บทที่ 768 อยู่กันพร้อมหน้า (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

‘…จากนั้น​จอม​ยุทธ์​จะบุกเบิก​ดวงดาว​ได้​หนึ่ง​ฐาน​ มหา​จอม​ยุทธ์​บุกเบิก​ได้​สอง​ฐาน​ ยอด​วรยุทธ์​บุกเบิก​ได้​สามฐาน​ ราชา​วรยุทธ์​กลับ​แตกต่าง​ออก​ไป​’

ลู่​เซิ่งหยิบ​กระดาษ​แผ่น​หนึ่ง​ออกมา​ บน​กระดาษ​ใช้ดินสอ​ถ่าน​วาด​จุด​ลมปราณ​อย่าง​หยาบ​ๆ บน​ร่างกาย​คน​เอาไว้​ และ​ทำ​สัญลักษณ์​ตำแหน่ง​ดวงดาว​ส่วนหนึ่ง​ไว้​อย่าง​คร่าวๆ​

‘ราชา​วรยุทธ์​คือ​ดวงดาว​สามดวง​ที่​บุกเบิก​ก่อน​การบุกเบิก​ใน​ลำดับ​ต่อไป​ และ​จะทิ้ง​ตราประทับ​จิต​กลุ่ม​หนึ่ง​ไว้​ใน​ดาว​ทุก​ดวง​ จากนั้น​ก็​จะระเบิด​พละกำลัง​แข็งแกร่ง​ได้​อย่าง​อิสระ​และ​ว่องไว​กว่า​เดิม​’

เขา​วาด​เส้นสาย​หลาย​เส้น​บน​มนุษย์​ตัว​จิ๋ว​ เพื่อ​ใช้แทน​เส้น​ชีพจร​และ​เส้นเลือด​

‘ต่อจากนั้น​คือ​เจ้าวรยุทธ์​ ดวงดาว​ที่​เจ้าวรยุทธ์​บุกเบิก​ได้​คือ​สี่ฐาน​ ต่าง​ทิ้ง​ตราประทับ​จิต​ใน​ดาว​ทุก​ดวง​ หาก​โคจร​วิชา​ เลือด​ลม​ทั่ว​ร่าง​จะเชื่อมต่อ​กับ​ดวงดาว​มากกว่า​พัน​ดวง​ การระเบิด​พลัง​ไม่มีสิ่งใด​เทียบเคียง​ เปลี่ยน​จาก​มนุษย์​เป็น​เซียน​ น่าสนใจ​…เจ้าวรยุทธ์​สามารถ​ครอบครอง​พลัง​ของ​ช้างสาร​ร้อย​ตัว​ได้​ หาก​สัมผัส​อย่าง​ละเอียด​ จะใกล้เคียง​กับ​ระดับ​ผู้​ถือ​อาวุธ​ เพียงแต่​พลัง​ต่อสู้​เรียบง่าย​กว่า​ผู้​ถือ​อาวุธ​เท่านั้น​’

ลู่​เซิ่งทดลอง​สัมผัส​ดู​ว่า​ดวงดาว​คือ​สิ่งใด​

ตอนแรก​เขา​นึก​ว่า​เป็น​จุด​ลมปราณ​ แต่​พอใช้​จิตวิญญาณ​สังเกต​อย่าง​ละเอียด​ค่อย​พบ​ว่า​ไม่ใช่

ไม่ใช่เส้น​ลมปราณ​ ไม่ใช่จุด​เชื่อมต่อ​ลมปราณ​ และ​ไม่ใช่จุด​เชื่อม​เส้นเลือด​ ถึงขั้น​ไม่ใช่สิ่งใด​บน​เลือดเนื้อ​

ลู่​เซิ่งทำความเข้าใจ​อยู่​ใน​ห้อง​คนเดียว​จนกระทั่ง​ถึงพลบค่ำ​ แต่​ก็​ไม่ได้​อะไร​เลย​สัก​อย่าง​เดียว​

นิยาม​ดวงดาว​นี้​จะต้อง​เป็นความลับ​หลัก​ของ​โลก​ใบ​นี้​อย่าง​แน่นอน​ แม้จะยัง​ไม่เข้าใจ​ แต่​เขา​ก็​ไม่ได้​รีบร้อน​อัน​ใด​

ตอนนี้​ข่าว​ที่​ถังชิงชิงถูก​พา​กลับบ้าน​จะต้อง​ลอย​ไป​ถึงหู​ของ​ผัง​หยวน​จวิน​แล้ว​อย่าง​แน่นอน​ เขา​กำลัง​รอ​ดู​ปฏิกิริยา​ของ​ผัง​หยวน​จวิน​อยู่​

บิดา​คงจะ​กลับ​มายัง​แท่นบูชา​ย่อย​เพื่อ​ตรวจสอบ​สถานการณ์​ด้วย​ความสนใจ​เอง​ ถึงตอนนั้น​ลู่​เซิ่งวางแผน​ว่า​จะลง​มือจับ​อีก​ฝ่าย​ไว้​

แต่​ก่อนหน้า​นั้น​ พลัง​ของ​เขา​ไม่แน่​ว่า​จะล้ม​ผัง​หยวน​จวิน​ได้​

นี่​เป็นสาเหตุ​สำคัญ​ที่​ทำให้​เขา​ตั้งใจ​ฝึกฝน​เป็นเวลา​หลาย​วัน​

แม้โลก​ใบ​นี้​จะเป็น​โลก​ที่​เขา​ตั้งใจ​เดินทาง​มารวบรวม​พลัง​อาวรณ์​ แต่​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ต้อง​สะสางผลกรรม​ความปรารถนา​ให้​เรียบร้อย​ อุตส่าห์​เจอ​ผลกรรม​ความปรารถนา​ที่​จัดการ​ง่ายๆ​ ทั้งที​ ถ้าหาก​ทำ​ไม่สำเร็จ​ เช่นนั้น​ก็​เสียเปล่า​เกินไป​แล้ว​จริงๆ​

หลาย​วัน​มานี้​ ลู่​เซิ่งเริ่ม​วางแผน​ควบคุม​แท่นบูชา​ย่อย​อย่าง​สมบูรณ์​ไป​ด้วย​

หลังจาก​เข้า​ควบคุม​แท่นบูชา​ย่อย​แล้ว​ เขา​ก็​คิด​จะทดลอง​พัฒนา​วิชา​คางคก​ดารา​เคลื่อน​เพื่อ​ดู​ว่า​จะพัฒนา​ของเล่น​แบบ​ไหน​ออกมา​ได้​ด้วย​ศักยภาพ​มรรคา​ยุทธ์​ของ​ตนเอง​

ไกล​ออก​ไป​พัน​ลี้​ คฤหาสน์​ตระกูล​เฟิง

ควัน​หนา​หลาย​กลุ่ม​เหมือนกับ​เส้น​สีดำ​หลาย​สาย​ ลอย​ออกมา​ช้าๆ จาก​ป้อมปราการ​สีดำ​ที่​ยิ่งใหญ่​ซึ่งอยู่​ไกล​ออก​ไป​ พวก​มัน​ฟุ้งกระจาย​กลางอากาศ​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ย้อม​ชั้น​เมฆที่​กระจ่าง​ใสใน​ตอนแรก​ให้​กลายเป็น​สีดำ​อม​เทา​จางๆ

ธงใหญ่​สี่คัน​ปัก​สูงอยู่​บน​กำแพง​ป้อมปราการ​ ผืน​ธงที่​โบกสะบัด​ตาม​ลม​เขียน​คำ​ว่า​เฟิงตัว​ใหญ่​เอาไว้​

ห่าง​จาก​ป้อมปราการ​ออก​ไป​ร้อย​หมี่​ บน​พื้น​โคลน​สีเทา​แบน​ราบ​ใน​ตอนแรก​คือ​หลุม​ลึก​สีดำ​เกรียม​กับ​รอย​เลือด​สีแดงเข้ม​

อาวุธ​กับ​โล่​ที่​หัก​ชำรุด​รวมถึง​คันธนู​ที่​กระจาย​ไป​ทั่ว​ กลายเป็น​ทิวทัศน์​ที่​พบเห็น​ได้​บ่อย​นัก​ใน​สนามรบ​แห่ง​นี้​

“อีก​สอง​ชั่ว​ยาม​ถึงจะมืดค่ำ​แล้ว​ วันนี้​เกรง​ว่า​จะคว้าน้ำเหลว​อีกครั้ง​”

ผัง​หยวน​จวิน​มอง​คฤหาสน์​ตระกูล​เฟิงซึ่งเป็น​ป้อมปราการ​สีดำ​อยู่​ไกลๆ​ หัว​คิ้ว​ขมวด​มุ่น​ ค่อนข้าง​หงุดหงิด​ใจ

ดู​จาก​รูปลักษณ์ภายนอก​ เขา​เป็น​บุรุษ​วัยกลางคน​ที่​กำยำล่ำสัน​คน​หนึ่ง​

เค้า​โครงหน้า​องอาจ​ บุคลิก​เย็นชา​ สวม​ถุงมือสี​ดำ​ทำ​จาก​หนัง​ เหน็บ​ดาบ​ใหญ่​ฟันเลื่อย​สอง​เล่ม​ไว้​ที่​เอว​ เสื้อคลุม​สีเขียว​ขอบ​ดำ​คลุม​อยู่​บน​เสื้อ​แขน​สั้น​สีเขียวขี้ม้า​ เสื้อคลุม​ผืน​หนา​ที่​ติด​ขน​ไว้​รอบ​ชาย​เสื้อ​พลิก​ตาม​ลม​น้อย​ๆ ทำให้​คน​ที่​เห็น​ดูออก​ทันที​ว่า​เขา​คือ​คน​ที่​มีสถานะ​สูงสุด​บน​สนามรบ​ผืน​นี้​

บุรุษ​สตรี​สูงใหญ่​ที่​มีลักษณะ​ต่างกัน​สอง​คน​ยืน​อยู่​ด้านหลัง​ผัง​หยวน​จวิน​

บุรุษ​มีผม​สีทอง​ ใบหน้า​เหี้ยมเกรียม​ รูปร่าง​น่ากลัว​ มีอายุ​อย่าง​น้อย​หกสิบ​กว่า​ปี​แล้ว​ แต่กลับ​สะพาย​ธนู​ใหญ่​คัน​หนึ่ง​ไว้​บน​หลัง​ ซอง​ธนู​ซอง​หนึ่ง​ติด​เอียง​อยู่​ข้าง​เอว​ สอง​แขน​ห้อย​ตก​ ราวกับว่า​พร้อม​จะรั้ง​ลูกธนู​เพื่อ​ยิง​ออก​ไป​ได้​ตลอดเวลา​ คน​ผู้​นี้​คือ​เจ้าวรยุทธ์​หยวน​ซือเจี้ยน​ ผู้ช่วย​ที่​เก่งกาจ​ของ​ผัง​หยวน​จวิน​

ฝ่าย​สตรี​มีตา​ข้าง​หนึ่ง​เป็น​สีขาว​ แสดงให้เห็น​ตา​นั้น​บอด​ไป​แล้ว​ ร่างกาย​บึกบึน​ทรงพลัง​ ทั้ง​ยัง​อุดมสมบูรณ์​เป็นพิเศษ​ ทั้งๆ ที่​มีโครงกระดูก​กว้าง​ กระนั้น​รูปร่าง​ที่​ด้านหน้า​นูน​ด้านหลัง​โค้ง​งอน​กลับ​ชวน​ให้​คน​นึกถึง​ความงาม​ที่​สมส่วน​แข็งแรง​ ราวกับ​เสือดาว​ย่างก้าว​ออกจาก​พุ่มไม้​

คน​ผู้​นี้​คือ​คน​ที่​ผัง​หยวน​จวิน​เชื่อใจ​ที่สุด​ เป็น​มือซ้าย​มือขวา​ของ​เขา​ หัตถ์​ปราณ​กำเนิด​ตัด​กระแส​ธารา​ หลิ่ว​หวน​จวง​

ตอนนี้​หลิ่ว​หวน​จวง​จับ​พิราบ​ส่งข่าว​สีดำ​ตัว​หนึ่ง​ไว้​ใน​มือ​ นาง​ปลด​กระดาษ​ที่​พัน​ไว้​บน​ขา​ของ​มัน​ออก​เบา​ๆ แล้ว​นำมา​คลี่​อ่าน​

“เป็น​ตราประทับ​ของ​แท่นบูชา​ย่อย​ แท่นบูชา​ย่อย​ใน​เมือง​น้ำค้าง​คราม​ที่​ซือเฉิง​อยู่​” นาง​กล่าว​เสริม​

“ซือเฉิง​หรือ​ อ่าน​ดู​ว่า​เป็น​อย่างไร​” หยวน​ซือเจี้ยน​

ผัง​หยวน​จวิน​ผู้​เป็น​บิดา​ของ​ผัง​ซือเฉิง​กลับ​ไม่สนใจ​แม้แต่น้อย​ ไม่ได้​มอง​มาทาง​นี้​ด้วยซ้ำ​ สายตา​อยู่​บน​ป้อมปราการ​สีดำ​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​ตลอดเวลา​

หลิ่ว​หวน​จวง​อ่าน​เนื้อหา​บน​กระดาษ​จบ​อย่าง​รวดเร็ว​ สีหน้า​พลัน​พิลึก​ขึ้น​เล็กน้อย​

“จดหมาย​บอ​กว่า​ เด็กน้อย​ซือเฉิง​พา​ถังชิงชิงฮูหยิน​ของ​ประมุข​แท่นบูชา​หลัก​กลับมา​ได้​อย่าง​คาดไม่ถึง​ ตอนนี้​กำลัง​รอ​อยู่​ที่​เมือง​น้ำค้าง​คราม​ บอ​กว่า​ต้องการ​เรียกตัว​หยวน​จวิน​กลับ​ไป​”

“ถังชิงชิง สำนัก​น้ำพุ​วิถี​เอ​กะ​คิด​จะสอด​ขา​เข้ามา​หรือ​” ผัง​หยวน​จวิน​พลัน​ขมวดคิ้ว​

“ข้า​รู้สึก​ว่า​จะไม่ใช่ความคิด​ของ​สำนัก​น้ำพุ​…” หลิ่ว​หวน​จวง​ชูกระดาษ​ขึ้น​พร้อมกับ​กล่าว​ด้วย​สีหน้าที่​พิลึกพิลั่น​กว่า​เดิม​ “นี่​เป็น​จดหมาย​ที่​ซือเฉิง​เขียน​เอง​ เขา​บอ​กว่า​ถังชิงชิงมาหา​เขา​และ​วิงวอน​ให้​เขา​พา​นาง​กลับมา​เพราะ​รัก​เจ้า…ลูก​เจ้ายัง​บอก​อีก​ด้วยว่า​ ถังชิงชิงถึงกับ​ยอม​ตาย​ เขา​เลย​ได้​แต่​วางยา​และ​มัด​นาง​ไว้​เพื่อ​จำกัด​อิสรภาพ​ไว้​ด้วย​ความ​จนปัญญา​ ป้องกัน​ไม่ให้​เกิด​โศก​นาฏ​กรร​ม…”

“เอ่อ​…ถังชิงชิงมีความผูกพัน​ถึงเพียงนั้น​เชียว​หรือ​” หยวน​ซือเจี้ยน​พลัน​งงงวย​

“ไม่ต้อง​สนใจ​ ตอนนี้​คฤหาสน์​ตระกูล​เฟิงใกล้​พ่าย​แล้ว​ ข้า​ไม่เชื่อ​ว่า​กองทัพ​แท่น​น้ำค้าง​คราม​มากกว่า​หมื่น​ของ​ข้า​จะตี​คฤหาสน์​ตระกูล​เฟิงเล็ก​ๆ ไม่แตก​ได้​!” บน​ใบหน้า​เย็นชา​ของ​ผัง​หยวน​จวิน​ผุด​ความดุร้าย​

เขา​โบกมือ​ใหญ่​

“ถ่ายทอด​คำสั่ง​ลง​ไป​ พรุ่งนี้​เช้าระดม​โจมตี​ให้​สุดกำลัง​! แล้ว​เอา​สิ่งนั้น​มาใช้ด้วย​!”

“จะให้​ใช้สิ่งนั้น​เลย​หรือ​” หลิ่ว​หวน​จวง​ผุด​สีหน้า​เคร่งขรึม​

“ถ้าเป็น​สิ่งนั้น​ ครั้งนี้​จะต้อง​ไม่มีปัญหา​แน่​ เพียงแต่​ใช้เร็ว​เช่นนี้​…” หยวน​ซือเจี้ยน​กล่าว​อย่าง​ลังเล​

“ไม่เป็นไร​ ข้า​อยาก​จะเห็น​นัก​ว่า​คฤหาสน์​ตระกูล​เฟิงจะต้านทาน​การ​โจมตี​สุดกำลัง​ได้​นาน​แค่​ไหน​” ดวงตา​ของ​ผัง​หยวน​จวิน​สาด​ความ​เกรี้ยวกราด​

ผัง​หยวน​จวิน​มีพรสวรรค์​ล้ำเลิศ​ ทั้ง​ยัง​เก่งกาจ​เจ้าแผนการ​ กำลัง​อยู่​ใน​วัยฉกรรจ์​ เต็มไปด้วย​ความทะเยอทะยาน​ คิด​จะฝืน​คำทำนาย​ของ​มู่โฝ่ว​ กอปร​กับ​พลัง​ฝึกปรือ​ของ​เขา​ใกล้​จะเลื่อน​ระดับ​ มีโอกาส​ไป​ถึงขอบเขต​เจ้าวรยุทธ์​ระดับ​สูงสุด​ได้​ตลอดเวลา​ ดังนั้น​เขา​จึงยาตรา​ทัพ​ไป​ทั้ง​ตะวันตก​ตะวันออก​ หา​ข้ออ้าง​ฆ่าคน​ล้าง​ตระกูล​ตามใจ​ แม้จะเหิมเกริม​เช่นนี้​ แต่​สามพรรค​ใหญ่​กลับ​ทำ​อะไร​ไม่ได้​เลย​แม้แต่น้อย​

ใน​สามพรรค​ใหญ่​ไม่มีจักรพรรดิ​วรยุทธ์​ มีแต่​เจ้าวรยุทธ์​ระดับ​สูงสุด​เท่านั้น​ แต่​มีจำนวน​เยอะ​กว่า​สิบ​หก​สำนัก​ โดย​เปลือกนอก​พลัง​ของ​สามพรรค​ใหญ่​อยู่​เหนือ​สิบ​หก​สำนัก​ แต่​สำนัก​แถวหน้า​สอง​สามสำนัก​ใน​สิบ​หก​สำนัก​ก็​มีพลัง​ส่วนตัว​ไม่ด้อย​กว่า​พวกเขา​เช่นกัน​

จักรพรรดิ​วรยุทธ์​เลือนราง​ล่องลอย​ ผู้​ที่​ทิ้ง​ตำนาน​ไว้​ใน​ยุทธ​จักร​ มีทั้งหมด​สอง​คน​ ทว่า​สอง​คน​นี้​ไม่เข้า​ร่วมกับ​ ขุม​กำลัง​ใด​ หลุดพ้น​ละ​จาก​ทางโลก​ เดี๋ยว​ปรากฏ​เดี๋ยว​สูญหาย​

ผัง​หยวน​จวิน​ก่อ​สงคราม​ไป​ทั่ว​ ประการหนึ่ง​เพื่อ​ทำลาย​คำทำนาย​ อีก​ประการ​เพื่อ​รวบรวม​วิชา​อื่นๆ​ แล้ว​เอา​มาเพิ่มจำนวน​ดวงดาว​ให้​แก่วิชา​สิบ​ทัพ​สังหาร​ของ​ตนเอง​

เช้าตรู่​วัน​ต่อมา​

กองทัพ​สีดำ​หลาย​กลุ่ม​ที่​ล้อม​คฤหาสน์​ตระกูล​เฟิงพา​กัน​ผลัก​สิ่งของ​ทรงกระบอก​สีดำทะมึน​ที่​ทั้ง​หยาบ​และ​ใหญ่​ออกมา​หลาย​ชิ้น​

สิ่งเหล่านี้​ติดตั้ง​โครงสร้าง​ที่​เหมือนกับ​ล้อรถ​ไว้​ด้านล่าง​ ดู​หนักอึ้ง​ยิ่ง​

จากนั้น​ก็​บรรจุ​กระสุน​ปืนใหญ่​ จุด​ดินระเบิด​ และ​มีเสียงดัง​ตูม​!

แสงเพลิง​หลาย​สาย​พุ่ง​แวบ​ขึ้น​สู่ท้องฟ้า​ แล้ว​หล่น​ลง​ตรง​ขอบ​กำแพงเมือง​อย่าง​หนักหน่วง​ ป้อมปราการ​ของ​คฤหาสน์​ตระกูล​เฟิงพลัน​สั่นสะเทือน​

ไฟจาก​การ​ยิงปืน​คงอยู่​ไป​จนถึง​ตอนบ่าย​ ในที่สุด​กำแพงเมือง​ก็​ถูก​ทำลาย​ ปืนใหญ่​ที่​ถูก​ผลัก​มาทั้งหมด​เพราะ​ใช้ความร้อน​สูงติดต่อกัน​จึงชำรุด​ ไม่ระเบิด​แหลกลาญ​ก็​ถือว่า​เห็นแก่หน้า​มาก​แล้ว​

ภายใต้​ข้อได้เปรียบ​ของ​ปืนใหญ่​ ในที่สุด​กำแพง​รอบนอก​ของ​หมู่บ้าน​ตระกูล​เฟิงก็​ถล่ม​ลง​ พวก​ผัง​หยวน​จวิน​ระดม​กองทัพ​ไป​ต่อสู้​ด้านใน​กำแพงเมือง​

ฆ่า!

ผัง​หยวน​จวิน​มอง​การต่อสู้​ระยะ​ประชิด​ที่​ดุเดือดเลือดพล่าน​อยู่​บน​กำแพงเมือง​ ศพ​ของ​ทั้งสอง​ฝั่งร่วงหล่น​ลง​มาจาก​กำแพงเมือง​ตลอดเวลา​เหมือนกับ​แผ่น​เกี๊ยว​

เขม่า​ควัน​ฟุ้งตลบ​ แม้ปืนใหญ่​สิบ​กว่า​กระบอก​จะพัง​ไป​แล้ว​ แต่​ภายใต้​การ​โจมตีจาก​กำแพงเมือง​ด้านนอก​ ขอ​แค่​ยึด​อาณา​เขตเมือง​ด้านใน​ได้​ ก็​จะเป็นเวลา​ที่​กำ​ชัยชนะ​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​

เวลานี้​เงาคน​สีขาว​หลาย​สาย​ถือ​ขวาน​ด้าม​สั้น​พุ่ง​มาจาก​บน​กำแพงเมือง​ ต่าง​คน​ต่าง​เหมือน​เสือ​กระโจน​เข้าไป​กลาง​ฝูงแกะ​ แข็งแกร่ง​ทรงพลัง​และ​ไร้​เทียมทาน​

ทว่า​แทนที่จะ​แตกตื่น​พวก​ผัง​หยวน​จวิน​กลับ​ยินดี​

“ในที่สุด​องครักษ์​ของ​ราชา​ดาบ​ก็​ออกโรง​แล้ว​! นี่​คือ​พลัง​ต่อสู้​สุดท้าย​ของ​คฤหาสน์​ตระกูล​เฟิง เอาชนะ​พวก​มัน​ได้​เมื่อไร​ก็​เป็นเวลา​กำ​ชัยชนะ​ของ​พวกเรา​!”

ผัง​หยวน​จวิน​พลัน​หัวเราะ​ลั่น​

“แข่ง​กัน​หรือไม่​” หลิ่ว​หวน​จวง​มอง​หยวน​ซือเจี้ยน​

“ยัง​ไม่ยอม​อีก​หรือ​” หยวน​ซือเจี้ยน​อารมณ์​ดีมาก​เช่นกัน​ ลูบ​เครา​พร้อมกับ​หัวเราะ​

ทั้งสอง​ยิ้ม​ให้​แก่​กัน​ก่อน​จะลงมือ​พร้อมๆ กัน​

ผัง​หยวน​จวิน​ถอยหลัง​ก้าว​หนึ่ง​ ก่อน​จะยก​มือขวา​ขึ้น​ฟัน​ลง​ไป​

ฟ้าวๆๆๆ!​

คน​สวมหน้ากาก​ที่​ใส่ชุด​สีดำ​กลุ่ม​ใหญ่​พุ่ง​ออก​มาจาก​ด้าน​หลังเขา​ แล้ว​กระโจน​ไป​ยัง​กำแพงเมือง​ด้านใน​

สถานการณ์​รบ​เปลี่ยนแปลง​อย่าง​รวดเร็ว​ หลังจาก​ทาง​แท่น​น้ำค้าง​คราม​มีทัพ​ใหม่​เข้าร่วม​ คน​สวม​อาภรณ์​ขาว​ของ​คฤหาสน์​ตระกูล​เฟิงก็​บาดเจ็บ​ล้มตาย​เป็น​จำนวนมาก​ใน​เวลา​สั้น​ๆ ราวกับ​หิมะ​ถล่ม​

“ผัง​หยวน​จวิน​!”

ตูม​!

ชั่ว​ขณะนั้น​ก้อนหิน​ใหญ่​ก้อน​หนึ่ง​ลอย​ขึ้น​จาก​กลาง​กำแพงเมือง​ด้านใน​ แล้ว​พุ่ง​ใส่หลิ่ว​หวน​จวง​ที่​เพิ่ง​ฆ่าคน​ไป​สอง​คนจน​นาง​หน้า​แดงก่ำ​ ร่าง​ปลิว​ลอย​ออก​ไป​ฝังตัว​เข้ากับ​กำแพงเมือง​อย่าง​รุนแรง​

“ฮ่าๆๆๆ! เฟิงซัน​เห​อ​ราชา​ดาบ​อุดร​! ในที่สุด​เจ้าก็​ยอม​โผล่​หัว​มาแล้ว​!” ผัง​หยวน​จวิน​มองเห็น​แต่ไกล​ กลับ​เงยหน้า​หัวเราะ​ร่า​ พร้อมกับ​พลิก​มือ​ชักดาบ​ยาว​ออกจาก​เอว​

พรึ่บ​!

แต่​ใน​ตอนนี้​เงาคน​สูงใหญ่​สาย​หนึ่ง​กลับ​โผล่​มาขวาง​ด้านหน้า​เขา​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​ก็​ไม่ทราบ​

“เฉิงเอ๋อร์!”​ ผัง​หยวน​จวิน​งุนงง​ จด​จำได้​ทันที​ว่า​นี่​คือ​ผัง​ซือเฉิง​ลูกชาย​ของ​ตัวเอง​

“เจ้ามาทำ​อะไร​ที่นี่​! รีบ​กลับ​ไป​เสีย​! ที่นี่​ไม่ใช่ที่​ที่​เจ้าควร​มา!”

ลู่​เซิ่งแสดง​สีหน้า​สงบนิ่ง​

“ท่าน​พ่อ​ ข้า​มารับ​ท่าน​กลับบ้าน​ ท่าน​แม่เปลี่ยนใจ​แล้ว​ ตอนนี้​เหลือ​แต่​ท่าน​คนเดียว​”

“กลับบ้าน​หรือ​” ผัง​หยวน​จวิน​หรี่ตา​ ไม่ทราบ​ว่า​เหตุใด​เขา​จึงรู้สึก​ว่า​คำพูด​ของ​ลูกชาย​มีความผิดปกติ​ตรง​ที่ใด​สัก​จุด​หนึ่ง​

“พอแล้ว​ อย่า​มาขวาง​ รอ​ข้า​จัด​การสงคราม​นี้​จบ​ค่อย​พูด​เรื่อง​มารดา​เจ้า” เขา​ยก​ดาบ​ขึ้น​แล้ว​เหิน​ร่าง​ไป​ยัง​กำแพงเมือง​ด้านใน​เหมือน​สาย​ฟ้าแลบ​

ทว่า​ลู่​เซิ่งลอยตัว​ขึ้น​และ​ขวาง​เส้นทาง​ของ​เขา​ไว้​อีกครั้ง​ได้​อย่าง​น่าอัศจรรย์​

“หลีก​ไป​ซะ!” ผัง​หยวน​จวิน​พลัน​โมโห​

“หยุด​ดื้อด้าน​เสียที​ท่าน​พ่อ​ ยอมตาม​ข้า​กลับบ้าน​ไป​อยู่​กัน​พร้อม​หน้าเสีย​ดี​ๆ เถิด​” ลู่​เซิ่งผุด​สีหน้า​จนปัญญา​เล็กน้อย​

“ไสหัว​กลับ​ไป​!” ผัง​หยวน​จวิน​ผลัก​ฝ่ามือขวา​ดุจ​สาย​ฟ้าแลบ​ พลัง​ของ​ช้างสาร​ห้า​ร้อย​ตัว​พุ่ง​ใส่ไหล่​ของ​ลู่​เซิ่งพร้อมกับ​แรง​กระแทก​ยิ่งใหญ่​

ต่อให้​จะเป็น​ลูกชาย​ เขา​ก็​จะทำให้​อีก​ฝ่าย​เข้าใจ​ว่า​ สนามรบ​ไม่ใช่ของเด็กเล่น​

“อย่า​บังคับ​ให้​ข้า​ทำร้าย​ท่าน​นะ​!” ลู่​เซิ่งเบี่ยง​ร่าง​หลบ​พ้น​ฝ่ามือ​นี้​

ฝ่ามือ​ของ​ผัง​หยวน​จวิน​ตบ​ใส่ความว่างเปล่า​ พลัน​รู้สึก​ผิดปกติ​ เขา​รู้ดี​ที่สุด​ว่า​ผัง​ซือเฉิง​มีพลัง​ฝึกปรือ​อยู่​ใน​ระดับ​ไหน​ หรือว่า​บุรุษ​ที่​หน้าตา​เหมือนกับ​ลูกชาย​ของ​ตน​ผู้​นี้​จะไม่ใช่ผัง​ซือเฉิง​

“ทัพ​สังหาร​ที่หนึ่ง​!”

ตูม​! เงาดาบ​ลวงตา​สาย​หนึ่ง​วาด​ผ่าน​ด้าน​ข้าง​ลำตัว​ลู่​เซิ่งไป​ เกือบ​ฟัน​ใส่ศีรษะ​ของ​เขา​

“ยัง​จะสู้อีก​หรือ​!” ลู่​เซิ่งยัง​พูด​ไม่จบ​ก็​ต้อง​หลบ​ไป​ทางซ้าย​อี​กรอบ​

“ทัพ​สังหาร​ที่สอง​!”

ประกาย​ดาบ​หลาย​สิบ​สาย​พลัน​ฟัน​ใส่ลู่​เซิ่งจาก​ทุก​ทิศ​ทุก​ทาง​

“อย่า​บังคับ​ข้า​นะ​!” ลู่​เซิ่งมุด​ร่าง​ออกจาก​ช่องว่าง​

“ทัพ​สังหาร​ที่สี่​! ทัพ​สังหาร​ที่​ห้า​!” ประกาย​ดาบ​ที่​เหมือนกับ​มังกร​สีเงิน​ตัว​หนึ่ง​พุ่ง​ใส่เขา​อย่าง​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​

“ทัพ​สังหาร​ที่หก​ ทัพ​สังหาร​ที่​แปด​!” ผัง​หยวน​จวิน​ผุด​สีหน้า​เย็นชา​ ไม่รอ​ผลลัพธ์​ปรากฏ​ก็​ควง​ดาบ​อี​กรอบ​ ประกาย​ดาบ​ที่​เหมือนกับ​ผิว​กระจก​ลอย​เข้าหา​ลู่​เซิ่งอย่าง​ต่อเนื่อง​ไม่ขาดสาย​

“ทัพ​สังหาร​ที่​เก้า​! ทัพ​สังหาร​ที่​…”

“พอได้​แล้ว​! บีบบังคับ​กัน​ขนาด​นี้​ข้า​ก็​ทุบตี​ได้​เหมือนกัน​!”

ในที่สุด​ลู่​เซิ่งก็​ของขึ้น​ ใช้ฝ่ามือ​คว้า​ขา​ข้าง​หนึ่ง​ของ​ผัง​หยวน​จวิน​เหมือน​เคลื่อนย้าย​ใน​พริบตา​ ก่อน​จะฟาด​ลง​ด้านล่าง​

ตูม​!

ศีรษะ​ของ​ผัง​หยวน​จวิน​กระแทก​กับ​กำแพงเมือง​เบื้องล่าง​ที่​หนา​สามหมี่​กว่า​ๆ อย่าง​แรง​

กำแพงเมือง​ระเบิด​เป็น​ช่อง​ขนาดใหญ่​ที่​มีเส้นผ่าศูนย์กลาง​สิบ​กว่า​หมี่​

ผัง​หยวน​จวิน​สลบ​ไป​ทันที​

“อย่า​นึก​ว่า​ท่าน​เป็น​พ่อ​ข้า​แล้ว​ข้า​จะไม่กล้า​ทำ​อะไร​ท่าน​นะ​!”

ลู่​เซิ่งถุยน้ำลาย​ ก่อน​จะลาก​ผัง​หยวน​จวิน​กระโดด​ออก​ไป​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท