บทที่ 770 อยู่กันพร้อมหน้า (4)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

“ตาม​ข้อตกลง​ใน​องค์กร​ คุณงามความดี​ของ​ท่าน​มาก​พอให้​พวกเรา​ร่วมมือ​กัน​เพื่อ​ท่าน​ได้​ครั้งหนึ่ง​” ชาย​ชรา​ที่อยู่​อีก​ด้าน​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​นิ่ง​สงบ​ พยักหน้า​น้อย​ๆ “แต่ว่า​เพราะเหตุใด​กัน​แน่​ โปรด​ชี้แจงให้​ถี่ถ้วน​ด้วย​”

ผัง​หยวน​จวิน​ได้ยิน​ก็​ผุด​สีหน้า​จนปัญญา​

“จะว่า​ไป​ก็​ประหลาด​ เดิมที​ข้า​กำลัง​ล้อม​โจมตี​คฤหาสน์​ตระกูล​เฟิงอยู่​ ตอนที่​กำลังจะ​กำ​ชัย​แล้ว​ อยู่​ๆ ก็​มีคนหนุ่ม​คน​หนึ่ง​โผล่​มาขวาง​ข้า​และ​พูด​เรื่อง​อะไร​ก็​ไม่ทราบ​ เป็น​เพราะ​คนหนุ่ม​ผู้​นี้​คล้ายคลึง​กับ​ผัง​ซือเฉิง​ลูกชาย​ข้า​ ข้า​จึงคิด​จะไล่​เขา​ไป​พ้น​ๆ เท่านั้น​ นึกไม่ถึง​ หลังจาก​สู้กัน​ค่อย​พบ​ว่า​อีก​ฝ่าย​มีพลัง​น่า​ตกตะลึง​ ไม่เป็นรอง​สามประมุข​พรรค​ใหญ่​เลย​!”

“เป็นไปได้​อย่างไร​ สามพรรค​ใหญ่​มีพลัง​แข็งแกร่ง​ เป็น​สุดยอด​ปรมาจารย์​ของ​ยุทธ​จักร​ ใคร​กัน​พอ​โผล่​มาก็​เทียบเคียง​กับ​พวกเขา​ได้​” ชาย​ชรา​ได้ยิน​พลัน​ผุด​สีหน้า​ไม่พอใจ​

“ผู้​แซ่ผัง​ไม่กล้า​กล่าว​เหลวไหล​ แต่​คน​ผู้​นั้น​แข็งแกร่ง​กว่า​ข้า​นั้น​ นี่​เป็น​ความจริง​” เขา​กล่าว​อย่าง​แน่วแน่​

“ความตั้งใจ​ของ​ท่าน​คือ​อย่างไร​” ชาย​ชรา​เอ่ย​อย่าง​ราบเรียบ​

“ขอให้​ทุกท่าน​ลงมือ​รุม​สังหาร​คน​ผู้​นี้​พร้อมกัน​ แน่นอน​ว่า​ถ้าจับ​เป็นได้​จะดี​ที่สุด​! พวกเรา​จะต้อง​ถามให้​กระจ่าง​ว่า​คน​ผู้​นี้​เป็น​ใคร​และ​มีเป้าหมาย​อะไร​กัน​แน่​” ผัง​หยวน​จวิน​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​

เบื้องหลัง​ของ​องค์กร​กึ่ง​มาร​นี้​เป็น​ไพ่ตาย​ของ​เขา​ แต่​มาถึงตอนนี้​เขา​จะต้อง​ใช้ไพ่ตาย​สุดท้ายนี้​แล้ว​

ไม่อย่างนั้น​คง​ถูก​คน​ผู้​นั้น​ฆ่าทิ้ง​จริงๆ​

“ลงมือ​นั้น​ย่อม​ได้​ เพียงแต่​จะต้อง​สะสางเสีย​ก่อน​ว่า​คน​ผู้​นี้​มีความเกี่ยวพัน​อะไร​กับ​พวกเรา​หรือไม่​ ไม่แน่​ว่า​คน​ผู้​นี้​จะมีความเกี่ยวข้อง​กับ​เส้นสาย​ตระกูล​ขุน​นางใน​ยุทธ​จักร​ของ​พวกเรา​ หาก​ตอนนั้น​เกิด​ข้อผิดพลาด​อะไร​ขึ้น​ ก็​แก้ไข​อะไร​ไม่ได้​แล้ว​” หญิง​ชรา​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​

“เฒ่าซูพูด​ถูก​แล้ว​”

ซูหา​น​ สวี่​ซุน​จิ้ง สอง​คน​นี้​ได้รับ​การ​เรียกขาน​ร่วมกัน​ว่า​สอง​เฒ่าจิ้งหา​น​ เป็นยอด​ฝีมือ​ระดับ​เจ้าวรยุทธ์​อันดับ​แรก​ๆ ของ​ใต้​หล้า​ ซึ่งคล้าย​กับ​ผัง​หยวน​จวิน​ เป็นรอง​เพียง​สามประมุข​พรรค​ใหญ่​เท่านั้น​ กล่าว​ได้​ว่า​เป็นหนึ่ง​ใน​คน​ไม่กี่​คน​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ของ​ยุทธ​จักร​ใน​ปัจจุบัน​

หาก​ต่อสู้​กับ​ผัง​หยวน​จวิน​เดี่ยว​ๆ อย่าง​มาก​สุด​ก็​อ่อนแอ​กว่า​ผัง​หยวน​จวิน​ขั้น​หนึ่ง​เพราะ​เลือด​ลม​ไม่พอ​เท่านั้น​ ทว่า​หาก​สอง​คน​ผนึก​กำลัง​กัน​ จะต้อง​ต่อสู้​กับ​ผู้​เข้มแข็ง​ระดับ​เจ้าวรยุทธ์​ขั้นสูงสุด​ได้​แน่​ นี่​เป็น​สิ่งสำคัญ​ที่​ผัง​หยวน​จวิน​พยายาม​ดึง​สอง​คน​นี้​มาเป็น​พวก​

พอ​ได้รับ​คำสัญญา​จาก​ยอด​ฝีมือ​ระดับ​เดียว​กับ​ตัวเอง​ถึงสอง​คน​ ในที่สุด​ผัง​หยวน​จวิน​ก็​ระบาย​ลมหายใจ​อย่าง​แรง​

ใน​ตอนที่​เขา​กำลังจะ​เตรียม​เข้าไป​นั่ง​พักผ่อน​ใน​โถงเล็ก​นั่นเอง​

ตูม​!

มีเสียงดัง​อึงอล​ดัง​มาจาก​ป่า​หิน​ด้านนอก​

ทั้ง​สามคน​ตกใจ​ พา​กัน​ลุกขึ้น​และ​ก้ม​มอง​ลง​ไป​

ฝุ่น​ฟุ้งตลบ​ด้านนอก​ป่า​หิน​จน​มองไม่เห็น​อะไร​สัก​อย่าง​

ใน​ตอนนั้น​เอง​ กลางอากาศ​ก็​มีเสียง​ที่​ชั่วร้าย​ดัง​มา

“ท่าน​พ่อ​ ข้า​ลำบาก​ตามหา​ท่าน​…เผลอ​เพียง​เล็กน้อย​ ท่าน​กลับ​หนี​มาไกล​ขนาด​นี้​ หรือว่า​การตาม​ข้า​กลับ​ไป​มัน​ทรมาน​ขนาด​นั้น​เชียว​หรือ​”

ผัง​หยวน​จวิน​สะดุ้งโหยง​ ก่อน​จะรีบ​มอง​ไป​รอบ​ๆ เหมือน​เผชิญ​ศัตรู​ตัวฉกาจ​ กลับ​ไม่อาจ​สัมผัส​ได้​ว่า​เสียงดัง​มาจาก​ทาง​ไหน​

สอง​เฒ่าจิ้งหา​น​รู้สึก​เคร่งเครียด​เช่นกัน​ แม้แต่​พวกเขา​ก็​ไม่รู้​เหมือนกัน​ว่า​เสียงดัง​มาจาก​ไหน​

“ชนชั้น​มุสิก​จาก​ที่ใด​! กล้า​มาทำตัว​สามหาว​ต่อหน้า​ข้า​!” ซูหา​นย​ก​ไม้เท้า​ใน​มือขึ้น​กระทุ้ง​อย่าง​แรง​ อาคาร​สามชั้น​พลัน​สั่นสะเทือน​

พื้นที่​ไม้เท้า​อยู่​ไม่มีร่องรอย​ใดๆ​ แม้แต่น้อย​ แต่​อาคาร​สามชั้น​กลับ​ถูก​กระแทก​จน​โคลงเคลง​ ดูเหมือน​พร้อม​จะถล่ม​ได้​ทุกเวลา​ แสดงให้เห็น​ถึงระดับ​การควบคุม​พลัง​เบื้องหลัง​มัน​

ตูม​!

ทันใดนั้น​ประตู​หิน​บาน​หนึ่ง​ด้านล่าง​อาคาร​ก็​ระเบิด​เป็น​ส่วน​ๆ

องครักษ์​ลาดตระเวน​กลุ่ม​หนึ่ง​รีบ​พุ่ง​เข้าไป​ขัดขวาง​ กลับ​ถูก​พละกำลัง​อัน​มหาศาล​กระแทก​กระเด็น​ ชน​ใส่กำแพง​หิน​และ​เสาหิน​ที่อยู่​รอบ​ๆ เกิด​เสียงร้อง​โหยหวน​ขึ้น​ชั่วขณะ​

“ใคร​!”

ยอด​ฝีมือ​ระดับ​ราชา​วรยุทธ์​สิบ​กว่า​คน​ถือ​อาวุธ​หลาก​หลายชนิด​ ห้อมล้อม​ประตู​หิน​อันเป็น​ทางเข้าออก​เอาไว้​ดุจ​เผชิญ​ศัตรู​ร้ายกาจ​

พึง​ทราบ​ว่า​ใน​กลุ่ม​องครักษ์​ที่​เพิ่ง​เข้าไป​ขวาง​เมื่อ​ครู่​มีราชา​วรยุทธ์​อยู่​หลาย​คน​ แต่​ถึงแม้จะเป็น​เช่นนี้​ กลับ​ไม่ใช่คู่​ต่อกร​ของ​ผู้​มา

“กล้า​บุก​ผืนป่า​ศิลา​ ท่าน​รู้​หรือไม่​ว่า​ที่นี่​เป็น​ที่ใด​!” บุรุษ​วัยกลางคน​ที่​เป็น​ผู้นำ​ตวาด​เสียงทุ้ม​

ลู่​เซิ่งเปลือย​ท่อน​บน​ คลุม​เพียงแค่​ผ้าคลุม​สีดำ​อำพราง​ตำแหน่ง​ตั้งแต่​คอ​ลง​ไป​ มือ​ข้าง​หนึ่ง​ยก​ดาบ​โค้ง​ที่​เพิ่ง​เก็บ​ขึ้น​มา และ​เดิน​เข้าไป​ใน​ผืนป่า​ศิลา​ด้วย​สีหน้า​เย็นชา​

“กลับบ้าน​กัน​เถิด​ท่าน​พ่อ​ อย่า​หนี​อีก​เลย​ กลับ​ไป​อยู่​กัน​พร้อมหน้า​ กลับ​ไป​ใช้ชีวิตครอบครัว​อย่าง​มีความสุข​ไม่ใช่เรื่อง​ดี​หรอก​หรือ​ ข้า​เป็น​ลูกชาย​ท่าน​นะ​ ลูกชาย​ที่​ท่าน​เลี้ยงดู​มาหลาย​ปี​ ตอนนี้​ข้า​โต​แล้ว​ ถึงเวลา​ที่​ข้า​จะตอบแทน​พวก​ท่าน​สักที​” ลู่​เซิ่งพูด​อย่าง​ซาบซึ้ง​ตรึงใจ​ แต่​หนัง​หน้า​ไม่เคลื่อนไหว​แม้แต่น้อย​ ให้​ความรู้สึก​พิลึกพิลั่น​ถึงขีดสุด​

“ยิ่งไปกว่านั้น​นี่​เป็นเรื่อง​ใน​ครอบครัว​ของ​เรา​ เหตุใด​ท่าน​ต้อง​ดึง​คนนอก​เข้ามา​เกี่ยวข้อง​ด้วย​” เขา​กวาดตา​มอง​รอบ​ๆ ก่อน​กล่าว​เสริม​อีก​ประโยค​

ผัง​หยวน​จวิน​ที่อยู่​ใน​ตัวอาคาร​มอง​สายตา​ประหลาด​ของ​สอง​เฒ่าจิ้งหา​น​ พลัน​เห็นท่า​ไม่ดี​

“อย่า​ไป​ฟังมัน​พูดจา​เหลวไหล​ ปี​นี้​ผัง​ซือเฉิง​ลูกชาย​ของ​ข้า​เพิ่ง​อายุ​ได้​สิบ​ขวบ​ จะเอา​มรรคา​ยุทธ์​ที่สูง​ล้ำ​แบบนี้​มาจาก​ที่ใด​กัน​! ต่อให้​ข้า​เชื่อ​ พวก​ท่าน​ก็​ทราบ​สถานการณ์​ของ​ข้า​ดี​ มีเครือข่าย​ข่าวสาร​ของ​ตัวเอง​ พวก​ท่าน​เชื่อ​หรือ​” เขา​อธิบาย​ด้วย​เสียง​เร่งร้อน​

“ท่าน​อยู่​ไหน​กัน​ รีบ​ออกมา​เถิด​ท่าน​พ่อ​ ไม่ต้อง​ห่วง​ ข้า​จะไม่ทำร้าย​ท่าน​แล้ว​ ครั้งก่อน​เป็น​แค่​อุบัติเหตุ​เท่านั้น​ ข้า​ไม่ได้​ตั้งใจ​จะทำให้​ท่าน​สลบ​หรอก​ จริงๆ​ นะ​ ท่าน​วางใจ​เถิด​ ข้า​รับประกัน​”

ลู่​เซิ่งใช้จิตวิญญาณ​ค้น​หาไม่​ได้​ ประสาทสัมผัส​ทั้ง​ห้า​ยัง​ไป​ไม่ถึงขีดจำกัด​ ที่นี่​มีป่า​หิน​กระจาย​อยู่​ทั่ว​ ทั้ง​ยังมี​คน​มากมาย​ เขา​จึงหา​ตำแหน่ง​ผัง​หยวน​จวิน​ไม่เจอ​อยู่​ชั่วขณะ​

ผัง​หยวน​จวิน​มอง​สายตา​ที่​ประหลาด​กว่า​เดิม​ของ​คน​ทั้งสอง​ด้วย​ความ​คับข้องใจ​สุดขีด​

ประมุข​แท่นบูชา​หลัก​แห่ง​แท่น​น้ำค้าง​คราม​ที่​ยิ่งใหญ่​อย่าง​เขา​ มีศิษย์​ในสังกัด​มากกว่า​หมื่น​ แต่ละคน​ต่าง​ก็​ล้วน​เป็นยอด​ฝีมือ​ นึกไม่ถึง​ว่า​จะถูก​เจ้าคน​เป็น​โรคประสาท​นี้​เล่นงาน​

“ข้า​รับประกัน​ว่า​มัน​ไม่ใช่ลูก​ข้า​จริงๆ​! ตอนนี้​ซือเฉิง​ลูก​ข้า​ยังอยู่​ที่​เมือง​น้ำค้าง​คราม​ เขา​อ้วน​เกินไป​จน​ขยับ​ไป​ไหน​ไม่ได้​! ดังนั้น​คน​ผู้​นี้​จะต้อง​เป็น​คน​โรคจิต​ที่​ยืมชื่อ​ลูกชาย​ของ​ข้า​มาหาเรื่อง​ข้า​แน่นอน​!” ผัง​หยวน​จวิน​อธิบาย​ด้วย​น้ำเสียง​ร้อนรน​

“…” เจ้าวรยุทธ์​ผู้​มีศักดิ์​อาวุโส​สอง​คน​มอง​กัน​ไป​มอง​กัน​มา ไม่ทราบ​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไร​อยู่​ชั่วขณะ​

ตูม​!

แค่​ลังเล​อยู่​ชั่วครู่​สั้น​ๆ ใน​ป่า​หิน​ด้านนอก​ก็​มีคน​อีก​กลุ่ม​โดน​ลู่​เซิ่งซัด​กระเด็น​ไป​กอง​กับ​พื้น​ ถ้าไม่ใช่บาดเจ็บ​หนัก​ก็​หมดสติ​ไป​

อย่างไร​ลู่​เซิ่งก็​รู้จัก​หนัก​เบา​ ไม่ได้​ฆ่าคน​มั่วซั่ว​

“ลูก​ตามหา​ผู้​เป็น​พ่อ​ ถูก​ต้องตาม​ทำนองคลองธรรม​ นี่​เป็น​สัจธรรม​ฟ้าดิน​ พวก​ท่าน​ถึงกับ​กล้า​ขวาง​หลัก​ธรรมชาติ​! ขวาง​ไม่ให้​ข้า​แสดง​ความกตัญญู​ต่อ​ผู้​เป็น​พ่อ​เป็น​แม่! ข้า​ขอ​แสดง​ให้​พวก​ท่าน​เห็น​แทน​ฟากฟ้า​เอง​ว่า​อะไร​คือ​ความกตัญญู​!”

ลู่​เซิ่งตวาด​และ​คว้า​ฝ่ามือ​ไป​จับ​ค้อน​เหล็ก​ที่​ฟาด​มาจาก​ด้าน​ข้าง​ ก่อน​จะถอง​ศอก​ใส่

ความเร็ว​และ​พละกำลัง​ที่​น่ากลัว​กระแทก​ใส่หน้าอก​ราชา​วรยุทธ์​คน​หนึ่ง​ที่อยู่​ใกล้​ๆ อย่าง​แรง​พร้อม​เสียง​ระเบิด​ดัง​กึกก้อง​

เสียง​กร๊อบ​ดัง​ขึ้นไป​ทั่ว​ ชายฉกรรจ์​ผู้​นี้​บาดเจ็บ​จน​สลบไสล​ พร้อมกับ​กระเด็น​ออก​ไป​ไกล​ ก่อน​จะนอน​แน่นิ่ง​แผ่​กับ​พื้น​ เสียชีวิต​ไป​แล้ว​

นี่​เป็น​คน​คน​แรก​ที่​ลู่​เซิ่งลงมือ​อย่าง​หนัก​เพื่อ​สังหาร​ บน​ตัว​คน​ผู้​นี้​มีกลิ่น​คาวเลือด​เข้มข้น​ แสดงให้เห็น​ว่า​ฆ่าคน​มามาก​ หนำซ้ำ​ยัง​ลอบ​โจมตี​ตอน​เขา​พูด​อยู่​อีก​ ดังนั้น​เขา​เลย​จัด​หนัก​เสียหน่อย​

“ออกมา​เสีย​ดี​ๆ เถิด​ท่าน​พ่อ​ อย่า​บัง​คัง​ให้​ข้า​สังหาร​คน​ที่นี่​จน​หมดสิ้น​เลย​ ถึงตอนนั้น​ เรา​สอง​คน​มองหน้า​กัน​ไม่ติด​แน่​” ลู่​เซิ่งเลีย​ริมฝีปาก​และ​เช็ด​เลือด​ที่​กระเซ็น​ใส่ใบหน้า​ออก​

ขณะ​ฟังเสียง​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​ ผัง​หยวน​จวิน​รู้สึก​ได้​ถึงความหงุดหงิด​ที่​เพิ่มขึ้น​กว่า​เดิม​ใน​น้ำเสียง​ ระฆัง​เตือนภัย​ดัง​ขึ้น​ใน​ใจ ร่างกาย​เกร็ง​ถึงขีดสุด​ พร้อม​จะลงมือ​ป้องกัน​วิกฤติการณ์​ถึงตาย​ที่​อาจ​มาถึงสุดกำลัง​ตลอดเวลา​

“สังหาร​หมดสิ้น​หรือ​ กล่าว​วาจา​โอหัง​นัก​!” ราชา​ทะเลทราย​ที่​ตอนแรก​เพียง​คิด​ชมดู​เรื่อง​สนุก​อยู่​ด้านนอก​ป่า​หิน​กลับ​โมโห​เข้า​จริงๆ​ แล้ว​

เขา​เป็น​เจ้าวรยุทธ์​ช่วง​กลาง​ จึงไม่จำเป็นต้อง​สนใจ​ความเป็นความตาย​ของ​สมาชิก​ทั่วไป​ แต่ว่า​ตอนที่​คำพูด​ดูถูก​นี้​ถูก​พูด​ออกมา​ ถ้าหาก​ยัง​ไม่ทำ​อะไร​อีก​ เช่นนั้น​ก็​จะกลายเป็น​เต่า​หัวหด​จริงๆ​ แล้ว​

ไม่เพียงแต่​เขา​เท่านั้น​ ตอนนี้​สีหน้า​ของ​สอง​เฒ่าจิ้งหา​น​ก็​เยือกเย็น​ลง​เช่นกัน​

“ไป​เถิด​ ลอง​สู้กับ​สหาย​ท่าน​นี้​ดู​ว่า​เขา​มีความมั่นใจ​อัน​ใด​จึงกล้า​กล่าว​วาจา​เช่นนี้​”

ซูหา​น​แค่น​เสียง​ ก่อน​จะกระทุ้ง​ไม้เท้า​ ร่าง​กลายเป็น​เงาดำ​พุ่ง​ออกจาก​โถงเล็ก​ สหาย​ชรา​ที่อยู่​ด้านหลัง​ตามติด​มาด้วย​เช่นกัน​

ผัง​หยวน​จวิน​โล่งใจ​ ผู้​เข้มแข็ง​ระดับ​เดียว​กับ​ตน​สามคน​ผนึก​กำลัง​กัน​ ต่อให้​จะเป็น​เจ้าวรยุทธ์​ระดับ​สุดยอด​ซึ่งเป็นหนึ่ง​ใน​สามประมุข​พรรค​ใหญ่​ลงมือ​ก็​ไม่เกรงกลัว​ เขา​ไม่เชื่อ​ว่า​คน​ผู้​นั้น​จะทำตัว​เหิมเกริม​ได้​อีก​!

หลังจาก​สงบ​จิตใจ​แล้ว​ เขา​ก็​กระโดด​ตาม​ลง​ไป​ยัง​ที่​ที่​ลู่​เซิ่งอยู่​

พริบตาเดียว​เจ้าวรยุทธ์​สี่คน​ก็​ไป​ถึงประตู​ทางเข้า​ผืนป่า​ศิลา​พร้อมกัน​ มองเห็น​ลู่​เซิ่งที่​กำลัง​เดิน​อยู่​บน​ซากปรักหักพัง​ที่​โดน​ถล่ม​ลง​จน​กลายเป็น​พื้นราบ​แห่ง​หนึ่ง​

โดยเฉพาะ​ตอนที่​เห็น​ใบ​หน้าที่​เห็นได้ชัด​ว่า​เหมือน​ผัง​หยวน​จวิน​ของ​ลู่​เซิ่ง ทุกคน​ก็​งุนงง​เล็กน้อย​

ทั้ง​สี่ล้อม​ลู่​เซิ่งเอาไว้​ตรงกลาง​จาก​สี่มุม

“บอก​มาซะว่า​เจ้าเป็น​ใคร​! เหตุใด​จึงปลอมตัว​เป็น​ซือเฉิง​ลูก​ของ​ข้า​!” ใบหน้า​ของ​ผัง​หยวน​จวิน​อึมครึม​ถึงขีดสุด​ขณะ​จ้องมอง​ลู่​เซิ่งด้วย​สายตา​ที่​เต็มไปด้วย​จิต​สังหาร​

ลู่​เซิ่งแสดง​สีหน้า​เรียบ​เฉย​

“ข้า​คือ​ซือเฉิง​ลูกชาย​ของ​ท่าน​ เพียงแต่​สิบ​ปีก่อน​ข้า​ฝึกฝน​อย่าง​หนัก​ และ​ซ่อนเร้น​พลัง​เอาไว้​ จนกระทั่ง​ไม่นาน​มานี้​ หลังจาก​ได้​ลิ้มรส​ความสุข​ทุกอย่าง​ใน​ชีวิต​แล้ว​ ข้า​พลัน​ตื่น​รู้​ว่า​ ความรัก​จาก​พ่อแม่​ต่างหาก​จึงเป็น​ความรัก​ที่​ยิ่งใหญ่​ที่สุด​และ​ยอดเยี่ยม​ที่สุด​ใน​โลก​ ดังนั้น​ข้า​จึงตัดสินใจ​ทำให้​ครอบครัว​เรา​กลับมา​คืนดีกัน​ให้ได้​ ข้า​ได้รับ​ท่าน​แม่มาจาก​สำนัก​น้ำพุ​แล้ว​ ตอนนี้​ขาด​เพียง​ท่าน​เท่านั้น​”

“…” ผัง​หยวน​จวิน​กับ​พวก​อีก​สามคน​มองหน้า​กัน​

ราชา​ทะเลทราย​เป็น​บุรุษ​ร่าง​กำยำ​ที่​ใส่ชุมคลุม​สีเหลือง​และ​คลุม​ผ้า​ปิดหน้า​ไว้​ พอ​ได้ยิน​ดังนั้น​ สายตา​ที่​มอง​ลู่​เซิ่งก็​อด​อ่อนโยน​ลง​ไม่ได้​

“หาก​สิ่งที่​เจ้าพูด​เป็น​ความจริง​ อย่างนั้น​ก็​นับว่า​เป็น​เด็กดี​คน​หนึ่ง​ ครอบครัว​ต้อง​สมบูรณ์​ถึงจะมีความสุข​ คนเรา​อยู่​มาทั้ง​ชีวิต​ ถ้าอยู่​ร่วมกับ​คนใน​ครอบครัว​ไม่ได้​ ต่อให้​จะทำ​เรื่อง​ใดๆ​ ก็​ไม่มีความหมาย​! ยาม​ร่ำรวย​มีอำนาจ​ไม่มีใคร​ร่วม​แบ่งปัน​ ยาม​ยากจน​ทุกข์​ทน​ไม่มีใคร​คอย​ให้กำลังใจ​”

“ผู้อาวุโส​ท่าน​นี้​กล่าว​มีเหตุผล​” ลู่​เซิ่งพลัน​พยักหน้า​ “น่าเสียดาย​ที่​ตอนนี้​ท่าน​พ่อ​ท่าน​แม่ไม่เข้าใจ​เหตุผล​นี้​ ตอนแรก​มีคน​เตือน​ข้า​ว่า​ให้​รอ​ เวลา​ยัง​เหลือ​อีก​มาก​ เมื่อ​โชคชะตา​มาถึงย่อม​ได้​พบ​เจอ​เอง​ แต่​ข้า​กลับ​เห็น​ไม่เหมือนกัน​ คนเรา​ใช้ชีวิต​อยู่​บน​โลก​ ต้อง​รีบ​ใช้เวลา​ให้​คุ้ม​” เขา​เว้น​ไป​เล็กน้อย​ ดวงตา​ที่​มอง​ไป​ยัง​ผัง​หยวน​จวิน​อ่อนโยน​ลง​

“ความจริง​ท่าน​พ่อ​ของ​ข้า​เป็น​คน​ปากร้ายใจดี​ ยิ่ง​เขา​พูดจา​เจ็บแสบ​เท่าไหร่​ หัวใจ​ก็​ยิ่ง​อ่อนโยน​เท่านั้น​” เขา​เพียง​ละวาง​ศักดิ์ศรี​ไม่ได้​ เปลือกนอก​ไม่ยอม​ แต่​ความจริง​ใน​ใจยอมรับ​ไป​นาน​แล้ว​”

“เหลวไหล​!” ผัง​หยวน​จวิน​จุกอก​จน​แทบ​กระอัก​เลือด​ “แก​เป็น​ปีศาจ​ผุด​มาจาก​ไหน​! ที่​ทำลาย​แผนการ​ใหญ่​ของ​ข้า​และ​ที่​กล่าว​วาจา​ไร้สาระ​ก็​เพื่อ​จะสังหาร​ข้า​ตอน​ไม่ทัน​ตั้งตัว​สินะ​!”

“ดู​สิ ท่าน​ก็​เป็น​อย่างนี้​ ท่าน​แม่ก็​เป็น​อ​ยาง​นี้​ ไอ้​ลืม​รัก​สูงส่งอะไร​นั่น​หมายถึง​เปลือกนอก​เย็นชา​ใน​ใจร้อนระอุ​ไม่ใช่หรือ​ ข้า​มองออก​โดยสิ้นเชิง​แล้ว​” ลู่​เซิ่งเดิน​เข้า​ไปหา​ผัง​หยวน​จวิน​

“มาเถอะ​ เลิก​ปาก​ไม่ตรง​กับ​ใจได้​แล้ว​ ตาม​ข้า​กลับบ้าน​เถอะ​” เขา​ค่อยๆ​ ยื่นมือ​เข้าหา​ผัง​หยวน​จวิน​ด้วย​สายตา​อ่อนโยน​

“ให้​ข้า​กะเทาะ​เปลือก​ที่​ดูเหมือน​แข็งแกร่ง​ให้​พวก​ท่าน​เห็น​เถิด​!”

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท