บทที่ 772 ไล่ล่า (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ชาย​ชรา​คน​ที่​ถูก​ผัง​หยวน​จวิน​ฆ่าตาย​ฝึกฝน​วิชา​คางคก​ดารา​เคลื่อน​อันเป็น​วิชา​หล่อเลี้ยง​ชีวิต​เช่นกัน​ แต่ว่า​ตอนนั้น​เขา​เพิ่ง​อยู่​ใน​ระดับ​ที่​ห้า​ ก็ได้​บรรลุ​คุณสมบัติ​ร่างกาย​ระดับ​เจ้าวรยุทธ์​แล้ว​

ตอนนี้​ลู่​เซิ่งบรรลุ​ถึงระดับ​สิบ​แล้ว​!

คุณสมบัติ​ร่างกาย​ของ​เขา​ยกระดับ​อย่าง​บ้าคลั่ง​แทบ​ทุก​วินาที​ เพียงแค่​ไล่ล่า​ผัง​หยวน​จวิน​เป็นเวลา​สั้น​ๆ พลัง​ของ​เขา​ก็​มีพลัง​ของ​กระทิง​หนึ่ง​ตัว​เพิ่มขึ้น​อย่าง​เงียบงัน​แล้ว​

ตอนนี้​ถูก​หมี​ดำ​ขวางทาง​ ใน​ใจลู่​เซิ่งก็​เกิด​โมโห​ขึ้น​มา

เขา​กระจาย​ปราณ​ปฐพี​ใน​ร่างกาย​ที่​โคจร​ได้​ในขั้นต้น​แล้ว​ออก​มาสาย​หนึ่ง​ เพื่อ​หล่อเลี้ยง​กาย​เนื้อ​ร่าง​นี้​ด้วย​ความเร็ว​สูง

เดิมที​ปราณ​ปฐพี​ถูก​สกัด​ออก​มาจาก​วิชา​ใน​ขอบเขต​มายา​พิศวง​ อีก​ทั้ง​ยัง​เกิด​จาก​วิชา​มายา​พิศวง​ที่​เน้น​การ​หล่อเลี้ยง​และ​วิวัฒนาการ​ ความ​แข็งแกร่ง​ของ​การ​หล่อเลี้ยง​จึงได้​ก้าว​ข้าม​แก่น​หยาง​ที่​ลู่​เซิ่งเคย​พัฒนา​ขึ้นไป​แล้ว​

เพิ่งจะ​กระจาย​ออกมา​กลุ่ม​เดียว​ ทั่ว​ร่าง​ของ​เขา​ก็​เหมือน​แช่ใน​น้ำร้อน​ ผิว​ กล้ามเนื้อ​ อวัยวะภายใน​ และ​กระดูก​เกิด​ความ​ปวดแสบปวดร้อน​จาก​ความร้อน​มหาศาล​

สิ่งที่มา​พร้อมกับ​ความเจ็บปวด​คือ​กล้ามเนื้อ​สีแดง​ที่​ขยาย​ตัวอย่าง​รวดเร็ว​

ผิว​ของ​ลู่​เซิ่งซึ่งเดิมที​มีปุ่ม​เนื้อ​โปร่ง​แสงอ่อน​ๆ คลุม​อยู่​ชั้นหนึ่ง​ เวลานี้​แข็งแรง​และ​ทนทาน​ขึ้น​

กล้ามเนื้อ​ส่วน​ปอด​ของ​เขา​แข็งแกร่ง​ขึ้น​กว่า​เดิม​ โครงสร้าง​ใน​ถุงปอด​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ด้วย​ความเร็ว​สูงตาม​แบบ​แผนที่​ไม่เคย​ปรากฏ​มาก่อน​

การเปลี่ยนแปลง​นี้​ลึกลับ​พิศวง​ยิ่ง​ กลับ​สอด​ประสาน​กับ​กฎธรรมชาติ​ของ​โลก​ใบ​นี้​ได้​อย่าง​เป็นธรรมชาติ​

ใน​เวลา​แค่​ไม่กี่​วินาที​สั้น​ๆ สิ่งที่​หล่อเลี้ยง​จาก​ปราณ​ปฐพี​นำพา​คือ​การ​ขยาย​ใหญ่​ที่​เหมือนกับ​ร่างกาย​ถูก​เป่า​ลม​

เขา​ถอยหลัง​ไป​ก้าว​หนึ่ง​ หลบ​กระบวนท่า​ที่​หมี​ยักษ์​ฟาด​มือ​ใหญ่​ลงมา​ ก่อน​จะหายใจเข้า​อย่าง​แรง​

ซู้ด​!

การสูด​หายใจ​นี้​รุนแรง​สุด​เปรียบ​ปาน​ ถ้ำทั้ง​ถ้ำเหมือนกับ​ถูก​เขา​สูบ​อากาศ​เข้าไป​หมดสิ้น​

ร่าง​ท่อน​บน​ของ​ลู่​เซิ่งขยาย​ใหญ่​ขึ้น​เท่า​หนึ่ง​เหมือนกับ​ลูกโป่ง​ ร่าง​ท่อน​ล่าง​กลับ​ไม่มีการเปลี่ยนแปลง​แม้แต่น้อย​ มองดู​แปลกประหลาด​เหลือแสน​

“รับ​กระบวนท่า​ข้า​ซะ! มังกร​หยก​โลหิต​…ดารา​เคลื่อน​!”

ลู่​เซิ่งอ้า​ปาก​พ่น​อากาศ​ออกมา​อย่าง​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​เหมือนกับ​ปืนใหญ่​อัด​อากาศ​ กระแส​อากาศ​อัน​มหาศาล​รวมตัว​กลายเป็น​เสาอนิล​สีขาว​อม​เทา​สาย​หนึ่ง​ด้านหน้า​เขา​ เสาอนิล​นี้​ระเบิด​ตูม​ใส่ท้อง​ของ​หมี​ดำ​พร้อมกับ​การ​สั่นสะเทือน​ของ​คลื่นเสียง​อัน​ยิ่งใหญ่​

ตูม​!

หินทราย​กระจาย​ทั่ว​ถ้ำ พายุ​พัด​ตลบ​ ก้อนหิน​ขนาด​เท่า​หัว​คน​ถูก​พัด​จน​กระแทกกระทั้น​ไป​ทั่ว​

เสาอนิล​นี้​ระเบิด​อย่าง​รวดเร็ว​และ​รุนแรง​ยิ่งนัก​ หมี​ดำ​ถูก​การ​สั่นสะเทือน​ของ​คลื่นเสียง​กระแทก​จน​ร่าง​ชาดิก​ ใช้พลัง​ได้​เพียง​ห้า​ส่วน​จาก​สิบ​ส่วน​นั้น​ ก็​ถูก​เสาอนิล​พุ่งชน​ใส่ทรวงอก​

มัน​ไม่ทัน​ตั้งท่า​โต้ตอบ​ ได้​แต่​อาศัย​หนัง​ที่​แข็ง​และ​เนื้อที่​หนา​ป้องกัน​เท่านั้น​

ทว่า​กระบวนท่า​นี้​เป็น​ท่า​ไม้ตาย​อัน​น่ากลัว​ที่​ถูก​จัด​อยู่​ใน​อันดับ​สอง​ของ​วิชา​คางคก​ดารา​เคลื่อน​ เดิมที​ใช้โจมตี​ระยะไกล​ ตอนนี้​ถูก​ถ้ำแคบ​ๆ จำกัด​เอาไว้​ คลื่นเสียง​ทั้งหมด​จึงรวมกัน​เป็น​จุด​เดียว​ แม้แต่​หู​ของ​ลู่​เซิ่งก็​ถูก​กระแทก​จน​มีเลือด​ไหล​ออกมา​เช่นกัน​

ยิ่ง​ไม่ต้อง​เอ่ยถึง​หมี​ดำ​ที่อยู่​ตรงหน้า​เลย​

เสาอนิล​สีขาว​อม​เทา​กระแทก​ใส่ร่าง​หมี​ดำ​ เหวี่ยง​มัน​ไป​ฝังตัว​เข้ากับ​ผนัง​ของ​ทางโค้ง​ใน​ถ้ำที่อยู่​ลึก​เข้าไป​เหมือนกับ​กระสุน​ระเบิด​

เลือด​กอง​ใหญ่​ถูก​กระแส​อากาศ​ที่​เหมือน​พายุ​พัด​จน​กระจาย​ไป​ทั่ว​ถ้ำ ดู​เหมือนกับ​ภาพ​ของ​เครื่อง​บด​เนื้อ​

ฟู่…

ลู่​เซิ่งค่อย​พ่น​ลมหายใจ​อย่าง​ช้าๆ ลำคอ​ฟื้นฟู​อย่าง​รวดเร็ว​ด้วย​การ​หล่อเลี้ยง​จาก​ปราณ​ปฐพี​ เยื่อ​หู​ที่​เสียหาย​ฟื้นฟู​ด้วยตัวเอง​ใน​ไม่กี่​วินาที​

แม้ร่างกาย​ร่าง​นี้​จะไม่ใช่ร่าง​หลัก​ของ​เขา​ และ​แม้ปราณ​ปฐพี​จะแสดงผล​ใน​จักรวาล​นี้​ได้​ไม่มาก​นัก​ แต่​ความสามารถ​หล่อเลี้ยง​และ​ฟื้นฟู​ที่​เหลืออยู่​ก็​ทำให้​เขา​ฟื้น​กลับ​สู่สภาพ​สมบูรณ์​ได้​ใน​ไม่กี่​สิบ​อึดใจ​

“จบสิ้น​แล้ว​” ลู่​เซิ่งแค่น​เสียง​แล้ว​เดิน​ไป​ด้านหน้า​ หลัง​ปรับตัว​เข้ากับ​ความมืด​เสร็จ​ สอง​ตา​เขา​ก็​เห็น​สภาพ​อนาถ​ของ​หมี​ดำ​ด้านหน้า​ได้​อย่าง​ชัดเจน​

หมี​ดำ​ในเวลานี้​ถูก​กระแทก​จน​เลือด​ออก​ทั้ง​เจ็ด​ทวาร​ ลูกตา​ทั้งสอง​ข้าง​ระเบิด​ออก​ ของเหลว​เหนียว​ๆ สีเหลือง​อม​แดง​ไหล​ออกมา​เปรอะเปื้อน​ใบหน้า​ เนื้อ​บน​ตัวอ่อน​ยุ่ย​ เหมือน​ไม่มีกระดูก​เหลือ​อยู่แล้ว​

ร่าง​ยักษ์​ขนาด​สามหมี่​กว่า​ๆ ฝังอยู่​บน​ผนัง​ถ้ำโดย​ไม่ขยับเขยื้อน​ ไม่หลงเหลือ​ลมหายใจ​อีกต่อไป​

พอ​ตรวจสอบ​ร่าง​ของ​หมี​ดำ​ตัว​นี้​เสร็จ​ ลู่​เซิ่งก็​หมุนตัว​ไล่ตาม​ไป​ยัง​ด้านใน​ถ้ำต่อ​

สิ่งที่​น่าประหลาด​ก็​คือ​ สามารถ​เห็นภาพ​ผนัง​ที่​กระดำกระด่าง​บน​ผนัง​สอง​ฟาก​ข้างใน​ถ้ำได้​เป็นระยะ​

ลู่​เซิ่งกวาดตา​มอง​ภาพวาด​บน​ผนัง​เหล่านี้​ผ่านๆ​ พอ​จะมองออก​ว่า​ สิ่งที่​วาด​ไว้​คือ​ มนุษย์​ดึกดำบรรพ์​ที่​ถือ​หอก​ยาว​ติดไฟ​กำลัง​รุม​ล่า​สิ่งมีชีวิต​ขนาด​ยักษ์​ตัว​แล้ว​ตัว​เล่า​

สิ่งมีชีวิต​เหล่านี้​บ้าง​ก็​เหมือน​สิงโต​ แต่ว่า​ใหญ่​กว่า​สิงโต​ทั่วไป​หลายเท่า​ บ้าง​ก็​เหมือนกับ​กระทิง​ป่า​ แต่​มีกีบ​เท้า​หก​ข้าง​ซึ่งกระทิง​ป่า​ไม่มี

บ้าง​ก็​เหมือน​ไดโนเสาร์​ที่​เหมือน​ไทร​เซอ​รา​ทอปส์​ สัตว์ประหลาด​ตัว​นี้​ดุร้าย​ที่สุด​ ร่างกาย​เหมือนกับ​ภูเขา​ลูก​ย่อมๆ​

ภาพวาด​ผนัง​ช่วงหลัง​ๆ ที่​วาด​ไว้​ว่า​สังหาร​สัตว์ประหลาด​ตัว​นี้​อย่างไร​เลือนราง​แล้ว​ ลู่​เซิ่งจึงมอง​ไม่ออก​ แต่​เขา​เจอ​รอยเท้า​จางๆ ที่​ผัง​หยวน​จวิน​ทิ้ง​ไว้​ด้านหน้า​เช่นกัน​

ใน​ถ้ำมีกลิ่นอาย​กับ​ฝุ่นผง​ผสม​ปนเป​ ดังนั้น​จึงไล่ตาม​กลิ่น​ไป​ไม่ได้​ ทว่า​รอยเท้า​บน​พื้น​ยัง​ใหม่​มาก​ แสดงให้เห็น​ว่า​เพิ่ง​เหยียบ​ลง​ไป​ไม่นาน​นัก​

“หนี​ไม่รอด​หรอก​!”

ลู่​เซิ่งวูบ​ไหว​ร่าง​พุ่ง​เข้าไป​ใน​ถ้ำ พริบตาเดียว​ก็​หาย​ไป​ใน​ความมืด​

ส่วนลึก​สุด​ของ​ถ้ำ

ผัง​หยวน​จวิน​วิ่งหนี​อย่าง​บ้าคลั่ง​ เขา​สวม​เสื้อผ้า​ที่​ประหลาด​มาก​ไว้ตัว​หนึ่ง​ เหมือน​เป็น​เสื้อผ้า​ที่​เย็บ​จาก​ขน​ปีก​นกยูง​ที่​มีสีสัน​นานา​ ขน​บน​เสื้อผ้า​กระพือ​เล็กน้อย​ตาม​กระแสลม​ที่เกิด​จาก​การ​วิ่ง​ตะบึง​

มอง​ไกลๆ​ เหมือนกับ​นก​สีรุ้ง​ตัว​ใหญ่​กำลัง​วิ่ง​สุด​ฝีเท้า​

แต่​เขา​อาศัย​เสื้อ​ชิ้น​นี้​ถึงหลบเลี่ยง​การ​โจมตีจาก​หมี​ดำ​ที่​น่ากลัว​ตัว​นั้น​ใน​ตอนที่​เข้าถ้ำ​ได้​ เนื่องจาก​ถูก​มอง​เป็น​พวก​เดียวกัน​ เลย​เข้าถ้ำ​ได้​อย่าง​ปลอดภัย​

ถ้ำเก่าแก่​แห่ง​นี้​เป็น​ซาก​โบราณสถาน​ที่​เขา​ค้นพบ​โดย​ไม่ได้​ตั้งใจ​ และ​ความจริง​เป้าหมายหลัก​ๆ ที่​พวกเขา​รวมตัวกัน​เพื่อ​เปิด​ประชุม​แถวๆ​ นี้​ก็​เป็น​เพราะ​ซาก​โบราณสถาน​ลึกลับ​แห่ง​นี้​นั่นเอง​

ไม่อย่างนั้น​ใน​ฐานะ​เจ้าวรยุทธ์​ มีขุม​กำลัง​ใต้​อาณัติ​มากมาย​ ไหน​เลย​จะมารวมตัวกัน​ครั้งหนึ่ง​ได้​ทุกปี​ ทั้งๆ ที่​มีเวลา​เดินทาง​ไป​ยัง​ที่อื่น​มากมาย​นัก​

หลังจาก​วิ่ง​เป็น​ระยะทาง​หนึ่ง​ และ​สัมผัส​ได้​ว่า​ด้านหลัง​ห่าง​ออก​ไป​ค่อนข้าง​ไกล​ไม่มีเสียง​แล้ว​ ผัง​หยวน​จวิน​ ค่อย​ลด​ความเร็ว​ลง​ด้วย​ความ​โล่งอก​ แล้ว​พิง​หลังกับ​ผนัง​ถ้ำพลาง​หอบ​หายใจ​

เมื่อ​ครู่​เขา​ถูก​ทำร้าย​จน​บาดเจ็บ​ภายใน​ ตอนนี้​ยัง​ต้อง​วิ่ง​เต็ม​ฝีเท้า​โดย​ไม่หยุดพัก​ ยิ่ง​ซ้ำอาการ​บาดเจ็บ​ของ​อวัยวะภายใน​ ถ้าหาก​ไม่รีบ​รักษา​ให้​เร็ว​ที่สุด​ เกรง​ว่า​จะกลายเป็น​โรคภัยไข้เจ็บ​ใน​ภายหลัง​

ผัง​หยวน​จวิน​หยิบ​ขวด​กระเบื้อง​ใบ​หนึ่ง​ออกมา​จาก​ทรวงอก​ จากนั้น​ก็​เท​ยาเม็ด​สีแดง​ที่​ขนาด​เท่า​ลำ​ใย​ออกมา​อม​ไว้​ใน​ปาก​

“สหาย​ผัง​ ท่าน​มาถึงแล้ว​หรือ​” เสียง​ของ​ราชา​ทะเลทราย​ดัง​มาจาก​ใน​ความมืด​

“…ฟู่…พวก​ท่าน​ก็​มาถึงแล้ว​เหมือนกัน​หรือ​” ผัง​หยวน​จวิน​ถอนใจ​ก่อน​จะถามเสียง​แผ่ว​ต่ำ​

“รอ​ท่าน​มาได้​สักพัก​แล้ว​ ตั้งแต่​ท่าน​ส่งสัญญาณลับ​ พวกเรา​ก็​เข้ามา​ใน​เส้น​ทางลับ​อีก​เส้น​ก่อน​แล้ว​” เสียง​ของ​ ซูหา​น​หนึ่ง​ใน​สอง​เฒ่าจิ้งหา​น​ดัง​มาช้าๆ

“ครั้งนี้​ไม่ทัน​หยิบ​อุปกรณ์​เตรียมตัว​ก่อน​เข้าถ้ำ​มาสัก​ชิ้น​ พวก​ท่าน​เอา​มาหรือเปล่า​” ผัง​หยวน​จวิน​รีบ​ถาม

“เอา​มาแล้ว​ เพียงพอ​สำหรับ​พวกเรา​สี่คน​” ราชา​ทะเลทราย​ตอบ​ “แต่​สหาย​ผัง​ท่าน​ไปหา​เจ้าคน​ดุร้าย​ระดับ​นั้น​มาจาก​ที่ใด​ พลัง​แบบ​นั้น​หาก​ไม่ใช่ระดับ​เจ้าวรยุทธ์​ขั้นสูงสุด​ พูด​ออก​ไป​คง​ไม่มีใคร​เชื่อ​ พวกเรา​สี่คน​ร่วมมือ​กัน​ กลับ​ได้​แต่​หลบหนี​ น่า​เหลือเชื่อ​จริงๆ​!”

“ข้า​เอง​ก็​ไม่รู้​ มัน​โผล่​มาได้​อย่างไร​ก็​ไม่ทราบ​ ช่างเถอะ​ อย่า​ไป​สนใจ​มัน​เลย​ มัน​ไม่เข้ามา​ก็ดี​ หากว่า​ตาม​เข้ามา​ ต่อให้​จะมีพลัง​เหี้ยมหาญ​ ก็​ไม่ใช่คู่มือ​ของ​องครักษ์​หมี​ดำ​ตัว​นั้น​ อย่างไร​พวกเรา​ก็​เข้ามา​แล้ว​ ถือโอกาส​เข้าไป​ก่อนเวลา​เลย​ก็แล้วกัน​” ผัง​หยวน​จวิน​เสนอ​

“ก็ได้​” ราชา​ทะเลทราย​ยัง​คิด​จะพูด​อะไร​ต่อ​ อยู่​ๆ เขา​ก็​หมอบลง​และ​เอา​หู​แนบชิด​กับ​พื้น​เพื่อ​ตั้งใจฟัง​

เสียง​ครืน​เบา​ๆ ดัง​เข้ามา​ใกล้​ด้าน​นี้​พร้อมกับ​แรง​สั่นสะเทือน​

“แย่​แล้ว​! มีคน​มา!”

“ไป​!”

ใบหน้า​ของ​ผัง​หยวน​จวิน​เปลี่ยนแปลง​ใน​บัดดล​ เขา​พุ่ง​เข้าไป​ใน​ถ้ำเป็น​คน​แรก​ ส่วน​คน​ที่​เหลือ​ตาม​ไป​ติดๆ​

ตอนที่​ทั้ง​สี่คน​เคลื่อนไหว​ ก็​ได้ยิน​เสียง​บุรุษ​ที่​แผ่วเบา​ทุ้ม​ต่ำ​ดัง​ไล่หลัง​มาไกลๆ​

“ท่าน​ยัง​จะหนี​อีก​ ทำไม​กัน​ ทำไม​ต้อง​ทำ​ถึงขั้น​นี้​ด้วย​ พวกเรา​สามคน​พ่อแม่​ลูก​อยู่​ร่วมกัน​พร้อมหน้า​ไม่ดี​หรอก​หรือ​ ชื่อเสียง​เกียรติยศ​สำคัญ​ขนาด​นั้น​เชียว​”

ผัง​หยวน​จวิน​ไม่เปล่งเสียง​ เพียง​ก้มหน้า​วิ่ง​เต็ม​ฝีเท้า​ ซาก​โบราณสถาน​แห่ง​นี้​ใหญ่​มาก​ เขา​ไม่เชื่อ​ว่า​เจ้าคน​โรคจิต​ด้านหลัง​นั่น​จะไล่​ตามมา​ได้​ตลอดรอดฝั่ง​

ทั้ง​สี่คน​วิ่ง​ตะบึง​เป็นเวลา​ราว​ห้า​นาที​ พอ​หัก​เลี้ยว​ด้านหน้า​ แสงกลุ่ม​หนึ่ง​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​อย่าง​เลือนราง​

ยิ่ง​วิ่ง​เข้าไป​ใกล้​เท่าไหร่​ แสงสีขาว​ก็​ยิ่ง​ขยาย​ใหญ่​และ​ส่องสว่าง​มาก​เท่านั้น​

“ถึงแล้ว​! ระวัง​ด้วย​!” ราชา​ทะเลทราย​ตะโกน​เป็น​คน​แรก​ ก่อน​จะวิ่ง​แซงคน​อีก​สามคน​ หาย​เข้าไป​ใน​แสงสีขาว​ผืน​นั้น​

สามคน​ที่​เหลือ​กระโจน​ตาม​เข้าไป​ติดๆ​

ผ่าน​ไป​สิบ​กว่า​อึดใจ​ เงาสาย​หนึ่ง​ก็​หยุดชะงัก​ลง​ด้านหน้า​กลุ่ม​แสง เป็น​ลู่​เซิ่งที่​ไล่​ตามมา​นั่นเอง​

เขา​ใน​ตอนนี้​แตกต่าง​ไป​จาก​ก่อนหน้า​เล็กน้อย​ คุณสมบัติ​ร่างกาย​ของ​เขา​กำลัง​ได้รับ​การ​ยกระดับ​ด้วย​ความเร็ว​สูงจาก​การ​หล่อเลี้ยง​ด้วย​ปราณ​ปฐพี​

ผิวหนัง​กลายเป็น​สีสำริด​ ลวดลาย​ที่​เหมือนกับ​ดวงตา​สีขาว​บ​ริ​สุทธ์​โผล่​ขึ้น​มากลาง​หน้าอก​

ลวดลาย​นี้​ยึดครอง​ทรวงอก​ทั้ง​แผ่น​ของ​เขา​ ส่วนหนึ่ง​ยาว​ไป​จรด​ส่วน​ท้อง​ ดู​แปลกประหลาด​เหลือแสน​ แต่กลับ​มีกลิ่นอาย​ดึกดำบรรพ์​จางๆ

สิ่งที่​น่าแปลกใจ​ยิ่งกว่านั้น​ก็​คือ​ ตอนนี้​ผม​สั้น​สีดำ​ของ​เขา​ปรากฏ​จุด​ที่​เรืองแสง​สีฟ้าอ่อน​เป็น​กลุ่ม​ๆ

จุด​แสงสีฟ้าเหล่านี้​ดู​ชัดเจน​เป็นพิเศษ​ใน​ถ้ำอัน​ดำมืด​ ขับ​สะท้อน​ผม​สั้น​ของ​เขา​ให้​งดงาม​ขึ้น​กว่า​เดิม​

ร่างกาย​สูงใหญ่​ที่​สมบูรณ์แบบ​ ก้าวย่าง​ที่​มั่นคง​ ร่าง​ท่อน​บน​เปลือยเปล่า​ที่​สัก​ลวดลาย​ดึกดำบรรพ์​อัน​เก่าแก่​ บวก​กับ​จุด​แสงสีฟ้าที่​กะพริบ​ราวกับ​ดวง​ดารา​บน​ผม​สั้น​

ลู่​เซิ่งใน​ตอนนี้​แข็งแกร่ง​และ​สง่างาม ราว​เทพเจ้า​โบราณ​ที่​เดิน​ออก​มาจาก​เทพนิยาย​เก่าแก่​

เขา​ยืน​อยู่​ด้านหน้า​กลุ่ม​แสง หลัง​ปรับตัว​เข้ากับ​แสงสักพัก​ ค่อย​เห็นชัด​ว่า​แสงสีขาว​เป็น​อะไร​

นี่​คือ​ปาก​ถ้ำแคบ​ๆ ที่​กว้าง​ครึ่ง​หมี่​สูงเท่า​คน​ครึ่ง​

ได้ยิน​เสียง​น้ำ​ที่​ดัง​กึกก้อง​จาก​นอก​ถ้ำอย่าง​เลือนราง​

ลู่​เซิ่งก้าว​ไป​ด้านหน้า​ สัมผัส​กับ​ความชื้น​ที่​ส่งมาจาก​อากาศ​

เขา​ใช้มือ​ข้าง​หนึ่ง​จับ​ขอบ​ของ​ปาก​ถ้ำแล้ว​ชะโงก​หน้า​ไป​มองดู​ด้านนอก​

ด้านนอก​ถ้ำคือ​ท้องฟ้า​สีคราม​ ด้านล่าง​คือ​หุบเขา​ลึก​ที่​มีลม​หนาวเย็น​พัด​อยู่​

ด้านล่าง​ถ้ำมีกระแสน้ำ​จำนวนมาก​ไหล​ออก​มาจาก​ถ้ำทรง​รังผึ้ง​ น้ำ​ไหล​รวมตัวกัน​กลายเป็น​น้ำตก​สีขาว​ ตกลง​ไป​เป็น​ระยะทาง​สามพัน​ฉื่อ​ ร่วงหล่น​ไป​ตาม​หน้าผา​

มอง​จาก​ความสูง​ของ​ลู่​เซิ่ง เพียง​เห็น​บึง​น้ำ​ที่​ก้น​หุบเหว​มีขนาด​เท่า​เม็ด​งาเท่านั้น​ ยัง​เห็น​สีน้ำเงิน​จุด​หนึ่ง​ร่วงหล่น​เข้าไป​ใน​กระแสน้ำ​ได้​อย่าง​เลือนราง​

เขา​เงยหน้า​มอง​ ไกล​ออก​ไป​คือ​ที่ราบ​สีเขียว​อม​เหลือง​อัน​กว้างใหญ่​ ลำธาร​สีเงิน​คดเคี้ยว​ประดับ​อยู่​บน​นั้น​

“กระโดด​ลง​ไป​แล้ว​หรือ​” ลู่​เซิ่งยิ้ม​อย่าง​เย็นชา​

“ท่าน​หนี​ไม่รอด​หรอก​”

เขา​กาง​สอง​แขน​ออก​ ปล่อย​ให้​ร่างกาย​ร่วงหล่น​ลง​ไป​จาก​หน้าผา​อย่าง​เป็นอิสระ​เงียบๆ​

ร่างกาย​สูงใหญ่​เล็ก​ลง​เรื่อยๆ​ จนกระทั่ง​หลอม​รวม​เป็นหนึ่ง​กับ​จุด​สีน้ำเงิน​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท