บทที่ 769 อยู่กันพร้อมหน้า (3)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ลู่​เซิ่งวิ่ง​เต็ม​ฝีเท้า​ไป​ตาม​ป่า​เขา​ดุจ​แสงกะพริบ​โดยที่​แบก​ผัง​หยวน​จวิน​ไป​ด้วย​

เนื่องจาก​เขา​เคลื่อนไหว​เร็ว​เกินไป​ บวก​กับ​มีสถานะ​พิเศษ​ จึงทำให้​ไม่มีใคร​ตอบสนอง​ทัน​ พอ​ทุบ​ผัง​หยวน​จวิน​จน​สลบ​เสร็จ​ก็​พา​ตัว​มาทันที​

รอ​คนอื่นๆ​ รู้สึกตัว​ ราชา​ดาบ​อุดร​ก็​ลงมือ​สุดกำลัง​ คิด​ฉวยโอกาส​ฝ่าวงล้อม​เพื่อ​พลิก​สถานการณ์​ เจ้าวรยุทธ์​อีก​สอง​คน​ได้​แต่​ถ่วงเวลา​เขา​ไว้​สุดกำลัง​ เพื่อ​ไม่ให้​สถานการณ์​รบ​พังทลาย​

หลังจาก​ลู่​เซิ่งวิ่ง​ตะบึง​เป็นเวลา​สิบ​กว่า​นาที​ เขา​ก็​กระโดด​ไป​บน​กิ่งไม้​ แล้ว​โฉบ​ลง​ด้านล่าง​ไป​ถึงริม​ทะเลสาบ​แห่ง​หนึ่ง​

“ผู้ใด​” สายตา​เขา​พลัน​สาด​ความ​เย็นชา​ ก่อน​จะกวาดตา​มอง​รอบตัว​

รอบ​ๆ คือ​ทะเล​ป่า​รก​ครึ้ม​ เมื่อ​ครู่​เขา​สัมผัส​ได้​ว่า​คล้าย​มีใคร​ลอบมอง​เขา​อยู่​ใน​ที่ลับ​

ความรู้สึก​นั้น​เย็นเยียบ​เป็นพิเศษ​

ลู่​เซิ่งวางตัว​ผัง​หยวน​จวิน​ลง​บน​พื้น​อย่าง​ระมัดระวัง​ ก่อน​จะขยับ​คอ​ดัง​กร๊อบแกร๊บ​ สายตา​มองดู​รอบ​ๆ จากนั้น​ก็​หยุด​ลง​ที่​ทะเลสาบ​ด้านหน้า​

ตุบ​

เขา​เข้าไป​ใกล้​อีก​เล็กน้อย​ เหยียบ​ใบไม้​แห้ง​กลุ่ม​หนึ่ง​จน​แหลก​

ซ่า!

คลื่น​น้ำ​ขนาด​ยักษ์​ที่สูง​สิบ​กว่า​หมี่​ผืน​หนึ่ง​พุ่ง​ขึ้น​ท้องฟ้า​ จระเข้​ปาก​สั้น​ขนาดใหญ่​สีดำ​สนิท​ตัว​หนึ่ง​พุ่ง​ออก​มาจาก​ทะเลสาบ​!

จระเข้​ยักษ์​ใช้ฟัน​ที่​เหมือนกับ​กรรไกร​งับ​ใส่ลู่​เซิ่งดุจ​สาย​ฟ้าแลบ​

“หือ​” ลู่​เซิ่งเคลื่อนย้าย​ไป​ทางขวา​เป็น​ระยะทาง​หนึ่ง​เหมือนกับ​สาย​ฟ้าแลบ​ จากนั้น​ก็​ตะปบ​มือขวา​ใส่อย่าง​สุดกำลัง​

เปรี้ยง​!

จระเข้​ยักษ์​ที่​ยาว​เจ็ด​แปด​หมี่​ถูก​เขา​คว้า​ศีรษะ​เอาไว้​ ห้า​นิ้ว​ดุจ​มีด​เจาะลึก​เข้าไป​อย่าง​ง่ายดาย​ราวกับ​แทง​เต้าหู้​

กรรซ์!​

จระเข้​ยักษ์​คำราม​ เกล็ด​ทั่ว​ร่าง​กลายเป็น​สีแดง​ พลิก​กลิ้ง​ร่างกาย​รอบ​หนึ่ง​ ก่อน​จะฟาด​หาง​ใหญ่​ราวกับ​แส้ใส่ลู่​เซิ่ง

‘ไอ้​ตัว​นี้​มีพลัง​ไม่ธรรมดา​! ส่วนหัว​ไม่ใช่จุดอ่อน​หรอก​หรือ​’ ลู่​เซิ่งสัมผัส​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​จระเข้​ตัว​นี้​รุก​ถอย​อย่าง​มีแบบแผน​ไม่เหมือนกับ​สัตว์​ หนำซ้ำ​ยัง​มีพลัง​เหนือกว่า​จระเข้​ทั่วไป​ ระดับ​ไม่ต่ำกว่า​เจ้าวรยุทธ์​

เขา​ยก​แขน​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​ป้องกัน​หาง​ เกิด​เสียง​เปรี้ยง​ดัง​กึกก้อง​

ลู่​เซิ่งถอยหลัง​ไป​ติดต่อกัน​สิบ​กว่า​ก้าว​ถึงค่อย​ฝืน​ตั้งหลัก​ได้​

“มาไม่เสียเวลา​จริงๆ​ ตอนแรก​นึก​ว่า​ต้อง​รอโอกาส​เสีย​อีก​” บุรุษ​ประหลาด​สอง​คน​หนึ่ง​สูงหนึ่ง​เตี้ย​เดิน​ออก​มาจาก​ทางซ้าย​ทางขวา​

สอง​คน​นี้​หน้าตา​เหมือนกัน​ บน​หน้าผาก​มีตุ่ม​เนื้อ​สอง​ก้อน​ขนาดใหญ่​ นอกจาก​ความสูง​แล้ว​ หาก​มอง​เผินๆ​ เหมือน​คน​คน​เดียวกัน​เปลี่ยนเสื้อ​ปลอมตัว​

“ผัง​หยวน​จวิน​ผู้ยิ่งใหญ่​เสียท่า​เจ้าอ้วน​คน​นี้​หรือ​นี่​ น่า​ทุเรศ​จริงๆ​”

“พูด​อะไร​ไร้สาระ​ ลงมือ​เถอะ​ เดี๋ยว​จะเกิดเหตุ​แทรกซ้อน​เอา​” คน​ตัว​เตี้ย​อีก​คน​เอ่ย​เสียง​เย็น​

ลู่​เซิ่งรู้สึก​ว่า​จระเข้​ยักษ์​ตัว​นั้น​กับ​คน​สอง​คน​นี้​ล้อม​ตนเอง​เป็นแนว​สามเหลี่ยม​ แสดงให้เห็น​ว่า​เป็นไปได้​ที่สุด​ที่​พวกเขา​สอง​คน​จะซ่อน​จระเข้​ยักษ์​ตัว​นี้​ไว้​ที่นี่​มาตั้งแต่แรก​แล้ว​

“จระเข้​ระดับ​เจ้าวรยุทธ์​ น่าสนใจ​นี่​!” ลู่​เซิ่งเลีย​ริมฝีปาก​

เพิ่งจะ​ต่อสู้​กับ​ผัง​หยวน​จวิน​ไป​ ทั้ง​ยัง​เป็นการ​เข้า​ปะทะ​ตอน​ไม่ทัน​ตั้งตัว​ ตอนนี้​พอ​ต้องสู้​กับ​ระดับ​เจ้าวรยุทธ์​สามคน​จริงๆ​ เขา​กลับ​คิด​จะลองดู​ว่า​ร่างกาย​ร่าง​นี้​มีพลัง​ฝึกปรือ​อยู่​ใน​ระดับ​ไหน​

“สังหาร​ผัง​หยวน​จวิน​!”

หลังจาก​เสียง​ตวาด​ดัง​ขึ้น​ สอง​คน​หนึ่ง​จระเข้​ก็​ลงมือ​พร้อมกัน​ พุ่ง​ใส่ลู่​เซิ่งจาก​สามทิศทาง​

พวกเขา​ไม่สนใจ​ผัง​หยวน​จวิน​ที่นอน​อยู่​ด้าน​ข้าง​ หาก​เล็ง​เป้า​ไป​ที่​ลู่​เซิ่งก่อน​ พวกเขา​เข้า​ใจดี​ว่า​ ถ้าหาก​ไม่จัดการ​ลู่​เซิ่ง ก็​ไม่มีทาง​สังหาร​ผัง​หยวน​จวิน​ได้​

เสียง​แหวก​อากาศ​ที่เกิด​จาก​เงาสามสาย​ดังลั่น​ส่งเสียง​ระเบิด​เสียด​หู​เหมือนกับ​จรวด​พุ่ง​สู่ท้องฟ้า​ กระแทก​เข้าใส่​ลู่​เซิ่งอย่าง​รุนแรง​จาก​สามทิศทาง​

ลู่​เซิ่งเพิ่งจะ​พัฒนา​วิชา​คางคก​ดารา​เคลื่อน​ถึงระดับ​สิบ​ การ​ที่​วิชา​คางคก​ดารา​เคลื่อนที่​เดิมที​มีแค่​เจ็ด​ระดับ​บรรลุ​ถึงระดับ​สิบ​ได้​ ก็​ถือเป็น​ขีดจำกัด​ทาง​โครงสร้าง​ทฤษฎี​ของ​วิชา​ชุด​นี้​แล้ว​ ไม่อาจ​พัฒนา​ได้​อีกต่อไป​

หลัง​จากไป​ถึงระดับ​ที่​สิบ​ การ​ยกระดับ​ที่​ได้รับ​ก็​สุด​ที่​เจ็ด​ระดับ​ก่อนหน้านี้​จะเทียบเคียง​ได้​ ลู่​เซิ่งรู้สึก​ได้​ว่า​ผิว​ของ​ตน​เริ่ม​มีผิวหนัง​โปร่งแสง​บาง​ๆ ที่​ทนทาน​งอก​ออกมา​ชั้นหนึ่ง​ พลัง​ป้องกัน​ของ​ตัวเอง​เพิ่มขึ้น​อย่าง​ใหญ่หลวง​

“น้ำค้าง​แสงอรุณ​!”

“น้ำค้าง​อัสดง​!”

คน​ทั้งสอง​คน​ที่หนึ่ง​สูงหนึ่ง​เตี้ย​วาด​มีดสั้น​ใน​มือ​เหมือนกับ​รุ้งกินน้ำ​สอง​สาย​ แทง​ใส่ใต้​รักแร้​สอง​ข้าง​ของ​ลู่​เซิ่งด้วย​จังหวะ​ประหลาด​ที่​เหมือน​รวดเร็ว​แต่​ความเป็นจริง​นั้น​กลับ​เชื่องช้า​จน​ยาก​จะเลียนแบบ​

จระเข้​ยักษ์​พุ่ง​มาถึงด้านหน้า​ลู่​เซิ่ง แล้ว​โจมตี​ด้วย​กรงเล็บ​แหลมคม​กับ​ปาก​ที่​กว้างใหญ่​ ได้กลิ่น​เหม็น​ร้ายกาจ​ฉุน​จมูก​ทั้งๆ ที่​ยังอยู่​ห่าง​นับ​หลาย​หมี่​

“ทำลายล้าง​พริบตา​ หมุน​วน​นับ​พัน​ครั้ง​!!” ลู่​เซิ่งเปลี่ยน​สอง​ฝ่ามือ​เป็น​ดาบ​พร้อมกับ​ปะทะ​ใส่การ​โจมตีจาก​สอง​ด้าน​

จากนั้น​เขา​ก็​เอียง​ตัว​ แล้ว​ยก​ขา​ขวา​ขึ้น​ฟาด​ลง​พร้อมกับ​เสียง​แหวก​อากาศ​อัน​น่ากลัว​ดุจ​ขวาน​ใส่ด้าน​ข้าง​ปาก​ของ​จระเข้​ยักษ์​อย่าง​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​

ตูม​!

เงาคน​สอง​สาย​กับ​จระเข้​ยักษ์​ถูก​กระแทก​ให้​โซเซถอยหลัง​ไป​

เลือด​กระจาย​เวียน​ว่อน​กลางอากาศ​ ลู่​เซิ่งโยน​แขน​ที่​ถือ​ไว้​ข้าง​ละ​ท่อน​ทิ้ง​ ก่อน​จะพุ่ง​ไป​ด้านหน้า​ แรง​สะท้อน​กลับ​ระเบิด​อย่าง​รุนแรง​ที่​ใต้เท้า​ ปรากฏ​หลุม​ใหญ่​เส้นผ่าศูนย์กลาง​หลาย​หมี่​

เขา​อาศัย​แรง​สะท้อน​ไป​โผล่​ขึ้น​ด้านหน้า​จระเข้​ยักษ์​เหมือน​เคลื่อนย้าย​ใน​พริบตา​ แล้ว​ประกบ​มือ​แทง​ไป​ด้านหน้า​!

สวบ​!

สอง​ฝ่ามือ​ของ​เขา​แทง​หาย​เข้าไป​ใน​ท้อง​ของ​จระเข้​ยักษ์​มากกว่า​ครึ่ง​

กรรซ์!​

ขณะ​ลู่​เซิ่งกำลังจะ​ลงมือ​ปลิด​ชีพ​สัตว์ประหลาด​ตัว​นี้​ แรงลม​สอง​สาย​ก็​พุ่ง​มาจาก​ทั้งสอง​ด้าน​อี​กรอบ​

เขา​เยือกเย็น​ไม่หวั่นไหว​ รีบ​ถอย​ร่าง​ไป​ด้านหลัง​ เพื่อ​สู้กับ​ศัตรู​ทั้ง​สามนี้​อีกครั้ง​

แม้จะเป็น​เจ้าวรยุทธ์​ แต่​ระดับ​ของ​สอง​คน​นี้​คือ​เจ้าวรยุทธ์​ช่วง​กลาง​ระดับ​หนึ่ง​และ​เจ้าวรยุทธ์​ช่วงแรก​ระดับ​สอง​ ถ้าหาก​ไม่เห็น​ว่า​ผัง​หยวน​จวิน​สลบ​อยู่​ พวกเขา​คง​ไม่กล้า​ลงมือ​ซุ่มโจมตี​

พอ​นึกถึง​ตรงนี้​ ลู่​เซิ่งก็​หันไป​มอง​ด้านหลัง​

จริง​สิ ผัง​หยวน​จวิน​เล่า​

เขา​พลัน​งุนงง​ ด้านหลัง​ว่างเปล่า​ ไม่มีเงาใคร​สัก​คน​ ผัง​หยวน​จวิน​ที่​เมื่อ​ครู่​นอน​สลบ​อยู่​ตรงนั้น​ ตอนนี้​ไม่ทราบ​ไป​ไหน​แล้ว​

“สังหาร​!”

คน​สอง​คน​และ​หนึ่ง​จระเข้​ที่​ลงมือ​อยู่​ ค้นพบ​ปัญหา​นี้​เช่นกัน​ ทว่า​ตอนนี้​ถูกลู่​เซิ่งหัก​แขน​ไป​คนละ​ข้าง​ พวกเขา​จึงเลือดขึ้นหน้า​ ต้อง​การสังหาร​ลู่​เซิ่งก่อน​ค่อย​ว่า​กัน​อีกที​

ทั้ง​สามโถมตัว​เข้าใส่​ลู่​เซิ่งอีกครั้ง​

สิบ​กว่า​อึดใจ​ต่อมา​

รอบ​ๆ ลู่​เซิ่งเหลือ​แค่​เศษเนื้อ​และ​เกล็ด​จระเข้​ที่​แหลก​เละ​ส่วนหนึ่ง​

เขา​ยืน​อยู่​กลาง​กอง​เลือดเนื้อ​กอง​หนึ่ง​ ผุด​สีหน้าบูดบึ้ง​เล็กน้อย​ ถ้าไม่ใช่พลัง​ฝึกปรือ​ของ​ร่างกาย​ร่าง​นี้​ยัง​ไม่ยกระดับ​ถึงขีดจำกัด​ เขา​ย่อม​สัมผัส​ที่อยู่​ของ​ผัง​หยวน​จวิน​ที่​แอบหนี​ไป​ได้​

‘บอก​แล้ว​ว่า​จะให้​กลับ​ไป​อยู่​ร่วมกัน​พร้อมหน้า​ ท่าน​พ่อ​เห็น​คำพูด​ของ​ข้า​เป็นลม​ผ่าน​หู​หรือ​’

เขา​เหลียว​มอง​รอบ​ๆ พลัน​พบ​จุด​สีขาว​จุด​หนึ่ง​บน​ต้นไม้​ที่อยู่​ไม่ไกล​ออก​ไป​ ดูเหมือนว่า​จะเป็น​รอยเท้า​

ลู่​เซิ่งแค่น​เสียง​ ก่อน​จะทะยาน​ร่าง​ตาม​ไป​ยัง​ด้าน​นั้น​

ผัง​หยวน​จวิน​กระโดด​ไปมา​ท่ามกลาง​ป่า​อย่าง​สับสน​

เขา​ไม่เข้าใจ​เลย​ว่า​ตน​ถูก​ทุบ​สลบ​และ​ถูกลาก​มาได้​อย่างไร​ รอ​ฟื้น​สติ​ขึ้น​มา ก็​พบ​ว่า​ใกล้​ๆ มีคน​ต่อสู้​กัน​อยู่​

คน​ที่​ต่อสู้​กัน​อยู่​คือ​สอง​ผู้เฒ่า​เป่ยจวี้​ คู่แค้น​เก่า​ของ​เขา​ และ​จระเข้​ยักษ์​บึง​สวรรค์​ที่​พวกเขา​เลี้ยง​ไว้​ เขา​รู้​แต่แรก​แล้ว​ว่า​สอง​คน​นี้​ซุ่มอยู่​นี่​ ตอนแรก​คิด​จะจัดการ​ทีหลัง​ นึกไม่ถึง​ว่า​การกระทำ​นี้​กลับ​ช่วยชีวิต​เขา​ไว้​

คน​ที่​สู้กับ​พวกเขา​คือ​คนหนุ่ม​ที่​คล้ายคลึง​กับ​ผัง​ซือเฉิง​ลูกชาย​ของ​ตน​

เขา​อาศัย​จังหวะ​ที่​คน​สามคน​กับ​หนึ่ง​จระเข้​สู้กัน​อยู่​ รีบ​หนี​ออกจาก​วง​ต่อสู้​อย่าง​เงียบๆ​ ก่อน​จะเร่งรุด​ไป​ยัง​ฐานทัพ​ลับ​ของ​แท่นบูชา​น้ำค้าง​คราม​ที่อยู่​ไม่ไกล​นัก​

กองทัพ​ใหญ่​ถูก​ราชา​ดาบ​อุดร​พัวพัน​ไว้​ ไม่อาจ​คุ้มครอง​เขา​ได้​อีกแล้ว​ ทว่า​นอกจาก​กองทัพ​หลัก​ ยังมี​ฐาน​ที่มั่น​แห่ง​อื่น​ที่​เขา​ดูแล​มานาน​เช่นกัน​ จะต้อง​คุ้มครอง​ความปลอดภัย​ให้​เขา​ได้​แน่​

เพียงแต่​เดิมที​ฐาน​ที่มั่น​นี้​เป็น​สิ่งที่​เขา​แอบ​สร้าง​ขึ้น​ไว้​เป็น​ทาง​หนี​หาก​ล้มเหลว​ใน​การ​เข้า​ครอง​ยุทธ​จักร​ น่าเสียดาย​ที่​ครั้งนี้​กลับ​ต้อง​ใช้มารับมือ​กับ​คนลึกลับ​น่ารังเกียจ​นั่น​แทน​

ผัง​หยวน​จวิน​วิ่ง​ตะบึง​อยู่​กลาง​ป่า​ด้วย​ความ​อึดอัด​คับข้องใจ​

แต่​พอ​นึกย้อน​ถึงพละกำลัง​ของ​คน​ผู้​นั้น​อย่าง​ละเอียด​ เขา​ก็​สำนึกตัว​ว่า​ต่อให้​ตน​จะป้องกัน​อย่าง​สุดกำลัง​ ก็​ยาก​ที่จะ​ไม่พ่ายแพ้​ต่อ​การ​โจมตีจาก​พละกำลัง​นั้น​ เขา​สงสัย​ถึงขีดสุด​ว่า​ เป็นไปได้​อย่างยิ่ง​ที่​คน​ผู้​นั้น​จะเป็นยอด​ฝีมือ​ระดับ​เจ้า วรยุทธ์​สัก​คน​ปลอมตัว​มา

หลังจาก​กระโดด​ไปมา​เป็นเวลา​ราว​สิบ​กว่า​นาที​ ผัง​หยวน​จวิน​ก็​ทิ้งตัว​ลง​ด้านหน้า​กลุ่ม​สิ่งก่อสร้าง​สีขาว​ที่​สร้าง​จาก​ก้อนหิน​อย่าง​แผ่วเบา​

ด้านนอก​กลุ่ม​สิ่งก่อสร้าง​มีเหล่า​ชายฉกรรจ์​สวม​ชุด​สีเขียว​คอย​ลาดตระเวณ​ พอ​เห็น​เขา​ปรากฏ​ร่าง​ขึ้น​ ชายฉกรรจ์​กลุ่ม​นี้​ก็​พลัน​เข้ามา​ใกล้​อย่าง​รวดเร็ว​ก่อน​จะคุกเข่า​คารวะ​อย่าง​นอบน้อม​

“คำนับ​ประมุข​แท่นบูชา​หลัก​!”

“พวก​ผู้เฒ่า​สวี่​เล่า​” ผัง​หยวน​จวิน​รีบ​ถามพร้อมกับ​สาวเท้า​เดิน​เข้าไป​ใน​กลุ่ม​สิ่งก่อสร้าง​หิน​สีขาว​

พวกเขา​รีบ​ลุกขึ้น​ตอบ​ว่า​ “ผู้เฒ่า​สวี่​เพิ่งจะ​พา​คน​มาขอรับ​ ยังมี​เฒ่าซูราชา​หมี​แห่ง​ซูเป่ย​ก็​มาถึงแล้ว​เช่นกัน​”

“ราชา​ทะเลทราย​มาถึงหรือยัง​” ผัง​หยวน​จวิน​รู้สึก​ปลอดภัย​มากขึ้น​ ก่อน​จะถามเสียงทุ้ม​

“อีก​ประเดี๋ยว​น่าจะ​มาถึงแล้ว​ขอรับ​” ชายฉกรรจ์​ผู้​นี้​เพิ่งจะ​เอ่ยปาก​ พลัน​ก็​มีเสียง​บุรุษ​ที่​แหลม​สูงและ​แหบ​พร่า​ลอย​มาจาก​ป่า​ไกลๆ​

“ข้า​มาถึงแล้ว​ เพียงแต่​รอ​ประมุข​แท่นบูชา​หลัก​อยู่​ด้านนอก​มาโดยตลอด​เท่านั้น​ ได้ยิน​มาว่า​สหาย​ผัง​กำลัง​ล้อม​โจมตี​ราชา​ดาบ​อุดร​ เหตุใด​จึงเสร็จสิ้น​เร็ว​ถึงเพียงนี้​ มารอ​กับ​ข้า​ก่อน​ดี​หรือไม่​เล่า​” บุรุษ​ผู้​นี้​คือ​ผู้ปกครอง​แห่ง​ทะเลทราย​ตะวันตก​ ราชา​ทะเลทราย​หง​เฉวียน​กั๋ว​

“เพียง​เกิด​อุบัติเหตุ​นิดหน่อย​เท่านั้น​ เลย​มาก่อนเวลา​ สหาย​หง​ไม่ต้อง​กังวล​เรื่อง​อื่น​หรอก​” ผัง​หยวน​จวิน​กล่าว​ อย่าง​เย็นชา​

ความจริง​เขา​เป็นสมาชิก​องค์กร​ลับ​ที่​มีชื่อว่า​กึ่ง​มาร​

องค์กร​นี้​จะจัดงาน​ประชุม​ที่​เรียบง่าย​ใน​สถานที่​ต่างๆ​ ทุกปี​ ปี​นี้​ก็​แค่​มาจัด​ใน​เขต​ของ​เขา​พอดี​เท่านั้น​

เดิมที​เขา​คิด​จะมาร่วม​ประชุม​ เลย​ถือโอกาส​พา​คน​ไป​จัดการ​ราชา​ดาบ​อุดร​ เพียง​นึกไม่ถึง​ว่า​ตอน​ใกล้​จะประสบผลสำเร็จ​ กลับ​เกิดเหตุ​แทรกซ้อน​ขึ้น​

“เห็น​สหาย​ผัง​เคลื่อนไหว​ด้วย​ท่า​ท่า​งรีบเร่ง​ การ​ก้าว​เท้า​ทุลักทุเล​ หรือว่า​จะเกิด​อุบัติ​เหตุใด​ขึ้น​ ถูก​ราชา​ดาบ​อุดร​พลิก​จาก​แพ้​เป็น​ชนะ​หรือ​” ราชา​ทะเลทราย​ยิ้ม​พลาง​สัพยอก​

พอ​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ ใบหน้า​ของ​ผัง​หยวน​จวิน​ก็​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​ นึกถึง​คน​เมื่อ​ครู่​

เขา​ไม่ตอบกลับ​หาก​สลับ​ท่า​เท้า​ กระโดด​เข้าไป​ใน​กลุ่ม​สิ่งก่อสร้าง​ป่า​หิน​ แล้ว​เลี้ยวซ้าย​เลี้ยวขวา​ ไม่นาน​ก็​ไป​ถึงหน้า​ตึก​หิน​เล็ก​ที่​ก่อ​ขึ้น​อย่าง​ง่ายๆ​ แห่ง​หนึ่ง​

ตึก​หิน​มีทั้งหมด​สามชั้น​ เห็น​คน​กำลัง​นั่ง​ดื่ม​สุรา​ฟังเพลง​อยู่​บน​ชั้น​สามได้​รางๆ​

“เหตุใด​สหาย​ผัง​รีบร้อน​เช่นนี้​” เสียง​สตรี​ชรา​ลอย​มาจาก​ชั้น​สาม

ผัง​หยวน​จวิน​ถอนใจ​ยาว​ สงบสติอารมณ์​ ก่อน​จะกระโดด​ขึ้นไป​บน​ดาดฟ้า​ชั้น​สามของ​อาคาร​หิน​เหมือนกับ​จรวด​

“ข้า​มีเรื่องสำคัญ​เลย​มาสาย​ไป​เสียหน่อย​ ขออภัย​ทั้งสอง​ท่าน​ด้วย​ ครั้งนี้​เกรง​ว่า​จะมีเรื่อง​รบกวน​ให้​ทั้งสอง​ท่าน​ลงมือ​ช่วยเหลือ​จริงๆ​ แล้ว​” เขา​ยืน​อยู่​บน​ดาดฟ้า​ ประสานมือ​โค้ง​ตัว​คำนับ​อย่าง​จริงจัง​

ชาย​ชรา​ผมเผ้า​หนวดเครา​ขาวโพลน​คน​หนึ่ง​กับ​หญิง​ชรา​อีก​คน​นั่ง​อยู่​ใน​โถงรับแขก​ของ​ชั้น​สาม ทั้งสอง​กำลัง​ดื่ม​สุรา​กินข้าว​ขณะ​ฟังนักร้อง​และ​นัก​เต้น​สาว​ขับขาน​บทเพลง​และ​ร่ายรำ​

จู่ๆ ได้ยิน​ว่า​ผัง​หยวน​จวิน​ที่​ตอนแรก​บอ​กว่า​จะมาสาย​กลับ​มาถึงก่อนเวลา​ พอ​พบ​หน้า​ก็​ขอให้​พวก​ตน​ลงมือ​ช่วยเหลือ​ทันที​ นี่​กลับ​ทำให้​ยอด​ฝีมือ​ทั้งสอง​เกิด​ความสงสัย​

“สหาย​ผัง​ท่าน​เหมือน​อาทิตย์​กลางหาว​ ไม่เพียง​พลัง​ฝึกปรือ​บรรลุ​ระดับ​สูงสุด​ มีศัตรู​ไม่กี่​คนใน​ยุทธ​จักร​ ต่อให้​พวกเรา​ลงมือ​ ก็​เพียง​สูสีก้ำกึ่ง​กับ​ท่าน​เท่านั้น​” หญิง​ชรา​คน​นั้น​เอ่ย​เสียงอ่อน​ด้วย​สีหน้า​ประหลาดใจ​ “ไม่ทราบ​เป็นเรื่อง​อัน​ใด​ที่​ทำให้​ท่าน​ต้อง​ขอให้​พวกเรา​ลงมือ​ด้วย​ความ​เกรงอกเกรงใจ​เยี่ยง​นี้​”

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท