บทที่ 764 สถานะล้ำเลิศ (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

“ท่าน​ไม่บอก​ก็​ไม่เป็นไร​” ลู่​เซิ่งไม่ซักไซ้​อะไร​มาก​

“อย่า​ลืม​เด็ดขาด​เล่า​ ข้า​มีธุระ​ขอตัว​ก่อน​ เรื่อง​ของ​เซี่ยงหงเฟย​ใน​ครั้งนี้​จัดการ​ให้​เจ้าเรียบร้อย​แล้ว​” จงซิ่ว​เสริม​ประโยค​หนึ่ง​ก่อน​ไป​

“เซี่ยงเฟยหง​หรือ​” ลู่​เซิ่งพลัน​นึกถึง​ความทรงจำ​ที่​สอดคล้องกัน​ได้​ออก​

ร่างกาย​ร่าง​นี้​เป็น​คน​ชอบ​กิน​ถึงขีดสุด​ ช่วง​ก่อนหน้านี้​ได้​ส่งคน​ไป​แย่งชิง​เซี่ยงเฟยหง​บุตรี​ของ​เซี่ยงจ่วนอวี้​ที่​ได้​ชื่อว่า​เป็น​แม่ครัว​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ใต้​หล้า​มา เป้าหมาย​ก็​เพื่อให้​อีก​ฝ่าย​มาทำอาหาร​ให้​เขา​กิน​เพียง​คนเดียว​

สิ่งที่​บังเอิญ​ก็​คือ​ เซี่ยงหงเฟย​มีรูปโฉม​งดงาม​ ทั้ง​ยัง​เป็น​ศิษย์​อย่าง​เป็นทางการ​ของ​หนึ่ง​ใน​สิบ​หก​สำนัก​ ตอนนั้น​เรื่อง​นี้​ได้​สร้าง​ความ​ตื่นตระหนก​ไม่น้อย​

ดี​ที่​แท่น​น้ำค้าง​คราม​ยิ่งใหญ่​สุด​เปรียบ​ปราน​ สุด​ที่​สำนัก​ห่าน​ทะยาน​ของ​เซี่ยงหงเฟย​ที่อยู่​ใน​อันดับ​ท้าย​ๆ จะเทียบเคียง​ได้​

ดังนั้น​การ​ที่​จงซิ่ว​บอ​กว่า​จัดการ​เรียบร้อย​แล้วก็​หมายความว่า​ เป็นไปได้​อย่างยิ่ง​ที่​สำนัก​ห่าน​ทะยาน​จะยอม​ปล่อย​เซี่ยงหงเฟย​ ทั้งสองฝ่าย​บรรลุ​ข้อตกลง​กัน​แล้ว​

‘จุดเริ่มต้น​นี้​สูงอยู่​บ้าง​เหมือนกัน​…’ ลู่​เซิ่งมอง​เงาหลัง​ของ​จงซิ่ว​ที่​ค่อยๆ​ ห่าง​ออก​ไป​ รำพึงรำพัน​ใน​ใจ

พอ​จุติ​มาก็ได้​บิดา​เป็นยอด​ฝีมือ​ที่​มีไม่กี่​คนใน​ใต้​หล้า​ มีเงินทอง​ สภาวะ​ และ​อำนาจ​อยู่​รอบกาย​ ไม่ขาด​อะไร​สัก​อย่าง​

พอ​นึกถึง​ตรงนี้​ ลู่​เซิ่งก็​จนปัญญา​เล็กน้อย​

‘จุดเริ่มต้น​แบบนี้​ไม่ค่อย​มีแรงผลักดัน​เลย​….จะรวบรวม​พลัง​อาวรณ์​อย่างไร​ ต้อง​วางแผน​ระยะยาว​…’

แปะ​ๆ

เขา​ปรบ​มือเบา​ๆ เงางดงาม​สีเขียว​สาย​หนึ่ง​เดิน​ออกมา​หยุด​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​ของ​ลู่​เซิ่งอย่าง​นอบน้อม​

“ข้าน้อย​ชิงอี​ คำนับ​คุณชาย​”

นี่​คือ​องครักษ์​ติด​ตามตัว​ของ​เขา​เพียง​คนเดียว​ ทั้ง​ยัง​เป็นสมาชิก​คน​หนึ่ง​ใน​หมู่​เด็กกำพร้า​หลาย​คน​ที่​ผัง​ซือเฉิง​ชุบเลี้ยง​อบรม​มาเอง​เมื่อ​สี่ปีก่อน​โดย​ไม่เกี่ยวข้อง​กับ​บิดา​

ใน​ฐานะ​บุตร​ของ​จอม​อหังการ​ ผัง​ซือเฉิง​เอง​ก็​มีมรรคา​ยุทธ์​ไม่อ่อนด้อย​เช่นกัน​ ไม่แย่​ไป​กว่า​คุณชาย​ตระกูล​ขุนนาง​ทั่วไป​

เงื่อนไข​ทรัพยากร​ที่​ดี​แบบนี้​ย่อม​รู้จัก​ชุบเลี้ยง​ขุม​กำลัง​ของ​ตัวเอง​อย่าง​ลับ​ๆ

“ผู้​ที่​พี่ใหญ่​จงซิ่งพูดถึง​ คน​ที่​ชื่อว่า​จวง​เซี่ย​เชิงนั่น​ เจ้ารู้จัก​ไหม​” ลู่​เซิ่งถามเบา​ๆ

“นี่​เป็นเรื่อง​ที่​เพิ่ง​เกิดขึ้น​เมื่อไม่นานมานี้​ เพียงแต่​เป็น​แค่​ข่าวลือ​ ก่อนที่จะ​ยืนยัน​ ข้าน้อย​จึงไม่คิด​รายงาน​นาย​ท่าน​” ชิงอี​เอ่ย​เสียง​ค่อย​

“เจ้าว่า​มา” ลู่​เซิ่งพยักหน้า​

พอ​ชิงอี​ได้รับอนุญาต​ก็​ลุกขึ้น​ ใบหน้า​งามที่​คลุม​ด้วย​ผ้า​สีดำ​เคร่งขรึม​ขึ้น​เล็กน้อย​

“ใน​แท่นบูชา​หลัก​เมื่อไม่นานมานี้​ พวก​ระดับสูง​ลือ​กัน​ว่า​ ที่​ประมุข​แท่นบูชา​ทำศึก​ร้อย​ครั้ง​ได้รับ​ชัย​ร้อย​ครั้ง​ทุกที่​ เป็น​เพราะ​ตอน​หนุ่ม​เคย​ได้รับ​คำนาย​จาก​พระสงฆ์​ผู้​มีชื่อว่า​มู่โฝ่ว”​

“คำทำนาย​หรือ​” ลู่​เซิ่งขมวดคิ้ว​ “คำทำนาย​แบบ​ไหน​”

“คำทำนาย​บอ​กว่า​ ชีวิต​ช่วงแรก​ของ​ประมุข​แท่นบูชา​หลัก​จะเจิด​จรัส​รุ่งโรจน์​ ทว่า​ชีวิต​ช่วงหลัง​ตอน​ที่อยู่​ใน​จุดสูงสุด​จะตก​ตาย​ใน​เงื้อมมือ​บุรุษ​ที่​ใน​ชื่อ​มีตัวอักษร​เซิงอยู่​”

“มีคน​เชื่อ​คำพูด​แบบนี้​ด้วย​หรือ​” ลู่​เซิ่งกล่าว​เสียง​เย็นชา​

“ตอนแรก​ไม่มีใคร​เชื่อ​ แต่​คำทำนาย​ที่​ประมุข​แท่นบูชา​หลัก​ได้​ทราบ​จาก​ปาก​พระ​มู่โฝ่ว​เมื่อ​ครั้งกระโน้น​ได้​กลาย​เป็นจริง​เกือบ​หมด​แล้ว​ ดังนั้น​ท่าน​ผู้เฒ่า​จึงเชื่อถือ​มาก​ หลาย​ปี​มานี้​ฝึกฝน​มรรคา​ยุทธ์​อย่าง​หนัก​และ​ทำศึก​ไป​ทั่ว​เพื่อ​ต้องการ​หา​บุรุษ​ที่​มีตัวอักษร​เซิงอยู่​ใน​ชื่อ​” ชิงอี​เอ่ย​เบา​ๆ

“แล้ว​นี่​เกี่ยว​อะไร​กับ​จวง​เซี่ย​เซิงผู้​นี้​ ท่าน​พ่อ​แน่ใจ​ได้​อย่างไร​ว่า​คน​ผู้​นี้​คือ​คนใน​คำทำนาย​” ลู่​เซิ่งย้อนถาม​

“เป็น​เพราะ​เขา​แข็งแกร่ง​มาก​เจ้าค่ะ​” ชิงอี​ว่า​ “เขา​เป็น​คน​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​หมู่คน​ที่​มีตัวอักษร​เซิงใน​ชื่อ​”

ลู่​เซิ่งเข้าใจ​ใน​พริบตา​

ชิงอี​กล่าว​ต่อ​ “แต่​นาย​ท่าน​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​หรอก​นะ​เจ้าคะ​ คน​ที่​เทียบเคียง​กับ​ประมุข​แท่นบูชา​หลัก​ได้​บน​ใต้​หล้า​ใน​ตอนนี้​มีจำนวน​ไม่เกิน​หนึ่ง​ฝ่ามือ​ ยัง​ไม่พูดถึง​จักรพรรดิ​วรยุทธ์​ที่​เลือนราง​ล่องลอย​ ต่อให้​จะเป็น​ประมุข​พรรค​ใหญ่​สามพรรค​ท่ามกลาง​เจ้าวรยุทธ์​ ก็​แข็งแกร่ง​กว่า​ประมุข​แท่นบูชา​หลัก​ไม่เท่าไหร่​ หาก​พูดถึง​ผล​แพ้ชนะ​ความเป็นความตาย​จริงๆ​ ต้อง​ประมือ​กัน​ก่อน​ถึงจะทราบ​ได้​”

ลู่​เซิ่งพยักหน้า​ เข้าใจ​สถานะ​ตำแหน่ง​ของ​บิดา​ใน​รอบ​นี้​กระจ่าง​ทันที​

เทียบ​กับ​ระดับ​ใน​นิยาย​ของ​กิมย้ง​แล้ว​ นี่​เป็น​มหา​ปรมาจารย์​ใต้​หล้า​ระดับ​ปรมาจารย์​กระบี่​บน​เขา​ฮั่วซัว​ ซึ่งใน​ยุทธ​จักร​มีแค่​ไม่กี่​คน​เท่านั้น​

“เช่นนั้น​จวง​เซี่ย​เซิงผู้​นี้​เล่า​”

“เป็น​มือ​ดาบ​อัจฉริยะ​ไม่กี่​คนใน​สิบ​หก​สำนัก​เจ้าค่ะ​ อาจารย์​ของ​เขา​คือ​หมัด​เทพ​ทะยาน​ฟ้าหวง​อวี้​ ผู้​เป็น​เจ้าสำนัก​หมัด​เทพ​ ทั้ง​ยัง​เป็นหนึ่ง​ใน​คน​ไม่กี่​คน​ที่​มีพลัง​เหนือกว่า​ประมุข​แท่นบูชา​หลัก​ด้วย​” ชิงอี​อธิบาย​ “ถ้าไม่ใช่เช่นนี้​ ประมุข​แท่นบูชา​คง​ไม่โยน​มุสิก​กริ่งเกรง​ภาชนะ​เสียหาย​ ไว้ชีวิต​จวง​เซี่ย​เซิงผู้​นี้​มาโดยตลอด​”

“เข้าใจ​แล้ว​ เจ้าไป​เถอะ​” ลู่​เซิ่งพยักหน้า​

ชิงอี​ย่อ​ตัว​คารวะ​ ก่อน​จะล่าถอย​ไป​อย่าง​นอบน้อม​

ลู่​เซิ่งนอน​อยู่​สักพัก​ คิด​จะขยับตัว​ แต่กลับ​มีแรง​ไม่มาก​พอ​ จะพลิกตัว​ที​หนึ่ง​ต้อง​ใช้เวลา​ถึงสิบ​นาที​

‘ดูเหมือน​ต้อง​รีบ​ลดน้ำหนัก​ให้​เร็ว​ที่สุด​แล้ว​ โลก​ใบ​นี้​มีระดับ​พลังงาน​สูงเกินไป​ กฎเกณฑ์​จึงแข็งแกร่ง​ ทำให้​อาศัย​พลัง​ฟื้นฟู​ของ​ร่าง​หลัก​ไม่ได้​ จะต้อง​รีบ​ยกระดับ​ร่างกาย​ร่าง​นี้​ให้​เร็ว​ที่สุด​เท่า​ที่จะ​ทำได้​!’

เขา​เหงื่อ​แตก​เต็มตัว​ถึงค่อย​ย้าย​ร่างกาย​ได้​

“เด็ก​ๆ !” เขา​ตวาด​ขึ้น​

ไม่นาน​คน​สวม​อาภรณ์​เขียว​สอง​คน​ก็​ปรากฏตัว​ขึ้น​ที่​ปาก​ประตู​ลาน​

“คุณชาย​มีคำสั่ง​ใด​หรือ​”

“นำ​กระบี่​อัสนี​บาต​อัคคี​ควัน​ของ​ข้า​มา” ลู่​เซิ่งกล่าว​เสียง​กระจ่าง​

พอ​ถ่ายทอด​คำสั่ง​ไป​ บริวาร​ของ​แท่น​น้ำค้าง​คราม​คน​หนึ่ง​ก็​ยก​กระบี่​ยา​วสี​ดำ​สนิท​ที่​หนักอึ้ง​เล่ม​หนึ่ง​มา จากนั้น​ก็​วาง​ไว้​กลาง​ลาน​พร้อมกับ​ฝัก​กระบี่​

“ทุกคน​ถอย​ไป​เสีย​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​

กระบี่​อัสนี​บาต​อัคคี​ควัน​เป็น​กระบี่​วิเศษ​ที่​ผัง​ซือเฉิง​ใช้ตอน​ฝึก​มรรคา​ยุทธ์​ กระบี่​เล่ม​นี้​เป็น​ศัสตรา​ล้ำเลิศ​ที่​บิดา​ ผัง​หยวน​จวิน​ตั้งใจ​หา​มาให้​ แค่​พก​ไว้​กับ​ตัว​ ก็​จะกระตุ้น​พลัง​ออกมา​ปะทะ​กับ​จิต​สังหาร​และ​การ​แผดเผา​บน​ตัว​กระบี่​ได้​ เป็น​การฝึกฝน​อย่างหนึ่ง​

แต่​นับตั้งแต่​เจ็ด​ปี​ก่อนที่​ได้​กระบี่​มาจนถึง​ตอนนี้​ ผัง​ซือเฉิง​ใช้กระบี่​เล่ม​นี้​ฝึกฝน​เป็น​จำนวน​ครั้ง​ที่​งอ​นิ้ว​นับ​ได้​ ไม่ใช่เหตุใด​อื่น​ เป็น​เพราะ​การฝึกฝน​ของ​สิ่งนี้​ทรมาน​เกินไป​นั่นเอง​

แต่​ตอนนี้​เปลี่ยนเป็น​ลู่​เซิ่ง ย่อม​มีความตั้งใจ​เล็กน้อย​อยู่แล้ว​

วิชา​คางคก​ดารา​เคลื่อน​ใน​ตัว​เขา​เป็น​วรยุทธ์​ระดับ​เจ้าวรยุทธ์​อันดับ​หนึ่ง​ ทั้ง​ยัง​เดิน​ทางสายกลาง​ มีผล​เพิ่ม​อายุขัย​ เพียงแต่​ธรรมดา​เกินไป​ ดังนั้น​จึงมีทักษะ​ไม่เพียงพอ​ ทำให้​ถูก​สิบ​ทัพ​สังหาร​เอาชนะ​ไป​ได้​เมื่อ​ครั้งกระโน้น​

แต่​พูดถึง​คุณสมบัติ​โดยรวม​ สิ่งที่​วิชา​นี้​ใช้คือ​ภาพ​สัตว์​เทพ​กลืน​แล้ว​คาย​ประกาย​ดาว​ที่​มีนาม​ว่า​คางคก​หยก​โลหิต​ คางคก​หยก​โลหิต​มีอายุขัย​ยืนยาว​เทียบเท่า​ฟ้าดิน​ใน​เทพนิยาย​

ความจริง​มัน​เป็น​วิชา​หล่อเลี้ยง​ชีวิต​โดย​พื้นฐาน​

‘น่าคิด​จริงๆ​…เรา​ใน​อดีต​ก็​ก่อร่างสร้างตัว​ขึ้น​มาจาก​วิชา​หล่อเลี้ยง​ชีวิต​เหมือนกัน​’ ลู่​เซิ่งสะท้อนใจ​

หลังจาก​สังเกต​กระบวน​การฝึกฝน​ของ​วิชา​นี้​เสร็จ​ ลู่​เซิ่งก็​ไม่พบ​ว่า​มีข้อผิดพลาด​ตรงไหน​ เพียงแต่​มัน​เป็น​วิชา​หล่อเลี้ยง​ชีวิต​มีข้อเสีย​ตรง​ที่​พัฒนา​ได้​ช้าเท่านั้น​

แต่​ก็​ไม่เป็นไร​ การพัฒนา​ได้​ช้าไม่ใช่เรื่องใหญ่​สำหรับ​ลู่​เซิ่งมาแต่ไหนแต่ไร​แล้ว​

“ดี​ป​บลู​” เขา​เรียก​เครื่องมือ​ปรับเปลี่ยน​ทันที​

กรอบ​ของ​เครื่องมือ​ปรับ​เปลี่ยนสี​ฟ้าดีด​ออกมา​ดัง​ฟุ่บ​ กรอบ​ด้านล่าง​สุด​แสดง​สภาพ​ใน​ตอนนี้​ไว้​อย่าง​ชัดเจน​

[วิชา​ฝึกฝน​หลัก​—วิชา​คางคก​ดารา​เคลื่อน​ : ระดับ​ที่หนึ่ง​ แสงหวนคืน​ย้อนรอย​ ความก้าวหน้า​ 45% (คุณสมบัติ​ที่​อาจ​ได้รับ​หลัง​สมบูรณ์​: ชีพจร​ลมปราณ​ยืดยาว​ระดับ​หนึ่ง​, ระเบิด​พลัง​ยุทธ์​ระดับ​หนึ่ง​ )]

หลังจาก​ลู่​เซิ่งปรับเปลี่ยน​อย่าง​ละเอียด​ ปัจจุบัน​เครื่องมือ​ปรับเปลี่ยน​ก็​มีการ​เปลี่ยน​รายละเอียด​เล็กน้อย​ จาก​รวบรัด​และ​หยาบกระด้าง​ใน​ตอนแรก​ กลายเป็น​ละเอียด​กว่า​เดิม​ใน​ตอนนี้​

‘น่าสนใจ​’ ลู่​เซิ่งเกิด​ความสนใจ​ วรยุทธ์​ระดับ​สูงสุด​ที่​เขา​สัมผัส​ได้​ใน​ตอนนี้​คือ​วรยุทธ์​ระดับ​เจ้าวรยุทธ์​ใน​มือ​ชุด​นี้​ ดังนั้น​ต่อให้​จะเป็น​วิชา​หล่อเลี้ยง​ชีวิต​ เขา​ก็​ยินดี​ฝึกฝน​ดู​

‘พัฒนา​วิชา​คางคก​ดารา​เคลื่อน​ถึงระดับ​สอง​’ เขา​มอง​กรอบ​ก่อน​กดปุ่ม​ปรับเปลี่ยน​ พร้อมกับ​นึกในใจ​ ความคิด​เพิ่งจะ​ก่อตัว​ พลัง​อาวรณ์​สาย​หนึ่ง​พลัน​ไหล​ออก​มาจาก​เครื่องมือ​ปรับเปลี่ยน​ แล้ว​แล่น​ตาม​เส้น​ชีพจร​กับ​เส้นเลือด​รอบ​ๆ หน้าอก​ไป​ยัง​ทั่ว​ร่าง​ เพื่อ​หล่อเลี้ยง​เลือดเนื้อ​ทุก​ส่วน​ใน​ร่างกาย​

กรอบ​ของ​เครื่องมือ​ปรับเปลี่ยน​พร่ามัว​อย่าง​รวดเร็ว​ แต่ว่า​หลาย​อึดใจ​ต่อมา​ก็​ชัดเจน​ขึ้น​อีกครั้ง​ แล้ว​แสดง​เนื้อหา​ใหม่​

ลู่​เซิ่งสัมผัส​ได้​ว่า​ร่างกาย​เหมือนกับ​แนบ​อยู่​บน​เสาสำริด​ที่​ร้อน​ลวก​ เหงื่อ​หลั่งไหล​อย่าง​บ้าคลั่ง​ ไขมัน​จำนวนมาก​ซึมออก​มาจาก​รูขุมขน​ เม็ด​น้ำมัน​รวมกัน​กลายเป็น​หยด​น้ำมัน​ที่​ใหญ่​กว่า​เดิม​ก่อน​จะกลิ้ง​หยด​ลง​บน​พื้น​

เขา​ข่ม​ความ​ทรมาน​ไว้​และ​มอง​กรอบ​ที่​ชัด​ขึ้น​มาอีกครั้ง​

[วิชา​ฝึกฝน​หลัก​—วิชา​คางคก​ดารา​เคลื่อน​: ระดับ​สอง​ มิอาจ​ทิ้ง​ทิวา​ราตรี​ (คุณสมบัติพิเศษ​: ปราณ​และ​ชีพจร​ยืดยาว​ระดับ​หนึ่ง​ ระเบิด​พลัง​ยุทธ์​ระดับ​หนึ่ง​)]

ลู่​เซิ่งสัมผัส​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​พลัง​ที่​ไหลเวียน​อยู่​ใน​ร่าง​อย่าง​ต่อเนื่อง​ใหญ่​ขึ้น​และ​ปราดเปรียว​ขึ้น​ เหมือน​กระแสไฟฟ้า​สาย​หนึ่ง​ไหลเวียน​อยู่​ใน​ร่างกาย​

เขา​ค่อยๆ​ ยก​แขน​ขึ้น​ ตอนนี้​การเคลื่อนไหว​ที่​รู้สึก​กินแรง​ถึงขีดสุด​ก่อนหน้านี้​เบา​ลง​กว่า​เดิม​

‘น้ำหนัก​น่าจะ​ลดลง​เพราะ​การ​ยกระดับ​พลัง​ฝึกปรือ​เมื่อ​ครู่​ส่วนหนึ่ง​ แรง​เอง​ก็​เพิ่มขึ้น​นิดหน่อย​เหมือนกัน​ แต่​เนื้อ​ยัง​หย่อน​คล้อย​อยู่ดี​ แต่ยังไง​ก็​ขยับ​เอง​ได้​แล้ว​’ในที่สุด​ลู่​เซิ่งที่​ใช้พลัง​ร่วม​ด้วย​ก็​ลุกขึ้น​จาก​เก้าอี้​เอง​ได้​โดย​ไม่ต้อง​ให้​คนอื่น​ช่วย​ประคอง​

“คุณชาย​ระวัง​!” หญิง​รับใช้​ร่าง​กำยำ​สอง​คน​เร่งฝีเท้า​พุ่ง​เข้ามา​ประคอง​ลู่​เซิ่งไม่ให้​ล้ม​ แต่​น้ำหนัก​มหาศาล​ยังคง​กด​ทับ​จน​ทั้งสอง​ต้อง​เอว​งอ​เล็กน้อย​

“ข้า​ตัดสินใจ​แล้ว​ว่า​จะลดน้ำหนัก​ตั้งแต่​วันนี้​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​

หญิง​รับใช้​ทั้งสอง​นาง​งุนงง​ ไม่ได้​ตอบกลับ​

พวก​นาง​กลับ​นึกไม่ถึง​ว่า​ ลู่​เซิ่งทำ​อย่าง​ที่​พูด​ไว้​จริงๆ​

นับตั้งแต่​วันนั้น​ ลู่​เซิ่งลดน้ำหนัก​ได้​สอง​สามชั่งแทบ​ทุกวัน​

เนื้อ​เหล่านี้​เป็น​แค่​ไขมัน​เท่านั้น​ หลังจาก​ไม่เป็น​อุปสรรค​ต่อ​การ​เดินเหิน​ ลู่​เซิ่งก็​ออกจาก​ลาน​เรือน​และ​ไล่​พวก​หญิง​รับใช้​ไป​ที่อื่น​ ทำตัว​ลับๆ ล่อๆ​ ทั้งวัน​ ไม่ทราบ​ทำ​อะไร​

เป็น​เช่นนี้​สิบ​กว่า​วัน​ ในที่สุด​ลู่​เซิ่งก็​หาย​ไป​จาก​สายตา​ของ​ผู้คุ้มครอง​ กว่า​จะมีคน​ทราบ​ เขา​ก็​ออกจาก​ลาน​เรือน​ไป​แล้ว​ โดย​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​อาราม​หยก​สดใส​ สถานที่​ที่​มารดา​ของ​ผัง​ซือเฉิง​ปรากฏตัว​เป็น​ครั้งสุดท้าย​ซึ่งเพิ่งจะ​ตรวจสอบ​เจอ​

เขา​คิด​จะไป​พา​มารดา​กลับมา​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​ กา​รวบรวม​พลัง​อาวรณ์​ไม่ใช่เรื่อง​รีบร้อน​ แต่​ถ้าไม่รีบ​แล้ว​หาคน​ไม่เจอ​ เกรง​ว่า​จะเกิดเรื่อง​ที่​คาดไม่ถึง​ขึ้น​

วสันต์​มา บุปผา​บาน​ วิหค​โบยบิน​

บน​ทางหลวง​นอก​ชายป่า​ คน​ร่าง​อ้วน​อายุ​น้อย​ที่​มีศีรษะ​และ​หู​ใหญ่โต​คน​หนึ่ง​กำลัง​ขี่ม้า​ตัว​ใหญ่​สีดำ​อยู่​

ม้ากำยำ​สูงใหญ่​ แต่​ต้อง​รับภาระ​อย่าง​หนัก​เพราะ​ถูก​คน​ร่าง​อ้วน​ทับหลัง​ เดิน​ไป​ก้าว​หนึ่ง​หอบ​หายใจ​สามที​ เหงื่อ​เม็ด​โต​ไหล​ลง​มาจาก​คอ​และ​แผ่น​หลัง​

บน​ทางหลวง​บางครั้ง​จะมีคน​เดิน​ทางผ่าน​ไป​ผ่าน​มา บ้าง​ก็​ขี่ม้า​ บ้าง​ก็​ขี่​วัว​ บ้าง​ขี่​ลา​ ทุกคน​ต่าง​แซงหน้า​คน​ร่าง​อ้วน​ผู้​นี้​ไป​ได้​อย่าง​สบาย​ๆ

บางครั้ง​มีคน​พิจารณา​หนึ่ง​คน​หนึ่ง​ม้านี้​ด้วย​ความ​ฉงน​ ทั้ง​กระซิบกระซาบ​แอบ​หัวเราะ​เบา​ๆ คน​ร่าง​อ้วน​ผู้​นี้​ได้ยิน​ก็​ไม่โกรธ​ เพียง​หัวเราะ​ฮ่าๆ พลาง​มอง​ท้องฟ้า​ ก่อน​จะตบ​สะโพก​ม้าเดินทาง​ต่อ​

ปัจจุบัน​ลู่​เซิ่งซึ่งเป็น​มายา​พิศวง​ไม่ได้​เคร่งเครียด​ระมัดระวัง​ตัว​เหมือน​ตอนแรก​ๆ อีกแล้ว​ จึงค่อนข้าง​ให้​ความรู้สึก​เหมือน​ออก​ท่อง​ทั่วหล้า​

เขา​ออกจาก​แท่นบูชา​ย่อย​ของ​แท่น​น้ำค้าง​คราม​หรือ​สถานที่​ที่​เขา​อยู่​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​มาได้​สามวัน​แล้ว​ ใน​เวลา​สามวันนี้​ เขา​เล็ดลอด​ออกจาก​อาณาเขต​สามมณฑล​ที่​แท่น​น้ำค้าง​คราม​ปกครอง​มาถึงมณฑล​ป่าสน​เจดีย์​บูรพา​ที่อยู่​ติดกัน​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

นี่​เป็น​สถานที่​ที่​มารดา​ของ​ผัง​ซือเฉิง​ปรากฏตัว​เป็น​ครั้งสุดท้าย​

อาราม​หยก​สดใส​แห่ง​นั้น​ตั้งอยู่​ที่นี่​ เป็น​ซากปรักหักพัง​ของ​อาราม​เต๋า​ที่​เคย​มีชื่อเสียง​โด่งดัง​ไป​ทั่ว​ใต้​หล้า​

ลู่​เซิ่งถามทาง​ไป​เรื่อยๆ​ เนื่องจาก​พลัง​ฝึกปรือ​ยกระดับ​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ใช้เวลา​แค่​ไม่กี่​วัน​ เขา​ก็​ไป​ถึงระดับ​ห้า​ของ​วิชา​คางคก​ดารา​เคลื่อน​

วิชา​นี้​มีทั้งหมด​เจ็ด​ระดับ​ ระดับ​ห้า​เป็น​ขอบเขต​ของ​เจ้าของเดิม​ที่​ถูก​บิดา​ผัง​หยวน​จวิน​เอาชนะ​ใน​ตอนนั้น​

วิชา​ถึงระดับ​ห้า​แล้ว​ แต่​แรง​ยังคง​เพิ่ม​อย่าง​เชื่องช้า​ เพื่อให้​ร่างกาย​ปรับตัว​เข้ากับ​การปรับปรุง​ด้วย​พลัง​อาวรณ์​ที่​มีความ​รวดเร็ว​นี้​ได้​

ตอนนี้​ลู่​เซิ่งมีพละกำลัง​ของ​กระทิง​สิบ​ตัว​แล้ว​ หนำซ้ำ​หลังจาก​เวลา​ผ่าน​ไป​เรื่อยๆ​ ขอบเขต​ของ​วิชา​ของ​เขา​ก็​ค่อยๆ​ ยกระดับ​พละกำลัง​ของ​กาย​เนื้อ​ร่าง​นี้​เช่นกัน​

นี่​เป็นหนึ่ง​ใน​ลักษณะเด่น​ของ​โลก​ใบ​นี้​ วิชา​มรรคา​ยุทธ์​ของ​ที่นี่​มีแต่​การ​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ทาง​ร่างกาย​เท่านั้น​ ต่อให้​จะไป​ถึงขอบเขต​ที่สูง​ล้ำ​กว่า​เดิม​ ก็​ต้อง​เสริม​ความ​แข็งแกร่ง​เป็นเวลา​นาน​ ถึงจะได้รับ​พลัง​มากกว่า​เดิม​

เพียงแต่​วิชา​ใน​ขอบเขต​สูงสามารถ​ยกระดับ​พละกำลัง​ได้​เร็ว​กว่า​เดิม​

ดี​ที่​ลู่​เซิ่งไม่รีบร้อน​ เพียงแต่​หลาย​วัน​มานี้​ จาก​การ​ใช้วิชา​จิต​โน้ม​นำ​ตรวจสอบ​อย่าง​ต่อเนื่อง​ การ​หายตัว​ไป​ของ​ ถังชิงชิงมารดา​ของ​ผัง​ซือเฉิง​ก็​เหมือน​มีปริศนา​เพิ่มขึ้น​กว่า​เดิม​

ดูเหมือน​การ​หายตัว​ไป​ของ​ถังชิงชิงจะมีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​ผัง​หยวน​จวิน​ ผัง​หยวน​จวิน​คล้าย​จะซ่อน​ความลับ​ที่​ไม่มีใคร​ทราบ​ส่วนหนึ่ง​ไว้​

จาก​การ​ตรวจสอบ​ ครั้งกระโน้น​ถังชิงชิงรัก​ผัง​หยวน​จวิน​มาก​ยิ่งนัก​ ไม่มีทาง​ที่​นาง​จะจากไป​เอง​เหมือน​ที่​ผัง​หยวน​จวิน​บอกเล่า​แน่นอน​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท