​ต่าง​ก็​ล้มเหลว​ทั้งสิ้น​ไม่มีข้อยกเว้น​

นี่​ทำให้​ยิ่ง​ไม่มีใคร​กล้า​จัดการ​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​เลย​

ทว่า​เหล่า​คุณชาย​ธรรมดา​อย่าง​เฝิงจงเจิ้งกลับ​ไม่นำพา​ พวกเขา​ไม่ได้​ไป​เสี่ยงอันตราย​เอง​ เพียงแค่​วิจัย​แบบแผน​และ​ธรรมชาติ​ของ​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​เท่านั้น​ นี่​เป็น​วิธีการ​ที่​ดี​ที่สุด​ที่​ใช้ฆ่าเวลา​สำหรับ​คุณชาย​คุณหนู​จำนวนมาก​ที่​ได้รับ​การศึกษา​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​

การ​รวบรวม​คดีความ​ประหลาด​ลี้ลับ​ไม่ต่าง​จาก​การ​อ่านหนังสือ​นิทาน​เท่าไหร่​ แถมยัง​สนุก​กว่า​หนังสือ​นิทาน​เสีย​อีก​

หนึ่ง​เดือน​ต่อมา​ สมาคม​วิจัย​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​ก็ได้​รับสมัคร​คนหนุ่มสาว​ชนชั้นกลาง​ที่อยู่​ว่าง​ใน​เมือง​มาอีก​สิบ​กว่า​คน​

พวกเขา​ไม่ต้อง​กังวล​เรื่อง​อาหาร​เครื่อง​นุ่ม​ห่ม​ แต่​ขาด​กิจกรรม​บันเทิง​ ทว่า​จะไป​ดื่ม​สุรา​เมาหัวราน้ำ​จน​ทำลาย​ชื่อเสียง​และ​ร่างกาย​ของ​ตัวเอง​ก็​ไม่ได้​เหมือนกัน​

ดังนั้น​การ​มาตรวจสอบ​ข่าวลือ​ประหลาด​ลี้ลับ​ที่​สมาคม​วิจัย​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​จึงกลายเป็น​งานอดิเรก​ของ​พวกเขา​

ลู่​เซิ่งไม่ได้​สนใจ​ว่า​คน​พวก​นี้​มาเพราะ​เป้าหมาย​อะไร​ เขา​เพียงแค่​จัดระเบียบ​คดีความ​ประหลาด​ลี้ลับ​ที่​รวบรวม​มาได้​อย่าง​ไม่ขาดสาย​ทั้งหมด​เป็น​หนังสือ​หลาย​เล่ม​ แล้ว​วาง​ใน​ชั้น​หนังสือ​อย่าง​เป็นระเบียบ​เท่านั้น​

ทั้ง​ยัง​ตั้งชื่อ​ให้​แก่​หอ​เก็บ​หนังสือ​นี้​ว่า​ หอ​เรื่อง​พิสดาร​

ตอนแรก​คนหนุ่มสาว​เหล่านี้​ซึ่งรวมถึง​เฝิงจงเจิ้งต่าง​ก็​เข้า​ร่วมกับ​สมาคม​วิจัย​เพราะ​อยาก​อ่าน​เรื่องราว​เอา​สนุก​เท่านั้น​ หนำซ้ำ​เวลา​ไม่มีอะไร​ทำ​ก็​กิน​ดื่ม​ที่นี่​ได้​ ทั้ง​ยังมี​พื้นที่​ใหญ่โต​ให้​ทำกิจกรรม​ตามใจชอบ​ เป็นอิสระ​กว่า​การ​ถูก​คน​คอย​บังคับ​อยู่​ที่​บ้าน​มาก​โข​

ทว่า​หลังจาก​ข่าวลือ​เรื่อง​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​ซึ่งรวบรวม​มาได้​เพิ่มมากขึ้น​เรื่อยๆ​ เมื่อ​คนหนุ่มสาว​พวก​นี้​อ่าน​มาก​ๆ เข้า​ สภาพ​จิตใจ​ก็​ค่อยๆ​ เปลี่ยนแปลง​ไป​

โครม​!

“ไม่มีเหตุผล​! ไม่มีเหตุผล​เลย​!”

ด้านนอก​หอ​เรื่อง​พิสดาร​ ชายฉกรรจ์​อายุ​น้อย​ตัว​ใหญ่​คน​หนึ่ง​ตบ​ผิว​เสาหิน​ด้าน​ข้าง​อย่าง​แรง​

คุณชาย​วัยหนุ่ม​รูปหล่อ​ที่​มีกลิ่นอาย​ม้วน​ตำรา​เข้มข้น​คน​หนึ่ง​ยืน​อยู่​ด้าน​หลังเขา​ เพียงแต่ว่า​คน​คน​นี้​แขวน​กระบี่​ที่​เรียว​ยาว​และ​เปิด​คม​ไว้​ที่​เอว​

“น่าสงสาร​จริงๆ​ ตระกูล​ของ​ขุนนาง​นอก​ซ่งผู้​นั้น​ทำ​ความดี​มาตลอดชีวิต​ แต่​สุดท้าย​กลับ​มีจุดจบ​เช่นนี้​!” คุณ​ชายหนุ่ม​หม่นหมอง​ ถอนใจ​เฮือก​หนึ่ง​

“หรือ​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​นั่น​จะไม่มีความเมตตา​อยู่เลย​! ซ่งเข่อเอ๋อร์​จิต​ใจดี​ถึงเพียงนั้น​ น่ารัก​ถึงเพียงนั้น​! ถึงกับ​! ถึงกับ​!” ชายฉกรรจ์​อายุ​น้อย​หายใจ​ถี่กระชั้น​ ใบ​หน้าเป็น​สีแดง​ “หนำซ้ำ​เรื่อง​นี้​ยัง​รายงาน​ทางการ​แล้ว​ แต่​ไม่มีใคร​กล้า​จัดการ​! ไร้สาระ​ทั้งเพ​!”

“สหาย​เฉินต๋า​ อ่าน​เรื่อง​ประหลาด​มามากมาย​ยัง​ไม่เข้าใจ​อีก​หรือ​ จวน​ขุนนาง​คงจะ​คร้าน​จัดการ​ ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​นั่น​โหดเหี้ยม​อำมหิต​ ไม่มีใคร​ควบคุม​ได้​…” คุณ​ชายหนุ่ม​เตือน​

“เหลวไหล​! ข้า​ฝึกฝน​ฝ่ามือ​ล่า​พยัคฆ์​มาสิบ​กว่า​ปี​ ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​นั่น​อยู่​แค่​ใน​ระดับ​สามของ​ยุทธ​ภพ​ทั่วไป​! พวก​มัน​ใช้วิธี​ลอบ​โจมตี​โดย​ไม่ทัน​ตั้งตัว​ซ้ำไปซ้ำมา​เท่านั้น​!” เฉินต๋า​พูด​จน​น้ำลาย​กระเซ็น​

“ยิ่งไปกว่านั้น​ที่นั่น​ยังอยู่​ไม่ไกล​จาก​พวกเรา​ด้วย​!”

“สหาย​เฉิน…”​

เฉินต๋า​โบกมือ​

“ตู้​เฉิงซวน​อีก​ประเดี๋ยว​เจ้ากลับ​ไป​คนเดียว​ก่อน​ วันนี้​ข้า​เหนื่อย​แล้ว​ ขอตัว​ไป​พักผ่อน​” เขา​สาวเท้า​เดิน​ออกจาก​สมาคม​วิจัย​ด้วย​ใบหน้า​คับข้องใจ​ ไม่นาน​ก็​หาย​ไป​จาก​ท้องถนน​

คุณชาย​รูปหล่อ​ตู้​เฉิงซวน​เห็น​ดังนั้น​ก็​ส่ายหน้า​ด้วย​ความ​จนปัญญา​ ก่อน​จะไป​ดื่ม​ชาพักผ่อน​ที่​หอ​หลัง​เล็ก​ใกล้​ๆ

ลู่​เซิ่งที่​ยืน​อยู่​บน​ชั้น​บนสุด​ของ​หอ​เรื่อง​พิสดาร​ ก้ม​มอง​ด้านล่าง​ผ่าน​หน้าต่าง​

พอ​เห็น​เฉินต๋า​เดิน​ออกจาก​สมาคม​ด้วย​ความโมโห​ เขา​ก็​รู้​ว่า​ในที่สุด​โอกาส​ที่​ตน​รอคอย​มาโดยตลอด​ก็ได้​มาถึงแล้ว​

เหล่า​คุณชาย​คุณหนู​รวบรวม​เรื่อง​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​ที่​น่า​โศกเศร้า​พวก​นี้​มาโดยตลอด​ เมื่อ​เห็น​มาก​เข้า​ ก็​เกิด​ความโกรธแค้น​ และ​เริ่ม​รู้สึก​ถึงความ​ไม่ปลอดภัย​อย่าง​รุนแรง​ต่อ​สภาพแวดล้อม​ที่​ตน​อาศัย​อยู่​ขึ้น​มา

ก่อนหน้านี้​เพียงแค่​ได้ยิน​ว่า​มีที่ไหน​สัก​แห่ง​ที่เกิด​โศกนาฏกรรม​ มีที่ไหน​สัก​แห่ง​ที่เกิด​เหตุการณ์​ฆ่าล้าง​ตระกูล​ หลังจาก​ข้อมูล​กระจาย​ออกมา​ ความแม่นยำ​จะต่ำ​มาก​ จน​ทุกคน​ไม่รู้สึกรู้สา​อะไร​

ทว่า​ตอนนี้​เมื่อ​รวบรวม​มาไว้​ด้วยกัน​ หนำซ้ำ​แม้แต่​จุด​เกิดเหตุ​ยัง​ถูก​ระบุ​และ​ยืนยัน​ไว้​ เมื่อ​เป็น​แบบนี้​ ก็​พลัน​รู้สึก​ว่า​สถานที่​ที่​ตน​อยู่​มีอันตราย​ทุกหน​แห่ง​

นี่​ทำให้​ทุกคน​ที่​เข้าร่วม​สมาคม​วิจัย​เริ่ม​รู้สึก​ถึงอันตราย​ และ​เกิด​ความรู้สึก​เป็น​พวก​เดียว​กับ​สมาคม​วิจัย​

ลู่​เซิ่งได้​เพิ่ม​วิชา​จิต​โน้ม​นำ​ของ​ตัวเอง​เข้าไป​ชักนำ​ตาม​ความเหมาะสม​ด้วย​

เพียงแค่​ชักนำ​ใน​จุดสำคัญ​เล็ก​ๆ เป้าหมาย​ของ​เขา​ก็​บรรลุ​แล้ว​

ขณะ​มองดู​เฉินต๋า​ที่​ออกห่าง​ไป​ ลู่​เซิ่งยก​ชาหวาน​ใน​มือขึ้น​จิบ​ช้าๆ ก่อน​จะหมุนตัว​กลับ​ไป​นั่ง​พักผ่อน​บน​เก้าอี้​หนัง​

เมล็ดพันธุ์​แตกหน่อ​แล้ว​ ต่อจากนี้​ขอ​แค่​เพิ่ม​ปุ๋ย​อีก​นิดหน่อย​ ไม่นาน​ก็​จะงอ​กราก​และ​เติบโต​…

พักผ่อน​ชั่วครู่หนึ่ง​ จากนั้น​ลู่​เซิ่งก็​ลง​ไป​กินข้าว​ แล้ว​ตรวจสอบ​สมุดบันทึก​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​ที่​เพิ่ง​ส่งมาถึงเหมือน​ทุกที​

ต่อมา​ก็​คุย​กับ​เหล่า​สมาชิก​ใน​สมาคม​วิจัย​ เผลอ​แผล็บ​เดียว​ก็​ถึงตอนกลางคืน​แล้ว​

ใน​ตอนนี้​เอง​ คุณ​ชายหนุ่ม​ที่​มีชื่อว่า​ตู้​เฉิงซวน​ใน​สมาคม​ก็​ผลุนผลัน​วิ่ง​เข้ามา​แจ้งเขา​ว่า​ เฉินต๋า​สหาย​สนิท​ของ​เขา​ หรือ​ก็​คือ​ชายฉกรรจ์​ที่​จากไป​ด้วย​ความโมโห​เมื่อ​ตอนกลางวัน​ ได้​ออกจาก​เมือง​ไป​แล้ว​ใน​ตอนกลางคืน​

จุดหมาย​ของ​เขา​เกรง​ว่า​จะเป็นการ​ไป​ยัง​คฤหาสน์​ของ​ขุนนาง​นอก​ซ่งที่​มีความ​ประหลาด​ลี้ลับ​ปรากฏ​อยู่​!

ลู่​เซิ่ง ‘ตกใจ​’ ก่อน​จะรีบ​เรียก​ระดมพล​สมาชิก​ทั้งหมด​เพื่อ​แจ้งข่าว​นี้​

ทุกคน​ออก​ค้นหา​กัน​จ้าละหวั่น​

จนกระทั่ง​ถึงเวลา​เช้าตรู่​ เฉินต๋า​ผู้​นั้น​ค่อย​เร่งรุด​กลับมา​ เขา​ที่​ขี่ม้า​ร่าง​อาบ​เลือด​ แขนขวา​ข้าง​หนึ่ง​ขาด​จรด​ไหล่​

ทว่า​เฉินต๋า​ไม่ได้​กลับมา​มือเปล่า​ เขา​หยิบ​ของ​สิ่งหนึ่ง​ออก​มาจาก​อก​เสื้อ​ก่อน​จะหมดสติ​ไป​ มัน​คือ​วัตถุ​โลหะ​แปลกประหลาด​สีเงินก้อน​หนึ่ง​

ลู่​เซิ่งรีบ​ตามตัว​หมอ​มารักษา​ ขณะเดียวกัน​ก็​รีบ​เก็บ​วัตถุ​โลหะ​ชิ้น​นั้น​ไว้​ หลังจาก​วิจัย​เป็นเวลา​ครึ่ง​วัน​ ตอน​เขา​เดิน​ออกมา​ สีหน้าที่​เคร่งขรึม​ก็​ปรากฏ​ความตื่นเต้น​ยินดี​ หลัง​ลังเล​เล็กน้อย​ เขา​ก็​หมุนตัว​เข้าไป​ใน​ห้อง​ที่​ใช้รักษา​เฉินต๋า​

“นี่​มัน​คือ​อะไร​กัน​แน่​!?” เฝิงจงเจิ้งกับ​คน​อีก​สามคน​เป็น​แกน​หลัก​ของ​สมาคม​วิจัย​ใน​ปัจจุบัน​ แต่​แม้สี่คน​จะมาอยู่​ด้วยกัน​ ก็​ไม่อาจ​ทำความเข้าใจ​สภาพ​ของ​ก้อน​โลหะ​สีเงิน​ที่​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​ได้​

ลู่​เซิ่งที่​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​ผุด​สีหน้า​หนักใจ​

“ขอ​ไม่ปิดบัง​ สาเหตุ​ที่​ข้า​กล้า​ตั้ง​สมาคม​วิจัย​ใน​ตอนนั้น​เป็น​เพราะ​ของ​สิ่งนี้​นี่เอง​”

“มัน​…มัน​เอาไว้​ใช้ทำ​อะไร​กัน​แน่​ขอรับ​” เฝิงจงเจิ้งถามเสียง​ขรึม​

“เอาไว้​ใช้ทำ​อะไร​งั้น​หรือ​…?” ลู่​เซิ่งสูด​ลมหายใจ​ลึก​

“เฉินต๋า​ เจ้ามาเล่า​ให้​พวกเขา​ฟังเอง​เถอะ​” เขา​หันไป​มอง​ที่​ประตู​ห้อง​

ประตู​ถูก​เปิด​เสียงดัง​แก​ร๊ก​ เฉินต๋า​ที่​ร่างกาย​หาย​ดีแล้ว​ยืน​อยู่​ที่​ประตู​ จากนั้น​ก็​เดิน​เข้ามา​

เขา​มีสีหน้า​เด็ดเดี่ยว​ หลังจาก​ผ่าน​ห้วง​ความเป็นความตาย​ เขา​ก็​ไม่ใช่เฉินต๋าคน​เดิม​อีกแล้ว​

“ให้​ไอ้​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​บัดซบ​พวก​นั้น​ไป​ตาย​เสียเถอะ​!” เขา​ยก​แขนขวา​ขึ้น​ แขน​พลัน​ขยับ​ขยุกขยิก​แล้ว​กลายเป็น​หนวด​สีเงิน​กลุ่ม​ใหญ่​ๆ โบกสะบัด​ไป​ทั่ว​

แสงสีเหลือง​เข้ม​จุด​หนึ่ง​ดู​สะดุดตา​เป็นพิเศษ​กลาง​หนวด​จำนวนมาก​นั้น​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท